เพื่อตอบแทนบุญคุณในครั้งนั้น หลินเยว่จึงได้ตัดสินใจแต่งงานกับเย่เข่อชิง ใช้ชีวิตเป็นพ่อบ้านธรรมดานึกไม่ถึงเลยว่าแค่เพียงใบหย่าเพียงใบเดียว จะสามารถทำลายจินตนาการทั้งหมดของเขาลงได้หลังจากที่เซ็นใบหย่า เขาก็ได้เปิดกล่องลึกลับที่ถูกผนึกไว้เป็นเวลานานมาแล้ว...ราชาคืนสู่บัลลังก์ มังกรทะยานสู่โลก!หรืออีกชื่อหนึ่ง (หย่าแบบสายฟ้าแลบ อดีตภรรยาสุดสวยมันสายเกินไปที่เธอจะเสียใจ)
ดูเพิ่มเติม“แม่งเอ๊ย ไอ้สารเลวตัวไหนเป็นคนทำ”“ถ้ามีฝีมือนัก แกก็ออกมาดวลกับฉัน ลอบกัดกันแบบนี้จะไปมีความสามารถอะไร!”เสี้ยวหยวนเป้าเงยหน้ากวาดตามองไปรอบๆ สีหน้าท่าทางโหดเหี้ยม ดูเหมือนจะโกรธเอาเสียมากๆ“ปัง...”“ปัง...”“ปัง...”ไม่รอให้เขาพูดจบ เสียงระเบิดก็พลันดังขึ้นอีกหนึ่งชุดด้วยความที่เสี้ยวหยวนเป้าเป็นศูนย์กลาง ไฟส่องทางในระยะห้าสิบเมตรก็ทยอยระเบิดทีละดวงในเวลาไม่กี่อึดใจ บริเวณรอบๆ ก็ตกอยู่ในความมืดมน“ใครกำลังเล่นละครตบตาอยู่กันแน่!”มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้เสี้ยวหยวนเป้าอกสั่นขวัญแขวนดวงทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง กวาดสายตาไปรอบๆ ไม่หยุด ต้องการที่จะหาคนที่อยู่เบื้องหลังของหลอกผี“นายกำลังกลัวอะไรอยู่”น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นมาทางด้านหลังของเสี้ยวหยวนเป้าชั่วพริบตาเสี้ยวหยวนเป้าก็รู้สึกถึงความหนาวเย็น จิตวิญญาณความรู้สึกจากท้ายทอยพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าเขาหมุนตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว เงาร่างคนที่เลือนรางไม่รู้ว่ามาปรากฏอยู่ด้านหลังของเขาตั้งแต่เมื่อไรคนคนนี้ ที่โผล่มาโดยฉับพลันก็คือหลินเยว่!เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคน เสี้ยวหยวนเป้าก็ไม่ได้กลัวถึงขนาดนั้น
หลังจากที่ออกมาจากศาลาเทียนเซียง เสี้ยวหยวนเป้าก็ตรงเข้าไปนั่งบนรถเมอร์เซเดสเบนซ์-มายบัค ที่จอดอยู่ข้างทาง“เฮงซวยแม่งจริงๆ เลย!”“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไอ้หมอนั่นมาห้ามไว้แล้วล่ะก็ คืนนี้กูคงจะมีความสุขไปแล้ว”หลังจากที่ขึ้นไปบนรถ ปากของเสี้ยวหยวนเป้าก็ก่นด่าไม่หยุด ด้วยสีหน้าเสียดาย“พี่เป้า ทำไมพี่ถึงได้โกรธขนาดนี้”น้องชายคนเล็กหวังเฉียงที่ทำหน้าที่ขับรถแทนเขา มองเห็นสีหน้าของเสี้ยวหยวนเป้า จึงได้ถามหยั่งเชิงไปหนึ่งประโยค“อะไรที่ไม่ควรถามก็ไม่ต้องซุ่มสี่สุ่มห้าถาม ตั้งใจขับรถของแกไป!”