Share

บทที่ 270

Author: จิ้งซิง
“เจ้าเจอเขาเมื่อเร็วๆ นี้หรือ?”

เวินซื่อส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่ เขาขโมยของสำคัญมากของข้าไป ดังนั้นตอนนี้ข้ากำลังตามหาเขาอยู่”

จินซือถูหัวเราะเยาะทันที “เวินเยวี่ยสั่งการสินะ? ปกติพวกนั้นก็โผล่มาให้เห็นแวบๆ แล้วหายตัวไป ต่อให้เป็นเสอจิ่วข้าก็เจอแค่ไม่กี่ครั้ง ส่วนคนที่เหลือข้าไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ”

“ซ่อนตัวลึกขนาดนี้เชียว?”

เวินซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย

จินซือถูเอ่ยขึ้น “จะตามหาพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายดายเช่นนั้น แต่เสอจิ่วผู้นั้นน่าจะปรากฏตัวขึ้นเร็วๆ นี้”

เวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง “เป็นเพราะเวินเยวี่ยอยู่ในมือของข้าอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เวินเยวี่ยเป็นอะไรไปแน่ ดังนั้นช่วงนี้เจ้าควรระวังตัวสักหน่อย อย่าหายไปเสียก่อนที่จะช่วยทำยาแก้พิษให้ข้าล่ะ”

ขณะที่จินซือถูพูดประโยคนี้ ท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

เวินซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “หากเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ต้องระวังตัวหน่อยแล้วล่ะ”

“ข้าจะต้องระวังอะไร? เดิมทีข้าก็เป็นแค่หุ่นเชิดที่ถูกเวินเยวี่ยควบคุมอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้เพราะเวินเยวี่ยถูกจับ ข้าก็เลยกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกเจ้าควบคุมแทน พวกเขาจะมาโทษหุ่นเชิดที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 271

    ราวกับว่ามาจากสำนักเดียวกันแต่จินซือถูกลับบอกว่าเขาเคยเห็นเสอจิ่วแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นและเมื่อดูจากท่าทีที่เขาพูดถึงเสอจิ่ว ก็ดูเหมือนจะไม่รู้จักจริง ๆเนื่องจากเป็นความสงสัยเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเวินซื่อจึงไม่ได้คิดอะไรต่อเพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ไม่มีเวลาให้เสียเปล่ามากนักเวินซื่อกลับเข้ามาในมิติในหยกอีกครั้ง ในเมื่อช้าเร็วเสอจิ่วก็จะมาหาถึงเรือนอยู่แล้ว เช่นนั้นนางก็จะเตรียมรับมืออีกฝ่ายเป็นอย่างดี……ในขณะเดียวกัน...เมืองหลวงภายในจวนเจิ้นกั๋วกง“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อว่าน้องหกจะทำเรื่องแบบนี้! ต้องเป็นเวินซื่อที่ใส่ร้ายน้องหกอีกเป็นแน่!”หลังจากกลับไปในวันนั้น เวินฉางอวิ้นที่ผิดหวังกับพ่อของตัวเองเป็นอย่างมาก ก็ไม่ลังเลที่จะบอกน้องชายทั้งสองของตัวเองเรื่องที่มารดาถูกขโมยร่างไปปฏิกิริยาของทั้งสองนั้นตื่นเต้นมากน่าเสียดาย ความตื่นเต้นของพวกเขากลับไม่เหมือนที่เวินฉางอวิ้นคิดไว้“ตอนนี้สำคัญหรือว่าน้องห้ากับน้องหกใครใส่ร้ายหรือใครเป็นคนทำ? สิ่งที่สำคัญมิใช่ร่างของท่านแม่ที่ถูกขโมยไปจริง ๆ และพวกเราควรหาวิธีเอาร่างของนางคืนมาโดยเร็วที่สุดหรอกหรือ?!”“ข้าย่อมรู้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 272

    หลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้ว เวินจื่อเยวี่ยก็นำว่าวเด็กเล่นตัวหนึ่งออกมาจากกล่องไม้ขนาดใหญ่ใบหนึ่งอย่างระมัดระวังว่าวตัวนี้เป็นตัวที่มารดาทำให้เขาเองกับมือตอนที่เขายังเด็ก แต่ตั้งแต่มารดาล่วงลับไป เขาก็ไม่ได้เอาออกมาอีกเลยจนกระทั่งวันนี้ ในที่สุดเขาก็หยิบว่าวตัวนี้ออกมาอีกครั้งแต่กลับไม่ใช่เพราะแม่ของเขาน้องหกต้องถูกเวินซื่อซ่อนตัวไว้แน่ หากต้องการให้เวินซื่อปล่อยตัวน้องหกออกมา ก็ต้องนำสิ่งของที่เวินซื่อให้ความสำคัญมาแลกเปลี่ยนกับนาง”ส่วนสิ่งที่เวินซื่อให้ความสำคัญมากที่สุดคือของสิ่งใดนั้น ความจริงเวินจื่อเยวี่ยและพวกเขาต่างรู้แน่ชัดมาโดยตลอดเพราะถึงอย่างไรตอนแรกที่เวินซื่อทูลขอราชโองการออกบวชเป็นชีนั้น พอลับหลังพวกเขาก็ต้องการนำป้ายวิญญาณของมารดาไปด้วยต่อมาก็ใช้พี่รองมาข่มขู่พวกเขา เอาสินเดิมของมารดาไปด้วยบัดนี้ข้าวของของมารดาในครอบครัวนี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้นแล้วว่าวตัวนี้...ความจริงเวินจื่อเยวี่ยเสียดายมาก โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าจะนำว่าวตัวนี้ไปแลกเปลี่ยนกับเวินซื่อ เขาก็ยิ่งตัดใจไม่ลงแต่ว่าน้องหกยังอยู่กับเวินซื่อเวลานี้เวินซื่อยังป้ายกิตติศัพท์ว่าน้องห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 273

    พอเวินซื่อได้ฟังก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการแลกเปลี่ยนอะไรกับนางแต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งของในมือเวินจื่อเยวี่ยจะมีคุณค่าเพียงพอหรือไม่เวินซื่อในขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเวินจื่อเยวี่ยเอาสิ่งของอะไรมาเมื่อนางออกไปและได้เห็นว่าวในมือของเวินจื่อเยวี่ยแล้ว นางก็หัวเราะออกมาด้วยความโมโห“นึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะเอาว่าวที่ท่านแม่ทำให้ท่านกับมือออกมาจริง ๆ?!”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าว่าวนี้มีความหมายต่อข้าอย่างไร ข้าก็จะไม่พูดไร้สาระให้มากนัก เจ้าต้องการสิ่งของของท่านแม่มิใช่หรือ? ตอนนี้ข้าจะมอบว่าวตัวนี้ให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องส่งตัวน้องหกออกมา”เวินซื่ออดหัวเราะเยาะไม่ได้ “เวินจื่อเยวี่ย ข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านจะทำเพื่อเวินเยวี่ยจนถึงขั้นนี้ ท่านคงไม่ได้คิดจะไม่ยอมรับแม้แต่แม่ของตัวเองเพื่อนางหรอกนะ?”“ข้าไม่ได้ไม่ยอมรับท่านแม่!”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้ของเวินซื่อก็เอ่ยโต้แย้งทันที“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าลักพาตัวน้องหกไป ข้าจะไม่มีทางเอาสิ่งของของท่านแม่ออกมาหรอก!”เวินซื่อเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ดังนั้นระหว่างแม่ของตัวเองกับคนนอกคนเดียว ท่านก็เลือกคนนอก!”“เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 274

