Share

บทที่ 7

Author: จิ้งซิง
ชุยเส้าเจ๋อก้าวเท้าเดินมาทางเวินซื่อ ท่าทางดูเกรี้ยวกราดหมายจะหาเรื่อง

เมื่อมองไปทางด้านหลังของเขาอีกก็เห็นเวินเยวี่ยอ้าปากพูดว่า “อย่าเลย” ด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่ได้ทำท่าจะฉุดรั้งชุยเส้าเจ๋อเลยสักนิด

หลังจากที่สบสายตาของเวินซื่อ ดวงตาของนางถึงขนาดฉายแววกระหยิ่มยิ้มย่อง

เห็นได้ชัดว่าการที่นางสามารถยุให้ชุยเส้าเจ๋อออกหน้าเพื่อนางได้ง่าย ๆ นั้นทำให้นางภาคภูมิใจเอามาก ๆ

แต่ว่าน่าเสียดายมาก ยังไม่ทันที่ชุยเส้าเจ๋อจะเดินเข้ามาใกล้เวินซื่อ เสียงทุ้มหนึ่งดังมาจากทางด้านปะรำพิธี...

“เจ้าห้า เจ้าหก ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว ยังไม่รีบมาเตรียมตัวทำพิธีปักปิ่นอีก”

เวินซื่อหันหน้าไปมอง

บนปะรำพิธี บุรุษวัยกลางคนสวมชุดเสื้อคลุมยาวสีเขียวดูสง่าผ่าเผยเปี่ยมไปด้วยความรู้กำลังนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน มองพวกนางสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา

นี่คือบิดาของนาง เจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง

เวลานี้ต่อให้ชุยเส้าเจ๋ออยากหาเรื่องนางอีกเพียงใด ก็ได้แต่ถอยหลังไปเท่านั้น

เวินซื่อเดินขึ้นไปบนปะรำพิธีโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเวินซื่อขึ้นมาบนปะรำพิธีก็ควงแขนนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับบุปผา จงใจทำตัวสนิทสนม

“พี่หญิงห้า ท่านซ่อมแซมชุดเหตุใดถึงใช้เวลาซ่อมนานเพียงนี้นะ ท่านพ่อรอท่านมาได้สักพักแล้ว”

“ซ่อมแซมชุด?”

เวินเฉวียนเซิ่งเหลือบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง

ไม่รอให้เวินซื่อเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็รีรอไม่ไหวเล่าเรื่องที่เวินซื่อตัดชุดพิธีการจนเละเทะออกมา นางกล่าวจบก็ถอนหายใจอีกครั้ง “เฮ้อ ต้องโทษข้าที่ไม่รู้ความ ไม่อาจเกลี้ยกล่อมพี่รองได้ ไม่เช่นนั้นพี่หญิงห้าก็คงไม่โมโหจนตัดชุดพิธีการเสียเละเทะ”

น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว จะต้องใช้เรื่องนี้มาว่าร้ายนางให้ได้ใช่หรือไม่?

เวลานี้เวินซื่อไม่อยากเอ่ยสักครึ่งคำแล้ว

หลังจากปล่อยให้เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองนางอยู่หลายวินาที นางก็เอ่ยอย่างหมดความอดทนว่า “ตกลงพิธีปักปิ่นนี้ยังจะเริ่มอีกหรือไม่? หากท่านพ่อกับน้องหกไม่อยากให้ข้าทำต่อ เช่นนั้นข้าไสหัวลงไปเองได้หรือไม่?”

เมื่อเวินซื่อเอ่ยปากระเบิดอารมณ์อย่างเหนือความคาดหมาย คิ้วเรียวที่งดงามก็ขมวดแน่น สีหน้าดูรำคาญใจมาก

ขนาดเวินเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้ของนางก็ยังตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

คิดไม่ถึงเลยว่าเวินซื่อจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นางกล้าพูดจาเช่นนี้กับท่านพ่อตั้งแต่เมื่อไร?

