แชร์

บทที่ 492

ผู้เขียน: จิ้งซิง
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนี้ต่างหันไปมองทางไทเฮา

บางทีตัวไทเฮาเองยังอาจไม่รู้สึกว่าชัดเจนมากนัก

ผู้คนที่ไม่กล้ามองตรงๆ ก่อนหน้านี้ คราวนี้ลองแอบมองอย่างละเอียด สีหน้าของไทเฮาดูดีกว่าก่อนหน้านี้มากจริงๆ!

สมกับเป็นเห็ดหลินจือสีม่วงอายุร้อยปี!

แน่นอนว่ามีคนสงสัยคำพูดของไทเฮาเช่นกัน คิดว่าเป็นแค่การพูดให้เป็นพิธีเท่านั้น

มีสมุนไพรที่มีสรรพคุณน่าอัศจรรย์เช่นนี้ที่ไหนกัน?

ต่อให้มี มันจะมาจากมือของเวินซื่อได้อย่างไร?

นางออกมาจากจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ได้ยินมาว่านอกจากสินเจ้าสาวของแม่นาง ก็ไม่ได้เอาอะไรไปด้วยเลย

คนเหล่านี้ย่อมเป็นขุนนางรุ่นใหม่ที่ไม่รู้ว่าภูมิหลังของสกุลหลานในอดีตแข็งแกร่งเพียงใด

พวกเขาไม่เข้าใจถึงความสำคัญของสกุลหลานในอดีต และไม่รู้ถึงความสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของสกุลหลานเช่นกัน

แม้เวินซื่อไม่ได้เลือกเห็ดหลินจือสีม่วงอายุร้อยปีมาจากสินเจ้าสาวของมารดานาง แต่หยกแขวนชิ้นนั้นเป็นของที่มารดานางให้นาง แล้วจะไม่นับว่าเป็นของที่มารดานางเหลือไว้ได้อย่างไร?

และแม้ว่าปกติไทเฮาจะพูดเป็นพิธีจนชินแล้ว แต่ตอนนี้พูดออกมาจากใจจริงๆ

ผู้หญิงที่อายุมากขึ้นคนไหนบ้างไม่อยากให้ตัวเองกลับมาเป็
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 926

    เมื่อกล่าวจบ เวินซื่อก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อม จากนั้นจึงลุกขึ้นไปปักธูปเนื่องจากตอนนี้สกุลหลานไม่มีผู้อาวุโสแล้ว เวินซื่อจึงทำได้เพียงจับพู่กันด้วยตนเอง เขียนชื่อของนางลงไปในบันทึกลำดับญาติของสกุลหลานเมื่อขีดสุดท้ายถูกเขียนลงไป เวินซื่อก็ส่งพู่กันให้แก่พ่อบ้านหลานจากนั้น นางก็หันกลับมาคารวะแขกเหรื่อทุกคน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั่วหล้าจะไม่มีเวินซื่อแห่งสกุลเวินอีกแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยาน หลานซื่อแห่งสกุลหลานขอคารวะทุกท่าน”“ขอแสดงความยินดีกับประมุขตระกูลหลาน!”“ประมุขตระกูลหลานมิต้องเกรงใจ”“ขอให้สกุลหลานเจริญรุ่งเรืองดังเช่นในอดีต ภายใต้การนำของประมุขตระกูลหลาน!”“...”แขกเหรื่อทุกคนต่างประสานมือคารวะตอบกลับ กล่าวแสดงความยินดีกับหลานซื่อทีละคน เสียงแสดงความยินดีดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและในขณะนั้นเอง ด้านนอกก็มีเสียงประกาศดังขึ้น“ผู้ส่งสารจากฮองเฮาเสด็จมาถึง เพื่อแสดงความยินดีในวาระมงคลของธิดาศักดิ์สิทธิ์และสกุลหลาน ทรงพระราชทานของขวัญมงคลหนึ่งร้อยรายการ คทาหรูอี้หยกทองคำฝังอัญมณีหนึ่งคู่ กำไลข้อมือเคลือบทองลายเถาบัวหนึ่งคู่ ถ้วยแก้วหลิวหลีเรืองแสงหนึ่งคู่ สร้อยไข่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 925