    “เจ้าว่าอะไรนะ?”เวินจื่อเยวี่ยมองเวินซื่ออย่างไม่เชื่อสายตาเวินซื่อพูดซ้ำอย่างเย็นชาอีกรอบหนึ่ง “ข้าบอกว่า ข้าไม่แลก! ตอนนี้ได้ยินชัดเจนหรือยัง? ยังต้องการให้ข้าพูดซ้ำอีกรอบหรือไม่?”“เวินซื่อ! เจ้า...!”ขณะที่เวินจื่อเยวี่ยเรียกชื่อเวินซื่ออีกครั้ง เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาทันทีเวินจื่อเยวี่ยตกใจในทันใด ชักกริชออกมาโดยสัญชาตญาณ คิดจะป้องกันตัวแต่การเคลื่อนไหวของเขาช้าเกินไปเขาเพิ่งชักกริชออกมาก็ถูกจู๋เยวี่ยปัดมันทิ้งไป จากนั้นจู๋เยวี่ยก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งกำหมัด ต่อยหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรง“พลั่ก!”เวินจื่อเยวี่ยโดนต่อยอย่างจังจนล้มลงกับพื้นแต่ไม่รอให้เขาลุกขึ้นโต้ตอบกลับ จู๋เยวี่ยก็ประทับฝ่าเท้าเข้าที่หน้าอกอีกครั้ง ถีบเขากระเด็นออกไปการถีบครั้งนี้ทำให้เวินจื่อเยวี่ยแทบกระอักเลือด“เจ้า...เจ้าเป็นใครกัน?! ถึงกล้าลงไม้ลงมือกับคุณชายอย่างข้า!”เวินจื่อเยวี่ยในเวลานี้ยังไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆเขาพูดว่า “คุณชายอย่างข้า” เพื่อที่จะข่มขู่จู๋เยวี่ยแต่ขณะที่เวินซื่อก้าวเข้ามาทีละก้าวจากทางด้านหลัง เดินเข้ามาหาเวินจื่อเยวี่ยอย่างช้า ๆ จู๋เยวี่ยเข้ามายืนอกผายไหล่ผึ่งอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 275

    โชคดีที่เตรียมตัวไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงโดนงูพิษตัวนั้นกัดไปแล้ว“ขอถามสักหน่อยได้หรือไม่ ใครเป็นคนแจ้งข้อมูลนี้ให้ท่านทราบ?”ชายวัยกลางคนเสอจิ่วหัวเราะเสียงแหบพร่า “คนทรยศเช่นนี้ข้าเสอจิ่วน่าจะกำจัดเขาให้พ้นไปตั้งแต่เนิ่น ๆ”เวินซื่อคงไม่ทรยศต่อจินซือถูในเวลานี้แน่นอนนางเพียงส่งเสียงยิ้มเยาะ “นายของพวกเจ้าขี้ขลาดเกินไป แค่ข่มขู่ให้ทุกคนตกใจไปอย่างนั้นเอง แค่นี้ยังต้องถามคนอื่นอีกหรือ?”“จุ๊ ๆ คำพูดนี้พูดได้มีเหตุผลมาก”เสอจิ่วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แต่ข้าอยากรู้มาก ธิดาศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านข่มขู่คุณหนูของข้าอย่างไร”ท่าทีที่เขาถามคำถามนี้อย่างยิ้มแย้ม เต็มไปด้วยการแสดงความน่าเกรงขามเหมือนกับวางแผนถามให้กระจ่าง จากนั้นค่อยแก้แค้นให้เวินเยวี่ยอย่างหนักน่าเสียดายต่อให้เขาจะแสดงความน่าเกรงขาม เวินซื่อก็ไม่เกรงกลัวเขาเลย“วิธีการของข้ามีมากมาย หากเจ้าอยากรู้มากละก็ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสาธิตให้ดูบนร่างกายของเจ้า”เวินซื่อยิ้มเล็กน้อยเช่นกัน ในดวงตามีแววเย็นชาอย่างเหลือล้น“ช่างมันเถอะ ร่างกายของข้าเสอจิ่วยังมีความลับใหญ่หลวงเก็บซ่อนอยู่ ไม่อาจปล่อยให้ธิดาศักดิ์สิทธิ์สาธิตบ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 276

    หลังจากนัดเวลาแลกตัวกันแล้ว เสอจิ่วก็หันหลังเดินจากไปแต่ทันทีที่เขาออกจากเรือนเล็กของเวินซื่อ ก็สังเกตเห็นบางอย่างโดยฉับพลัน พลางหันหน้ามองไปในทิศทางหนึ่งจากนั้นก็เห็นแม่ชีเฒ่าหน้าตาบึ้งตึงผู้หนึ่งยืนอยู่ใต้ประตูพระจันทร์ที่อยู่ไม่ไกลนัก กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัวเสอจิ่วไม่เห็นแม่ชีเฒ่าผู้นี้อยู่ในสายตาเขาสะบัดเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง งูหลายตัวก็โผล่หัวออกมาจากใต้เสื้อผ้าของเขา ส่งเสียงขู่ “ฟ่อฟ่อ” ไปทางแม่ชีเฒ่าเสอจิ่วยังนึกว่าจะได้เห็นแม่ชีเฒ่าผู้นั้นตกใจจนเสียขวัญ แต่นึกไม่ถึงว่าสีหน้าของแม่ชีเฒ่าผู้นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงสักนิดเสอจิ่วส่งเสียง “หึ” ในทันที รู้สึกเบื่อหน่ายก่อนจะหันหลังกลับหายเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ในเรือนเล็ก หลังจากที่เสอจิ่วจากไปแล้วจู๋เยวี่ยก็ทำการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกเรือนเล็กจนทั่วการตรวจสอบครั้งนี้ ได้พบงูพิษมากกว่าสิบตัว“เสอจิ่วผู้นี้มาครั้งหนึ่ง เรือนเล็กของข้าหลังนี้ก็แทบจะกลายเป็นรังงูไปแล้ว”หลังจากฆ่างูพิษพวกนั้นหมดแล้ว จู๋เยวี่ยก็รวบรวมซากงูพิษไว้ด้วยกันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เตรียมจะจัดการเผาพวกมันทิ้งทันทีและในขณะนี้เอง เสียงของม่อโ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 277