นางไม่กลัวท่านพ่อไล่นางลงไปจริง ๆ หรือ?

อย่างไรก็ตามเวินซื่อไม่กลัวเลยจริง ๆ

สำหรับสตรีทุกคนในสมัยราชวงศ์ต้าหมิง พิธีปักปิ่นเป็นหนึ่งในพิธีที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของพวกนาง

ดังนั้นก่อนพิธีปักปิ่น สตรีทุกนางต่างก็ตั้งตารอวันนี้มาก

แต่บางทีอาจเป็นเพราะพิธีปักปิ่นในชาติก่อนได้มอบความอัปยศที่ยากจะลบเลือนให้เวินซื่อ ทำให้หลังจากที่นางยืนอยู่บนปะรำพิธีเมื่อครู่นี้ ในใจถึงมีความรู้สึกต่อต้านและความฉุนเฉียวที่ยากจะอธิบายอยู่ตลอด

“ไม่จำเป็นต้อง ทำพิธีต่อไป”

หลังจากที่เวินเฉวียนเซิ่งเก็บสายตากลับมาแล้ว เขาก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ในเมื่อไม่มีชุดพิธีการ เช่นนั้นก็เริ่มเช่นนี้เลย ก่อเรื่องอันใดไว้ก็ต้องรับผลนั้นเอง”

เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าคำพูดที่เวินซื่อบอกว่าจะไสหัวลงไปนั้นไม่ใช่การไสหัวไปจริง ๆ แต่ว่าอยากหลีกหนี

แต่ในเมื่อใจกล้ามากจนกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าเขา เช่นนั้นก็ต้องให้บทเรียนดี ๆ

ให้นางได้เจอความลำบากบ้าง อับอายขายหน้าบ้าง ต่อไปจะได้ว่าง่ายเชื่อฟัง

เวินเฉวียนเซิ่งคิดเช่นนั้น ก่อนจะส่งสัญญาณให้ผู้ประกาศในงานพิธีดำเนินการต่อไป กล่าวเปิดพิธีอย่างเรียบง่าย ขอบคุณแขกเหรื่อที่มาเยือน จากนั้นก็ประกาศเริ่มต้นพิธีปักปิ่น

เนื่องจากฮูหยินเจิ้นกั๋วกงสิ้นไปแล้ว สกุลเวินไร้นายหญิง แขกสำคัญย่อมเป็นท่านอาหญิงของพวกเวินซื่อ หรือก็คือเวินหย่าลี่น้องสาวของเวินเฉวียนเซิ่งมาสวมกวานให้พวกนางสองคน

“อุ๊ย ดูเยวี่ยเอ๋อร์ของพวกเราสิเติบโตมาได้สดใสมีชีวิตชีวาจริง ๆ หลังจากพิธีปักปิ่นนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนดี ๆ มาสู่ขอจนเหยียบธรณีประตูหักมากเพียงใด”

“แต่น่าเสียดายที่เส้าเจ๋อของบ้านเราหมั้นหมายไว ไม่เช่นนั้นไฉนเลยโชคดีเช่นนี้ยังจะไปถึงตาผู้อื่นได้?”

เวินหย่าลี่เข้ามาพูดอย่างมีนัยแอบแฝง ยิ้มตาหยีพลางจับมือน้อย ๆ ของเวินเยวี่ยขึ้นมาพลางพูดโดยไม่สนใจใคร ไม่มองแม้กระทั่งเวินซื่อที่อยู่ทางด้านข้างเลยสักแวบเดียว

คนที่อยู่ข้างล่างได้ยิน ยังมีใครฟังความนัยของคำพูดของนางไม่ออกอีกบ้าง?

บุตรชายของเวินหย่าลี่คือใคร?

