Share

บทที่ 9

Author: จิ้งซิง
“ไม่ได้นะ!”

“ไม่มีทาง!”

แค่คำสาบานเดียวเท่านั้น เดิมที่นึกว่าชุยเส้าเจ๋อน่าจะรับปากได้ แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าชุยเส้าเจ๋อจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนั้น

สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ คนที่มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นเดียวกันยังมีอีกคน

“น้องหก?”

พวกเวินฉางอวิ้นมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยความประหลาดใจ

เวินเยวี่ยมีสีหน้าแข็งทื่อ

เมื่อตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นี้นางยั้งสติไม่อยู่มากเกินไป นางจึงรีบเก็บงำอารมณ์ ฝืนยิ้มมุมปากพลางเอ่ยว่า “ไม่ใช่นะ...คือว่า ข้า...ข้าแค่รู้สึกว่าเงื่อนไขที่พี่หญิงเสนอออกมานี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมมากนัก หะ...หากต่อไปพี่เส้าเจ๋อเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเล่า? ดังนั้น พี่หญิงเหลือทางถอยให้ตนเองหน่อยไม่ดีกว่าหรือ?”

เวินฉางอวิ้นผู้เป็นพี่ใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางดูแปลกพิกลนิด ๆ

เวินจื่อเยวี่ยผู้เป็นพี่สามไม่มีปฏิกิริยาอะไร

เวินอวี้จือผู้เป็นพี่สี่กลับมองเวินเยวี่ยและมองชุยเส้าเจ๋ออย่างใคร่ครวญ

เทียบกับพวกเขาแล้ว เวินจื่อเฉินผู้เป็นพี่รองเชื่อในตัวเวินเยวี่ยโดยสิ้นเชิงว่ามีจิตใจบริสุทธิ์ เขาจึงไม่ได้คิดมากมายเช่นนั้น

“พอได้แล้วน้องหก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงเวินซื่อ แต่ข้ากลับคิดว่าคำพูดของนางไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”

เขาแค่นเสียงเย็น เหลือบมองชุยเส้าเจ๋ออย่างดูแคลน “ในเมื่อเจ้ารังเกียจบุตรสาวสกุลเวินของพวกเราถึงเพียงนั้นก็ตัดขาดให้สิ้นเรื่องไปเลย สาบานไปตรง ๆ ต่อหน้าท่านพ่อของข้า ต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายในวันนี้ ต่อไปต่อให้เวินซื่ออยากตามตื๊อเจ้า สกุลเวินของพวกเราก็จะไม่อนุญาตเป็นอันขาด”

“พี่รอง...”

เวินเยวี่ยร้อนใจแล้ว แต่ชุยเส้าเจ๋อกลับร้อนใจยิ่งกว่านาง

“ไม่ได้ ข้าไม่กล่าวคำสาบานนี้!”

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตาใส่เวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เขาคิดว่าเวินซื่อจะต้องดูออกแล้วว่าเขามีใจให้น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดังนั้นถึงจงใจเสนอเงื่อนไขชั่วช้าเช่นนี้ออกมาเพื่อขัดขวางเขากับน้องเยวี่ยเอ๋อร์!

เหอะ

ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้สตรีชั่วช้าผู้นี้ทำสำเร็จหรอก!

ชุยเส้าเจ๋อคิดถึงตรงนี้ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลันพรั่งพรูขึ้นมาในใจ

เขาประสานมืออีกครั้งแล้วเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า “ท่านลุง นอกจากการเรื่องถอนหมั้นเรื่องแรกนี้แล้ว หลายยังมีคำขออีกอย่าง หวังว่าท่านลุงจะช่วยทำให้สมหวังได้”

“คำขอของเจ้าช่างเยอะเหลือเกิน”

เวลานี้เวินเฉวียนเซิ่งมองออกถึงเงื่อนงำจากในปฏิกิริยาตอบสนองของเขากับเวินเยวี่ยแล้ว

เขาหรี่ตาสองข้าง นิ้วมือเคาะโต๊ะ ไม่เอ่ยวาจาอะไร

เวินหย่าลี่เห็นก็รู้ว่าพี่ชายของนางโกรธเกรี้ยวแล้ว

นางแทบอยากจะรีบดึงชุยเส้าเจ๋อลงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้ความคิดของชุยเส้าเจ๋อมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้น ไฉนเลยจะยอมฟังคำเกลี้ยกล่อมของมารดาเขา?

เขาสลัดมือของมารดาเขาอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวคำพูดที่เหลือออกมาทั้งหมดในเฮือกเดียว “ขอร้องท่านลุง ชาตินี้ข้าอยากแต่งงานกับสตรีเพียงนางเดียว นั่นก็คือน้องเยวี่ยเอ๋อร์! ดังนั้นขอร้องท่านลุงโปรดยินยอมให้ข้าถอนหมั้นกับเวินซื่อ เพื่อให้ข้ากับเยวี่ยเอ๋อร์สมหวังด้วยขอรับ!”

เมื่อคำพูดนี้ของเขาออกมา พี่น้องสกุลเวินในงานพากันหน้าเปลี่ยนสี

“ชุยเส้าเจ๋อ เจ้ากล้า!”

เวินจื่อเฉินเดือดดาล

เวินฉางอวิ้นเอ่ยโน้มน้าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “น้องเส้าเจ๋อ บุตรีสกุลเวินของพวกเราไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้เจ้ามาหยามเกียรติได้ตามใจชอบหรอกนะ!”

แม้กระทั่งเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือสองคนก็มีสายตาไม่พอใจเช่นกัน

ท่าทางหวั่นไหวและปกป้องคนใกล้ชิดของแต่ละคนดูดีกว่าเมื่อครู่นี้มากเลย

เวินซื่อหัวเราะหยัน

เวินจื่อเฉินที่อยู่ทางด้านข้างบังเอิญเห็นฉากนี้พอดีก็คิดไม่ถึงว่านางยังจะหัวเราะออกมาได้

“เจ้ายังหน้าไม่อายหัวเราะอีกหรือ?! ข้าขอถามเลยนะเวินซื่อ เจ้าเป็นบุตรีสกุลเวินของพวกเราแน่หรือ? ดูสิว่าคู่หมั้นของเจ้ารังแกเจ้าต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้จนกลายเป็นอันใดไปแล้ว? เจ้าควบคุมเขาให้ดี ๆ ไม่ได้หรือ?”

“ข้าไม่กล้าควบคุมหรอก พี่รองไม่ได้ยินคำพูดของเขาหรือ? สตรีที่คู่หมั้นของข้าอยากแต่งงานด้วยในชาตินี้มีเพียงน้องสาวแสนดีของข้าเท่านั้น ว่าไปแล้วช่างรักมั่นเสียจริง เจ้าว่าใช่หรือไม่ น้องหก?”

เวินซื่อกล่าวพลางยิ้มจนดวงตาโค้ง สีหน้าของนางคล้ายกับไม่แยแสเลยสักนิดเดียว ถึงขนาดที่ยังทีท่าทางทอดถอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าไปในหูของคนอื่น ก็มีคนค่อย ๆ เข้าใจความนัย

ในบรรดาแขกที่มาวันนี้ มีหลายคนเป็นฮูหยินขุนนางที่คุ้นชินกับการแก่งแย่งชิงดีและวางอุบายชั่วร้ายกันในเรือนหลัง

เรื่องน้องสาวล่อลวงคู่หมั้นพี่สาวอะไรเช่นนี้พบเห็นได้ไม่น้อยในเมืองหลวงนี้

หากเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์จริง ๆ ควรรู้จักรักษาระยะห่างที่ควรมีกับคู่หมั้นของพี่สาวบ้างถึงจะถูก

แต่เมื่อครู่นี้ทุกคนล้วนมองเห็นชัดเจนว่าตอนที่เวินซื่อยังไม่มาที่เรือนหน้า เวินเยวี่ยกับชุยเส้าเจ๋อก็พูดคุยหัวเราะกันตลอด ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดตามจิตใต้สำนึกว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์สนิทสนมระหว่างลูกพี่ลูกน้องเท่านั้นเอง

ทว่าตอนนี้มีเหตุการณ์ที่ชุยเส้าเจ๋อก่อขึ้นมาเช่นนั้น แล้วนึกโยงถึงคำพูดของเวินซื่ออีกที ชั่วขณะหนึ่งผู้คนไม่น้อยมองไปทางเวินเยวี่ยด้วยสายตาที่มีนัยแอบแฝงลึกซึ้ง

เวินเยวี่ยที่สัมผัสได้ว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็แทบจะกัดฟันหัก

สมควรตาย!

เหตุใดนางแพศยาผู้นี้ถึงฉลาดขึ้นมาแล้ว?

ก่อนหน้าโง่เง่าเหมือนหมู ถูกนางเล่นอยู่ในมือมาโดยตลอด

แต่วันนี้นางแพศยาผู้นี้รับมือไม่ง่ายเลยอย่างเห็นได้ชัด

หรือว่ามีผู้สูงส่งอะไรคอยชี้แนะอยู่ข้างหลัง?