    “เจ้าจะใช้สกุลอะไร เหตุใดยังต้องให้ข้าช่วยตัดสินใจด้วย?”เวินซื่อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ ราวกับไม่ได้เข้าใจคำใบ้ของคนบางคนเลยแม้แต่น้อยฟ่านจุ้ยถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะเขาคงไม่สามารถพูดออกมาตรงๆ ได้กระมังว่าตนเองอยากจะใช้สกุลนั้น?“พี่หญิง~ ขอร้องล่ะ ข้าอยากให้พี่หญิงช่วยตั้งชื่อให้น้องชายคนนี้จริงๆ จริงๆ นะ!”ฟ่านจุ้ยยังไม่ยอมแพ้ กะพริบตาปริบๆ มองนางอย่างน่าสงสาร “ท่านก็รู้ว่าข้าเร่ร่อนอยู่ข้างนอกตั้งแต่เด็ก แม้แต่ชื่อก็ยังเป็นคนขี้เมาตั้งให้ ฟ่านจุ้ย ฟ่านจุ้ย ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ท่านก็รู้สึกว่าชื่อของข้าไม่ดีมิใช่หรือ? ดังนั้นท่านช่วยข้าตั้งชื่อใหม่สักชื่อเถอะนะ~”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็กระแอมออกมาหนึ่งครั้งนางเองก็จำได้ว่าตอนที่ได้ยินชื่อฟ่านจุ้ยครั้งแรกนั้น มันช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายแถมยังตกใจอยู่บ้างว่าพ่อแม่บ้านไหนกันที่จะตั้งชื่อลูกของตัวเองว่า “ฟ่านจุ้ย” (ทำผิด) กันล่ะ“ตอนนี้ญาติทางสายเลือดของเจ้าก็ไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียวเสียหน่อย...”“แต่ข้าก็อยากให้พี่หญิงช่วยตั้งให้!”ไม่รอให้เวินซื่อพูดจบ ฟ่านจุ้ยก็ขัดจังหวะขึ้นมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 924

    “ไม่แปลกหรอก”เวินซื่อมองลำธารที่สะท้อนแสงจันทร์สีเงินภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เขารู้มานานแล้วว่าข้าคิดจะฆ่าพวกเขา ดังนั้นพอเวินอวี้จือตาย คนแรกที่เขาสงสัยย่อมเป็นข้า”แต่ตราบใดที่เขาเวินเฉวียนเซิ่งหาหลักฐานที่แน่ชัดมาพิสูจน์ว่านางเป็นคนทำไม่ได้ เช่นนั้นเวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่มีทางลงมือง่ายๆ ไม่สิ ก็ไม่ถูกเสียทีเดียวเวินซื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ และปฏิเสธความคิดก่อนหน้าของตนเองในทันทีตอนนี้นางถือได้ว่าได้ล่วงเกิน “บิดาผู้แสนดี” ของนางอย่างสิ้นเชิงแล้วโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนสกุล ยิ่งเป็นการกระตุ้นจิตสังหารของเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเต็มที่ดังนั้น ในตอนนี้เขากลับมีแนวโน้มที่จะลงมือได้ทุกเมื่ออาจจะก่อนงานเลี้ยงเปลี่ยนสกุล หรือไม่ก็ ในวันจัดงานเลี้ยงนั่นแหละ“บิดาผู้แสนดี” ของนางจะต้องส่งคนมากำจัดนางซึ่งเป็นหนามยอกอกนี้ให้สิ้นซากมิฉะนั้น หากรอจนการเปลี่ยนสกุลได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว นางก็จะมีอำนาจในการควบคุมสกุลหลาน สามารถเรียกคืนมรดกทั้งหมดที่สกุลหลานทิ้งไว้ในอดีต ซึ่งถูกพวกเขาแอบแบ่งปันกันไปจนหมดสิ้นกลับคืนมาได้ และมรดกเหล่านี้ หากนางเดา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 923

    “ฟ่านจุ้ย?”เวินซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดึกดื่นป่านนี้แล้วเขามาหาข้าทำไม?”หรือว่าเป็นเพราะกลับไปจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ถูกทรมานจนรับมือเองไม่ไหว?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เวินซื่อจึงลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก พลางกล่าวกับจู๋เยวี่ย “ตามข้าไปดูหน่อย”ขณะเดียวกันก็รับถาดของว่างมาจากมือของจู๋เยวี่ยจากนั้นไม่นานนัก เวินซื่อก็ถือโคมไฟมาถึงริมลำธารหลังเขาทันทีที่มาถึง คนบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับภูตผี มาอยู่ตรงหน้าของเวินซื่ออย่างเงียบๆ “พี่หญิง ในที่สุดท่านก็มาถึงเสียที หากท่านยังไม่มาอีก ยุงในภูเขานี้คงจะดูดเลือดน้องชายของท่านจนแห้งไปหมดแล้ว”ฟ่านจุ้ยกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่สายตากลับจับจ้องไปยังถาดของว่างในมือของเวินซื่อทันที ดวงตาทั้งสองก็พลันเป็นประกายขึ้นมา“พี่หญิง รู้ได้อย่างไรว่าข้าหิว? คิดว่าของว่างจานนี้พี่หญิงคงตั้งใจนำมาให้น้องชายกินโดยเฉพาะสินะ!”คาดไม่ถึงว่าเวินซื่อจะยื่นมันมาให้เขาจริงๆ จากนั้นนางก็วางโคมไฟลงข้างๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มีเรื่องด่วนอะไร ถึงต้องมาหาข้าในยามวิกาลเช่นนี้? หรือว่าเจ้าสู้เจิ้นกั๋วกงผู้นั้นไม่ได้?”ฟ่านจุ้ยรับของว่างมาด้วยความยินดีอย่างย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 922