    คำพูดนี้ดูเหมือนกลัวว่าม่อโฉวซือไท่จะคิดมากเกินไป ดังนั้นจึงตั้งใจอธิบายโดยเฉพาะแต่เหมือนเขายิ่งอธิบายมากเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยากปกปิดแต่กลับเปิดเผยกว่าเดิมเวินซื่อเชิดหน้าลุกขึ้นยืน “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องรีบเข้ามานั่งก่อนเถิด ข้าจะเข้าไปชงชาร้อน ๆ”นางสาวเท้าวิ่งเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบเหลือเพียงเป่ยเฉินหยวนและม่อโฉวซือไท่อยู่ในเรือนม่อโฉวซือไท่กล่าวอย่างราบเรียบ “ความคิดของท่านอ๋องชัดเจนเกินไป แม้ว่าท่านจะคิดอะไรก็จงสำรวมไว้บ้าง ตอนนี้อู๋โยวยังเป็นคนของอารามสุ่ยเยว่ของเรา ท่านทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นผลเสียต่อการบำเพ็ญตนของนางเท่านั้น”เป่ยเฉินหยวนไม่ควรโต้แย้งในขณะนี้จริง ๆหลังจากเขาได้รับจดหมายแล้ว ก็เป็นห่วงมากเหลือเกิน ถึงได้วิ่งมาหาอย่างทนไม่ไหวแต่หลังจากมาถึงแล้ว เมื่อเห็นม่อโฉวซือไท่อยู่ในเรือนเล็ก เขาถึงรู้ตัวว่าการกระทำของตัวเองนั้นบุ่มบ่ามเพียงใดการวิ่งมาหาถึงเรือนสตรีในยามกลางดึก หากถูกใครที่มีเจตนาไม่ดีเห็นเข้า อาจทำให้ชื่อเสียงของอู๋โยวแพร่กระจายออกไปในทางเสื่อมเสียได้เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นมาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เป็นความผิดของข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 278

    หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนกลับไปแล้ว เวินซื่อก็กลับเข้ามาในมิติอีกครั้งแต่คราวนี้นางไม่ได้ไปหาเวินเยวี่ยอีกอีกสามวันก็จะเป็นเวลาแลกตัวภายในสามวันนี้ นางจำเป็นต้องตระเตรียมการบางอย่างก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องรับมือกับชายวัยกลางคนผู้นั้นที่มีนามว่าเสอจิ่วอีกฝ่ายชำนาญเรื่องการใช้พิษ เรื่องนี้อาจารย์ของนางสามารถรับมือได้แต่อีกฝ่ายยังสามารถควบคุมงูได้อีกซ้ำยังเป็นงูพิษร้ายแรงอีกด้วยเรื่องนี้หากยังไม่คิดหาวิธีแก้ไข ถึงเวลานั้นพวกนางก็จะยิ่งเป็นฝ่ายถูกกระทำเพราะถึงอย่างไรต่อให้ไม่เกรงกลัว ก็ยังกลัวถูกงูกัดอยู่ดีดังนั้นหลังจากกลับเข้ามาในมิติแล้ว เวินซื่อจึงขึ้นไปบนชั้นสองก่อนตอนนี้ที่นี่ไม่เพียงแต่มีพวกสมุนไพรที่มีความเป็นพิษวางอยู่เท่านั้น แต่ยังมีแมลงพิษอีกหลายตัวด้วยมีมดคันไฟ มีคางคก แล้วยังมีแมงมุมพิษจำนวนหนึ่งอีกด้วยแต่หลังจากที่เวินซื่อกวาดสายตามองพวกมันแล้ว สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่แมงป่องกว่าสิบตัวในมุมหนึ่งถ้าให้บอกว่าพิษที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดาสัตว์มีพิษทั้งห้า ก็ต้องเป็นแมงป่องที่เป็นผู้นำของสัตว์มีพิษทั้งห้าอยู่แล้วไม่ใช่เพราะพิษบนตัวพวกมันเท่านั้น แต่ยังเป็น

