Share

บทที่ 281

Author: จิ้งซิง
“ดี”

เพิ่งสิ้นเสียงเสอจิ่ว ยังไม่ทันที่เวินซื่อจะได้เอ่ยปาก ม่อโฉวซือไท่ข้างกายนางรับปากอย่างไม่ลังเล

ม่อโฉวซือไท่หันมองเวินซื่อ แววตาแน่วแน่มาก “ข้าไปเอง เจ้าอย่าขยับ”

เวินซื่ออ้าปากค้าง

เดิมทีนางอยากบอกว่านางควรไป

อย่างไรนั่นเป็นศพของมารดานาง

แต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อลังเลสักครู่ จากนั้นพยักหน้าเชื่องช้า

“ได้ อาจารย์ท่านไปเถอะ ระวังตัวด้วย”

กับพวกเสอจิ่วทั้งสามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จินซือถูลอบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามอย่างไม่ตั้งใจ “ให้ข้าไปหรือไม่?”

เสอจิ่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ เสอชี เจ้าไป”

เสอชีที่ปกปิดตัวอย่างมิดชิดพยักหน้ารับคำสั่ง “ขอรับ”

ผู้ที่อยู่ในลำดับเจ็ดเชื่อฟังผู้ที่อยู่ในลำดับเก้าขนาดนี้เชียว?

หรือการเรียงลำดับของคนพวกนี้ไม่ได้นำหน้าด้วยหนึ่ง แต่นำหน้าด้วยเก้าหรือ?

จินซือถูเหลือบมองเสอชีอย่างครุ่นคิดแวบหนึ่ง จากนั้นยักไหล่ แล้วหลีกทางให้

หลังจากเสอชีวางโลงศพชั้นนอกลง ก้าวเท้าเดินไปยังฝั่งตรงข้าม

ขณะเดียวกัน ม่อโฉวซือไท่จับลูกประคำในมือแน่นแล้วเดินไปทีละก้าว

เสอจิ่วจ้องแม่ชีเฒ่าตรงหน้าเขม็ง

จู่ๆ เขานึกขึ้นได้ว่าเมื่อสามวันก่อนเค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Petch Tongsittigon
พิมพ์ผิดเยอะเกินสลับชื่อกันไปหมด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 282

    ภายใต้คำสั่งของเวินเยวี่ย เสอจิ่วด้านหลังนางยิ้มจางๆ “น้อมรับคำสั่งของท่าน คุณหนูเวินเยวี่ย”น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้น เสียง “ฟ่อฟ่อ” ดังขึ้นจากทั่วสารทิศงูพิษสีเขียวหลายสิบตัวรีบเลื้อยเข้าไปหาพวกเวินซื่อทั้งสามคนอย่างรวดเร็วแล้วล้อมพวกนางไว้ทั้งหน้าหลังซ้ายขวาจนไม่มีทางหนีเวินเยวี่ยที่เห็นภาพนี้ รู้สึกราวกับตัวเองได้เห็นจุดจบของพวกเวินซื่อทั้งสามคนแล้ว โดยเฉพาะเวินซื่อ ในไม่ช้านางต้องคุกเข่าลงตรงหน้าตัวเองแล้วร้องไห้ขอร้อง!“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”เวินเยวี่ยอดไม่ได้จึงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ทว่าในขณะนั้นเอง สีหน้าของนางเปลี่ยนทันใด เสียงดัง “พรวด” กระอักบางสิ่งออกมา“คุณหนูเวินเยวี่ย!”เสอจิ่วตกใจ เห็นเพียงเลือดที่เวินเยวี่ยกระอักออกมาเป็นสีดำ!“เจ้าวางยาพิษไว้ก่อนหรือ!”เสอจิ่วจ้องเวินซื่ออย่างโกรธแค้นเวินซื่อมองงูพิษเหล่านั้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หากข้าไม่วางยาพิษไว้ก่อน จะป้องกันคนต่ำช้าอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร?”“ให้ตายสิ! นำยาถอนพิษมาให้ข้า!”“ย่อมได้แน่นอน แต่เจ้าต้องปล่อยพวกเราไปก่อน”เวินซื่อยิ้มจางๆ“แค่ก แค่ก แค่ก ห้ามให้พวกนางไป!”เวินเยวี่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 283

