หลูเฟิงในเวลานี้อยากบีบคอเขาให้ตายนักยังต้องปกป้องเขาอีกหรือ?ถ้าไอ้แก่นี่ไม่ก่อเรื่อง เรื่องในคืนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!“บัดซบเอ๊ย!”หลังจากหลูเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งทันที “ทุกคน! คุ้มกันเจิ้นกั๋วกงเดี๋ยวนี้!”คนที่ฮ่องเต้ส่งมารีบคุ้มกันเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกที่หนีออกมาจากกระโจมที่ถูกผ่าออกไว้ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองจูเยวี่ยที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวังจูเยวี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ สายตาอันเย็นชาจับจ้องเพียงเวินเฉวียนเซิ่งที่ถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางเมื่อบีบคนออกมาได้แล้ว หลานซื่อก็ไม่ปล่อยให้จูเยวี่ยลงมือต่ออีกนางเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว เสี่ยวหานอยู่ที่ไหน?”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยวหานอะไรกัน ข้าไม่…”“ท่านควรบอกว่าท่านรู้ และรับรองด้วยว่าตอนนี้นางปลอดภัยดี”หลานซื่อขัดคำพูดเวินเฉวียนเซิ่งที่ต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันทีอย่างไม่เกรงใจ สายตาของนางแสดงเจตนาฆ่าชัดเจน “ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำให้พวกท่านทุกคนตายอยู่ที่นี่แน่”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันนิ่งเฉย เขาจ้องมองหลานซื่อด้วยสายตาอันมืดมนผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “
กว่าสิบศพถาโถมเข้าใส่กระโจม พร้อมกับระเบิดออกจู๋เยวี่ยและคนอื่น ๆ ยับยั้งไม่ทัน ถูกแรงระเบิดพัดกระเด็นออกไปแต่หลังจากร่วงลงสู่พื้น พวกเขามองดูบาดแผลบนร่างกายของตนเอง ก็พบว่าแรงระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิดไว้“นายน้อย!”จู๋เยวี่ยรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ถูกระเบิดทันทีแต่ในไม่ช้า นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนางเห็นหลานซื่อที่กำลังยืนอยู่กลางกระโจม และดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจู๋เยวี่ยคาดเดาได้ทันทีว่า เมื่อครู่นายหญิงของนางคงจะหลบเข้าไปในมิติปริศนานั่นดีมาก นายหญิงฉลาดจริง ๆไม่ได้รับบาดเจ็บคือความโชคดีอย่างยิ่งจู๋เยวี่ยรีบเข้าไปคุ้มกันนางไว้ข้างกาย ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”หลานซื่อผงกศีรษะเล็กน้อย ปลอบจู๋เยวี่ยและเกาหยางพลางเอ่ยว่า “ดินปืนในร่างของศพหุ่นเชิดพวกนั้นมีไม่มากนัก จุดประสงค์แท้จริงของพวกมันไม่ใช่เพื่อสังหารข้า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จู๋เยวี่ยและเกาหยางก็กลับมามีท่าทีระแวดระวังอีกครั้งไม่ใช่เพื่อสังหารคนในกระโจมหรือ?ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของเวินเฉวียนเซิ่งคืออะไร?เพื่อเบี่ยงเบนความส
เข้าสู่ราตรีกลางป่าพงไพรหลานซื่อนอนสงบเงียบอยู่ในกระโจมนางหลับตาทั้งสอง มีผ้าสักหลาดคลุมกาย หายใจสม่ำเสมอ ดูเหมือนหลับสนิทลงแล้วแต่ยามนี้สติของนางกลับตื่นตัวอย่างยิ่งนางกำลังใช้มุมมองของอวิ่นซิง มองไปรอบ ๆ จากบนหลังคากระโจมที่นางอยู่ภายนอกกระโจม ผืนป่าเงียบสงบยิ่งนักไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่เสียงแมลงในส่วนลึกของป่าก็ค่อย ๆ หายไปความรู้สึกมืดมนและแปลกประหลาดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นความรู้สึกที่หลานซื่อมองผืนป่าผ่านมุมมองของอวิ่นซิงเป็นเช่นนี้เองนางกำลังคิดว่า หากคืนนี้เวินเฉวียนเซิ่งจะลงมือ เขาจะทำอย่างไร?จะเป็นหลวงจีนเฒ่าลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่เมื่อหลานซื่อนึกถึงตรงนี้ ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนางยังไม่เคยประลองกับอีกฝ่ายอย่างจริงจังครั้งก่อนที่จวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะถือว่าได้ประมือกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่เผยไพ่ตายอย่างหมดเปลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ฝูงแมลงพิษของหลานซื่อได้ผ่านการยกระดับอย่างทรงพลังในช่วงเวลานี้ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนางอยากรู้จริง ๆ ว่า ครั้งนี้ไม้เท้าวิเศษของหลวงจีนเฒ่าผู้นั้นยังสามารถปราบฝูงแมลงพิษของนางได้หรือไม่น่