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 578

    เวินเฉวียนเซิ่งแทบจะอดด่าทอนางอีกครั้งไม่ได้ว่า “นังโง่”จนป่านนี้เพิ่งจะรู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน ไม่ใช่นังโง่แล้วจะเป็นอะไรได้?เจอแบบนี้ทีไรก็ต้องเป็นลูกสาวของตัวเองไม่รู้จริง ๆ ว่าเหมือนใครกันแน่!“ดีที่สุดของเจ้าก็คือภาวนาให้พวกเขาไม่ถูกจับ หรือไม่ก็ภาวนาให้พวกเขารีบตายเร็ว ๆ มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลาหากพวกเขามีใครคนหนึ่งถูกจับ เจ้าลองทายดูสิว่าพวกเขาจะอดทนต่อการลงโทษของกรมอาญาได้หรือไม่?”เวินเฉวียนเซิ่งมองเวินเยวี่ยด้วยสายตาที่ไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่งเวินเยวี่ยอดกลืนน้ำลายไม่ได้ในทันที “น่าจะ…น่าจะไม่ถูกจับได้กระมัง?”คนเหล่านั้นดูชั่วร้ายมาก คิดว่าต้องเป็นคนโหดเหี้ยมแน่นอนต่อให้ถูกจับก็ต้องฆ่าตัวตายทันทีเป็นแน่ดังนั้นไม่มีทาง ไม่มีทางเด็ดขาดเวินเยวี่ยกำลังคิดเช่นนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าขณะนี้ภายในเรือนจำของกรมอาญากำลังคุมขังใครสักคนอยู่เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วอย่างเย็นชา คร้านจะมองดูสภาพอันโง่เขลาของบุตรสาวคนนี้อีกต่อไป “พ่อให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าก็ไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์เลย ในเมื่อหาอะไรก็ไม่พบ เช่นนั้นก็ไสหัวไปเป็นชาวบ้านในชนบทกับพี่รองของพวกเจ้าเถอะ”เขาพูดพลา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 577

    ดวงตาของเวินซื่อขรึมลงแต่ก็ไม่เป็นไรต่อให้ไม่สามารถทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงทั้งหมดได้โดยตรง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะบีบบังคับพวกเขาทีละก้าวให้เดินไปสู่ทางตันเวินซื่อคิดเช่นนี้ จิตใจที่เคยหุนหันพลันแล่นก็สงบลงอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะยังไม่แน่นอน แต่ในเมื่อได้รู้ข่าวนี้แล้ว จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ทำไมไม่..ลองดูสักหน่อยเล่า?เวินซื่อคิดเช่นนี้ สายตากวาดผ่านแมลงพิษหลายชนิดของนางทีละตัว สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่มดหลายตัวที่อยู่บนขอบถูกต้อง ก็แค่มดไม่กี่ตัวชื่อของมันควรจะเรียกว่ามดคันไฟนี่คือมดที่มีนิสัยก้าวร้าวมากชนิดหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับแมลงพิษร้ายแรงชนิดอื่นแล้ว น้ำพิษของมันไม่ได้มีความเป็นพิษมากนักดังนั้นเวินซื่อจึงพุ่งเป้าศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับยาพิษที่เพาะเลี้ยงพวกมันเป็นพิเศษ ไม่ได้ใช้พิษร้ายแรง แต่ใช้ยาพิษชนิดที่มีฤทธิ์คล้ายกับการเผาไหม้กัดกร่อนมาเพาะเลี้ยงพวกมันแต่มดคันไฟชนิดนี้แข็งแกร่งจริง ๆ ในตอนแรกพวกมันปฏิเสธยาพิษของเวินซื่อกว่านี้ด้วยซ้ำ ต่อให้ใช้น้ำทิพย์ก็ยังตายเป็นเบือ โชคดีที่เวินซื่อเพิ่งได้รับราชินีมดคันไฟเหล่านี้มาจากจินซือถู ก็เลยปล่อยให้พวกมันขยายพันธ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 576

