공유

บทที่ 4

작가: จิ้งซิง
เวินซื่อที่โซเซจนไปชนกับมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็เม้มริมฝีปากแน่น

ชาติที่แล้วนางเสียรู้ในน้ำมือของเวินเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนั้น ตอนนี้แค่เห็นเวินเยวี่ยทำท่าทางเช่นนี้ เวินซื่อก็รู้ว่านางจะเล่นตุกติกอะไรอีกแล้ว

นางหยิบชุดพิธีการที่ร่วงลงพื้นขึ้นมา

“ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าทำอะไรถึงทำให้น้องหกมีปฏิกิริยายกใหญ่เช่นนี้ ไม่สู้รบกวนน้องหกอธิบายให้ข้าเถิด”

“เจ้าทำอะไรไว้เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!”

ไม่รอให้เวินเยวี่ยเอ่ยวาจา เวินจื่อเฉินก็ตวาดใส่นางเสียงดุดันก่อน

แววตาของเวินซื่อเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนนางยังดูไม่ออก ตอนนี้นางรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินช่างตาบอดจริง ๆ

อยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา ใครทำอะไร ใครไม่ได้ทำอะไร เขามองไม่เห็นเองทั้งนั้น

บางทีต่อให้เห็น เขาก็แค่เชื่อคำพูดของคนผู้เดียว

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างอำมหิตแวบหนึ่งแล้วตบไหล่เวินเยวี่ยเบา ๆ ปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “น้องหกไม่ต้องกลัวนะ มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่รอง ไม่ว่าอย่างไร พี่รองก็จะตัดสินแทนเจ้าเอง”

ทั้งสองคนมีท่าทางแทบจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

แต่เวินจื่อเฉินกลับเหมือนไม่สังเกตเห็นเลย เขาไม่เก็บงำเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาที่เหมือนกับลูกกวางของเวินเยวี่ยแดงระเรื่อ “พี่รอง ขะ...ข้าเจ็บมากเลย”

แต่ไหนแต่ไรมาเวินเยวี่ยก็รู้ว่าจะหลอกล่อพี่รองที่ใจร้อนหัวทึบตรงหน้านี้อย่างไร

นางไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนมากมาย แค่ใช้สามคำก็เพียงพอที่จะกระตุ้นโทสะของเวินจื่อเฉินแล้ว

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจไร้ที่พึ่งของเวินเยวี่ย เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

เขานึกได้ว่าเมื่อกี้เวินเยวี่ยสัมผัสชุดพิธีการถึงได้จู่ ๆ ร้องด้วยความเจ็บปวด ดังนั้นเขาพลันปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างที่เขาคิดไว้สมอง...

“เพียะ!”

ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเวินซื่อ

“ดีมากเวินซื่อ ข้ายังนึกว่าเจ้าตกลงมอบชุดพิธีการให้น้องหกเป็นเพราะกลับตัวกลับใจแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้ เล่นตุกติกบนชุดพิธีการ!”

แก้มซ้ายถูกตบจนแสบร้อนทำให้เวินซื่อกัดฟันกรอด ความเคียดแค้นชิงชังพรั่งพรูขึ้นมาในใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นางจะต้องออกจากสกุลเวินให้ได้

หากอยู่ที่นี่ ไม่ว่านางทำสิ่งใด ทุกคนก็จะเข้าข้างเวินเยวี่ย

มีเพียงออกไปจากสกุลเวิน นางถึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้

แต่ว่าก่อนหน้านั้น นางยังต้องทำพิธีปักปิ่นของวันนี้ให้จบ

เนื่องจากยังมีสัญญาหมั้นหมายบัดซบนั่นรอนางอยู่ในพิธีปักปิ่น

ส่วนเรื่องที่เวินจื่อเฉินบอกว่าไม่ให้นางเข้าร่วมพิธีปักปิ่น...