เสี้ยวหยวนเป้าจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าโหดร้ายค่อนข้างน่ากลัวหวังเฉียงที่เห็นสถานการณ์ก็หดหัวลง กล้าจุกจิกเสียที่ไหนกัน จากนั้นเขาจึงได้ติดเครื่องรถในทันทีการที่สามารถขับรถแทนเจ้านายได้ จะต้องเป็นบุคคลที่สนิทไว้ใจแน่นอนว่าเขารู้พฤติกรรมของเสี้ยวหยวนเป้ามากกว่าคนอื่นๆในตอนนี้ถ้าเกิดไปกระตุกต่อมโมโหของพี่ใหญ่เข้า กลัวว่าจะถูกตีเอาในยามค่ำคืน มายบัคขับอยู่บนท้องถนนด้วยความรวดเร็วภายใต้แสงไฟที่ส่องแสงสะท้อน สายตาของเสี้ยวหยวนเป้าวูบไหวนั่งอยู่บนรถและนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวัน
ถ้าหากว่าไอ้หมอนี่อยากตาย ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องไปขัดขวาง“ที่คุณบอกหรือว่าจะเป็น...คนนั้น”ในสมองของเสี้ยวหยวนเป้า จู่ๆ ก็ปรากฏให้เห็นร่างที่แสนธรรมดาของหลินเยว่“ก็นับว่านายไม่ได้โง่มาก”“ในเมื่อรู้แล้ว ก็รีบปล่อยเธอไปซะ!”ฉินอวิ๋นคงโบกไม้โบกมืออย่างร้อนใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เสี้ยวหยวนเป้าก็วางเย่เข่อชิงลงมา ตบเบาๆ ที่ใบหน้ามนของเธอ “แม่สาวน้อย ถือว่าเธอโชคดี ครั้งหน้าถ้าเจอกันอีกล่ะก็ โชคอาจจะไม่ดีแบบนี้!”“ไม่ใช่ว่าผมกลัวเขา แต่เห็นแก่หน้าตาของคุณชายรองฉิน”“ถ้ามีโอกาส ผมจะต้องวัดกันสักหน่อย ว่าไอ้หมอนั่นมันจะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว!”พูดจบ เสี้ยวหยวนเป้าเงยหน้าขึ้นมองฉินอวิ๋นคงอย่างมีความหมายลึกซึ้งครู่หนึ่ง และหมุนตัวออกไปจากศาลาเทียนเซียง“คุณชายรองฉิน ครั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณมากนะคะ!”เย่เข่อชิงที่เพิ่งกระโดดออกมาจากปากเสือได้ เธอตกใจจนวิ่งเข้าไปหาฉินอวิ๋นคงฉินอวิ๋นคงที่เบี่ยงตัวหนี ฝืนยิ้มเอ่ยขึ้น “เรื่องเล็กน้อย ถ้าจะให้พูดผมก็ได้รับความไว้วางใจมาอีกที!”เมื่อเห็นท่าทางหลบหนีของเขา เย่เข่อชิงไม่เพียงแต่ไม่ดีใจ เธอกลับรู้สึกว่าฉินอวิ๋นคงเป็นสุภาพบุรุษมากๆ“คุณชายร
“ตุ้บ!”หลิวอวี้ฉินคุกเข่าลงกับพื้น เอ่ยขึ้นด้วยความเศร้าโศก “ขอร้องล่ะ ปล่อยลูกสาวของฉันเถอะ!”คราวนี้ เธอยอมเชื่อฟังแล้ว ไม่ได้พุ่งตรงขึ้นไปแล้วไม่อย่างนั้น ก็อาจจะถูกเสี้ยวหยวนเป้าถีบเข้าอีกครั้ง กลัวว่าชีวิตแก่ๆ นี้จะต้องตายอยู่ที่นี่“ช่วยด้วย มีคนไร้มารยาท!”