นั่นก็คือชุยเส้าเจ๋อจากจวนจงหย่งโหวไม่ใช่หรือไร

ทุกคนล้วนทราบว่าชุยเส้าเจ๋อกับเวินซื่อเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่เล็ก ตกลงหมั้นหมายกันเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

ดังนั้นคำพูดของเวินหย่าลี่ที่ว่าหมั้นหมายไว นั่นก็หมายถึงเวินซื่อไม่ใช่หรือไร?

“ก็จริงนะ เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าเวินซื่อผู้นี้จะมีจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้”

“อิจฉาแม้แต่น้องสาวของตนเอง ช่างใจแคบเสียจริง”

“เมื่อก่อนได้ยินว่านางเย่อหยิ่งแผลงฤทธิ์ในบ้าน รังแกคุณหนูหกอยู่บ่อย ๆ ว่ากันว่ายังเคยผลักคุณหนูหกตกน้ำด้วย”

“อายุยังน้อยก็ใจคอโหดร้ายจริง ๆ!”

“ตอนนี้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว เกรงว่าคนของจวนจงหย่งโหวคงจะนึกเสียใจอย่างยิ่งแล้ว”

“ใช่แล้ว ไม่ได้ยินที่ฮูหยินจงหย่งโหวพูดเมื่อครู่นี้หรือ? ตอนนี้นางรังเกียจเวินซื่อแล้ว เกรงว่าแทบอยากจะถอนหมั้นเต็มแก่แล้ว”

“...”

เวินเยวี่ยเอ่ยโดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขัดเขินและกระดากอายว่า “ท่านน้าอย่าพูดเช่นนี้เลย อันที่จริงข้าเห็นท่านพี่เส้าเจ๋อเป็นเหมือนพี่ชายแท้ ๆ มาโดยตลอด แม้พี่หญิงห้าจะทำตามอำเภอใจไปบ้าง แต่นางชอบท่านพี่เส้าเจ๋อมาตลอด คิดว่าพี่หญิงห้าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อท่านพี่เส้าเจ๋ออย่างแน่นอน เช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะได้เป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุข”

ฟังดูสิ ช่างเป็นคนดีเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมากเพียงใด

“เจ้าห้าฟังสิ ฟังคำพูดเหล่านี้ของน้องสาวเจ้า เป็นเด็กจิตใจดีมากเพียงใด? วัน ๆ เจ้าอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรก็เรียนรู้จากน้องสาวเจ้าให้ดีไม่ได้หรือ?”

คำพูดของเวินหย่าลี่ปะทะเข้ากับความคิดภายในใจของเวินซื่อ

เวินหย่าลี่อยากเล่นงานนางต่อหน้าผู้คนอย่างเห็นได้ชัด

แต่เวินซื่อกลับรู้สึกขบขันเท่านั้น

“พอได้แล้ว อย่าให้เสียฤกษ์”

เวินเฉวียนเซิ่งรู้ว่าเวินหย่าลี่ไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากให้นางทำเกินเลย

ถึงอย่างไรวันนี้ก็มีแขกเหรื่อมากันเยอะ จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาจะอับอายขายหน้าไม่ได้

ดีหรือร้ายอย่างไรเวินหย่าลี่รู้จักกาลเทศะอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่ได้กล่าวต่ออีก

ทว่าต่อให้ไม่เอ่ยแล้ว แต่การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ในพิธีกลับมีอยู่ไม่น้อย

ถึงอย่างไรลำดับก่อนหลังของการสวมกวานนี้

ถ้าอิงตามกฎเกณฑ์ เดิมทีควรหวีผมสวมกวานให้เวินซื่อก่อน หลังจากนั้นค่อยเป็นเวินเยวี่ย

แต่เวินหย่าลี่ไม่ชอบเวินซื่อ ดังนั้นจึงหวีผมสวมกวานให้เวินเยวี่ยก่อนทันที

ตอนที่กล่าวคำอวยพร นางยิ้มแย้มเต็มเปี่ยมกล่าวคำอวยพรหลายสิบประโยคเต็ม ๆ น้ำเสียงแต่ละประโยคเต็มไปด้วยความเอ็นดู

