Share

บทที่ 3

"ไสหัวไป!"

เพียงคำคำเดียวก็ทำให้จางชุ่ยฮัวตกตะลึงไปด้วยความตกใจ

เธอไม่เคยคิดว่าลู่เฉินผู้ที่อ่อนโยนและปกติไม่เคยอารมณ์เสียเลยจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ตอนโกรธ

สายตาของเขาดูเหมือนว่าเขาจะกินคนสะอย่างนั้น

“มันฆ่าคน! ใครก็ได้ ช่วยด้วย!”

หลังจากจางชุ่ยฮัวรู้ตัว เธอก็เริ่มตะโกนด้วยเสียงดัง

ในไม่ช้า รปภ.กลุ่มหนึ่งของชิงเฉิงกรุ๊ปก็มา

“คุณจางครับ เกิดอะไรขึ้นนะครับ?”

เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าของรปภ.ในกลุ่มนั้นรู้จักจางชุ่ยฮัว และแสดงทัศนคติของเขาชัดเจนทันทีที่ปรากฏตัว

“เสี่ยวหลิว! จับคนนี้ไว้เดี๋ยวนี้ เขา..เขากล้าตบลูกชายของฉัน มันต้องชดใช้!” จางชุ่ยฮัวตะโกนด้วยความดุร้าย

“เฮ้ย! กล้ามาสร้างปัญหาหน้าประตูกรุ๊ปพวกเราเลยงั้นเหรอ? หรือว่าแกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว!”

หัวหน้าของรปภ.โบกมือ คนกลุ่มหนึ่งก็ล้อมรอบลู่เฉินอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเอาใจแม่ของประธาน

ถ้าทำงานได้ดี ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือน ได้แต่งงานกับสาวสวยที่ร่ำรวย และไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต

“ยังยืนโง่กันอยู่ทำไม ลงมือสิ!”

เมื่อหัวหน้ารปภ.กำลังจะลงมือ จู่ๆก็มีเสียงตะโกนแผ่วเบาดังขึ้น

“ไหน ใครหน้าไหนมันยังกล้าอีก!”

จากเสียงตะโกนนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดกี่เพ้าสีเงิน รูปร่างอวบอ้วนและใบหน้าสวยงามมากก็เดินเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ดไม่กี่คน

ริมฝีปากสีแดงของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ ทุกการแสดงออกของเธอต่างก็ดูมีเสน่ห์อย่างมาก

ราวกับนางฟ้าที่ล่อลวงวิญญาณ

"สวยจังเลย!"

รปภ.ทั้งกลุ่มมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น พวกเขาต่างก็รู้สึกร้อนรนในใจ

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคนนี้ช่างงดงามจริงๆ!

“คุณลู่ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ผู้หญิงคนนั้นเพิกเฉยต่อสายตารอบตัวที่จ้องเธออย่างเร่าร้อน แต่เธอกลับเดินตรงไปตรงหน้าของลู่เฉิน

“อืม? คุณเป็นใคร?”

ลู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ความดุร้ายในดวงตาของเขาก็เริ่มค่อยๆหายไป

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อฉาวซวนเฟย เป็นคนที่นายกสมาคมหวางแนะนำมา” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่คำพูดนี้พูดออกมา รปภ.กลุ่มหนึ่งก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที

“ฉาวซวนเฟยเหรอ? หรือว่าเป็นลูกสาวของตระกูลฉาวคนนั้นหรือ?”

“โอ้พระเจ้า! ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

ทุกคนมองหน้ากันและแอบตกใจ

ฉาวซวนเฟย ชื่อนี้เป็นที่คุ้ยเคยมากสำหรับพวกเขา

เธอไม่เพียงแต่หน้าตาดี ร่ำรวยและมีพื้นเพที่ดีเท่านั้น และเธอเองก็มีความสามารถอย่างมากด้วย

เมื่อเธออายุ 22 ปี เธอก็ประสบความสำเร็จและเข้าครอบครองตระกูลฉาวกรุ๊ปทั้งหมดแล้ว

และในเวลาเพียงห้าปี เธอได้สร้างอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ และกลายเป็นราชินีแห่งธุรกิจที่มีชื่อเสียงของเมืองเจียงหลิง!

“คุณนี่เอง”

ลู่เฉินพยักหน้า

ชื่อของฉาวซวนเฟย แน่นอนว่าเขาต้องเคยได้ยินอยู่แล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะมีคอนเนคชั่นกับหวางป่ายโซ่

“คุณลู่ คุณขึ้นรถไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไอ้แมลงพวกนี้ให้ฉันจัดการเอง”

ฉาวซวนเฟยดีดนิ้ว

บอดี้การ์ดทั้งสี่คนในชุดสูทที่อยู่ด้านหลังเธอต่างก็หยิบไม้ออกมาและเริ่มเข้าใกล้พวกรปภ.

แม้ว่าพวกเขามีเพียงสี่คน แต่ออร่าอันทรงพลังนั้นทำให้พวกรปภ.ถอยหลังไปด้วยความกลัว พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้เลยแม้แต่น้อย

เพราะพวกเขารู้ว่าบอดี้การ์ดของตระกูลฉาวล้วนเป็นผู้ยอดเยี่ยมที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี!

"คุณลู่ เชิญค่ะ"

เมื่อฉาวซวนเฟยเห็นว่าไม่มีใครกล้าขยับ เธอก็ยิ้มและยื่นมือออกไปเพื่อนำทาง

ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร หลังจากหยิบเศษจี้หยกทีละน้อยขึ้นมา เขาก็เดินตามฉาวซวนเฟยขึ้นรถแล้วจากไป

ตลอดทาง ไม่มีใครกล้าหยุดเขาเลย

“เฮ้! พวกแกทำอะไรอยู่? ปล่อยพวกมันไปอย่างนี้หรอ!”

