공유

บทที่ 346

작가: จิ้งซิง
“พลธนูเตรียมพร้อม!”

แทบจะเป็นวินาทีที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวน เกาเย่าสั่งการทันที

กองทัพธงดำกว่าร้อยนายดึงธนูใส่ลูกดอก เล็งไปที่ป่าแห่งนั้น

“ช้าก่อน! พวกเรายอมแพ้! พวกเรายอมแพ้!”

คนที่อยู่ในป่านึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันเข้าไปในป่าด้วยซ้ำก็สังเกตเห็นพวกเขาแล้ว กระทั่งธนูดอกเดียวยังยิงจนคนของพวกเขาบาดเจ็บ

เมื่อนึกว่าวินาทีต่อไปฝนธนูจะพุ่งใส่หัว พวกคนที่อยู่ในป่ารีบตะโกนเสียงดังทันที

“พวกโจรสามหาว กล้าซุ่มโจมตีขวางทางอยู่ที่นี่ ยังไม่รีบไสหัวออกมาอีก!”

เกาเย่าตะโกนเสียงดัง ทำให้โจรที่ซ่อนอยู่ในป่าตกใจจนรีบล้มลุกคลุกคลานออกมา

เป่ยเฉินหยวนมองแวบหนึ่ง เหมือนจะเป็นโจรป่าจากป่าสักแห่ง

เขาหรี่ดวงตาทั้งคู่ลง “พวกเจ้าคือโจรป่าจากที่ใด?”

หัวหน้าโจรป่ารีบคุกเข่าลงพื้นแล้วตอบคำถาม “เรียนนายท่าน แต่เดิมพวกข้าเป็นชาวบ้านหมู่บ้านเสือดำ แต่ช่วงก่อนหมู่บ้านเสือดำถูกโจรซุ่มโจมตี หัวหน้าใหญ่ในหมู่บ้านตายอย่างอนาถ พี่น้องคนอื่นก็ถูกฆ่า เหลือเพียงพวกข้าที่มีกันร้อยกว่าคน ตอนนี้อดอยากเหลือเกิน เดิมอยากจะปล้นสะดมภ์พวกอาหาร ไม่คิดจะฆ่าใคร! ขอนายท่านโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย! ต่อไปพวกข้าไม่กล้าทำอีกแล้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (3)
goodnovel comment avatar
Nutticha Sibutra
อ่านจบแล้วลงต่อได้เลยค่ะ...
goodnovel comment avatar
WLFJ
วางแผนอะไรอีกยัยอันซื่อ เฮ้อ
goodnovel comment avatar
Sunee Satipa
ทำไมไม่ลงตอนให้เยอะกว่านี้คะ อ่านแล้วสะดุดมากๆ เสียเงินอ่านนะคะ
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 347

    นางสามารถเข้าไปในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการก่อน เพื่อปูทางให้อาซื่อต่อไปรอให้อาซื่อศึกออกมาแล้วเข้าจวน อาซื่อเป็นใหญ่ นางเป็นน้อย พวกนางยังคงเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม!ส่วนนางจะกำจัดทุกอย่างให้อาซื่อ!อันหลันซินเดาใจเป่ยเฉินหยวนได้แต่แรกแล้วนางกระทั่งมีลางสังหรณ์ วันหนึ่งเป่ยเฉินหยวนต้องสู่ขอเวินซื่อเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแน่นอนแต่นางไม่เชื่อบุรุษที่ผ่านมาบุรุษมักมีสามเมียสี่อนุ ประชาชนทั่วไปยังเป็นเช่นนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการที่ยิ่งใหญ่?บุรุษเช่นนี้ต่อให้เขารักอาซื่อมากเพียงใด ภายหน้าย่อมเปลี่ยนใจแน่นอนหากให้เขาทรยศอาซื่อในภายหน้า ไม่สู้ทำให้อาซื่อมองเห็นธาตุแท้ของชายคนนี้ตั้งแต่ตอนนี้ทำให้อาซื่อมองเห็นสัจธรรมของโลก ไม่ศึกออกมาอีกหรือไม่ก็ศึกออกมาแล้วเข้าจวน จากนี้ต่อให้เป่ยเฉินหยวนมีหญิงอื่น อาซื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจมากส่วนตัวเองยังสามารถเป็นเบี้ยของอาซื่อหลายปีมานี้ นางอยู่ในสกุลอันถูกแม่ใหญ่กับพี่สาวรังแกมานาน เรียนรู้ฝีมือโหดเหี้ยมมาไม่น้อยอาซื่อทั้งโง่ทั้งเซ่อ ไม่รู้ว่าจะแย่งชิงความรักอย่างไรแต่นางเป็น !นางสามารถช่วยให้อาซื่อได้มาทุกสิ่ง!

