แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“ไม่ได้นะ!”

“ไม่มีทาง!”

แค่คำสาบานเดียวเท่านั้น เดิมที่นึกว่าชุยเส้าเจ๋อน่าจะรับปากได้ แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าชุยเส้าเจ๋อจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนั้น

สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ คนที่มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นเดียวกันยังมีอีกคน

“น้องหก?”

พวกเวินฉางอวิ้นมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยความประหลาดใจ

เวินเยวี่ยมีสีหน้าแข็งทื่อ

เมื่อตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นี้นางยั้งสติไม่อยู่มากเกินไป นางจึงรีบเก็บงำอารมณ์ ฝืนยิ้มมุมปากพลางเอ่ยว่า “ไม่ใช่นะ...คือว่า ข้า...ข้าแค่รู้สึกว่าเงื่อนไขที่พี่หญิงเสนอออกมานี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมมากนัก หะ...หากต่อไปพี่เส้าเจ๋อเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเล่า? ดังนั้น พี่หญิงเหลือทางถอยให้ตนเองหน่อยไม่ดีกว่าหรือ?”

เวินฉางอวิ้นผู้เป็นพี่ใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางดูแปลกพิกลนิด ๆ

เวินจื่อเยวี่ยผู้เป็นพี่สามไม่มีปฏิกิริยาอะไร

เวินอวี้จือผู้เป็นพี่สี่กลับมองเวินเยวี่ยและมองชุยเส้าเจ๋ออย่างใคร่ครวญ

เทียบกับพวกเขาแล้ว เวินจื่อเฉินผู้เป็นพี่รองเชื่อในตัวเวินเยวี่ยโดยสิ้นเชิงว่ามีจิตใจบริสุทธิ์ เขาจึงไม่ได้คิดมากมายเช่นนั้น

“พอได้แล้วน้องหก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงเวินซื่อ แต่ข้ากลับคิดว่าคำพูดของนางไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”

เขาแค่นเสียงเย็น เหลือบมองชุยเส้าเจ๋ออย่างดูแคลน “ในเมื่อเจ้ารังเกียจบุตรสาวสกุลเวินของพวกเราถึงเพียงนั้นก็ตัดขาดให้สิ้นเรื่องไปเลย สาบานไปตรง ๆ ต่อหน้าท่านพ่อของข้า ต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายในวันนี้ ต่อไปต่อให้เวินซื่ออยากตามตื๊อเจ้า สกุลเวินของพวกเราก็จะไม่อนุญาตเป็นอันขาด”

“พี่รอง...”

เวินเยวี่ยร้อนใจแล้ว แต่ชุยเส้าเจ๋อกลับร้อนใจยิ่งกว่านาง

“ไม่ได้ ข้าไม่กล่าวคำสาบานนี้!”

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตาใส่เวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เขาคิดว่าเวินซื่อจะต้องดูออกแล้วว่าเขามีใจให้น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดังนั้นถึงจงใจเสนอเงื่อนไขชั่วช้าเช่นนี้ออกมาเพื่อขัดขวางเขากับน้องเยวี่ยเอ๋อร์!

เหอะ

ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้สตรีชั่วช้าผู้นี้ทำสำเร็จหรอก!

ชุยเส้าเจ๋อคิดถึงตรงนี้ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลันพรั่งพรูขึ้นมาในใจ

เขาประสานมืออีกครั้งแล้วเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า “ท่านลุง นอกจากการเรื่องถอนหมั้นเรื่องแรกนี้แล้ว หลายยังมีคำขออีกอย่าง หวังว่าท่านลุงจะช่วยทำให้สมหวังได้”

“คำขอของเจ้าช่างเยอะเหลือเกิน”

เวลานี้เวินเฉวียนเซิ่งมองออกถึงเงื่อนงำจากในปฏิกิริยาตอบสนองของเขากับเวินเยวี่ยแล้ว

เขาหรี่ตาสองข้าง นิ้วมือเคาะโต๊ะ ไม่เอ่ยวาจาอะไร

เวินหย่าลี่เห็นก็รู้ว่าพี่ชายของนางโกรธเกรี้ยวแล้ว

นางแทบอยากจะรีบดึงชุยเส้าเจ๋อลงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้ความคิดของชุยเส้าเจ๋อมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้น ไฉนเลยจะยอมฟังคำเกลี้ยกล่อมของมารดาเขา?

เขาสลัดมือของมารดาเขาอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวคำพูดที่เหลือออกมาทั้งหมดในเฮือกเดียว “ขอร้องท่านลุง ชาตินี้ข้าอยากแต่งงานกับสตรีเพียงนางเดียว นั่นก็คือน้องเยวี่ยเอ๋อร์! ดังนั้นขอร้องท่านลุงโปรดยินยอมให้ข้าถอนหมั้นกับเวินซื่อ เพื่อให้ข้ากับเยวี่ยเอ๋อร์สมหวังด้วยขอรับ!”

เมื่อคำพูดนี้ของเขาออกมา พี่น้องสกุลเวินในงานพากันหน้าเปลี่ยนสี

“ชุยเส้าเจ๋อ เจ้ากล้า!”

เวินจื่อเฉินเดือดดาล

เวินฉางอวิ้นเอ่ยโน้มน้าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “น้องเส้าเจ๋อ บุตรีสกุลเวินของพวกเราไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เจ้ามาหยามเกียรติได้ตามใจชอบหรอกนะ!”

แม้กระทั่งเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือสองคนก็มีสายตาไม่พอใจเช่นกัน

ท่าทางหวั่นไหวและปกป้องคนใกล้ชิดของแต่ละคนดูดีกว่าเมื่อครู่นี้มากเลย

เวินซื่อหัวเราะหยัน

เวินจื่อเฉินที่อยู่ทางด้านข้างบังเอิญเห็นฉากนี้พอดีก็คิดไม่ถึงว่านางยังจะหัวเราะออกมาได้

“เจ้ายังหน้าไม่อายหัวเราะอีกหรือ?! ข้าขอถามเลยนะเวินซื่อ เจ้าเป็นบุตรีสกุลเวินของพวกเราแน่หรือ? ดูสิว่าคู่หมั้นของเจ้ารังแกเจ้าต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้จนกลายเป็นอันใดไปแล้ว? เจ้าควบคุมเขาให้ดี ๆ ไม่ได้หรือ?”

“ข้าไม่กล้าควบคุมหรอก พี่รองไม่ได้ยินคำพูดของเขาหรือ? สตรีที่คู่หมั้นของข้าอยากแต่งงานด้วยในชาตินี้มีเพียงน้องสาวแสนดีของข้าเท่านั้น ว่าไปแล้วช่างรักมั่นเสียจริง เจ้าว่าใช่หรือไม่ น้องหก?”

เวินซื่อกล่าวพลางยิ้มจนดวงตาโค้ง สีหน้าของนางคล้ายกับไม่แยแสเลยสักนิดเดียว ถึงขนาดที่ยังทีท่าทางทอดถอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าไปในหูของคนอื่น ก็มีคนค่อย ๆ เข้าใจความนัย

ในบรรดาแขกที่มาวันนี้ มีหลายคนเป็นฮูหยินขุนนางที่คุ้นชินกับการแก่งแย่งชิงดีและวางอุบายชั่วร้ายกันในเรือนหลัง

เรื่องน้องสาวล่อลวงคู่หมั้นพี่สาวอะไรเช่นนี้พบเห็นได้ไม่น้อยในเมืองหลวงนี้

หากเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์จริง ๆ ควรรู้จักรักษาระยะห่างที่ควรมีกับคู่หมั้นของพี่สาวบ้างถึงจะถูก

