Share

บทที่ 3

Author: จิ้งซิง
เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”

เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!”

ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ

“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”

เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอ

บวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?

นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนาง

เนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงตามหาตัวกลับมาได้เมื่อครึ่งปีก่อน

บิดาบอกว่านางถูกคนลักพาตัวไปตอนสามขวบ ถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอกทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เด็ก

ทุกคนในสกุลเวินล้วนติดค้างเวินเยวี่ยอย่างยิ่ง และอยากพยายามชดเชยให้นาง

ในอดีตเวินซื่อก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรนางคิดว่าเวินเยวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง

แต่ชาติที่แล้วนางกลับจ่ายค่าตอบแทนด้วยความชอกช้ำใจอย่างยิ่งเพราะความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้!

ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยอีกครั้ง เวินซื่อแทบอยากจะสังหารนางทันที!

“น้องหก! เหตุใดเจ้าถึงใจดีขนาดนี้? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของน้องห้า เจ้ายังจะช่วยอธิบายอะไรให้นางอีก?”

“ไม่ใช่นะ โธ่เอ๊ย! พี่รอง เหตุใดท่านไม่ฟังเลยเล่า”

เวินเยวี่ยเอ่ยพลางหันหน้ามาขอโทษเวินซื่อ “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ทั้งหมดต้องโทษที่ข้าพูดไม่เก่งบอกไม่ชัดเจน ท่านอย่าโกรธพี่รองได้ไหม? เขาแค่เป็นห่วงข้ามากเกินไปเท่านั้น”

“เจ้าจะขอโทษนางเพื่ออะไร เห็นชัด ๆ ว่านางควรขอโทษเจ้า!”

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด

เวินซื่อหลุบตาปิดบังความพยาบาทในก้นบึ้งของดวงตา “ใช่ พี่รองกล่าวถูกต้อง เรื่องเมื่อสองวันก่อนข้าทำผิดไปจริง ๆ ข้าควรขออภัยน้องหกถึงจะถูก”

ไม่มีทางเลือก

นางเกิดใหม่ช้าไปสองวัน ชาติที่แล้วช่วงเวลานี้เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตนเองแล้ว จากนั้นก็ใส่ความนาง

เวินเยวี่ยไม่จำเป็นต้องมีแม้กระทั่งหลักฐานใด ๆ ขอเพียงให้คนเห็นว่านางถือชุดพิธีการที่พังเสียหายแล้วร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็นึกถึงเวินซื่อได้

ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็ถูกเวินเยวี่ยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาทำลายชื่อเสียงไปนานแล้ว

ทุกคนต่างรู้ว่าเวินซื่ออิจฉาริษยาน้องสาวของตนเอง นอกจากนี้ยังใจร้ายใจดำ จิตใจคับแคบ อีกทั้งเป็นคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย!

ดังนั้นขอเพียงเวินเยวี่ย ‘โดนรังแก’ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเวินซื่ออย่างแน่นอน!

เวินซื่อที่ข่มกลั้นความแค้นชิงชังทั้งหมดไว้ก็ยิ้มให้เวินเยวี่ย แล้วเอ่ยปากขอโทษว่า “สองวันนี้ครุ่นคิดเรื่องนี้ข้าก็นอนไม่หลับ รู้สำนึกเสียใจจริง ๆ น้องหกโปรดให้อภัยด้วย”

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของนางทำให้เวินเยวี่ยเห็นแล้วสงสัยว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนใช่หรือไม่?

“ฮึ ตอนนี้เจ้ารู้ความผิดแล้วหรือ?”

เวินจื่อเฉินหัวเราะหยัน “คนใจดำเช่นเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ข้าคงส่งเจ้าให้ทางการไปนานแล้ว ให้เจ้าลิ้มรสการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงในคุก!”

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจเช่นเดียวกัน

น้องสาวแท้ ๆ?

เหอะ แต่ตอนนี้นางไม่อยากเป็นน้องสาวของคนพรรค์นี้แล้ว!

