แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”

เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!”

ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ

“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”

เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอ

บวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?

นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนาง

เนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงตามหาตัวกลับมาได้เมื่อครึ่งปีก่อน

บิดาบอกว่านางถูกคนลักพาตัวไปตอนสามขวบ ถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอกทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เด็ก

ทุกคนในสกุลเวินล้วนติดค้างเวินเยวี่ยอย่างยิ่ง และอยากพยายามชดเชยให้นาง

ในอดีตเวินซื่อก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรนางคิดว่าเวินเยวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง

แต่ชาติที่แล้วนางกลับจ่ายค่าตอบแทนด้วยความชอกช้ำใจอย่างยิ่งเพราะความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้!

ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยอีกครั้ง เวินซื่อแทบอยากจะสังหารนางทันที!

“น้องหก! เหตุใดเจ้าถึงใจดีขนาดนี้? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของน้องห้า เจ้ายังจะช่วยอธิบายอะไรให้นางอีก?”

“ไม่ใช่นะ โธ่เอ๊ย! พี่รอง เหตุใดท่านไม่ฟังเลยเล่า”

เวินเยวี่ยเอ่ยพลางหันหน้ามาขอโทษเวินซื่อ “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ทั้งหมดต้องโทษที่ข้าพูดไม่เก่งบอกไม่ชัดเจน ท่านอย่าโกรธพี่รองได้ไหม? เขาแค่เป็นห่วงข้ามากเกินไปเท่านั้น”

“เจ้าจะขอโทษนางเพื่ออะไร เห็นชัด ๆ ว่านางควรขอโทษเจ้า!”

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เวินซื่อหลุบตาปิดบังความพยาบาทในก้นบึ้งของดวงตา “ใช่ พี่รองกล่าวถูกต้อง เรื่องเมื่อสองวันก่อนข้าทำผิดไปจริง ๆ ข้าควรขออภัยน้องหกถึงจะถูก”

ไม่มีทางเลือก

นางเกิดใหม่ช้าไปสองวัน ชาติที่แล้วช่วงเวลานี้เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตนเองแล้ว จากนั้นก็ใส่ความนาง

เวินเยวี่ยไม่จำเป็นต้องมีแม้กระทั่งหลักฐานใด ๆ ขอเพียงให้คนเห็นว่านางถือชุดพิธีการที่พังเสียหายแล้วร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็นึกถึงเวินซื่อได้

ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็ถูกเวินเยวี่ยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาทำลายชื่อเสียงไปนานแล้ว

ทุกคนต่างรู้ว่าเวินซื่ออิจฉาริษยาน้องสาวของตนเอง นอกจากนี้ยังใจร้ายใจดำ จิตใจคับแคบ อีกทั้งเป็นคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย!

ดังนั้นขอเพียงเวินเยวี่ย ‘โดนรังแก’ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเวินซื่ออย่างแน่นอน!

เวินซื่อที่ข่มกลั้นความแค้นชิงชังทั้งหมดไว้ก็ยิ้มให้เวินเยวี่ย แล้วเอ่ยปากขอโทษว่า “สองวันนี้ครุ่นคิดเรื่องนี้ข้าก็นอนไม่หลับ รู้สำนึกเสียใจจริง ๆ น้องหกโปรดให้อภัยด้วย”

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของนางทำให้เวินเยวี่ยเห็นแล้วสงสัยว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนใช่หรือไม่?

“ฮึ ตอนนี้เจ้ารู้ความผิดแล้วหรือ?”

เวินจื่อเฉินหัวเราะหยัน “คนใจดำเช่นเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ข้าคงส่งเจ้าให้ทางการไปนานแล้ว ให้เจ้าลิ้มรสการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงในคุก!”

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจเช่นเดียวกัน

น้องสาวแท้ ๆ?

เหอะ แต่ตอนนี้นางไม่อยากเป็นน้องสาวของคนพรรค์นี้แล้ว!

วันนี้เมื่อชาติที่ก่อน นางถูกเวินจื่อเฉินทุบตีจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ยอมขอโทษเวินเยวี่ย

นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายแทบจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปเกือบทุกส่วน

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง

เขาก็ไม่ยั้งมือให้นางเลยสักนิดเดียว!

