Share

บทที่ 9

Penulis: จิ้งซิง
“ไม่ได้นะ!”

“ไม่มีทาง!”

แค่คำสาบานเดียวเท่านั้น เดิมที่นึกว่าชุยเส้าเจ๋อน่าจะรับปากได้ แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าชุยเส้าเจ๋อจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนั้น

สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ คนที่มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นเดียวกันยังมีอีกคน

“น้องหก?”

พวกเวินฉางอวิ้นมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยความประหลาดใจ

เวินเยวี่ยมีสีหน้าแข็งทื่อ

เมื่อตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นี้นางยั้งสติไม่อยู่มากเกินไป นางจึงรีบเก็บงำอารมณ์ ฝืนยิ้มมุมปากพลางเอ่ยว่า “ไม่ใช่นะ...คือว่า ข้า...ข้าแค่รู้สึกว่าเงื่อนไขที่พี่หญิงเสนอออกมานี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมมากนัก หะ...หากต่อไปพี่เส้าเจ๋อเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเล่า? ดังนั้น พี่หญิงเหลือทางถอยให้ตนเองหน่อยไม่ดีกว่าหรือ?”

เวินฉางอวิ้นผู้เป็นพี่ใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางดูแปลกพิกลนิด ๆ

เวินจื่อเยวี่ยผู้เป็นพี่สามไม่มีปฏิกิริยาอะไร

เวินอวี้จือผู้เป็นพี่สี่กลับมองเวินเยวี่ยและมองชุยเส้าเจ๋ออย่างใคร่ครวญ

เทียบกับพวกเขาแล้ว เวินจื่อเฉินผู้เป็นพี่รองเชื่อในตัวเวินเยวี่ยโดยสิ้นเชิงว่ามีจิตใจบริสุทธิ์ เขาจึงไม่ได้คิดมากมายเช่นนั้น

“พอได้แล้วน้องหก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงเวินซื่อ แต่ข้ากลับคิดว่าคำพูดของนางไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”

เขาแค่นเสียงเย็น เหลือบมองชุยเส้าเจ๋ออย่างดูแคลน “ในเมื่อเจ้ารังเกียจบุตรสาวสกุลเวินของพวกเราถึงเพียงนั้นก็ตัดขาดให้สิ้นเรื่องไปเลย สาบานไปตรง ๆ ต่อหน้าท่านพ่อของข้า ต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายในวันนี้ ต่อไปต่อให้เวินซื่ออยากตามตื๊อเจ้า สกุลเวินของพวกเราก็จะไม่อนุญาตเป็นอันขาด”

“พี่รอง...”

เวินเยวี่ยร้อนใจแล้ว แต่ชุยเส้าเจ๋อกลับร้อนใจยิ่งกว่านาง

“ไม่ได้ ข้าไม่กล่าวคำสาบานนี้!”

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตาใส่เวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เขาคิดว่าเวินซื่อจะต้องดูออกแล้วว่าเขามีใจให้น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดังนั้นถึงจงใจเสนอเงื่อนไขชั่วช้าเช่นนี้ออกมาเพื่อขัดขวางเขากับน้องเยวี่ยเอ๋อร์!

เหอะ

ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้สตรีชั่วช้าผู้นี้ทำสำเร็จหรอก!

ชุยเส้าเจ๋อคิดถึงตรงนี้ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลันพรั่งพรูขึ้นมาในใจ

เขาประสานมืออีกครั้งแล้วเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า “ท่านลุง นอกจากการเรื่องถอนหมั้นเรื่องแรกนี้แล้ว หลายยังมีคำขออีกอย่าง หวังว่าท่านลุงจะช่วยทำให้สมหวังได้”

“คำขอของเจ้าช่างเยอะเหลือเกิน”

เวลานี้เวินเฉวียนเซิ่งมองออกถึงเงื่อนงำจากในปฏิกิริยาตอบสนองของเขากับเวินเยวี่ยแล้ว

เขาหรี่ตาสองข้าง นิ้วมือเคาะโต๊ะ ไม่เอ่ยวาจาอะไร

เวินหย่าลี่เห็นก็รู้ว่าพี่ชายของนางโกรธเกรี้ยวแล้ว

นางแทบอยากจะรีบดึงชุยเส้าเจ๋อลงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้ความคิดของชุยเส้าเจ๋อมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้น ไฉนเลยจะยอมฟังคำเกลี้ยกล่อมของมารดาเขา?

เขาสลัดมือของมารดาเขาอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวคำพูดที่เหลือออกมาทั้งหมดในเฮือกเดียว “ขอร้องท่านลุง ชาตินี้ข้าอยากแต่งงานกับสตรีเพียงนางเดียว นั่นก็คือน้องเยวี่ยเอ๋อร์! ดังนั้นขอร้องท่านลุงโปรดยินยอมให้ข้าถอนหมั้นกับเวินซื่อ เพื่อให้ข้ากับเยวี่ยเอ๋อร์สมหวังด้วยขอรับ!”

เมื่อคำพูดนี้ของเขาออกมา พี่น้องสกุลเวินในงานพากันหน้าเปลี่ยนสี

“ชุยเส้าเจ๋อ เจ้ากล้า!”

เวินจื่อเฉินเดือดดาล

เวินฉางอวิ้นเอ่ยโน้มน้าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “น้องเส้าเจ๋อ บุตรีสกุลเวินของพวกเราไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เจ้ามาหยามเกียรติได้ตามใจชอบหรอกนะ!”

แม้กระทั่งเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือสองคนก็มีสายตาไม่พอใจเช่นกัน

ท่าทางหวั่นไหวและปกป้องคนใกล้ชิดของแต่ละคนดูดีกว่าเมื่อครู่นี้มากเลย

เวินซื่อหัวเราะหยัน

เวินจื่อเฉินที่อยู่ทางด้านข้างบังเอิญเห็นฉากนี้พอดีก็คิดไม่ถึงว่านางยังจะหัวเราะออกมาได้

“เจ้ายังหน้าไม่อายหัวเราะอีกหรือ?! ข้าขอถามเลยนะเวินซื่อ เจ้าเป็นบุตรีสกุลเวินของพวกเราแน่หรือ? ดูสิว่าคู่หมั้นของเจ้ารังแกเจ้าต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้จนกลายเป็นอันใดไปแล้ว? เจ้าควบคุมเขาให้ดี ๆ ไม่ได้หรือ?”

“ข้าไม่กล้าควบคุมหรอก พี่รองไม่ได้ยินคำพูดของเขาหรือ? สตรีที่คู่หมั้นของข้าอยากแต่งงานด้วยในชาตินี้มีเพียงน้องสาวแสนดีของข้าเท่านั้น ว่าไปแล้วช่างรักมั่นเสียจริง เจ้าว่าใช่หรือไม่ น้องหก?”

เวินซื่อกล่าวพลางยิ้มจนดวงตาโค้ง สีหน้าของนางคล้ายกับไม่แยแสเลยสักนิดเดียว ถึงขนาดที่ยังทีท่าทางทอดถอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าไปในหูของคนอื่น ก็มีคนค่อย ๆ เข้าใจความนัย

ในบรรดาแขกที่มาวันนี้ มีหลายคนเป็นฮูหยินขุนนางที่คุ้นชินกับการแก่งแย่งชิงดีและวางอุบายชั่วร้ายกันในเรือนหลัง

เรื่องน้องสาวล่อลวงคู่หมั้นพี่สาวอะไรเช่นนี้พบเห็นได้ไม่น้อยในเมืองหลวงนี้

หากเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์จริง ๆ ควรรู้จักรักษาระยะห่างที่ควรมีกับคู่หมั้นของพี่สาวบ้างถึงจะถูก

แต่เมื่อครู่นี้ทุกคนล้วนมองเห็นชัดเจนว่าตอนที่เวินซื่อยังไม่มาที่เรือนหน้า เวินเยวี่ยกับชุยเส้าเจ๋อก็พูดคุยหัวเราะกันตลอด ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดตามจิตใต้สำนึกว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์สนิทสนมระหว่างลูกพี่ลูกน้องเท่านั้นเอง

