จันทร์เสี้ยวนั่งตัวแข็งแกร็ง หัวใจถี่เร่า ใบหน้าแดงระเรื่อยถึงไม่ใช่คครั้งแรกก็ตามเถอะ ชายตรงหน้านับวันเขาลุกเล้าเธอหนักหน่วงกว่าเช่นเคย"ฉันปวดแขนจนทนไม่ไหว" "คุณอยากได้ยาอะไรจันทร์จะไปหยิบให้" ดวงตาของเธอจ้องมองเขา ก่อนขยับตัวจะลุกไปหายาให้"ยาอะไรก็รักษาไม่ได้"มือหนาคว้าเอวบางให้โน้มตัวลงนอนซบที่อก"มีเพียงเธอที่ทำให้ฉันดีขึ้น" เขากระซิบเสียงทุ้ม"จันทร์ต้องทำยังไงคะ"เสียงหวานสั่นเบาในลำคอถาม ขณะที่จมูกคมของเขากดไล้ที่แก้มเนียนและลำคอระหง"คืนนี้....เธอเป็นคนของฉัน ในฐานนะภรรยา""ฉันต้องการเธอ""ได้ไหมจันทร์เสี้ยว" น้ำเสียงแหบพร่าของเขาเอ่ยถาม สายตาคมเข้มวาวโรจน์อัดแน่นด้วยแรงปรารถนาเพ่งมองดวงตาคู่สวยจรดจ้องอย่างหลงไหลทิวสนไม่บอกรัก แต่เขาให้สถานะใหม่แก่เธอ คำว่า"ฐานะภรรยา" ไม่ใช่เป็นแค่เด็กขายตัวของเขาอีกต่อไป....มันทำให้กำแพงในใจที่เพิ่งก่อตัววันนี้ความสูงเสียดฟ้าได้ถูกทำลายลง ราวกับโดนฆ้อนยักษ์ทุบให้พังย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีเธอไม่ได้ตอบ หญิงสาวพยักหน้าเบา ๆ แทนคำตอบเมื่อมือของเขาเริ่มล่วงเข้าไปในเสื้อของเธอในเวลานี้คนทั้งสองไม่อาจหักห้ามใจใด้อีกต่อไป ริมฝีปากของทั้งคู่ประก
พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยต่ำลง เวลาล่วงเลยหมุนเปลี่ยนรัตติกาลมาเยือนสายลมพัดเย็นใบไม้ไสวกลิ่นหอมของดอกไม้แห่งบ้านสวน ชวนให้ผู้ได้กลิ่นหลงไหลยืนหลับตาพริ้มซึมซับความสุขเพียงหลับตาก่อมีสิ่งก่อกวนในใจ ทิวสนพาอดีตของเขามาอยู่ในบ้าน เขาไม่เคยบอกรักฉัน สถานะคนขายตัวจะมีสิทธิ์อะไรไปเรียกร้องฉันไม่อยากเป็นแบบนี้เลย...จันทร์เสี้ยวนึกดุตัวเองในใจ"แฮร่......"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างหูเธอ"ว๊าย"จันทร์เสี้ยวร้องเสียงกรี๊ดตาเบิกกว้างตกใจสุดขีดเพราะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปลื่อยขนาดเสียงฝีเท้าของเขาเธอยังไม่ได้ยิน"ตกใจหมดเลยค่ะ"เสียงหวานสั่นเล็กน้อย"นมคุณยายให้นำมาให้เธอ"เขาพูดพลางยื่นนมให้จันทร์เสี้ยว"แล้วคุณมาทำอะไรคะ"เธอถามพลางก้มดื่มนมในมือและสลับมองเขา"ห้องนอนนี่คือห้องหอ เธออยากให้ฉันไปนอนที่ไหน"เสียงเขาเอ่ยเรียบพลางแกะกระดุมกำลังทีละเม็ดเตรียมตัวจะอาบน้ำ สายตาคมจ้องมองเธอที่กำลังยื่นดื่มนมสำรวจว่าเธอได้เปลี่ยนไปแตกต่างจากเด็กสาวที่ยอมเขามาโดยตลอดหรือว่าฉันคิดไปเอง ทิวสนคิดในใจ"คุณอยากไปนอนกับคุณลิลหรือเปล่าคะ"เสียงหวานเอ่ยเรียบ"จันทร์ตามใจคุณค่ะ"เธอตอบด้วยใจของเธอวูบไหวแปลกราวกับโดยเข็มนับ
