Share

บทที่ 471

Author: จิ้งซิง
“อย่าว่าแต่นางเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เลย แม้แต่ฝ่าบาทเสด็จมา ก็ยังต้องเคารพผู้อาวุโส หากนางกล้าลงไม้ลงมือกับข้า ท่านลองดูสิว่าคนเหล่านั้นจะรุมประณามนางจนจมดินหรือไม่!”

“ปึง!”

จงหย่งโหวกระแทกหนังสือในมือลงบนโต๊ะโดยตรง

“เลิกวางตัวเป็นผู้อาวุโสแล้วไปข่มผู้อื่นเสียที ถึงแม้ว่าเวินซื่อนางจะไม่กล้า แต่เจ้าลองดูคนข้างกายคนอื่นๆ สิว่า พวกเขากล้าหรือไม่?”

“ไม่ต้องพูดถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ม่อโฉวซือไท่แห่งอารามสุ่ยเยว่นั่น แม้กระทั่งพี่ใหญ่ของเจ้ายังกล้าตี แล้วจะไม่กล้าตีเจ้าหรือ?”

เวินหย่าลี่ได้ยินดังนั้น ก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ก่อนจะพึมพำว่า “ซือไท่คนหนึ่งแล้วอย่างไร ตอนนั้นพี่ชายของข้าไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่อยากทำร้ายผู้หญิงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นนางคงถูกพี่ชายข้าจัดการไปนานแล้ว ยังคิดจะมาจัดการข้าอีก? หึ”

จงหย่วนโหวยกมือขึ้นปิดตำราหมากรุก แล้วโยนลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเจ้ามีความคิดเป็นของตัวเองเช่นนี้ แล้วจะฟังคำพูดของข้าไปทำไม? ไปหาพี่ใหญ่ของเจ้าสิ”

เวินหย่าลี่หันกลับไปมอง ก็รู้ว่าเขาโกรธจริงๆ แล้ว จึงรีบยอมแพ้แล้วกล่าวว่า “ได้ๆๆ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้ พอใจหรือยัง? ข้าฟังท่า
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 810

    “เกินไปแล้ว! ต่อให้เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแล้วอย่างไรเล่า?!”“ใต้เท้าฟ่านรักราษฎรดุจลูกในไส้ จะยอมให้พวกท่านจับตัวเขาไปแบบนี้ได้อย่างไร!”“ไสหัวไป! พวกทหารโจรที่เหมือนกับโจรป่า!”“ไสหัวไป!”“ไสหัวไป!”“…”ประชาชนมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาคุ้มกันอยู่หน้าฟ่านจง ขวางอยู่ข้างหน้ากองทัพธงดำคำว่า “ทหารโจร” ทำให้เหล่าทหารกองทัพธงดำอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น“เงียบนะ!”ในขณะนั้นเอง ก็มีน้ำเสียงที่เย็นเยียบแต่ใสกระจ่างดังมาจากที่สูงทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นร่างที่บอบบางร่างหนึ่ง ยืนอยู่บนขอบกำแพงเมืองบนหอคอยเมือง นางทอดสายตาลงมายังฝูงชน แววตาเย็นชา น้ำเสียงที่โปร่งใสกังวานแฝงไปด้วยพลังวิญญาณเล็กน้อยส่งไปถึงชาวเมืองจงซินทุกคน บอกกับพวกเขาว่า...“คนที่อยู่ตรงหน้าพวกท่านไม่ใช่ทหารโจร พวกเขาคือกองทัพธงดำ เป็นกองทัพผู้กล้าหาญที่สู้รบในสนามรบเพื่อต้าหมิง และสร้างสันติสุขให้แก่แผ่นดิน!”“ที่พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อของพวกเขา เป็นเพราะพวกท่านอยู่ในเมืองจงซินมาโดยตลอด แต่หากก้าวออกจากเมืองจงซินไป บนแผ่นดินต้าหมิงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดไม่เคยได้ยินชื่อของกองทัพธงดำ ไม่มีใครไม่เคยได้ยินฉายาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 809

