แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”

เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!”

ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ

“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”

เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอ

บวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?

นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนาง

เนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงตามหาตัวกลับมาได้เมื่อครึ่งปีก่อน

บิดาบอกว่านางถูกคนลักพาตัวไปตอนสามขวบ ถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอกทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เด็ก

ทุกคนในสกุลเวินล้วนติดค้างเวินเยวี่ยอย่างยิ่ง และอยากพยายามชดเชยให้นาง

ในอดีตเวินซื่อก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรนางคิดว่าเวินเยวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง

แต่ชาติที่แล้วนางกลับจ่ายค่าตอบแทนด้วยความชอกช้ำใจอย่างยิ่งเพราะความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้!

ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยอีกครั้ง เวินซื่อแทบอยากจะสังหารนางทันที!

“น้องหก! เหตุใดเจ้าถึงใจดีขนาดนี้? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของน้องห้า เจ้ายังจะช่วยอธิบายอะไรให้นางอีก?”

“ไม่ใช่นะ โธ่เอ๊ย! พี่รอง เหตุใดท่านไม่ฟังเลยเล่า”

เวินเยวี่ยเอ่ยพลางหันหน้ามาขอโทษเวินซื่อ “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ทั้งหมดต้องโทษที่ข้าพูดไม่เก่งบอกไม่ชัดเจน ท่านอย่าโกรธพี่รองได้ไหม? เขาแค่เป็นห่วงข้ามากเกินไปเท่านั้น”

“เจ้าจะขอโทษนางเพื่ออะไร เห็นชัด ๆ ว่านางควรขอโทษเจ้า!”

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เวินซื่อหลุบตาปิดบังความพยาบาทในก้นบึ้งของดวงตา “ใช่ พี่รองกล่าวถูกต้อง เรื่องเมื่อสองวันก่อนข้าทำผิดไปจริง ๆ ข้าควรขออภัยน้องหกถึงจะถูก”

ไม่มีทางเลือก

นางเกิดใหม่ช้าไปสองวัน ชาติที่แล้วช่วงเวลานี้เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตนเองแล้ว จากนั้นก็ใส่ความนาง

เวินเยวี่ยไม่จำเป็นต้องมีแม้กระทั่งหลักฐานใด ๆ ขอเพียงให้คนเห็นว่านางถือชุดพิธีการที่พังเสียหายแล้วร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็นึกถึงเวินซื่อได้

ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็ถูกเวินเยวี่ยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาทำลายชื่อเสียงไปนานแล้ว

ทุกคนต่างรู้ว่าเวินซื่ออิจฉาริษยาน้องสาวของตนเอง นอกจากนี้ยังใจร้ายใจดำ จิตใจคับแคบ อีกทั้งเป็นคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย!

ดังนั้นขอเพียงเวินเยวี่ย ‘โดนรังแก’ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเวินซื่ออย่างแน่นอน!

เวินซื่อที่ข่มกลั้นความแค้นชิงชังทั้งหมดไว้ก็ยิ้มให้เวินเยวี่ย แล้วเอ่ยปากขอโทษว่า “สองวันนี้ครุ่นคิดเรื่องนี้ข้าก็นอนไม่หลับ รู้สำนึกเสียใจจริง ๆ น้องหกโปรดให้อภัยด้วย”

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของนางทำให้เวินเยวี่ยเห็นแล้วสงสัยว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนใช่หรือไม่?

“ฮึ ตอนนี้เจ้ารู้ความผิดแล้วหรือ?”

เวินจื่อเฉินหัวเราะหยัน “คนใจดำเช่นเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ข้าคงส่งเจ้าให้ทางการไปนานแล้ว ให้เจ้าลิ้มรสการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงในคุก!”

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจเช่นเดียวกัน

น้องสาวแท้ ๆ?

เหอะ แต่ตอนนี้นางไม่อยากเป็นน้องสาวของคนพรรค์นี้แล้ว!

วันนี้เมื่อชาติที่ก่อน นางถูกเวินจื่อเฉินทุบตีจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ยอมขอโทษเวินเยวี่ย

นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายแทบจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปเกือบทุกส่วน

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง

เขาก็ไม่ยั้งมือให้นางเลยสักนิดเดียว!

ในบรรดาพี่ชายทั้งสี่คนของนาง เวินจื่อเฉินกับเวินจื่อเยวี่ยฝาแฝดคู่นี้มีนิสัยแย่ที่สุด

พี่รองเวินจื่อเฉินอารมณ์ร้อนอย่างยิ่ง ตอนที่รักเอ็นดูน้องสาวอย่างนาง สามารถฟาดทุกคนที่รังแกนางได้เพื่อนาง

แต่ตอนที่ไม่รักเอ็นดูนาง ก็สามารถลงมือกับนางได้ทันทีโดยไม่รีรอเช่นกัน

โดยเฉพาะเมื่อนางขัดแย้งกับเวินเยวี่ย ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้ นางจะต้องโดนทุบตีอย่างแน่นอน!