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 348

    ตอนอันหลันซินยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นาง ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ จึงเปิดเผยปลายนิ้วที่โดนเข็มทิ่มไปหลายจุดให้ได้เห็นเวินซื่อกวาดมองหนึ่งครั้งสีหน้าพลันเรียบเฉยแล้วละสายตา “ข้าบอกแล้ว ข้าไม่โกรธเจ้านานแล้ว เหตุใดเจ้ายังต้องทำเรื่องที่ไร้ความหมายเช่นนี้อีก”อันหลันซินยิ้มเจื่อน “ไม่ อย่างน้อยสำหรับข้า ตอนนี้สามารถมอบให้มันให้เจ้าได้ถือว่ามีความหมาย ต่อจากนี้ชีวิตของข้าไม่น่าจะมีความหมายใดแล้ว”บรรยากาศเงียบสงัดดำเนินไปสักพักแต่น่าเสียดายสุดท้ายเวินซื่อไม่ได้รับผ้าเช็ดหน้านางไว้“ทำไมยังยืนอยู่ที่นี่?”เป่ยเฉินหยวนที่เพิ่งสั่งการกองทัพธงสำเสร็จ กลับมาก็เห็นภาพนี้พอดีเขาก้าวเข้าไป แล้วขวางเวินซื่อกับอันหลันซินออกจากกันอย่างเงียบเชียบแล้วหันไปเอ่ยกับเวินซื่ออย่างห่วงใย “ตอนนี้ดึกดื่นน้ำค้างลง รีบเข้าไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเป็นหวัด”เป่ยเฉินหยวนรบเร้า แล้วพาเวินซื่อเข้าไปด้านในอันหลันซินที่ยืนอยู่จุดเดิมไม่ขยับ หันไปจ้องร่างของเป่ยเฉินหยวนที่ใช้ร่างกายบังเวินซื่อเอาไว้วินาทีนั้น แววตาของนางมีความโหดเหี้ยมอำมหิตแวบผ่านบุรุษที่สมควรตายผู้นี้ไม่ เขาตายไม่ได้ยังต้องใช้ประ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 349

    เหล่าขุนนางที่แต่เดิมหวาดกลัวยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นใครไม่รู้บ้างว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้คือเทพสังหาร มีคนตายในมือนับไม่ถ้วนเมื่อเขาชักกระบี่ ทุกคนจึงรีบปิดปากแน่นสนิททันทีหมอที่ถูกเรียกตัวเข้ามาอย่างเร่งรีบ หลังตรวจให้เวินซื่อเสร็จจึงโล่งอก “ท่านอ๋องวางใจได้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์แค่เป็นหวัด บวกกับเหน็ดเหนื่อยจากการเร่งเดินทาง จึงได้ล้มป่วยขอรับ”“ดูตำรับยานี่สิ ต้องเปลี่ยนยาหรือไม่? หรือว่ากินต่อไปได้เลย?”เป่ยเฉินหยวนนำตำรับยาที่เวินซื่อเขียนเองให้หมอดู หลังจากรับไปหมอส่ายหน้าหลังดูจบแล้ว “ไม่ต้องเปลี่ยนยา สรรพคุณยาตามตำรับนี้เพียงพอแล้ว ข้าน้อยจะเพิ่มตัวยาอีกชนิดเข้าไป หลังจากธิดาศักดิ์สิทธิ์ดื่มเข้าไปจะฟื้นขึ้นในไม่ช้าขอรับ”ขณะนี้เวินซื่อค่อยๆ ลืมตาขึ้น หลังจากได้ยินบทสนทนาของพวกเขา นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ไม่ต้องแล้ว...”เมื่อได้ยินเสียงของนางเป่ยเฉินหยวนรีบสาวเท้าเข้าไป พร้อมโน้มตัวมองอย่างกังวล “ยังเวียนหัวหรือไม่? มีตรงไหนที่ไม่สบายอีกหรือเปล่า?”เวินซื่อส่ายหน้าเบาๆ “ไม่เป็นไร ขอบคุณท่านหมอมาก ไม่ต้องเพิ่มยาหรอก ท่านอ๋อง ใช้สมุนไพรที่ข้านำมาด้วยต้มตามตำรับยาที่ข้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 350

