หลังจากออกมาจากห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งแล้ว พ่อบ้านของสกุลเวินก็นำทางฟ่านจุ้ยไปยังที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้เขาตลอดทางฟ่านจุ้ยเอาแต่หันมองซ้ายทีขวาทีทันใดนั้นราวกับว่านึกอะไรขึ้นมาได้ เขายื่นนิ้วหนึ่งออกไปสะกิดพ่อบ้านที่กำลังนำทางอยู่ข้างหน้า “พ่อบ้านผู้เฒ่า ว่าแต่พี่ใหญ่ของข้าเล่า? ข้ากลับมาบ้านนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ใหญ่ออกมารับข้าเลย?”วันนี้ฟ่านจุ้ยได้พบกับเวินฉางอวิ้นในท้องพระโรงแล้ว และมองออกว่าเวินฉางอวิ้นดูเหมือนจะเข้าข้างพี่หญิงของเขาอยู่บ้างดังนั้น เมื่อเทียบกับเวินจื่อเยวี่ยแล้ว อันที่จริงฟ่านจุ้ยสนใจในตัวพี่ใหญ่คนนี้มากกว่าแน่นอนว่ายังมีพี่รองที่หนีออกจากบ้านไปอีกคนได้ยินมาว่าในตอนนั้นพี่รองเวินจื่อเฉินได้ทะเลาะกับทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงก็เพื่อพี่หญิงของเขา หลังจากหนีออกจากบ้านไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงได้หายสาบสูญไปฟ่านจุ้ยตั้งใจไปสืบข่าวมาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังสืบหาไม่พบแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียก็ต้องมีวันที่ได้พบกันอยู่แล้ววันนี้เขาอยากจะไปพบกับพี่ใหญ่ของเขาคนนั้นมากกว่าทว่าพ่อบ้านกลับส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้คุณชายใหญ่ไม่อยู่ในจวนขอร
เป็นไปตามที่ฟ่านจุ้ยคาดคิด คนทั้งจวนเจิ้นกั๋วกงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่า เวินซื่อสามารถควบคุมแมลงพิษได้สิ่งที่เวินเฉวียนเซิ่งรู้ อย่างมากที่สุดก็คือมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เวินซื่อจะเรียนวิชาแพทย์และวิชาพิษมาจากม่อโฉวซือไท่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจผิดว่าฟ่านจุ้ยมาเพื่อเป็นไส้ศึกให้เวินซื่อเวินเฉวียนเซิ่งเป็นคนที่หากไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่ลงมือทำสิ่งใด เรื่องนี้ตัวเขาเองก็รู้ดีและ “การเอาใจเขามาใส่ใจเรา” เขารู้สึกว่าเวินซื่อนั้นเหมือนกับเขาที่สุด ดังนั้นเขาจึงยิ่งรู้สึกว่า การที่เวินซื่อส่งตัวฟ่านจุ้ยกลับมา ต้องไม่ใช่เพราะความหวังดีเป็นแน่แม้ว่านางจะได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว อย่างเช่น การเปลี่ยนสกุลได้ก็ตามแต่เครื่องมือชั้นดีที่สามารถใช้ต่อกรกับจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างฟ่านจุ้ย เวินซื่อนางจะยอมทิ้งไปง่ายๆ จริงหรือ?อย่างไรเสีย เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่เชื่อในขณะเดียวกัน ฟ่านจุ้ยที่เดาความคิดของเวินเฉวียนเซิ่งได้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะในใจเขานึกว่าบิดาผู้นี้จะเก่งกาจสักเพียงใด ผลปรากฏว่าแม้กระทั่งกลอุบายของพี่หญิงก็ยังไม่รู้ช่างโง่เขลาสิ้นดีฟ่านจุ้ยครุ่นคิดอย
