Share

บทที่ 2

Author: เสี่ยวหมิงผู้โดดเดี่ยว
“ท่านพ่อ!”

หลังจากกล่าวลาแม่ทัพหญิงที่ติดตามมาแล้ว หลินชิงเยว่ก็กลับมาที่จวน

“ชิงเยว่ เรื่องของเจ้ากับหยางฝาน จัดการไปถึงไหนแล้ว?”

หลินเจิ้งถัง อดีตจางวางกรมคลัง บิดาของหลินชิงเยว่เดินเข้ามาถามอย่างกระวนกระวายใจ

นับตั้งแต่ที่เขาพัวพันกับคดีทุจริต อำนาจของสกุลหลินก็ตกต่ำลงอย่างฮวบฮาบ หากไม่ใช่เพราะหยางฝานรับรองไว้ สกุลหลินคงล่มสลายไปนานแล้ว

บัดนี้ บุตรีของเขากลายเป็นหัวหน้าแม่ทัพหญิงในกองทัพ และเป็นวีรสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ย แถมยังได้คบหากับผู้ที่มีบุญวาสนาอย่างเหลียงเส้าเหวย สามารถจินตนาการได้เลยว่าในอนาคตสกุลหลินจะรุ่งเรืองเฟื่องฟูในไม่ช้าแน่นอน

หลินเจิ้งถังไม่ต้องการให้สถานการณ์อันดีงามที่สกุลหลินกำลังจะรุ่งโรจน์ได้รับผลกระทบจากหยางฝานเพียงคนเดียว

“ท่านพ่อ จัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ หยางฝานเป็นคนที่ไม่เอาถ่านจริง ๆ ลูกอุตส่าห์รักษาสัญญาที่จะแต่งงานกับเขา ก็แค่ต้องการให้เขาเก็บตัวอยู่แต่ในจวนหลังแต่งงาน และควบคุมตัวเอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะฉีกสัญญาหมั้นทิ้งเพียงเพราะไม่อยากเสียหน้า ถอนหมั้นกับลูกไปเสีย”

หลินชิงเยว่กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “แต่ท่านพ่อวางใจได้เจ้าค่ะ หยางฝานได้ตกลงกับลูกแล้วว่า เขาจะประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเขาเป็นฝ่ายผิดสัญญาเองในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะอีกสามวันข้างหน้า จะไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสกุลหลินของเราเจ้าค่ะ!”

“อะไรนะ! หยางฝานฉีกสัญญาหมั้นจริงหรือ?”

หลินเจิ้งถังมีสีหน้าตกตะลึง “หยางฝานรักเยว่เอ๋อร์อย่างสุดหัวใจ ถึงกับยอมยกเลิกสัญญาหมั้นเชียวหรือ?”

“ก็แค่ดันทุรังอยากรักษาหน้าจนยอมทนทุกข์ คงรับไม่ได้ เลยแกล้งทำเป็นวางมาด หวังจะให้ข้าใจอ่อน... ช่างน่าขำจริง ๆ!”

หลินชิงเยว่ไม่แยแส “แต่ในเมื่อเขากล้าพูด เขาก็จะกลับคำไม่ได้อีกแล้ว! รอให้ฝ่าบาทพระราชทานรางวัลใหญ่หลวงแก่ลูกในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ เมื่อได้รับเกียรติยศมากมาย ถึงตอนนั้น ต่อให้เขาเสียใจก็สายเกินไปแล้ว!”

“คนไม่เอาที่เอาแต่ใช้อารมณ์ตัดสินเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่บุญคุณเล็กน้อยที่เขาเคยช่วยสกุลหลินของข้าไว้ ข้าก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ!”

“เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก!”

เดิมทีหลินเจิ้งถังก็ไม่ได้ใส่ใจหยางฝานอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “เยว่เอ๋อร์ ในเมื่อเจ้าถอนหมั้นกับหยางฝานแล้ว เช่นนั้นเจ้ากับคุณชายเหลียงก็สามารถแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมได้แล้ว... ฮ่าฮ่า ไม่ได้การ! เรื่องมงคลขนาดนี้ต้องประกาศให้รู้กันทั่วหล้า และจัดงานให้ใหญ่โตมโหฬาร!”

