แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เวินซื่อที่โซเซจนไปชนกับมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็เม้มริมฝีปากแน่น

ชาติที่แล้วนางเสียรู้ในน้ำมือของเวินเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนั้น ตอนนี้แค่เห็นเวินเยวี่ยทำท่าทางเช่นนี้ เวินซื่อก็รู้ว่านางจะเล่นตุกติกอะไรอีกแล้ว

นางหยิบชุดพิธีการที่ร่วงลงพื้นขึ้นมา

“ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าทำอะไรถึงทำให้น้องหกมีปฏิกิริยายกใหญ่เช่นนี้ ไม่สู้รบกวนน้องหกอธิบายให้ข้าเถิด”

“เจ้าทำอะไรไว้เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!”

ไม่รอให้เวินเยวี่ยเอ่ยวาจา เวินจื่อเฉินก็ตวาดใส่นางเสียงดุดันก่อน

แววตาของเวินซื่อเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนนางยังดูไม่ออก ตอนนี้นางรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินช่างตาบอดจริง ๆ

อยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา ใครทำอะไร ใครไม่ได้ทำอะไร เขามองไม่เห็นเองทั้งนั้น

บางทีต่อให้เห็น เขาก็แค่เชื่อคำพูดของคนผู้เดียว

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างอำมหิตแวบหนึ่งแล้วตบไหล่เวินเยวี่ยเบา ๆ ปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “น้องหกไม่ต้องกลัวนะ มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่รอง ไม่ว่าอย่างไร พี่รองก็จะตัดสินแทนเจ้าเอง”

ทั้งสองคนมีท่าทางแทบจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

แต่เวินจื่อเฉินกลับเหมือนไม่สังเกตเห็นเลย เขาไม่เก็บงำเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาที่เหมือนกับลูกกวางของเวินเยวี่ยแดงระเรื่อ “พี่รอง ขะ...ข้าเจ็บมากเลย”

แต่ไหนแต่ไรมาเวินเยวี่ยก็รู้ว่าจะหลอกล่อพี่รองที่ใจร้อนหัวทึบตรงหน้านี้อย่างไร

นางไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนมากมาย แค่ใช้สามคำก็เพียงพอที่จะกระตุ้นโทสะของเวินจื่อเฉินแล้ว

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจไร้ที่พึ่งของเวินเยวี่ย เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

เขานึกได้ว่าเมื่อกี้เวินเยวี่ยสัมผัสชุดพิธีการถึงได้จู่ ๆ ร้องด้วยความเจ็บปวด ดังนั้นเขาพลันปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างที่เขาคิดไว้สมอง...

“เพียะ!”

ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเวินซื่อ

“ดีมากเวินซื่อ ข้ายังนึกว่าเจ้าตกลงมอบชุดพิธีการให้น้องหกเป็นเพราะกลับตัวกลับใจแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้ เล่นตุกติกบนชุดพิธีการ!”

แก้มซ้ายถูกตบจนแสบร้อนทำให้เวินซื่อกัดฟันกรอด ความเคียดแค้นชิงชังพรั่งพรูขึ้นมาในใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นางจะต้องออกจากสกุลเวินให้ได้

หากอยู่ที่นี่ ไม่ว่านางทำสิ่งใด ทุกคนก็จะเข้าข้างเวินเยวี่ย

มีเพียงออกไปจากสกุลเวิน นางถึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้

แต่ว่าก่อนหน้านั้น นางยังต้องทำพิธีปักปิ่นของวันนี้ให้จบ

เนื่องจากยังมีสัญญาหมั้นหมายบัดซบนั่นรอนางอยู่ในพิธีปักปิ่น

ส่วนเรื่องที่เวินจื่อเฉินบอกว่าไม่ให้นางเข้าร่วมพิธีปักปิ่น...