    “ไม่!”ฟ่านจงกัดฟันกรอด ดวงตาแน่วแน่ ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย แผนการที่เขาวางมานานหลายปี จะมาพังทลายเพราะเป่ยเฉินหยวนผู้นี้ได้อย่างไร!“ทหาร ผู้บัญชาการเฉินอยู่ที่ใด?!”“เรียนท่านเจ้าเมือง ผู้บัญชาการเฉินอยู่บนหอคอยเมืองขอรับ!”“ส่งคนไปแจ้งข่าวทันที ให้เขานำทหารไปสกัดเป่ยเฉินหยวนไว้!”“ขอรับ! ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”“ที่ปรึกษาจาง!”ฟ่านจงตะโกนเรียกไปด้านหลัง ที่ปรึกษาจางรีบก้าวออกมาข้างหน้าทันที “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ! ท่านเจ้าเมืองมีคำสั่งใด?”“เจ้าจงปลดม้าแล้วรีบควบม้ากลับจวนเจ้าเมืองทันที แจ้งให้ปรมาจารย์กู่เหมียว ย้ายทุกสิ่งทุกอย่างในห้องลับออกไปทันที อย่าทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ให้เป่ยเฉินหยวนเด็ดขาด!”“แล้วท่านเจ้าเมืองเล่าขอรับ จะทำอย่างไร?”แววตาของฟ่านจงแข็งกร้าว “ต่อให้เขาเป่ยเฉินหยวนอยากจะฆ่าข้า ก็ต้องมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา! ตอนนี้ที่เขาบุกโจมตีอย่างกะทันหันย่อมต้องเป็นเพราะค้นพบทุกสิ่งในห้องลับแล้ว แต่ขอเพียงพวกเจ้าย้ายทุกอย่างออกไปก่อนหน้านั้น เขาเป่ยเฉินหยวนก็จะฆ่าข้าไม่ได้!”“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”หลังจากนั้นฟ่านจงก็เรียกให้พ่อบ้านเข้ามา “กลับไปบอกท่านแม่ ให้นางย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 808

    สีหน้าของปรมาจารย์กู่เหมียวดูย่ำแย่ อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาทำงานพลาด ทั้งยังเกือบจะปล่อยให้คนเข้าไปในสถานที่สำคัญอีกด้วย“ข้าทราบแล้ว ต่อไปข้าจะตรวจสอบทั่วทั้งเมืองจงซินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ผู้น้อยนั่น... ไม่สิ เจ้าโจรตัวน้อยนั่น ในเมื่อควบคุมกู่บุกรุกเข้ามา เช่นนั้นก็ย่อมอยู่ไม่ไกลนัก ตราบใดที่เขายังอยู่ในเมืองจงซิน เขาก็หนีไม่รอด”เมื่อฟ่านจงได้ยินเช่นนี้ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย “ปรมาจารย์กู่เหมียว เจ้าโจรตัวน้อยนั่นอาจจะใช้วิชากู่จากนอกเมืองก็เป็นได้?”เขาสงสัยว่าเรื่องในคืนนี้อาจเกี่ยวข้องกับเป่ยเฉินหยวนและคนอื่นๆแต่ปรมาจารย์กู่เหมียวกลับส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”ฟ่านจงไม่เข้าใจ “เพราะเหตุใด?”ปรมาจารย์กู่เหมียวกล่าวอธิบาย “การควบคุมกู่ของปรมาจารย์กู่จำเป็นต้องอยู่ในระยะที่กำหนด แม้แต่ปรมาจารย์กู่ที่เก่งกาจที่สุด ก็ยังต้องอยู่ในระยะสิบลี้ เพื่อให้แน่ใจถึงความแม่นยำในการควบคุมแมลงกู่ ส่วนจวนเจ้าเมืองอยู่ห่างจากประตูเมืองเพียงใด ท่านเจ้าเมืองย่อมรู้ดีกว่าข้า”แน่นอนว่าฟ่านจงย่อมรู้ดี จวนเจ้าเมืองอยู่ห่างจากประตูเมืองใกล้ที่สุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 807

    “นี่มันพิษอะไรกันแน่?!”ยาถอนพิษของเขาสามารถถอนพิษได้ร้อยชนิด เหตุใดจึงใช้ไม่ได้ผล?!เมื่อเห็นว่าแขนของตนเองครึ่งหนึ่งใกล้จะเน่าเปื่อยหมดแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าจะลุกลามไปทั่วทั้งตัว!ในตอนนี้ปรมาจารย์กู่เหมียวที่เพิ่งตระหนักได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายอย่างยิ่ง สายตาก็พลันฉายแววอำมหิต เขาชักมีดออกจากเอวอย่างเด็ดเดี่ยว เสียง “ฉึก” ดังขึ้น เขาถึงกับตัดแขนตัวเองขาดครึ่งท่อนภายใต้ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ปรมาจารย์กู่เหมียวที่ทั้งเจ็บปวดทั้งโกรธแค้นก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตะโกนด่าทอออกมาอย่างสาดเสียเทเสีย “เจ้าสารเลวสมควรตาย! รอข้าก่อนเถอะ ข้าจะจับผู้น้อยอย่างเจ้ามาถลกหนังเลาะเอ็น กินเนื้อดื่มเลือดให้จงได้!”ในเวลานี้เวินซื่อยังไม่รู้ว่า ราชาแมลงพิษสุดที่รักของนางเพิ่งจะมาถึงวันแรก ก็เกือบจะช่วยให้นางกำจัดปรมาจารย์กู่ไปได้คนหนึ่งแล้ว“ปรมาจารย์กู่เหมียว!”ฟ่านจงคิดไม่ถึงว่าพวกเขาเพิ่งจะเดินจากไปได้ไม่นาน ทางฝั่งของปรมาจารย์กู่เหมียวกลับเกิดเรื่องขึ้นเร็วถึงเพียงนี้“ปรมาจารย์กู่เหมียว มือของท่านเป็นอะไรไป?!”เมื่อฟ่านจงนำคนย้อนกลับมา ก็เห็นแขนที่ขาดอยู่บนพื้นในทันที สีหน้าของเขาก็พลันเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 806