หลินเจิ้งถังถูมือไปมาอย่างตื่นเต้น “เยว่เอ๋อร์ คืออย่างนี้นะ คืนพรุ่งนี้ ข้าอยากจะเชิญเพื่อนร่วมงานเก่า ๆ มาจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ก่อน เพื่อช่วยให้งานเลี้ยงฉลองชัยชนะของเจ้าในอีกสามวันดูยิ่งใหญ่สมเกียรติ!”

“แต่ว่า...”

หลินเจิ้งถังเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดอย่างลำบากใจว่า “ตั้งแต่สกุลหลินของเราตกต่ำ ทรัพย์สมบัติก็ร่อยหรอ แม้แต่จวนแม่ทัพเถาฮวานี้ก็สร้างขึ้นได้ด้วยเงินสนับสนุนจากหยางฝาน ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่เงินที่ราชสำนักจัดสรรให้ ยังก็ไม่พอแม้แต่จะซื้อที่ดินของจวนนี้ด้วยซ้ำ...”

“ตอนนี้ แม้ตัวเรือนจะสร้างเสร็จแล้ว แต่ของตกแต่งหลายอย่างก็ยังไม่ได้จัดซื้อเข้ามา ตอนนี้หยางฝานก็ดันถอนหมั้นกับเจ้าไปแล้ว เขา... เขายังจะยอมควักเงินให้อีกหรือ?”

“ก็แค่เงินไม่กี่ตำลึงมิใช่หรือ?” หลินชิงเยว่กล่าวอย่างไม่แยแส “ท่านพ่อวางใจได้เจ้าค่ะ ปะเดี๋ยวลูกจะให้สาวใช้ไปขอเงินจากหยางฝานมาสักห้าแสนตำลึงเงิน พอฝ่าบาทพระราชทานรางวัลให้ลูกแล้ว ค่อยนำไปคืนเขาก็ได้”

หลินชิงเยว่ไม่คิดว่าหยางฝานจะกล้าปฏิเสธนาง

เพราะตอนนี้นางเป็นถึงวีรสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าเซี่ย

ส่วนหยางฝานเป็นเพียงซื่อจื่อเยียนอ๋องที่มีแต่ชื่อไร้อำนาจ

การที่นางไปยืมเงินหยางฝาน ถือเป็นการให้เกียรติหยางฝานเสียด้วยซ้ำ!

...

ที่จวนเยียนอ๋อง

ในจวนประดับประดาด้วยผ้าสีและโคมไฟสวยงาม และเต็มไปด้วยของตกแต่งอันหรูหราทุกซองทุกมุม

ฉิงเอ๋อร์ แม่บ้านจวนอ๋องกำลังสั่งการเหล่าอารักขาของจวนให้จัดเตรียมงานเลี้ยง

“ซื่อจื่อ!”

ทันใดนั้น เมื่อฉิงเอ๋อร์เห็นหยางฝานกลับมาก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับแล้วกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ซื่อจื่อ ในจวนได้จัดเตรียมและตกแต่งตามคำสั่งของท่านเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่รอคนรับใช้ที่รับผิดชอบในการจัดซื้อกลับมา ก็สามารถเตรียมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้คุณหนูหลินได้ทันทีเจ้าค่ะ!”

“งั้นรึ?”

หยางฝานยิ้มเยาะตัวเองก่อนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “แจ้งบ่าวรับใช้ในจวน ให้คืนของที่ซื้อมาทั้งหมด งานเลี้ยงนี้ ไม่ต้องจัดแล้ว!”

“หา?”

ฉิงเอ๋อร์ตกใจมาก “ซื่อจื่อ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ? ฝ่าบาททรงรับปากท่านว่าจะจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้คุณหนูหลินแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”

“ในเมื่อไม่อาจหยุดยั้งความรักอันลึกซึ้งไว้ได้ แล้วลูกผู้ชายจะไม่ออกไปผจญภัยได้อย่างไร!”

หยางฝานไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ทำตามที่ข้าสั่งเถอะ... นอกจากนี้ เตรียมรถม้าด้วย ข้าจะเข้าวัง!”

...

ที่ตำหนักไท่จี๋

ในขณะที่เซี่ยหลงยวน ผู้เป็นฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ยกำลังพิจารณาฎีกาอยู่ในห้องห้องทรงพระอักษร

ทันใดนั้น จงซูเส่อเหรินนามหลิวเฟยหงก็เข้ามาด้วยความรีบร้อน

พร้อมฎีกาด่วนฉบับหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ทูลฝ่าบาท ทูตจากโม่เป่ยเข้าเมืองหลวงเพื่อเจรจาสันติ แต่ท่าทางไม่เป็นมิตรพ่ะย่ะค่ะ!”