    ในยามที่เห็นแมงป่องเหล่านั้น เดิมทีเสอจิ่วและเสอชียังหันมองจินซือถูอย่างระแวงทว่าเมื่อเห็นสีหน้าที่ตะลึงยิ่งกว่าพวกเขา ความคลางแคลงจึงลดน้อยไปบ้าง“ไป! ไปเดี๋ยวนี้!”แมงป่องเหล่านั้นไม่ใช่แมงป่องทั่วไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไปงูของเขาต้องถูกฆ่าตายจนหมดแน่!เสอจิ่วไม่ลังเลอีกต่อไป จับตัวเวินเยวี่ยพร้อมกับเสอชีแล้วหันหลังหนีไป“ไม่! ข้าไม่ไป! พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์ แค่ผู้หญิงสามคนยังจัดการไม่ได้!”เวินเยวี่ยโกรธจนกัดฟันแทบแหลกหมดปากทว่าคราวนี้เสอจิ่วกับเสอชีกลับไม่ฟังที่นางพูด บังคับพาตัวนางไปด้วยจินซือถูหันจ้องมองเวินซื่อหนึ่งครั้ง แล้วรีบตามพวกเขาไปทันทีเมื่อเสอจิ่วหนีไป พวกงูพิษที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างพากันหลบหนีแน่นอน ตัวที่หนีไม่เร็ว ย่อมถูกแมงป่องเหล่านั้นของเวินซื่อฆ่าตาย“พวกเขาหนีไปแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ขมวดคิ้วมองทิศทางที่พวกเสอจิ่วกับเวินเยวี่ยหนีไปแต่จากนั้นเหมือนนางคิดถึงบางอย่าง จึงคลายคิ้ว “โชคดี ที่พวกเราวางแผนไว้แล้ว”“คาดว่าอีกเดี๋ยวท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนน่าจะจับตัวไว้ได้”ในที่สุดการปะทะกันก็จบลงสักที เวินซื่อโล่งอกอย่างอดไม่ได้“เก็บกวาดสักหน่อย แล้วไปจาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 284

    “อู๋โยว!”ม่อโฉวซือไท่กับจู๋เยวี่ยอุทานพร้อมกันเวินซื่อถูกเวินจื่อเฉินโผเข้าใส่จนล้มลงพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัวแต่นางไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้ รีบลุกขึ้นมองดูเวินจื่อเฉิน เห็นเพียงบนแขนของเขาถูกงูพิษที่เหลือเพียงครึ่งท่อนกัดเอาไว้แน่น!จู๋เยวี่ยรีบสะบัดหัวงูออกทันที จากนั้นใช้กระบี่แทงจนทะลุแต่น่าเสียดายที่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็สายไปเสียแล้วเวินซื่อรีบเปิดแขนเสื้อของเวินจื่อเฉินออก เห็นเพียงบนแขนของเขาบริเวณที่ถูกกัดกลายเป็นผืนสีดำคล้ำ“รีบมัดแขนส่วนบนของเขา! มัดให้แน่นหน่อย!”ม่อโฉวซือไท่มอบศพของหลานจื่อจวินให้เวินซื่อ จากนั้นระหว่างที่จู๋เยวี่ยกำลังมัดแขนให้เวินจื่อเฉิน จึงรีบนำยาถอนพิษออกมาหนึ่งเม็ด แล้วให้เวินจื่อเฉินกินแต่งูของเสอจิ่วล้วนมีพิษร้ายแรงเฉพาะตัว ยาถอนพิษเหล่านี้ทำได้เพียงบรรเทา ไม่สามารถขจัดพิษที่อยู่ในร่างเวินจื่อเฉินสิ่งสำคัญคือ ต่อให้บรรเทาก็คงยื้อเวลาได้ไม่นานนัก อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งเค่อ เวินจื่อเฉินต้องตายด้วยพิษงูนี้“น้อง...น้องพี่ เจ้าไม่เป็นไรนะ? งูนั่น...เจ้าอยู่ห่างไว้...อันตราย...”เวินจื่อเฉินทำราวกับไม่ตระหนักเลยสักนิดว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอัน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 285