ใครไม่รู้ยังนึกว่าเวินเยวี่ยถึงเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของนาง อ้อไม่สิ เป็นลูกสะใภ้ของนาง

เมื่อถึงคราวเวินซื่อก็เปลี่ยนท่าทีเป็นคนละแบบโดยสิ้นเชิง

ดูเย็นชาอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิดเดียว แม้แต่คำอวยพรก็เป็น ‘ขอให้ปลอดภัยมีความสุข’ อย่างส่ง ๆ แค่ประโยคเดียว

บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ด้านล่างไม่รู้สึกแปลกใจเช่นกัน

อย่างไรเสียใครอยากจะอวยพรคนที่มีจิตใจชั่วช้ากันเล่า?

“พิธีสวมกวานเสร็จสิ้น ผู้ปักปิ่นโปรดกลับห้อง สวมชุดพิธีการ รับการ...”

“ไม่มีชุดพิธีการ ข้ามไปเถิด ดำเนินลำดับขั้นตอนถัดไป”

ในขณะที่ผู้ประกาศในงานพิธีประกาศลำดับพิธี เวินเฉวียนเซิ่งก็ตัดบทของผู้ประกาศในงานพิธีด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ผู้ประกาศในงานพิธีอึ้งไป แต่ท้ายที่สุดยังคงเชื่อฟังคำพูดเจิ้นกั๋วกงอย่างเฉลียวฉลาด ข้ามขั้นตอนเปลี่ยนชุดพิธีการนี้ไปยังพิธีมอบดอกไม้สิริมงคลซึ่งเป็นขั้นตอนถัดไปทันที

วันนี้มีแขกมาร่วมงานไม่น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่เจิ้นกั๋วกง

นอกจากผู้มีตำแหน่งสูงส่งเหล่านั้นแล้ว ผู้สูงศักดิ์เกือบทั้งหมดในเมืองหลวงต่างมากันหมด

ต่อให้ไม่ได้มาด้วยตนเอง ก็ส่งคนในครอบครัวมามอบดอกไม้อวยพรให้ผู้ปักปิ่นทั้งสองคนตอนพิธีมอบดอกไม้สิริมงคล

ดังนั้นเวลานี้ผู้คนมากมายที่อยู่ข้างล่างปะรำพิธีล้วนถือดอกไม้ไว้ในมือ กลับไม่มีใครลุกขึ้นมาเป็นคนแรก

แค่พากันวิพากษ์วิจารณ์...

“เหตุใดไม่ให้พวกนางไปเปลี่ยนชุดพิธีการเล่า?”

“ไม่ได้ยินที่เจิ้นกั๋วกงกล่าวหรือ ไม่ได้เตรียมชุดพิธีการให้คุณหนูทั้งสอง เช่นนี้จะเปลี่ยนได้อย่างไร?”

“ไม่ได้เตรียมไว้ที่ใดกันเล่า ข้าได้ยินว่าเมื่อหนึ่งวันก่อนชุดพิธีการของคุณหนูหกถูกคุณหนูห้าทำลายไปแล้ว”

“เป็นนางอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย!”

“คุณหนูห้าผู้นี้ช่างจิตใจชั่วช้าเสียจริง งานสำคัญถึงเพียงนี้ยังจะทำลายชุดพิธีการของน้องสาวตนเองอีก”

“เช่นนั้นนางไม่มีชุดพิธีการให้เปลี่ยนเหมือนกันได้อย่างไร?”

“นี่ยังต้องเอ่ยอีกหรือ จะต้องถูกท่านเจิ้นกั๋วกงลงโทษอย่างแน่นอน”

“เกินไปแล้วจริง ๆ คนเช่นนี้ไม่คู่ควรได้รับดอกไม้สิริมงคลหรอก!”

“หากทุกคนต้องมอบก็มอบให้คุณหนูหก อย่ามอบให้นางเลย!”

“ถูกต้อง!”