เหอะ ต่อให้เขาเป็นคุณชายรองของจวนกั๋วกง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขาสามารถตัดสินใจเองได้ในจวนกั๋วกงแห่งนี้

คนทั้งเมืองหลวงต่างรู้ว่าวันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีบุตรสาวสองคนกำลังจะจัดพิธีปักปิ่น หากนางไม่ปรากฏตัวจะต้องก่อให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ นานาจากภายนอกอย่างแน่นอน

และท่านกั๋วกงผู้นั้นของนางคงไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

เวินซื่อหยุดคิดแล้ววางชุดพิธีการลงบนโต๊ะ

“หากพี่รองคิดว่าชุดพิธีการมีปัญหาก็ตรวจสอบได้ตามใจชอบ”

นางไม่อยากสิ้นเปลืองคำพูดกับอันธพาลหูหนวกตาบอดที่เอาแต่วู่วามทำร้ายคนแล้ว

เวินซื่อกล่าวจบก็หันตัวเดินเข้าไปในห้อง ค้นหาชุดสีฟ้าครามเรียบ ๆ ออกมาจากในตู้เสื้อผ้า

ในขณะเดียวกัน เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้างนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น

“ฮึ ได้สิ ตรวจสอบก็ตรวจสอบ หากข้าพบว่าเจ้าเล่นตุกติกกับชุดพิธีการนี้จริง ๆ เจ้าก็รอข้าจัดการเจ้าอย่างหนักได้เลย!”

ครู่ต่อมา

เมื่อเวินซื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกไป ชุดพิธีการที่เคยพับไว้เรียบร้อยนั้นถูกเวินจื่อเฉินรื้อจนเละเทะไปแล้ว

เวินเยวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ เขาชะโงกหน้ามอง

แม้นางไม่ได้ลงมือค้นหา แต่เนื่องจากนางมั่นใจว่าเวินซื่อจะต้องเล่นตุกติก ดังนั้นจึงคอยจับจ้องอยู่ตลอด

แต่จนกระทั่งเวินจื่อเฉินค้นดูทั้งชุดแล้วก็ไม่พบร่องรอยเล่นตุกติกใด ๆ เลย

เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว

หรือว่านางเดาผิดไป?

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า สองพี่น้องก็เงยหน้ามองไปพร้อมกัน

ก่อนจะเห็นเวินซื่อที่เปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมาอย่างช้า ๆ

เมื่อก่อนเวินซื่อแต่งตัวเรียบง่ายเช่นนี้น้อยมาก บวกกับรูปโฉมอันโดดเด่นของนาง มองแวบแรกก็ให้ความรู้สึกสง่างามบริสุทธิ์

เมื่อเทียบกับเวินซื่อที่แต่งตัวหรูหราในอดีต นางในเวลานี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริง ๆ

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววอิจฉาทันที

สิ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือใบหน้านี้ของเวินซื่อ

หากมองมากเข้าจริง ๆ จะทำให้คนแทบอยากข่วนมันแรง ๆ!

เวินซื่อรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตอย่างบอกไม่ถูกจึงเชยตามองตรงไปยังต้นตอ แล้วสบเข้ากับดวงตาของเวินเยวี่ยทันใด

เวินเยวี่ยคิดไม่ถึงว่าเวินซื่อจะสัมผัสไวถึงเพียงนี้

ถึงขนาดที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมารีบเก็บงำซ่อนเร้นไว้ทันที

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจ ปรายตามองชุดพิธีการที่เละเทะบนโต๊ะ

“เป็นอย่างไรบ้าง หาอะไรเจอหรือไม่?”

เวินจื่อเฉินที่ไม่พบอะไรเช่นกันก็มีสีหน้าดูไม่ดีเล็กน้อย

แต่เขาไม่ทันเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็เอ่ยก่อนว่า “พี่หญิงห้า ท่านอย่าโมโหเลย เมื่อครู่นี้จู่ ๆ มือของข้าก็เป็นตะคริว พี่รองเป็นห่วงข้ามากเกินไป พอได้ยินข้าบอกว่าเจ็บก็เข้าใจผิดแล้ว”

นางแสดงท่าทีขออภัย และจงใจแลบลิ้นเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ท่านอย่าโทษพี่รองเลยนะ หากจะโทษ ท่านก็โทษข้าเถิด”