ทว่าตอนนี้มีเหตุการณ์ที่ชุยเส้าเจ๋อก่อขึ้นมาเช่นนั้น แล้วนึกโยงถึงคำพูดของเวินซื่ออีกที ชั่วขณะหนึ่งผู้คนไม่น้อยมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยสายตาที่มีนัยแอบแฝงลึกซึ้ง

เวินเยวี่ยที่สัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็แทบจะกัดฟันหัก

สมควรตาย!

เหตุใดนางแพศยาผู้นี้ถึงฉลาดขึ้นมาแล้ว?

ก่อนหน้าโง่เง่าเหมือนหมู ถูกนางเล่นอยู่ในมือมาโดยตลอด

แต่วันนี้นางแพศยาผู้นี้รับมือไม่ง่ายเลยอย่างเห็นได้ชัด

หรือว่ามีผู้สูงส่งอะไรคอยชี้แนะอยู่ข้างหลัง?

เวินเยวี่ยเม้มปากเล็กน้อย

ต่อให้เป็นเช่นนี้ คนโง่ก็เป็นคนโง่

ขอเพียงบิดากับพวกพี่ชายยืนอยู่ฝั่งนาง เวินซื่อผู้นั้นก็ไม่มีวันมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาได้เด็ดขาด!

ชาติที่แล้วข้าช่างโง่งมเหลือเกิน

เวินซื่อที่สัมผัสได้เช่นเดียวกันว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็ด่าทอตนเองในใจด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ

ชาติก่อนนางถูกชุยเส้าเจ๋อถอนหมั้นต่อหน้าผู้คน เวลานั้นนางสะเทือนใจมากเกินไปจนไม่อาจยอมรับได้ นางจึงขอร้องอย่างขมขื่นต่อหน้าแขกเหรื่อทุกคนเพื่อที่จะชนะใจชุยเส้าเจ๋อกลับมา แต่สิ่งที่ได้รับมาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความดูแคลนของชุยเส้าเจ๋อ

เขากล่าวว่า “ข้าชุยเส้าเจ๋อเป็นคนที่เปิดเผยโปร่งใส สิ่งที่รังเกียจที่สุดก็คือลูกไม้สกปรกพวกนั้น เวินซื่อเจ้าฝ่าฝืนข้อห้ามของข้า ไม่คู่ควรเป็นภรรยาของข้านานแล้ว”

หลังจากนั้นมา นางก็กลายเป็นที่ขบขันของทั้งเมืองหลวงในชั่วข้ามคืนเพราะคำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อ

เวลานี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่ เวินซื่อได้เลือกหนทางใหม่แล้ว

หลังจากที่ไม่ยึดติดกับสิ่งของที่ไม่ใช่ของนางแล้ว ที่แท้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเรียบง่ายมากนัก

“เวินซื่อ เจ้าพอได้แล้ว!”

ชุยเส้าเจ๋อทำหน้าทะมึน “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องเยวี่ยเอ๋อร์ ข้าอยากถอนหมั้นกับเจ้า เจ้ามีคำพูดอะไรก็พูดกับข้าสิ! แต่ถ้าเจ้าอยากให้ข้าเปลี่ยนความคิด เช่นนั้นข้าขอบอกเจ้าว่า...”

เขาใช้น้ำเสียงรังเกียจที่สุดเอ่ยออกมาทีละคำ “เจ้า อย่า หวัง!”

“เพียะ!”

เสียงตบหน้าดังลั่นไปทั่วทั้งงาน

ทุกคนมองเวินซื่อที่อยู่บนปะรำพิธีอย่างตกตะลึง แม้แต่พวกเวินฉางอวิ้นที่เป็นพี่ชายก็ไม่อยากจะเชื่อภาพเบื้องหน้าอยู่บ้าง

ใคร ๆ ก็รู้ว่าเวินซื่อชอบชุยเส้าเจ๋อมาก

นางตามก้นชุยเส้าเจ๋าต้อย ๆ มาตั้งแต่เด็ก ใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากโตขึ้นไว ๆ เพื่อจะได้แต่งงานกับพี่เส้าเจ๋อของนาง

แต่ตอนนี้เวินซื่อกลับตบชุบเส้าเจ๋อ?