“โอ้?”

เซี่ยหลงยวนรับฎีกามาอ่านครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาดุดันจะเบิกกว้าง “โอหังยิ่งนัก!”

“กองทัพโม่เป่ยแตกพ่ายหนีหัวซุกหัวซุน กองกำลังหลักก็ถูกกองทัพต้าเซี่ยของเราทำลายจนย่อยยับ จี๋ลี่ข่านมาเพื่อขอเจรจาสันติ เขากล้าดียังไง ถึงกล้ามาเรียกร้องเสบียงหนึ่งล้านตันกับข้า? แถมยังเพ้อฝันที่จะสู่ขอน้องสาวของข้าอีก ช่างทะเยอทะยานและสามานย์ ยโสโอหังยิ่งนัก!”

“ฝ่าบาท แม้หลินอู่โหวจะปราบกองกำลังหลักของโม่เป่ยได้ แต่ชนเผ่าป่าเถื่อนโม่เป่ยร่อนเร่มาหลายชั่วอายุคน และเป็นนักรบทุกวัย กองทัพต้าเซี่ยทำสงครามมาหลายปี ท้องพระคลังก็ร่อยหรอ ไม่สามารถสนับสนุนกองทัพใหญ่ที่ประจำการยาวในโม่เป่ยได้พ่ะย่ะค่ะ”

หลิวเฟยหงถอนหายใจพลางกล่าวว่า “เมื่อกองทัพหลักกลับเมืองหลวง จี๋ลี่ข่านก็จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง เกรงว่าจะเกิดไฟสงครามอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ...”

“น่าแค้นใจยิ่งนัก!”

เซี่ยหลงยวนมีสีหน้าเคร่งเครียดและคับแค้นใจอย่างยิ่ง

ทั้ง ๆ ที่ต้าเซี่ยชนะสงครามแท้ ๆ แต่กลับไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย ซ้ำร้ายยังต้องส่งเสบียงให้ศัตรูอีก ช่างเป็นความอัปยศอดสูที่ใหญ่หลวงยิ่งนัก!

“ไม่มีหนทางอื่นแล้วหรือ?” เซี่ยหลงยวนมองไปยังหลิวเฟยหงด้วยสายตาที่แฝงด้วยความคาดหวัง

ก่อนที่หลิวเฟยหงจะได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นจงซูเส่อเหริน เขาก็คือจอหงวนคนใหม่ที่สอบได้อันดับหนึ่งทั้งสามสนามเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ต้าเซี่ย มีความสามารถและความรู้กว้างขวาง

แต่เมื่อเผชิญกับสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเซี่ยหลงยวน หลิวเฟยหงกลับก้มหน้าลงอย่างละอายใจ “ฝ่าบาท กระหม่อมมีความรู้ตื้นเขินด้อยปัญญา ไม่มีกลยุทธ์ที่ดีพ่ะย่ะค่ะ...”

“แต่ว่า”

หลิวเฟยหงเงียบไปชั่วขณะ แล้วกล่าวอย่างกะทันหันว่า “อาจารย์ผู้มีพระคุณของกระหม่อม หยางฝาน ผู้เป็นซื่อจื่อเยียนอ๋อง อาจจะมีกลยุทธ์ที่ดีพ่ะย่ะค่ะ!”

“หืม?”

เซี่ยหลงยวนเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อหยางฝาน แล้วกล่าวอย่างสบอารมณ์ว่า “อย่าได้กล่าวถึงไอ้สารเลวหยางฝานให้ข้าได้ยินอีก! แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่ข้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้เขา เขาเคยคิดถึงข้าเสียเมื่อไหร่?”

“เขาต้องการให้ข้าอภัยโทษให้สกุลหลิน ข้าก็ยอม เขาต้องการให้เด็กหญิงสกุลหลินออกรบ ข้าก็ให้ไทเฮารับปาก เขาต้องการให้เด็กหญิงสกุลหลินได้ตำแหน่งโหวและแม่ทัพ ข้าก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนออกราชโองการ แต่เขาก็ยังจะควักเงินจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้เด็กหญิงสกุลหลินอีก ไม่จบไม่สิ้น...”

“แล้วเขาล่ะ? ข้าให้เขาสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง เขาก็ไม่ยอม บอกว่าอยากใช้ชีวิตอิสระ!”

