แชร์

บทที่ 260

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“หรือมิติแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของข้า?”

แต่เมื่อครู่นางแค่อยากเตรียมชั้นหนังสือเพียงไม่กี่อันเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขนาดนี้ อาจเกิดขึ้นเพราะปัจจัยอื่น จึงทำให้มันขยายใหญ่ขึ้นกะทันหัน

เวินซื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่ได้กระทำเมื่อครู่อย่างละเอียด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเบาะแสใดเลย

สุดท้ายจึงส่ายหัว ปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่า

มีการเลื่อนระดับในครั้งแรก ก็ต้องมีการเลื่อนระดับในครั้งที่สอง

รอให้เลื่อนระดับในครั้งต่อไปค่อยมาดูว่าตกลงเกิดจากสาเหตุใด

เวินซื่อกลับเข้าไปในบ้านหลังเล็ก อ่อ ไม่ ตอนนี้ต้องเรียกว่าอาคารหลังใหญ่

เมื่อนางเข้าไป พบว่าแม้อาคารจะมีเจ็ดชั้นแต่ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสามส่วน

ส่วนที่หนึ่งคือที่ว่างในชั้นหนึ่งและชั้นสอง ด้านในมีสมุนไพรวางอยู่มากมาย ชั้นหนึ่งเป็นสมุนไพรทั่วไป และมีแท่นผสมยา แท่นตำยาและแท่นปรุงยา อีกทั้งมีโต๊ะเอาไว้เขียนตำรับยา

บนนั้นมีพู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนไว้พร้อมสรรพ ไม่จำเป็นให้นางต้องไปหาซื้อจากข้างนอก

ชั้นสองเป็นสมุนไพรมีพิษชนิดต่างๆ ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือเหมือนกับชั้นหนึ่งไม่ผิดเพี้ยน

แค่มองชั้นสองก็รู้ว่าเป็นส่วนที่เอาไว้ให้นางศึกษาเรื่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 261

    ความหนาวเย็นแล่นผ่านหัวใจของเวินเยวี่ยวูบหนึ่ง น้ำเสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย “ถ้าเจ้าฆ่าข้า คนของข้าจะต้องหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน ถึงแม้จะต้องตามล่าไปจนถึงสุดหล้าฟ้าเขียวก็ตาม”หากไม่ได้รับรู้ความจริงจากจินซือถูมาก่อน เกรงว่าเวินซื่อคงเกือบจะหลงเชื่อคำลวงของนางแล้ว“จริงหรือ? เช่นนั้นก็ให้พวกเขามาเถิด ส่วนเจ้า ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายง่ายดายเช่นนั้นหรอก ก่อนจะฆ่าเจ้า เจ้าต้องช่วยข้าอีกสักเล็กน้อย”ตอนแรกเวินเยวี่ยยังไม่เข้าใจว่าที่เวินซื่อกล่าวหมายความว่าอย่างไรแต่เพียงไม่นาน นางก็เข้าใจแล้ว“สิ่งใดกัน? เจ้าเอาอะไรวางลงบนตัวข้า?!”ทันใดนั้น เวินเยวี่ยก็ตื่นตระหนกเมื่อครู่มีบางอย่างไต่ไปมาบนร่างกายของนาง!ตอนนี้ก็ยังอยู่!เวินเยวี่ยขยับตัวไปมาภายในกรงอย่างรุนแรงพยายามที่จะสลัดสิ่งที่กำลังไต่ไปมาบนร่างกายของนางออกไปทว่าตอนนี้ มีเพียงเวินซื่อที่อยู่นอกกรงเท่านั้นที่มองเห็นแมงมุมสีดำตัวนั้นกำลังไต่ไปทั่วร่างกายของนางแมงมุมตัวนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น แม้จะมีเพียงตัวเดียว แต่มันก็ใหญ่จนน่าหวาดกลัวโชคดีที่เวินเยวี่ยถูกปิดตาเอาไว้ มิฉะนั้นนางคงจะตกใจจนหน้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 262

