Share

บทที่ 7

Author: จิ้งซิง
ชุยเส้าเจ๋อก้าวเท้าเดินมาทางเวินซื่อ ท่าทางดูเกรี้ยวกราดหมายจะหาเรื่อง

เมื่อมองไปทางด้านหลังของเขาอีกก็เห็นเวินเยวี่ยอ้าปากพูดว่า “อย่าเลย” ด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่ได้ทำท่าจะฉุดรั้งชุยเส้าเจ๋อเลยสักนิด

หลังจากที่สบสายตาของเวินซื่อ ดวงตาของนางถึงขนาดฉายแววกระหยิ่มยิ้มย่อง

เห็นได้ชัดว่าการที่นางสามารถยุให้ชุยเส้าเจ๋อออกหน้าเพื่อนางได้ง่าย ๆ นั้นทำให้นางภาคภูมิใจเอามาก ๆ

แต่ว่าน่าเสียดายมาก ยังไม่ทันที่ชุยเส้าเจ๋อจะเดินเข้ามาใกล้เวินซื่อ เสียงทุ้มหนึ่งดังมาจากทางด้านปะรำพิธี...

“เจ้าห้า เจ้าหก ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว ยังไม่รีบมาเตรียมตัวทำพิธีปักปิ่นอีก”

เวินซื่อหันหน้าไปมอง

บนปะรำพิธี บุรุษวัยกลางคนสวมชุดเสื้อคลุมยาวสีเขียวดูสง่าผ่าเผยเปี่ยมไปด้วยความรู้กำลังนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน มองพวกนางสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา

นี่คือบิดาของนาง เจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง

เวลานี้ต่อให้ชุยเส้าเจ๋ออยากหาเรื่องนางอีกเพียงใด ก็ได้แต่ถอยหลังไปเท่านั้น

เวินซื่อเดินขึ้นไปบนปะรำพิธีโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเวินซื่อขึ้นมาบนปะรำพิธีก็ควงแขนนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับบุปผา จงใจทำตัวสนิทสนม

“พี่หญิงห้า ท่านซ่อมแซมชุดเหตุใดถึงใช้เวลาซ่อมนานเพียงนี้นะ ท่านพ่อรอท่านมาได้สักพักแล้ว”

“ซ่อมแซมชุด?”

เวินเฉวียนเซิ่งเหลือบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง

ไม่รอให้เวินซื่อเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็รีรอไม่ไหวเล่าเรื่องที่เวินซื่อตัดชุดพิธีการจนเละเทะออกมา นางกล่าวจบก็ถอนหายใจอีกครั้ง “เฮ้อ ต้องโทษข้าที่ไม่รู้ความ ไม่อาจเกลี้ยกล่อมพี่รองได้ ไม่เช่นนั้นพี่หญิงห้าก็คงไม่โมโหจนตัดชุดพิธีการเสียเละเทะ”

น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว จะต้องใช้เรื่องนี้มาว่าร้ายนางให้ได้ใช่หรือไม่?

เวลานี้เวินซื่อไม่อยากเอ่ยสักครึ่งคำแล้ว

หลังจากปล่อยให้เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองนางอยู่หลายวินาที นางก็เอ่ยอย่างหมดความอดทนว่า “ตกลงพิธีปักปิ่นนี้ยังจะเริ่มอีกหรือไม่? หากท่านพ่อกับน้องหกไม่อยากให้ข้าทำต่อ เช่นนั้นข้าไสหัวลงไปเองได้หรือไม่?”

เมื่อเวินซื่อเอ่ยปากระเบิดอารมณ์อย่างเหนือความคาดหมาย คิ้วเรียวที่งดงามก็ขมวดแน่น สีหน้าดูรำคาญใจมาก

ขนาดเวินเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้ของนางก็ยังตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

คิดไม่ถึงเลยว่าเวินซื่อจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นางกล้าพูดจาเช่นนี้กับท่านพ่อตั้งแต่เมื่อไร?

นางไม่กลัวท่านพ่อไล่นางลงไปจริง ๆ หรือ?