เย่เข่อชิงก็ตะโกนร้องเสียงดังสุดเสียงขึ้นมาคนมากมายอยู่ในห้องโถง เธอหวังว่าจะดึงดูดความสนใจของคนรอบข้าง ให้เสี้ยวหยวนเป้าไม่กล้าที่จะอวดดีเช่นนี้“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอคิดจะทำอะไร แต่ว่าฉันขอเตือนเธอไว้เลยว่าอย่าเปลืองแรงไปเสียเปล่าๆ”“ในเขตพื้นที่ซูหางนี้ ยังไม่มีใครกล้าสู้กับฉันเป้าเหย่”เพียงแค่นึกถึงฉากที่มีผู้หญิงสวยๆ มาปรนนิบัติใต้หว่างขาของเขา เสี้ยวหยวนเป้าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหยาบคายขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น เย่เข่อชิงก็จมอยู่กับความสิ้นหวังแขกที่อยู่ในร้านอาหารเหล่านั้น ไม่มีใครสักคนที่ยืดมือออกมาอย่างกล้าหาญแม้ว่าจะมีแขกที่ไม่รู้เรื่องอยากที่จะเข้ามาห้าม แต่ก็ถูกคนข้างขวางเอาไว้ และชี้ให้เห็นถึงฐานะของเสี้ยวหยวนเป้า“หรือว่า ไม่มีคนช่วยฉันได้แล้วจริงๆ เหรอ”เย่เข่อชิงจนปัญญา รอยน้ำตา
ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เขาไม่เห็นคนกลุ่มนี้อยู่ในสายตาเลย!“พี่รอง เรื่องนี้ควรจะทำยังไงกันดี”หลิวอวี้เฉิงมองไปยังหลิวอวี้เชาที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเป็นกังวล ไม่พูดไม่จาสักคำ ในฐานะที่เป็นผู้รับช่วงต่อของครอบครัว หลิวอวี้เชาจึงต้องเป็นผู้ใหญ่และนิ่งสุขุมหลายปีมานี้ทุกครั้งที่ตระกูลหลิวพบเจอกับสถาการณ์ที่ยากลำบาก เขาย่อมมีวิธีในการแก้ไขเสมอฉะนั้น ในตอนนี้คงทำได้แค่ฝากความหวังที่จะช่วยหลานสาวออกมา เอาไว้กับเขาเท่านั้น“นายถามฉัน และฉันจะไปถามใคร”“ถ้ามีหนทาง ฉันคงไม่เอาแต่เงียบเหมือนเมื่อกี้นี้หรอก!”แม้ว่าหลิวอวี้เชาจะดูเป็นผู้ใหญ่สุขุมรอบคอบ แต่ในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าขึ้นมาเย่จ้าวเฟิงไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเรื่อง แต่บังเอิญไปยั่วยุเสี้ยวหยวนเป้าไอ้สารเลวคนนี้เข้าให้!ครั้งนี้ เขากลัวว่าเย่เข่อชิงจะท่าไม่ดีแล้วจริงๆ !“ตายแน่...ครั้งนี้พี่ต้องซวยแน่ๆ !”ตัวการก่อเรื่องอย่างเย่จ้าวเฟิง ตอนนี้กลับตัวสั่นเทานั่งยองๆ อยู่มุมด้านข้าง แม้แต่จะผายลมก็ยังไม่กล้าเขาเองก็ตระหนักขึ้นได้ว่าครั้งนี้ตัวเองนั้นได้เผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เข้าให้แล้ว!เสี้ยวหยวนเป้าที่กำลังแบกเย่เข่อช