เวินซื่อเม้มริมฝีปาก

เวินจื่อเฉินสูงกว่านาง พละกำลังเยอะกว่านาง ตอนนี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา คนที่เสียเปรียบมีเพียงตัวนางเอง

ดังนั้นเวินซื่อจึงเลือกก้มหน้า

ไม่เป็นไร ชาตินี้สิ่งที่นางมีคือเวลาในการชำระความแค้นอย่างช้า ๆ

แต่ดูเหมือนว่าเนื่องจากนางขอโทษไวเกินไป กลับทำให้บางคนรู้สึกว่ายังไม่สาสม

“พี่รอง ในเมื่อพี่หญิงห้าขอโทษแล้ว เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเหมือนกัน แค่น่าเสียดายที่ไม่มีชุดพิธีการแล้ว ข้าเกรงว่ายากจะเข้าร่วมพิธีปักปิ่นในวันนี้แล้ว”

ภายในห้อง เสียวของเวินเยวี่ยเอ่ยปากพูดอย่างขลาดกลัว

เวินจื่อเฉินที่เดิมทียังคิดว่าให้มันแล้วกันไป หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้พลันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเวินเยวี่ยขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ เรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!”

“ครั้งนี้นางทำลายชุดพิธีการของเจ้า ครั้งหน้าอาจจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีกก็เป็นได้ จะต้องให้นางได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง จะได้จดจำไว้นาน ๆ!”

เวินจื่อเฉินกล่าวจบก็หันหน้าไปถลึงตาใส่เวินซื่อ “ในเมื่อเจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหก เช่นนั้นก็นำชุดพิธีการปักปิ่นชุดนั้นของเจ้าออกมามอบให้น้องหกเสีย สำหรับพิธีปักปิ่นในวันนี้ ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการแล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมอีกต่อไปแล้ว”

ดวงตาของเวินเยวี่ยส่องประกายขึ้นมาทันใด

เวินซื่อไม่ได้มองข้ามสายตาของนางเลย และไม่รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรสาเหตุที่เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตัวนางเองและใส่ความนางก็เพื่อจะเอาชุดพิธีการของเวินซื่อ

ว่าไปแล้วชุดพิธีปักปิ่นของนางยังเป็นชุดที่บรรดาพี่ชายทั้งสี่คนสั่งทำให้นางล่วงหน้าหนึ่งปี

เครื่องประดับศีรษะเป็นกวานหยกพันด้วยไหมทองและขนนกกระเต็น

ชุดเป็นผ้าไหมชั้นดีจากเสฉวนปักลายผีเสื้อ

ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือว่าการตัดเย็บล้วนเป็นสุดยอดของเมืองหลวง

ตอนแรกที่ทำชุดพิธีการนี้ พวกพี่ชายพูดกับเวินซื่อว่าอยากให้น้องสาวสุดที่รักของพวกเขากลายเป็นสตรีที่ได้รับความอิจฉามากที่สุดของเมืองหลวงในพิธีปักปิ่น

น่าเสียดายที่ต่อมา ‘น้องสาวสุดที่รัก’ ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นแล้ว

เมื่อเห็นเวินซื่อไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น เวินจื่อเฉินนึกว่านางไม่อยากตกลง จึงกล่าวอย่างไม่พอใจทันทีว่า “ทำไม? เจ้าไม่ยินยอม? หรือว่าในใจเจ้าไม่คิดจะกลับตัวกลับใจจริง ๆ คำพูดที่กล่าวเมื่อครู่นี้เป็นแค่การหลอกลวงข้าหรือ?!”

“ฮึ หากเป็นเช่นนี้ อย่าโทษว่าพี่รองของเจ้าไม่เกรงใจ...วันนี้เจ้าจะเอาก็ต้องเอา ไม่เอาก็ต้อง...”