“เรื่องนี้จะโทษเจ้าได้อย่างไร? หากจะโทษก็ต้องโทษตัวนางเองต่างหาก”

เวินจื่อเฉินขมวดคิ้วไม่เห็นด้วยทันที ก่อนจะปรายตามองเวินซื่อแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “หากไม่ใช่เพราะคนบางคนมีจิตใจชั่วช้าเป็นปกติ ทำเรื่องเลวทรามเอาไว้ถึงที่สุด ข้าก็คงไม่คิดมากเช่นนี้ นางสมควรโดนปรักปรำแล้ว”

เวินซื่อรู้สึกขยะแขยงสองคนนี้อีกครั้ง

นางหยิบชุดพิธีการชุดนั้นขึ้นมา แล้วถามเวินเยวี่ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้ายังจะต้องการชุดพิธีการนี้อยู่หรือไม่? หากต้องการก็เอาไป”

เวินเยวี่ยอยากได้แน่นอน

แต่นางเพิ่งเดินหมากพลาดไปก้าวหนึ่ง ต่อให้อยากได้ก็ไม่ใช่เวลานี้

ดังนั้นนางจึงแสดงด้านที่ใจดีมีเมตตาและใจกว้างของตัวเองออกมาอย่างเหมาะสม “ช่างเถิดเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าชุดพิธีการนี้เป็นชุดที่พี่หญิงห้าชอบมากที่สุด พี่หญิงห้าจะต้องตัดใจไม่ลงอยู่แล้ว”

“เมื่อครู่นี้เป็นเพราะข้าทำให้พี่รองปรักปรำท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าพวกเราหายกันแล้ว พี่หญิงห้าไม่ต้องชดใช้ให้ข้าหรอก ถึงอย่างไรต่อไปพวกเรายังเป็นพี่น้องที่ดี!”

ถึงอย่างไรวันนี้ก็ยังเหลือเวลา ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตอนนี้ก็ได้

สิ่งที่นางต้องการก็จะต้องเป็นของนาง

ชุดพิธีการของพิธีปักปิ่นไม่จำเป็นต้องสวมทันที แต่จะสวมตอนปักปิ่นสวมเครื่องประดับศีรษะและเปลี่ยนชุดในพิธีปักปิ่น

ดังนั้นเวินเยวี่ยจึงไม่รีบร้อน

สีหน้าของเวินจื่อเฉินดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะเชิดคางขึ้นทำสีหน้าเย่อหยิ่ง

“ได้ยินแล้วกระมัง? ในเมื่อน้องหกบอกว่าหายกันแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้เองเถิด แต่เจ้าอย่าคิดว่าจะจบลงแค่นี้นะ ต่อไปหากเจ้ากล้ารังแกน้องหกอีก ข้า...เจ้ากำลังทำอะไร?!”

เวินจื่อเฉินยังกล่าวไม่ทันจบ ม่านตาก็หดลงฉับพลัน เขามองการเคลื่อนไหวบนมือของเวินซื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ฉับ!”

เวินซื่อถือกรรไกรแล้วตัดลงไป

ชุดพิธีการที่หรูหราชุดนั้นถูกนางตัดเละโดยไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (2)
goodnovel comment avatar
Surinna Hathaisaard
สนุกคะ อ่านต่อคะ
goodnovel comment avatar
นิว งามโรจน์
สนุกดีจังคับ
댓글 모두 보기