วันนี้เมื่อชาติที่ก่อน นางถูกเวินจื่อเฉินทุบตีจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ยอมขอโทษเวินเยวี่ย

นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายแทบจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปเกือบทุกส่วน

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง

เขาก็ไม่ยั้งมือให้นางเลยสักนิดเดียว!

ในบรรดาพี่ชายทั้งสี่คนของนาง เวินจื่อเฉินกับเวินจื่อเยวี่ยฝาแฝดคู่นี้มีนิสัยแย่ที่สุด

พี่รองเวินจื่อเฉินอารมณ์ร้อนอย่างยิ่ง ตอนที่รักเอ็นดูน้องสาวอย่างนาง สามารถฟาดทุกคนที่รังแกนางได้เพื่อนาง

แต่ตอนที่ไม่รักเอ็นดูนาง ก็สามารถลงมือกับนางได้ทันทีโดยไม่รีรอเช่นกัน

โดยเฉพาะเมื่อนางขัดแย้งกับเวินเยวี่ย ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้ นางจะต้องโดนทุบตีอย่างแน่นอน!

เวินซื่อเม้มริมฝีปาก

เวินจื่อเฉินสูงกว่านาง พละกำลังเยอะกว่านาง ตอนนี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา คนที่เสียเปรียบมีเพียงตัวนางเอง

ดังนั้นเวินซื่อจึงเลือกก้มหน้า

ไม่เป็นไร ชาตินี้สิ่งที่นางมีคือเวลาในการชำระความแค้นอย่างช้า ๆ

แต่ดูเหมือนว่าเนื่องจากนางขอโทษไวเกินไป กลับทำให้บางคนรู้สึกว่ายังไม่สาสม

“พี่รอง ในเมื่อพี่หญิงห้าขอโทษแล้ว เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดเหมือนกัน แค่น่าเสียดายที่ไม่มีชุดพิธีการแล้ว ข้าเกรงว่ายากจะเข้าร่วมพิธีปักปิ่นในวันนี้แล้ว”

ภายในห้อง เสียวของเวินเยวี่ยเอ่ยปากพูดอย่างขลาดกลัว

เวินจื่อเฉินที่เดิมทียังคิดว่าให้มันแล้วกันไป หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้พลันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจแทนเวินเยวี่ยขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ เรื่องนี้จะแล้วกันไปแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!”

“ครั้งนี้นางทำลายชุดพิธีการของเจ้า ครั้งหน้าอาจจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีกก็เป็นได้ จะต้องให้นางได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง จะได้จดจำไว้นาน ๆ!”

เวินจื่อเฉินกล่าวจบก็หันหน้าไปถลึงตาใส่เวินซื่อ “ในเมื่อเจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหก เช่นนั้นก็นำชุดพิธีการปักปิ่นชุดนั้นของเจ้าออกมามอบให้น้องหกเสีย สำหรับพิธีปักปิ่นในวันนี้ ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการแล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมอีกต่อไปแล้ว”

ดวงตาของเวินเยวี่ยส่องประกายขึ้นมาทันใด

เวินซื่อไม่ได้มองข้ามสายตาของนางเลย และไม่รู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรสาเหตุที่เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตัวนางเองและใส่ความนางก็เพื่อจะเอาชุดพิธีการของเวินซื่อ

ว่าไปแล้วชุดพิธีปักปิ่นของนางยังเป็นชุดที่บรรดาพี่ชายทั้งสี่คนสั่งทำให้นางล่วงหน้าหนึ่งปี

เครื่องประดับศีรษะเป็นกวานหยกพันด้วยไหมทองและขนนกกระเต็น

ชุดเป็นผ้าไหมชั้นดีจากเสฉวนปักลายผีเสื้อ

ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือว่าการตัดเย็บล้วนเป็นสุดยอดของเมืองหลวง