ในบรรดาพี่ชายทั้งสี่คนของนาง เวินจื่อเฉินกับเวินจื่อเยวี่ยฝาแฝดคู่นี้มีนิสัยแย่ที่สุด

พี่รองเวินจื่อเฉินอารมณ์ร้อนอย่างยิ่ง ตอนที่รักเอ็นดูน้องสาวอย่างนาง สามารถฟาดทุกคนที่รังแกนางได้เพื่อนาง

แต่ตอนที่ไม่รักเอ็นดูนาง ก็สามารถลงมือกับนางได้ทันทีโดยไม่รีรอเช่นกัน

โดยเฉพาะเมื่อนางขัดแย้งกับเวินเยวี่ย ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้ นางจะต้องโดนทุบตีอย่างแน่นอน!

เวินซื่อเม้มริมฝีปาก

เวินจื่อเฉินสูงกว่านาง พละกำลังเยอะกว่านาง ตอนนี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา คนที่เสียเปรียบมีเพียงตัวนางเอง

ดังนั้นเวินซื่อจึงเลือกก้มหน้า

ไม่เป็นไร ชาตินี้สิ่งที่นางมีคือเวลาในการชำระความแค้นอย่างช้า ๆ

แต่ดูเหมือนว่าเนื่องจากนางขอโทษไวเกินไป กลับทำให้บางคนรู้สึกว่ายังไม่สาสม

“พี่รอง ในเมื่อพี่หญิงห้าขอโทษแล้ว เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเหมือนกัน แค่น่าเสียดายที่ไม่มีชุดพิธีการแล้ว ข้าเกรงว่ายากจะเข้าร่วมพิธีปักปิ่นในวันนี้แล้ว”

ภายในห้อง เสียวของเวินเยวี่ยเอ่ยปากพูดอย่างขลาดกลัว

เวินจื่อเฉินที่เดิมทียังคิดว่าให้มันแล้วกันไป หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้พลันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเวินเยวี่ยขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ เรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!”

“ครั้งนี้นางทำลายชุดพิธีการของเจ้า ครั้งหน้าอาจจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีกก็เป็นได้ จะต้องให้นางได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง จะได้จดจำไว้นาน ๆ!”

เวินจื่อเฉินกล่าวจบก็หันหน้าไปถลึงตาใส่เวินซื่อ “ในเมื่อเจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหก เช่นนั้นก็นำชุดพิธีการปักปิ่นชุดนั้นของเจ้าออกมามอบให้น้องหกเสีย สำหรับพิธีปักปิ่นในวันนี้ ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการแล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมอีกต่อไปแล้ว”

ดวงตาของเวินเยวี่ยส่องประกายขึ้นมาทันใด

เวินซื่อไม่ได้มองข้ามสายตาของนางเลย และไม่รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรสาเหตุที่เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตัวนางเองและใส่ความนางก็เพื่อจะเอาชุดพิธีการของเวินซื่อ

ว่าไปแล้วชุดพิธีปักปิ่นของนางยังเป็นชุดที่บรรดาพี่ชายทั้งสี่คนสั่งทำให้นางล่วงหน้าหนึ่งปี

เครื่องประดับศีรษะเป็นกวานหยกพันด้วยไหมทองและขนนกกระเต็น

ชุดเป็นผ้าไหมชั้นดีจากเสฉวนปักลายผีเสื้อ

ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือว่าการตัดเย็บล้วนเป็นสุดยอดของเมืองหลวง

ตอนแรกที่ทำชุดพิธีการนี้ พวกพี่ชายพูดกับเวินซื่อว่าอยากให้น้องสาวสุดที่รักของพวกเขากลายเป็นสตรีที่ได้รับความอิจฉามากที่สุดของเมืองหลวงในพิธีปักปิ่น

น่าเสียดายที่ต่อมา ‘น้องสาวสุดที่รัก’ ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นแล้ว

เมื่อเห็นเวินซื่อไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น เวินจื่อเฉินนึกว่านางไม่อยากตกลง จึงกล่าวอย่างไม่พอใจทันทีว่า “ทำไม? เจ้าไม่ยินยอม? หรือว่าในใจเจ้าไม่คิดจะกลับตัวกลับใจจริง ๆ คำพูดที่กล่าวเมื่อครู่นี้เป็นแค่การหลอกลวงข้าหรือ?!”

“ฮึ หากเป็นเช่นนี้ อย่าโทษว่าพี่รองของเจ้าไม่เกรงใจ...วันนี้เจ้าจะเอาก็ต้องเอา ไม่เอาก็ต้อง...”