เหอะ ต่อให้เขาเป็นคุณชายรองของจวนกั๋วกง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขาสามารถตัดสินใจเองได้ในจวนกั๋วกงแห่งนี้

คนทั้งเมืองหลวงต่างรู้ว่าวันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีบุตรสาวสองคนกำลังจะจัดพิธีปักปิ่น หากนางไม่ปรากฏตัวจะต้องก่อให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ นานาจากภายนอกอย่างแน่นอน

และท่านกั๋วกงผู้นั้นของนางคงไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

เวินซื่อหยุดคิดแล้ววางชุดพิธีการลงบนโต๊ะ

“หากพี่รองคิดว่าชุดพิธีการมีปัญหาก็ตรวจสอบได้ตามใจชอบ”

นางไม่อยากสิ้นเปลืองคำพูดกับอันธพาลหูหนวกตาบอดที่เอาแต่วู่วามทำร้ายคนแล้ว

เวินซื่อกล่าวจบก็หันตัวเดินเข้าไปในห้อง ค้นหาชุดสีฟ้าครามเรียบ ๆ ออกมาจากในตู้เสื้อผ้า

ในขณะเดียวกัน เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้างนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น

“ฮึ ได้สิ ตรวจสอบก็ตรวจสอบ หากข้าพบว่าเจ้าเล่นตุกติกกับชุดพิธีการนี้จริง ๆ เจ้าก็รอข้าจัดการเจ้าอย่างหนักได้เลย!”

ครู่ต่อมา

เมื่อเวินซื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกไป ชุดพิธีการที่เคยพับไว้เรียบร้อยนั้นถูกเวินจื่อเฉินรื้อจนเละเทะไปแล้ว

เวินเยวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ เขาชะโงกหน้ามอง

แม้นางไม่ได้ลงมือค้นหา แต่เนื่องจากนางมั่นใจว่าเวินซื่อจะต้องเล่นตุกติก ดังนั้นจึงคอยจับจ้องอยู่ตลอด

แต่จนกระทั่งเวินจื่อเฉินค้นดูทั้งชุดแล้วก็ไม่พบร่องรอยเล่นตุกติกใด ๆ เลย

เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว

หรือว่านางเดาผิดไป?

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า สองพี่น้องก็เงยหน้ามองไปพร้อมกัน

ก่อนจะเห็นเวินซื่อที่เปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมาอย่างช้า ๆ

เมื่อก่อนเวินซื่อแต่งตัวเรียบง่ายเช่นนี้น้อยมาก บวกกับรูปโฉมอันโดดเด่นของนาง มองแวบแรกก็ให้ความรู้สึกสง่างามบริสุทธิ์

เมื่อเทียบกับเวินซื่อที่แต่งตัวหรูหราในอดีต นางในเวลานี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริง ๆ

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววอิจฉาทันที

สิ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือใบหน้านี้ของเวินซื่อ

หากมองมากเข้าจริง ๆ จะทำให้คนแทบอยากข่วนมันแรง ๆ!

เวินซื่อรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตอย่างบอกไม่ถูกจึงเชยตามองตรงไปยังต้นตอ แล้วสบเข้ากับดวงตาของเวินเยวี่ยทันใด

เวินเยวี่ยคิดไม่ถึงว่าเวินซื่อจะสัมผัสไวถึงเพียงนี้

ถึงขนาดที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมารีบเก็บงำซ่อนเร้นไว้ทันที

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจ ปรายตามองชุดพิธีการที่เละเทะบนโต๊ะ

“เป็นอย่างไรบ้าง หาอะไรเจอหรือไม่?”