“เวินซื่อ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ามีสิทธิอะไรมาตบบุตรชายของข้า!”

เวินหย่าลี่เป็นคนแรกที่ได้สติกลับมา ร้องเสียงดังด้วยอารมณ์รุนแรง ก่อนจะยกมือขึ้นฟาดไปที่หน้าของเวินซื่อ

แต่วินาทีถัดมาก็ถูกเวินซื่อจับข้อมือไว้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Chanamon Chanudon
มีไหวพริบในการช่วยตนเอง
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 938

    “บ้าเอ๊ย นางกลับกล้าทำแบบนี้กับจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้!”หากเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ท่านโหวและเส้าเจ๋อของนาง จะกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นด้วย!เวินหย่าลี่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลานซื่อ รีบถามว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หากท่านล่าช้าไปอีกสิบวันถึงครึ่งเดือนไข่แมลงพวกนี้จะฟักออกมา ถึงตอนนั้นท่านโหวของเราจะหมดทางช่วยเหลือแล้วหรือเปล่า?”หลานซื่อลูบคางพูดว่า “ใช่ว่าจะหมดทางช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง แต่ถึงแม้จะรอดมาได้ ก็จะกลายเป็นคนไม่สมประกอบ ไม่โง่เขลาก็พิการ”“อย่างนั้นก็ไม่ได้การ! จำเป็นต้องรีบช่วยท่านโหวและเส้าเจ๋อ!”เวินหย่าลี่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ก้าวไปข้างหน้าพลางคุกเข่าลง คุกเข่าลงตรงหน้าหลานซื่อทันที เอ่ยขอร้องอย่างเป็นกังวล “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หม่อมฉันรู้ว่าท่านต้องมีวิธี ได้โปรดช่วยท่านโหว ช่วยลูกชายของข้าด้วย!”“ใช่แล้ว!”นางพูดไปก็นึกถึงอะไรออกในทันใด รีบล้วงของสิ่งหนึ่งที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง “ของสิ่งนี้ เป็นสมบัติของประมุขตระกูลหลานของพวกท่าน”นางเปิดผ้าเช็ดหน้าออก เผยให้เห็นสิ่งของข้างในเป็นตราหยก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 937

    เวินหย่าลี่มองไปที่ไข่แมลงกองนั้น ไม่อาจเชื่อได้เลยทำไมในร่างกายของนางถึงได้มีสิ่งที่น่ากลัวมากมายเช่นนี้อยู่?!ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เป็นใคร...ไม่ใช่สิ นางรู้ว่าเป็นใคร!เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ นอกจากหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นแล้วจะยังมีใครได้อีกเล่า!และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ สิ่งที่หลานซื่อพูดกับนางในเวลาต่อมา...“ไข่แมลงเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ ดูจากขนาดของมันแล้วน่าจะอาศัยอยู่ในร่างกายของท่านมาสักพักแล้ว อืม...ไม่น่าจะน้อยกว่าหนึ่งเดือนกระมัง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความจริงเวินเยวี่ยได้ลงมือกับผู้คนในจวนจงหย่งโหวไปตั้งนานแล้วเพียงแต่เมื่อไม่นานมานี้ ไข่แมลงในร่างกายของเวินหย่าลี่และคนอื่น ๆ ค่อย ๆ คงที่ ถึงได้เริ่มหยุดอำพรางโฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว“ยัง...ยังมีชีวิตอยู่หรือ? อย่าบอกนะว่าสิ่งเหล่านี้ยังฟักออกมาได้?!”เวินหย่าลี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหลานซื่อพยักหน้า “ถูกต้อง หากท่านล่าช้าไปสิบกว่าวันถึงครึ่งเดือนแล้วล่ะก็ แมลงพวกนี้น่าจะสามารถฟักตัวภายในร่างกายของท่านได้ จากนั้นก็เจาะเข้าไปในอวัยวะภายในของท่าน แขนขาทั้งสี่และกระดูกทั้งหมด เจาะเข้าไปแม้กระทั่งสมองของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 936