    หลังจากออกมาจากห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งแล้ว พ่อบ้านของสกุลเวินก็นำทางฟ่านจุ้ยไปยังที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้เขาตลอดทางฟ่านจุ้ยเอาแต่หันมองซ้ายทีขวาทีทันใดนั้นราวกับว่านึกอะไรขึ้นมาได้ เขายื่นนิ้วหนึ่งออกไปสะกิดพ่อบ้านที่กำลังนำทางอยู่ข้างหน้า “พ่อบ้านผู้เฒ่า ว่าแต่พี่ใหญ่ของข้าเล่า? ข้ากลับมาบ้านนานขนาดนี้แล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ใหญ่ออกมารับข้าเลย?”วันนี้ฟ่านจุ้ยได้พบกับเวินฉางอวิ้นในท้องพระโรงแล้ว และมองออกว่าเวินฉางอวิ้นดูเหมือนจะเข้าข้างพี่หญิงของเขาอยู่บ้างดังนั้น เมื่อเทียบกับเวินจื่อเยวี่ยแล้ว อันที่จริงฟ่านจุ้ยสนใจในตัวพี่ใหญ่คนนี้มากกว่าแน่นอนว่ายังมีพี่รองที่หนีออกจากบ้านไปอีกคนได้ยินมาว่าในตอนนั้นพี่รองเวินจื่อเฉินได้ทะเลาะกับทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงก็เพื่อพี่หญิงของเขา หลังจากหนีออกจากบ้านไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงได้หายสาบสูญไปฟ่านจุ้ยตั้งใจไปสืบข่าวมาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังสืบหาไม่พบแต่ก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียก็ต้องมีวันที่ได้พบกันอยู่แล้ววันนี้เขาอยากจะไปพบกับพี่ใหญ่ของเขาคนนั้นมากกว่าทว่าพ่อบ้านกลับส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้คุณชายใหญ่ไม่อยู่ในจวนขอร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 921

    เป็นไปตามที่ฟ่านจุ้ยคาดคิด คนทั้งจวนเจิ้นกั๋วกงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่า เวินซื่อสามารถควบคุมแมลงพิษได้สิ่งที่เวินเฉวียนเซิ่งรู้ อย่างมากที่สุดก็คือมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เวินซื่อจะเรียนวิชาแพทย์และวิชาพิษมาจากม่อโฉวซือไท่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจผิดว่าฟ่านจุ้ยมาเพื่อเป็นไส้ศึกให้เวินซื่อเวินเฉวียนเซิ่งเป็นคนที่หากไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่ลงมือทำสิ่งใด เรื่องนี้ตัวเขาเองก็รู้ดีและ “การเอาใจเขามาใส่ใจเรา” เขารู้สึกว่าเวินซื่อนั้นเหมือนกับเขาที่สุด ดังนั้นเขาจึงยิ่งรู้สึกว่า การที่เวินซื่อส่งตัวฟ่านจุ้ยกลับมา ต้องไม่ใช่เพราะความหวังดีเป็นแน่แม้ว่านางจะได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว อย่างเช่น การเปลี่ยนสกุลได้ก็ตามแต่เครื่องมือชั้นดีที่สามารถใช้ต่อกรกับจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างฟ่านจุ้ย เวินซื่อนางจะยอมทิ้งไปง่ายๆ จริงหรือ?อย่างไรเสีย เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่เชื่อในขณะเดียวกัน ฟ่านจุ้ยที่เดาความคิดของเวินเฉวียนเซิ่งได้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะในใจเขานึกว่าบิดาผู้นี้จะเก่งกาจสักเพียงใด ผลปรากฏว่าแม้กระทั่งกลอุบายของพี่หญิงก็ยังไม่รู้ช่างโง่เขลาสิ้นดีฟ่านจุ้ยครุ่นคิดอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status