    เดิมทีสถานการณ์ของลู่โจวไม่ได้สาหัสขนาดนี้ เพราะหนิงหย่วนโหวมีความเชี่ยวชาญด้านการศึก ในมือมีอำนาจทหารหลายหมื่นนาย ไม่ถึงกับควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ทว่าหลังจากพวกเขาออกเดินทางเพียงไม่กี่วัน ผู้พิพากษาคนหนึ่งของลู่โจวถูกสังหาร จากนั้นทั่วอำเภอหนิงอันก็เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ภายในหนึ่งคืนประชาชนติดโรคกันหลายพันคนรอให้หนิงหย่วนโหวส่งคนไปสืบความจริงได้นั้น ถึงได้รู้ว่าตอนมีชีวิตอยู่ผู้พิพากษาอำเภอหนิงอันเคยฉุดหญิงสาวคนหนึ่ง ตอนหลังกลัวเรื่องจะเปิดเผย จึงฆ่าปิดปากบิดามารดาของหญิงผู้นั้นแต่ผู้พิพากษาไม่รู้ ว่าหญิงชาวบ้านผู้นั้นยังมีพี่ชายที่หนีออกจากบ้านอีกหนึ่งคน นามว่าฉางอู๋เต้าตอนหนุ่มฉางอู๋เต้าเคยทำร้ายคนจนบาดเจ็บ กลัวจะเดือดร้อนทางบ้าน จึงหนีออกมา ขณะนี้อยู่ที่จินโจวตอนหลังเมื่อเกิดภัยพิบัตในจินโจว ฉางอู๋เต้าหนีภัยกลับมาบ้าน พบว่าพ่อแม่ตัวเองถูกฆ่า น้องสาวโดนฉุด ชั่วขณะนั้นขาดสติ ด้วยความโมโหจึงบุกเข้าไปที่ว่าการอำเภอสังหารผู้พิพากษา ต่อมาตัวเขากระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตายเดิมทีเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงตอนนี้ บางทีน่าจะจบลงแล้วแต่ไม่มีใครคาดคิด ตอนฉางอู๋เต้าหนีภัยกลับมาจากจินโจว เขาติดโ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 351

    “เหตุใดไม่นอนพักผ่อนดีๆ? ลุกขึ้นมาเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”เป่ยเฉินหยวนรีบก้าวเข้าไปข้างหน้า เมื่อจะเอื้อมมือไปประคองนาง จึงสังเกตเห็นว่าจู๋เยวี่ยที่อยู่ด้านหลังนางกำลังประคองนางอยู่ เพียงแต่ถูกประตูบังไว้ คนข้างนอกจึงมองไม่เห็นเท่านั้นเวินซื่อปัดมือของเขาออก แล้วยิ้มออกมา “ไม่ต้องหรอก นอนอยู่บนรถม้ามาหลายวันขนาดนั้น ร่างกายแทบจะแข็งทื่อไปหมดแล้ว ตอนนี้ได้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้างก็ดี อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก หลังจากดื่มยาก็ดีขึ้นมากแล้ว”โกหกหากไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ แล้วจะให้จู๋เยวี่ยมาแอบประคองท่านทำไมกันเป่ยเฉินหยวนรู้ว่านางทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้ขุนนางที่อยู่ด้านนอกเห็น มือที่ยื่นออกไปก็กำแน่นกลางอากาศด้วยความเจ็บปวดใจ สุดท้ายก็ต้องชักมือกลับมา“สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในลู่โจวตอนนี้คือที่อำเภอหนิงอัน แต่ที่นั่นมีหนิงหย่วนโหวประจำการอยู่แล้ว แม้ว่าคนที่ข้าพามาจะมีไม่มาก มีเพียงกองทัพธงดำสามพันนาย แต่ก็เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์ในที่ต่างๆ ของลู่โจว นอกจากอำเภอหนิงอันได้”จำนวนคนเท่านี้ แท้จริงแล้วเป็นจำนวนที่เป่ยเฉินหยวนจงใจควบคุมไว้ในฐานะผู้กุมอำนาจทางทหารสูงสุดขอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 352

    เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา ขุนนางทั้งหลายต่างดีใจเป็นอย่างยิ่ง“จริงหรือท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์?!”“ท่านยินดีที่จะไปยังเขตโรคระบาดจริงๆ หรือ?”“นี่จะไม่อันตรายเกินไปหน่อยหรือ?”หน่อยที่ไหนกัน?!เห็นได้ชัดว่าอันตรายมากๆ ๆ ๆ ต่างหาก!สีหน้าของเป่ยเฉินหยวนแทบจะควบคุมไว้ไม่อยู่ โกรธจนหางตาเรียวยาวกระตุกเขาอยากจะถามเวินซื่อเดี๋ยวนี้เลยว่า ขอพรได้ แต่เหตุใดไม่รอให้เขาควบคุมสถานการณ์โรคระบาดทั้งสี่แห่งให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยจัดพิธีขอพรครั้งใหญ่ทีเดียว!เขาสามารถช่วยนางขจัดอันตรายทั้งหมดได้ แต่ทำไมนางต้องไปที่เขตโรคระบาดทุกแห่งด้วย?!นี่มันต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย?เป่ยเฉินหยวนข่มความหุนหันพลันแล่นไว้ รอจนขุนนางเหล่านั้นจากไปหมดแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเวินซื่อ แล้วเอ่ยอย่างร้อนรน “เขตโรคระบาดอันตรายเกินไป ท่านไปไม่ได้!”“ข้าต้องไป”หลังจากที่เวินซื่อป่วย ลำคอของนางก็ไม่ค่อยสบาย ดังนั้นเมื่อพูดจึงเบาลง ช้าลง และดูอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิมนางมองเป่ยเฉินหยวนแล้วกล่าวว่า “การร้องขอจากลู่โจวในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นคำร้องขอของชาวบ้าน ข้ารู้ว่าพวกเขาคาดหวังอะไรจากข้า แม้ว่าข้าจะไม่มีวิธีการวิเศษ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 353

    “ซื่อเอ๋อร์...”เป่ยเฉินหยวนเรียกเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว“อืม?”เวินซื่อที่ยังงัวเงียได้ยินไม่ชัดก็ขานรับเสียงหนึ่ง เมื่อนางรู้สึกตัวก็เอ่ยถามอย่างงุนงง “เมื่อครู่ท่านอ๋องพูดว่าอะไรนะ?”เป่ยเฉินหยวนกำหมัดขึ้นมาแล้วปิดปากไอ แน่นอนว่าไม่กล้ายอมรับ “ไม่มีอะไร เพียงแต่ถามว่าท่านหิวหรือไม่ อยากจะลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยไหม?”“อ้อ เอาสิ”เวินซื่อพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว แต่ในหัวยังคงมึนงงเหตุใดนางจำได้ว่าเมื่อครู่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเพียงแค่เรียกชื่อ ไม่ได้พูดอะไรยาวเหยียดขนาดนี้?น่าเสียดายที่ยังไม่ทันที่นางจะคิดออก เป่ยเฉินหยวนก็ยกโจ๊กมาให้นางแล้ว“อืม? หอมจังเลย”กลิ่นหอมโชยมา ทำเอาเวินซื่อท้องร้องจ๊อกๆ ด้วยความหิวเป่ยเฉินหยวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “หอมก็รีบลุกขึ้นมากิน กินเสร็จแล้วค่อยไปล้างหน้าล้างตา”เป่ยเฉินหยวนควบคุมมือของตนเอง เพียงแค่ยื่นโจ๊กให้เวินซื่อข่มความคิดที่อยากจะป้อนนางด้วยมือของตนเอง“ได้”เวินซื่อนอนหลับมาทั้งคืน ตอนนี้เลยเวลาอาหารเช้าไปสองชั่วยามแล้ว ใกล้จะเที่ยงแล้วนางหิวมาก ไม่สนใจอะไรมากนักเพียงแต่เพิ่งจะลุกขึ้นนั่ง ก็พบว่าเสื้อผ้าขอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 354