หลังจากจางชุ่ยฮัวรู้ตัว เธอก็ด่าออกมาทันที

“คุณจางครับ คนเหล่านั้นเป็นคนของตระกูลฉาวเชียวนะครับ พวกเราไม่สามารถไปต่อกลอนอะไรได้แม้แต่นิดเดียวครับ!” หัวหน้ารปภ.พูดด้วยหน้าที่ขมขื่น

ฉาวซวนเฟยเป็นใครล่ะ? แม้ว่าพวกเขาจะมีความกล้านับร้อยเท่า พวกเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม

“ไอ้พวกขยะ! พวกแกไม่กล้าล่วงเกินตระกูลฉาว แสดงว่าพวกแกกล้าล่วงเกินลูกสาวฉันงั้นหรอ!” จางชุ่ยฮัวพูดอย่างดุเดือด

รปภ.มองหน้ากัน แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร

"เกิดอะไรขึ้น?"

ในขณะนี้ หลี่ชิงเหยาและเลขาจางที่ได้ยินเสียงจึงเดินออกมาจากประตู

“ลูก! ลูกมาสักที! ดูสิ ดูว่าน้องชายลูกถูกตีจนเป็นถึงขั้นไหนแล้ว”

เมื่อจางชุ่ยฮัวเห็นหลี่ชิงเหยาเธอก็เริ่มร้องไห้ทันที

ท่าทางของเธอนั้น คนไม่รู้คงคิดว่าเธอต่างหากที่เป็นคนที่ถูกตี

“เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร? ใครเป็นคนทำ!”

เมื่อหลี่ชิงเหยามองไปที่หลี่ห้าวที่หน้าบวมตุ่ย ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เย็นชาลงทันที

“จะเป็นใครได้อีกล่ะ? ก็ไอ้คนอกตัญญูลู่เฉินนั้นไง!”

จางชุ่ยฮัวเริ่มพูดเติมแต่งเกินจริงว่า "เมื่อกี้ เราพบกันโดยบังเอิญที่ประตู เห็นว่าจี้หยกของเขาตกหล่นอยู่ น้องชายของลูกก็กะว่าจะหยิบมันขึ้นมาแล้วคืนให้เขา

แต่ไม่คิดว่าหลังจากที่ลู่เฉินเห็นแล้ว เขากลับหาว่าน้องชายลูกขโมยของของเขา และหลังจากทะเลาะกันไม่กี่คำ เขาก็ตบตีน้องชายลูกอย่างรุนแรง!

ลูกฉันที่น่าสงสาร ประสงค์ดีแท้ๆแต่ถูกกลับมองเป็นร้าย และถูกเขาตีจนเป็นแบบนี้ เวรกรรมจริงๆ! "

ขณะที่เธอพูด เธอก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง

“ลู่เฉิน?”

หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้ว "เขาเป็นคนนิสัยดีมาตลอด ทำไมอยู่ดีๆเขาถึงลงไม้ลงมือได้ล่ะ? พวกคุณยั่วยุอะไรเขาหรือเปล่า?"

“ลูกพูดงี้ ลูกหมายความว่ายังไง? หรือว่าลูกไม่เชื่อแม่ แต่กลับไปเชื่อไอ้คนอกตัญญูนั้นงั้นหรอ?!” จางชุ่ยฮัวดูเศร้าและโกรธ

“ฉันแค่อยากจะรู้เรื่องอย่างชัดเจน” หลี่ชิงเหยากล่าว

พวกเขาแต่งงานมาสามปี นิสัยของลู่เฉิน เธอรู้จักเป็นอย่างดี

อีกฝ่ายเป็นคนที่สุขุมและใจกว้างอยู่เสมอ เขาไม่เคยโกรธอะไรง่ายๆ

พูดตามเหตุผล เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะลงไม้ลงมือเพียงเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้

“ยังไม่ชัดเจนพอหรือที่น้องชายลูกถูกตีขนาดนี้แล้ว? ถ้าลูกยังไม่เชื่ออีก งั้นลูกก็ลองถามรปภ.พวกนี้สิ เมื่อกี้พวกเขาก็เห็นอย่างชัดเจน!”

ขณะที่จางชุ่ยฮัวกล่าว เธอได้หันหน้ากลับไปเพื่อขยิบตาให้

“คุณหลี่! แม่ของคุณไม่ได้พูดผิดเลยครับ ไอ้คนนั้นมันบ้า ถ้าเรามาไม่ทัน แม่ของคุณคงโดนไปด้วยแล้ว!” หัวหน้ารปภ.เข้าใจโดยทันที

“ฟังเข้าสิ! แม่ไม่ได้ใส่ความไอ้คนอกตัญญูนั้นนะ”

จางชุ่ยฮัวกล่าวต่อว่า "แม่เคยบอกลูกตั้งนานแล้วว่าไอ้ลู่เฉินมันไม่ใช่คนดีอะไร เขาเป็นคนสองหน้า นี่ไง เพิ่งจะหย่าร้าง เขาก็ได้เปิดเผยนิสัยที่แท้จริงของเขาออกมาเลย! เขาไม่เพียงแต่ตีน้องชายลูกเท่านั้นนะ เขายังมีเมียน้อยอยู่ข้างนอกด้วย! ผู้ชายแบบนี้ร้ายสะจริงๆ! "

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลี่ชิงเหยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เห็นได้ชัดว่าเธอคล้อยตามเล็กน้อย

หรือว่าเป็นความผิดของลู่เฉินจริงๆงั้นเหรอ?

เพราะพวกเขาเพิ่งหย่าร้าง เขารู้สึกโกรธมากจึงมาแก้แค้น?

ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นเธอมองคนผิดไปแล้วจริงๆ!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status