เวินจื่อเฉินที่ไม่พบอะไรเช่นกันก็มีสีหน้าดูไม่ดีเล็กน้อย

แต่เขาไม่ทันเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็เอ่ยก่อนว่า “พี่หญิงห้า ท่านอย่าโมโหเลย เมื่อครู่นี้จู่ ๆ มือของข้าก็เป็นตะคริว พี่รองเป็นห่วงข้ามากเกินไป พอได้ยินข้าบอกว่าเจ็บก็เข้าใจผิดแล้ว”

นางแสดงท่าทีขออภัย และจงใจแลบลิ้นเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ท่านอย่าโทษพี่รองเลยนะ หากจะโทษ ท่านก็โทษข้าเถิด”

“เรื่องนี้จะโทษเจ้าได้อย่างไร? หากจะโทษก็ต้องโทษตัวนางเองต่างหาก”

เวินจื่อเฉินขมวดคิ้วไม่เห็นด้วยทันที ก่อนจะปรายตามองเวินซื่อแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “หากไม่ใช่เพราะคนบางคนมีจิตใจชั่วช้าเป็นปกติ ทำเรื่องเลวทรามเอาไว้ถึงที่สุด ข้าก็คงไม่คิดมากเช่นนี้ นางสมควรโดนปรักปรำแล้ว”

เวินซื่อรู้สึกขยะแขยงสองคนนี้อีกครั้ง

นางหยิบชุดพิธีการชุดนั้นขึ้นมา แล้วถามเวินเยวี่ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้ายังจะต้องการชุดพิธีการนี้อยู่หรือไม่? หากต้องการก็เอาไป”

เวินเยวี่ยอยากได้แน่นอน

แต่นางเพิ่งเดินหมากพลาดไปก้าวหนึ่ง ต่อให้อยากได้ก็ไม่ใช่เวลานี้

ดังนั้นนางจึงแสดงด้านที่ใจดีมีเมตตาและใจกว้างของตัวเองออกมาอย่างเหมาะสม “ช่างเถิดเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าชุดพิธีการนี้เป็นชุดที่พี่หญิงห้าชอบมากที่สุด พี่หญิงห้าจะต้องตัดใจไม่ลงอยู่แล้ว”

“เมื่อครู่นี้เป็นเพราะข้าทำให้พี่รองปรักปรำท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าพวกเราหายกันแล้ว พี่หญิงห้าไม่ต้องชดใช้ให้ข้าหรอก ถึงอย่างไรต่อไปพวกเรายังเป็นพี่น้องที่ดี!”

ถึงอย่างไรวันนี้ก็ยังเหลือเวลา ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตอนนี้ก็ได้

สิ่งที่นางต้องการก็จะต้องเป็นของนาง

ชุดพิธีการของพิธีปักปิ่นไม่จำเป็นต้องสวมทันที แต่จะสวมตอนปักปิ่นสวมเครื่องประดับศีรษะและเปลี่ยนชุดในพิธีปักปิ่น

ดังนั้นเวินเยวี่ยจึงไม่รีบร้อน

สีหน้าของเวินจื่อเฉินดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะเชิดคางขึ้นทำสีหน้าเย่อหยิ่ง

“ได้ยินแล้วกระมัง? ในเมื่อน้องหกบอกว่าหายกันแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้เองเถิด แต่เจ้าอย่าคิดว่าจะจบลงแค่นี้นะ ต่อไปหากเจ้ากล้ารังแกน้องหกอีก ข้า...เจ้ากำลังทำอะไร?!”

เวินจื่อเฉินยังกล่าวไม่ทันจบ ม่านตาก็หดลงฉับพลัน เขามองการเคลื่อนไหวบนมือของเวินซื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ฉับ!”

เวินซื่อถือกรรไกรแล้วตัดลงไป

ชุดพิธีการที่หรูหราชุดนั้นถูกนางตัดเละโดยไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Surinna Hathaisaard
สนุกคะ อ่านต่อคะ
goodnovel comment avatar
นิว งามโรจน์
สนุกดีจังคับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 922