    เมื่อก่อนในสนามรบ เมื่อข้าศึกรุกราน เป่ยเฉินหยวนก็นำกองทัพธงดำหนึ่งพันนายที่เพิ่งฝึกฝนเสร็จ บุกเข้าไปในดินแดนข้าศึก ตัดกำลังสนับสนุนของข้าศึก ทำให้ข้าศึกหวาดกลัวจนต้องถอยทัพไปห้าร้อยลี้ ก่อนที่สงครามใหญ่จะเริ่มขึ้นแน่นอนว่า เนื่องจากในตอนนั้นข้าศึกรู้สึกว่าเสียหน้ามาก จึงไม่ได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปและเป่ยเฉินหยวนก็ไม่ชอบทำตัวโดดเด่นเกินไปในสนามรบ ดังนั้นจึงมีคนรู้เรื่องนี้น้อยมากจริงๆ ทว่าหนิงหย่วนโหวกลับรู้เรื่องนี้แต่เขาไม่ได้มองเพียงแค่จำนวนคนง่ายๆ เช่นนั้น แต่มองจากท่าทีของเป่ยเฉินหยวนจำนวนสามพันคนนี้ ก็คือท่าทีของเป่ยเฉินหยวนหนิงหย่วนโหวพอรู้แล้ว จึงมอบค่ายใหญ่ให้เป่ยเฉินหยวนจัดการได้ตามสบายเป่ยเฉินหยวนยิ้มพลางอธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียดให้เวินซื่อฟังอีกครั้งเวินซื่อจึงเข้าใจ“ดังนั้น ท่านอยากจะจัดพิธีขอพรอย่างไรก็ได้ ขอเพียงแค่อย่าจงใจไปเสี่ยงอันตรายก็พอ”เวินซื่อก็อดหัวเราะไม่ได้ “เหตุใดในสายตาของท่าน ข้าถึงกลายเป็นคนที่ชอบเสี่ยงอันตรายไปแล้ว?”“หรือว่าไม่ใช่?”น้ำเสียงของเป่ยเฉินหยวนแฝงไปด้วยการตัดพ้อ มองนางอย่างมีนัยแอบแฝงเวินซื่อลองคิดดูอย่างละเอียด โอ

최신 챕터

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 569

    ทางด้านอารามสุ่ยเยว่เงียบสงบสุขยิ่งนักแต่ทางด้านเมืองหลวงกลับมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างรุนแรงห้องหนังสือสกุลอันอันปี่เค่อหยิบพู่กันขึ้น ตวัดพู่กันขีดเส้นหนักๆ ลงบนรายงานข่าวกรองฉบับหนึ่งที่ลูกน้องนำมาส่งให้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็พลันลุกขึ้นเดินไปยังเชิงเทียนไปพลาง ฉีกรายงานข่าวกรองฉบับนั้นเป็นชิ้นๆ ไปพลางสุดท้ายก็อาศัยเปลวไฟจากเชิงเทียนจุดมัน เปลวไฟก็ลุกลามเผากระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็ว และลามขึ้นไปด้านบน ลวกนิ้วมือของอันปี่เค่อที่จับมุมกระดาษอยู่เข้าอย่างจังแต่อันปี่เค่อราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปสองวินาที ถึงค่อยโยนกระดาษที่กำลังลุกไหม้ในมือทิ้งลงไปในอ่างถ่านที่มอดดับไปแล้ว“ใครก็ได้”เงาดำร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านหลังของอันปี่เค่อ คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม“ลูกสาวผู้แสนดีคนนั้นของข้าตายแล้วหรือยัง?”เงาดำกล่าวอย่างระมัดระวัง “เรียนใต้เท้า คุณหนูรอง...ยังไม่ตายขอรับ”คำว่า “ยังไม่ตาย” ก็หมายความว่าการลงมือของคนเหล่านั้นล้มเหลวแล้วบนใบหน้าที่แก่ชราของอันปี่เค่อ พลันปรากฏรอยยิ้มเสแสร้งออกมา “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ และหมากตัวหนึ่งที่ยังพอจะใช้งานได้อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 568