“เป้าเหย่ นี่มัน...”เมื่อได้ยินคำขอที่ไร้มารยาทเช่นนี้ของเสี้ยวหยวนเป้า สีหน้าของหลิวอวี้เชาก็เปลี่ยนไปเขาจะบอกว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับเสี้ยวหยวนเป้าที่พฤติกรรมไร้เหตุผลแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไง“คุณ...มันหน้าไม่อาย!”“บนโลกนี้ทำไมถึงได้มีคนที่ต่ำช้าแบบคุณอยู่อีก”เย่เข่อชิงเองที่ก็เพิ่งได้สติกลับมาจากการตกใจไปเมื่อครู่นี้ อดไม่ได้ที่จะก่นด่าขึ้นบนโลกนี้ทำไมถึงได้มีคนอย่างเสี้ยวหยวนเป้าด้วยจะลักพาตัวในที่สาธารณะงั้นเหรอ“พี่ พี่รีบหุบปากไปเลย!”“ถ้าพี่อยากตายก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องลากทุกคนไปด้วย”หลิวฉีหลินที่ตกใจจนส่งเสียงปรามขึ้นในทันทีถึงเขาจะอายุยังน้อยอยู่ แต่ว่าความรู้ก็ยังพอมีอยู่เสี้ยวหยวนเป้าเป็นงูเจ้าถิ่นที่มีชื่อเสียงของเขตพื้นที่ซูหาง พฤติกรรมของเขายิ่งขึ้นชื่อเรื่องโหดเหี้ยมอำมหิตเขากลัวว่าถ้าขืนเย่เข่อชิงยังพูดต่อไป อาจจะลากทุกคนลงไปในน้ำกันหมด“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉายาของฉันคือเลวทราม ไร้ยางอาย”“วางใจได้ ฉันคนนี้ยุติธรรมในการทำเรื่องต่างๆ อยู่แล้ว”“เพียงแค่คุณปรนนิบัติผมสักคืน และบริการผมเป็นอย่างดี เรื่องทั้งหมดก็จะถือ
ถึงแม้ว่าตระกูลหลิวจะไม่ใช่ตระกูลที่อยู่สูงที่สุดในซูหาง แต่ถึงยังไงก็ค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงแต่เขากลับบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน“งั้นท่านพอจะบอกชื่อและฉายาของท่านได้ไหม” หลิวอวี้เชาเริ่มโยนหินถามทาง“นายยังไม่มีคุณสมบัติพอที่รู้ชื่อและฉายาของฉัน!” “อย่ามาอืดอาดชักช้าอยู่นี่ จะชดใช้หรือไม่ชดใช้เงินค่าเสียหายให้” “ถ้าไม่ชดใช้เงินค่าเสียหายให้ วันนี้พวกคุณก็อย่าได้คิดที่จะออกไปจากที่นี่” เสี้ยวหยวนเป้าเดิมที่ไม่ได้สนใจหลิวอวี้เชาอยู่แล้ว กระดกขาอีกข้างหนึ่งวางไว้บนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง ราวกับมีดวงดาวแห่งความโชคร้ายขวางอยู่ตำแหน่งประตูทางเข้าหลิวอวี้เฉิงและหลิวอวี้เชาทั้งสองพี่น้องมองตากัน สีหน้าไม่น่าดูเป็นอย่างมากวันนี้บังเอิญเจอเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้ว!“ขอเตือนคุณว่าอย่าทำให้เรื่องมันยุ่งวุ่นวายเลยนะคะ ตอนนี้เป็นสังคมที่ยึดหลักนิติธรรม” “ถ้าคุณทำชั่ว ฉันก็จะแจ้งความ” เย่เข่อชิงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา“กล้าดี ฉันชอบ!” เสี้ยวหยวนเป้าเงยหน้าขึ้นมา มองคิ้วและดวงตาที่ราวกับรูปวาดของเย่เข่อชิง ทันใดนั้นดวงตาก็เป็นประกาย เหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะไปสวย!สวยมากจริงๆ!ใ