    หลังจากออกมาจากห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งแล้ว พ่อบ้านของสกุลเวินก็นำทางฟ่านจุ้ยไปยังที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้เขาตลอดทางฟ่านจุ้ยเอาแต่หันมองซ้ายทีขวาทีทันใดนั้นราวกับว่านึกอะไรขึ้นมาได้ เขายื่นนิ้วหนึ่งออกไปสะกิดพ่อบ้านที่กำลังนำทางอยู่ข้างหน้า “พ่อบ้านผู้เฒ่า ว่าแต่พี่ใหญ่ของข้าเล่า? ข้ากลับมาบ้านนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ใหญ่ออกมารับข้าเลย?”วันนี้ฟ่านจุ้ยได้พบกับเวินฉางอวิ้นในท้องพระโรงแล้ว และมองออกว่าเวินฉางอวิ้นดูเหมือนจะเข้าข้างพี่หญิงของเขาอยู่บ้างดังนั้น เมื่อเทียบกับเวินจื่อเยวี่ยแล้ว อันที่จริงฟ่านจุ้ยสนใจในตัวพี่ใหญ่คนนี้มากกว่าแน่นอนว่ายังมีพี่รองที่หนีออกจากบ้านไปอีกคนได้ยินมาว่าในตอนนั้นพี่รองเวินจื่อเฉินได้ทะเลาะกับทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงก็เพื่อพี่หญิงของเขา หลังจากหนีออกจากบ้านไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงได้หายสาบสูญไปฟ่านจุ้ยตั้งใจไปสืบข่าวมาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังสืบหาไม่พบแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียก็ต้องมีวันที่ได้พบกันอยู่แล้ววันนี้เขาอยากจะไปพบกับพี่ใหญ่ของเขาคนนั้นมากกว่าทว่าพ่อบ้านกลับส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้คุณชายใหญ่ไม่อยู่ในจวนขอร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 921

    เป็นไปตามที่ฟ่านจุ้ยคาดคิด คนทั้งจวนเจิ้นกั๋วกงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่า เวินซื่อสามารถควบคุมแมลงพิษได้สิ่งที่เวินเฉวียนเซิ่งรู้ อย่างมากที่สุดก็คือมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เวินซื่อจะเรียนวิชาแพทย์และวิชาพิษมาจากม่อโฉวซือไท่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจผิดว่าฟ่านจุ้ยมาเพื่อเป็นไส้ศึกให้เวินซื่อเวินเฉวียนเซิ่งเป็นคนที่หากไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่ลงมือทำสิ่งใด เรื่องนี้ตัวเขาเองก็รู้ดีและ “การเอาใจเขามาใส่ใจเรา” เขารู้สึกว่าเวินซื่อนั้นเหมือนกับเขาที่สุด ดังนั้นเขาจึงยิ่งรู้สึกว่า การที่เวินซื่อส่งตัวฟ่านจุ้ยกลับมา ต้องไม่ใช่เพราะความหวังดีเป็นแน่แม้ว่านางจะได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว อย่างเช่น การเปลี่ยนสกุลได้ก็ตามแต่เครื่องมือชั้นดีที่สามารถใช้ต่อกรกับจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างฟ่านจุ้ย เวินซื่อนางจะยอมทิ้งไปง่ายๆ จริงหรือ?อย่างไรเสีย เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่เชื่อในขณะเดียวกัน ฟ่านจุ้ยที่เดาความคิดของเวินเฉวียนเซิ่งได้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะในใจเขานึกว่าบิดาผู้นี้จะเก่งกาจสักเพียงใด ผลปรากฏว่าแม้กระทั่งกลอุบายของพี่หญิงก็ยังไม่รู้ช่างโง่เขลาสิ้นดีฟ่านจุ้ยครุ่นคิดอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 920