ผู้คนพากันวางดอกไม้ที่ใช้สำหรับอวยพรให้ผู้ปักปิ่นในมือของพวกเขาลงตรงหน้าเวินเยวี่ยทั้งหมดภายใต้ความโกรธเกรี้ยว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
รัตติกาล วรรณถาวร
อยู่ๆจะเกลียด ก็เกลียดแบบไม่มีเหตุผล โดนของแน่ๆ
goodnovel comment avatar
นราภรณ์ วรรณพฤกษ์
งงกะคนแต่งนิยาย
goodnovel comment avatar
Iam Honeybee
งง อ่านตั้งแต่ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพอ 6 มา แล้วทุกคนเกลียด 5 เขาโดนยาสเน่ห์กันทั้งบ้านทั้งเมือง หรืออุปาทานหมู่ หรืออะไร .. หาเหตุผลไม่เจอ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 754

    เวินซื่อ “?”เมื่อเห็นภาพนี้เวินซื่อก็ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะไม่ใช่ อ๋องชางชาวต่างถิ่นผู้สง่างาม เมื่อครู่ยังตะโกนให้จับตัวนาง ต้องการจะฆ่านางอยู่เลย ตอนนี้หนีไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ?เวินซื่อมีหรือจะปล่อยเขาไปแบบนี้ นางตะโกนเรียกเสียงดัง “จู๋เยวี่ย!”หลังจากจู๋เยวี่ยดึงแส้ออกจากเอวก็สะบัดลงข้างล่างทีหนึ่ง หลังจากพันรอบเอวของเวิ่นซื่อแล้ว ก็ดึงเวินซื่อขึ้นมานางกระโดดพรวดพราดออกมา ยกเวินซื่อขึ้นบนหลังเรียบร้อย จากนั้นก็กระโดดออกไปอีกครั้งในขณะเดียวกันเวินซื่อก็สั่งการหัวหน้ากองทัพธงดำและพวกที่อยู่ด้านล่าง “พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ คุ้มครองลุงหลินให้ดี”เมื่อนางพูดจบ ก็ออกไปจากหุบเขาพร้อมกับจู๋เยวี่ยกลางหุบเขา หัวหน้ากองทัพธงดำและพวกรีบกลับไปที่ข้างรถม้าเพื่อเฝ้ายาม ในขณะที่แมลงพิษที่รอดชีวิตบนพื้นดินเหล่านั้นก็เฝ้าดูพวกเขาไว้เช่นกัน ป้องกันศัตรูจากภายนอก......ทางด้านนี้หลังจากเวินซื่อกับจู๋เยวี่ยไล่ล่าออกมาจากหุบเขาแล้ว เวินซื่อก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาทั้งสองของนางสว่างไสวขึ้นเล็กน้อยในขณะเดียวกัน ชางชิงหลานและเยี่ยนจือที่วิ่งหนีอยู่ด้านหน้าได้เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 753

    ยังไม่ทันเริ่มต่อสู้ ก็รู้สึกว่าตัวเองชนะแน่นอนแล้ว“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”ชางชิงหลานยอมรับอย่างไม่ถ่อมตัวสักนิด“วิชากู่ของข้าไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าแม่นางจะใช้วิธีการใดปิดบังราชากู่ของข้าก็ตาม ถึงวันนี้ก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้แล้ว”“ถ้าเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ ข้าจะไม่มีทางแตะต้องเจ้าเด็ดขาด ว่าอย่างไรเล่า?”เมื่อเผชิญกับคำพูดหลอกล่อของชางชิงหลาน เวินซื่อก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเผยสายตาดูถูกออกมา...“ยังไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ แทนที่จะพูดมากไร้สาระ สู้ลงมือเสียเลยดีกว่า”เมื่อชางชิงหลานได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจทันที “เอาล่ะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมทำร้ายผู้หญิงก็แล้วกัน”ในขณะเดียวกัน แมลงทั้งสองฝั่งในหุบเขาก็เกิดอาการหงุดหงิดกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที เข้ามารวมตัวกันภายในพริบตาบนพื้นดินและกลางอากาศ ทั้งหมดกำลังเข่นฆ่ากันมันน่าทึ่งยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างผู้คนเมื่อครู่เสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่แน่นขนัดนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกขนหัวลุกอย่างช่วยไม่ได้ เห็นแล้วไม่สบายใจเป็นอย่างมากกระนั้นกองทัพธงดำและคนอื่น ๆ ยังคงเฝ้าอยู่ข้างกายเวินซื่อ ยังมีที่อยู่นอกรถม้าของหลินหงเหวินด้วย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 752