อย่างไรก็ตามเวินซื่อไม่กลัวเลยจริง ๆ

สำหรับสตรีทุกคนในสมัยราชวงศ์ต้าหมิง พิธีปักปิ่นเป็นหนึ่งในพิธีที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของพวกนาง

ดังนั้นก่อนพิธีปักปิ่น สตรีทุกนางต่างก็ตั้งตารอวันนี้มาก

แต่บางทีอาจเป็นเพราะพิธีปักปิ่นในชาติก่อนได้มอบความอัปยศที่ยากจะลบเลือนให้เวินซื่อ ทำให้หลังจากที่นางยืนอยู่บนปะรำพิธีเมื่อครู่นี้ ในใจถึงมีความรู้สึกต่อต้านและความฉุนเฉียวที่ยากจะอธิบายอยู่ตลอด

“ไม่จำเป็นต้อง ทำพิธีต่อไป”

หลังจากที่เวินเฉวียนเซิ่งเก็บสายตากลับมาแล้ว เขาก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการ เช่นนั้นก็เริ่มเช่นนี้เลย ก่อเรื่องอันใดไว้ก็ต้องรับผลนั้นเอง”

เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าคำพูดที่เวินซื่อบอกว่าจะไสหัวลงไปนั้นไม่ใช่การไสหัวไปจริง ๆ แต่ว่าอยากหลีกหนี

แต่ในเมื่อใจกล้ามากจนกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าเขา เช่นนั้นก็ต้องให้บทเรียนดี ๆ

ให้นางได้เจอความลำบากบ้าง อับอายขายหน้าบ้าง ต่อไปจะได้ว่าง่ายเชื่อฟัง

เวินเฉวียนเซิ่งคิดเช่นนั้น ก่อนจะส่งสัญญาณให้ผู้ประกาศในงานพิธีดำเนินการต่อไป กล่าวเปิดพิธีอย่างเรียบง่าย ขอบคุณแขกเหรื่อที่มาเยือน จากนั้นก็ประกาศเริ่มต้นพิธีปักปิ่น

เนื่องจากฮูหยินเจิ้นกั๋วกงสิ้นไปแล้ว สกุลเวินไร้นายหญิง แขกสำคัญย่อมเป็นท่านอาหญิงของพวกเวินซื่อ หรือก็คือเวินหย่าลี่น้องสาวของเวินเฉวียนเซิ่งมาสวมกวานให้พวกนางสองคน

“อุ๊ย ดูเยวี่ยเอ๋อร์ของพวกเราสิเติบโตมาได้สดใสมีชีวิตชีวาจริง ๆ หลังจากพิธีปักปิ่นนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนดี ๆ มาสู่ขอจนเหยียบธรณีประตูหักมากเพียงใด”

“แต่น่าเสียดายที่เส้าเจ๋อของบ้านเราหมั้นหมายไว ไม่เช่นนั้นไฉนเลยโชคดีเช่นนี้ยังจะไปถึงตาผู้อื่นได้?”

เวินหย่าลี่เข้ามาพูดอย่างมีนัยแอบแฝง ยิ้มตาหยีพลางจับมือน้อย ๆ ของเวินเยวี่ยขึ้นมาพลางพูดโดยไม่สนใจใคร ไม่มองแม้กระทั่งเวินซื่อที่อยู่ทางด้านข้างเลยสักแวบเดียว

คนที่อยู่ข้างล่างได้ยิน ยังมีใครฟังความนัยของคำพูดของนางไม่ออกอีกบ้าง?

บุตรชายของเวินหย่าลี่คือใคร?

นั่นก็คือชุยเส้าเจ๋อจากจวนจงหย่งโหวไม่ใช่หรือไร

ทุกคนล้วนทราบว่าชุยเส้าเจ๋อกับเวินซื่อเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่เล็ก ตกลงหมั้นหมายกันเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

ดังนั้นคำพูดของเวินหย่าลี่ที่ว่าหมั้นหมายไว นั่นก็หมายถึงเวินซื่อไม่ใช่หรือไร?