ตอนแรกที่ทำชุดพิธีการนี้ พวกพี่ชายพูดกับเวินซื่อว่าอยากให้น้องสาวสุดที่รักของพวกเขากลายเป็นสตรีที่ได้รับความอิจฉามากที่สุดของเมืองหลวงในพิธีปักปิ่น

น่าเสียดายที่ต่อมา ‘น้องสาวสุดที่รัก’ ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นแล้ว

เมื่อเห็นเวินซื่อไม่พูดไม่จาอยู่ตรงนั้น เวินจื่อเฉินนึกว่านางไม่อยากตกลง จึงกล่าวอย่างไม่พอใจทันทีว่า “ทำไม? เจ้าไม่ยินยอม? หรือว่าในใจเจ้าไม่คิดจะกลับตัวกลับใจจริง ๆ คำพูดที่กล่าวเมื่อครู่นี้เป็นแค่การหลอกลวงข้าหรือ?!”

“ฮึ หากเป็นเช่นนี้ อย่าโทษว่าพี่รองของเจ้าไม่เกรงใจ...วันนี้เจ้าจะเอาก็ต้องเอา ไม่เอาก็ต้อง...”

“ตกลง”

เวินซื่อพลันส่งเสียงขึ้น ตัดบทของเวินจื่อเฉิน

นางไม่แม้แต่จะมองเวินจื่อเฉิน

หันตัวไปที่ห้องแล้วหยิบชุดพิธีการที่เตรียมไว้นานแล้วชุดนั้นออกมา

ถึงอย่างไรทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ของนาง

เวินซื่อยื่นมาข้างหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ “น้องหก ให้เจ้า ตอนนี้ชุดพิธีการนี้เป็นของเจ้าแล้ว รีบรับไปสิ”

ดูเหมือนเป็นเพราะเวินซื่อมอบให้เร็วเกินไป เวินเยวี่ยจึงไม่ทันตอบสนองไปชั่วขณะ

นางคาดการณ์ไว้ว่าเวินซื่อไม่น่าจะยอมตกลงง่ายถึงเพียงนี้

นางน่าจะโวยวายเสียงดัง หลังจากนั้นก็ยั่วโทสะของเวินจื่อเฉิน และจากนิสัยของเวินจื่อเฉิน เขาจะต้องทุบตีนางจนนางต้องมอบชุดพิธีการออกมา เช่นนั้นถึงจะถูก

แต่ตอนนี้ เหตุใดเวินซื่อจึงยอมตกลงแล้ว?

เวินเยวี่ยรู้สึกว่าผิดปกติ

หรือจะพูดว่าตั้งแต่เมื่อกี้นางรู้สึกมาตลอดว่าปฏิกิริยาของเวินซื่อแปลกประหลาดมาก

ยอมรับง่าย ๆ เช่นนี้ หรือว่าอีกฝ่ายคาดเดาได้นานแล้วว่าเป้าหมายของนางคือชุดพิธีการนี้?

ดังนั้น...นางเล่นตุกติกอะไรบนชุดพิธีการใช่หรือไม่?

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววดูแคลนทันที

นางนึกว่าตนเองคาดเดาความคิดของเวินซื่อได้แล้ว จึงหัวเราะเยาะในใจ

โง่งม

คอยดูว่าข้าจะเปิดโปงเจ้าอย่างไร

เวินเยวี่ยแสร้งทำเป็นจะรับชุดพิธีการ เพิ่งจะยื่นมือไปสัมผัสชุดพิธีการนั้น นางก็ร้องด้วยความเจ็บปวดฉับพลัน

“กรี๊ด พี่รอง ข้าเจ็บมากเลย!”

