Share

บทที่ 195

Author: จิ้งซิง
คุณหนูรองจวนราชเลขาฝ่ายขวาคือบุตรอนุภรรยา นามว่าอันหลันซิน

เมื่อหลายปีก่อนตอนเวินซื่อจมน้ำนางเคยช่วยชีวิต นับจากนั้นเวินซื่อจึงถือว่าอันหลันซินเป็นสหาย กระทั่งแนะนำนางให้สหายรักของตนรู้จัก ซึ่งก็คือปราชญ์หญิงในรัชกาลปัจจุบันหลินเมี่ยวฉือ

เพราะมีบุญคุณในครั้งนั้น เวินซื่อและหลินเมี่ยวฉือจึงเป็นอันหลันซินเป็นคนกันเองมาโดยตลอด

รู้ว่านางคือบุตรอนุภรรยา ไม่ได้รับความห่วงใยจากมารดาใหญ่ อีกทั้งถูกพี่น้องคนอื่นรังแก ทั้งสองจึงไปกู้หน้าให้นางถึงจวนด้วยตัวเอง

รู้ว่าเงินเดือนนางไม่พอใช้ ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ดังนั้นไม่ว่าจะกินของดีที่ไหนก็ต้องเก็บไว้ให้นางหนึ่งส่วน มีที่ไหนน่าสนุกก็พานางไปด้วย

รู้ว่าไม่มีใครจัดการเรื่องงานแต่งให้นาง เวินซื่อจึงขอร้องบิดา ไหว้วานฮูหยินเฒ่าที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ช่วยให้นางได้หมั้นหมายกับตระกูลที่ดี

จนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน ไม่รู้เหตุใดท่าทีของอันหลันซินเปลี่ยนไปฉับพลัน นางนัดแนะเวินซื่อออกมาเที่ยวเพียงลำพัง ทว่ากลับผลักนางตกน้ำด้วยตัวเอง ซ้ำยังยืนมองให้นางจมลงไปในทะเลสาบ

หากไม่มีคนเดินผ่านมาพอดี แล้วได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของเวินซื่อ เกรงว่ายามนั้นนา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1072

    “เยี่ยนจือ เจ้าแน่ใจหรือว่าว่าคนที่ปรากฏตัวอยู่ที่นี่คือจวี้เอ๋า?”ชางชิงหลานนั่งอยู่บนเกี้ยวอันวิจิตรงดงาม ที่แบกเขาอยู่คือชายฉกรรจ์สี่คนที่แม้ไม่ได้สูงใหญ่เท่าเล่อตุน แต่ก็ไม่ต่างกันนักพวกเขาสวมหน้ากากหน้าตาดุร้าย ดวงตาอำมหิตแต่ละคู่มองลอดผ่านหน้ากากไปยังผู้คนที่กำลังคุกเข่าอยู่หน้าเกี้ยวบนถนนหมู“เรียนนายท่าน ตามที่คนบนถนนหมูกล่าว คนผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ พละกำลังมหาศาล ลงมือเหี้ยมโหด เมื่อสังเกตถี่ถ้วนแล้วพบว่าอีกฝ่ายเหมือนจะมีสติปัญญาไม่สมบูรณ์นัก ด้วยความคล้ายคลึงกันมากมายขนาดนี้ นอกจากจวี้เอ๋าแล้ว ข้าน้อยคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีใครอีก”ชางชิงหลานงอนิ้วเคาะราวจับเกี้ยว เมื่อได้ฟังคำพูดของเยี่ยนจือแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาทันที“เดิมทียังนึกว่าเจ้าหมอนั่นคงตายไปนานแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะติดตามธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้าหมิงไปเสวยสุขอยู่ในจงหยวน”“นายท่าน จะให้ข้าน้อยส่งคนไปจับเขากลับมาตอนนี้เลยหรือไม่?”เยี่ยนจือสีหน้าขรึม กอดดาบพลางเอ่ยถามขึ้น“ไม่ต้อง”ชางชิงหลานเอ่ยอย่างราบเรียบ “ปล่อยให้เขาตามธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้าหมิงไป ด้วยรูปร่างของเขานั้นยากจะหลบพ้นสายตา ยิ่งเป็นการสะดวกให้เรา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1071

    เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย “แล้วเจ้าต้องการเช่นไร?”หลานซื่อเอ่ยขึ้น “คืนนี้ออกเดินทางได้ เร่งไปถึงราชสำนักภายในห้าวัน”มากกว่าที่เวินเฉวียนเซิ่งพูดไว้สองวันทันทีที่ได้ยินถ้อยคำนี้ เวินเฉวียนเซิ่งก็เหมือนจะคาดเดาอะไรได้ สายตาเขาทอดไปยังกระดาษแผ่นนั้นที่อยู่ในมือหลานซื่อ“เจ้าสืบได้ความอะไรมา?”เมื่อได้ยินเขาถามตรง ๆ เช่นนี้ หลานซื่อจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มอันคลุมเครือ “บนโลกนี้ย่อมไม่มีสิ่งใดได้มาเปล่า ๆ”เวินฉางอวิ้นจับจ้องนาง มองอยู่พักใหญ่ก่อนถามว่า “เจ้าต้องการสิ่งใด?”หลานซื่อไม่ได้ต้องการสิ่งใดหากจะมีจริง ๆ นางต้องการชีวิตของเวินเฉวียนเซิ่ง แต่น่าเสียดายเขาคงไม่ยอมให้แน่ ๆหลานซื่อได้แต่เสียดาย ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก “เช่นนั้นก็ขอเลือดของท่านแล้วกัน”นางหยิบชามใบหนึ่งจากตรงหน้าวางลงข้างหน้าโดยไม่คิดอะไรมาก “เลือดหนึ่งชาม แลกกับข่าว”เวินเฉวียนเซิ่งไม่มีทางให้เลือดของตัวเองแก่นางแต่เขาต้องการข่าวในมือของหลานซื่อ ดังนั้นจึงเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “แลกกับคน”หลานซื่อเก็บกระดาษในมือ ทำท่าไม่ยินดีจะเจรจาต่อแต่เวินเฉวียนเซิ่งก็เอ่ยขึ้นทันควัน “เลือดของเวินจื่อ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1070

    ขณะที่เกาหยางเอ่ยถ้อยคำนี้ สีหน้านั้นมีความสุขุมหนักแน่นดูแล้วมีท่าทางเหมือนพี่ใหญ่มากกว่าเกาเย่าที่มีนิสัยค่อนข้างหุนหันพลันแล่นเสียอีกหลานซื่อไม่นึกว่าคนผู้นี้จะเป็นผู้ที่เป่ยเฉินหยวนส่งมาเพื่อช่วยเหลือนางโดยเฉพาะที่สำคัญคือคนผู้นี้มีความสามารถในการทำงานได้เก่งกาจอย่างแท้จริง อีกทั้งยังรอบคอบถี่ถ้วน มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้มีความสามารถที่มีประโยชน์ยิ่งนักเมื่ออยู่ในดินแดนของชาวต่างเผ่า ผู้ที่ใช้การได้ยิ่งมีมากเท่าใดยิ่งดีดังนั้นแม้เวลานี้เป่ยเฉินหยวนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ หลานซื่อก็มิได้เกรงใจเขา“เช่นนั้นก็รบกวนเกา…”หลานซื่ออยากเรียกตำแหน่งของเขา แต่เมื่อครู่กลับลืมถามเกาหยางกล่าวว่า “นายน้อยเรียกชื่อข้าน้อยได้เลย หรือจะเรียกเกาเอ้อร์ก็ได้ขอรับ”หลานซื่อได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เช่นนั้นเรื่องการสืบข่าวหลังจากนี้ก็ขอรบกวนเจ้าแล้ว กองทัพธงดำส่วนที่เหลืออยู่ก็จะให้เจ้าเป็นผู้บัญชาการและจัดการทั้งหมด”แม้ว่าเดิมทีเกาหยางจะบัญชาการและจัดการกองทัพธงดำอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเป่ยเฉินหยวนอยู่ หลานซื่อผู้เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นผู้ที่มีฐานะสูงส่งที่สุดในที่แห่งนี้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1069

    ได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลานซื่อกับพวกต่างเคร่งขรึมขึ้นมาทันใดเสี่ยวหานชำเลืองมองผู้คนรอบข้าง เห็นเจ้าของโรงเตี๊ยมและเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ไกลออกไปยังอยู่ จึงเอ่ยเตือนทหารกองทัพธงดำผู้นั้นอย่างมีไหวพริบ “นายน้อยรออยู่นานแล้ว ในเมื่อสืบได้ความแล้วก็เข้ามาบอกข่าวกับนายน้อยเถิด”ทหารกองทัพธงดำผู้นั้นเข้าใจอะไรได้ทันทีจากเครื่องแต่งกายของหลานซื่อตลอดจนคำพูดของเสี่ยวหาน เขาจึงเปลี่ยนคำพูด “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ทำให้นายน้อยต้องรอนาน”“ไม่เป็นไร”หลานซื่อโบกมือ รับข้อมูลที่สืบได้จากมือของทหารผู้นั้น ในกระดาษวาดแผนที่เส้นทาง แม้จะดูหยาบแต่ก็พอจะเห็นภาพรวมได้“เส้นทางที่วาดบนแผนที่นี้มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?”ทหารเอ่ยว่า “แปดส่วนขอรับ”แปดส่วนก็ถือว่าใช้ได้แล้วเพราะถึงอย่างไรดินแดนชาวต่างเผ่าผืนนี้ การจะสืบเสาะเส้นทางที่แม่นยำไม่ใช่เรื่องง่ายดายเช่นนั้น โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังราชสำนักต่างเผ่าหลานซื่อเพ่งพิศอย่างถี่ถ้วน แล้วจึงสังเกตเห็นว่าบนเส้นทางหลักในแผนที่มีเส้นทางพิเศษแยกออกไปทั้งซ้ายและขวาฝั่งละหนึ่งสาย จากนั้นต่างทำเครื่องหมายไว้ฝั่งละหนึ่งจุดนางชี้ไปยังจุดที่ทำเครื่องห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1068

