ฟ่านจุ้ยที่อยู่ข้างกันทำสีหน้าดีใจมากหากใครไม่รู้ ยังนึกว่าที่หลานซื่อพูดไปเมื่อครู่คือเอ่ยชมเขาเวินเยวี่ยจ้องฟ่านจุ้ยอย่างเหี้ยมเกรียม ไม่ได้ฟังคำพูดของหลานซื่อสักนิดเพราะในสายตาของนาง บ่าวชั่วผู้นี้ไม่มีโอกาสกลับไปแล้ว วันนี้เขาต้องตาย!ส่วนนางชั้นต่ำเวินซื่อ นางจะเก็บไว้ค่อย ๆ ทรมาน จะทรมานให้สาแก่ใจ!มีเพียงทำให้นางคุกเข่าขอร้องต่อหน้าตัวเองอย่างตายทั้งเป็น ถึงจะทำให้คลายความแค้นในใจนางได้!“เด็กๆ ไปเชิญฮูหยินกับท่านโหวมาที่ห้องโถงใหญ่”เวินเยวี่ยไม่ได้ลงมือทันทีเพราะหลานซื่อมาเยือนกะทันหัน ขณะนี้ราชากู่ของนางไม่ได้อยู่กับตัวแต่นางก็ไม่ร้อนใจเพราะอย่างไรนางคนชั้นต่ำกับบ่าวชั่วเข้ามาจวนจงหย่งโหวแล้ว อยากหนีก็หนีไม่รอดหลังสั่งการลงไป เวินเยวี่ยพาพวกของหลานซื่อมาที่ห้องรับแขกเพียงไม่นาน ในที่สุดเวินหย่าลี่กับจงหย่งโหวก็มาถึงระหว่างที่มาสีหน้าของเวินหย่าลี่ยังดูกระวนกระวาย แต่เมื่อนางเห็นหลานซื่อที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน แววตานางกลับมีความยินดีแวบผ่าน“ท่านโหว...”เวินหย่าลี่ประคองจงหย่งโหว ดีใจจนอดไม่ได้ที่จับแขนเสื้อเขาเอาไว้แน่นหลานซื่อมาแล้ว นางมาช่วยพวกเขา
สายตาหลานซื่อจ้องนางเขม็ง ย่อมไม่พลาดความเปลี่ยนแปลงทางสายตาของนางในเสี้ยววินาทีสถานการณ์ในจวนจงหย่งโหวถูกแมงมุมสอดส่องสืบค้นจนแน่ชัดนานแล้ว อีกทั้งยังแจ้งไปที่นางผ่านทางอวิ่นซิงดังนั้นโดยไม่ต้องคาดเดา หลานซื่อก็รู้ว่าเวินเยวี่ยมีแผนการใดเพียงแค่อยากล่อให้ติดกับแต่ไม่อยู่ในสายตาหลานซื่อเพราะอย่างไร หากไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือหรือ“ถ้าอย่างนั้น...ก็ไปเถอะ”หลานซื่อยกขาก้าวขึ้นบันได ตอนเดินไปข้างกายเวินเยวี่ย เพียงเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉย จากนั้นเดินผ่านนางเข้าไปในจวนจงหย่งโหวสายตานั้น ไม่รู้ทำไม ถึงทำให้เวินเยวี่ยรู้สึกอึดอัดไม่ใช่ ไม่ใช่อึดอัดแต่กระวนกระวายหรือนังคนชั้นต่ำรู้แผนการของนางแล้วหรือ?เวินเยวี่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นแค่นหัวเราะในใจต่อให้รู้แล้วจะทำอะไรได้ วันนี้เจ้าอยากมารนหาที่ตายเอง หรือยังคิดว่าข้าเวินเยวี่ยยังเป็นเช่นในอดีตคนนั้น ที่ปล่อยให้เจ้าควบคุมชีวิต ควบคุมความเป็นตายอย่างนั้นหรือ?วันนี้ข้าแตกต่างจากในอดีต ร่างที่หล่อหลอมขึ้นจากแมลงกู่ทำให้ร้อยพิษไม่อาจกล้ำกรายข้าดังนั้นต่อให้พิษของเจ้าร้ายกาจสักเพียงใด ก็คุกคามข้าไม่ได้แล้ว!เมื่อ