ชุดพิธีการถูกสะบัดทิ้งลงกับพื้น นางหันตัวโผเข้าไปในอ้อมแขนของเวินจื่อเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เวินจื่อเฉินยื่นมือไปปกป้องเวินเยวี่ยตามจิตใต้สำนึก แล้วผลักเวินซื่อออก ครั้งนี้ตวาดแม้กระทั่งชื่อแซ่ด้วยความเกรี้ยวกราดว่า “เวินซื่อ! เจ้าทำอะไรน้องหกอีกแล้ว?!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
นิธิกร
Tryijjmjk,,
goodnovel comment avatar
ไม่มีที่ว่าง สำหรับคนอ่อนแอ
อินเลยนางร้ายมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1225

    กระโดดโลดเต้นวุ่นวาย มารยาสาไถย เหมือนมารดาผู้นั้นของนางไม่มีผิดประจวบเหมาะกับตอนนั้นไม่ได้ลงมือจัดการไป๋ชูโหรวด้วยตัวเอง ตอนนี้ได้จัดการลูกสาวของนางก็นับว่าไม่เลวเหมือนกันไป๋เยวี่ยโหรวก้าวพรวดตรงไปหาเวินเยวี่ยด้วยมาดอันดุดันเวินเยวี่ยพลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ช้าก่อน ท่านจะทำอะไร?! ท่านหยุดอยู่ตรงนั้น!”เมื่อเห็นไป๋เยวี่ยโหรวพุ่งเข้ามา เวินเยวี่ยที่ตื่นตระหนกไม่ไหวก็รีบถอยหลัง หลบหลีกไปพลาง ร้องถามเสินอ๋องผู้เฒ่าที่อยู่เบื้องบนอย่างร้อนรนไปพลางว่า “เสินอ๋อง ข้าเพิ่งบอกเรื่องสายเลือดสกุลหลานแก่ท่านไป ท่านบอกว่าจะตกรางวัลให้อย่างงามมิใช่หรือ? เหตุใดถึงทำกับข้าเช่นนี้?!”ไป๋เยวี่ยโหรวเห็นนางยังกล้าหนีจึงตวาดลั่น “ปาถูเอ่อร์ เจ้าท่อนไม้ยังยืนบื้อทำอะไรอยู่ตรงนั้น ยังไม่รีบสกัดนางไว้อีก!”ปาถูเอ่อร์ที่กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเรียกคนมาช่วยเยวี่ยโหรวของเขาพลันสะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นเตรียมจะเข้าไปช่วยทันทีแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าไป ปลอกดาบเล่มหนึ่งก็พุ่งผ่านหน้าปาถูเอ่อร์ไป แล้วกระแทกใส่ศีรษะของเวินเยวี่ยดัง ‘ตึง’ เข้าอย่างจัง“โอ๊ย!”เวินเยวี่ยที่ศีรษะเกือบแตกร้องโหยหวนด้วยความเจ็บป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1224

    เสินอ๋องผู้เฒ่าเอ่ยถามพลางกวาดสายตาอันคมกริบมองไปยังผู้มาเยือนต่างถิ่นหลายคนในตำหนักใหญ่บุตรชายตนเองไม่จำเป็นต้องพูดถึง ลูกสะใภ้ก็ถือกำเนิดจากสกุลไป๋ ย่อมเป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะเป็นคนสายเลือดนั้นส่วนสองคนจากราชสำนักชั้นนอกนั่นก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเป็นหนึ่งในผู้มาเยือนต่างถิ่นกลุ่มนี้เท่านั้นสองพ่อลูกสกุลเวินคู่นั้นตัดทิ้งไปได้ ถ้าอย่างนั้นที่เหลือก็มีเพียงแค่ความเป็นไปได้สองอย่าง!เสินอ๋องผู้เฒ่าจับจ้องไปที่หลานซื่อด้วยแววตาลุกวาวทันที จากนั้นก็ปรายตามองบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหลังนางเป็นนาง? หรือว่าเป็นเขา?เวินเยวี่ยให้คำตอบเขาอย่างทนรอไม่ไหว “เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเพคะ แม้ว่าเมื่อก่อนนางจะมีนามว่าเวินซื่อ แต่ต่อมาตัวนางทรยศออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงของเรา ทั้งยังเปลี่ยนไปใช้สกุลมารดา ตอนนี้มีนามว่า ‘หลานซื่อ’ หลานของสกุลหลาน ย่อมต้องเป็นสายเลือดของสกุลหลานอยู่แล้ว”เป็นไปดังคาด!เสินอ๋องผู้เฒ่าได้รับคำตอบที่แน่ชัด บนใบหน้าพลันฉีกยิ้มกว้างจนดูเกินจริงไปอย่างผิดปกติใช้สกุลตามมารดามารดาเป็นคนสกุลหลานดังนั้นในกายจึงมีเลือดของคนสายเลือดนั้นไหลเวียนอยู่โดยเฉพาะอย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1223