เวินเยวี่ยเม้มปากเล็กน้อย

ต่อให้เป็นเช่นนี้ คนโง่ก็เป็นคนโง่

ขอเพียงบิดากับพวกพี่ชายยืนอยู่ฝั่งนาง เวินซื่อผู้นั้นก็ไม่มีวันมีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาได้เด็ดขาด!

ชาติที่แล้วข้าช่างโง่งมเหลือเกิน

เวินซื่อที่สัมผัสได้เช่นเดียวกันว่าบรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนไปก็ด่าทอตนเองในใจด้วยน้ำเสียงทอดถอนใจ

ชาติก่อนนางถูกชุยเส้าเจ๋อถอนหมั้นต่อหน้าผู้คน เวลานั้นนางสะเทือนใจมากเกินไปจนไม่อาจยอมรับได้ นางจึงขอร้องอย่างขมขื่นต่อหน้าแขกเหรื่อทุกคนเพื่อที่จะชนะใจชุยเส้าเจ๋อกลับมา แต่สิ่งที่ได้รับมาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความดูแคลนของชุยเส้าเจ๋อ

เขากล่าวว่า “ข้าชุยเส้าเจ๋อเป็นคนที่เปิดเผยโปร่งใส สิ่งที่รังเกียจที่สุดก็คือลูกไม้สกปรกพวกนั้น เวินซื่อเจ้าฝ่าฝืนข้อห้ามของข้า ไม่คู่ควรเป็นภรรยาของข้านานแล้ว”

หลังจากนั้นมา นางก็กลายเป็นที่ขบขันของทั้งเมืองหลวงในชั่วข้ามคืนเพราะคำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อ

เวลานี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่ เวินซื่อได้เลือกหนทางใหม่แล้ว

หลังจากที่ไม่ยึดติดกับสิ่งของที่ไม่ใช่ของนางแล้ว ที่แท้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเรียบง่ายมากนัก

“เวินซื่อ เจ้าพอได้แล้ว!”

ชุยเส้าเจ๋อทำหน้าทะมึน “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องเยวี่ยเอ๋อร์ ข้าอยากถอนหมั้นกับเจ้า เจ้ามีคำพูดอะไรก็พูดกับข้าสิ! แต่ถ้าเจ้าอยากให้ข้าเปลี่ยนความคิด เช่นนั้นข้าขอบอกเจ้าว่า...”

เขาใช้น้ำเสียงรังเกียจที่สุดเอ่ยออกมาทีละคำ “เจ้า อย่า หวัง!”

“เพียะ!”

เสียงตบหน้าดังลั่นไปทั่วทั้งงาน

ทุกคนมองเวินซื่อที่อยู่บนปะรำพิธีอย่างตกตะลึง แม้แต่พวกเวินฉางอวิ้นที่เป็นพี่ชายก็ไม่อยากจะเชื่อภาพเบื้องหน้าอยู่บ้าง

ใคร ๆ ก็รู้ว่าเวินซื่อชอบชุยเส้าเจ๋อมาก

นางตามก้นชุยเส้าเจ๋าต้อย ๆ มาตั้งแต่เด็ก ใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากโตขึ้นไว ๆ เพื่อจะได้แต่งงานกับพี่เส้าเจ๋อของนาง

แต่ตอนนี้เวินซื่อกลับตบชุบเส้าเจ๋อ?

“เวินซื่อ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เจ้ามีสิทธิอะไรมาตบบุตรชายของข้า!”

เวินหย่าลี่เป็นคนแรกที่ได้สติกลับมา ร้องเสียงดังด้วยอารมณ์รุนแรง ก่อนจะยกมือขึ้นฟาดไปที่หน้าของเวินซื่อ

แต่วินาทีถัดมาก็ถูกเวินซื่อจับข้อมือไว้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chanamon Chanudon
มีไหวพริบในการช่วยตนเอง
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1084

    หลูเฟิงในเวลานี้อยากบีบคอเขาให้ตายนักยังต้องปกป้องเขาอีกหรือ?ถ้าไอ้แก่นี่ไม่ก่อเรื่อง เรื่องในคืนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!“บัดซบเอ๊ย!”หลังจากหลูเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งทันที “ทุกคน! คุ้มกันเจิ้นกั๋วกงเดี๋ยวนี้!”คนที่ฮ่องเต้ส่งมารีบคุ้มกันเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกที่หนีออกมาจากกระโจมที่ถูกผ่าออกไว้ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองจูเยวี่ยที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวังจูเยวี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ สายตาอันเย็นชาจับจ้องเพียงเวินเฉวียนเซิ่งที่ถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางเมื่อบีบคนออกมาได้แล้ว หลานซื่อก็ไม่ปล่อยให้จูเยวี่ยลงมือต่ออีกนางเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว เสี่ยวหานอยู่ที่ไหน?”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยวหานอะไรกัน ข้าไม่…”“ท่านควรบอกว่าท่านรู้ และรับรองด้วยว่าตอนนี้นางปลอดภัยดี”หลานซื่อขัดคำพูดเวินเฉวียนเซิ่งที่ต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันทีอย่างไม่เกรงใจ สายตาของนางแสดงเจตนาฆ่าชัดเจน “ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำให้พวกท่านทุกคนตายอยู่ที่นี่แน่”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันนิ่งเฉย เขาจ้องมองหลานซื่อด้วยสายตาอันมืดมนผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1083