แต่เมื่อครู่นี้ทุกคนล้วนมองเห็นชัดเจนว่าตอนที่เวินซื่อยังไม่มาที่เรือนหน้า เวินเยวี่ยกับชุยเส้าเจ๋อก็พูดคุยหัวเราะกันตลอด ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดตามจิตใต้สำนึกว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์สนิทสนมระหว่างลูกพี่ลูกน้องเท่านั้นเอง

ทว่าตอนนี้มีเหตุการณ์ที่ชุยเส้าเจ๋อก่อขึ้นมาเช่นนั้น แล้วนึกโยงถึงคำพูดของเวินซื่ออีกที ชั่วขณะหนึ่งผู้คนไม่น้อยมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยสายตาที่มีนัยแอบแฝงลึกซึ้ง

เวินเยวี่ยที่สัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็แทบจะกัดฟันหัก

สมควรตาย!

เหตุใดนางแพศยาผู้นี้ถึงฉลาดขึ้นมาแล้ว?

ก่อนหน้าโง่เง่าเหมือนหมู ถูกนางเล่นอยู่ในมือมาโดยตลอด

แต่วันนี้นางแพศยาผู้นี้รับมือไม่ง่ายเลยอย่างเห็นได้ชัด

หรือว่ามีผู้สูงส่งอะไรคอยชี้แนะอยู่ข้างหลัง?

เวินเยวี่ยเม้มปากเล็กน้อย

ต่อให้เป็นเช่นนี้ คนโง่ก็เป็นคนโง่

ขอเพียงบิดากับพวกพี่ชายยืนอยู่ฝั่งนาง เวินซื่อผู้นั้นก็ไม่มีวันมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาได้เด็ดขาด!

ชาติที่แล้วข้าช่างโง่งมเหลือเกิน

เวินซื่อที่สัมผัสได้เช่นเดียวกันว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็ด่าทอตนเองในใจด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ

ชาติก่อนนางถูกชุยเส้าเจ๋อถอนหมั้นต่อหน้าผู้คน เวลานั้นนางสะเทือนใจมากเกินไปจนไม่อาจยอมรับได้ นางจึงขอร้องอย่างขมขื่นต่อหน้าแขกเหรื่อทุกคนเพื่อที่จะชนะใจชุยเส้าเจ๋อกลับมา แต่สิ่งที่ได้รับมาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความดูแคลนของชุยเส้าเจ๋อ

เขากล่าวว่า “ข้าชุยเส้าเจ๋อเป็นคนที่เปิดเผยโปร่งใส สิ่งที่รังเกียจที่สุดก็คือลูกไม้สกปรกพวกนั้น เวินซื่อเจ้าฝ่าฝืนข้อห้ามของข้า ไม่คู่ควรเป็นภรรยาของข้านานแล้ว”

หลังจากนั้นมา นางก็กลายเป็นที่ขบขันของทั้งเมืองหลวงในชั่วข้ามคืนเพราะคำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อ

เวลานี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่ เวินซื่อได้เลือกหนทางใหม่แล้ว

หลังจากที่ไม่ยึดติดกับสิ่งของที่ไม่ใช่ของนางแล้ว ที่แท้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเรียบง่ายมากนัก

“เวินซื่อ เจ้าพอได้แล้ว!”

ชุยเส้าเจ๋อทำหน้าทะมึน “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องเยวี่ยเอ๋อร์ ข้าอยากถอนหมั้นกับเจ้า เจ้ามีคำพูดอะไรก็พูดกับข้าสิ! แต่ถ้าเจ้าอยากให้ข้าเปลี่ยนความคิด เช่นนั้นข้าขอบอกเจ้าว่า...”

เขาใช้น้ำเสียงรังเกียจที่สุดเอ่ยออกมาทีละคำ “เจ้า อย่า หวัง!”

“เพียะ!”

