Share

บทที่ 3

Author: จิ้งซิง
เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”

เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!”

ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ

“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”

เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอ

บวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?

นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนาง

เนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงตามหาตัวกลับมาได้เมื่อครึ่งปีก่อน

บิดาบอกว่านางถูกคนลักพาตัวไปตอนสามขวบ ถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอกทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เด็ก

ทุกคนในสกุลเวินล้วนติดค้างเวินเยวี่ยอย่างยิ่ง และอยากพยายามชดเชยให้นาง

ในอดีตเวินซื่อก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรนางคิดว่าเวินเยวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง

แต่ชาติที่แล้วนางกลับจ่ายค่าตอบแทนด้วยความชอกช้ำใจอย่างยิ่งเพราะความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้!

ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยอีกครั้ง เวินซื่อแทบอยากจะสังหารนางทันที!

“น้องหก! เหตุใดเจ้าถึงใจดีขนาดนี้? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของน้องห้า เจ้ายังจะช่วยอธิบายอะไรให้นางอีก?”

“ไม่ใช่นะ โธ่เอ๊ย! พี่รอง เหตุใดท่านไม่ฟังเลยเล่า”

เวินเยวี่ยเอ่ยพลางหันหน้ามาขอโทษเวินซื่อ “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ทั้งหมดต้องโทษที่ข้าพูดไม่เก่งบอกไม่ชัดเจน ท่านอย่าโกรธพี่รองได้ไหม? เขาแค่เป็นห่วงข้ามากเกินไปเท่านั้น”

“เจ้าจะขอโทษนางเพื่ออะไร เห็นชัด ๆ ว่านางควรขอโทษเจ้า!”

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เวินซื่อหลุบตาปิดบังความพยาบาทในก้นบึ้งของดวงตา “ใช่ พี่รองกล่าวถูกต้อง เรื่องเมื่อสองวันก่อนข้าทำผิดไปจริง ๆ ข้าควรขออภัยน้องหกถึงจะถูก”

ไม่มีทางเลือก

นางเกิดใหม่ช้าไปสองวัน ชาติที่แล้วช่วงเวลานี้เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตนเองแล้ว จากนั้นก็ใส่ความนาง

เวินเยวี่ยไม่จำเป็นต้องมีแม้กระทั่งหลักฐานใด ๆ ขอเพียงให้คนเห็นว่านางถือชุดพิธีการที่พังเสียหายแล้วร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็นึกถึงเวินซื่อได้

ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็ถูกเวินเยวี่ยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาทำลายชื่อเสียงไปนานแล้ว

ทุกคนต่างรู้ว่าเวินซื่ออิจฉาริษยาน้องสาวของตนเอง นอกจากนี้ยังใจร้ายใจดำ จิตใจคับแคบ อีกทั้งเป็นคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย!

ดังนั้นขอเพียงเวินเยวี่ย ‘โดนรังแก’ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเวินซื่ออย่างแน่นอน!

เวินซื่อที่ข่มกลั้นความแค้นชิงชังทั้งหมดไว้ก็ยิ้มให้เวินเยวี่ย แล้วเอ่ยปากขอโทษว่า “สองวันนี้ครุ่นคิดเรื่องนี้ข้าก็นอนไม่หลับ รู้สำนึกเสียใจจริง ๆ น้องหกโปรดให้อภัยด้วย”

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของนางทำให้เวินเยวี่ยเห็นแล้วสงสัยว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนใช่หรือไม่?

“ฮึ ตอนนี้เจ้ารู้ความผิดแล้วหรือ?”

เวินจื่อเฉินหัวเราะหยัน “คนใจดำเช่นเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ข้าคงส่งเจ้าให้ทางการไปนานแล้ว ให้เจ้าลิ้มรสการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงในคุก!”

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจเช่นเดียวกัน

น้องสาวแท้ ๆ?

เหอะ แต่ตอนนี้นางไม่อยากเป็นน้องสาวของคนพรรค์นี้แล้ว!

วันนี้เมื่อชาติที่ก่อน นางถูกเวินจื่อเฉินทุบตีจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ยอมขอโทษเวินเยวี่ย

นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายแทบจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปเกือบทุกส่วน

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง

เขาก็ไม่ยั้งมือให้นางเลยสักนิดเดียว!