ทันทีที่หลานซื่อพูดจบ สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็มืดมนลงอย่างหนักในทันใดเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นไม่มีทางยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้ได้เลย“หลานซื่อ ข้าคิดว่าท่าทีของข้าดีพอแล้ว”“อย่างนั้นหรือ?”หลานซื่อเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย”ไม่ว่าท่าทีของท่านจะดีหรือไม่ นางไม่อยากให้ก็คือไม่อยากให้เวินเฉวียนเซิ่งเห็นหลานซื่อไม่ยอมอ่อนข้อเลย ก็รู้ว่าการแลกเปลี่ยนนี้ไร้ความหวังในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงใช้วิธีอื่นแล้วไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องดอกบัวกระดูกมังกรเด็ดขาดหลังจากกลับมาที่คณะของตนเองเขาก็ให้หมอที่พามาจากตลาดการค้าชายแดนตรวจขาหมาป่าไม้ที่สวมอยู่บนขาของเขาในช่วงเวลาตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนสิ่งประหลาด สิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขาได้รับก็คือขาหมาป่าไม้นี้และด้วยขาหมาป่าไม้นี้ เขาจึงกลับมายืนได้อีกครั้งคู่หนึ่งปกติรองรับได้ราวสิบวัน แต่เพราะต้องเร่งเดินทางด้วยม้า ตอนนี้ขาคู่นี้แทบจะใช้การไม่ได้แล้วแม้ว่าจะยังไม่พังเสียทีเดียว แต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับโยนมันทิ้งไปหน้าตาเฉย ทั้งที่มันมีราคาถึงสองพันตำลึงจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งก็ใ
จากนั้นเขาก็หันไปมองหลานซื่อ สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายที่แผ่รอบกายจะผิดแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดหลานซื่อย่อมสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกันแต่นางเพียงชำเลืองมองเวินเฉวียนเซิ่งที่หลายวันมานี้ ดูเหมือนจะเดินเหินและเคลื่อนไหวได้เหมือนคนปกติแล้วอย่างเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับ“ท่านยายชอบก็ดีแล้ว ขอเพียงสมุนไพรนี้ทำให้ท่านยายมีความสุขขึ้นได้บ้าง มันก็คุ้มค่าแล้ว”ใครเล่าจะไม่ชอบเด็กที่ปากหวานและจิตใจดีแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำพลันยิ้มอย่างมีความสุขเหลือเกิน ก่อนจะดันพิษประหลาดนั้นกลับไป “พอแล้ว มีดอกบัวกระดูกมังกรต้นนั้นก็พอแล้ว ของสิ่งนี้เจ้าศึกษาวิจัยเอง เช่นนั้นก็เก็บไว้ให้ดี ไม่ต้องยกให้ยายแล้ว”หลานซื่อกำลังจะพูดอะไรต่อ แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำก็ให้นางนำภาพวาดมา“ก็อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ยายจะวาดแผนที่เส้นทางไปสถานที่แห่งนั้นให้พวกเจ้า แต่ยายขอเตือนพวกเจ้าไว้สักคำว่า ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งเข้าใกล้อันตรายก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้หนุ่มเจ้าต้องระวังให้ดี”“ขอบคุณท่านยายที่เตือน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”ครึ่งชั่วยามต่อมา หลานซื่อกับพวกก็ได้แผนที่
“ต้นฉบับหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงอยู่ในมือข้า หากซากปรักหักพังของหมู่บ้านเซียนที่ว่านั้นเป็นของจริง เจ้าก็จำเป็นต้องร่วมมือกับข้า”เวินเฉวียนเซิ่งพูดมาเช่นนี้ใบหน้าของหลานซื่อกลับปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นแวบหนึ่ง “ข้าก็สามารถสังหารท่านตอนนี้ แล้วเอาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงไปก็ได้”เวินเฉวียนเซิ่งส่ายศีรษะ “เจ้าทำได้อยู่แล้ว แต่แน่ใจหรือว่าต้องการแตกหักกับข้าตอนนี้?”เขามองคนที่อยู่ด้านหลังหลานซื่อ “คนของเจ้าอีกครึ่งหนึ่งไม่อยู่ การที่พวกเขาหายไปนั้นเป็นภัยคุกคามต่อข้าได้จริง ๆ แต่ข้าก็ไม่เคยไร้แผนสำรอง”เมื่อได้ยินการข่มขู่ในน้ำเสียงของเขา สายตาของหลานซื่อก็ยิ่งเย็นชาขึ้น “จริงหรือ? เช่นนั้นท่านก็ลองดู ว่าคนของข้าอีกครึ่งหนึ่งอยู่แถวนี้จริงหรือเปล่า”บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนบรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงในทันใดจนกระทั่งครู่หนึ่งต่อมา...เห็นหลานซื่อเหมือนจะมีเจตนาฆ่าปะทุขึ้นมาจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้ง “เอาละ ข้าจะไม่ถือสาเจ้า”เขาพลิกฝ่ามือหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา “สมุนไพรหายากกับพิษประหลาดไม่มี แต่มีข