อารมณ์ของเสี้ยวหยวนเป้าที่เดิมไม่ดีอยู่แล้ว เพราะว่าเรื่องของพี่ใหญ่ดังนั้น เขาจึงได้ลงมืออย่างรุนแรง ไม่ออมมือเลยแม้แต่น้อยมือทั้งสองข้างของเย่จ้าวเฟิงป้องศีรษะไว้ ไหล่และหลังถูกรองเท้าหนังเตะเข้าหลายครั้งเพราะความเจ็บปวด เขาจึงกรีดร้องน่าสงสารขึ้นเขาคิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่า แค่เพิ่งมาถึงซูหางก็ได้เจอกับบทบาทที่โหดเหี้ยมเช่นนี้เพียงแค่ไม่ระวังไปชนเข้ากับเขา จะทำให้เขาโกรธได้มากถึงขนาดนี้“อย่าตี อย่าตี...”เย่จ้าวเฟิงกลัวว่าถ้าอีกฝ่ายยังตีเขาอยู่แบบนี้ต่อไป ช้าหรือเร็วตัวเองก็ต้องตายอยู่ตรงนี้ จึงรีบเอ่ยขึ้น “ถ้าหากคุณต้องการให้ชดใช้ ผมสามารถชดใช้ให้คุณได้นะครับ!”“จริงเหรอ”ในที่สุดเสี้ยวหยวนเป้าก็หยุดเท้าลงเย่จ้าวเฟิงรู้สึกถึงความเจ็บแสบแพร่กระจายมายังหลังและไหล่ของตัวเองแต่ยังดีที่ตัวเองป้องกันใบหน้าไว้อย่างแน่นหนา ดังนั้นใบหน้ารูปไข่ของเขาจึงไม่เป็นอะไร“มึงเตรียมจะชดใช้ให้กูยังไง”เสี้ยวหยวนเป้าจุดบุหรี่อีกครั้ง คุกเข่าลงต่อหน้า เขายิ้มชั่วร้ายและพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าเย่จ้าวเฟิง“ผมมีเงินชดใช้ให้คุณ”เย่จ้าวเฟิงควักกระเป๋าเงินออกมา หยิบเงินห้าหมื่นบาทส่งให้เ
“ได้ ถ้างั้นก็ไปที่ที่คุณว่า” เฝิงเฉิงพยักหน้าทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไป มองไปเห็นเสี้ยวหยวนหลงที่เดินออกมาด้วยท่าทางที่ดูไม่มีความสุขตอนนี้ ทั้งใบหน้าของเสี้ยวหยวนหลงมืดสนิทประสบการณ์ในวันนี้ เรียกได้ว่ารอดจากสถานการณ์มาได้อย่างหวุดหวิดสายโทรศัพท์จากคุณชายใหญ่ฉินแห่งเมืองเยี่ยนจิง กำชับกับเสี้ยวหยวนหลงเป็นความลับ ให้น้องชายรองของเขานั้นได้ลองลิ้มรส “ความโหดร้ายของสังคม”เมื่อเสี้ยวหยวนหลงได้ยินดังนั้น ก็ไปทำตามคำสั่งกำชับแต่ว่า...ตนเองกลับเกือบจะทิ้งชีวิตน้อยๆ ไว้ที่นั่น“เอ้อหลง สนใจมาดื่มด้วยกันสักแก้วไหม ผมเป็นเจ้ามือ”“มีผู้นำตระกูลเฝิงกับผม บวกกับคุณอีกหนึ่งคน”หวังเยว่เหลยยังคงมีท่าทางยิ้มแย้ม“ไม่ละครับ พวกคุณไปกันเถอะ”เสี้ยวหยวนหลงเผยความหงุดหงิดออกมา และเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“พี่ พี่เป็นอะไรไป”ข้างๆ นั้นมีชายรูปร่างแข็งแรงกำยำ ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ผมของชายคนนี้โกนสั้น รูปร่างแข็งแรงกำยำ รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับเสี้ยวหยวนหลงเล็กน้อยเขาคือน้องชายแท้ๆ ของเขา ชื่อเสี้ยวหยวนเป้าเมื่อเทียบกับพี่ชายแล้ว เสี้ยวหยวนเป้าคนนี้พฤติกรรมอวดดียิ่งกว่า เล่ห์เหลี่ยม