    เวินซื่อแสดงสีหน้าเย็นชา มองดูเวินเยวี่ยที่กำลังจะถูกแมงมุมพิษกัดตายในกรงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“พอแล้ว กลับมาเถอะ”แมงมุมพิษถอนเขี้ยวพิษออกในทันที รีบไต่ลงจากร่างกายของเวินเยวี่ยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลับมาอยู่ข้างกายเวินซื่ออย่างว่าง่าย“ไปสร้างรังเถิด ที่นี่ไม่ต้องการเจ้าแล้ว”เวินซื่อยื่นนิ้วออกไปแตะที่แมงมุมพิษตัวนั้นเบาๆ จากนั้นก็ปล่อยให้มันจากไปแมงมุมพิษตัวนี้เป็นสิ่งที่จินซือถูส่งมา พร้อมกับแมลงพิษอีกหลายชนิดตอนนี้ก็เหมือนกับตะขาบพิษของพั่วจวิน หลังจากที่ถูกเวินซื่อป้อนด้วยน้ำทิพย์แล้ว พวกมันทั้งหมดก็ยอมรับนางเป็นนาย และต่างก็ไปหาที่สร้างรังอยู่ในมิติเมื่อเห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยเปลี่ยนจากสีขาวเป็นเขียว จากเขียวเป็นม่วง และกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ใกล้จะตายเพราะพิษแล้ว เวินซื่อก็ค่อยๆ หยิบยาถอนพิษออกมา ผสมกับน้ำแล้วสาดลงบนใบหน้าของเวินเยวี่ยโดยตรง“ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด หากเจ้าไม่อยากถูกพิษจนตาย ทางที่ดีควรเอาศพของท่านแม่ข้าออกมา”เวินเยวี่ยลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายสั่นเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ที่มากกว่านั้นคือความเกลียดชังที่มีต่อเวินซื่อทันใดนั้น นางก็หัวเรา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 263

    จะไม่ลงเขาได้อย่างไร?ถ้าไม่ลงเขา แล้วนางจะไปหาศพของท่านแม่ได้อย่างไร?!เวินซื่อกัดฟัน ในที่สุดภายใต้การเค้นถามของม่อโฉวซือไท่ ก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาเมื่อได้ยินว่าศพมารดาของเวินซื่ออาจจะถูกคนขโมยไป สีหน้าของม่อโฉวซือไท่ก็เปลี่ยนไปทันที ยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกแล้วล้มลงไปข้างหลัง“ท่านอาจารย์!”เวินซื่อรีบยื่นมือเข้าไปพยุงนางไว้นางคิดไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ของตนเองจะมีปฏิกิริยามากขนาดนี้ จึงรีบหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากมิติด้วยความรวดเร็ว แล้วป้อนให้ม่อโฉวซือไท่“ท่านอาจารย์อย่าได้ตื่นตระหนก ใจเย็นๆ ก่อนเจ้าค่ะ!”“ข้าใจเย็นไม่ได้แล้ว ข้าใจเย็นไม่ไหวแล้ว!”ม่อโฉวซือไท่น้ำตาไหลรินลงมาจากหางตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเจ็บปวด “พวกนางกล้าทำกับจื่อจวินของข้าเช่นนี้ได้อย่างไร!”เมื่อนึกถึงศพของจื่อจวินของนางที่ถูกคนขุดไป! ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด นางก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวนางกำมือแน่น ทุบอกของตัวเองอย่างรุนแรง แล้วตะโกนด้วยความโมโห “พวกสารเลวที่สมควรตกนรก! ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปแน่!”เวินซื่อรีบเอ่ยขึ้น “อาจารย์ไม่ต้องห่วง ข้าก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปเช่นกัน แต่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 264