    “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากเกินไป”เวินซื่อพูดเพียงประโยคเดียวนี้กับเขาจากนั้นนางก็โบกมือหนึ่งครั้ง แมงมุมและมดทั้งหมดในหุบเขาก็พุ่งเข้าไปหาชางชิงหลานชางชิงหลานหัวเราะขึ้นมาทันใด “ข้ายอมรับว่าเจ้าน่าสนใจมากจริง ๆ แต่หากต้องการฆ่าข้าเช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้”เขาพูดพลาง พลิกมือล้วงแมลงสีเขียวเข้มตัวหนึ่งออกมาเขาประคองแมลงสีเขียวเข้มตัวนั้นไว้ในฝ่ามือ พลางเชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมกู่ก็ดี หรือการควบคุมแมลงก็ดี ข้าไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด”ทันทีที่สิ้นเสียง แมลงในมือของเขา และเป็นราชากู่ชีวิตของชางชิงหลานด้วย ก็ระเบิดเสียงแหลมเล็กออกมาทันทีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วหุบเขาเวินซื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สายตาจับจ้องไปที่ฝูงแมลงพิษของนาง ไม่นึกว่าแมลงในมือของชางชิงหลานตัวนั้นจะทรงพลังขนาดนี้ เหล่าแมลงพิษของนางทั้งหมดนางเลี้ยงดูด้วยเลือดและน้ำทิพย์ของตัวเอง ในทางทฤษฎีแล้วไม่สามารถรับผลกระทบใด ๆ จากผู้อื่นได้แต่แมลงกู่ของชางชิงหลานกลับสามารถส่งผลกระทบต่อเหล่าแมลงพิษของนางได้เช่นเดียวกับพลังที่น่าเกรงกลัวของราชาแมลงที่มี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 751

    แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว จู๋เยวี่ยที่อยู่บนรถม้าด้านหลังเวินซื่อย่อมไม่อาจดูอยู่เฉย ๆ ได้“เจ้าอีกแล้ว!”เยี่ยนจือจ้องมองจู๋เยวี่ยที่ขวางดาบคมของเขาไว้อีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว“ครั้งที่แล้วที่ข้าแพ้ให้กับเจ้าก็เพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่อย่างไม่ต้องสงสัย”จู๋เยวี่ยตอบเขาเพียงสี่คำ “พ่ายแพ้ราบคาบ”เยี่ยนจือโมโหขึ้นมาทันใด “รนหาที่ตายแล้ว!”ทั้งสองเริ่มเข่นฆ่ากันทันทีที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเยี่ยนจือ ยังมีนักฆ่าที่ชางชิงหลานพามาอีกหลายสิบคนพวกเขาเห็นเวินซื่อไม่มีใครอยู่รอบตัวนางในเวลานี้ ก็เข้ามาล้อมอย่างไม่ลังเลหน้าหลังมีคนทั้งนั้น ซ้ำยังตกเป็นรองด้านจำนวนคนมาก ดูเหมือนจะเข้าตาจนจริง ๆ ต่อให้มีปีกยากจะหนีพ้นแต่วินาทีต่อมา...“โอ๊ย!”“ตัวอะไรมากัดข้า?!”“นี่คืออะไร? มดมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน?!”“เจ็บมาก! มดพวกนี้กัดคนเจ็บมาก!”“รีบเหยียบพวกมันให้ตาย! เร็วเข้า!”“ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แล้ว! บ้าเอ๊ย ทำไมถึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”“โอ๊ย ๆ ๆ!”ในขณะที่ทุกคนกำลังเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด มดฝูงแล้วฝูงเล่าก็คลานออกมาจากทั้งสองฝั่งของหุบเขาอย่างรวดเร็วมดเหล่านั้นมีสีแดงปลอด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 750