“ก็จริงนะ เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าเวินซื่อผู้นี้จะมีจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้”

“อิจฉาแม้แต่น้องสาวของตนเอง ช่างใจแคบเสียจริง”

“เมื่อก่อนได้ยินว่านางเย่อหยิ่งแผลงฤทธิ์ในบ้าน รังแกคุณหนูหกอยู่บ่อย ๆ ว่ากันว่ายังเคยผลักคุณหนูหกตกน้ำด้วย”

“อายุยังน้อยก็ใจคอโหดร้ายจริง ๆ!”

“ตอนนี้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว เกรงว่าคนของจวนจงหย่งโหวคงจะนึกเสียใจอย่างยิ่งแล้ว”

“ใช่แล้ว ไม่ได้ยินที่ฮูหยินจงหย่งโหวพูดเมื่อครู่นี้หรือ? ตอนนี้นางรังเกียจเวินซื่อแล้ว เกรงว่าแทบอยากจะถอนหมั้นเต็มแก่แล้ว”

“...”

เวินเยวี่ยเอ่ยโดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขัดเขินและกระดากอายว่า “ท่านน้าอย่าพูดเช่นนี้เลย อันที่จริงข้าเห็นท่านพี่เส้าเจ๋อเป็นเหมือนพี่ชายแท้ ๆ มาโดยตลอด แม้พี่หญิงห้าจะทำตามอำเภอใจไปบ้าง แต่นางชอบท่านพี่เส้าเจ๋อมาตลอด คิดว่าพี่หญิงห้าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อท่านพี่เส้าเจ๋ออย่างแน่นอน เช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะได้เป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุข”

ฟังดูสิ ช่างเป็นคนดีเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมากเพียงใด

“เจ้าห้าฟังสิ ฟังคำพูดเหล่านี้ของน้องสาวเจ้า เป็นเด็กจิตใจดีมากเพียงใด? วัน ๆ เจ้าอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรก็เรียนรู้จากน้องสาวเจ้าให้ดีไม่ได้หรือ?”

คำพูดของเวินหย่าลี่ปะทะเข้ากับความคิดภายในใจของเวินซื่อ

เวินหย่าลี่อยากเล่นงานนางต่อหน้าผู้คนอย่างเห็นได้ชัด

แต่เวินซื่อกลับรู้สึกขบขันเท่านั้น

“พอได้แล้ว อย่าให้เสียฤกษ์”

เวินเฉวียนเซิ่งรู้ว่าเวินหย่าลี่ไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากให้นางทำเกินเลย

ถึงอย่างไรวันนี้ก็มีแขกเหรื่อมากันเยอะ จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาจะอับอายขายหน้าไม่ได้

ดีหรือร้ายอย่างไรเวินหย่าลี่รู้จักกาลเทศะอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่ได้กล่าวต่ออีก

ทว่าต่อให้ไม่เอ่ยแล้ว แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในพิธีกลับมีอยู่ไม่น้อย

ถึงอย่างไรลำดับก่อนหลังของการสวมกวานนี้

ถ้าอิงตามกฎเกณฑ์ เดิมทีควรหวีผมสวมกวานให้เวินซื่อก่อน หลังจากนั้นค่อยเป็นเวินเยวี่ย

แต่เวินหย่าลี่ไม่ชอบเวินซื่อ ดังนั้นจึงหวีผมสวมกวานให้เวินเยวี่ยก่อนทันที

ตอนที่กล่าวคำอวยพร นางยิ้มแย้มเต็มเปี่ยมกล่าวคำอวยพรหลายสิบประโยคเต็ม ๆ น้ำเสียงแต่ละประโยคเต็มไปด้วยความเอ็นดู

ใครไม่รู้ยังนึกว่าเวินเยวี่ยถึงเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของนาง อ้อไม่สิ เป็นลูกสะใภ้ของนาง

เมื่อถึงคราวเวินซื่อก็เปลี่ยนท่าทีเป็นคนละแบบโดยสิ้นเชิง

ดูเย็นชาอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิดเดียว แม้แต่คำอวยพรก็เป็น ‘ขอให้ปลอดภัยมีความสุข’ อย่างส่ง ๆ แค่ประโยคเดียว

บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ด้านล่างไม่รู้สึกแปลกใจเช่นกัน

อย่างไรเสียใครอยากจะอวยพรคนที่มีจิตใจชั่วช้ากันเล่า?