    ความเงียบงันของนางทำให้ม่อโฉวซือไท่ตกอยู่ในความเงียบทันใดศิษย์อาจารย์สองคนหันมองหน้ากันมุมปากม่อโฉวซือไท่กระตุก “บอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว พิษกับยาถอนพิษต้องคิดค้นพร้อมกัน?”เวินซื่อกล่าวเสียงอ่อย “....เวลากระชั้นชิดเกินไป จึงคิดไม่ทัน...เอาเถอะ อีกเดี๋ยวข้ากลับไปจะเริ่มคิดค้นทันทีเจ้าค่ะ!”โชคดีที่ข่าวดีส่งมาเสียก่อนเมื่อด้านเป่ยเฉินหยวนนำกองทัพธงดำมาถึงละแวกใกล้เคียง จับตัวอีกฝ่ายได้จริงเรียกได้ว่าพวกของเสอจิ่วที่หนีรอดไปได้ตกสู่หลุมพลางของเป่ยเฉินหยวนอย่างจังทว่าตอนที่กำลังจะทำสำเร็จนั้น คนของจวนเจิ้นกั๋วกงมาแล้ว“พวกเขามาทำอะไร?”สีหน้าของเวินซื่อดูไม่ค่อยดีนักเป่ยเฉินหยวนรู้ว่าเมื่อนางได้ยินเช่นนี้ต้องอารมณ์เสียแน่ จึงพูดอย่างระอา “พวกเขาพาเวินเยวี่ยไปแล้ว จินซือถูหนีไปหนึ่งคน แต่เสอชีกับเสอจิ่วถูกจับตัว คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่าน ดังนั้นข้าจึงให้คนนำตัวมาให้ท่านแล้ว”เป่ยเฉินหยวนจงใจปล่อยจินซือถูไปเพราะเวินเยวี่ยแจ้งเรื่องข้อตกลงระหว่างทั้งสองกับเขาแต่แรกดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงให้ผู้ใต้บัญชาปล่อยช่องทางที่ยากสังเกตเห็นแก่จินซือถู จินซือถูเข้าใจดีจึงทิ้งเสอชีกับเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 286

    เวินซื่อลุกพรวด เตรียมลงจากรถม้าไปปะทะกับท่านพ่อตัวดีของนางทว่าขณะนี้ ม่อโฉวซือไท่ยื่นมือไปขวางนางเอาไว้ม่อโฉวซือไท่ส่ายหน้าให้นาง “เจ้าไม่ต้องไป ดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดี มอบให้อาจารย์จัดการเถอะ”พูดจบ ม่อโฉวซือไท่ลงจากรถม้าเวินเฉวียนเซิ่งสามพ่อลูกที่ได้ยินความเคลื่อนไหวของรถม้าด้านหลังหันมอง เดิมทั้งสามนึกว่าจะได้เห็นเวินซื่อ แต่น่าเสียดายที่เป็นม่อโฉวซือไท่ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้พูดคุยกับเวินเฉวียนเซิ่งทันทีสายตาของนางกวาดมองเวินฉางอวิ้นก่อน จากนั้นค่อยกวาดมองเวินจื่อเยวี่ย“ดูท่าวันนี้น้องสี่ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วย ก็น่าจะใช่ ร่างกายของเขาขี่ม้าไม่ได้”ม่อโฉวซือไท่กล่าวเสียงเรียบ“น้องสี่ของข้ามาหรือไม่มาไม่เกี่ยวกับท่าน เวินซื่อล่ะ ให้นางออกมาพบพวกข้า!”ยามนี้เมื่อมีเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ เวินจื่อเยวี่ยจึงใจกล้าไม่น้อยมองม่อโฉวซือไท่อย่างรำคาญแวบหนึ่ง ซ้ำยังเรียกชื่อเวินซื่อออกมาโดยตรง“นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์เจ้าเรียกขานโดยตรงได้หรือ?”สำหรับเด็กที่ไม่รู้จักสำนึกผิดเช่นนี้ ม่อโฉวซือไท่ไม่คิดจะไว้หน้ากันนางหันไปเหน็บแนมเวินเฉวียนเซิ่ง “ทำไม หลังจากจื่อจวินจากไป เจ้าที่เป็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 287