“ข้าให้เขาไปเป็นจี้จิ่วในสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน เขาก็ไม่ไป บอกว่ายุ่งกับการหาเงิน ไม่มีเวลา!”

“ข้าให้เขานำวิธีการตีดาบถังมามอบให้กรมโยธา เขาก็ไม่ยอม บอกว่ากรมโยธาของข้ารั่วไหล...”

“ข้าถึงกับขอร้องจะยกน้องสาวของข้าให้เป็นอนุภรรยา เขาก็ยังไม่ยอมอีก บอกว่าชาตินี้จะแต่งงานกับเด็กหญิงสกุลหลินคนเดียวเท่านั้น!”

“หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่เขาให้ข้ายืมเงินยี่สิบล้านตำลึงเพื่อเติมท้องพระคลัง ข้าจะต้องลงโทษเขาข้อหา... ขัดราชโองการแน่นอน!”

เซี่ยหลงยวนโกรธจนเครากระตุกและตาถลน

จะว่าไป แท้จริงแล้วเซี่ยหลงยวนกับหยางฝานก็ถือว่าโตมาด้วยกัน

หยางฝานเข้าเมืองหลวงมาตั้งแต่เด็กในฐานะตัวประกัน ด้วยความที่ฉลาดหลักแหลมจึงเป็นที่โปรดปรานของอดีตฮ่องเต้ และได้รับอนุญาตให้เข้าวังได้เป็นพิเศษ

แทบจะเรียกได้ว่าวิ่งเล่นแก้ผ้ากับเซี่ยหลงยวนด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก

หลังจากเซี่ยหลงยวนขึ้นครองราชย์ก็มีความหวังต่อหยางฝานครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่หยางฝานกลับทำให้เขาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า... ดื้อรั้นไม่รับฟังคำแนะนำใด ๆ เลย!

“ฝ่าบาท!”

ทันใดนั้น ในขณะนั้นเอง หวังกงกง ซึ่งเป็นหัวหน้าขันทีก็รายงานนอกห้องทรงพระอักษรว่า “ซื่อจื่อเยียนอ๋อง หยางฝานขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 32

    “ชิงเยว่ แม้ว่าหยางฝานผู้นี้จะไม่สามารถทำการใหญ่สำเร็จได้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับชาวฉุน เรายังควรต้องใส่ใจให้มากขึ้น ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่ ซึ่งเป็นรองทูตเจรจาสันติ ตอนนี้ประทับอยู่ที่จวนเยียนอ๋อง เพื่อหารือเรื่องการเจรจาสันติกับหยางฝาน ชิงเยว่ เจ้าลองใช้โอกาสนี้ไปสืบดูว่าเขาเตรียมจะจัดการเรื่องการเจรจาสันติอย่างไรบ้าง”เหลียงเส้าเหวยกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจเขาไม่ต้องการเห็นหยางฝานประสบความสำเร็จในการเจรจาสันติจริง ๆในเมื่อเป็นเช่นนั้น การรู้แผนการของหยางฝานล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งทว่าเมื่อหลินชิงเยว่ได้ยินว่าต้องการให้นางไปหาหยางฝาน ในใจก็เกิดรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที“คุณชายเหลียงคิดมากไปแล้ว ข้ารู้จักหยางฝานผู้นี้ดีที่สุด เขาไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย เรื่องการเจรจาสันตินี้ เขาจะมีวิธีรับมือได้อย่างไรกัน!”หลินชิงเยว่กล่าวเสียงเย็นชาทว่าเหลียงเส้าเหวยกลับส่ายหน้า“ชิงเยว่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชาวฉุน เจ้าอย่าได้ต่อต้านเลย มีเพียงหาวิธีทำให้หยางฝานเจรจาสันติล้มเหลวเท่านั้น เราจึงจะสามารถช่วยชาวฉุนออกมาได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้น แม้จะจ่ายเงินไปแล้ว