    “ถ้าเป็นเวินเยวี่ยล่ะก็ จริงที่ว่าจะไม่มีทางปล่อยท่านไปง่าย ๆ เพราะอย่างไรตอนแรกที่นางแต่งเข้าไปในจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ก็ได้รับความทนทุกข์มาก”หลานซื่อพูดด้วยแววตาที่แฝงความหยอกล้อเอาไว้ ดูแสร้งยิ้มเวินหย่าลี่เผยความกระดากอายออกมาทางสีหน้าทันที “แต่นางเป็นคนวางแผนคิดร้ายกับเส้าเจ๋อของเราก่อน...”“เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว”หลานซื่อบอกให้นางหุบปากทันที ขี้เกียจจะฟังคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของนาง“ในร่างกายของท่านนอกจากพิษงูที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อย ก็ไม่มีพิษอื่นแล้ว แต่กลับมีอย่างอื่นอีกเล็กน้อย”“ข้ารู้อยู่แล้วเชียว!”เวินหย่าลี่เบิกตากว้างในทันใด ตื่นเต้นมากจนไม่สนใจชื่อเรียกของตัวเองด้วยซ้ำ มองหลานซื่อด้วยความร้อนใจ “มันคืออะไร? นางทำอะไรกับร่างกายของข้ากันแน่?!”“ในช่วงเวลานี้ ท่านได้กินหรือดื่มอะไรที่นางให้มาบ้างหรือเปล่า?”หลานซื่อไม่ตอบนางโดยตรง แต่กลับย้อนถามเวินหย่าลี่ยิ่งรู้สึกกระดากอาย “นางไม่เคยนำอาหารอะไรมาให้ข้า...หม่อมฉันกับมือเลย แต่ตอนนี้จวนจงหย่งโหวของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของนางแล้ว ของกินดื่มอะไร นางก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง มีคนไปทำให้”ดังนั้นหากเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 935

    “ให้นางเข้ามาสิ”หลานซื่อกลับไปที่ข้างโต๊ะแล้วนั่งลงเมื่อเป่ยเฉินหยวนได้ยินว่ามีคนมา ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเขาจำฮูหยินจงหย่งโหวท่านนั้นได้ ดูเหมือนจะเป็นน้องสาวของเจิ้นกั๋วกง อดีตน้าหญิงของอู๋โยวกระมัง?ครั้งหนึ่งเคยใส่ความอู๋โยวว่าขโมยของจากครอบครัวของนาง ความสัมพันธ์กับอู๋โยวดูจะแย่ทีเดียวเหตุใดวันนี้ถึงมาหาอู๋โยวได้?ไม่ใช่ว่าเป่ยเฉินหยวนคิดมากเกินไปแต่ที่สำคัญคือวันนี้ หากเวินหย่าลี่มาร่วมงานเลี้ยงในฐานะฮูหยินจงหย่งโหว ก็ไม่เห็นจะต้องมาหาหลานซื่อตามลำพังเมื่อครู่ไม่เห็นนางที่งานเลี้ยง ตอนนี้กลับมาหานางแบบส่วนตัวเห็นได้ชัดว่าผิดปกติเป่ยเฉินหยวนมองไปทางหลานซื่อ “ต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรไหม?”หลานซื่อส่ายศีรษะ “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้ท่านอ๋องลงมือ”“แล้วต้องให้ข้าหลบไปหรือไม่”“ไม่ต้องเช่นกัน หากท่านอ๋องอยากรู้ก็สามารถอยู่ฟังได้ ถือว่าเป็นเรื่องสนุก ๆ ก็พอ”เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้กังวลและไม่หลบเลี่ยงของหลานซื่อเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนก็อดแย้มมุมปากไม่ได้วินาทีต่อมา เขาก็นั่งลงตรงข้ามกับหลานซื่อเช่นกันไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกประตูเวินหย่าล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 934