ในบรรดาพี่ชายทั้งสี่คนของนาง เวินจื่อเฉินกับเวินจื่อเยวี่ยฝาแฝดคู่นี้มีนิสัยแย่ที่สุด

พี่รองเวินจื่อเฉินอารมณ์ร้อนอย่างยิ่ง ตอนที่รักเอ็นดูน้องสาวอย่างนาง สามารถฟาดทุกคนที่รังแกนางได้เพื่อนาง

แต่ตอนที่ไม่รักเอ็นดูนาง ก็สามารถลงมือกับนางได้ทันทีโดยไม่รีรอเช่นกัน

โดยเฉพาะเมื่อนางขัดแย้งกับเวินเยวี่ย ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้ นางจะต้องโดนทุบตีอย่างแน่นอน!

เวินซื่อเม้มริมฝีปาก

เวินจื่อเฉินสูงกว่านาง พละกำลังเยอะกว่านาง ตอนนี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา คนที่เสียเปรียบมีเพียงตัวนางเอง

ดังนั้นเวินซื่อจึงเลือกก้มหน้า

ไม่เป็นไร ชาตินี้สิ่งที่นางมีคือเวลาในการชำระความแค้นอย่างช้า ๆ

แต่ดูเหมือนว่าเนื่องจากนางขอโทษไวเกินไป กลับทำให้บางคนรู้สึกว่ายังไม่สาสม

“พี่รอง ในเมื่อพี่หญิงห้าขอโทษแล้ว เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเหมือนกัน แค่น่าเสียดายที่ไม่มีชุดพิธีการแล้ว ข้าเกรงว่ายากจะเข้าร่วมพิธีปักปิ่นในวันนี้แล้ว”

ภายในห้อง เสียวของเวินเยวี่ยเอ่ยปากพูดอย่างขลาดกลัว

เวินจื่อเฉินที่เดิมทียังคิดว่าให้มันแล้วกันไป หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้พลันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเวินเยวี่ยขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ เรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!”

“ครั้งนี้นางทำลายชุดพิธีการของเจ้า ครั้งหน้าอาจจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีกก็เป็นได้ จะต้องให้นางได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง จะได้จดจำไว้นาน ๆ!”

เวินจื่อเฉินกล่าวจบก็หันหน้าไปถลึงตาใส่เวินซื่อ “ในเมื่อเจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหก เช่นนั้นก็นำชุดพิธีการปักปิ่นชุดนั้นของเจ้าออกมามอบให้น้องหกเสีย สำหรับพิธีปักปิ่นในวันนี้ ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการแล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมอีกต่อไปแล้ว”

ดวงตาของเวินเยวี่ยส่องประกายขึ้นมาทันใด

เวินซื่อไม่ได้มองข้ามสายตาของนางเลย และไม่รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรสาเหตุที่เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตัวนางเองและใส่ความนางก็เพื่อจะเอาชุดพิธีการของเวินซื่อ

ว่าไปแล้วชุดพิธีปักปิ่นของนางยังเป็นชุดที่บรรดาพี่ชายทั้งสี่คนสั่งทำให้นางล่วงหน้าหนึ่งปี

เครื่องประดับศีรษะเป็นกวานหยกพันด้วยไหมทองและขนนกกระเต็น

ชุดเป็นผ้าไหมชั้นดีจากเสฉวนปักลายผีเสื้อ

ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือว่าการตัดเย็บล้วนเป็นสุดยอดของเมืองหลวง

ตอนแรกที่ทำชุดพิธีการนี้ พวกพี่ชายพูดกับเวินซื่อว่าอยากให้น้องสาวสุดที่รักของพวกเขากลายเป็นสตรีที่ได้รับความอิจฉามากที่สุดของเมืองหลวงในพิธีปักปิ่น

น่าเสียดายที่ต่อมา ‘น้องสาวสุดที่รัก’ ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นแล้ว

เมื่อเห็นเวินซื่อไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น เวินจื่อเฉินนึกว่านางไม่อยากตกลง จึงกล่าวอย่างไม่พอใจทันทีว่า “ทำไม? เจ้าไม่ยินยอม? หรือว่าในใจเจ้าไม่คิดจะกลับตัวกลับใจจริง ๆ คำพูดที่กล่าวเมื่อครู่นี้เป็นแค่การหลอกลวงข้าหรือ?!”

“ฮึ หากเป็นเช่นนี้ อย่าโทษว่าพี่รองของเจ้าไม่เกรงใจ...วันนี้เจ้าจะเอาก็ต้องเอา ไม่เอาก็ต้อง...”