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 31

    เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ที่ชัดเจนและมีเหตุผลของเซี่ยรั่วหลิน หยางฝานก็ปรบมือรัว ๆเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบาเลยนะ!และในขณะนั้นเอง ฉิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างเหมาะเจาะว่า “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท่านอ๋องจะตั้งราคานมนี้เท่าใด แต่วิธีการถนอมนม ท่านอ๋องได้คิดไว้เรียบร้อยนานแล้วเพคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็มองไปยังหยางฝานด้วยความประหลาดใจทันที“ท่านมีวิธีเก็บรักษานมไม่ให้เสียหรือ?”หยางฝานผงกศีรษะทว่าเซี่ยรั่วหลินกลับแสดงสีหน้าสงสัย“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีวิธีใดใต้หล้านี้ที่สามารถเก็บรักษานมสดไม่ให้เสียได้ ต่อให้เจ้าจะใช้ก้อนน้ำแข็งตลอดเวลาก็เก็บได้ไม่กี่วันแน่นอน”เซี่ยรั่วหลินจ้องหยางฝานอย่างสงสัยหยางฝานผงกศีรษะ“เป็นจริงอย่างที่องค์หญิงตรัส แม้นมนี้จะเก็บรักษาด้วยก้อนน้ำแข็งก็เก็บได้ไม่นาน!”เมื่อเห็นว่าแม้แต่เขาเองก็ยังพูดเช่นนี้ เซี่ยรั่วหลินก็หัวเราะออกมา“แล้วเจ้ายังกล้าพูดจาโอ้อวดว่ามีวิธีเก็บรักษาแล้วงั้นรึ?”หยางฝานหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าข้าจะใช้น้ำแข็งในการเก็บรักษานมนี่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นเขามีท่าทางมั่นใจเต็มร้อยขนาดนั้น เซี

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 30

    “เจ้าค่ะ!”ฉิงเอ๋อร์มองเซี่ยรั่วหลินด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปไม่นานนัก ฉิงเอ๋อร์ก็กลับมาพร้อมแก้วที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นอึก!เซี่ยรั่วหลินมองของเหลวสีขาวขุ่นที่บรรจุในแก้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตอนนั้นนางเห็นหยางฝานรีดนมด้วยตาตัวเองพอนึกถึงภาพนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เริ่มอยากจะถอนตัวกลางคัน“เชิญองค์หญิงชิมพ่ะย่ะค่ะ!”หยางฝานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่ได้ เสด็จย่าบอกว่าข้าต้องใช้ข้อเท็จจริงมาโต้แย้งไอ้หมอนี่ ถอยกลับตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”เมื่อคิดได้ดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เผยสีหน้าเหมือนตายเป็นตายพร้อมยกแก้วนมขึ้นมาดื่มแต่พอนมโคมาจ่อที่ปาก เซี่ยรั่วหลินกลับไม่ยอมนำเข้าปากสักทีพอคิดว่านมนี้ถูกรีดมาจากโค ในใจของนางก็รู้สึกต่อต้านอย่างประหลาดใจ“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”หยางฝานเห็นสีหน้าตายเป็นตายของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจทว่า ราวกับถูกคำกล่าวของเขายั่วโมโห เซี่ยรั่วหลินจึงส่งเสียงเย็นชาออกมาทันที“ก็แค่นมโคมิใช่รึ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าของสิ่งนี้ไร้ค่าสิ้นดี เจ้า

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 29

    เมื่อเห็นตั่วเหยียนเอ่ยพลางกำลังจะเผาจดหมาย กุนซือก็รีบกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิงจะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าจุดประสงค์ของการเดินทางของเราในครั้งนี้จะเพื่อขอเสบียงและเงินบรรณาการ แต่หากมีคนในราชสำนักต้าเซี่ยคอยช่วยเหลือ การบรรลุเป้าหมายนี้ก็จะง่ายขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”พอเขากล่าวเช่นนี้ ตั่วเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นจึงผงกศีรษะ“ท่านกุนซือกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นเราก็ร่วมมือกับเขาดูสักครั้งเถิด แต่ว่าตามที่ระบุไว้ในจดหมายนี้ ผู้ที่จะมาเจรจากับเรา เป็นถึงท่านอ๋องของต้าเซี่ยเลยหรือ?”ตั่วเหยียนมองดูชื่อหยางฝานที่เขียนอยู่ในจดหมาย แล้วถามด้วยความแคลงใจกุนซือได้ยินดังนั้นแล้วก็หัวเราะเยาะอย่างดูแคลน“หยางฝาน เยียนอ๋องผู้นี้ ข้าก็เคยสืบมาแล้ว คนผู้นี้มีสัญญาหมั้นกับหลินชิงเยว่ แม่ทัพเถาฮวา แต่คนผู้นี้กลับเป็นคนเหลวไหลที่ไม่มีทั้งเกียรติยศและพรสวรรค์ในการบัญชาการรบ ได้ยินมาว่าวัน ๆ เอาแต่คลุกคลีอยู่กับพวกพ่อค้า เป็นแค่ท่านอ๋องรุ่นที่สองที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น ฮ่องเต้ต้าเซี่ยก็คงจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ คิดว่าแค่ดันคนไม่เอาถ่านอย่างเยียนอ๋องขึ้นมา จะสามารถทำให้เราหวาดกลัวจนต้องถอยรนไปไ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 28