    เวินฉางอวิ้นถึงกับตกตะลึงจนตาค้างก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยพบกับม่อโฉวซือไท่มาก่อน แม้ว่าม่อโฉวซือไท่จะไม่ชอบหน้าพวกเขา แต่นางก็มักจะวางตัวอย่างสำรวมและสุขุมตลอดมาไหนเลยจะเหมือนวันนี้ ช่างราวกับหญิงชาวบ้านปากตลาดจริงๆ เวินฉางอวิ้นหน้าแดงก่ำ กล่าวด้วยความลำบากใจ “ม่อโฉวซือไท่ ช่วงนี้ท่านพ่อของข้าสุขภาพไม่ดี กำลังพักรักษาตัว...”“พักรักษาตัว? เหอะ ทำเรื่องชั่วช้าไว้มาก คราวนี้กรรมตามสนองแล้วกระมัง?”“ม่อโฉวซือไท่!”เวินฉางอวิ้นทนฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆ “ท่านโปรดให้ความเคารพท่านพ่อของข้าด้วย ที่นี่คือจวนเจิ้นกั๋วกง ไม่ใช่อารามสุ่ยเยว่ของพวกท่าน!”“อย่าว่าแต่ที่นี่คือจวนเจิ้นกั๋วกงเลย ต่อให้ที่นี่เป็นวังหลวง วันนี้เจ้าก็ต้องเรียกเขาออกมาพบข้า!”ม่อโฉวซือไท่จ้องมองเวินฉางอวิ้นตาเขม็ง “เจ้าจะไปเรียกหรือไม่? ถ้าเจ้าไม่ไปเรียก ข้าก็จะเข้าไปหาเอง! บังเอิญว่าข้าคุ้นเคยกับสวนแห่งนี้เป็นอย่างดี!”เวินฉางอวิ้นที่ถูกจ้องตาเขม็งก็รู้สึกขนลุกซู่ จึงได้แต่พูดว่า “ม่อโฉวซือไท่โปรดรอสักครู่ ข้าจะเข้าไปถามท่านพ่อก่อน”หลังจากเวินฉางอวิ้นไปตามคนแล้ว ม่อโฉวซือไท่ก็หันกลับมามอง พบว่าลูกศิษย์ของตนจ้องมอง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 265

    “ข้าไม่มีทางเชื่อเรื่องเช่นนี้เพียงเพราะคำพูดของเจ้า!”เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเวินซื่อที่ยืนอยู่ด้านข้างพลันหัวเราะเยาะออกมานางถือโอกาสเยาะเย้ยใครบางคน “ถึงแม้ว่าท่านเจิ้นกั๋วกงจะไม่เชื่อคำพูดของท่านอาจารย์ของข้า แต่เมื่อครู่นี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธว่าเวินเยวี่ยเป็นบุตรนอกสมรสของท่าน ช่างน่าสนใจจริงๆ ”คำพูดนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตระหนักได้ทันทีเวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่งเวินฉางอวิ้นมองท่านพ่อของเขาด้วยสีหน้าซับซ้อนแม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้คำตอบจากความเงียบของท่านพ่อของเขาแล้ว แต่การยืนยันอีกครั้งในตอนนี้ ก็ยังทำให้เขารู้สึกแย่อยู่ดีเขาไม่คิดเลยว่าท่านพ่อจะทรยศต่อท่านแม่ของพวกเขาจริงๆ ต้องรู้ว่าก่อนหน้านี้ ภาพลักษณ์ของท่านพ่อในสายตาของพวกเขานั้น คือผู้ที่รักท่านแม่ของพวกเขาอย่างสุดหัวใจเพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านพ่อของพวกเขาไม่เคยมีอนุภรรยาเลย ดังนั้น ความรักของพวกเขาที่มีต่อท่านพ่อจึงยิ่งลึกซึ้งแต่ไม่คาดคิดว่า ในวันนี้ภาพลักษณ์ของท่านพ่อผู้แสนดีกลับถูกทำลายลงอย่างย่อยยับท่านพ่อของพวกเขาไม่เพียงแต่ทรยศต่อท่านแม่ของพวกเขาเท่านั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 266

    สุดท้าย เวินซื่อพวกนางศิษย์อาจารย์สองคนก็ถูกเชิญออกไปก่อนที่เวินซื่อจะจากไป นางหันกลับไปมองเวินฉางอวิ้น แล้วทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง“พี่ใหญ่ ท่านแม่รักพวกเรามาก ดังนั้นอย่าทำให้นางผิดหวัง”เวินฉางอวิ้นยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเขามองเวินซื่อที่หันหลังเดินจากไปอย่างเหม่อลอย สุดท้ายก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นตั้งแต่น้องห้าออกจากสกุลเวิน นางก็ไม่ได้เรียกเขาแบบนี้มานานแล้วใช่แล้ว เขาคือพี่ใหญ่ของพวกเขาเชียวนะและเป็นบุตรคนแรกของท่านแม่ท่านแม่รักพวกเขามากขนาดนั้น หากนางได้เห็นบุตรทั้งห้าคนของตัวเองกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ คงจะรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดมากกระมัง?“ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของหญิงบ้าคนนั้นหรอก น้องหกของเจ้าตอนนี้ยังไม่กลับมา เวินซื่อลงเขามาพอดี เจ้าตามนางไป ดูว่านางจะไปที่ไหนต่อ เผื่อว่าจะพบเบาะแสของน้องหกของเจ้า”เวินเฉวียนเซิ่งตบไหล่ของเวินฉางอวิ้น แล้วพูดกับเขา“แล้วเรื่องของท่านแม่เล่า? ท่านพ่อไม่ไปดูหน่อยหรือ?”เวินฉางอวิ้นเงยหน้าขึ้นสบตากับเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง “พ่อจะไปดูเดี๋ยวนี้ แต่เจ้าจะทิ้งน้องหกของเจ้าไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นรีบไปเถอะ”เขาคิดว่าเม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 267