“ตกลง”

เวินซื่อพลันส่งเสียงขึ้น ตัดบทของเวินจื่อเฉิน

นางไม่แม้แต่จะมองเวินจื่อเฉิน

หันตัวไปที่ห้องแล้วหยิบชุดพิธีการที่เตรียมไว้นานแล้วชุดนั้นออกมา

ถึงอย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ของนาง

เวินซื่อยื่นมาข้างหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ “น้องหก ให้เจ้า ตอนนี้ชุดพิธีการนี้เป็นของเจ้าแล้ว รีบรับไปสิ”

ดูเหมือนเป็นเพราะเวินซื่อมอบให้เร็วเกินไป เวินเยวี่ยจึงไม่ทันตอบสนองไปชั่วขณะ

นางคาดการณ์ไว้ว่าเวินซื่อไม่น่าจะยอมตกลงง่ายถึงเพียงนี้

นางน่าจะโวยวายเสียงดัง หลังจากนั้นก็ยั่วโทสะของเวินจื่อเฉิน และจากนิสัยของเวินจื่อเฉิน เขาจะต้องทุบตีนางจนนางต้องมอบชุดพิธีการออกมา เช่นนั้นถึงจะถูก

แต่ตอนนี้ เหตุใดเวินซื่อจึงยอมตกลงแล้ว?

เวินเยวี่ยรู้สึกว่าผิดปกติ

หรือจะพูดว่าตั้งแต่เมื่อกี้นางรู้สึกมาตลอดว่าปฏิกิริยาของเวินซื่อแปลกประหลาดมาก

ยอมรับง่าย ๆ เช่นนี้ หรือว่าอีกฝ่ายคาดเดาได้นานแล้วว่าเป้าหมายของนางคือชุดพิธีการนี้?

ดังนั้น...นางเล่นตุกติกอะไรบนชุดพิธีการใช่หรือไม่?

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววดูแคลนทันที

นางนึกว่าตนเองคาดเดาความคิดของเวินซื่อได้แล้ว จึงหัวเราะเยาะในใจ

โง่งม

คอยดูว่าข้าจะเปิดโปงเจ้าอย่างไร

เวินเยวี่ยแสร้งทำเป็นจะรับชุดพิธีการ เพิ่งจะยื่นมือไปสัมผัสชุดพิธีการนั้น นางก็ร้องด้วยความเจ็บปวดฉับพลัน

“กรี๊ด พี่รอง ข้าเจ็บมากเลย!”

ชุดพิธีการถูกสะบัดทิ้งลงกับพื้น นางหันตัวโผเข้าไปในอ้อมแขนของเวินจื่อเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เวินจื่อเฉินยื่นมือไปปกป้องเวินเยวี่ยตามจิตใต้สำนึก แล้วผลักเวินซื่อออก ครั้งนี้ตวาดแม้กระทั่งชื่อแซ่ด้วยความเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ! เจ้าทำอะไรน้องหกอีกแล้ว?!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
นิธิกร
Tryijjmjk,,
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
อินเลยนางร้ายมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1084

    หลูเฟิงในเวลานี้อยากบีบคอเขาให้ตายนักยังต้องปกป้องเขาอีกหรือ?ถ้าไอ้แก่นี่ไม่ก่อเรื่อง เรื่องในคืนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!“บัดซบเอ๊ย!”หลังจากหลูเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งทันที “ทุกคน! คุ้มกันเจิ้นกั๋วกงเดี๋ยวนี้!”คนที่ฮ่องเต้ส่งมารีบคุ้มกันเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกที่หนีออกมาจากกระโจมที่ถูกผ่าออกไว้ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองจูเยวี่ยที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวังจูเยวี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ สายตาอันเย็นชาจับจ้องเพียงเวินเฉวียนเซิ่งที่ถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางเมื่อบีบคนออกมาได้แล้ว หลานซื่อก็ไม่ปล่อยให้จูเยวี่ยลงมือต่ออีกนางเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว เสี่ยวหานอยู่ที่ไหน?”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยวหานอะไรกัน ข้าไม่…”“ท่านควรบอกว่าท่านรู้ และรับรองด้วยว่าตอนนี้นางปลอดภัยดี”หลานซื่อขัดคำพูดเวินเฉวียนเซิ่งที่ต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันทีอย่างไม่เกรงใจ สายตาของนางแสดงเจตนาฆ่าชัดเจน “ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำให้พวกท่านทุกคนตายอยู่ที่นี่แน่”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันนิ่งเฉย เขาจ้องมองหลานซื่อด้วยสายตาอันมืดมนผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1083