    กว่าสิบศพถาโถมเข้าใส่กระโจม พร้อมกับระเบิดออกจู๋เยวี่ยและคนอื่น ๆ ยับยั้งไม่ทัน ถูกแรงระเบิดพัดกระเด็นออกไปแต่หลังจากร่วงลงสู่พื้น พวกเขามองดูบาดแผลบนร่างกายของตนเอง ก็พบว่าแรงระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิดไว้“นายน้อย!”จู๋เยวี่ยรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ถูกระเบิดทันทีแต่ในไม่ช้า นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนางเห็นหลานซื่อที่กำลังยืนอยู่กลางกระโจม และดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจู๋เยวี่ยคาดเดาได้ทันทีว่า เมื่อครู่นายหญิงของนางคงจะหลบเข้าไปในมิติปริศนานั่นดีมาก นายหญิงฉลาดจริง ๆไม่ได้รับบาดเจ็บคือความโชคดีอย่างยิ่งจู๋เยวี่ยรีบเข้าไปคุ้มกันนางไว้ข้างกาย ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”หลานซื่อผงกศีรษะเล็กน้อย ปลอบจู๋เยวี่ยและเกาหยางพลางเอ่ยว่า “ดินปืนในร่างของศพหุ่นเชิดพวกนั้นมีไม่มากนัก จุดประสงค์แท้จริงของพวกมันไม่ใช่เพื่อสังหารข้า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จู๋เยวี่ยและเกาหยางก็กลับมามีท่าทีระแวดระวังอีกครั้งไม่ใช่เพื่อสังหารคนในกระโจมหรือ?ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของเวินเฉวียนเซิ่งคืออะไร?เพื่อเบี่ยงเบนความส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1082

    เข้าสู่ราตรีกลางป่าพงไพรหลานซื่อนอนสงบเงียบอยู่ในกระโจมนางหลับตาทั้งสอง มีผ้าสักหลาดคลุมกาย หายใจสม่ำเสมอ ดูเหมือนหลับสนิทลงแล้วแต่ยามนี้สติของนางกลับตื่นตัวอย่างยิ่งนางกำลังใช้มุมมองของอวิ่นซิง มองไปรอบ ๆ จากบนหลังคากระโจมที่นางอยู่ภายนอกกระโจม ผืนป่าเงียบสงบยิ่งนักไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่เสียงแมลงในส่วนลึกของป่าก็ค่อย ๆ หายไปความรู้สึกมืดมนและแปลกประหลาดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นความรู้สึกที่หลานซื่อมองผืนป่าผ่านมุมมองของอวิ่นซิงเป็นเช่นนี้เองนางกำลังคิดว่า หากคืนนี้เวินเฉวียนเซิ่งจะลงมือ เขาจะทำอย่างไร?จะเป็นหลวงจีนเฒ่าลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่เมื่อหลานซื่อนึกถึงตรงนี้ ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนางยังไม่เคยประลองกับอีกฝ่ายอย่างจริงจังครั้งก่อนที่จวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะถือว่าได้ประมือกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่เผยไพ่ตายอย่างหมดเปลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ฝูงแมลงพิษของหลานซื่อได้ผ่านการยกระดับอย่างทรงพลังในช่วงเวลานี้ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนางอยากรู้จริง ๆ ว่า ครั้งนี้ไม้เท้าวิเศษของหลวงจีนเฒ่าผู้นั้นยังสามารถปราบฝูงแมลงพิษของนางได้หรือไม่น่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1081