    เวินซื่อและคนอื่นๆ หันกลับไปมอง ผู้ที่ล้อมมาจากทางด้านหลังคือเจ้าหน้าที่ทางการของอำเภอหลินเจียงส่วนหัวหน้ากลุ่มนั้น ถึงแม้เวินซื่อจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นตา เวินซื่อมองปราดเดียวก็คาดเดาได้ในทันทีว่า อีกฝ่ายต้องเป็นบิดาของหลี่อันซึ่งเป็นนายอำเภอผู้นั้นอย่างแน่นอน“ทางการได้รับแจ้งความ มาจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม หากรู้ความก็ยอมจำนนแต่โดยดี ผู้ใดกล้าขัดขืน ฆ่าทิ้งได้ทันที!”นายอำเภอหลี่ขี่อยู่บนหลังม้า มองลงมายังเวินซื่อและคนอื่นๆ อย่างโอหังแล้วตะโกนขึ้นทหารเกือบหนึ่งร้อยนายปิดล้อมอยู่ด้านหลัง ขวางเวินซื่อและคนอื่นๆ เอาไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเปิดทางหนีให้พวกเขาแม้แต่น้อยเวินซื่อหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย ส่งสายตาให้คนที่อยู่บนหลังคารถม้าข้างๆ ก่อน หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำก็เข้าใจในทันที“กองทัพธงดำปฏิบัติภารกิจ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบไสหัวไป!”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำตะโกนเสียงดังลั่น เสียงก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขาเมื่อได้ยินคำว่า “กองทัพธงดำ” สี่คำ เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นต่างกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที“อะไรนะ? กองทัพธงดำหรือ?”“เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 749

    การใช้รถม้าสองคันเพื่อสร้างความสับสนเช่นนี้ อาจทำให้คนเหล่านั้นไม่สามารถระบุตัวหลินหงเหวินได้ในทันที“แน่นอนว่านางก็รู้เช่นกันว่า ตนเองก็อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนเหล่านั้นด้วยก็เป็นได้แต่ตอนนี้คนสองกลุ่มนี้ อย่างน้อยทางฝั่งชางชิงหลานก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนางนางกลับค่อนข้างอยากรู้ว่า หลังจากที่ฝ่ายทางการรู้ฐานะที่แท้จริงของนางแล้ว จะยังกล้าลงมือต่อไปอีกหรือไม่หากลังเลไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็เป็นเพียงเรื่องความแค้นระหว่างนางกับคุณชายบุตรนายอำเภอผู้นั้นเท่านั้นหากรู้แล้วยังกล้าลงมือ เช่นนั้นเบื้องหลังของคนเหล่านี้ก็พอจะคาดเดาได้แล้วเวินซื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในรถม้า ท่องบทสวดมนต์เพื่อสงบจิตใจไปพลาง ครุ่นคิดเรื่องราวเหล่านี้อย่างเงียบๆ ไปพลางขณะที่รถม้าเดินทางอย่างราบรื่นมาได้ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เข้าสู่หุบเขาแห่งหนึ่ง เวินซื่อก็พลันลืมตาขึ้นวินาทีต่อมา ฝนธนูนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากฟากฟ้า“ซู่ๆ ซู่ๆ ...”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำและจู๋เยวี่ยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันแทบจะในทันที คนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถม้าของเวินซื่อ อีกคนกระโดดขึ้นไปบนรถม้าอีกคัน ต่างคนต่างลงมือ ปั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status