    กว่าสิบศพถาโถมเข้าใส่กระโจม พร้อมกับระเบิดออกจู๋เยวี่ยและคนอื่น ๆ ยับยั้งไม่ทัน ถูกแรงระเบิดพัดกระเด็นออกไปแต่หลังจากร่วงลงสู่พื้น พวกเขามองดูบาดแผลบนร่างกายของตนเอง ก็พบว่าแรงระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิดไว้“นายน้อย!”จู๋เยวี่ยรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ถูกระเบิดทันทีแต่ในไม่ช้า นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนางเห็นหลานซื่อที่กำลังยืนอยู่กลางกระโจม และดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจู๋เยวี่ยคาดเดาได้ทันทีว่า เมื่อครู่นายหญิงของนางคงจะหลบเข้าไปในมิติปริศนานั่นดีมาก นายหญิงฉลาดจริง ๆไม่ได้รับบาดเจ็บคือความโชคดีอย่างยิ่งจู๋เยวี่ยรีบเข้าไปคุ้มกันนางไว้ข้างกาย ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”หลานซื่อผงกศีรษะเล็กน้อย ปลอบจู๋เยวี่ยและเกาหยางพลางเอ่ยว่า “ดินปืนในร่างของศพหุ่นเชิดพวกนั้นมีไม่มากนัก จุดประสงค์แท้จริงของพวกมันไม่ใช่เพื่อสังหารข้า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จู๋เยวี่ยและเกาหยางก็กลับมามีท่าทีระแวดระวังอีกครั้งไม่ใช่เพื่อสังหารคนในกระโจมหรือ?ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของเวินเฉวียนเซิ่งคืออะไร?เพื่อเบี่ยงเบนความส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1082

    เข้าสู่ราตรีกลางป่าพงไพรหลานซื่อนอนสงบเงียบอยู่ในกระโจมนางหลับตาทั้งสอง มีผ้าสักหลาดคลุมกาย หายใจสม่ำเสมอ ดูเหมือนหลับสนิทลงแล้วแต่ยามนี้สติของนางกลับตื่นตัวอย่างยิ่งนางกำลังใช้มุมมองของอวิ่นซิง มองไปรอบ ๆ จากบนหลังคากระโจมที่นางอยู่ภายนอกกระโจม ผืนป่าเงียบสงบยิ่งนักไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่เสียงแมลงในส่วนลึกของป่าก็ค่อย ๆ หายไปความรู้สึกมืดมนและแปลกประหลาดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นความรู้สึกที่หลานซื่อมองผืนป่าผ่านมุมมองของอวิ่นซิงเป็นเช่นนี้เองนางกำลังคิดว่า หากคืนนี้เวินเฉวียนเซิ่งจะลงมือ เขาจะทำอย่างไร?จะเป็นหลวงจีนเฒ่าลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่เมื่อหลานซื่อนึกถึงตรงนี้ ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนางยังไม่เคยประลองกับอีกฝ่ายอย่างจริงจังครั้งก่อนที่จวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะถือว่าได้ประมือกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่เผยไพ่ตายอย่างหมดเปลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ฝูงแมลงพิษของหลานซื่อได้ผ่านการยกระดับอย่างทรงพลังในช่วงเวลานี้ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนางอยากรู้จริง ๆ ว่า ครั้งนี้ไม้เท้าวิเศษของหลวงจีนเฒ่าผู้นั้นยังสามารถปราบฝูงแมลงพิษของนางได้หรือไม่น่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1081