    “ท่านแม่...ลูกมาช้าไปแล้ว เป็นลูกที่อกตัญญู!”เวินฉางอวิ้นมองร่องรอยเหล่านั้นที่ถูกปกปิดเอาไว้ เขาแทบจะกัดฟันร้องไห้ดอกกล้วยไม้ที่พวกเขาพี่น้องทั้งห้าคนปลูกไว้ให้ท่านแม่ถูกขุดออกไปจำนวนมาก ดูก็รู้ว่าที่นี่ถูกคนขุดขึ้นมาอย่างแน่นอนและครั้งล่าสุดที่พวกเขามาเยี่ยมท่านแม่ ก็เป็นวันครบรอบวันตายของท่านแม่แท้ๆ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสี่เดือน!เวลานี้ เมื่อดูจากร่องรอยที่ถูกเคลื่อนย้ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่นานมานี้เองดังนั้น หมายความว่าศพของท่านแม่ถูกขโมยไปภายในสี่เดือนนี้ หรือแม้กระทั่งถูกขโมยไปภายในเดือนนี้ด้วยซ้ำ!หากเป็นน้องหกจริงๆ เหตุใดนางถึงต้องทำแบบนี้ด้วย?!ทันใดนั้น เวินฉางอวิ้นก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าตกตะลึงเขาเอ่ยถามทั้งน้ำตาและรอยยิ้ม “ท่านพ่อ หรือว่าที่น้องหกทำแบบนี้เพราะว่าครั้งนั้นข้าตีนาง? นางจึงทำแบบนี้เพื่อแก้แค้นข้า?”“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น...”เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวอย่างยากลำบาก “เจ้าเองก็รู้นี่ว่าเยวี่ยเอ๋อร์นาง...”“ข้าไม่รู้!”เวินฉางอวิ้นพลันตะโกนทั้งน้ำตาบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ เวลานี้กลับกอดป้ายหลุมศพของท่านแม่ซึ่งเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 268

    เมื่อกลับเข้ามาในมิติของหยกแล้ว เวินซื่อก็ลากเวินเยวี่ยออกมาจากกรงเหล็กทันที“กรี๊ดดด!”“นังบ้า! นังสารเลว!”“เจ้าจะทำอะไรอีก?!”เดิมทีเวินเยวี่ยกำลังพักผ่อน ตั้งใจจะรอให้ร่างกายฟื้นฟูกำลังขึ้นมาสักหน่อยแล้วค่อยหาโอกาสหลบหนี ไม่คิดว่าเวินซื่อจะกลับมาเร็วขนาดนี้และพอกลับมา ก็เหมือนกับราชสีห์ที่กำลังเดือดดาล“ข้าจะฆ่าเจ้า!”เวินซื่อฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเวินเยวี่ย“ข้าให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย บอกมาว่าศพของเจ้าแม่ของข้าอยู่ที่ไหน!”เวินเยวี่ยไอออกมา พยายามดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง “จะ...เจ้าฝันไปเถอะ!”นางยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าจะฆ่าข้า ข้าก็จะไม่บอกเจ้าเด็ดขาด!”ศพของท่านแม่ของเวินซื่อ คือหนทางสุดท้ายที่จะช่วยให้นางหนีรอดออกไปได้ดังนั้น นางจะไม่ยอมบอกนังเด็กสารเลวเวินซื่อนี่ง่ายๆ !ไม่เพียงเท่านั้น นางยังต้องการให้เวินซื่อคุกเข่าอ้อนวอนนางในท้ายที่สุด!“ดี เช่นนั้นก็มาต่อจากเมื่อคืนกันเลย”เวินซื่อลากเวินเยวี่ยขึ้นไปบนชั้นสอง ใช้กำลังมัดนางไว้บนแท่นปรุงยา จากนั้นก็ยัดยาพิษที่เตรียมไว้สำหรับเวินเยวี่ยเข้าไปในปากของนาง“อื้อ...แค่กๆๆ !”“เจ้าเอาอะไรให้ข้า