    เป่ยเฉินหยวนเห็นสีหน้าของนาง ก็รู้ว่านางเพิ่งจะรู้ตัว ชั่วขณะหนึ่งก็อดขำไม่ได้“หลังจากนี้ไม่ต้องมาที่ภูเขาด้านหลังแล้วก็ได้ อากาศหนาวลมแรง เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ง่ายๆ ”เวินซื่อพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “ได้”นางก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกันนางเงยหน้ามองเป่ยเฉินหยวนด้วยความอึดอัดใจ เอ่ยถามอย่างหยั่งเชิง “หรือว่า ตอนนี้พวกเรากลับไปอีกดี?”เป่ยเฉินหยวนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นทันที “ไหนๆ ก็มาแล้ว อีกอย่างวันนี้ข้าก็อยากจะฟังที่นี่จริงๆ ”เหตุผลหลักคือในเรือนยังมีคนอื่นอยู่ เวลานี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนเขาและอู๋โยวเป่ยเฉินหยวนหยิบของที่ตนนำมาด้วยออกมา ค้นเอาห่อขนมพุทราอุ่นๆ ออกมาจากข้างในห่อหนึ่ง และเสื้อคลุมลายดอกเหมยตัวใหม่อีกหนึ่งตัวเป่ยเฉินหยวนระงับความคิดที่อยากจะลงมือสวมให้ด้วยตนเอง แล้วยื่นเสื้อคลุมให้เวินซื่อก่อน“สวมเสื้อคลุมเสียเถอะ ตอนนี้ยังพอไหว ไม่ค่อยมีลม แต่ก็ต้องระวังไว้บ้าง”เวินซื่อเหลือบมองเสื้อคลุมตัวหนาที่ยังคงความอบอุ่นนั้น แล้วมองไปที่เป่ยเฉินหยวน สุดท้ายก็รับของขวัญอันใส่ใจชิ้นนี้มาอย่างเงียบๆ“นี่ ขนมพุทราที่ท่านชอบ”เป่ยเฉินหยวนรอจนนางสวมเสื้อคลุมเสร็จ ก็เปิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 567

    “แล้วแมงมุมพิษนั้นจะส่งผลกระทบต่อท่านหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งแรกที่เขาเป็นห่วงคือความปลอดภัยของเวินซื่อเวินซื่อพลันยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ไม่ส่งผลกระทบต่อข้า”“แล้วอาซื่อเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าแมงมุมพิษของเจ้าอยู่บนตัวของหัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น? หากไม่ใช่หัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น แต่เป็นคนต่างเผ่าคนอื่นเล่า?”หลินเนี่ยนฉือถามเช่นนี้ ไม่ใช่การขัดคำพูดของเวินซื่อเพียงแต่นางกำลังกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างเวินซื่อกับแมงมุมพิษ ตัวอย่างเช่น หากแมงมุมพิษตัวนั้นบาดเจ็บ มันจะส่งผลกระทบต่ออาซื่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งถ้าแมงมุมพิษตัวนั้นตายไป มันจะส่งผลสะท้อนกลับมายังอาซื่อหรือไม่?ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าแมงมุมพิษของอาซื่อเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่พอฟังดูแล้วกลับคล้ายคลึงกับวิชาแมลงกู่ของคนต่างเผ่าเหล่านั้นมากดังนั้น หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนและหลินเนี่ยนฉือฟังคำพูดของเวินซื่อจบแล้ว สิ่งแรกที่ทั้งสองกังวลก็คือตัวเวินซื่อเวินซื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านวางใจเถิด ข้าไม่เป็นอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 566

    หลินเนี่ยนฉือที่นั่งมองทั้งสองคนอยู่ในเรือนเล็กๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ มุมปากกระตุกเล็กน้อย“พอแล้วอาซื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าช่างใจกล้าเกินไปแล้ว”ถึงกับกล้าตำหนิท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเทพสงครามต่อหน้าเช่นนี้ จนเขาแทบเงยหน้าไม่ขึ้นหลินเนี่ยนฉือกลัวว่าเวินซื่อจะยั่วโมโหอีกฝ่ายเข้าจริงๆ นางจึงรีบยื่นมือออกไป ดึงตัวคนกลับมาแต่ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของนางหรือไม่ ในขณะที่นางจับมือเล็กๆ ของอาซื่อไว้ สายตาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ตรงข้ามกลับดูน่ากลัวขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งยังทิ่มแทงอีกทำเอาหลินเนี่ยนฉือไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก“ไม่เป็นไรๆ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้น”เวินซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเนี่ยนฉือ ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆเป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นในตอนนี้ “อู๋โยวพูดถูก ข้าไม่ใช่คนใจแคบจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น อู๋โยวก็ยังเป็นสหายของข้า สหายของนาง ย่อมเป็นสหายของข้าเช่นกัน”มุมปากของหลินเนี่ยนฉือกระตุกอีกครั้งหากไม่ใช่เพราะได้ยินสรรพนาม

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status