แกรก
ฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัว
โหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกัน
แต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?
“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตาม
ฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีก
โหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา
“คิดถึงเฉยๆ”
“...!”
“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”
ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่
แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย
“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”
“...”
“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา... เค้าจะเสียใจนะ”
ใช่ ฉันทำตัวเป็นคนดี จริงๆ ก็แค่อยากรู้ว่ามันจริงรึเปล่า เรื่องแฟนที่เขาพูดเอาไว้ แม้ว่าฉันจะเชื่อมันไปเต็มหัวใจแล้วก็เถอะ
“แฟนบ้าอะไร” แต่โหนกลับสบถออกมาเสียงดัง
“...”
“แฟนเรามีเธอคนเดียว!”
เสียงเขาดังมากนะ แต่ฉันกลับเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย
ฉันยืนนิ่งค้างอยู่แบบนั้น โหนชะงักไป เขาเอามือมาบังหน้าตัวเองไว้ แล้วเริ่มพร่ำพูดมันออกมา
“เราไม่เคยลืมเธอเลยชูใจ ทำไงก็ลืมไม่ลง” เขาพูดแล้วเหมือนว่าเสียงจะสั่นไปด้วย “เราขอโทษที่ตอนนั้นเราขี้ขลาด เธอคงหมดความเชื่อใจเราแล้ว เรารู้ว่าเราเป็นพ่อคนไม่ได้หรอก”
“...”
“แต่ถ้าลูกเธอยังอยู่... ป่านนี้เราคงทำมันให้ดีที่สุด”
“...”
“เพื่อลูกของเรา”
ฉันยืนอึ้ง อยู่ดีๆ น้ำตาก็รื้นขึ้นมาแล้วไหลลงมาอาบสองแก้ม ฉันเบ้หน้าออกมา หน้าร้อนวาบเมื่อรู้สึกตัวว่าไม่กล้าสบตาเขาที่กำลังร้องไห้อยู่หลังฝ่ามือหนานั่นเช่นกัน
เรายืนร้องไห้กันอยู่ตรงหน้ากันและกันเพียงสองคนเท่านั้น ความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในใจของฉันตลอดระยะเวลาเกือบเดือนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากที่สุดก็ตอนนี้เอง
แค่ระยะเวลาที่หลายคนมองว่ามันสั้น... แต่สำหรับฉัน การแยกจากโหน ไม่ว่ากี่นาทีก็เหมือนนานเท่านั้น
ฉันอยากโผเข้าไปกอดเขา บอกเขาว่าลูกยังอยู่ในท้องของฉัน ฉันยังรักเขาอยู่
หมับ
แต่คนที่กล้าทำมันกลับเป็นโหน เขารั้งแขนฉันเข้ามากอดเอาไว้แน่น ฉันร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ทึ้งเสื้อกล้ามของเขาเอาไว้แน่น ทั้งตัวสั่นไปด้วยแรงสะอื้น ทั้งจากตัวเขาและตัวฉันเอง
หัวใจฉันกลับมาเต้นอีกครั้งเพราะอ้อมกอดของเขา
“เราคงบอกไม่ได้ว่าไอ้ลูกโชนมันเป็นคนไม่ดีแค่ไหน เพราะเราเองก็ไม่ได้ดีพอ” โหนกระซิบเสียงสั่นตอนที่กำชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก “แต่เราคงขาดชูใจไปจากชีวิตเราไม่ได้”
“...”
“พอๆ กับที่เราจะไม่ยอมให้ชูใจไปเป็นของมัน”
“... โหน” ฉันถูกดันออกจากอ้อมกอดของเขา มันช่างน่าเสียดายเพราะฉันอยากจะอยู่ตรงนี้ต่ออีกสักหน่อย พอฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง โหนก็เอื้อมมือหนาและสากของเขามาเกลี่ยน้ำตาของฉันออก
ทำไมวันนี้เขาถึงกลับมา? ทั้งๆ ที่สถานการณ์มันดูจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
“เราเมานะ” เขาพูดขึ้นมา น้ำเสียงดูจริงจัง
“...”