    เวินจื่อเยวี่ยทำสีหน้ารังเกียจเต็มประดา ส่วนเวินเยวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ กลับมิได้ผสมโรงไปกับคำพูดของเขานางเพียงจ้องเขม็งไปยังหลานซื่อที่แต่งกายปลอมเป็นชายในเวลานี้ ในสายตาปรากฏแววริษยาอันล้ำลึกขึ้นแวบหนึ่ง“ท่านพ่อ เวินซื่อกับพวกไปสืบความล่วงรู้สิ่งใดมาหรือไม่? มิเช่นนั้นเหตุใดจู่ ๆ ถึงกลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย? ซ้ำยังทำลับหลังพวกเราอีก…”เวินเยวี่ยเอ่ยปากคล้ายเพียงถามด้วยความสงสัยเล็กน้อยเวินจื่อเยวี่ยฟังคำพูดของนางแล้ว ก็พยักหน้าเห็นด้วยทันควัน คิดว่าจริงตามนี้ “ต้องใช่แน่! เวินซื่อมีผู้คนรอบกายมากมาย อาจล่วงรู้อะไรบางอย่างลับหลังเรา แล้วไม่บอกพวกเราก็ได้!”เขาแค่นเสียงเย็นชา กอดอกยืนประจันหน้ากับคนกลุ่มนั้นด้วยอาการไม่สบอารมณ์นักเวินเฉวียนเซิ่งเพียงกวาดตามองทีหนึ่ง แล้วหันไปเรียกองครักษ์นายหนึ่งให้เข้ามาหา ก่อนโยนถุงเงินให้องครักษ์ผู้นั้น แล้วยังสั่งการอีกสองสามคำเวินจื่อเยวี่ยอยู่ใกล้ ย่อมได้ยินถ้อยคำที่เวินเฉวียนเซิ่งสั่งการองครักษ์ผู้นั้นอย่างชัดเจนพอเขาฟังจบ ก็เบิกตากว้างทันที “ท่านพ่อ พวกเราก็ต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายของชาวต่างเผ่าด้วยหรือ?”ใช่แล้ว เวินเฉวียนเซ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1067

    หากว่ามีแล้วนั้นฝูงแมลงพิษที่ซ่อนเร้นในเงามืดจะตรวจจับได้ทันทีในเมื่อยังไม่พบสถานการณ์ใด ๆ ก็หมายความว่าตอนนี้นางยังไม่ถูกเปิดโปงเช่นนี้แล้ว นางเพียงต้องอำพรางตนสักหน่อยเท่านั้นแน่นอนรวมถึงเล่อตุนด้วยเล่อตุนก็เหมือนกับอวิ่นซิง แต่แรกนั้นเป็นคนของชางชิงหลาน หากมิใช่นางพาตัวเข้าสู่มิติแล้วพาหลบหนีไป ก็คงไม่มีน้องชายผู้เก่งกาจถึงเพียงนี้พอเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ หลานซื่อก็พลันตระหนักว่า...ทั้งราชาแมลงพิษที่เก่งที่สุดกับน้องชายที่ต่อสู้เก่งที่สุดของนาง แท้จริงแล้วชางชิงหลาน “มอบ” ให้นางทั้งนั้น!หลานซื่อพลันเอ่ย “ขอบคุณ” อยู่ในใจเงียบ ๆเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าเหตุใดชางชิงหลานถึงต้องลงทุนลงแรงเพื่อออกประกาศจับนางเพียงนี้เฮ้อ หากส่งราชากู่มาให้นางอีกสักตัวก็ดีสิไข่ราชากู่อีกาหมึกของเฒ่าป่าเถื่อนผู้นั้นนางยังอยากเก็บไว้ศึกษา เผื่อฟักตัวออกมาเป็นราชากู่หมึกอีกาที่ใช้งานได้จริงดังนั้นหากต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้อวิ่นซิง ก็ต้องเสาะหาราชากู่ตัวอื่นเพิ่มอีกหลวงจีนเฒ่าที่อยู่กับเวินเฉวียนเซิ่งคอยแต่หลบ ลับ ๆ ล่อ ๆ รับมือได้ยากแต่เห็นชัดว่าทำให้ชางชิงหลานมาหาถึงท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status