    ฟ่านจุ้ยหันมองแล้วใช้ใบหน้าที่น่าสงสารใบนั้นมองเวินเฉวียนเซิ่งบางทีอาจเป็นเพราะมองผ่านใบหน้าฟ่านจุ้ย ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งมองเห็นหญิงสาวที่ทำเพื่อเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด ในใจเขาผ่อนปรนลงเล็กน้อยแน่นอน นี่ไม่ได้แสดงว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะเชื่อคำพูดของฟ่านจุ้ยจริงหากง่ายดายเช่นนั้นจริง เขาคงไม่มีอำนาจอย่างปัจจุบันนี้“ไม่ว่าเขาจะเชื่อฟังจริงหรือไม่ แต่คาดว่าอย่างไรก็คงไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเจ้าหลายคนหรอก”เพราะอย่างไรในสายตาของเขา พวกลูกในภรรยาเอกเหล่านี้ไม่มีใครมีประโยชน์ ล้วนเป็นสวะที่ไร้ประโยชน์!แม้แต่บุตรชายคนโตในภรรยาเอกที่เขาฟูมฟักมาเอง เขายังไม่สามารถใช้งานได้ ยังไม่ยอมทำตามคำสั่งเขา!ลูกที่ไม่เชื่อฟังอย่างนี้ หากไม่ได้เห็นแก่ฐานะบุตรชายคนโตในภรรยาเอก เขาน่าจะกำจัดลูกชายคนนี้ไปนานแล้วแต่ว่าคนนี้กำจัดไม่ได้ แต่อีกคนหนึ่งกลับจำเป็นต้องกำจัดทิ้งเวินเฉวียนเซิ่งกวาดมองฟ่านจุ้ยอย่างเงียบเชียบแวบหนึ่งแม้ลูกทรพีจะข่มขู่ไม่ให้เขาลงมือ แต่หากเวินซื่อตายในมือลูกนอกสมรสที่นางพากลับมาเอง จะโทษเขาได้อย่างไร?ฟ่านจุ้ยที่คล้ายสังเกตเห็นบางสิ่ง หันมาสบเข้ากับสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งพอดีแม้เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 919

    ฝ่ามือนี้ที่ฟาดลงไป ไม่เพียงทำให้เวินจื่อเยวี่ยชะงักอยู่ที่เดิม แม้กระทั่งบ่าวชายที่เดิมทีไปช่วยคุณชายของตัวเองเรียกคนมาก็ยังตะลึงงันเดิมทีเขานึกว่าเมื่อใต้เท้ากั๋วกงมาแล้ว จะสามารถช่วยคุณชายของตัวเอง แต่ใครจะไปคิดบุตรชายนอกสมรสที่อยู่ตรงหน้าไร้ยางอายเหลือเกิน!เป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก ยังแสร้งทำน่าสงสารราวกับหญิงสาว!แต่ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงดันหลงกลเช่นนี้เข้าจนได้ ไม่ฟังคุณชายของเขาอธิบายเลย ก็อยู่ข้างบุตรชายนอกสมรสผู้นั้นแล้วทั้งที่คุณชายของเขาถึงจะเป็นบุตรในภรรยาเอกแห่งใต้เท้าเจิ้นกั๋วกง ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงกลับช่วยบุตรนอกสมรสตีคุณชายของเขา จะให้คุณชายของเขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!แม้แต่บ่าวชายยังคิดได้ขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวินจื่อเยวี่ย?“ท่านพ่อ ท่านตีข้าเพื่อลูกนอกสมรสคนนี้หรือ?!”เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อความปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้า เตือนสติเขาได้อย่างชัดเจน ว่าฝ่ามือเมื่อครู่ไม่ใช่ภาพลวงตาของเขาเวินเฉวียนเซิ่งเองก็ตีเสร็จแล้วจึงรู้สึกว่าไม่เหมาะสมแต่ว่าตีก็ตีไปแล้ว เขาเป็นถึงพ่อคนหนึ่งสั่งสอนลูกชายตัวเอง ก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?เวินเฉวียนเซิ่ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 918

