Share

บทที่ 3

Author: เสี่ยวหมิงผู้โดดเดี่ยว
“ไอ้สารเลวนั่นยังกล้ามาอีกหรือ?”

ดวงตาดุดันของเซี่ยหลงยวนเบิกกว้างอย่างไม่พอใจ

หลายวันก่อนหยางฝานคอยรบเร้าเขาเรื่องงานเลี้ยงฉลองชัยชนะก็น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว

หรือว่าเพราะวันนี้หลินชิงเยว่กลับมาพร้อมชัยชนะ หยางฝานจึงอยากจะทำอะไรประหลาด ๆ อีก?

“ข้าไม่พบ! ให้เขามาทางไหนกลับไปทางนั้น!”

เซี่ยหลงยวนตบโต๊ะทรงงานอย่างแรง

ตอนนี้การเจรจากับโม่เป่ยกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยหลงยวนไม่มีอารมณ์มาฟังหยางฝานพูดพล่าม

“ฝ่าบาท”

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ประสานมือคารวะพลางกล่าวแนะนำว่า “ซื่อจื่อมีสติปัญญาเหนือสามัญ นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะใช้คนนะพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าหมายความว่า?”

เซี่ยหลงยวนชำเลืองตามอง และเข้าใจความหมายแฝงลึกในคำพูดของหลิวเฟยหงทันที

หากการมาขอเข้าเฝ้าของหยางฝานในครั้งนี้มีเรื่องมาทูลขอจริง ๆ...

“ใต้เท้าหวัง เจ้าไปเรียกหยางฝานเข้ามา บอกว่า อืม บอกว่าตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี หากเขาเข้ามาแล้วมีอะไรก็ให้รีบ ๆ พูด!”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

ขันทีหวังเฒ่าหัวหมอรีบสาวเท้าเดินออกไปเชิญหยางฝานทันที

“หยางซื่อจื่อ ฝ่าบาททรงกริ้วมากเรื่องโม่เป่ย หากท่านเข้าเฝ้าแล้ว ขอจงระมัดระวังคำพูดและการกระทำ อย่าได้ลบหลู่อำนาจสวรรค์เชียวล่ะ!”

ระหว่างทาง ขันทีหวังยิ้มเจื่อน ๆ ดูเหมือนจะ “แนะนำ” อย่างไม่ตั้งใจ

ในสายตาคนนอก หยางฝานเป็นเพียงคุณชายเสเพลที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่

แต่ในฐานะคนสนิทของฮ่องเต้ ขันทีหวังกลับรู้ดีว่า หากซื่อจื่อท่านนี้เอาจริงเอาจังขึ้นมา พลังของเขาจะน่ากลัวเพียงใด!

“โม่เป่ยงั้นรึ...”

หยางฝานนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะเผยรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก

ในฐานะเพื่อนที่โตมาด้วยกันของฮ่องเต้ และเป็นผู้ที่ทะลุมิติมา หยางฝานย่อมรู้ดีว่าเซี่ยหลงยวนคิดอะไรอยู่!

“ฝ่าบาท กระหม่อมมาในวันนี้ มีสามเรื่อง!”

หยางฝานกล่าวเข้าประเด็นทันทีหลังจากเข้ามาในห้องทรงพระอักษร โดยไม่แสดงพิธีรีตองใด ๆ

“สามเรื่อง?”

เซี่ยหลงยวนเบิกตากว้าง แทบจะกระโดดลงจากบัลลังก์มังกรด้วยโทสะ!

แม้ว่าเรื่องที่หยางฝานเคยขอในอดีตจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

แต่กิจการบ้านเมืองไม่มีเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ยิ่งเซี่ยหลงยวนเป็นถึงฮ่องเต้ด้วยแล้ว ทุกถ้อยคำย่อมเสมือนทองคำ?

หยางฝานเคยเอ่ยปากขอความเมตตาเพื่อหลินชิงเยว่และสกุลหลินหลายครั้ง จนทำลายกฎเกณฑ์ไปไม่น้อยแล้ว

บัดนี้ สกุลหลินได้รับเกียรติยศสูงสุดแล้ว แต่หยางฝานยังไม่พอใจอีก กลับเอ่ยปากขอถึงสามเรื่อง?

“ซื่อจื่อ!”

เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทกำลังจะกริ้ว หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ จึงรีบปาดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วกล่าวไกล่เกลี่ยว่า “ซื่อจื่อโปรดรอปะเดี๋ยว ฝ่าบาทกำลังหารือเรื่องการเจรจากับโม่เป่ยกับข้าน้อยอยู่...”

“ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกโม่เป่ยใช้สงครามมาข่มขู่เพื่อเรียกขอเสบียงไม่ใช่หรือ?”

หยางฝานยิ้มจาง ๆ “หากฝ่าบาททรงรับปากสามเรื่องที่กระหม่อมร้องขอ กระหม่อมกล้ารับรองว่าต้าเซี่ยไม่ต้องเสียข้าวแม้แต่เม็ดเดียวให้โม่เป่ยเล็ก ๆ นั้น ก็สามารถทำให้การเจรจาสำเร็จลุล่วงได้!”

“เจ้าพูดจริงหรือ?”

เซี่ยหลงยวนถึงกับนั่งไม่ติดเมื่อได้ยินดังนั้น

หากไม่ต้องเสียข้าวสารแม้แต่เม็ดเดียวก็สามารถทำให้การเจรจาสำเร็จได้จริง นั่นถือเป็นคุณงามความดีอันใหญ่หลวง!

“ซื่อจื่อ ทูตจากโม่เป่ยมีท่าทีแข็งกร้าว ท่านจะพูดพล่อย ๆ ไม่ได้นะ!”

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น

มองผิวเผินเหมือนกำลังเตือนหยางฝาน แต่ความจริงในใจกลับเต็มไปด้วยความคาดหวังต่อหยางฝาน

“กระหม่อมยินดีปฏิญาณตน ภายในหนึ่งเดือน การเจรจาจะต้องสำเร็จแน่นอน โดยไม่ต้องเสียข้าวของต้าเซี่ยแม้แต่เม็ดเดียวพ่ะย่ะค่ะ”

หยางฝานไม่อ้อมค้อม และยิ่งไม่อยากเปิดโปงความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในใจของฮ่องเต้และขุนนางผู้นั้น จึงกล่าวปฏิญาณตนในทันที

“ดี!”

เซี่ยหลงยวนปลื้มปิติยินดีอย่างยิ่ง “นี่แหละถึงเป็นหยางฝาน ซื่อจื่อที่ดีของข้า! เมื่อครู่เจ้าบอกว่ามีสามเรื่อง? ไม่ทราบว่าเรื่องอันใดบ้าง? หรือว่ายังอยากจะขอตำแหน่งเก้ามิ่งฮูหยินขั้นหนึ่งให้เด็กหญิงสกุลหลินคนนั้นอีก?”

ตอนนี้เซี่ยหลงยวนอารมณ์ดีมาก

เดิมทีเขายังคิดจะปล่อยให้หลิวเฟยหงเมินใส่หยางฝานสักหน่อย เพื่อกดดันให้เขายอมเสนอแผนการออกมา แต่ไม่คิดว่าวันนี้หยางฝานจะติดกับง่ายขนาดนี้ แถมยังอาสาขอรับภารกิจเอง ช่างแตกต่างจากคนเกียจคร้านในยามปกติอย่างกับคนละคน ซึ่งทำให้เขาประทับใจจริง ๆ

“ซื่อจื่อ หากท่านมาเพื่อตำแหน่งเก้ามิ่งขั้นหนึ่งจริง ก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนี้ เพียงท่านยอมสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง หลินอู่โหวก็จะได้เป็นฮูหยินขั้นหนึ่งโดยปริยาย!”

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็เย้าแหย่อย่างอารมณ์ดี

เห็นได้ชัดว่า หลิวเฟยหงก็รู้ดีว่าหยางฝานเคยชินกับความเกียจคร้าน จึงไม่น่าจะยอมสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋อง

แต่คาดไม่ถึงว่า เมื่อหยางฝานได้ยินดังนั้นกลับทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “ฝ่าบาท ท่านหลิวจงซูกล่าวถูกต้อง พ่ะย่ะค่ะ เรื่องแรกที่กระหม่อมมาวันนี้ ก็คืออยากจะขอให้ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้กระหม่อมสืบทอดตำแหน่งของบิดาผู้ล่วงลับ ดำรงตำแหน่งเยียนอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

เซี่ยหลงยวนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

หยางฝานเอ่ยขอสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องด้วยตัวเองงั้นรึ?