    “เป่ยเฉินหยวน!”เวินเฉวียนเซิ่งช้ากว่าลูกชายคนโตหนึ่งก้าว เมื่อเขาก้าวไปข้างกายลูกชายคนที่สาม แล้วก้มหน้ามอง ขาข้างนั้นหักจนหักไม่ได้อีกแล้วเวินเฉวียนเซิ่งจ้องเป่ยเฉินหยวนอย่างโกรธแค้น “ท่านมีสิทธิ์อะไรลงมือกับลูกข้าเช่นนี้! ที่ท่านถีบเขาเมื่อครู่หมายจะเอาชีวิตลูกข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนนั่งอยู่หลังม้าไม่สะทกสะท้าน แค่นหัวเราะใส่เวินเฉวียนเซิ่งที่คิดจะทำให้เรื่องใหญ่โต “เจิ้นกั๋วกง ข้าอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของธิดาศักดิ์สิทธิ์ตามพระบัญชา ลูกชายท่านคิดจะฝ่าการป้องกันของกองทัพธงดำ คิดจะบุกเข้าไปใกล้รถม้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ การกระทำอุกอาจเช่นนี้ ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา ต่อให้ข้าถีบเขาจนตายท่านจะทำอะไรได้?”“ข้าเห็นว่าคนที่กำเริบเสิบสานเป็นท่านมากกว่า!”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึง “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ ท่านปกป้องนางเด็กเวินซื่อมากขนาดนี้ เกรงว่าคงไม่เพียงเพราะพระบัญชาของฝ่าบาทกระมัง?”“ท่านคิดเช่นไรกับเวินซื่อ ในใจท่านรู้อยู่แก่ใจดี นึกว่าคนอื่นตาบอดกันหมดอย่างนั้นหรือ?”“เพียะ!”เมื่อสิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง สีหน้าม่อโฉวซือไท่เปลี่ยนฉับพลัน ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าเวินเฉว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 288

    ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องนำร่างของหลานจื่อจวินกลับไปให้ได้ตอนมีชีวิตหลานจื่อจวินคือคนของจวนเจิ้นกั๋วกง ตอนตายก็ต้องเป็นผีของจวนเจิ้นกั๋วกงศพของนางต้องฝังในสุสานที่เขาเตรียมไว้ให้นางเท่านั้นจากนี้ร้อยปี พวกเขาสองสามีภรรยาจะฝังร่วมกัน“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ท่านอย่าใช้คำพูดเหล่านี้มาหลบหลีกคำถามที่ข้าถามท่าน วันนี้หากท่านไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของเวินซื่อ ให้นางมอบร่างของแม่นางคืนมาซะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาพวกท่านต้องรับกรรมเอง...” “ไม่ต้องพูดมาก!”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขัดเวินเฉวียนเซิ่งกะทันหันวินาทีต่อมา เขากระโดดลงจากหลังม้า ก้าวยาวๆ ไปตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากอีกฝ่าย เขากำหมัดแน่นยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เมื่อเป่ยเฉินหยวนเดินมาถึงตรงหน้า วินาทีที่อีกฝ่ายก้มมองเขาด้วยความสูงที่ได้เปรียบกว่า เวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกอดสูอย่างประหลาด โดยเฉพาะจากนี้ที่อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดคำเหล่านั้น ความอัปยศอดสูยิ่งพุ่งขึ้นไปยอดสุด“ข้าไม่เหมือนเจิ้นกั๋วกงอย่างท่าน ไม่ยี่หระที่จะใช้ชื่อเสียงของสตรีมาข่มขู่อีกฝ่าย แต่วันนี้เมื่อท่านคิดใช้ชื่อเสียง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 289