    “พวกเจ้าสองคนหยุดเดี๋ยวนี้!”คนที่มาคือเวินเฉวียนเซิ่งส่วนบ่าวชายที่อยู่ด้านหลังเขา ก็คือบ่าวชายคนเมื่อครู่ที่หนีรอดไปได้จากมือของฟ่านจุ้ยเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้ว่าระหว่างเวินจื่อเยวี่ยกับฟ่านจุ้ยจะชกต่อยกันจริง ดังนั้นจึงรีบไปเรียกคนมาโชคดีที่บ่าวชายผู้นี้รวดเร็วมากพอ ไม่อย่างนั้นคุณชายของเขาคงต้องตายด้วยคมมีดของฟ่านจุ้ยแล้วทว่ารอให้เวินเฉวียนเซิ่งกับบ่าวชายเดินไปถึงหน้าประตู กลับพบว่าสถานการณ์เหมือนไม่ค่อยปกติเพราะขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเวินเฉวียนเซิ่ง ฟ่านจุ้ยรีบเก็บมีดสั้นทันใด แล้วจับตัวเวินจื่อเยวี่ยให้พลิกกลับมายังไม่ทันที่เวินจื่อเยวี่ยจะรู้สึกตัว ในยามที่พวกเวินเฉวียนเซิ่งปรากฏตัว ฟ่านจุ้ยดึงมือสองข้างของเวินจื่อเยวี่ย รีบนำไปวางไว้บนลำคอของตัวเองดังนั้นตอนที่เวินเฉวียนเซิ่งเดินเข้ามา ภาพเหตุการณ์จึงกลายเป็นฟ่านจุ้ยถูกเวินจื่อเยวี่ยทำร้ายจนล้มลงพื้น กระทั่งยังถูกเวินจื่อเยวี่ยบีบคอจะฆ่าเขาเพื่อตบตาให้แนบเนียนยิ่งขึ้น ฟ่านจุ้ยกระทั่งแสร้งดิ้นรนหันไปร้องไห้ขอความช่วยเหลือจากเวินเฉวียนเซิ่งตรงทางเข้า “แค่ก แค่ก แค่ก ท่านพ่อ ช่วยข้า!” เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่ท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 917

    “คนที่รนหาที่ตายก็คือเจ้า!”เวินจื่อเยวี่ยยกหมัดขึ้น อยากจะชกฟ่านจุ้ยอีกหมัดทว่าวินาทีต่อมา“พลั่ก!”คนที่ถูกซัดหมัดใส่จนกระเด็นออกไปคือเวินจื่อเยวี่ยเองฟ่านจุ้ยลงมืออย่างไม่ปรานีเลยสักนิดเขาในยามนี้มีจิตสังหารต่อเวินจื่อเยวี่ยแล้ว ดังนั้นพลังของหมัดเมื่อครู่จึงสูงมาก ซัดใส่ช่วงท้องของเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรง ทำให้เขากระอักเลือดออกมาทันที“ข้าขอเตือนให้เจ้ารีบลุกขึ้นยืนดีกว่า เพราะหมัดต่อไปของข้ากำลังจะมาแล้วนะ”“พลั่ก!”ฟ่านจุ้ยเดินไปเบื้องหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างเชื่องช้า ยิ้มแย้มเตือนเวินจื่อเยวี่ยเหมือนคนใจดีไปพลาง ทั้งซัดหมัดลงมาอีกครั้งไปด้วย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยที่โซซัดโซเซลุกขึ้นล้มลงบนพื้นอีกครั้งเวินจื่อเยวี่ยนึกไม่ถึง บุตรชายนอกสมรสที่ดูเหมือนผ่ายผอมคนนี้จะมีแรงมากขนาดนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เพียงหมัดเดียวก็ทำให้เวินจื่อเยวี่ยแทบจะไม่มีทางตอบโต้หลังซัดลงไปสองหมัด เขากระทั่งลุกขึ้นไม่ไหว ได้แต่ยันพื้นเอาไว้ กระอักเลือดออกมาไม่หยุด“เจ้า...ตกลงเจ้า...”เวินจื่อเยวี่ยอยากถามว่าตกลงเขาคือใคร?หากเป็นบุตรชายนอกสมรสที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอก เหตุใดวรยุทธ์จึงร้ายกาจเช่นน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status