ไม่ว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะพาใครมา หลานซื่อก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาทั้งนั้นก่อนหน้าที่จะรู้เรื่องราวของสกุลหลาน คนที่นางเกลียดที่สุดก็คือเวินเยวี่ยอย่างไม่ต้องสงสัยแต่เมื่อนางรู้ว่าเบื้องหลังของแผนการชั่วร้ายทั้งหมดนี้ มาจากน้ำมือของบิดาของนาง คนที่นางเกลียดที่สุดก็คือเวินเฉวียนเซิ่งแล้วมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้วทำไมหรือ?บนโลกนี้ มีผู้คนที่ใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดในการวางแผนร้ายมากมายเกินไปแล้วแต่การวางแผนแบบเวินเฉวียนเซิ่งนี้ ใช้ประโยชน์จากครอบครัวของภรรยาจนหมดสิ้นแล้ว ก็กำจัดทุกคนในตระกูลรวมถึงสายเลือดเดียวกันกับตัวเองด้วย แม้แต่ประโยชน์เพียงน้อยนิดก็ไม่เหลือไว้ บนโลกนี้คงมีเขาเพียงคนเดียว ไม่มีใครโหดเหี้ยมไปกว่าเขาอีกแล้วหลานซื่อรู้สึกว่า คนที่นางเรียกว่าพ่อผู้นั้นช่างน่ากลัวจริง ๆหากไม่ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ความจริงทั้งหมดนี้ใครจะรู้ได้?ความเคียดแค้นดุจทะเลเดือดอย่างหนักหน่วงนี้ ใครจะมาแก้แค้นแทนได้?บางทีสวรรค์อาจต้องการให้นางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ก็เพื่อให้นางรู้เรื่องทั้งหมดนี้ก็ได้ดังนั้นหลังจากที่ฆ่าเวินเยวี่ยไปสองครั้ง ความเกลียดชังที่นางมีต่อเวินเยวี่ย
เพื่อที่จะจัดการคดีนี้ เป่ยเฉินหยวนได้พาผู้คนมาทำงานอยู่หลายวัน จนกระทั่งวันก่อนที่หน่วยค้นหาเซียนจะออกเดินทาง เขาถึงจะจัดการเรื่องสำคัญเสร็จเรียบร้อยได้ในที่สุด จากนั้นก็รีบรุดมาพบหลานซื่อ“ครั้งนี้ข้าไม่สามารถไปกับท่านในฐานะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนได้แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ตอนแรกหลานซื่อก็ตะลึงไปชั่วขณะแต่ไม่นานนางก็เข้าใจความหมายอีกนัยหนึ่งของเป่ยเฉินหยวนได้ นางเอ่ยด้วยความแปลกใจ “ท่านต้องการปลอมตัวหรือ? เพื่อไปจับอันเทียนซินบุตรชายอนุภรรยาและอันกุ้ยเหรินที่หนีออกจากสกุลอันอย่างนั้นหรือ?”เป่ยเฉินหยวนเห็นนางมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาผงกศีรษะกล่าวว่า “ตอนที่คดียาอายุวัฒนะยังไม่สิ้นสุด สกุลอันก็ถูกตรวจพบว่ามีตราสัญลักษณ์ของชาวต่างเผ่า ตลอดจนร่องรอยของวิชาซากกู่ของชาวต่างเผ่า เหมือนอย่างที่ท่านเคยคาดเดาไว้ การฟื้นคืนชีพของเวินเยวี่ยเกี่ยวข้องกับสกุลอันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลังจากเวินเยวี่ยถูกหลอมขึ้นมาแล้ว กลับหนีออกไปจากสกุลอัน”“เดิมทีสกุลอันก็กำลังตามหาเบาะแสของเวินเยวี่ยอยู่ แต่กลับไม่นึกว่าจะแสดงพิรุธออกมา จนถูกพวกเราจับตาม
“นี่ เจ้าสาม มัวยืนเซ่ออะไรอยู่? รีบมาช่วยกันขนของพวกนี้เข้าไปเร็วเข้า”ในขณะที่ชุยเหลียงเฟิงกำลังจ้องมองผู้หญิงและเด็กเหล่านั้นอย่างครุ่นคิด ผู้เป็นหัวหน้าก็ได้ทำประสานงานซื้อขายกับคนที่อยู่ในห้องลับเสร็จเรียบร้อยแล้วชายข้างกายเขา ซึ่งเป็นน้องรองในคนกลุ่มนี้เช่นกัน อีกฝ่ายได้แบกผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา เห็นเขายังคงจ้องมองอย่างเหม่อลอย ก็เข้าใจผิดในทันที พลางใช้ไหล่กระแทกชุยเหลียงเฟิงเบาๆอีกฝ่ายยิ้มกรุ้มกริ่ม “อยากได้ผู้หญิงล่ะสิ? แหะ ๆ รู้ว่าเจ้าไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมานานแล้ว ถ้าอยากจะทำก็รอเดี๋ยว อีกสักพักพี่จะพาเจ้าเข้าไปเพลิดเพลินข้างใน ผู้หญิงที่อยู่ในนั้นมีมากมายเหลือเฟือ ต้องการสนุกแบบไหนก็ได้ตามใจ แม้แต่เด็ก ๆ ก็มีนะ”“ส่วนไม่กี่คนนี้เจ้าอย่าไปคิดเลย นี่เป็น ‘ยา’ ที่ส่งมา”ยาหรือ?ชุยเหลียงเฟิงใจหายวาบทันทีได้ยินอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนบอกว่า ยาอายุวัฒนะนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะใช้คนทำยา เห็นทีคงใช้ผู้หญิงและเด็กเหล่านี้มาทำยาเขาต้องเข้าไปสำรวจข้างในอีกที ขอเพียงหาสถานที่ที่คนเหล่านั้นผลิตยาอายุวัฒนะเจอ ก็สามารถให้ทางอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเริ่มดำเนินการได้แล้ว“พี่รองช่างด