“พิธีสวมกวานเสร็จสิ้น ผู้ปักปิ่นโปรดกลับห้อง สวมชุดพิธีการ รับการ...”

“ไม่มีชุดพิธีการ ข้ามไปเถิด ดำเนินลำดับขั้นตอนถัดไป”

ในขณะที่ผู้ประกาศในงานพิธีประกาศลำดับพิธี เวินเฉวียนเซิ่งก็ตัดบทของผู้ประกาศในงานพิธีด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ผู้ประกาศในงานพิธีอึ้งไป แต่ท้ายที่สุดยังคงเชื่อฟังคำพูดเจิ้นกั๋วกงอย่างเฉลียวฉลาด ข้ามขั้นตอนเปลี่ยนชุดพิธีการนี้ไปยังพิธีมอบดอกไม้สิริมงคลซึ่งเป็นขั้นตอนถัดไปทันที

วันนี้มีแขกมาร่วมงานไม่น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่เจิ้นกั๋วกง

นอกจากผู้มีตำแหน่งสูงส่งเหล่านั้นแล้ว ผู้สูงศักดิ์เกือบทั้งหมดในเมืองหลวงต่างมากันหมด

ต่อให้ไม่ได้มาด้วยตนเอง ก็ส่งคนในครอบครัวมามอบดอกไม้อวยพรให้ผู้ปักปิ่นทั้งสองคนตอนพิธีมอบดอกไม้สิริมงคล

ดังนั้นเวลานี้ผู้คนมากมายที่อยู่ข้างล่างปะรำพิธีล้วนถือดอกไม้ไว้ในมือ กลับไม่มีใครลุกขึ้นมาเป็นคนแรก

แค่พากันวิพากษ์วิจารณ์...

“เหตุใดไม่ให้พวกนางไปเปลี่ยนชุดพิธีการเล่า?”

“ไม่ได้ยินที่เจิ้นกั๋วกงกล่าวหรือ ไม่ได้เตรียมชุดพิธีการให้คุณหนูทั้งสอง เช่นนี้จะเปลี่ยนได้อย่างไร?”

“ไม่ได้เตรียมไว้ที่ใดกันเล่า ข้าได้ยินว่าเมื่อหนึ่งวันก่อนชุดพิธีการของคุณหนูหกถูกคุณหนูห้าทำลายไปแล้ว”

“เป็นนางอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย!”

“คุณหนูห้าผู้นี้ช่างจิตใจชั่วช้าเสียจริง งานสำคัญถึงเพียงนี้ยังจะทำลายชุดพิธีการของน้องสาวตนเองอีก”

“เช่นนั้นนางไม่มีชุดพิธีการให้เปลี่ยนเหมือนกันได้อย่างไร?”

“นี่ยังต้องเอ่ยอีกหรือ จะต้องถูกท่านเจิ้นกั๋วกงลงโทษอย่างแน่นอน”

“เกินไปแล้วจริง ๆ คนเช่นนี้ไม่คู่ควรได้รับดอกไม้สิริมงคลหรอก!”

“หากทุกคนต้องมอบก็มอบให้คุณหนูหก อย่ามอบให้นางเลย!”

“ถูกต้อง!”