최신 챕터

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1213

    ถึงขั้นทนดูบรรยากาศในตำหนักที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ อย่างตะลึงงัน มองดูสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งด้านล่างที่ก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกับเขาอย่างถูกคอแย่ลงเรื่อย ๆสุดท้ายก็เป็นคนโง่เขลาที่มองสถานการณ์ไม่ออกอีกคนหนึ่งเป็นผู้ทำลายสถานการณ์อันชะงักงันนี้ใช่แล้ว เวินเยวี่ยนั่นเอง“พ่อข้าก็บอกแล้วว่าขาไม่ค่อยดี ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่เสินอ๋องก็ยังเห็นใจละเว้นพิธีการให้พ่อข้า วันหน้าพบเจอก็ไม่ต้องให้เขาทำความเคารพ แล้วพวกท่านจะมาบีบคั้นอะไรกันเช่นนี้? จะใจกว้างเหมือนเสินอ๋องหน่อยไม่ได้หรือ?”นาน ๆ ทีที่เวินเฉวียนเซิ่งจะรู้สึกว่าบุตรสาวผู้นี้ของเขาพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างถึงจะซื่อบื้อไปสักหน่อยก็ตามแต่เมื่อมาจากปากของเวินเยวี่ย พูดเรื่องที่เสินอ๋องละเว้นพิธีการให้เขาก่อนหน้านี้ออกมา เวลานี้ต่อให้คนตรงหน้าคือชินอ๋องกับพระชายาแล้วจะทำไมเล่า?เว้นเสียแต่พวกเขาไม่อยากไว้หน้าเสินอ๋องผู้เฒ่า มิเช่นนั้นก็ไม่อาจบีบบังคับให้เขาคุกเข่าทำความเคารพได้อีกจริง ๆใช่แล้ว หากเขายอมนอบน้อมจริง ๆ ก็ต้องคุกเข่าให้ไป๋เยวี่ยโหรวเวินเฉวียนเซิ่งไม่มีทางก้มหัวอับอายต่อหน้าหญิงที่เคยเป็นของตนเองโดยเฉพาะหญิงผู้นี้ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1212

    ฝ่ามือนี้พาให้เวินเฉวียนเซิ่งมึนงง ทำให้ทุกคนเห็นแล้วต่างอึ้งกันไปครู่หนึ่งปาถูเอ่อร์ที่ได้สติก่อนใครรีบพุ่งตัวเข้าไป เอาตัวบังนางไว้ด้านหลังจนมิด กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งผู้นั้นจะทำร้ายเยวี่ยโหรวของเขาเพราะฝ่ามือนี้ถูกเขามองด้วยสีหน้าระแวดระวังจนเวินเฉวียนเซิ่งทั้งโมโหและขบขันเขายกมือลูบใบหน้าที่แสบร้อน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นจนใจว่า “เยวี่ยโหรว นี่คือท่าทีของเจ้าที่มีต่อสหายเก่าที่ได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายปีอย่างนั้นหรือ? อย่างน้อยตอนนั้นข้าก็เคยช่วยชีวิตเจ้าไว้กระมัง?”คำพูดนี้เมื่อเอ่ยออกมา ชางชิงหลานและคนอื่น ๆ ที่เดิมทีเพียงแค่รอดูอะไรสนุก ๆ ก็พลันเบิกตากว้าง มองไปมาระหว่างเวินเฉวียนเซิ่งกับไป๋เยวี่ยโหรวด้วยความแปลกใจยิ่งนักเจิ้นกั๋วกงจากต้าหมิงผู้นี้ ที่แท้เป็นสหายเก่ากับพระชายาชินอ๋องแห่งราชสำนักฝ่ายในหรือนี่?จริงหรือเท็จกันแน่?สถานการณ์นี้ดูไม่ค่อยปกตินักเข้ามาถึงก็ตบผู้อื่นไปฉาดหนึ่ง หากเป็นสหายเก่าที่มีบุญคุณช่วยชีวิตกันจริง จะเป็นเช่นนี้หรือ?“พวกสกปรกเลวทราม คู่ควรเอ่ยนามข้าด้วยหรือ”เมื่อไป๋เยวี่ยโหรวได้ยินน้ำเสียงนั้นของเขา ก็ข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1211