เสียงตบหน้าดังลั่นไปทั่วทั้งงาน

ทุกคนมองเวินซื่อที่อยู่บนปะรำพิธีอย่างตกตะลึง แม้แต่พวกเวินฉางอวิ้นที่เป็นพี่ชายก็ไม่อยากจะเชื่อภาพเบื้องหน้าอยู่บ้าง

ใคร ๆ ก็รู้ว่าเวินซื่อชอบชุยเส้าเจ๋อมาก

นางตามก้นชุยเส้าเจ๋าต้อย ๆ มาตั้งแต่เด็ก ใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากโตขึ้นไว ๆ เพื่อจะได้แต่งงานกับพี่เส้าเจ๋อของนาง

แต่ตอนนี้เวินซื่อกลับตบชุบเส้าเจ๋อ?

“เวินซื่อ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ามีสิทธิอะไรมาตบบุตรชายของข้า!”

เวินหย่าลี่เป็นคนแรกที่ได้สติกลับมา ร้องเสียงดังด้วยอารมณ์รุนแรง ก่อนจะยกมือขึ้นฟาดไปที่หน้าของเวินซื่อ

แต่วินาทีถัดมาก็ถูกเวินซื่อจับข้อมือไว้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Chanamon Chanudon
มีไหวพริบในการช่วยตนเอง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 754

    เวินซื่อ “?”เมื่อเห็นภาพนี้เวินซื่อก็ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะไม่ใช่ อ๋องชางชาวต่างถิ่นผู้สง่างาม เมื่อครู่ยังตะโกนให้จับตัวนาง ต้องการจะฆ่านางอยู่เลย ตอนนี้หนีไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ?เวินซื่อมีหรือจะปล่อยเขาไปแบบนี้ นางตะโกนเรียกเสียงดัง “จู๋เยวี่ย!”หลังจากจู๋เยวี่ยดึงแส้ออกจากเอวก็สะบัดลงข้างล่างทีหนึ่ง หลังจากพันรอบเอวของเวิ่นซื่อแล้ว ก็ดึงเวินซื่อขึ้นมานางกระโดดพรวดพราดออกมา ยกเวินซื่อขึ้นบนหลังเรียบร้อย จากนั้นก็กระโดดออกไปอีกครั้งในขณะเดียวกันเวินซื่อก็สั่งการหัวหน้ากองทัพธงดำและพวกที่อยู่ด้านล่าง “พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ คุ้มครองลุงหลินให้ดี”เมื่อนางพูดจบ ก็ออกไปจากหุบเขาพร้อมกับจู๋เยวี่ยกลางหุบเขา หัวหน้ากองทัพธงดำและพวกรีบกลับไปที่ข้างรถม้าเพื่อเฝ้ายาม ในขณะที่แมลงพิษที่รอดชีวิตบนพื้นดินเหล่านั้นก็เฝ้าดูพวกเขาไว้เช่นกัน ป้องกันศัตรูจากภายนอก......ทางด้านนี้หลังจากเวินซื่อกับจู๋เยวี่ยไล่ล่าออกมาจากหุบเขาแล้ว เวินซื่อก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาทั้งสองของนางสว่างไสวขึ้นเล็กน้อยในขณะเดียวกัน ชางชิงหลานและเยี่ยนจือที่วิ่งหนีอยู่ด้านหน้าได้เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 753

    ยังไม่ทันเริ่มต่อสู้ ก็รู้สึกว่าตัวเองชนะแน่นอนแล้ว“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”ชางชิงหลานยอมรับอย่างไม่ถ่อมตัวสักนิด“วิชากู่ของข้าไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าแม่นางจะใช้วิธีการใดปิดบังราชากู่ของข้าก็ตาม ถึงวันนี้ก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้แล้ว”“ถ้าเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ ข้าจะไม่มีทางแตะต้องเจ้าเด็ดขาด ว่าอย่างไรเล่า?”เมื่อเผชิญกับคำพูดหลอกล่อของชางชิงหลาน เวินซื่อก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเผยสายตาดูถูกออกมา...“ยังไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ แทนที่จะพูดมากไร้สาระ สู้ลงมือเสียเลยดีกว่า”เมื่อชางชิงหลานได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจทันที “เอาล่ะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมทำร้ายผู้หญิงก็แล้วกัน”ในขณะเดียวกัน แมลงทั้งสองฝั่งในหุบเขาก็เกิดอาการหงุดหงิดกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที เข้ามารวมตัวกันภายในพริบตาบนพื้นดินและกลางอากาศ ทั้งหมดกำลังเข่นฆ่ากันมันน่าทึ่งยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างผู้คนเมื่อครู่เสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่แน่นขนัดนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกขนหัวลุกอย่างช่วยไม่ได้ เห็นแล้วไม่สบายใจเป็นอย่างมากกระนั้นกองทัพธงดำและคนอื่น ๆ ยังคงเฝ้าอยู่ข้างกายเวินซื่อ ยังมีที่อยู่นอกรถม้าของหลินหงเหวินด้วย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 752