“เพราะงั้นคืนนี้... เราคงต้องสดว่ะ”
ฉันเบิกตากว้าง หน้าร้อนเห่อขึ้นมาทันทีเมื่อเขาดันฉันให้เข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลงพร้อมกับล็อกกลอนอย่างแน่นหนา
“หะ... โหน หมายความว่ายังไงอ่ะ” ฉันถามอย่างตกใจ ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ฉันไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม
“ทำลูกใหม่กับเธอ”
แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้... โหนจะเอาจริง
[พาร์ท : โหน]
ผมเมา
เมาจนจะไม่ไหว ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทันทีที่เห็นภาพนั้น สิ่งที่ผมคิดได้คือต้องไปหาชูใจ
ผมทำใจไม่ได้ ที่จะให้เธอตกไปเป็นของไอ้ชั่วนั่น
เออ ผมเองก็ชั่วเหมือนกัน แต่อย่างน้อย ผมก็มั่นใจตัวเองว่าถึงผมจะขี้ขลาดในทีแรก แต่ผมก็รักชูใจมาตลอด
เพราะงั้นผมถึงมาอยู่ตรงนี้ อยู่ตรงหน้าเธอ
พูดออกมาต่อหน้าเธออย่างหน้าไม่อาย พูดว่าจะทำลูกกับเธอใหม่
ในเมื่อเสียลูกไปแล้ว ผมจะสร้างขึ้นมาใหม่อีก ไม่ใช่เห็นว่าลูกคนเดิมเป็นแค่อากาศที่พอเสียไปก็ทำใหม่ แต่ผมแค่อยากกลับไปอยู่ในโลกของเธออีกครั้งนึง
เป็นที่หนึ่งของเธอเหมือนเดิม ไม่ว่าเธอจะเริ่มต้นใหม่ได้แล้วก็ตาม
“โหน...” ผมดึงแขนชูใจเข้ามาใกล้จนหน้าผากเราชิดกัน หัวใจเราใกล้กันมากกว่าที่เคย ผมหายใจทิ้งลงบนหน้าของเธอ มองตาเธอที่มองผมกลับมา ภายในดวงตากลมโตคู่นั้นดูสั่นไหว
ผมรู้ ดูจากสายตา
เธอเองก็คงยังไม่ลืมผมเหมือนกัน
“เธอจะยอมรึเปล่าวะ” ผมกระซิบเสียงหนักต่อหน้าเธอ เลื่อนใบหน้าเข้าไปพูดข้างหูเธอที่แดงก่ำขึ้นมาเพราะผมทิ้งลมหายใจไปด้วย “เธอลืมเราแล้วรึยังวะชูใจ”
“...”
“เธอยังคิดถึงเราอยู่มั้ยวะ” ท้ายประโยคผมจูบไปที่ใบหูเธอเบาๆ “ตอบหน่อยดิ ชูใจ”
ชูใจสะอื้นออกมาทันที เธอพยายามดันผมออก แต่ผมกลับยิ่งคว้าใบหน้าเธอมากุมเอาไว้แน่นขึ้น สั่งให้เธอหันมาสบตากับผม มืออีกข้างผมวางทาบลงบนหน้าอกของเธอ ชูใจสะดุ้งเฮือก แต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรง
“... มันไม่ทันแล้วมั้ย” เธอกระซิบตอบกลับมาทันที “ไม่ทันแล้วรู้มั้ยโหน วันหมั้นของเรากับพี่ลูกโชนก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย”
“...”
“พ่อแม่เตรียมอะไรไว้ให้เรากับพี่ลูกโชนพร้อมหมดแล้ว” เธอสะอื้น “ถ้าเกิดอยากกลับมาจริงๆ”
“...”
“ก็กลับไปเป็นโหนน้อยกับยัยชูใจแบบเมื่อก่อนสิ เราเป็นเพื่อนกันมันดีกว่าไม่ใช่เหรอ”
“...”
“ฮึก... ลูกก็ไม่อยู่แล้วนะ” ท้ายประโยคเธอก้มหน้าลงพร้อมเสียงสะอื้น มือผมที่คว้าหน้าอกเธอไว้กำแน่นเมื่อมันคือประโยคแทงใจ ผมผละมันออก ก่อนที่จะคว้าไหล่เธอไว้ทั้งสองข้าง ความเมามายทำให้ผมกล้าหาญกว่าที่เคย
“ก็ทำลูกใหม่” ผมพูดขึ้นมาอย่างหนักแน่น “ทำลูกกันใหม่ ทำจนกว่ามันจะมีขึ้นมาอีก”
“...”
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”
“...”