    “คารวะเสินอ๋อง”พิธีการถูกทำซ้ำอีกหนึ่งรอบ แต่เสินอ๋องผู้เฒ่าไม่ได้ไต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับรู้อะไรอยู่แล้ว เพียงเอ่ยปากพร้อมเสียงหัวเราะ “ลุกขึ้นเถิด พวกเจ้าสองสามีภรรยารีบเข้ามานี่ มาพบปะแขกเหรื่อของพ่อในวันนี้”ปาถูเอ่อร์จูงมือไป๋เยวี่ยโหรวไว้ไม่ปล่อยพานางเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ ยืนอยู่เบื้องหน้าหลายคนรวมเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ในนั้นด้วยสายตาหลายคู่พลันจับจ้องมาที่ตัวพวกเขาแต่สายตาเหล่านั้นเพียงกวาดมองปาถูเอ่อร์แวบหนึ่ง แล้วก็ไปรวมอยู่ที่ใบหน้าของไป๋เยวี่ยโหรวที่อยู่ข้างกายเขาแทนเวินเยวี่ยที่เพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ก็เพิ่งถูกเอ้อถานหลัวพาตัวมาเช่นกัน แม้จะพอรู้สถานการณ์อยู่บ้าง แต่ก็ยังสับสนอยู่เล็กน้อยว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้คือเรื่องอะไรกันแน่อย่างเช่น...หญิงผู้นั้นที่ถูกชายอื่นจูงมืออยู่ เหตุใดจึงมีหน้าตาเหมือนกับนางราวกับพิมพ์เดียวกัน?หรือว่า...มารดาของนางก็ฟื้นคืนชีพแล้ว?!“ท่านแม่?”เวินเยวี่ยเอ่ยปากออกมาโดยไม่รู้ตัว ลองหยั่งเชิงเรียกไปหนึ่งคำทว่าเมื่อสิ้นเสียงนี้ ไป๋เยวี่ยโหรวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็มีสีหน้าบึ้งตึงลงทันใด สายตาราวกับจะกินคน จ้องเขม็งใส่เวินเยวี่ยราวกับจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1210

    บนท้องถนน กลิ่นหอมของสุราลอยอบอวลจาง ๆท่ามกลางกลิ่นหอมของสุรานี้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่าด้านหลังหลานซื่อกับพวกหายไปหนึ่งคนหลังจากเห็นกับตาว่าเกาหยางกับพวกออกจากเมืองไปแล้ว หลานซื่อและเป่ยเฉินหยวนจึงเปลี่ยนเส้นทางตามสือเซี่ยวมุ่งหน้าไปยังจวนเสินอ๋องณ เวลานี้ทางฝั่งจวนเสินอ๋องไป๋เยวี่ยโหรวและปาถูเอ่อร์ทั้งสองคนได้ถูกเสินอ๋องผู้เฒ่าเชิญเข้าสู่จวนเสินอ๋องแล้วจริง ๆทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตำหนักใหญ่ ปาถูเอ่อร์ก็พบว่าภายในตำหนักดูเหมือนจะมีผู้อื่นอยู่ด้วย เขาไม่ได้คิดมาก เพียงทำความเคารพอย่างนอบน้อมก่อน “ถวายบังคมเสด็จพ่อ”เมื่อเขาทำความเคารพเสร็จ กลับพบว่าคนข้างกายไร้ความเคลื่อนไหวเขาหันไปมอง ไป๋เยวี่ยโหรวยืนนิ่งไม่ขยับอยู่กับที่“เยวี่ยโหรว? เป็นอะไรไป?”ไป๋เยวี่ยโหรวไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องเขม็งไปข้างหน้าอยู่อย่างนั้นปาถูเอ่อร์เกรงว่าจะทำให้เสินอ๋องผู้เฒ่ากริ้ว จึงรีบยื่นมือไปดึงนาง พอดึงก็พบว่าเวลานี้ไป๋เยวี่ยโหรวตัวแข็งทื่อไปทั้งร่างปาถูเอ่อร์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เขาเองก็ไม่สนธรรมเนียมที่ต้องก้มหน้าเมื่อทำความเคารพแล้ว พลางเงยหน้ามองตามสายตาของไป๋เยวี่ยโหรวเข้าไปในต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1209