ฟ่านจุ้ยหันมองแล้วใช้ใบหน้าที่น่าสงสารใบนั้นมองเวินเฉวียนเซิ่งบางทีอาจเป็นเพราะมองผ่านใบหน้าฟ่านจุ้ย ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งมองเห็นหญิงสาวที่ทำเพื่อเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด ในใจเขาผ่อนปรนลงเล็กน้อยแน่นอน นี่ไม่ได้แสดงว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะเชื่อคำพูดของฟ่านจุ้ยจริงหากง่ายดายเช่นนั้นจริง เขาคงไม่มีอำนาจอย่างปัจจุบันนี้“ไม่ว่าเขาจะเชื่อฟังจริงหรือไม่ แต่คาดว่าอย่างไรก็คงไม่ได้แย่ไปกว่าพวกเจ้าหลายคนหรอก”เพราะอย่างไรในสายตาของเขา พวกลูกในภรรยาเอกเหล่านี้ไม่มีใครมีประโยชน์ ล้วนเป็นสวะที่ไร้ประโยชน์!แม้แต่บุตรชายคนโตในภรรยาเอกที่เขาฟูมฟักมาเอง เขายังไม่สามารถใช้งานได้ ยังไม่ยอมทำตามคำสั่งเขา!ลูกที่ไม่เชื่อฟังอย่างนี้ หากไม่ได้เห็นแก่ฐานะบุตรชายคนโตในภรรยาเอก เขาน่าจะกำจัดลูกชายคนนี้ไปนานแล้วแต่ว่าคนนี้กำจัดไม่ได้ แต่อีกคนหนึ่งกลับจำเป็นต้องกำจัดทิ้งเวินเฉวียนเซิ่งกวาดมองฟ่านจุ้ยอย่างเงียบเชียบแวบหนึ่งแม้ลูกทรพีจะข่มขู่ไม่ให้เขาลงมือ แต่หากเวินซื่อตายในมือลูกนอกสมรสที่นางพากลับมาเอง จะโทษเขาได้อย่างไร?ฟ่านจุ้ยที่คล้ายสังเกตเห็นบางสิ่ง หันมาสบเข้ากับสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งพอดีแม้เ
ฝ่ามือนี้ที่ฟาดลงไป ไม่เพียงทำให้เวินจื่อเยวี่ยชะงักอยู่ที่เดิม แม้กระทั่งบ่าวชายที่เดิมทีไปช่วยคุณชายของตัวเองเรียกคนมาก็ยังตะลึงงันเดิมทีเขานึกว่าเมื่อใต้เท้ากั๋วกงมาแล้ว จะสามารถช่วยคุณชายของตัวเอง แต่ใครจะไปคิดบุตรชายนอกสมรสที่อยู่ตรงหน้าไร้ยางอายเหลือเกิน!เป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก ยังแสร้งทำน่าสงสารราวกับหญิงสาว!แต่ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงดันหลงกลเช่นนี้เข้าจนได้ ไม่ฟังคุณชายของเขาอธิบายเลย ก็อยู่ข้างบุตรชายนอกสมรสผู้นั้นแล้วทั้งที่คุณชายของเขาถึงจะเป็นบุตรในภรรยาเอกแห่งใต้เท้าเจิ้นกั๋วกง ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงกลับช่วยบุตรนอกสมรสตีคุณชายของเขา จะให้คุณชายของเขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!แม้แต่บ่าวชายยังคิดได้ขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวินจื่อเยวี่ย?“ท่านพ่อ ท่านตีข้าเพื่อลูกนอกสมรสคนนี้หรือ?!”เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อความปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้า เตือนสติเขาได้อย่างชัดเจน ว่าฝ่ามือเมื่อครู่ไม่ใช่ภาพลวงตาของเขาเวินเฉวียนเซิ่งเองก็ตีเสร็จแล้วจึงรู้สึกว่าไม่เหมาะสมแต่ว่าตีก็ตีไปแล้ว เขาเป็นถึงพ่อคนหนึ่งสั่งสอนลูกชายตัวเอง ก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?เวินเฉวียนเซิ่ง