    ทันทีที่หลานซื่อพูดจบ สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็มืดมนลงอย่างหนักในทันใดเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นไม่มีทางยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้ได้เลย“หลานซื่อ ข้าคิดว่าท่าทีของข้าดีพอแล้ว”“อย่างนั้นหรือ?”หลานซื่อเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย”ไม่ว่าท่าทีของท่านจะดีหรือไม่ นางไม่อยากให้ก็คือไม่อยากให้เวินเฉวียนเซิ่งเห็นหลานซื่อไม่ยอมอ่อนข้อเลย ก็รู้ว่าการแลกเปลี่ยนนี้ไร้ความหวังในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงใช้วิธีอื่นแล้วไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องดอกบัวกระดูกมังกรเด็ดขาดหลังจากกลับมาที่คณะของตนเองเขาก็ให้หมอที่พามาจากตลาดการค้าชายแดนตรวจขาหมาป่าไม้ที่สวมอยู่บนขาของเขาในช่วงเวลาตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนสิ่งประหลาด สิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขาได้รับก็คือขาหมาป่าไม้นี้และด้วยขาหมาป่าไม้นี้ เขาจึงกลับมายืนได้อีกครั้งคู่หนึ่งปกติรองรับได้ราวสิบวัน แต่เพราะต้องเร่งเดินทางด้วยม้า ตอนนี้ขาคู่นี้แทบจะใช้การไม่ได้แล้วแม้ว่าจะยังไม่พังเสียทีเดียว แต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับโยนมันทิ้งไปหน้าตาเฉย ทั้งที่มันมีราคาถึงสองพันตำลึงจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งก็ใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1080

    จากนั้นเขาก็หันไปมองหลานซื่อ สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายที่แผ่รอบกายจะผิดแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดหลานซื่อย่อมสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกันแต่นางเพียงชำเลืองมองเวินเฉวียนเซิ่งที่หลายวันมานี้ ดูเหมือนจะเดินเหินและเคลื่อนไหวได้เหมือนคนปกติแล้วอย่างเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับ“ท่านยายชอบก็ดีแล้ว ขอเพียงสมุนไพรนี้ทำให้ท่านยายมีความสุขขึ้นได้บ้าง มันก็คุ้มค่าแล้ว”ใครเล่าจะไม่ชอบเด็กที่ปากหวานและจิตใจดีแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำพลันยิ้มอย่างมีความสุขเหลือเกิน ก่อนจะดันพิษประหลาดนั้นกลับไป “พอแล้ว มีดอกบัวกระดูกมังกรต้นนั้นก็พอแล้ว ของสิ่งนี้เจ้าศึกษาวิจัยเอง เช่นนั้นก็เก็บไว้ให้ดี ไม่ต้องยกให้ยายแล้ว”หลานซื่อกำลังจะพูดอะไรต่อ แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำก็ให้นางนำภาพวาดมา“ก็อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ยายจะวาดแผนที่เส้นทางไปสถานที่แห่งนั้นให้พวกเจ้า แต่ยายขอเตือนพวกเจ้าไว้สักคำว่า ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งเข้าใกล้อันตรายก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้หนุ่มเจ้าต้องระวังให้ดี”“ขอบคุณท่านยายที่เตือน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”ครึ่งชั่วยามต่อมา หลานซื่อกับพวกก็ได้แผนที่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1079

    “ต้นฉบับหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงอยู่ในมือข้า หากซากปรักหักพังของหมู่บ้านเซียนที่ว่านั้นเป็นของจริง เจ้าก็จำเป็นต้องร่วมมือกับข้า”เวินเฉวียนเซิ่งพูดมาเช่นนี้ใบหน้าของหลานซื่อกลับปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นแวบหนึ่ง “ข้าก็สามารถสังหารท่านตอนนี้ แล้วเอาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงไปก็ได้”เวินเฉวียนเซิ่งส่ายศีรษะ “เจ้าทำได้อยู่แล้ว แต่แน่ใจหรือว่าต้องการแตกหักกับข้าตอนนี้?”เขามองคนที่อยู่ด้านหลังหลานซื่อ “คนของเจ้าอีกครึ่งหนึ่งไม่อยู่ การที่พวกเขาหายไปนั้นเป็นภัยคุกคามต่อข้าได้จริง ๆ แต่ข้าก็ไม่เคยไร้แผนสำรอง”เมื่อได้ยินการข่มขู่ในน้ำเสียงของเขา สายตาของหลานซื่อก็ยิ่งเย็นชาขึ้น “จริงหรือ? เช่นนั้นท่านก็ลองดู ว่าคนของข้าอีกครึ่งหนึ่งอยู่แถวนี้จริงหรือเปล่า”บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนบรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงในทันใดจนกระทั่งครู่หนึ่งต่อมา...เห็นหลานซื่อเหมือนจะมีเจตนาฆ่าปะทุขึ้นมาจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้ง “เอาละ ข้าจะไม่ถือสาเจ้า”เขาพลิกฝ่ามือหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา “สมุนไพรหายากกับพิษประหลาดไม่มี แต่มีข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status