    “มีเรื่องอะไรหรือ?”หลานซื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย น้ำเสียงราบเรียบสือเซี่ยวประสานมือคารวะกล่าวว่า “เสินอ๋องมีคำสั่งให้ข้าน้อยมาแจ้งแก่คุณชายอู๋โยวว่า ตอนงานเลี้ยงได้เห็นหน้าตาของคุณชายอู๋โยว ตอนนั้นเสินอ๋องก็รู้สึกคุ้นตายิ่งนัก เพียงแต่นึกไม่ออก ภายหลังเสินอ๋องกลับถึงตำหนักเสินอ๋อง จึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะได้พบคนผู้หนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับคุณชายอู๋โยวไม่มีผิด คนผู้นี้กำลังอยู่ที่ตำหนักเสินอ๋อง”หากไม่ได้ยินประโยคก่อนหน้าที่ว่า ‘เมื่อสองวันก่อน’ หลานซื่อก็อาจจะเผลอคิดไปเองว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเวินเฉวียนเซิ่งแต่เวินเฉวียนเซิ่งเพิ่งจะเข้ามาในเมืองหินดำวันนี้เองเวินเยวี่ยแม้จะคล้ายนางอยู่บ้าง แต่ก็เพิ่งจะถูกส่งตัวไปถึงเอ้อถานหลัววันนี้เช่นกันส่วนเวินฉางอวิ้นกับเวินจื่อเยวี่ยยิ่งไม่ต้องพูดถึงนอกจากคนพวกนี้แล้ว ยังจะมีใครหน้าตาเหมือนนางได้อีก?คงไม่ใช่ว่าเสินอ๋องผู้เฒ่าจงใจพูดเช่นนี้หรอกกระมัง?คิดจะหลอกให้นางหลงกลหรือ?ไม่ใช่ ช้าก่อน!หลานซื่อพลันนึกอะไรขึ้นได้ ดวงตาเบิกกว้างอย่างฉับพลัน ในใจพลันตื่นตระหนกหรือว่า...จะเป็นเขา?นางมองสือเซี่ยวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1208

    “ฆ่าเลยไหม?”พอเป่ยเฉินหยวนเห็นกลุ่มคนที่ขวางทางอยู่ แววตาก็เย็นเยียบลงในชั่วพริบตา กลิ่นอายสังหารแผ่ซ่านไปทั่วร่างเกาหยางและกองทัพธงดำที่อยู่ด้านหลังเขาก็เช่นกัน แต่ละคนเตรียมพร้อมรอฟังคำสั่งแล้วเห็นได้ชัดว่าขอเพียงหลานซื่อพยักหน้า เป่ยเฉินหยวนรวมถึงเกาหยางกับพวกจะพุ่งเข้าไปทันที สังหารชาวต่างเผ่าที่ขวางหน้าประตูเมืองเหล่านั้นทั้งหมดให้สิ้นซากนิ้วมือของหลานซื่อขยับเล็กน้อย แมลงพิษจำนวนไม่น้อยในมุมมืดก็เข้าไปตรวจสอบสถานการณ์หน้าประตูเมืองอย่างละเอียดกองทหารยอดฝีมือชาวต่างเผ่าสองร้อยนาย รวมถึงปรามาจารย์กู่อีกสามคนจำนวนไม่น้อยเลยแต่ว่า ไม่ถือว่ารับมือยากบุกฝ่าออกไปตรง ๆ พวกเขาก็สามารถตีฝ่าออกจากเมืองไปได้เมื่อคิดได้ดังนี้ หลานซื่อกำลังจะพยักหน้า “เช่นนั้นก็...” ฆ่าคำว่าฆ่ายังไม่ทันหลุดออกจากปาก ด้านหลังพลันมีเสียงกีบม้าวิ่งห้อดังเข้ามาหลายเสียงมีคนมาอีกแล้วหลานซื่อกับพวกหันกลับไปมอง ผู้มาใหม่ทั้งสามล้วนสวมชุดเกราะองครักษ์ของตำหนักเสินอ๋อง สวมหน้ากากอันเย็นเยียบบนใบหน้า ควบม้าพุ่งมาถึงหน้าประตูเมือง หัวหน้าองครักษ์ของเสินอ๋องปรายตามองกองทหารหน้าประตูเมืองแวบหนึ่ง จา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status