    เวินฉางอวิ้นตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมจะบอกว่าใช่ก็ไม่ได้ จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้อีกทั้งที่เมื่อครู่คนที่บุกเข้ามาคือเจ้าสาม แต่ตอนนี้กระบี่กลับมาแนบติดลำคอของเขาเกิดอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่พอใจ แล้วบั่นคอเขาในกระบี่เดียวจะทำเช่นไร?เพราะเมื่อครู่เจ้าสามบุกเข้าไปแล้วจริงๆ!ความผิดนี้เขาต้องมารับแทนจริงหรือ?ทำให้เวินฉางอวิ้นในยามนี้เกิดความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและน้องชายเล็กน้อยบิดาคนหนึ่งนำเอาชื่อเสียงของน้องห้ามาข่มขู่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนน้องชายคนหนึ่งบอกให้เขาอย่าบุ่มบ่ามแต่เขากลับบุ่มบ่าม!ทั้งสองคนก่อเรื่อง แต่เขากลับต้องมารับโทษแทน นี่มันอะไรกัน?เวินฉางอวิ้นรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากรู้แต่แรกว่าวันนี้จะเป็นเช่นนี้เขาจะไม่ตามบิดากับน้องสามมาที่นี่แม้ร่างของท่านแม่ยังอยู่ในมือน้องห้า แต่ไม่ว่าอย่างไร ด้วยความกตัญญูที่น้องห้ามีต่อท่านแม่ คงไม่ปล่อยให้ร่างของท่านแม่เป็นอะไรไปแน่นอนรอให้น้องห้าหายโกรธบ้างแล้ว เขาค่อยไปหาน้องห้าคนเดียว ไม่ดีกว่าหรือ?เวินฉางอวิ้นที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจอดมองบิดาอย่างตัดพ้อไม่ได้ “ท่านพ่อ ท่านกับน้องสามก่อเรื่องพอหรือยัง? วันนี้ขอให้พอเท่

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 569

    ทางด้านอารามสุ่ยเยว่เงียบสงบสุขยิ่งนักแต่ทางด้านเมืองหลวงกลับมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างรุนแรงห้องหนังสือสกุลอันอันปี่เค่อหยิบพู่กันขึ้น ตวัดพู่กันขีดเส้นหนักๆ ลงบนรายงานข่าวกรองฉบับหนึ่งที่ลูกน้องนำมาส่งให้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็พลันลุกขึ้นเดินไปยังเชิงเทียนไปพลาง ฉีกรายงานข่าวกรองฉบับนั้นเป็นชิ้นๆ ไปพลางสุดท้ายก็อาศัยเปลวไฟจากเชิงเทียนจุดมัน เปลวไฟก็ลุกลามเผากระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็ว และลามขึ้นไปด้านบน ลวกนิ้วมือของอันปี่เค่อที่จับมุมกระดาษอยู่เข้าอย่างจังแต่อันปี่เค่อราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปสองวินาที ถึงค่อยโยนกระดาษที่กำลังลุกไหม้ในมือทิ้งลงไปในอ่างถ่านที่มอดดับไปแล้ว“ใครก็ได้”เงาดำร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านหลังของอันปี่เค่อ คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม“ลูกสาวผู้แสนดีคนนั้นของข้าตายแล้วหรือยัง?”เงาดำกล่าวอย่างระมัดระวัง “เรียนใต้เท้า คุณหนูรอง...ยังไม่ตายขอรับ”คำว่า “ยังไม่ตาย” ก็หมายความว่าการลงมือของคนเหล่านั้นล้มเหลวแล้วบนใบหน้าที่แก่ชราของอันปี่เค่อ พลันปรากฏรอยยิ้มเสแสร้งออกมา “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ และหมากตัวหนึ่งที่ยังพอจะใช้งานได้อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 568