    “ประมูลตระกูลหลานไม่จำเป็นต้องทักทายพวกเรา แค่เอาเหล้าฮัวเตียวมาสักหน่อย พวกเราก็จัดการกันเองได้แล้ว”เสนาบดีฉีในฝูงชนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเช่นกันล้วนเป็นคนเฉลียวฉลาดกันทั้งนั้น ย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์คั่นเวลาเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นดังนั้นนี่คือการให้หลานซื่อจัดการกับนางก่อน ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าบรรดาแขกเหรื่อจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเพราะถึงอย่างไรก็ยังมีพ่อตาฮ่องเต้ที่คอยช่วยสนับสนุนนาง และแม้แต่เสนาบดีฉีเองก็เริ่มเอ่ยปากถาม โดยมีใต้เท้าสองคนนี้อยู่ด้วย ยังให้เกียรติกันไม่พออีกหรือ?หลานซื่อที่มองเห็นเจตนาดีของทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ตอนนี้นางก็ยังมีเรื่องต้องจัดการด้วยจริง ๆ“ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ทุกท่านกินดื่มให้เต็มที่ หากมีความต้องการอะไรก็สั่งคนรับใช้ในจวนได้เลย หากดูแลไม่ทั่วถึง ก็ต้องขออภัยด้วย”จนกระทั่งตอนนี้ หลานซื่อก็ยังเกรงใจและสุภาพมากแม้ว่าวันนี้จะมีแขกเหรื่อมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครพูดได้ว่าประมูลตระกูลหลานคนใหม่นี้ดูแลไม่ทั่วถึงหรือผิดพลาด”เพราะถึงอย่างไรอีกหนึ่งสถานะของนาง ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่าองค์หญิงเมื่อพบนาง ควรเป็นพวกเขามากกว่าที่ต้องคุกเข่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 933

    ขณะที่อันหมิงจูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง อันปี่เค่อก็ชิงพูดก่อนนางหนึ่งก้าวด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “เอาล่ะ ลูกสาวแสนดี เจ้าดูสภาพเจ้าในตอนนี้สิ อย่าเสียเวลาอยู่ที่เรือนของธิดาศักดิ์สิทธิ์ต่อไปเลย พ่อจะพาเจ้ากลับไปก่อน มีอะไรเอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน เร็วเข้า บอกลาธิดาศักดิ์สิทธิ์สักคำ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ อันหมิงจูจะทำอะไรได้อีกนางทำได้เพียงอดทนกับอารมณ์คับข้องใจ เอาเสื้อกันลมที่สาวใช้เอามาให้คลุมไหล่ ปกปิดร่างกายเอาไว้ พร้อมกับทำความเคารพหลานซื่ออย่างไม่เต็มใจนัก“ขออภัยด้วยธิดาศักดิ์สิทธิ์ ข้าน้อยขอลา”หลานซื่อเหลือบมองนางอย่างเฉยชาเดิมทียังไม่อยากปล่อยอันหมิงจูและคนอื่น ๆ ไปง่าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่นึกว่าอันปี่เค่อผู้นี้จะตาไวเช่นนี้สังเกตเห็นภัยอันตรายในชั่วพริบตา จากนั้นก็ตัดสินใจถอนตัวโดยไม่ลังเลถ้าเป็นเฒ่าสารพัดพิษอย่างเวินเฉวียนเซิ่งนั่น ต้องกลับมาลองหยั่งเชิงอีกครั้งอย่างแน่นอนยากที่จะรับมือจริง ๆหลานซื่อหรี่ตาลง “คุณหนูใหญ่สกุลอันตกน้ำตื่นตกใจ ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกุลหลาน ดื่มน้ำแกงขิงสักหน่อยแล้วค่อยไปล่ะ? จะได้ไม่เป็นหวัด”“แค่ก ๆ ขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นห่วง แต่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status