    “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากเกินไป”เวินซื่อพูดเพียงประโยคเดียวนี้กับเขาจากนั้นนางก็โบกมือหนึ่งครั้ง แมงมุมและมดทั้งหมดในหุบเขาก็พุ่งเข้าไปหาชางชิงหลานชางชิงหลานหัวเราะขึ้นมาทันใด “ข้ายอมรับว่าเจ้าน่าสนใจมากจริง ๆ แต่หากต้องการฆ่าข้าเช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้”เขาพูดพลาง พลิกมือล้วงแมลงสีเขียวเข้มตัวหนึ่งออกมาเขาประคองแมลงสีเขียวเข้มตัวนั้นไว้ในฝ่ามือ พลางเชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมกู่ก็ดี หรือการควบคุมแมลงก็ดี ข้าไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด”ทันทีที่สิ้นเสียง แมลงในมือของเขา และเป็นราชากู่ชีวิตของชางชิงหลานด้วย ก็ระเบิดเสียงแหลมเล็กออกมาทันทีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วหุบเขาเวินซื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สายตาจับจ้องไปที่ฝูงแมลงพิษของนาง ไม่นึกว่าแมลงในมือของชางชิงหลานตัวนั้นจะทรงพลังขนาดนี้ เหล่าแมลงพิษของนางทั้งหมดนางเลี้ยงดูด้วยเลือดและน้ำทิพย์ของตัวเอง ในทางทฤษฎีแล้วไม่สามารถรับผลกระทบใด ๆ จากผู้อื่นได้แต่แมลงกู่ของชางชิงหลานกลับสามารถส่งผลกระทบต่อเหล่าแมลงพิษของนางได้เช่นเดียวกับพลังที่น่าเกรงกลัวของราชาแมลงที่มี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 751

    แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว จู๋เยวี่ยที่อยู่บนรถม้าด้านหลังเวินซื่อย่อมไม่อาจดูอยู่เฉย ๆ ได้“เจ้าอีกแล้ว!”เยี่ยนจือจ้องมองจู๋เยวี่ยที่ขวางดาบคมของเขาไว้อีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว“ครั้งที่แล้วที่ข้าแพ้ให้กับเจ้าก็เพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่อย่างไม่ต้องสงสัย”จู๋เยวี่ยตอบเขาเพียงสี่คำ “พ่ายแพ้ราบคาบ”เยี่ยนจือโมโหขึ้นมาทันใด “รนหาที่ตายแล้ว!”ทั้งสองเริ่มเข่นฆ่ากันทันทีที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเยี่ยนจือ ยังมีนักฆ่าที่ชางชิงหลานพามาอีกหลายสิบคนพวกเขาเห็นเวินซื่อไม่มีใครอยู่รอบตัวนางในเวลานี้ ก็เข้ามาล้อมอย่างไม่ลังเลหน้าหลังมีคนทั้งนั้น ซ้ำยังตกเป็นรองด้านจำนวนคนมาก ดูเหมือนจะเข้าตาจนจริง ๆ ต่อให้มีปีกยากจะหนีพ้นแต่วินาทีต่อมา...“โอ๊ย!”“ตัวอะไรมากัดข้า?!”“นี่คืออะไร? มดมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน?!”“เจ็บมาก! มดพวกนี้กัดคนเจ็บมาก!”“รีบเหยียบพวกมันให้ตาย! เร็วเข้า!”“ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แล้ว! บ้าเอ๊ย ทำไมถึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”“โอ๊ย ๆ ๆ!”ในขณะที่ทุกคนกำลังเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด มดฝูงแล้วฝูงเล่าก็คลานออกมาจากทั้งสองฝั่งของหุบเขาอย่างรวดเร็วมดเหล่านั้นมีสีแดงปลอด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 750