หรือว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก?

“หยางฝาน เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสืบทอดตำแหน่งเยียนอ๋องแล้ว ก็จะต้องเข้าประจำการในราชสำนัก เมื่อเจ้าให้กำเนิดทายาทสืบสกุล ก็จะต้องออกจากเมืองหลวงไปประจำการชายแดนเพื่อปกป้องอาณาจักรให้ข้าตลอดไป?”

เซี่ยหลงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

ต้าเซี่ยในยามนี้มีชินอ๋อง(อ๋องที่มาจากเชื้อพระวงศ์)และอ๋องต่างสกุลรวมกันเพียงห้าพระองค์เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย

เขาไม่เคยสงสัยในความสามารถของหยางฝาน

แต่หยางฝานจะยอมละทิ้งชีวิตที่แสนสบายในตอนนี้ เพื่อแผ่นดินจริง ๆ หรือ?

“กระหม่อมทราบดีพ่ะย่ะค่ะ”

หยางฝานตอบรับทันที โดยไม่ได้อธิบายอะไรมาก จากนั้นกล่าวว่า “เรื่องที่สองคือ กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทมีพระราชโองการยกเลิกงานเลี้ยงฉลองชัยชนะในอีกสามวันพ่ะย่ะค่ะ!”

“อะไรนะ?”

เซี่ยหลงยวนถึงกับมึนงงไปในทันที!

หยางฝานที่อยู่ตรงหน้าเขา คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกนะ?

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

มีเพียงหยางฝานเท่านั้นที่ยังคงหน้านิ่ง และกล่าวต่อว่า “เรื่องสุดท้าย กระหม่อมขอให้ฝ่าบาททรงอนุญาตให้กระหม่อมออกจากเมืองหลวงล่วงหน้า เพื่อเดินทางไปประจำการแนวชายแดน ปกป้องแผ่นดินพ่ะย่ะค่ะ!”

“นี่...”

เซี่ยหลงยวนฟื้นจากอาการตกใจ และนิ่งไปในทันที

ก่อนจะกล่าวช้า ๆ ว่า “หยางฝาน สองข้อแรกข้ารับปากเจ้าได้ แต่ข้อที่สามนี้ ข้ายังต้องพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน”

“กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ!”

หยางฝานกล่าวจบก็ประสานมือทูลลาทันที โดยไม่รีรอ

หลังจากหยางฝานจากไป เซี่ยหลงยวนก็เปลี่ยนสีหน้าทันที “หลิวอ้ายชิง หยางฝานคนนี้มีแผนการอะไรกันแน่? เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าวันนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย?”

“นี่...”

หลิวเฟยหงก็งุนงงไม่แพ้กัน

“พวกเจ้ากล้าขวางข้าหรือ? หลีกไป! เสด็จพี่! ข้าจะเข้าเฝ้าเสด็จพี่!”

ทว่าในขณะนั้นเอง ด้านนอกห้องทรงพระอักษรก็มีเสียงดังเอะอะโวยวาย

เซี่ยรั่วหลิน องค์หญิงใหญ่แห่งต้าเซี่ยบุกเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด

“ฝ่าบาท...” ขันทีหวังที่คลานตามเข้ามาปาดเหงื่อด้วยสองมือพลางขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“รั่วหลิน เจ้าช่างวุ่นวายยิ่งนัก! บุกรุกห้องทรงพระอักษร ยังมีความเป็นองค์หญิงอยู่หรือไม่?”

เซี่ยหลงยวนหรี่ดวงตาดุดัน มองน้องสาวที่เขาโปรดปรานมากที่สุดอย่างไม่พอใจ

“เสด็จพี่ ใครกันแน่ที่วุ่นวาย? เหตุใดต้าเซี่ยของเราชนะศึกแล้ว แต่กลับต้องให้ข้าไปแต่งงานต่างแดน? ต่อให้ข้าต้องตาย ก็ไม่มีวันแต่งงานกับชนเผ่าป่าเถื่อน!”

เซี่ยรั่วหลินถลึงดวงตาสวยด้วยความโกรธ ไม่เกรงกลัวอำนาจของเซี่ยหลงยวนแม้แต่น้อย

เซี่ยหลงยวนได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

รู้ดีว่าข่าวเรื่องการเจรจาสันติได้รั่วไหลออกไปแล้ว

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสืบสาว จึงรีบฝืนยิ้มกล่าวปลอบใจว่า “รั่วหลิน เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? โม่เป่ย เรียกร้องอย่างหยาบคายถึงเพียงนี้ ข้าจะตกลงได้อย่างไร?”

หลิวเฟยหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบกล่าวว่า “องค์หญิงโปรดระงับโทสะ เมื่อครู่ฝ่าบาทเพิ่งจะทรงกริ้วหนักเรื่องข้อเรียกร้องที่ไร้มารยาทของโม่เป่ย และตอนนี้ได้มีพระบัญชาให้หยางฝาน ซื่อจื่อเยียนอ๋อง อาจารย์ของกระหม่อม ไปจัดการเรื่องการเจรจาสันติกับโม่เป่ยแล้ว จะไม่มีทางยอมให้องค์หญิงต้องอับอายและไปแต่งงานต่างแดนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

“อะไรนะ? หยางฝาน?”

ไม่คิดเลยว่า เมื่อเซี่ยรั่วหลินได้ยินชื่อหยางฝานแล้วจะโกรธขึ้นมาทันที “คุณชายเสเพลในเมืองหลวงที่ถูกหลินอู่โหวถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัลนอกจวนแม่ทัพวันนี้น่ะหรือ? ตัวเขาเองกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว ถูกคนใต้หล้าดูหมิ่นเหยียดหยาม เสด็จพี่กลับเลือกเขาไปเจรจาสันติอย่างนั้นหรือ? เขาสมควรแล้วหรือ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 32

    “ชิงเยว่ แม้ว่าหยางฝานผู้นี้จะไม่สามารถทำการใหญ่สำเร็จได้ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันกับชาวฉุน เรายังควรต้องใส่ใจให้มากขึ้น ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่ ซึ่งเป็นรองทูตเจรจาสันติ ตอนนี้ประทับอยู่ที่จวนเยียนอ๋อง เพื่อหารือเรื่องการเจรจาสันติกับหยางฝาน ชิงเยว่ เจ้าลองใช้โอกาสนี้ไปสืบดูว่าเขาเตรียมจะจัดการเรื่องการเจรจาสันติอย่างไรบ้าง”เหลียงเส้าเหวยกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจเขาไม่ต้องการเห็นหยางฝานประสบความสำเร็จในการเจรจาสันติจริง ๆในเมื่อเป็นเช่นนั้น การรู้แผนการของหยางฝานล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งทว่าเมื่อหลินชิงเยว่ได้ยินว่าต้องการให้นางไปหาหยางฝาน ในใจก็เกิดรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที“คุณชายเหลียงคิดมากไปแล้ว ข้ารู้จักหยางฝานผู้นี้ดีที่สุด เขาไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย เรื่องการเจรจาสันตินี้ เขาจะมีวิธีรับมือได้อย่างไรกัน!”หลินชิงเยว่กล่าวเสียงเย็นชาทว่าเหลียงเส้าเหวยกลับส่ายหน้า“ชิงเยว่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชาวฉุน เจ้าอย่าได้ต่อต้านเลย มีเพียงหาวิธีทำให้หยางฝานเจรจาสันติล้มเหลวเท่านั้น เราจึงจะสามารถช่วยชาวฉุนออกมาได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้น แม้จะจ่ายเงินไปแล้ว

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 31

    เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ที่ชัดเจนและมีเหตุผลของเซี่ยรั่วหลิน หยางฝานก็ปรบมือรัว ๆเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบาเลยนะ!และในขณะนั้นเอง ฉิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นอย่างเหมาะเจาะว่า “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าท่านอ๋องจะตั้งราคานมนี้เท่าใด แต่วิธีการถนอมนม ท่านอ๋องได้คิดไว้เรียบร้อยนานแล้วเพคะ!”เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็มองไปยังหยางฝานด้วยความประหลาดใจทันที“ท่านมีวิธีเก็บรักษานมไม่ให้เสียหรือ?”หยางฝานผงกศีรษะทว่าเซี่ยรั่วหลินกลับแสดงสีหน้าสงสัย“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีวิธีใดใต้หล้านี้ที่สามารถเก็บรักษานมสดไม่ให้เสียได้ ต่อให้เจ้าจะใช้ก้อนน้ำแข็งตลอดเวลาก็เก็บได้ไม่กี่วันแน่นอน”เซี่ยรั่วหลินจ้องหยางฝานอย่างสงสัยหยางฝานผงกศีรษะ“เป็นจริงอย่างที่องค์หญิงตรัส แม้นมนี้จะเก็บรักษาด้วยก้อนน้ำแข็งก็เก็บได้ไม่นาน!”เมื่อเห็นว่าแม้แต่เขาเองก็ยังพูดเช่นนี้ เซี่ยรั่วหลินก็หัวเราะออกมา“แล้วเจ้ายังกล้าพูดจาโอ้อวดว่ามีวิธีเก็บรักษาแล้วงั้นรึ?”หยางฝานหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าข้าจะใช้น้ำแข็งในการเก็บรักษานมนี่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นเขามีท่าทางมั่นใจเต็มร้อยขนาดนั้น เซี