    “โอ้สวรรค์ ทำไมพวกเจ้าถึงได้ออกลูกกันมากมายขนาดนี้?”หลังจากที่เวินซื่อก้มหัวหลบ ก็เงยหน้าขึ้นมองใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่กระจายตัวอย่างหนาแน่นทั่วชั้นสอง แล้วอดแสยะมุมปากไม่ได้นางไม่ได้เข้ามาหลายวันแล้ว ทำไมที่นี่กำลังจะกลายเป็นรังแมงมุมไปแล้วไม่ใช่ว่านางไม่อยากให้แมงมุมเหล่านี้ออกลูก เพียงแต่มันมากเกินไป ต่อให้นางไม่กลัวแมงมุม แต่ก็ต้องมีอาการกลัวรูแล้ว“ไม่ได้ ไม่ได้ ต้องย้ายรังให้พวกเจ้าแล้ว”ถ้าแมงมุมเหล่านี้ยังอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าวันหลังนางก็อย่าได้คิดที่จะเข้ามาเหยียบชั้นสองนี้อีกเลยเวินซื่อพูดจริงทำจริง ทันทีที่เกิดความคิด แมงมุมทั้งหมดก็พากันย้ายบ้าน ไปยังด้านนอกของห้องใต้หลังคาทั้งหมดเวินซื่อมองออกไปด้านนอก นอกจากแปลงสมุนไพรและลำธารเล็ก ๆ ไม่กี่แห่งแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่นั้นเป็นทุ่งหญ้า ราบเรียบไม่มีที่สิ้นสุดเหล่าแมงมุมไม่ชอบสถานที่แบบนี้หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เวินซื่อก็ออกไปจากมิติก่อนย้ายต้นไม้ใหญ่หลายต้นเข้าไปในมิติที่อยู่หลังเขา รวมถึงพุ่มไม้ หินก้อนใหญ่ ตลอดจนตะไคร่น้ำเป็นต้นหลังจากเอาเข้ามาในมิติแล้ว ก็ได้ออกแบบป่าไม้ขนาดเล็กให้บรรดาแมงมุมอาศัยอยู่ได้ไว้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 575

    แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เวินฉางอวิ้นได้พยายามอ้าปาก โต้แย้งด้วยเสียงอันแหบพร่าของตัวเอง “น้อง...น้องห้า...ไม่ใช่...เพราะจวน...จวนเจิ้นกั๋วกง นาง...นาง...ต่อสู้ด้วยตัวเอง...ต่อสู้มาด้วยตัวเอง”ไม่ใช่ง่าย ๆ กว่าจะพูดจบประโยคนี้ได้เพียงประโยคเดียวก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดในร่างกายของเวินฉางอวิ้นในเวลานี้แล้วแต่เขากลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพียงแต่ไอไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะไอด้วยความตื่นเต้นเกินไป จึงมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากเล็กน้อยหลังจากฟังคำพูดของเขาจบเวินเฉวียนเซิ่งก็หัวเราะไม่ออก เขายืนตัวตรงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกไม่นึกว่าตัวเองพูดไปมากขนาดนี้แล้ว สุดท้ายลูกชายที่โง่เขลาคนนี้แค่ต้องการโต้แย้งเพียงประโยคนั้น?ในสายตาของเวินเฉวียนเซิ่ง หากเวินฉางอวิ้นคิดแบบนี้ ก็ช่างไร้เดียงสาเกินไปจริง ๆ เวินซื่อเดินมาถึงก้าวนี้แล้ว จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาได้อย่างไร?ลูก ๆ โตแล้ว ปีกกล้าขาแข็งแล้วคิดว่าทุกอย่างที่ตัวเองมีนั้นได้ต่อสู้มาด้วยตัวเอง แต่หากไม่มีพวกเขาจวนเจิ้นกั๋วกง แล้วจะมีเวินซื่ออย่างในวันนี้ได้อย่างไร?ช่างน่าขบขันเสียจริงขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกเหม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status