ผู้คนพากันวางดอกไม้ที่ใช้สำหรับอวยพรให้ผู้ปักปิ่นในมือของพวกเขาลงตรงหน้าเวินเยวี่ยทั้งหมดภายใต้ความโกรธเกรี้ยว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
รัตติกาล วรรณถาวร
อยู่ๆจะเกลียด ก็เกลียดแบบไม่มีเหตุผล โดนของแน่ๆ
goodnovel comment avatar
นราภรณ์ วรรณพฤกษ์
งงกะคนแต่งนิยาย
goodnovel comment avatar
Iam Honeybee
งง อ่านตั้งแต่ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพอ 6 มา แล้วทุกคนเกลียด 5 เขาโดนยาสเน่ห์กันทั้งบ้านทั้งเมือง หรืออุปาทานหมู่ หรืออะไร .. หาเหตุผลไม่เจอ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1225

    กระโดดโลดเต้นวุ่นวาย มารยาสาไถย เหมือนมารดาผู้นั้นของนางไม่มีผิดประจวบเหมาะกับตอนนั้นไม่ได้ลงมือจัดการไป๋ชูโหรวด้วยตัวเอง ตอนนี้ได้จัดการลูกสาวของนางก็นับว่าไม่เลวเหมือนกันไป๋เยวี่ยโหรวก้าวพรวดตรงไปหาเวินเยวี่ยด้วยมาดอันดุดันเวินเยวี่ยพลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ช้าก่อน ท่านจะทำอะไร?! ท่านหยุดอยู่ตรงนั้น!”เมื่อเห็นไป๋เยวี่ยโหรวพุ่งเข้ามา เวินเยวี่ยที่ตื่นตระหนกไม่ไหวก็รีบถอยหลัง หลบหลีกไปพลาง ร้องถามเสินอ๋องผู้เฒ่าที่อยู่เบื้องบนอย่างร้อนรนไปพลางว่า “เสินอ๋อง ข้าเพิ่งบอกเรื่องสายเลือดสกุลหลานแก่ท่านไป ท่านบอกว่าจะตกรางวัลให้อย่างงามมิใช่หรือ? เหตุใดถึงทำกับข้าเช่นนี้?!”ไป๋เยวี่ยโหรวเห็นนางยังกล้าหนีจึงตวาดลั่น “ปาถูเอ่อร์ เจ้าท่อนไม้ยังยืนบื้อทำอะไรอยู่ตรงนั้น ยังไม่รีบสกัดนางไว้อีก!”ปาถูเอ่อร์ที่กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเรียกคนมาช่วยเยวี่ยโหรวของเขาพลันสะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นเตรียมจะเข้าไปช่วยทันทีแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าไป ปลอกดาบเล่มหนึ่งก็พุ่งผ่านหน้าปาถูเอ่อร์ไป แล้วกระแทกใส่ศีรษะของเวินเยวี่ยดัง ‘ตึง’ เข้าอย่างจัง“โอ๊ย!”เวินเยวี่ยที่ศีรษะเกือบแตกร้องโหยหวนด้วยความเจ็บป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1224

    เสินอ๋องผู้เฒ่าเอ่ยถามพลางกวาดสายตาอันคมกริบมองไปยังผู้มาเยือนต่างถิ่นหลายคนในตำหนักใหญ่บุตรชายตนเองไม่จำเป็นต้องพูดถึง ลูกสะใภ้ก็ถือกำเนิดจากสกุลไป๋ ย่อมเป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะเป็นคนสายเลือดนั้นส่วนสองคนจากราชสำนักชั้นนอกนั่นก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเป็นหนึ่งในผู้มาเยือนต่างถิ่นกลุ่มนี้เท่านั้นสองพ่อลูกสกุลเวินคู่นั้นตัดทิ้งไปได้ ถ้าอย่างนั้นที่เหลือก็มีเพียงแค่ความเป็นไปได้สองอย่าง!เสินอ๋องผู้เฒ่าจับจ้องไปที่หลานซื่อด้วยแววตาลุกวาวทันที จากนั้นก็ปรายตามองบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหลังนางเป็นนาง? หรือว่าเป็นเขา?เวินเยวี่ยให้คำตอบเขาอย่างทนรอไม่ไหว “เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเพคะ แม้ว่าเมื่อก่อนนางจะมีนามว่าเวินซื่อ แต่ต่อมาตัวนางทรยศออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงของเรา ทั้งยังเปลี่ยนไปใช้สกุลมารดา ตอนนี้มีนามว่า ‘หลานซื่อ’ หลานของสกุลหลาน ย่อมต้องเป็นสายเลือดของสกุลหลานอยู่แล้ว”เป็นไปดังคาด!เสินอ๋องผู้เฒ่าได้รับคำตอบที่แน่ชัด บนใบหน้าพลันฉีกยิ้มกว้างจนดูเกินจริงไปอย่างผิดปกติใช้สกุลตามมารดามารดาเป็นคนสกุลหลานดังนั้นในกายจึงมีเลือดของคนสายเลือดนั้นไหลเวียนอยู่โดยเฉพาะอย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1223