    เวินซื่อและคนอื่นๆ หันกลับไปมอง ผู้ที่ล้อมมาจากทางด้านหลังคือเจ้าหน้าที่ทางการของอำเภอหลินเจียงส่วนหัวหน้ากลุ่มนั้น ถึงแม้เวินซื่อจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นตา เวินซื่อมองปราดเดียวก็คาดเดาได้ในทันทีว่า อีกฝ่ายต้องเป็นบิดาของหลี่อันซึ่งเป็นนายอำเภอผู้นั้นอย่างแน่นอน“ทางการได้รับแจ้งความ มาจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม หากรู้ความก็ยอมจำนนแต่โดยดี ผู้ใดกล้าขัดขืน ฆ่าทิ้งได้ทันที!”นายอำเภอหลี่ขี่อยู่บนหลังม้า มองลงมายังเวินซื่อและคนอื่นๆ อย่างโอหังแล้วตะโกนขึ้นทหารเกือบหนึ่งร้อยนายปิดล้อมอยู่ด้านหลัง ขวางเวินซื่อและคนอื่นๆ เอาไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเปิดทางหนีให้พวกเขาแม้แต่น้อยเวินซื่อหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย ส่งสายตาให้คนที่อยู่บนหลังคารถม้าข้างๆ ก่อน หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำก็เข้าใจในทันที“กองทัพธงดำปฏิบัติภารกิจ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบไสหัวไป!”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำตะโกนเสียงดังลั่น เสียงก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขาเมื่อได้ยินคำว่า “กองทัพธงดำ” สี่คำ เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นต่างกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที“อะไรนะ? กองทัพธงดำหรือ?”“เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 749

    การใช้รถม้าสองคันเพื่อสร้างความสับสนเช่นนี้ อาจทำให้คนเหล่านั้นไม่สามารถระบุตัวหลินหงเหวินได้ในทันที“แน่นอนว่านางก็รู้เช่นกันว่า ตนเองก็อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนเหล่านั้นด้วยก็เป็นได้แต่ตอนนี้คนสองกลุ่มนี้ อย่างน้อยทางฝั่งชางชิงหลานก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนางนางกลับค่อนข้างอยากรู้ว่า หลังจากที่ฝ่ายทางการรู้ฐานะที่แท้จริงของนางแล้ว จะยังกล้าลงมือต่อไปอีกหรือไม่หากลังเลไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็เป็นเพียงเรื่องความแค้นระหว่างนางกับคุณชายบุตรนายอำเภอผู้นั้นเท่านั้นหากรู้แล้วยังกล้าลงมือ เช่นนั้นเบื้องหลังของคนเหล่านี้ก็พอจะคาดเดาได้แล้วเวินซื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในรถม้า ท่องบทสวดมนต์เพื่อสงบจิตใจไปพลาง ครุ่นคิดเรื่องราวเหล่านี้อย่างเงียบๆ ไปพลางขณะที่รถม้าเดินทางอย่างราบรื่นมาได้ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เข้าสู่หุบเขาแห่งหนึ่ง เวินซื่อก็พลันลืมตาขึ้นวินาทีต่อมา ฝนธนูนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากฟากฟ้า“ซู่ๆ ซู่ๆ ...”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำและจู๋เยวี่ยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันแทบจะในทันที คนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถม้าของเวินซื่อ อีกคนกระโดดขึ้นไปบนรถม้าอีกคัน ต่างคนต่างลงมือ ปั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status