“ตกลง”

เวินซื่อพลันส่งเสียงขึ้น ตัดบทของเวินจื่อเฉิน

นางไม่แม้แต่จะมองเวินจื่อเฉิน

หันตัวไปที่ห้องแล้วหยิบชุดพิธีการที่เตรียมไว้นานแล้วชุดนั้นออกมา

ถึงอย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ของนาง

เวินซื่อยื่นมาข้างหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ “น้องหก ให้เจ้า ตอนนี้ชุดพิธีการนี้เป็นของเจ้าแล้ว รีบรับไปสิ”

ดูเหมือนเป็นเพราะเวินซื่อมอบให้เร็วเกินไป เวินเยวี่ยจึงไม่ทันตอบสนองไปชั่วขณะ

นางคาดการณ์ไว้ว่าเวินซื่อไม่น่าจะยอมตกลงง่ายถึงเพียงนี้

นางน่าจะโวยวายเสียงดัง หลังจากนั้นก็ยั่วโทสะของเวินจื่อเฉิน และจากนิสัยของเวินจื่อเฉิน เขาจะต้องทุบตีนางจนนางต้องมอบชุดพิธีการออกมา เช่นนั้นถึงจะถูก

แต่ตอนนี้ เหตุใดเวินซื่อจึงยอมตกลงแล้ว?

เวินเยวี่ยรู้สึกว่าผิดปกติ

หรือจะพูดว่าตั้งแต่เมื่อกี้นางรู้สึกมาตลอดว่าปฏิกิริยาของเวินซื่อแปลกประหลาดมาก

ยอมรับง่าย ๆ เช่นนี้ หรือว่าอีกฝ่ายคาดเดาได้นานแล้วว่าเป้าหมายของนางคือชุดพิธีการนี้?

ดังนั้น...นางเล่นตุกติกอะไรบนชุดพิธีการใช่หรือไม่?

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววดูแคลนทันที

นางนึกว่าตนเองคาดเดาความคิดของเวินซื่อได้แล้ว จึงหัวเราะเยาะในใจ

โง่งม

คอยดูว่าข้าจะเปิดโปงเจ้าอย่างไร

เวินเยวี่ยแสร้งทำเป็นจะรับชุดพิธีการ เพิ่งจะยื่นมือไปสัมผัสชุดพิธีการนั้น นางก็ร้องด้วยความเจ็บปวดฉับพลัน

“กรี๊ด พี่รอง ข้าเจ็บมากเลย!”

ชุดพิธีการถูกสะบัดทิ้งลงกับพื้น นางหันตัวโผเข้าไปในอ้อมแขนของเวินจื่อเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เวินจื่อเฉินยื่นมือไปปกป้องเวินเยวี่ยตามจิตใต้สำนึก แล้วผลักเวินซื่อออก ครั้งนี้ตวาดแม้กระทั่งชื่อแซ่ด้วยความเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ! เจ้าทำอะไรน้องหกอีกแล้ว?!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
นิธิกร
Tryijjmjk,,
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
อินเลยนางร้ายมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 938

    “บ้าเอ๊ย นางกลับกล้าทำแบบนี้กับจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้!”หากเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าไม่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ท่านโหวและเส้าเจ๋อของนาง จะกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นด้วย!เวินหย่าลี่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลานซื่อ รีบถามว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หากท่านล่าช้าไปอีกสิบวันถึงครึ่งเดือนไข่แมลงพวกนี้จะฟักออกมา ถึงตอนนั้นท่านโหวของเราจะหมดทางช่วยเหลือแล้วหรือเปล่า?”หลานซื่อลูบคางพูดว่า “ใช่ว่าจะหมดทางช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง แต่ถึงแม้จะรอดมาได้ ก็จะกลายเป็นคนไม่สมประกอบ ไม่โง่เขลาก็พิการ”“อย่างนั้นก็ไม่ได้การ! จำเป็นต้องรีบช่วยท่านโหวและเส้าเจ๋อ!”เวินหย่าลี่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ก้าวไปข้างหน้าพลางคุกเข่าลง คุกเข่าลงตรงหน้าหลานซื่อทันที เอ่ยขอร้องอย่างเป็นกังวล “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ หม่อมฉันรู้ว่าท่านต้องมีวิธี ได้โปรดช่วยท่านโหว ช่วยลูกชายของข้าด้วย!”“ใช่แล้ว!”นางพูดไปก็นึกถึงอะไรออกในทันใด รีบล้วงของสิ่งหนึ่งที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง “ของสิ่งนี้ เป็นสมบัติของประมุขตระกูลหลานของพวกท่าน”นางเปิดผ้าเช็ดหน้าออก เผยให้เห็นสิ่งของข้างในเป็นตราหยก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 937