    “ศิษย์น้อง เจ้ามีอะไรจะกล่าวหรือไม่?”เอ้อถานหลัวไม่อยากพูดสิ่งที่เขารู้เขาผู้นี้ย่อมรู้อยู่ก่อนแล้ว ส่วนสิ่งที่เขาไม่รู้ ศิษย์พี่ก็คงรู้แล้วเช่นกันดังนั้นเขาจะพูดหรือไม่พูดยังมีความหมายอะไรอีก?แต่เสินอ๋องผู้เฒ่ายืนกรานจะถามเขา เห็นได้ชัดว่าพยายามดึงเขาให้พัวพันไปด้วยกันเอ้อถานหลัวได้แต่ถอนหายใจ ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากนั้น...“ทูลเสินอ๋อง หม่อมฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ท่านพ่อเขามีเรื่องหนึ่งที่น่าจะลืมพูดไปเพคะ”เสียงของเวินเยวี่ยดังขึ้นกะทันหัน ทำให้เอ้อถานหลัวชะงักไปเล็กน้อยเวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วทันควัน ปรายตามองลูกสาวผู้ไม่รู้จักสงบเสงี่ยมผู้นี้แวบหนึ่ง “เหลวไหล เสินอ๋องและแขกผู้มีเกียรติอยู่ที่นี่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูด ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”“เฮ้อ เจิ้นกั๋วกงไม่ต้องทำเช่นนี้ บอกแล้วว่าวันนี้ข้าเชิญทุกท่านมาช่วย อนุญาตให้ทุกท่านพูดจาได้อย่างเสรี ย่อมไม่ต้องใส่ใจเรื่องพวกนี้”เสินอ๋องผู้เฒ่าคิดไม่ถึงว่านังหนูที่ศิษย์น้องของเขาเพิ่งรับเป็นศิษย์ได้ไม่นานผู้นี้ จะพรวดพราดออกมาในช่วงเวลาเช่นนี้อย่างกะทันหันผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนฉลาดหลักแหลม มีหรือจะดูสายตาที่ไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1222

    หมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถง?ไป๋เยวี่ยโหรวและปาถูเอ่อร์เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรกจึงหันไปมองหลานซื่อและเป่ยเฉินหยวนทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่สุนัขเฒ่าสกุลเวินนั่นบอกว่าพวกเขารับคำสั่งจากฮ่องเต้ต้าหมิงมาตามหาสถานที่ซ่อนสมบัติในภาพวาดที่นี่ เช่นนั้นอู๋โยวกับพวกก็จะไปตามหาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงด้วยหรือ?หลังจากไป๋เยวี่ยโหรวมองพวกหลานซื่อทั้งสองคนแวบหนึ่ง นางก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย สีหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่หลานซื่อสังเกตเห็นสายตาของนาง แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจเวลานี้นางสนใจเรื่องที่จิ้งจอกเฒ่าเวินเฉวียนเซิ่งผู้นั้นยอมพูดเรื่องภาพวาดออกมาตรง ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ โดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสักนิดเสียมากกว่า นี่ดูไม่เหมือนวิสัยของเขาเลยหรือจะบอกว่า แท้จริงแล้วเขามีแผนการอื่นใด?หลานซื่อหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย นางไม่ได้เข้าไปขัดขวางเวินเฉวียนเซิ่งเวลานี้นางเองก็ขัดขวางไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียปากก็อยู่ที่เขากลับกันหากนางแสดงท่าทีมากเกินไป นั่นต่างหากที่จะดึงดูดความสนใจจากเสินอ๋องผู้เฒ่าและคนอื่น ๆดังนั้นหลานซื่อจึงนั่งอย่างสงบเงียบ หลังจากฟังเวินเฉวียนเซิ่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1221