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 578

    เวินเฉวียนเซิ่งแทบจะอดด่าทอนางอีกครั้งไม่ได้ว่า “นังโง่”จนป่านนี้เพิ่งจะรู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน ไม่ใช่นังโง่แล้วจะเป็นอะไรได้?เจอแบบนี้ทีไรก็ต้องเป็นลูกสาวของตัวเองไม่รู้จริง ๆ ว่าเหมือนใครกันแน่!“ดีที่สุดของเจ้าก็คือภาวนาให้พวกเขาไม่ถูกจับ หรือไม่ก็ภาวนาให้พวกเขารีบตายเร็ว ๆ มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลาหากพวกเขามีใครคนหนึ่งถูกจับ เจ้าลองทายดูสิว่าพวกเขาจะอดทนต่อการลงโทษของกรมอาญาได้หรือไม่?”เวินเฉวียนเซิ่งมองเวินเยวี่ยด้วยสายตาที่ไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่งเวินเยวี่ยอดกลืนน้ำลายไม่ได้ในทันที “น่าจะ…น่าจะไม่ถูกจับได้กระมัง?”คนเหล่านั้นดูชั่วร้ายมาก คิดว่าต้องเป็นคนโหดเหี้ยมแน่นอนต่อให้ถูกจับก็ต้องฆ่าตัวตายทันทีเป็นแน่ดังนั้นไม่มีทาง ไม่มีทางเด็ดขาดเวินเยวี่ยกำลังคิดเช่นนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าขณะนี้ภายในเรือนจำของกรมอาญากำลังคุมขังใครสักคนอยู่เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วอย่างเย็นชา คร้านจะมองดูสภาพอันโง่เขลาของบุตรสาวคนนี้อีกต่อไป “พ่อให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าก็ไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์เลย ในเมื่อหาอะไรก็ไม่พบ เช่นนั้นก็ไสหัวไปเป็นชาวบ้านในชนบทกับพี่รองของพวกเจ้าเถอะ”เขาพูดพลา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 577

    ดวงตาของเวินซื่อขรึมลงแต่ก็ไม่เป็นไรต่อให้ไม่สามารถทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงทั้งหมดได้โดยตรง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะบีบบังคับพวกเขาทีละก้าวให้เดินไปสู่ทางตันเวินซื่อคิดเช่นนี้ จิตใจที่เคยหุนหันพลันแล่นก็สงบลงอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะยังไม่แน่นอน แต่ในเมื่อได้รู้ข่าวนี้แล้ว จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ทำไมไม่..ลองดูสักหน่อยเล่า?เวินซื่อคิดเช่นนี้ สายตากวาดผ่านแมลงพิษหลายชนิดของนางทีละตัว สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่มดหลายตัวที่อยู่บนขอบถูกต้อง ก็แค่มดไม่กี่ตัวชื่อของมันควรจะเรียกว่ามดคันไฟนี่คือมดที่มีนิสัยก้าวร้าวมากชนิดหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับแมลงพิษร้ายแรงชนิดอื่นแล้ว น้ำพิษของมันไม่ได้มีความเป็นพิษมากนักดังนั้นเวินซื่อจึงพุ่งเป้าศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับยาพิษที่เพาะเลี้ยงพวกมันเป็นพิเศษ ไม่ได้ใช้พิษร้ายแรง แต่ใช้ยาพิษชนิดที่มีฤทธิ์คล้ายกับการเผาไหม้กัดกร่อนมาเพาะเลี้ยงพวกมันแต่มดคันไฟชนิดนี้แข็งแกร่งจริง ๆ ในตอนแรกพวกมันปฏิเสธยาพิษของเวินซื่อกว่านี้ด้วยซ้ำ ต่อให้ใช้น้ำทิพย์ก็ยังตายเป็นเบือ โชคดีที่เวินซื่อเพิ่งได้รับราชินีมดคันไฟเหล่านี้มาจากจินซือถู ก็เลยปล่อยให้พวกมันขยายพันธ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 576