    “จดหมายธนู?!”ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรีบลุกขึ้นยืนทันที“จับคนยิงได้หรือไม่!”กุนซือรีบถามกองกำลังคุ้มกันคณะเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เป็นถึงกองทัพรักษาพระองค์ของท่านข่าน ปล่อยให้มีคนลอบเข้ามาถึงข้างค่ายโดยไม่รู้ตัวเลยหรือ?“ขอองค์หญิงและท่านกุนซือโปรดอภัยด้วย พวกข้าจับคนผู้นั้นไม่ได้!”ทหารผู้กล้าส่ายหน้าขณะคุกเข่า“ฮึ! พวกไร้ประโยชน์!”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาทหารผู้กล้าที่คุกเข่าอยู่รีบก้มหน้าลงทันทีส่วนกุนซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกทหารผู้กล้าผู้นั้น“นำจดหมายธนูนั้นมา!”“ขอรับ!”กุนซือรับจดหมายธนูมา แต่ไม่ได้เปิดจดหมายออกในทันที กลับมองไปที่ลูกศรขนนกในมือแทน“ของสิ่งนี้มีอะไรน่าดูนักหนา ก็แค่คำยั่วยุจากพวกไร้ประโยชน์ของต้าเซี่ยเท่านั้นเอง มีคนแบบนี้ตลอดทาง ไม่น้อยไม่ใช่หรือ”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าดูแคลนต้าเซี่ยกับโม่เป่ยทำสงครามกันทุกปี คณะทูตอย่างพวกเขาเจอคนต้าเซี่ยที่โกรธแค้นไม่น้อยเลยระหว่างทางที่ผ่านมาทว่ากุนซือได้ยินดังนั้นแล้วกลับยิ้มพลางส่ายหน้า“องค์หญิง ข้าคิดว่าครั้งนี้อาจจะต่างออกไป”กล่าวจบ กุนซือก็แกะจดหมายออกเ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 27

    ทันทีที่ก้าวเข้าประตูมา เซี่ยรั่วหลินก็เห็นไทเฮากำลังสวดมนต์อยู่ทันทีที่เห็นไทเฮา น้ำตาแห่งความน้อยใจก็เอ่อล้นในดวงตาของเซี่ยรั่วหลิน“เสด็จย่า!”เซี่ยรั่วหลินร้องเสียงดังพร้อมกับโผเข้ากอดไทเฮา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจ“โธ่เอ้ย! ผู้ใดทำให้เด็กดื้อของเราไม่พอใจละเนี้ย ย่าจะไปสั่งสอนเขาเดี๋ยวนี้!”ไทเฮาลูบหลังเซี่ยรั่วหลินเบา ๆ พลางกล่าวด้วยความรู้สึกสงสารยิ่งเซี่ยรั่วหลินเปล่งเสียงฮึดฮัดเบา ๆ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังทันที“เสด็จย่า ท่านโปรดตัดสินว่านี่ใช่ความผิดของหยางฝานคนอวดดีคนนั้นหรือไม่ ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเขาแท้ ๆ เขาก็ยังไม่ฟังคำของข้าอีก ฮึ! โมโหจนจะตายอยู่แล้ว!”ไทเฮามองดูท่าทางโกรธขึ้งของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็ไม่รู้จะตอบนางอย่างไรในทันทีเมื่อเทียบกับเซี่ยรั่วหลินที่ไม่รู้อะไรเลย ไทเฮากลับเข้าใจหยางฝานค่อนข้างมากหากหยางฝานไม่ได้แบ่งกำไรจากเครื่องประทินโฉมให้นางครึ่งหนึ่ง แม้นางจะเป็นไทเฮา ก็ไม่สามารถสร้างโบสถ์อันงดงามวิจิตรเช่นนี้ได้กระนั้น ในความคิดของไทเฮา หยางฝานเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอนและนางยังรู้ด้วยว่าเหตุใดฮ่องเต้ถึงต้องใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status