“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่”
ฉันกลับมาแล้วล่ะจริงๆ ก็เพิ่งบินลงมาที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ฉันกลับมาพร้อมกับลูก อุ้มลูกบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาที่ไทย เพื่อกลับมาสู่ชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่พ่อแม่ดูดีใจที่เห็นหลาน แม้ว่าเวลาเกือบปีจะทำให้พวกเขาแทบไม่ค่อยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ไม่ได้บังคับอะไรฉันมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างตอนที่ฉันตัดสินใจบินไปที่ญี่ปุ่นกับพี่ชาย ฉันเข้าร่วมงานการ์ตูน ออกบู้ทมากมายเพื่อปรับปรุงฝีมือตัวเองที่ทิ้งหายไปนาน โดยมีพี่ชุนคอยดูแลบำรุงฉันที่ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอฉันไม่ใช่นักวาดการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็พอมีคนรู้จักทั้งต่างประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศไทย นามแฝงของฉันคือ ‘Peach’ฉันเริ่มทำงานด้วยการวาดสีน้ำขาย ก่อนที่จะปรับปรุงมาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดภาพในคอมพิวเตอร์ เม้าท์ปากกา โปรแกรมวาดรูปอะไรต่างๆ ที่ต้องซื้อมาอ้อ ฉันสักแบบมินิมอลเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยนะ ขออนุญาตพี่ชายแล้วล่ะ มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน มุมมองของฉันที่เคยมีต่อคนสักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย ตั้งแต่มาคบกับโหน ฉันก็สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้สัมผัสมากขึ้นอีกอย่างได้เรียนรู้แฟชั่นของญี่ปุ่
[พาร์ท : โหน]เป็นเกือบปีที่โคตรทรมานใช้ได้ถามว่าทำไมก็ตั้งแต่ที่ไปเคลียร์กับไอ้ลูกโชนวันนั้น มันก็ถอนหมั้นชูใจทันที แต่สาเหตุก็คงเพราะชูใจยังตั้งท้องกับผม ผมไม่รู้ว่ามันได้สารภาพเรื่องที่มันคบซ้อนหรือไม่ แต่ผมไม่สนเท่าไหร่ ขอแค่มันถอนหมั้นก็เป็นพอจะบอกว่าลูกทำให้ผมมีแรงผลักดันโง่ๆ ในเฮือกสุดท้ายก็ได้ และแม่งก็คงโง่จริงๆ เพราะหลังจากที่พ่อแม่เรียกชูใจมาคุยเรื่องที่ไอ้ลูกโชนถอนหมั้น ชูใจก็ตัดสินใจกลับต่างประเทศไปกับพี่ชายเธอ เห็นสายเพื่อนผมมันบอกมาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นเป็นปีๆ จนกว่าจะคลอดลูก... ไม่รู้เธอจะกลับมาอีกมั้ยผมกระดกเหล้าลงคอ หลังจากวันนั้นก็ขอมาทำงานในร้านเหล้ากับพ่อ ทำมาได้เกินเกือบปีแล้วว่ะ แต่เป็นเกือบปีที่ผ่านไปได้อย่างยากลำบากผมไม่ได้เหนื่อยกับการรอคนที่ผมรัก เพราะตอนที่แอบรักเธอตอนสมัยเรียน ผมก็ทนมันได้เป็นปีๆแต่ความคิดถึงนี่ดิ มันผ่านยากมากว่ะผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลานอน ทุกวินาทีลมหายใจผมมีแต่ชูใจคนเดียวเท่านั้น ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับใครๆ เพราะผมจะกลับมาหาเธออย่างเด็ดขาดแต่เธอหายไปในที่ที่ไกลเกินเอื้อมถึง เอาตรงๆ ก็ไม่มีเงินตามเธอไปด้วย ไม
ผมมาดักรอไอ้ลูกโชนที่ร้านเหล้าเดิมๆ มาเพื่อจะคุยกับมัน เพราะถ้ามันยังคิดจะยื้อชูใจไว้ต่อไป ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันผมเห็นว่ามันโอบเอวแฟนตัวจริงมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ผมค่อนข้างไม่คุ้นตา เธอสวย แต่คงไม่เท่าชูใจของกูผมยืนดูดบุหรี่รอ พวกมันเดินไปเต้นที่โต๊ะด้วยกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงทำให้ผมรู้สึกเดือดดาล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากต่อยหน้ามันให้เละ แม้ว่าจากที่เคยสืบมา ตัวผมเองคงสู้กำลังมันไม่ได้ก็ตามจนมันย้ายมานัวเนียกันตรงจุดเดิม ผมเลยถือวิสาสะเดินไปขัด“ไอ้ลูกโชน” มันผละปากจากซอกคอของผู้หญิง ก่อนที่จะเลิกคิ้วมองผม ดูเหมือนไอ้ลูกโชนจะเมา“เหี้ยไร? มึงเป็นใคร” ผู้หญิงมองผมอย่างหวาดกลัว ผมแค่นหัวเราะที่มันเมามายจนจำหน้าผมไม่ได้ ก่อนที่จะผลักตัวหนาๆ ของมันจนเซไปทีนึง เพราะไอ้เวรนี่เมามากจนไม่มีสมรรถภาพจะพยุงร่างตัวเองได้เลย“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”“...”