“พวกเจ้าสองคนหยุดเดี๋ยวนี้!”คนที่มาคือเวินเฉวียนเซิ่งส่วนบ่าวชายที่อยู่ด้านหลังเขา ก็คือบ่าวชายคนเมื่อครู่ที่หนีรอดไปได้จากมือของฟ่านจุ้ยเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้ว่าระหว่างเวินจื่อเยวี่ยกับฟ่านจุ้ยจะชกต่อยกันจริง ดังนั้นจึงรีบไปเรียกคนมาโชคดีที่บ่าวชายผู้นี้รวดเร็วมากพอ ไม่อย่างนั้นคุณชายของเขาคงต้องตายด้วยคมมีดของฟ่านจุ้ยแล้วทว่ารอให้เวินเฉวียนเซิ่งกับบ่าวชายเดินไปถึงหน้าประตู กลับพบว่าสถานการณ์เหมือนไม่ค่อยปกติเพราะขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเวินเฉวียนเซิ่ง ฟ่านจุ้ยรีบเก็บมีดสั้นทันใด แล้วจับตัวเวินจื่อเยวี่ยให้พลิกกลับมายังไม่ทันที่เวินจื่อเยวี่ยจะรู้สึกตัว ในยามที่พวกเวินเฉวียนเซิ่งปรากฏตัว ฟ่านจุ้ยดึงมือสองข้างของเวินจื่อเยวี่ย รีบนำไปวางไว้บนลำคอของตัวเองดังนั้นตอนที่เวินเฉวียนเซิ่งเดินเข้ามา ภาพเหตุการณ์จึงกลายเป็นฟ่านจุ้ยถูกเวินจื่อเยวี่ยทำร้ายจนล้มลงพื้น กระทั่งยังถูกเวินจื่อเยวี่ยบีบคอจะฆ่าเขาเพื่อตบตาให้แนบเนียนยิ่งขึ้น ฟ่านจุ้ยกระทั่งแสร้งดิ้นรนหันไปร้องไห้ขอความช่วยเหลือจากเวินเฉวียนเซิ่งตรงทางเข้า “แค่ก แค่ก แค่ก ท่านพ่อ ช่วยข้า!” เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่ท
“คนที่รนหาที่ตายก็คือเจ้า!”เวินจื่อเยวี่ยยกหมัดขึ้น อยากจะชกฟ่านจุ้ยอีกหมัดทว่าวินาทีต่อมา“พลั่ก!”คนที่ถูกซัดหมัดใส่จนกระเด็นออกไปคือเวินจื่อเยวี่ยเองฟ่านจุ้ยลงมืออย่างไม่ปรานีเลยสักนิดเขาในยามนี้มีจิตสังหารต่อเวินจื่อเยวี่ยแล้ว ดังนั้นพลังของหมัดเมื่อครู่จึงสูงมาก ซัดใส่ช่วงท้องของเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรง ทำให้เขากระอักเลือดออกมาทันที“ข้าขอเตือนให้เจ้ารีบลุกขึ้นยืนดีกว่า เพราะหมัดต่อไปของข้ากำลังจะมาแล้วนะ”“พลั่ก!”ฟ่านจุ้ยเดินไปเบื้องหน้าเวินจื่อเยวี่ยอย่างเชื่องช้า ยิ้มแย้มเตือนเวินจื่อเยวี่ยเหมือนคนใจดีไปพลาง ทั้งซัดหมัดลงมาอีกครั้งไปด้วย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยที่โซซัดโซเซลุกขึ้นล้มลงบนพื้นอีกครั้งเวินจื่อเยวี่ยนึกไม่ถึง บุตรชายนอกสมรสที่ดูเหมือนผ่ายผอมคนนี้จะมีแรงมากขนาดนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เพียงหมัดเดียวก็ทำให้เวินจื่อเยวี่ยแทบจะไม่มีทางตอบโต้หลังซัดลงไปสองหมัด เขากระทั่งลุกขึ้นไม่ไหว ได้แต่ยันพื้นเอาไว้ กระอักเลือดออกมาไม่หยุด“เจ้า...ตกลงเจ้า...”เวินจื่อเยวี่ยอยากถามว่าตกลงเขาคือใคร?หากเป็นบุตรชายนอกสมรสที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอก เหตุใดวรยุทธ์จึงร้ายกาจเช่นน