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 30

    “เจ้าค่ะ!”ฉิงเอ๋อร์มองเซี่ยรั่วหลินด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปไม่นานนัก ฉิงเอ๋อร์ก็กลับมาพร้อมแก้วที่บรรจุของเหลวสีขาวขุ่นอึก!เซี่ยรั่วหลินมองของเหลวสีขาวขุ่นที่บรรจุในแก้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากตอนนั้นนางเห็นหยางฝานรีดนมด้วยตาตัวเองพอนึกถึงภาพนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เริ่มอยากจะถอนตัวกลางคัน“เชิญองค์หญิงชิมพ่ะย่ะค่ะ!”หยางฝานกล่าวพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่ได้ เสด็จย่าบอกว่าข้าต้องใช้ข้อเท็จจริงมาโต้แย้งไอ้หมอนี่ ถอยกลับตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”เมื่อคิดได้ดังนั้น เซี่ยรั่วหลินก็เผยสีหน้าเหมือนตายเป็นตายพร้อมยกแก้วนมขึ้นมาดื่มแต่พอนมโคมาจ่อที่ปาก เซี่ยรั่วหลินกลับไม่ยอมนำเข้าปากสักทีพอคิดว่านมนี้ถูกรีดมาจากโค ในใจของนางก็รู้สึกต่อต้านอย่างประหลาดใจ“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”หยางฝานเห็นสีหน้าตายเป็นตายของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะในใจทว่า ราวกับถูกคำกล่าวของเขายั่วโมโห เซี่ยรั่วหลินจึงส่งเสียงเย็นชาออกมาทันที“ก็แค่นมโคมิใช่รึ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าของสิ่งนี้ไร้ค่าสิ้นดี เจ้า

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 29

    เมื่อเห็นตั่วเหยียนเอ่ยพลางกำลังจะเผาจดหมาย กุนซือก็รีบกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิงจะคิดอย่างนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าจุดประสงค์ของการเดินทางของเราในครั้งนี้จะเพื่อขอเสบียงและเงินบรรณาการ แต่หากมีคนในราชสำนักต้าเซี่ยคอยช่วยเหลือ การบรรลุเป้าหมายนี้ก็จะง่ายขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”พอเขากล่าวเช่นนี้ ตั่วเหยียนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นจึงผงกศีรษะ“ท่านกุนซือกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นเราก็ร่วมมือกับเขาดูสักครั้งเถิด แต่ว่าตามที่ระบุไว้ในจดหมายนี้ ผู้ที่จะมาเจรจากับเรา เป็นถึงท่านอ๋องของต้าเซี่ยเลยหรือ?”ตั่วเหยียนมองดูชื่อหยางฝานที่เขียนอยู่ในจดหมาย แล้วถามด้วยความแคลงใจกุนซือได้ยินดังนั้นแล้วก็หัวเราะเยาะอย่างดูแคลน“หยางฝาน เยียนอ๋องผู้นี้ ข้าก็เคยสืบมาแล้ว คนผู้นี้มีสัญญาหมั้นกับหลินชิงเยว่ แม่ทัพเถาฮวา แต่คนผู้นี้กลับเป็นคนเหลวไหลที่ไม่มีทั้งเกียรติยศและพรสวรรค์ในการบัญชาการรบ ได้ยินมาว่าวัน ๆ เอาแต่คลุกคลีอยู่กับพวกพ่อค้า เป็นแค่ท่านอ๋องรุ่นที่สองที่ไม่ได้เรื่องเท่านั้น ฮ่องเต้ต้าเซี่ยก็คงจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ คิดว่าแค่ดันคนไม่เอาถ่านอย่างเยียนอ๋องขึ้นมา จะสามารถทำให้เราหวาดกลัวจนต้องถอยรนไปไ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 28

