Share

บทที่ 5

"ทำไม"หลินเยว่ขมวดคิ้ว

"ฉันสงสัยว่านายจะขโมยสิ่งของในบ้านออกไปน่ะสิ"

เฝิงซานซานเอ่ยขึ้นอย่างไร้เหตุผล "นายจะไปไหนไม่ได้จนกว่าจะนายจะพิสูจน์ให้มันชัดเจน"

"ผมเซ็นใบหย่าไปแล้ว คุณก็อย่ามากลั่นแกล้งกันขนาดนี้"หลินเยว่กำลังกดอารมณ์โกรธเอาไว้

“ใครกลั่นแกล้งนาย”

"ฉันแค่ทำในส่วนของฉัน!"

"นายเซ็นใบหย่าได้อย่างสบายใจ และยังไม่ต้องการสิ่งของอะไรทั้งนั้นอีก มันยากนักที่จะทำให้คนอื่นไม่สงสัย!"

"ดังนั้น ฉันจำเป็นต้องพิสูจน์ให้มันชัดเจนก่อนถึงจะปล่อยนายไปได้!"

เฝิงซานซานกอดอก แสดงความเย่อหยิ่งยกตนข่มท่านออกมา

"ผมมีธุระต่อ ไม่มีเวลามาสนใจคุณหรอก"

หลินเยว่เตรียมพร้อมที่จะเดินออกไป

"ยังไปไม่ได้! ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรไปแจ้งความแล้วนะ"

เฝิงซานซานก้าวไปข้างหน้า และคว้าเอากล่องหวายของหลินเยว่เอาไว้

"ปล่อย!"

ดวงตาของหลินเยว่เย็นชาลงในทันที

ทันใดนั้นเฝิงซานซานก็พลันรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่าง ราวกับว่ากำลังถูกสัตว์ป่าที่น่ากลัวจ้องมองอยู่

เป็นความรู้สึกที่กำลังเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังอย่างที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

ในขณะนี้

"ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด..."

รถยนต์คันหนึ่งแล่นตรงเข้ามาในคฤหาสน์

ร่างสูงกำยำ แข็งแรงของเย่จ้าวเฟิงได้ลงมาจากรถ มือข้างหนึ่งคว้าเข้าที่คอเสื้อของหลินเยว่ และตะโกนขึ้นเสียงดัง "หลินเยว่ มึงทำอะไร กล้าใช้ความรุนแรงกับพี่กูเหรอ"

"ผมไม่ได้ทำ"หลินเยว่ตอบ

"ไม่ได้ทำงั้นเหรอ กูเห็นหมดแล้ว มึงยังกล้าแก้ตัวน้ำขุ่นๆ "เย่จ้าวเฟิงตะโกนร้องเสียงดัง

ในขณะเดียวกัน หลิวอวี้ฉินที่แต่งตัวหรูหรา สง่างามก็กำลังเดินลงมาจากรถ

เธอตั้งใจลากเสียงของเธอให้ยืดขึ้น "จ้าวเฟิง อย่าหยาบคายแบบนี้สิ ยังไงเสีย เขาก็เป็นอดีตพี่เขยของลูกนะ สุภาพกับเขาหน่อย"

"ถุย ผมไม่มีพี่เขยสวะแบบนี้หรอก นี่อะไรกัน"

เย่จ้าวเฟิงถุยน้ำลาย ผลักหลินเยว่ออกไปอย่างแรง และยังเช็ดมือด้วยความรังเกียจ

"แม่ยายครับ"

หลินเยว่เรียกหลิวอวี้ฉินด้วยความสุภาพ

"แกไม่ต้องเรียกฉันว่าแม่ยายแล้ว พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวข้องกัน"หลิวอวี้ฉินพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา

ดวงตาของหลินเยว่มืดลง แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมากมาย

นับตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปีเต็มๆ แม่ยายคนนี้ก็มีอคติกับเขาตลอด ปกติก็ไม่ค่อยชอบเขาอยู่แล้ว

ตอนนี้ ในที่สุดทั้งสองคนก็หย่ากันแล้ว เดาว่าในใจของเธอก็คงจะมีความสุขมากแน่ๆ

"หลินเยว่ ฉันรู้ว่าหลังจากที่แกได้ทำการหย่าร้าง แกต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม"

"แต่ว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของคนก็คือการที่คนเรานั้นตระหนักรู้ในตัวเอง"

"ตอนนี้กิจการของเธอก็กำลังเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ เป็นความหวังตระกูลเย่ของพวกเรา สิ่งนี้ไม่สามารถแพร่งพรายออกไปให้คนอื่นรู้ได้ว่าเธอเคยมีสามีที่ไร้ค่า เพราะมันจะส่งผลกระทบกับอนาคตของเธอ แกว่าจริงไหมล่ะ"

"การหย่านับว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ดีที่สุดแล้วสำหรับพวกแกทั้งสองคน"

หลิวอวี้ฉินพูดจาไพเราะงดงามราวกับดอกบัว ยิ่งพูดยิ่งภาคภูมิใจ

สีหน้าของหลินเยว่ค่อยๆ มืดมนลง เขากำหมัดแน่น

ในเมื่อหย่ากันแล้ว ทำไมต้องมาสาดเกลือใส่แผลซ้ำเติมกันอีก

"คุณต้องการที่จะพูดอะไรกันแน่"หลินเยว่กัดฟันถาม

"ก็ไม่มีอะไร แค่อยากจะมาตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าแกเอาของในบ้านเราไปหรือเปล่า"

หลิวอวี้ฉินพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม "ถึงยังไงของในบ้านของพวกเราก็เป็นของที่มีค่าทั้งนั้น อย่างเช่นเครื่องประดับ ของสะสม...ถ้าแกหยิบมันออกไปตามใจชอบแบบนี้ ก็คงไม่ดีเท่าไหร่!"

พูดจบ เธอก็มองไปยังกล่องหวายที่อยู่ในมือของหลินเยว่อย่างลึกซึ้งมีความหมาย

หลินเยว่เข้าใจทุกอย่างแล้ว

ที่พวกเขามาขวางเขาเอาไว้ ก็เพราะกลัวว่าเขาจะแอบขโมยของในบ้านไป

รังแกกันมากเกินไปแล้ว!

"พวกเราเองก็ไม่ได้อยากจะทำให้แกลำบากใจ เพียงแค่แกเปิดกล่องใบนั้นให้พวกเราตรวจดูหน่อย ถ้าไม่มีปัญหา แกก็ไปได้เลย! "หลิวอวี้ฉินเอ่ยขึ้นอย่างใช้อำนาจบาตรใหญ่

"ถ้าผมไม่ยอมล่ะ"หลินเยว่พูดขึ้นทันที

"แกว่าไงนะ"

สีหน้าของหลิวอวี้ฉินลู่ตกลง นึกไม่ถึงเลยว่าหลินเยว่จะมองข้ามความหวังดีของคนอื่นได้ขนาดนี้

"นี่เป็นกล่องที่ผมเป็นคนเอามาด้วย ถ้าผมไม่อนุญาต ใครหน้าไหนก็ไม่สามารถเปิดมันได้อย่างแน่นอน"

หลินเยว่เอ่ยขึ้นทีละคำ แต่กลับมีความโกรธที่ยากจะยับยั้งปรากฏออกมา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status