    นั่นก็คือ...ความลับที่แท้จริงของเขตหวงห้ามพวกเขาไม่รู้ว่าความลับที่แท้จริงของเขตหวงห้ามคืออะไร แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ‘ประตูซีถง’ ที่ว่านี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับความลับนี้ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องรู้ให้ได้!“เกี่ยวกับเรื่องซีถงนี้ เล่าให้พวกท่านฟังเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย คิดว่าท่านอื่น ๆ ก็คงมีความสงสัยใคร่อยากถามเช่นกัน แต่อย่างน้อยพวกท่านก็น่าจะรู้มากกว่าเด็กสองคนจากราชสำนักชั้นนอกนี้อยู่บ้าง ใยท่านทั้งหลายต่างไม่เล่าสิ่งที่พวกท่านรู้ออกมาดูบ้าง จากนั้นข้าค่อยไขข้อข้องใจให้พวกท่านทีละข้อ หรือเสริมให้ในภายหลังเป็นอย่างไร?”เวินเฉวียนเซิ่งย่อมมีสิ่งที่อยากรู้อยู่แล้วหรืออาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่นี่เขาต่างหากที่ควรจะเป็นผู้ที่อยากรู้ที่สุดว่าหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงแห่งนี้เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จกันแน่เพราะหากหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงมีสถานที่อยู่จริง และในนั้นมีเซียนอยู่จริง ๆ ล่ะก็ นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างสิ้นเชิง!พูดกันให้กว้างขึ้นสักนิด ยาอายุวัฒนะที่ว่านั่น หากมีอยู่ เพียงแค่เขานำกลับไปสักเม็ด ไม่ว่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1220

    เปิดประตูบานหนึ่งหรือ?“ประตูอะไรกันที่ทำให้เสินอ๋องลำบากใจถึงเพียงนี้ ถึงขั้นต้องให้พวกเรามาช่วยโดยเฉพาะ?”ผู้คนที่นั่งอยู่ในตำหนักใหญ่นี้มีจำนวนไม่น้อยเลยเอ้อถานหลัวเป็นศิษย์น้องของเสินอ๋องผู้เฒ่า ก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่นี่อยู่แล้ว แล้วยังพาเวินเยวี่ยมาด้วยจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งและสองพี่น้องชางชิงหลานและฮาหลานก็มาต่อจากนั้น เสินอ๋องผู้เฒ่าก็ให้คนไปพาตัวปาถูเอ่อร์และไป๋เยวี่ยโหรวมายังตำหนักเสินอ๋องสุดท้ายก็คือหลานซื่อกับเป่ยเฉินหยวนสองคนผู้คนแปดเก้าคนนั่งรวมกันอยู่ที่นี่ แต่เสินอ๋องผู้เฒ่ากลับเอ่ยปากบอกว่าจะให้พวกเขาช่วยเปิดประตูบานหนึ่งสีหน้าของคนทั้งหลายไม่อาจอธิบายได้ ส่วนมากแฝงความสงสัยไว้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นในตอนที่เสินอ๋องผู้เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้านั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย รูม่านตาหดตัวลงเดิมทีหลานซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็น แต่อวิ่นซิงที่ปลอมตัวเป็นเครื่องประดับผมรูปผีเสื้ออยู่บนศีรษะนางได้เก็บสีหน้าของทุกคนทั้งหมดไว้ในสายตา แล้วจึงแอบบอกหลานซื่อที่เอ้อถานหลัวมีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าผิดปกติเพียงคนเดียวหลานซื่อกวาดตามองไปทางนั้นแวบหนึ่งอย่างแนบเนียนดูท่าหลวงจีน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status