    “ศิษย์น้อง เจ้ามีอะไรจะกล่าวหรือไม่?”เอ้อถานหลัวไม่อยากพูดสิ่งที่เขารู้เขาผู้นี้ย่อมรู้อยู่ก่อนแล้ว ส่วนสิ่งที่เขาไม่รู้ ศิษย์พี่ก็คงรู้แล้วเช่นกันดังนั้นเขาจะพูดหรือไม่พูดยังมีความหมายอะไรอีก?แต่เสินอ๋องผู้เฒ่ายืนกรานจะถามเขา เห็นได้ชัดว่าพยายามดึงเขาให้พัวพันไปด้วยกันเอ้อถานหลัวได้แต่ถอนหายใจ ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากนั้น...“ทูลเสินอ๋อง หม่อมฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ท่านพ่อเขามีเรื่องหนึ่งที่น่าจะลืมพูดไปเพคะ”เสียงของเวินเยวี่ยดังขึ้นกะทันหัน ทำให้เอ้อถานหลัวชะงักไปเล็กน้อยเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วทันควัน ปรายตามองลูกสาวผู้ไม่รู้จักสงบเสงี่ยมผู้นี้แวบหนึ่ง “เหลวไหล เสินอ๋องและแขกผู้มีเกียรติอยู่ที่นี่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูด ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”“เฮ้อ เจิ้นกั๋วกงไม่ต้องทำเช่นนี้ บอกแล้วว่าวันนี้ข้าเชิญทุกท่านมาช่วย อนุญาตให้ทุกท่านพูดจาได้อย่างเสรี ย่อมไม่ต้องใส่ใจเรื่องพวกนี้”เสินอ๋องผู้เฒ่าคิดไม่ถึงว่านังหนูที่ศิษย์น้องของเขาเพิ่งรับเป็นศิษย์ได้ไม่นานผู้นี้ จะพรวดพราดออกมาในช่วงเวลาเช่นนี้อย่างกะทันหันผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนฉลาดหลักแหลม มีหรือจะดูสายตาที่ไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1222

    หมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถง?ไป๋เยวี่ยโหรวและปาถูเอ่อร์เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรกจึงหันไปมองหลานซื่อและเป่ยเฉินหยวนทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่สุนัขเฒ่าสกุลเวินนั่นบอกว่าพวกเขารับคำสั่งจากฮ่องเต้ต้าหมิงมาตามหาสถานที่ซ่อนสมบัติในภาพวาดที่นี่ เช่นนั้นอู๋โยวกับพวกก็จะไปตามหาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงด้วยหรือ?หลังจากไป๋เยวี่ยโหรวมองพวกหลานซื่อทั้งสองคนแวบหนึ่ง นางก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย สีหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่หลานซื่อสังเกตเห็นสายตาของนาง แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจเวลานี้นางสนใจเรื่องที่จิ้งจอกเฒ่าเวินเฉวียนเซิ่งผู้นั้นยอมพูดเรื่องภาพวาดออกมาตรง ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ โดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสักนิดเสียมากกว่า นี่ดูไม่เหมือนวิสัยของเขาเลยหรือจะบอกว่า แท้จริงแล้วเขามีแผนการอื่นใด?หลานซื่อหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย นางไม่ได้เข้าไปขัดขวางเวินเฉวียนเซิ่งเวลานี้นางเองก็ขัดขวางไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียปากก็อยู่ที่เขากลับกันหากนางแสดงท่าทีมากเกินไป นั่นต่างหากที่จะดึงดูดความสนใจจากเสินอ๋องผู้เฒ่าและคนอื่น ๆดังนั้นหลานซื่อจึงนั่งอย่างสงบเงียบ หลังจากฟังเวินเฉวียนเซิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1221