หลังจากเป็นปรมาจารย์กู่ ปฏิกิริยาของนางก็แตกต่างจากคนทั่วไปนานแล้วตอนนี้ต่อให้เป็นพวกเวินจื่อเยวี่ยเวินจื่อเฉิน กระทั่งองครักษ์ลับของจวนเจิ้นกั๋วกงที่เคยไล่ล่าสังหารนางมาอยู่ตรงหน้า ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครรวดเร็วกว่านางดังนั้นเวินเยวี่ยจึงกล้าออกมาโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดแต่นางนึกไม่ถึง คนที่สวมหน้ากากจิ้งจอกขาวตรงหน้าผู้นี้ การกระทำรวดเร็วจนนางตอบสนองไม่ทันวินาทีนั้น เวินเยวี่ยรู้สึกถึงความเย็นเยียบอีกครั้งคนผู้นี้เป็นใคร?!เป็นองครักษ์ลับข้างกายเวินซื่อคนนั้นหรือ?!ไม่ใช่ องครักษ์คนนั้นของนางยามปกติไม่เคยปรากฏตัว แต่คนที่อยู่ตรงหน้ากลับปรากฏตัวอย่างเปิดเผย อีกทั้งท้าทายอย่างกำเริบเสิบสาน ไม่ใช่วิสัยขององครักษ์ลับ“เวินซื่อ! ต่อให้เจ้าเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้าจะสั่งให้คนมาตบปากข้าหน้าจวนจงหย่งโหวได้อย่างไร?! ข้าเป็นถึงชายารองซื่อจื่อเชียวนะ!”“อันดับแรก ขอท้วงติงเจ้าสักนิด”เมื่อผ้าม่านรถม้าเปิดออก หลานซื่อค่อย ๆ มุดออกมาจากตัวรถ จากนั้นเดินลงมาจากรถม้าทีละก้าว โดยมีเสี่ยวหานคอยประคองนางยืนอยู่หน้าประตูจวนจงหย่งโหว แม้จะยืนอยู่ใต้บันใด แต่เมื่อมองไปยังเวินเยวี่ยที่อยู
“ก๊อก ก๊อก คุณชายน้อย กินข้าวขอรับ”ด้านนอก บ่าวชายสองคนเดินขึ้นบันไดในมือคนหนึ่งถือถาดอาหาร อีกคนผลักประตูเข้าไป หลังมองสำรวจฟ่านจุ้ยภายในห้องหนึ่งครั้ง รอให้บ่าวอีกคนวางอาหารเสร็จแล้ว จึงทำความเคารพจากไป ต่อมาปิดประตูอีกครั้งพวกเขาไม่ได้จากไปทันทีแต่กลับยืนอยู่นอกประตู เมื่อได้ยินเสียงคนข้างในลุกขึ้นกินข้าว ถึงได้พากันออกจากเรือนเพียงไม่นาน บ่าวชายที่สังเกตการณ์ฟ่านจุ้ยมาปรากฏตัวในห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่ง“เรียนท่านกั๋วกง สองวันมานี้คุณชายน้อยทำตัวดีมาก เชื่อฟังคำสั่งของท่านอยู่ในห้องตลอดเวลา ทั้งกินข้าวเข้านอน ไม่เคยมีการกระทำอื่นใด”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยถาม “เขาเคยบอกหรือไม่ว่าต้องการสิ่งใด? หรืออยากออกไปที่ใด?”บ่าวชายส่ายหน้า “ไม่ขอรับ”“เชื่อฟังขนาดนี้เชียว?”เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาลง น้ำเสียงเจือด้วยความสงสัยชัดเจนว่าเขาไม่คิดว่าฟ่านจุ้ยจะเป็นคนที่ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี“ท่านกั๋วกง คุณชายน้อยถูกขังมาห้าวันแล้ว จะปล่อยคุณชายออกมาหรือไม่?”เวินเฉวียนเซิ่งส่ายหน้า “ไม่ ขังต่อไป คอยจับตาดูต่อไป”บางทีตอนนี้อาจทำเพื่อให้เขาคลายความระแวง กำลังเสแสร้งเท่านั้นเองเขาไ