“ตกลง”

เวินซื่อพลันส่งเสียงขึ้น ตัดบทของเวินจื่อเฉิน

นางไม่แม้แต่จะมองเวินจื่อเฉิน

หันตัวไปที่ห้องแล้วหยิบชุดพิธีการที่เตรียมไว้นานแล้วชุดนั้นออกมา

ถึงอย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ของนาง

เวินซื่อยื่นมาข้างหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ “น้องหก ให้เจ้า ตอนนี้ชุดพิธีการนี้เป็นของเจ้าแล้ว รีบรับไปสิ”

ดูเหมือนเป็นเพราะเวินซื่อมอบให้เร็วเกินไป เวินเยวี่ยจึงไม่ทันตอบสนองไปชั่วขณะ

นางคาดการณ์ไว้ว่าเวินซื่อไม่น่าจะยอมตกลงง่ายถึงเพียงนี้

นางน่าจะโวยวายเสียงดัง หลังจากนั้นก็ยั่วโทสะของเวินจื่อเฉิน และจากนิสัยของเวินจื่อเฉิน เขาจะต้องทุบตีนางจนนางต้องมอบชุดพิธีการออกมา เช่นนั้นถึงจะถูก

แต่ตอนนี้ เหตุใดเวินซื่อจึงยอมตกลงแล้ว?

เวินเยวี่ยรู้สึกว่าผิดปกติ

หรือจะพูดว่าตั้งแต่เมื่อกี้นางรู้สึกมาตลอดว่าปฏิกิริยาของเวินซื่อแปลกประหลาดมาก

ยอมรับง่าย ๆ เช่นนี้ หรือว่าอีกฝ่ายคาดเดาได้นานแล้วว่าเป้าหมายของนางคือชุดพิธีการนี้?

ดังนั้น...นางเล่นตุกติกอะไรบนชุดพิธีการใช่หรือไม่?

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววดูแคลนทันที

นางนึกว่าตนเองคาดเดาความคิดของเวินซื่อได้แล้ว จึงหัวเราะเยาะในใจ

โง่งม

คอยดูว่าข้าจะเปิดโปงเจ้าอย่างไร

เวินเยวี่ยแสร้งทำเป็นจะรับชุดพิธีการ เพิ่งจะยื่นมือไปสัมผัสชุดพิธีการนั้น นางก็ร้องด้วยความเจ็บปวดฉับพลัน

“กรี๊ด พี่รอง ข้าเจ็บมากเลย!”

ชุดพิธีการถูกสะบัดทิ้งลงกับพื้น นางหันตัวโผเข้าไปในอ้อมแขนของเวินจื่อเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เวินจื่อเฉินยื่นมือไปปกป้องเวินเยวี่ยตามจิตใต้สำนึก แล้วผลักเวินซื่อออก ครั้งนี้ตวาดแม้กระทั่งชื่อแซ่ด้วยความเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ! เจ้าทำอะไรน้องหกอีกแล้ว?!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
นิธิกร
Tryijjmjk,,
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
อินเลยนางร้ายมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 754

    เวินซื่อ “?”เมื่อเห็นภาพนี้เวินซื่อก็ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะไม่ใช่ อ๋องชางชาวต่างถิ่นผู้สง่างาม เมื่อครู่ยังตะโกนให้จับตัวนาง ต้องการจะฆ่านางอยู่เลย ตอนนี้หนีไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ?เวินซื่อมีหรือจะปล่อยเขาไปแบบนี้ นางตะโกนเรียกเสียงดัง “จู๋เยวี่ย!”หลังจากจู๋เยวี่ยดึงแส้ออกจากเอวก็สะบัดลงข้างล่างทีหนึ่ง หลังจากพันรอบเอวของเวิ่นซื่อแล้ว ก็ดึงเวินซื่อขึ้นมานางกระโดดพรวดพราดออกมา ยกเวินซื่อขึ้นบนหลังเรียบร้อย จากนั้นก็กระโดดออกไปอีกครั้งในขณะเดียวกันเวินซื่อก็สั่งการหัวหน้ากองทัพธงดำและพวกที่อยู่ด้านล่าง “พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ คุ้มครองลุงหลินให้ดี”เมื่อนางพูดจบ ก็ออกไปจากหุบเขาพร้อมกับจู๋เยวี่ยกลางหุบเขา หัวหน้ากองทัพธงดำและพวกรีบกลับไปที่ข้างรถม้าเพื่อเฝ้ายาม ในขณะที่แมลงพิษที่รอดชีวิตบนพื้นดินเหล่านั้นก็เฝ้าดูพวกเขาไว้เช่นกัน ป้องกันศัตรูจากภายนอก......ทางด้านนี้หลังจากเวินซื่อกับจู๋เยวี่ยไล่ล่าออกมาจากหุบเขาแล้ว เวินซื่อก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาทั้งสองของนางสว่างไสวขึ้นเล็กน้อยในขณะเดียวกัน ชางชิงหลานและเยี่ยนจือที่วิ่งหนีอยู่ด้านหน้าได้เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 753