    นั่นก็คือ...ความลับที่แท้จริงของเขตหวงห้ามพวกเขาไม่รู้ว่าความลับที่แท้จริงของเขตหวงห้ามคืออะไร แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ‘ประตูซีถง’ ที่ว่านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับความลับนี้ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องรู้ให้ได้!“เกี่ยวกับเรื่องซีถงนี้ เล่าให้พวกท่านฟังเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย คิดว่าท่านอื่น ๆ ก็คงมีความสงสัยใคร่อยากถามเช่นกัน แต่อย่างน้อยพวกท่านก็น่าจะรู้มากกว่าเด็กสองคนจากราชสำนักชั้นนอกนี้อยู่บ้าง ใยท่านทั้งหลายต่างไม่เล่าสิ่งที่พวกท่านรู้ออกมาดูบ้าง จากนั้นข้าค่อยไขข้อข้องใจให้พวกท่านทีละข้อ หรือเสริมให้ในภายหลังเป็นอย่างไร?”เวินเฉวียนเซิ่งย่อมมีสิ่งที่อยากรู้อยู่แล้วหรืออาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่นี่เขาต่างหากที่ควรจะเป็นผู้ที่อยากรู้ที่สุดว่าหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงแห่งนี้เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จกันแน่เพราะหากหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงมีสถานที่อยู่จริง และในนั้นมีเซียนอยู่จริง ๆ ล่ะก็ นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างสิ้นเชิง!พูดกันให้กว้างขึ้นสักนิด ยาอายุวัฒนะที่ว่านั่น หากมีอยู่ เพียงแค่เขานำกลับไปสักเม็ด ไม่ว่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1220

    เปิดประตูบานหนึ่งหรือ?“ประตูอะไรกันที่ทำให้เสินอ๋องลำบากใจถึงเพียงนี้ ถึงขั้นต้องให้พวกเรามาช่วยโดยเฉพาะ?”ผู้คนที่นั่งอยู่ในตำหนักใหญ่นี้มีจำนวนไม่น้อยเลยเอ้อถานหลัวเป็นศิษย์น้องของเสินอ๋องผู้เฒ่า ก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่นี่อยู่แล้ว แล้วยังพาเวินเยวี่ยมาด้วยจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งและสองพี่น้องชางชิงหลานและฮาหลานก็มาต่อจากนั้น เสินอ๋องผู้เฒ่าก็ให้คนไปพาตัวปาถูเอ่อร์และไป๋เยวี่ยโหรวมายังตำหนักเสินอ๋องสุดท้ายก็คือหลานซื่อกับเป่ยเฉินหยวนสองคนผู้คนแปดเก้าคนนั่งรวมกันอยู่ที่นี่ แต่เสินอ๋องผู้เฒ่ากลับเอ่ยปากบอกว่าจะให้พวกเขาช่วยเปิดประตูบานหนึ่งสีหน้าของคนทั้งหลายไม่อาจอธิบายได้ ส่วนมากแฝงความสงสัยไว้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นในตอนที่เสินอ๋องผู้เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้านั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย รูม่านตาหดตัวลงเดิมทีหลานซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็น แต่อวิ่นซิงที่ปลอมตัวเป็นเครื่องประดับผมรูปผีเสื้ออยู่บนศีรษะนางได้เก็บสีหน้าของทุกคนทั้งหมดไว้ในสายตา แล้วจึงแอบบอกหลานซื่อที่เอ้อถานหลัวมีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าผิดปกติเพียงคนเดียวหลานซื่อกวาดตามองไปทางนั้นแวบหนึ่งอย่างแนบเนียนดูท่าหลวงจีน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status