    “โอ้สวรรค์ ทำไมพวกเจ้าถึงได้ออกลูกกันมากมายขนาดนี้?”หลังจากที่เวินซื่อก้มหัวหลบ ก็เงยหน้าขึ้นมองใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่กระจายตัวอย่างหนาแน่นทั่วชั้นสอง แล้วอดแสยะมุมปากไม่ได้นางไม่ได้เข้ามาหลายวันแล้ว ทำไมที่นี่กำลังจะกลายเป็นรังแมงมุมไปแล้วไม่ใช่ว่านางไม่อยากให้แมงมุมเหล่านี้ออกลูก เพียงแต่มันมากเกินไป ต่อให้นางไม่กลัวแมงมุม แต่ก็ต้องมีอาการกลัวรูแล้ว“ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องย้ายรังให้พวกเจ้าแล้ว”ถ้าแมงมุมเหล่านี้ยังอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าวันหลังนางก็อย่าได้คิดที่จะเข้ามาเหยียบชั้นสองนี้อีกเลยเวินซื่อพูดจริงทำจริง ทันทีที่เกิดความคิด แมงมุมทั้งหมดก็พากันย้ายบ้าน ไปยังด้านนอกของห้องใต้หลังคาทั้งหมดเวินซื่อมองออกไปด้านนอก นอกจากแปลงสมุนไพรและลำธารเล็ก ๆ ไม่กี่แห่งแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่นั้นเป็นทุ่งหญ้า ราบเรียบไม่มีที่สิ้นสุดเหล่าแมงมุมไม่ชอบสถานที่แบบนี้หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เวินซื่อก็ออกไปจากมิติก่อนย้ายต้นไม้ใหญ่หลายต้นเข้าไปในมิติที่อยู่หลังเขา รวมถึงพุ่มไม้ หินก้อนใหญ่ ตลอดจนตะไคร่น้ำเป็นต้นหลังจากเอาเข้ามาในมิติแล้ว ก็ได้ออกแบบป่าไม้ขนาดเล็กให้บรรดาแมงมุมอาศัยอยู่ได้ไว้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 575

    แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เวินฉางอวิ้นได้พยายามอ้าปาก โต้แย้งด้วยเสียงอันแหบพร่าของตัวเอง “น้อง...น้องห้า...ไม่ใช่...เพราะจวน...จวนเจิ้นกั๋วกง นาง...นาง...ต่อสู้ด้วยตัวเอง...ต่อสู้มาด้วยตัวเอง”ไม่ใช่ง่าย ๆ กว่าจะพูดจบประโยคนี้ได้เพียงประโยคเดียวก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดในร่างกายของเวินฉางอวิ้นในเวลานี้แล้วแต่เขากลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพียงแต่ไอไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะไอด้วยความตื่นเต้นเกินไป จึงมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากเล็กน้อยหลังจากฟังคำพูดของเขาจบเวินเฉวียนเซิ่งก็หัวเราะไม่ออก เขายืนตัวตรงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกไม่นึกว่าตัวเองพูดไปมากขนาดนี้แล้ว สุดท้ายลูกชายที่โง่เขลาคนนี้แค่ต้องการโต้แย้งเพียงประโยคนั้น?ในสายตาของเวินเฉวียนเซิ่ง หากเวินฉางอวิ้นคิดแบบนี้ ก็ช่างไร้เดียงสาเกินไปจริง ๆ เวินซื่อเดินมาถึงก้าวนี้แล้ว จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาได้อย่างไร?ลูก ๆ โตแล้ว ปีกกล้าขาแข็งแล้วคิดว่าทุกอย่างที่ตัวเองมีนั้นได้ต่อสู้มาด้วยตัวเอง แต่หากไม่มีพวกเขาจวนเจิ้นกั๋วกง แล้วจะมีเวินซื่ออย่างในวันนี้ได้อย่างไร?ช่างน่าขบขันเสียจริงขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกเหม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status