    เวินหย่าลี่มองไปที่ไข่แมลงกองนั้น ไม่อาจเชื่อได้เลยทำไมในร่างกายของนางถึงได้มีสิ่งที่น่ากลัวมากมายเช่นนี้อยู่?!ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เป็นใคร...ไม่ใช่สิ นางรู้ว่าเป็นใคร!เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ นอกจากหญิงชั่วเวินเยวี่ยคนนั้นแล้วจะยังมีใครได้อีกเล่า!และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ สิ่งที่หลานซื่อพูดกับนางในเวลาต่อมา...“ไข่แมลงเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ ดูจากขนาดของมันแล้วน่าจะอาศัยอยู่ในร่างกายของท่านมาสักพักแล้ว อืม...ไม่น่าจะน้อยกว่าหนึ่งเดือนกระมัง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความจริงเวินเยวี่ยได้ลงมือกับผู้คนในจวนจงหย่งโหวไปตั้งนานแล้วเพียงแต่เมื่อไม่นานมานี้ ไข่แมลงในร่างกายของเวินหย่าลี่และคนอื่น ๆ ค่อย ๆ คงที่ ถึงได้เริ่มหยุดอำพรางโฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว“ยัง...ยังมีชีวิตอยู่หรือ? อย่าบอกนะว่าสิ่งเหล่านี้ยังฟักออกมาได้?!”เวินหย่าลี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือหลานซื่อพยักหน้า “ถูกต้อง หากท่านล่าช้าไปสิบกว่าวันถึงครึ่งเดือนแล้วล่ะก็ แมลงพวกนี้น่าจะสามารถฟักตัวภายในร่างกายของท่านได้ จากนั้นก็เจาะเข้าไปในอวัยวะภายในของท่าน แขนขาทั้งสี่และกระดูกทั้งหมด เจาะเข้าไปแม้กระทั่งสมองของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 936

    “ถ้าเป็นเวินเยวี่ยล่ะก็ จริงที่ว่าจะไม่มีทางปล่อยท่านไปง่าย ๆ เพราะอย่างไรตอนแรกที่นางแต่งเข้าไปในจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ก็ได้รับความทนทุกข์มาก”หลานซื่อพูดด้วยแววตาที่แฝงความหยอกล้อเอาไว้ ดูแสร้งยิ้มเวินหย่าลี่เผยความกระดากอายออกมาทางสีหน้าทันที “แต่นางเป็นคนวางแผนคิดร้ายกับเส้าเจ๋อของเราก่อน...”“เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว”หลานซื่อบอกให้นางหุบปากทันที ขี้เกียจจะฟังคำพูดไร้สาระเหล่านั้นของนาง“ในร่างกายของท่านนอกจากพิษงูที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อย ก็ไม่มีพิษอื่นแล้ว แต่กลับมีอย่างอื่นอีกเล็กน้อย”“ข้ารู้อยู่แล้วเชียว!”เวินหย่าลี่เบิกตากว้างในทันใด ตื่นเต้นมากจนไม่สนใจชื่อเรียกของตัวเองด้วยซ้ำ มองหลานซื่อด้วยความร้อนใจ “มันคืออะไร? นางทำอะไรกับร่างกายของข้ากันแน่?!”“ในช่วงเวลานี้ ท่านได้กินหรือดื่มอะไรที่นางให้มาบ้างหรือเปล่า?”หลานซื่อไม่ตอบนางโดยตรง แต่กลับย้อนถามเวินหย่าลี่ยิ่งรู้สึกกระดากอาย “นางไม่เคยนำอาหารอะไรมาให้ข้า...หม่อมฉันกับมือเลย แต่ตอนนี้จวนจงหย่งโหวของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของนางแล้ว ของกินดื่มอะไร นางก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง มีคนไปทำให้”ดังนั้นหากเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 935

    “ให้นางเข้ามาสิ”หลานซื่อกลับไปที่ข้างโต๊ะแล้วนั่งลงเมื่อเป่ยเฉินหยวนได้ยินว่ามีคนมา ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเขาจำฮูหยินจงหย่งโหวท่านนั้นได้ ดูเหมือนจะเป็นน้องสาวของเจิ้นกั๋วกง อดีตน้าหญิงของอู๋โยวกระมัง?ครั้งหนึ่งเคยใส่ความอู๋โยวว่าขโมยของจากครอบครัวของนาง ความสัมพันธ์กับอู๋โยวดูจะแย่ทีเดียวเหตุใดวันนี้ถึงมาหาอู๋โยวได้?ไม่ใช่ว่าเป่ยเฉินหยวนคิดมากเกินไปแต่ที่สำคัญคือวันนี้ หากเวินหย่าลี่มาร่วมงานเลี้ยงในฐานะฮูหยินจงหย่งโหว ก็ไม่เห็นจะต้องมาหาหลานซื่อตามลำพังเมื่อครู่ไม่เห็นนางที่งานเลี้ยง ตอนนี้กลับมาหานางแบบส่วนตัวเห็นได้ชัดว่าผิดปกติเป่ยเฉินหยวนมองไปทางหลานซื่อ “ต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรไหม?”หลานซื่อส่ายศีรษะ “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้ท่านอ๋องลงมือ”“แล้วต้องให้ข้าหลบไปหรือไม่”“ไม่ต้องเช่นกัน หากท่านอ๋องอยากรู้ก็สามารถอยู่ฟังได้ ถือว่าเป็นเรื่องสนุก ๆ ก็พอ”เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้กังวลและไม่หลบเลี่ยงของหลานซื่อเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนก็อดแย้มมุมปากไม่ได้วินาทีต่อมา เขาก็นั่งลงตรงข้ามกับหลานซื่อเช่นกันไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกประตูเวินหย่าล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 934