    “ผู้น้อย?”ฟ่านจงมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นเงาของใครเลย“ปรมาจารย์กู่เหมียว ท่านเห็นโฉมหน้าของโจรแล้วหรือ?”“ยัง”ปรมาจารย์กู่เหมียวกล่าวเสียงเรียบ“เช่นนั้นปรมาจารย์กู่เหมียวรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายเป็นผู้น้อย?”ฟ่านจงถามด้วยความสงสัยปรมาจารย์กู่เหมียวกอดอกพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ล้ำลึก “วิชากู่ครึ่งๆ กลางๆ เช่นนี้ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเพิ่งฝึกฝนได้ไม่นาน กล้าดีอย่างไรมาแสดงฝีมือต่อหน้าข้า หากไม่ใช่ผู้น้อยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วจะเป็นอะไรได้อีก?”ฟ่านจงรีบประสานมือคารวะ พลางกล่าวประจบด้วยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์กู่เหมียวช่างเก่งกาจอย่างแท้จริง เช่นนี้แล้ว ความปลอดภัยของจวนข้าก็ไม่ต้องกังวลแล้ว”“แน่นอนอยู่แล้ว เอาละ ไม่ต้องพูดมากแล้ว พวกเจ้าลงไปทำงานของตนเองเถอะ อย่าเข้ามาแทรกแซง ผู้น้อยคนนี้ ข้าจะจัดการเอง”หลังจากไล่ฟ่านจงและคนอื่นๆ ไปแล้ว ปรมาจารย์กู่เหมียวก็มองไปยังจุดหนึ่งด้วยแววตาเป็นประกายคมกริบหากมีคนอยู่ที่นี่และมองตามสายตาของปรมาจารย์กู่เหมียวไป ก็จะพบว่าเขากำลังจ้องมองผีเสื้อสีทองตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนตะเกียงหินซึ่งอยู่ไม่ไกล ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น“แมลงดี แมลงดี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 805

    นอกเหนือจากสีทองทั้งตัวแล้ว บนปีกทั้งสองข้างของราชากู่ที่ถือกำเนิดใหม่ ยังมีลวดลายสีแดงที่ดูแปลกประหลาดเล็กน้อยเมื่อมองอย่างละเอียด “ให้ข้าดูหน่อย”เวินซื่อออกคำสั่งเบาๆ มันก็บินขึ้นไปกลางอากาศอย่างว่าง่าย ปีกทั้งสองข้างกระพือเบาๆ ก็มีละอองผงที่แทบมองไม่เห็นโปรยลงมาและนี่ก็คือพิษร้ายแรงที่ผสานเข้ากับร่างกายของมันได้สำเร็จแล้ว“ดีมาก ต่อจากนี้ไปเจ้าไม่ใช่ราชากู่อีกแล้ว แต่เป็นราชาหนอนพิษตัวแรกของข้า”เวินซื่อยกมือขึ้นเล็กน้อย ราชาแมลงพิษก็บินมาเกาะที่ปลายนิ้วขาวนวลของนาง ถูไถราวกับจะประจบประแจง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผงพิษเปื้อนตัวของเวินซื่อประการแรกคือต่อให้เวินซื่อสัมผัสโดนก็ไม่เป็นไร ประการที่สองคือหลังจากยอมรับนางเป็นนายอย่างสมบูรณ์ ต่อให้ราชาแมลงพิษไม่อยากทำ มันก็จะค่อยๆ ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การชำระล้างของน้ำทิพย์และพลังวิญญาณ ความภักดีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้มันกลายเป็นสมบัติของเวินซื่ออย่างสิ้นเชิงการผสานสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งราชาแมลงพิษที่ผสานและเปลี่ยนแปลงสภาพแล้วยังงดงามถึงเพียงนี้ เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นติดต่อกันทำให้อารมณ์ของเวินซื่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status