    ยังไม่ทันเริ่มต่อสู้ ก็รู้สึกว่าตัวเองชนะแน่นอนแล้ว“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”ชางชิงหลานยอมรับอย่างไม่ถ่อมตัวสักนิด“วิชากู่ของข้าไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าแม่นางจะใช้วิธีการใดปิดบังราชากู่ของข้าก็ตาม ถึงวันนี้ก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้แล้ว”“ถ้าเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ ข้าจะไม่มีทางแตะต้องเจ้าเด็ดขาด ว่าอย่างไรเล่า?”เมื่อเผชิญกับคำพูดหลอกล่อของชางชิงหลาน เวินซื่อก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเผยสายตาดูถูกออกมา...“ยังไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ แทนที่จะพูดมากไร้สาระ สู้ลงมือเสียเลยดีกว่า”เมื่อชางชิงหลานได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจทันที “เอาล่ะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมทำร้ายผู้หญิงก็แล้วกัน”ในขณะเดียวกัน แมลงทั้งสองฝั่งในหุบเขาก็เกิดอาการหงุดหงิดกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที เข้ามารวมตัวกันภายในพริบตาบนพื้นดินและกลางอากาศ ทั้งหมดกำลังเข่นฆ่ากันมันน่าทึ่งยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างผู้คนเมื่อครู่เสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่แน่นขนัดนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกขนหัวลุกอย่างช่วยไม่ได้ เห็นแล้วไม่สบายใจเป็นอย่างมากกระนั้นกองทัพธงดำและคนอื่น ๆ ยังคงเฝ้าอยู่ข้างกายเวินซื่อ ยังมีที่อยู่นอกรถม้าของหลินหงเหวินด้วย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 752

    “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากเกินไป”เวินซื่อพูดเพียงประโยคเดียวนี้กับเขาจากนั้นนางก็โบกมือหนึ่งครั้ง แมงมุมและมดทั้งหมดในหุบเขาก็พุ่งเข้าไปหาชางชิงหลานชางชิงหลานหัวเราะขึ้นมาทันใด “ข้ายอมรับว่าเจ้าน่าสนใจมากจริง ๆ แต่หากต้องการฆ่าข้าเช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้”เขาพูดพลาง พลิกมือล้วงแมลงสีเขียวเข้มตัวหนึ่งออกมาเขาประคองแมลงสีเขียวเข้มตัวนั้นไว้ในฝ่ามือ พลางเชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมกู่ก็ดี หรือการควบคุมแมลงก็ดี ข้าไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด”ทันทีที่สิ้นเสียง แมลงในมือของเขา และเป็นราชากู่ชีวิตของชางชิงหลานด้วย ก็ระเบิดเสียงแหลมเล็กออกมาทันทีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วหุบเขาเวินซื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สายตาจับจ้องไปที่ฝูงแมลงพิษของนาง ไม่นึกว่าแมลงในมือของชางชิงหลานตัวนั้นจะทรงพลังขนาดนี้ เหล่าแมลงพิษของนางทั้งหมดนางเลี้ยงดูด้วยเลือดและน้ำทิพย์ของตัวเอง ในทางทฤษฎีแล้วไม่สามารถรับผลกระทบใด ๆ จากผู้อื่นได้แต่แมลงกู่ของชางชิงหลานกลับสามารถส่งผลกระทบต่อเหล่าแมลงพิษของนางได้เช่นเดียวกับพลังที่น่าเกรงกลัวของราชาแมลงที่มี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 751

    แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว จู๋เยวี่ยที่อยู่บนรถม้าด้านหลังเวินซื่อย่อมไม่อาจดูอยู่เฉย ๆ ได้“เจ้าอีกแล้ว!”เยี่ยนจือจ้องมองจู๋เยวี่ยที่ขวางดาบคมของเขาไว้อีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว“ครั้งที่แล้วที่ข้าแพ้ให้กับเจ้าก็เพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่อย่างไม่ต้องสงสัย”จู๋เยวี่ยตอบเขาเพียงสี่คำ “พ่ายแพ้ราบคาบ”เยี่ยนจือโมโหขึ้นมาทันใด “รนหาที่ตายแล้ว!”ทั้งสองเริ่มเข่นฆ่ากันทันทีที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเยี่ยนจือ ยังมีนักฆ่าที่ชางชิงหลานพามาอีกหลายสิบคนพวกเขาเห็นเวินซื่อไม่มีใครอยู่รอบตัวนางในเวลานี้ ก็เข้ามาล้อมอย่างไม่ลังเลหน้าหลังมีคนทั้งนั้น ซ้ำยังตกเป็นรองด้านจำนวนคนมาก ดูเหมือนจะเข้าตาจนจริง ๆ ต่อให้มีปีกยากจะหนีพ้นแต่วินาทีต่อมา...“โอ๊ย!”“ตัวอะไรมากัดข้า?!”“นี่คืออะไร? มดมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน?!”“เจ็บมาก! มดพวกนี้กัดคนเจ็บมาก!”“รีบเหยียบพวกมันให้ตาย! เร็วเข้า!”“ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แล้ว! บ้าเอ๊ย ทำไมถึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”“โอ๊ย ๆ ๆ!”ในขณะที่ทุกคนกำลังเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด มดฝูงแล้วฝูงเล่าก็คลานออกมาจากทั้งสองฝั่งของหุบเขาอย่างรวดเร็วมดเหล่านั้นมีสีแดงปลอด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 750

    เวินซื่อและคนอื่นๆ หันกลับไปมอง ผู้ที่ล้อมมาจากทางด้านหลังคือเจ้าหน้าที่ทางการของอำเภอหลินเจียงส่วนหัวหน้ากลุ่มนั้น ถึงแม้เวินซื่อจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นตา เวินซื่อมองปราดเดียวก็คาดเดาได้ในทันทีว่า อีกฝ่ายต้องเป็นบิดาของหลี่อันซึ่งเป็นนายอำเภอผู้นั้นอย่างแน่นอน“ทางการได้รับแจ้งความ มาจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม หากรู้ความก็ยอมจำนนแต่โดยดี ผู้ใดกล้าขัดขืน ฆ่าทิ้งได้ทันที!”นายอำเภอหลี่ขี่อยู่บนหลังม้า มองลงมายังเวินซื่อและคนอื่นๆ อย่างโอหังแล้วตะโกนขึ้นทหารเกือบหนึ่งร้อยนายปิดล้อมอยู่ด้านหลัง ขวางเวินซื่อและคนอื่นๆ เอาไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเปิดทางหนีให้พวกเขาแม้แต่น้อยเวินซื่อหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย ส่งสายตาให้คนที่อยู่บนหลังคารถม้าข้างๆ ก่อน หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำก็เข้าใจในทันที“กองทัพธงดำปฏิบัติภารกิจ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบไสหัวไป!”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำตะโกนเสียงดังลั่น เสียงก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขาเมื่อได้ยินคำว่า “กองทัพธงดำ” สี่คำ เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นต่างกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที“อะไรนะ? กองทัพธงดำหรือ?”“เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 749

    การใช้รถม้าสองคันเพื่อสร้างความสับสนเช่นนี้ อาจทำให้คนเหล่านั้นไม่สามารถระบุตัวหลินหงเหวินได้ในทันที“แน่นอนว่านางก็รู้เช่นกันว่า ตนเองก็อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนเหล่านั้นด้วยก็เป็นได้แต่ตอนนี้คนสองกลุ่มนี้ อย่างน้อยทางฝั่งชางชิงหลานก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนางนางกลับค่อนข้างอยากรู้ว่า หลังจากที่ฝ่ายทางการรู้ฐานะที่แท้จริงของนางแล้ว จะยังกล้าลงมือต่อไปอีกหรือไม่หากลังเลไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็เป็นเพียงเรื่องความแค้นระหว่างนางกับคุณชายบุตรนายอำเภอผู้นั้นเท่านั้นหากรู้แล้วยังกล้าลงมือ เช่นนั้นเบื้องหลังของคนเหล่านี้ก็พอจะคาดเดาได้แล้วเวินซื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในรถม้า ท่องบทสวดมนต์เพื่อสงบจิตใจไปพลาง ครุ่นคิดเรื่องราวเหล่านี้อย่างเงียบๆ ไปพลางขณะที่รถม้าเดินทางอย่างราบรื่นมาได้ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เข้าสู่หุบเขาแห่งหนึ่ง เวินซื่อก็พลันลืมตาขึ้นวินาทีต่อมา ฝนธนูนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากฟากฟ้า“ซู่ๆ ซู่ๆ ...”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำและจู๋เยวี่ยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันแทบจะในทันที คนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถม้าของเวินซื่อ อีกคนกระโดดขึ้นไปบนรถม้าอีกคัน ต่างคนต่างลงมือ ปั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status