    “ประมูลตระกูลหลานไม่จำเป็นต้องทักทายพวกเรา แค่เอาเหล้าฮัวเตียวมาสักหน่อย พวกเราก็จัดการกันเองได้แล้ว”เสนาบดีฉีในฝูงชนก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเช่นกันล้วนเป็นคนเฉลียวฉลาดกันทั้งนั้น ย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์คั่นเวลาเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นดังนั้นนี่คือการให้หลานซื่อจัดการกับนางก่อน ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าบรรดาแขกเหรื่อจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเพราะถึงอย่างไรก็ยังมีพ่อตาฮ่องเต้ที่คอยช่วยสนับสนุนนาง และแม้แต่เสนาบดีฉีเองก็เริ่มเอ่ยปากถาม โดยมีใต้เท้าสองคนนี้อยู่ด้วย ยังให้เกียรติกันไม่พออีกหรือ?หลานซื่อที่มองเห็นเจตนาดีของทั้งสองก็ไม่ปฏิเสธ ตอนนี้นางก็ยังมีเรื่องต้องจัดการด้วยจริง ๆ“ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ทุกท่านกินดื่มให้เต็มที่ หากมีความต้องการอะไรก็สั่งคนรับใช้ในจวนได้เลย หากดูแลไม่ทั่วถึง ก็ต้องขออภัยด้วย”จนกระทั่งตอนนี้ หลานซื่อก็ยังเกรงใจและสุภาพมากแม้ว่าวันนี้จะมีแขกเหรื่อมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครพูดได้ว่าประมูลตระกูลหลานคนใหม่นี้ดูแลไม่ทั่วถึงหรือผิดพลาด”เพราะถึงอย่างไรอีกหนึ่งสถานะของนาง ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่าองค์หญิงเมื่อพบนาง ควรเป็นพวกเขามากกว่าที่ต้องคุกเข่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 933

    ขณะที่อันหมิงจูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง อันปี่เค่อก็ชิงพูดก่อนนางหนึ่งก้าวด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “เอาล่ะ ลูกสาวแสนดี เจ้าดูสภาพเจ้าในตอนนี้สิ อย่าเสียเวลาอยู่ที่เรือนของธิดาศักดิ์สิทธิ์ต่อไปเลย พ่อจะพาเจ้ากลับไปก่อน มีอะไรเอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน เร็วเข้า บอกลาธิดาศักดิ์สิทธิ์สักคำ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ อันหมิงจูจะทำอะไรได้อีกนางทำได้เพียงอดทนกับอารมณ์คับข้องใจ เอาเสื้อกันลมที่สาวใช้เอามาให้คลุมไหล่ ปกปิดร่างกายเอาไว้ พร้อมกับทำความเคารพหลานซื่ออย่างไม่เต็มใจนัก“ขออภัยด้วยธิดาศักดิ์สิทธิ์ ข้าน้อยขอลา”หลานซื่อเหลือบมองนางอย่างเฉยชาเดิมทียังไม่อยากปล่อยอันหมิงจูและคนอื่น ๆ ไปง่าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่นึกว่าอันปี่เค่อผู้นี้จะตาไวเช่นนี้สังเกตเห็นภัยอันตรายในชั่วพริบตา จากนั้นก็ตัดสินใจถอนตัวโดยไม่ลังเลถ้าเป็นเฒ่าสารพัดพิษอย่างเวินเฉวียนเซิ่งนั่น ต้องกลับมาลองหยั่งเชิงอีกครั้งอย่างแน่นอนยากที่จะรับมือจริง ๆหลานซื่อหรี่ตาลง “คุณหนูใหญ่สกุลอันตกน้ำตื่นตกใจ ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกุลหลาน ดื่มน้ำแกงขิงสักหน่อยแล้วค่อยไปล่ะ? จะได้ไม่เป็นหวัด”“แค่ก ๆ ขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นห่วง แต่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status