โชคชะตา ในชีวิตคนเราล้วนแตกต่าง เฉกเช่นลายเส้นบนมือ ที่วาดไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย ถึงแม้จะเป็นสายเลือดเดียวกันตั้งแต่วันนั้น ครอบครัวแสนอบอุ่นได้ออกเดินทางไกล ทิ้งความหวังทั้งหมดไว้ที่เด็กสาวอายุเพียงไม่กี่ปี ใครกันช่างใจร้ายเหลือเกินเมื่อสังคมบีบคั้น เด็กสาวที่ชื่อจันทร์เสี้ยว ต้องกลายเป็นจันทร์เสี้ยวผู้ที่แม้แต่เสียใจก็ร้องไห้ไม่ได้...ถึงอยากจะร้องก็ตาม...ร่างบางในชุดไทยสีชมพูอ่อนปักดิ้นทองทั้งตัว วันนี้จันทร์เสี้ยวสวยราวกับนางอัปสรเดินดินแต่ดวงตากลับว่างเปล่าราวไร้ชีวิต แทนที่นิ้วของเธอจะมีแหวนถูกสวมโดยเจ้าบ่าว แต่เปล่าเลยมีเพียงกุญแจมือจากชายผู้เป็นตำรวจจับเธอข้อหาเป็นฆาตกรฆ่าชายคนที่เธอไม่เคยพบเลยสักครั้งสองเท้าก้าวตามเจ้าหน้าที่ด้วยความหนักอึ้งไปทั้งกายใจ "ผมขอดูหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเธอคือคนฆ่าครับ"เสียงเข้มแน่นคุ้นหูดังขึ้น เขากลับมาแล้วสัมผัสจากมือหนาที่วางบนไหล่มน ดึงร่างบางไม่ยอมปล่อยให้เดินได้อีกแม้เพียงก้าว จันทร์เสี้ยวชะงักเล็กน้อย จู่ ๆ ความเข้มแข็งที่เคยมีมันพังคลื่น น้ำใส ๆ ซึมออกจากตาทั้งที่พยายามกลั้นสุดฤทธิ์"คุณมาแล้วเหรอคะ คุณกำลังโดนหลอก เธอเป็นเด็กขายตัวในเรื
ในวันพรุ่งนี้เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อจันทร์เสี้ยวเด็กสาวบ้านนอก ไม่สวยปานนางฟ้า แต่หากครั้งใดขาดเธอทิวสนรู้สึกเงียบเหงาเดียวดาย แต่คำว่ารักไม่อาจเอื้อนเอ่ย และไม่มีวันออกจากปากของผู้ชายที่ชื่อทิวสนเด็ดขาด เพราะมันได้ทำร้ายหัวใจของเขา...จนไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยได้อีกสายตาคมมองร่างบางนอนหลับบนเตียงผู้ป่วย ลิลกินยานอนหลับเกินขนาด ในคืนที่เขากำลังจะแต่งงาน ทั้งที่ความรักทั้งหมดแม้แต่ชีวิตที่เขามีได้ทุ่มเทให้เธอไปก่อนหน้าในฐานะภรรยา แต่เป็นเธอเองลิลที่เป็นคนเหยียบย่ำมัน พอในวันที่ทิวสนจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เธอกลับทำตัวเรียกร้องความเห็นใจจากเขาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า..เสียงมือถือดังขึ้นบนโต๊ะทำงาน ทิวสนละสายตาที่กำลังจ้องอ่านเอกสารในมือ หันมาสนใจเสียงที่กำลังดัง หน้าจอปรากฏชื่อของเธอ อดีตภรรยาลิล เขาไม่รับ พร้อมคว่ำหน้าจอไม่ให้แสงมันเข้าตา แต่ทว่าปลายสายไม่โทรกลับมาอีก มีเพียงเสียงไลน์แจ้งเตือนข้อความเข้าหนึ่งครั้ง มันได้สร้างความแปลกใจไม่น้อย เพราะลิลคือเจ้าแม่ที่เอาแต่ใจไม่มีทางที่เธอจะโทรมาเพียงสายเดียวแล้ววางเขาจึงเปิดอ่านข้อความ เป็นวิดีโอมือหนาสัมผัสให้มันเล่นเป
ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ จันทร์เสี้ยวกำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดใบหน้าให้พระจันทร์อย่างเบามือ สายตาของเธอจ้องมองร่างน้องสาวราวกับกลัวว่าน้องจะมลายหายไปได้ ส่วนทิวสนโทรสั่งให้กิตติเตรียมแฟ้มเอกสารที่ต้องเซ็นมาให้เขา และตั้งแต่ได้เอกสารกองโตมาเขาก็เปิดโน๊ตบุ๊ค ตั้งหน้าตั้งตาทำงานราวกับว่าตนเองเป็นธาตุอากาศ ไร้เสียงพูดคุยมีเพียงเสียงกระดาษเปิดไปปามาดังเบา ๆ หลังจากจัดการเช็ดตัวน้องเสร็จเธอจึงรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดที่เขาสั่งกิตติไปซื้อมาให้ เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงขายาวที่ความยาวของมันมากกว่าความสูงของเธอ จนชายผ้าไปกองอยู่ที่ข้อเท้าร่างบางในชุดยักษ์เดินออกมา จากห้องน้ำ ทำเอาสายตาคมของทิวสนที่ไม่ได้ตั้งใจมองในขณะดื่มน้ำแทบสำลักน้ำในปากใบหน้าหน้าหล่อเหล่าพร้อมสายตาคมจ้องเธออยู่ครู่ใหญ่ รอยยิ้มจึงค่อย ๆ ผุดออกมา เขารู้สึกภูมิใจในตัวกิตติมากที่ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ชุดที่เขาสั่งมาให้เธอ คือมิดชิด "คุณยิ้มอะไรคะ หรือว่าจันทร์หยิบผิด แต่ไม่น่าจะผิดเสื้อผ้าคุณมีแต่สีทะมึน"มือบางเปิดดูถุงอีกสี่ห้าใบ ของเขามีแต่สีทึบ ส่วนของเธอก็สีหวานสดใส แต่ทุกตัวล้วนแต่เป็นชุดโอเวอร์ไซซ์ทั
ทิวสนเข้าไปนั่งในรถมองกระจกหลังที่สะท้อนภาพ จันทร์เสี้ยวถึงแม้เธอนั่งในร่มแต่ลมพัดเอาละอองฝนกระทบร่างบาง จันทร์เสี้ยวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความหนาวเย็นของลมพายุ แล้วยังโดนฝนสาดอีก ดวงตาหวานมองผ่านม่านน้ำฝนออกไปยังคงเห็นรถของเขาจอดอยู่ คนใจร้าย...ทันใดนั้นรถหรูคันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปทันที น้ำที่ตาเอ่อล้นออกมา จันทร์เสี้ยวยิ้มให้กับตัวเองสมเพชที่คิดว่าเขามีใจให้เธอสักนิดทันใดนั้น...รถคันสีดำ มาจอดตรงป้ายรถประจำทาง ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกพร้อมกับเขาชายถือร่มเดินลงมาท่ามกลางพายุ "หนาวแย่เลย ให้ผมไปส่งบ้านนะครับ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสุภาพ"ขอบคุณคุณชีวินมากเลยค่ะ แต่จันทร์เสี้ยวเกรงใจค่ะ"เสียงหวานเอ่ยขอบคุณในน้ำใจที่เขามีต่อเธอ แต่คนที่กำลังจะแต่งงานไหนเลยจะกล้าขึ้นรถไปกับชายอื่นเพียงลำพัง"ไม่ต้องเกรงใจหรอกถือซะว่า เพื่อนไปส่ง อีกอย่างคุณตากฝนนานขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ" "ถ้าอย่างนั้นจันทร์รบกวนด้วยนะคะ" ชีวินเป็นสุภาพบุรุษทั้งคำพูดและการวางตัว เขาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้จันทร์เสี้ยวนั่งเรียบร้อยพร้อมปิดประตูรถให้อย่างเบามือ ก่อนตนเองเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ทุกการกระทำขอ