    เป่ยเฉินหยวนเห็นสีหน้าของนาง ก็รู้ว่านางเพิ่งจะรู้ตัว ชั่วขณะหนึ่งก็อดขำไม่ได้“หลังจากนี้ไม่ต้องมาที่ภูเขาด้านหลังแล้วก็ได้ อากาศหนาวลมแรง เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ง่ายๆ ”เวินซื่อพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “ได้”นางก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกันนางเงยหน้ามองเป่ยเฉินหยวนด้วยความอึดอัดใจ เอ่ยถามอย่างหยั่งเชิง “หรือว่า ตอนนี้พวกเรากลับไปอีกดี?”เป่ยเฉินหยวนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นทันที “ไหนๆ ก็มาแล้ว อีกอย่างวันนี้ข้าก็อยากจะฟังที่นี่จริงๆ ”เหตุผลหลักคือในเรือนยังมีคนอื่นอยู่ เวลานี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนเขาและอู๋โยวเป่ยเฉินหยวนหยิบของที่ตนนำมาด้วยออกมา ค้นเอาห่อขนมพุทราอุ่นๆ ออกมาจากข้างในห่อหนึ่ง และเสื้อคลุมลายดอกเหมยตัวใหม่อีกหนึ่งตัวเป่ยเฉินหยวนระงับความคิดที่อยากจะลงมือสวมให้ด้วยตนเอง แล้วยื่นเสื้อคลุมให้เวินซื่อก่อน“สวมเสื้อคลุมเสียเถอะ ตอนนี้ยังพอไหว ไม่ค่อยมีลม แต่ก็ต้องระวังไว้บ้าง”เวินซื่อเหลือบมองเสื้อคลุมตัวหนาที่ยังคงความอบอุ่นนั้น แล้วมองไปที่เป่ยเฉินหยวน สุดท้ายก็รับของขวัญอันใส่ใจชิ้นนี้มาอย่างเงียบๆ“นี่ ขนมพุทราที่ท่านชอบ”เป่ยเฉินหยวนรอจนนางสวมเสื้อคลุมเสร็จ ก็เปิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 567

    “แล้วแมงมุมพิษนั้นจะส่งผลกระทบต่อท่านหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งแรกที่เขาเป็นห่วงคือความปลอดภัยของเวินซื่อเวินซื่อพลันยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ไม่ส่งผลกระทบต่อข้า”“แล้วอาซื่อเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าแมงมุมพิษของเจ้าอยู่บนตัวของหัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น? หากไม่ใช่หัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น แต่เป็นคนต่างเผ่าคนอื่นเล่า?”หลินเนี่ยนฉือถามเช่นนี้ ไม่ใช่การขัดคำพูดของเวินซื่อเพียงแต่นางกำลังกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างเวินซื่อกับแมงมุมพิษ ตัวอย่างเช่น หากแมงมุมพิษตัวนั้นบาดเจ็บ มันจะส่งผลกระทบต่ออาซื่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งถ้าแมงมุมพิษตัวนั้นตายไป มันจะส่งผลสะท้อนกลับมายังอาซื่อหรือไม่?ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าแมงมุมพิษของอาซื่อเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่พอฟังดูแล้วกลับคล้ายคลึงกับวิชาแมลงกู่ของคนต่างเผ่าเหล่านั้นมากดังนั้น หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนและหลินเนี่ยนฉือฟังคำพูดของเวินซื่อจบแล้ว สิ่งแรกที่ทั้งสองกังวลก็คือตัวเวินซื่อเวินซื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านวางใจเถิด ข้าไม่เป็นอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 566

    หลินเนี่ยนฉือที่นั่งมองทั้งสองคนอยู่ในเรือนเล็กๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ มุมปากกระตุกเล็กน้อย“พอแล้วอาซื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าช่างใจกล้าเกินไปแล้ว”ถึงกับกล้าตำหนิท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเทพสงครามต่อหน้าเช่นนี้ จนเขาแทบเงยหน้าไม่ขึ้นหลินเนี่ยนฉือกลัวว่าเวินซื่อจะยั่วโมโหอีกฝ่ายเข้าจริงๆ นางจึงรีบยื่นมือออกไป ดึงตัวคนกลับมาแต่ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของนางหรือไม่ ในขณะที่นางจับมือเล็กๆ ของอาซื่อไว้ สายตาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ตรงข้ามกลับดูน่ากลัวขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งยังทิ่มแทงอีกทำเอาหลินเนี่ยนฉือไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก“ไม่เป็นไรๆ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้น”เวินซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเนี่ยนฉือ ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆเป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นในตอนนี้ “อู๋โยวพูดถูก ข้าไม่ใช่คนใจแคบจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น อู๋โยวก็ยังเป็นสหายของข้า สหายของนาง ย่อมเป็นสหายของข้าเช่นกัน”มุมปากของหลินเนี่ยนฉือกระตุกอีกครั้งหากไม่ใช่เพราะได้ยินสรรพนาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status