    ทันทีที่หลานซื่อพูดจบ สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็มืดมนลงอย่างหนักในทันใดเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นไม่มีทางยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้ได้เลย“หลานซื่อ ข้าคิดว่าท่าทีของข้าดีพอแล้ว”“อย่างนั้นหรือ?”หลานซื่อเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย”ไม่ว่าท่าทีของท่านจะดีหรือไม่ นางไม่อยากให้ก็คือไม่อยากให้เวินเฉวียนเซิ่งเห็นหลานซื่อไม่ยอมอ่อนข้อเลย ก็รู้ว่าการแลกเปลี่ยนนี้ไร้ความหวังในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงใช้วิธีอื่นแล้วไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องดอกบัวกระดูกมังกรเด็ดขาดหลังจากกลับมาที่คณะของตนเองเขาก็ให้หมอที่พามาจากตลาดการค้าชายแดนตรวจขาหมาป่าไม้ที่สวมอยู่บนขาของเขาในช่วงเวลาตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนสิ่งประหลาด สิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขาได้รับก็คือขาหมาป่าไม้นี้และด้วยขาหมาป่าไม้นี้ เขาจึงกลับมายืนได้อีกครั้งคู่หนึ่งปกติรองรับได้ราวสิบวัน แต่เพราะต้องเร่งเดินทางด้วยม้า ตอนนี้ขาคู่นี้แทบจะใช้การไม่ได้แล้วแม้ว่าจะยังไม่พังเสียทีเดียว แต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับโยนมันทิ้งไปหน้าตาเฉย ทั้งที่มันมีราคาถึงสองพันตำลึงจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งก็ใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1080

    จากนั้นเขาก็หันไปมองหลานซื่อ สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายที่แผ่รอบกายจะผิดแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดหลานซื่อย่อมสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกันแต่นางเพียงชำเลืองมองเวินเฉวียนเซิ่งที่หลายวันมานี้ ดูเหมือนจะเดินเหินและเคลื่อนไหวได้เหมือนคนปกติแล้วอย่างเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับ“ท่านยายชอบก็ดีแล้ว ขอเพียงสมุนไพรนี้ทำให้ท่านยายมีความสุขขึ้นได้บ้าง มันก็คุ้มค่าแล้ว”ใครเล่าจะไม่ชอบเด็กที่ปากหวานและจิตใจดีแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำพลันยิ้มอย่างมีความสุขเหลือเกิน ก่อนจะดันพิษประหลาดนั้นกลับไป “พอแล้ว มีดอกบัวกระดูกมังกรต้นนั้นก็พอแล้ว ของสิ่งนี้เจ้าศึกษาวิจัยเอง เช่นนั้นก็เก็บไว้ให้ดี ไม่ต้องยกให้ยายแล้ว”หลานซื่อกำลังจะพูดอะไรต่อ แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำก็ให้นางนำภาพวาดมา“ก็อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ยายจะวาดแผนที่เส้นทางไปสถานที่แห่งนั้นให้พวกเจ้า แต่ยายขอเตือนพวกเจ้าไว้สักคำว่า ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งเข้าใกล้อันตรายก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้หนุ่มเจ้าต้องระวังให้ดี”“ขอบคุณท่านยายที่เตือน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”ครึ่งชั่วยามต่อมา หลานซื่อกับพวกก็ได้แผนที่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1079

    “ต้นฉบับหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงอยู่ในมือข้า หากซากปรักหักพังของหมู่บ้านเซียนที่ว่านั้นเป็นของจริง เจ้าก็จำเป็นต้องร่วมมือกับข้า”เวินเฉวียนเซิ่งพูดมาเช่นนี้ใบหน้าของหลานซื่อกลับปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นแวบหนึ่ง “ข้าก็สามารถสังหารท่านตอนนี้ แล้วเอาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงไปก็ได้”เวินเฉวียนเซิ่งส่ายศีรษะ “เจ้าทำได้อยู่แล้ว แต่แน่ใจหรือว่าต้องการแตกหักกับข้าตอนนี้?”เขามองคนที่อยู่ด้านหลังหลานซื่อ “คนของเจ้าอีกครึ่งหนึ่งไม่อยู่ การที่พวกเขาหายไปนั้นเป็นภัยคุกคามต่อข้าได้จริง ๆ แต่ข้าก็ไม่เคยไร้แผนสำรอง”เมื่อได้ยินการข่มขู่ในน้ำเสียงของเขา สายตาของหลานซื่อก็ยิ่งเย็นชาขึ้น “จริงหรือ? เช่นนั้นท่านก็ลองดู ว่าคนของข้าอีกครึ่งหนึ่งอยู่แถวนี้จริงหรือเปล่า”บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนบรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงในทันใดจนกระทั่งครู่หนึ่งต่อมา...เห็นหลานซื่อเหมือนจะมีเจตนาฆ่าปะทุขึ้นมาจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้ง “เอาละ ข้าจะไม่ถือสาเจ้า”เขาพลิกฝ่ามือหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา “สมุนไพรหายากกับพิษประหลาดไม่มี แต่มีข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status