“ตัวต่อตัว”“มึงมีไรจะคุยกับกูวะไอ้ขี้ก้าง” ไอ้ลูกโชนพูดอย่างเหยียดหยาม มันมองหน้าผมที่จ้องหน้ามันกลับไปอย่างแน่วแน่ ผมเองก็พร้อมเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายผมอาจจะสู้มันไม่ได้ก็ตาม“เรื่องชูใจ” ผมตอบไปสั้นๆ มันแค่นหัวเราะทันที“
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”“...”“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่” ชูใจที่สบตาผมในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผม ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากแน่นและก่อนที่เธอจะได้อ้าปากตอบอะไรกลับมา ความใจร้อนของผมที่อยากได้เธอกลับมาก็ทำให้ผมเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเธอหนักๆ ปากที่นุ่มละมุนของชูใจทำให้ผมกุมใบหน้าเธอไว้ ก้มหน้าลงอีกเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ความสูงเรามันต่างกันเกินไปชูใจพยายามดันอกผมออก ทึ้งเสื้อผมจนมันยับ เธอพยายามดิ้นรนทุกทางที่จะทำให้เธอไม่ทรยศต่อความรักของไอ้ลูกโชน แต่ผมรู้ดี ความรักของแม่งมันเป็นของปลอมทั้งเพถ้าเธอยังเชื่อไอ้เหี้ยนั่นที่มันตอแหลสร้างภาพมาว่ารักหลงเธอนักหนาแบบนั้นลง ผมก็ขอยอมเป็นคนเลวซะดีกว่า ที่จะต้องพยายามทำให้เธอท้องอีกทีในคืนนี้สติผมเลือนราง พอๆ กับแรงผลักไสของชูใจที่เริ่มอ่อนลง ผมไล้ปากของผมไปตามปากเล็กๆ ของเธอ กัดปากล่างของร่างเล็กแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มตัวชูใจเล็กแถมเบาหวิว จนสงสัยว่าหลังจากเลิกกันเธอได้กินอะไรลงบ้างมั้ย ผมลืมตามองเธอระหว่างที่กำลังจูบซับน้ำตาให้เธอตอ
แกรกฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัวโหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตามฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีกโหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา“คิดถึงเฉยๆ”“...!”“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”“...”“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา...
จินมาหาผม นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันเธอใส่ชุดสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น ไม่ได้ดูเป็นสก๊อย แต่เธอโตแล้ว จินเป็นพนักงานบริษัท อายุมากกว่าผมแต่เธออยากให้ผมเรียกเธอว่าจินเหมือนเป็นรุ่นเดียวกัน เธอเดินมาหาผม ท่าทางเจิดจ้ากับใบหน้าสวยๆ ทำให้เพื่อนผมตะลึงไป“ฮาย โหน” เธอโบกมือแล้วเดินมาทักทายเพื่อนๆ ผม “สวัสดีค่ะ นี่เพื่อนโหนเหรอ พี่นั่งด้วยนะ”ผมนึกแปลกใจที่เธอพูดกับคนอื่นว่าพี่ แต่แทนตัวกับผมว่าเราแต่ผมไม่ได้คิดอะไรเลย กับเธอ“ครับ นี่พี่สาวโหนเหรอครับ” ไอ้รักที่เป็นตัวม่อหญิงถามท่าทางดี๊ด๊า ผมแค่นหัวเราะ“เปล่า”“...”“แฟนโหนอ่ะ”แต่ประโยคต่อไปของเธอกลับทำให้ทั้งผมและเพื่อนอึ้งบรรยากาศเริ่มกระอั่กกระอ่วนขึ้นมาทันที ผมที่ยกแก้วเหล้าจะกระดกชะงักไป หันไปมองจินที่ฉีกยิ้มแล้วอยู่ดีๆ ผมก็โกรธโกรธที่เธอทำแบบนี้ ทั้งที่ผมบอกเธอว่าผมยังลืมชูใจไม่ได้“จิน” ผมเรียกชื่อเธอสั้นๆ ร่างบางหันมามอง ผมผุดลุกขึ้นทันที ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ ทุกคนที่ไม่กล้าพูดห่าไร เพราะรู้ดีว่าผมกับชูใจเป็นอะไรกันอยู่ “เรามีเรื่องจะคุยด้วย”เคยเป็นดิ เพราะตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง นอกจากไอ้พัน“อะไรของ