“ธิดาศักดิ์สิทธิ์?”เสี่ยวหานยังนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้ยินคำพูดของนาง ก็มองไปที่นางด้วยความเป็นห่วงหลานซื่อส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง”เนื้อหาของราชโองการลับฉบับนี้เรียบง่ายมาก...ฝ่าบาทของพวกเขาคาดเดาไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วว่านางจะต้องลงมือกับเวินเฉวียนเซิ่งอีกครั้ง ดังนั้นจึงส่งราชโองการลับฉบับนี้มาให้ความหมายคร่าว ๆ ก็คือให้นางอย่าเพิ่งลงมือ รอจนกว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะหาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงพบ หรือเมื่อถึงเวลานั้นแล้วยังหาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงไม่พบ ก็ค่อยลงมือกับเขาอันที่จริงไม่ว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะหาเจอหรือไม่ เขาก็ต้องตาย ดังนั้นหมิงฉี่เฉียนจึงต้องการปลอบประโลมนางไว้ก่อนการส่งราชโองการลับฉบับนี้ให้นางเป็นพิเศษ ก็ถือเป็นการตบหัวแล้วลูบหลัง ให้นางอดทนไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะสามารถลงมือฆ่าเวินเฉวียนเซิ่งได้อย่างชอบด้วยเหตุผลหลานซื่อไม่มีความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้เพียงแต่รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างที่ยังต้องปล่อยให้เวินเฉวียนเซิ่งมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง“แล้วข่าวคราวจากทางอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเป็นอย่างไรบ้าง?”หลานซื่อเก็บราชโองการลับกลั
“เจิ้นกั๋วกงรับราชโองการ...”“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา เนื่องจากไทเฮาทรงประชวรเรื้อรัง รักษามานานยังไม่หายขาด ข้าได้ยินว่าซากปรักหักพังในหมู่บ้านเซียน อาจมียาดีต่ออายุขัย จึงให้เจิ้นกั๋วกงทำงานไถ่โทษ เจ็ดวันนับจากนี้ให้นำผู้คนออกค้นหายา จวนผู้ว่าการระหว่างทางต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ภายในระยะเวลาครึ่งปี จงเร่งค้นหาเคล็ดวิชาลับกลับมายังราชสำนัก มิฉะนั้นจะต้องโทษประหารชีวิต! สิ้นสุดราชโองการ!”“กระหม่อมรับราชโองการ!”เวินเฉวียนเซิ่งยกมือทั้งสองขึ้น รับราชโองการจากมือของเต๋อกงกงเต๋อกงกงสังเกตเห็นขาของเขาอยู่นานแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนนี้เมื่ออ่านราชโองการจบแล้ว ถึงได้กวาดสายตามองอย่างยิ้มแย้ม“ท่านเจิ้นกั๋วกงเป็นอะไรไปหรือ? วันเดินทางก็ใกล้เข้ามาแล้ว ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้งานที่ฝ่าบาทมอบหมายมาเสียหายก็แล้วกัน”น้ำเสียงของเต๋อกงกงแฝงไปด้วยการข่มขู่เห็นได้ชัดว่าหากเวินเฉวียนเซิ่งกล้าใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อบอกว่าไปไม่ได้แล้วล่ะก็ เกรงว่าตอนนี้คงจะรักษาชีวิตของเขาไว้ไม่ได้แล้วแน่นอนว่าเวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้พูดเช่นนี้“กงกงโปรดอภัย
หลานซื่อที่เดินไปไกลแล้วย่อมไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แต่การลองเชิงเมื่อคืนนี้ก็ถือว่าได้ผลสำเร็จไม่น้อยไม่เพียงแต่ได้เจอผู้ลึกลับที่ช่วยให้เวินเฉวียนเซิ่งรอดตายมาได้ ถึงแม้อีกฝ่ายไม่ได้พูดชื่อของตัวเองออกมา แต่จากวิธีการของอีกฝ่ายตลอดจนสำเนียงที่ฟังไม่รื่นหู ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่า หลวงจีนเฒ่าชั่วช้าผู้นั้นไม่ใช่ชาวต้าหมิงเมื่อนำมาประกอบกับเหตุการณ์ที่เวินเยวี่ยฟื้นจากความตายในตอนแรก เกรงว่าจะเป็นยอดฝีมือชาวต่างเผ่าอีกคนเป็นแน่ซ้ำยังรับมือได้ยากยิ่งกว่าพวกเสอชีและเสอปาที่อยู่ข้างกายเวินเยวี่ยในตอนนั้นเสียอีก หลานซื่อจึงเพิ่มความระแวดระวังต่อหลวงจีนเฒ่าชั่วช้าผู้นี้จนถึงระดับสูงสุดขณะเดียวกันก็ได้ส่งข่าวทางด้านนี้ให้ฟ่านจุ้ยที่ล่าถอยไปอีกทางได้รับรู้แล้วแม้ฟ่านจุ้ยจะออกจากที่ตรงนั้นไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงที่เรียกว่าเส้นผมบังภูเขานั้น ฟ่านจุ้ยกำลังใช้หลักการนี้อยู่เขาพนันว่าถึงแม้เวินเฉวียนเซิ่งจะสงสัยในตัวเขา แต่ในสถานการณ์ที่บุตรชายของสกุลเวินไม่อยู่สักคนในตอนนี้ ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งคิดจะลงมือกับเขา ก็ไม่มีทางรวดเร็วอย่างนี้แน่นอนอีก