    “จดหมายธนู?!”ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นรีบลุกขึ้นยืนทันที“จับคนยิงได้หรือไม่!”กุนซือรีบถามกองกำลังคุ้มกันคณะเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เป็นถึงกองทัพรักษาพระองค์ของท่านข่าน ปล่อยให้มีคนลอบเข้ามาถึงข้างค่ายโดยไม่รู้ตัวเลยหรือ?“ขอองค์หญิงและท่านกุนซือโปรดอภัยด้วย พวกข้าจับคนผู้นั้นไม่ได้!”ทหารผู้กล้าส่ายหน้าขณะคุกเข่า“ฮึ! พวกไร้ประโยชน์!”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาทหารผู้กล้าที่คุกเข่าอยู่รีบก้มหน้าลงทันทีส่วนกุนซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกทหารผู้กล้าผู้นั้น“นำจดหมายธนูนั้นมา!”“ขอรับ!”กุนซือรับจดหมายธนูมา แต่ไม่ได้เปิดจดหมายออกในทันที กลับมองไปที่ลูกศรขนนกในมือแทน“ของสิ่งนี้มีอะไรน่าดูนักหนา ก็แค่คำยั่วยุจากพวกไร้ประโยชน์ของต้าเซี่ยเท่านั้นเอง มีคนแบบนี้ตลอดทาง ไม่น้อยไม่ใช่หรือ”องค์หญิงตั่วเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าดูแคลนต้าเซี่ยกับโม่เป่ยทำสงครามกันทุกปี คณะทูตอย่างพวกเขาเจอคนต้าเซี่ยที่โกรธแค้นไม่น้อยเลยระหว่างทางที่ผ่านมาทว่ากุนซือได้ยินดังนั้นแล้วกลับยิ้มพลางส่ายหน้า“องค์หญิง ข้าคิดว่าครั้งนี้อาจจะต่างออกไป”กล่าวจบ กุนซือก็แกะจดหมายออกเ

  • หลังจบความสัมพันธ์ ข้ากลายเป็นอ๋องต่างสกุลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์   บทที่ 27

    ทันทีที่ก้าวเข้าประตูมา เซี่ยรั่วหลินก็เห็นไทเฮากำลังสวดมนต์อยู่ทันทีที่เห็นไทเฮา น้ำตาแห่งความน้อยใจก็เอ่อล้นในดวงตาของเซี่ยรั่วหลิน“เสด็จย่า!”เซี่ยรั่วหลินร้องเสียงดังพร้อมกับโผเข้ากอดไทเฮา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจ“โธ่เอ้ย! ผู้ใดทำให้เด็กดื้อของเราไม่พอใจละเนี้ย ย่าจะไปสั่งสอนเขาเดี๋ยวนี้!”ไทเฮาลูบหลังเซี่ยรั่วหลินเบา ๆ พลางกล่าวด้วยความรู้สึกสงสารยิ่งเซี่ยรั่วหลินเปล่งเสียงฮึดฮัดเบา ๆ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังทันที“เสด็จย่า ท่านโปรดตัดสินว่านี่ใช่ความผิดของหยางฝานคนอวดดีคนนั้นหรือไม่ ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเขาแท้ ๆ เขาก็ยังไม่ฟังคำของข้าอีก ฮึ! โมโหจนจะตายอยู่แล้ว!”ไทเฮามองดูท่าทางโกรธขึ้งของเซี่ยรั่วหลินแล้วก็ไม่รู้จะตอบนางอย่างไรในทันทีเมื่อเทียบกับเซี่ยรั่วหลินที่ไม่รู้อะไรเลย ไทเฮากลับเข้าใจหยางฝานค่อนข้างมากหากหยางฝานไม่ได้แบ่งกำไรจากเครื่องประทินโฉมให้นางครึ่งหนึ่ง แม้นางจะเป็นไทเฮา ก็ไม่สามารถสร้างโบสถ์อันงดงามวิจิตรเช่นนี้ได้กระนั้น ในความคิดของไทเฮา หยางฝานเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอนและนางยังรู้ด้วยว่าเหตุใดฮ่องเต้ถึงต้องใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status