หลังไล่ทั้งสองคนไป หลานซื่อเข้าไปในมิติของหยกในเมื่อครั้งนี้จะเล่นงานเวินเยวี่ย นางย่อมต้องเตรียมตัวให้พร้อมแน่นอนก่อนหน้านี้ตอนอยู่ชางโจว แมลงพิษของนางตายไปไม่น้อยหลังกลับเมืองหลวงก็ยุ่งวุ่นวายตลอด ไม่มีเวลาเสริมแมลงพิษเหล่านั้นเลยดังนั้นคืนนี้นางคิดจะยกระดับให้อวิ่นซิงอีกครั้งหลังเข้ามาในหอ หลานซื่อนำภาชนะใส่กู่ออกมา จากนั้นนำราชากู่ที่ได้จากการให้จู๋เยวี่ยสังหารปรมาจารย์กู่ตอนเฝ้าเมืองจงซินออกมา แล้วใส่เข้าไปในภาชนะราชากู่ตัวนี้เป็นดังที่จู๋เยวี่ยว่า ความสามารถด้อยเล็กน้อยเทียบกับอวิ่นซิงเมื่อก่อนไม่ได้ดังนั้นหลานซื่อไม่คิดจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแมลงราชาพิษตัวใหม่ กลับให้อวิ่นซิงกลืนกินมันภายใต้การช่วยเหลือจากพลังวิญญาณในมิติ กระบวนการกลืนกินผ่านไปอย่างราบรื่นเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม พลังของอวิ่นซิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสิ่งที่ทำให้หลานซื่อประหลาดใจยิ่งกว่า คือเมื่อราชาแมลงอย่างอวิ่นซิงเพิ่มระดับ พลังของกลุ่มแมลงพิษก็เพิ่มขึ้นไม่น้อยภายในนั้นที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือพลังของผึ้งนักฆ่าเพราะผึ้งนักฆ่าเพิ่งถูกฝึกภายหลัง แม้พลังการโจมตีของพวกมันจะแข็งแกร่งมาก แต่แรกเ
หลานซื่อพยักหน้า “ไม่ต้อง เจ้าบอกตำแหน่งกับท่านอ๋องก็พอ เขาจะพาคนไปจับตัวเอง”“หา? ให้เขาไปจับตัวหรือ?!”ฟ่านจุ้ยเบิกตาโตทันที รู้สึกไม่ค่อยจะยินดีนักเพราะอย่างไรนั่นเป็นเรื่องที่เขาสืบมาได้ หากปล่อยให้เป่ยเฉินหยวนไปจับ ไม่เท่ากับทำงานให้ผู้อื่นหรือเป่ยเฉินหยวนที่อยู่ตรงข้ามรอยยิ้มยิ่งล้ำลึกฟ่านจุ้ยมองดูจนกัดฟันกรอด เขายังอยากจะลองดูอีกครั้ง “พี่หญิง ในเมื่อข้าเป็นคนสืบพบ ให้ข้าไปจับเองดีกว่า หากท่านไม่สะดวก เช่นนั้นส่งคนไปช่วยข้าไม่กี่คนก็พอ ท่านวางใจเถอะ รับประกันว่าหนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว!”หลานซื่อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าจะไปหรือ? ถ้างั้นก็ได้ เดิมทีคิดจะให้เจ้าไปจวนจงหย่งโหวพร้อมข้า ในเมื่อเจ้าอยาก...”“เดี๋ยว ๆ ๆ ไม่อยากแล้ว ไม่อยากแล้ว จู่ ๆ ข้ารู้สึกว่าอยู่ข้างกายพี่หญิงดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าไม่วางใจ!”หลานซื่อยังกล่าวไม่จบ ฟ่านจุ้ยก็รีบกลับลำพูดขัดขึ้นทันทีเป่ยเฉินหยวนไม่ได้แย่งกับเขา เพราะครั้งนี้คือธุระสำคัญ อีกทั้งอู๋โยวยังมอบให้เขาเองหากไม่สามารถจัดการคนเหล่านั้นของทางนั้นได้ ทางอู๋โยวคงจะมีอันตรายกลุ่มคนที่หลานซื่อให้ฟ่านจุ้ยไปสืบ ก็คือปรามาจารย์กู่ต่างเ