แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เมื่อเวินฉางอวิ้นเดินขึ้นมาบนปะรำพิธี สายตาทอดมองไปที่น้องสาวทั้งสองคน เดิมทียังลังเลอยู่บ้าง

แต่เมื่อสบสายตาคาดหวังของเวินเยวี่ย เขาก็คลายหัวคิ้วในพริบตา

หัวเราะอย่างไม่มีทางเลือก

ช่างเถิด หากจะโทษก็ได้แต่โทษน้องห้าที่ไม่ได้รับความชื่นชอบเอง

ใครใช้ให้นางมีนิสัยอิจฉาริษยา ไม่ยอมให้น้องหกเลยสักนิดเล่า

ดังนั้นเวินฉางอวิ้นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป เดินผ่านหน้าเวินซื่อแล้วยื่นดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

จากนั้นก็เป็นเวินจื่อเฉิน เวินจื่อเยวี่ย เวินอวี้จือ...

รวมถึงคนสกุลเวิน ทุกคนต่างก็มอบดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

ก็เหมือนกับชาติที่แล้ว...

เวินซื่อผู้โดดเดี่ยวกับเวินเยวี่ยที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สดและคำอวยพร

เวินซื่อไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนางก็รู้ผลสรุปเช่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่คาดหวังใด ๆ อีกต่อไปอย่างแน่นอน

หลังจากคนเหล่านั้นก็เป็นชุยเส้าเจ๋อ เทียบกับดอกไม้หนึ่งดอกที่คนอื่นมอบให้แล้ว เขาหอบดอกไม้บานหลากสีสันกำใหญ่เต็ม ๆ ไม่มองเวินซื่อสักแวบเดียว ก่อนจะยัดใส่อ้อมแขนของเวินเยวี่ยโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดอกฉยงฮวาอวยพรวันเกิด ดนตรีเสียงสวรรค์ห้อมล้อมความงามให้น่าหลงใหล ขอให้ความงามของเจ้าคงอยู่ตลอดไป ยิ้มแย้มมิแปรเปลี่ยน”

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่ สี่ แล้วก็พี่เส้าเจ๋อด้วยเจ้าค่ะ ดอกไม้ที่พวกท่านมอบให้งามมากเลย ดอกไม้มากมายเพียงนี้ละลานตาข้าไปหมดแล้ว”

เวินเยวี่ยกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

พวกชุยเส้าเจ๋อห้อมล้อมนางไว้ บ้างก็ลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู บ้างก็มอบของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้นานแล้ว

เนื่องจากคนที่มอบดอกไม้มีเยอะมากเกินไป เวินจื่อเฉินจึงถูกคนเบียดจนถอยหลังไปสองก้าว ชนเวินซื่อโดยไม่ทันระวัง

เมื่อเวินจื่อเฉินหันหน้าไปมองนาง พบว่านางไม่ได้รับดอกไม้เลยสักดอกก็หัวเราะเยาะเบา ๆ

“เจ้าก็อย่าอิจฉาเกินไป ถึงอย่างไรน้องหกได้รับดอกไม้มากมายถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะนางมีจิตใจดีบริสุทธิ์ หากเจ้าสามารถมีสักหนึ่งในสิบของน้องหกได้ ก็คงไม่ถึงขนาดไม่ได้รับดอกไม้สักดอกหรอก”

“ดังนั้น ต่อไปต้องสำนึกผิดให้มาก ๆ เสีย”

“ขอบคุณพี่รองที่ห่วงใยเจ้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องสำนึกผิดแล้ว ข้าคิดว่าข้าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก”

เวินซื่อยิ้มอย่างขอไปที และไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

วันนี้เสียเวลาไปมากแล้ว สาเหตุที่นางยังต้องยืนอยู่ที่นี่ก็เพื่อรอให้ชุยเส้าเจ๋อรีบยกเลิกการหมั้น

แต่คนบางคนขึ้นปะรำพิธีแล้วก็เอาแต่สนใจกับการมอบดอกไม้ เหมือนใกล้จะลืม ‘เรื่องสำคัญ’ ของตนเองไปแล้ว

เวินซื่อหมดความอดทนเล็กน้อย จึงตัดสินใจผลักดันเขา

“ท่านพ่อ ในเมื่อพิธีปักปิ่นสิ้นสุดลงแล้ว ดูเหมือนทุกคนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องการข้าแล้ว ไม่เช่นนั้นตอนนี้ข้าขอตัวกลับไปเลยแล้วกัน?”

เวินซื่อไม่สนใจเวินจื่อเฉินอีกต่อไป ก่อนจะหันหน้าไปเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่ง

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินว่านางจะไปแล้ว ชุยเส้าเจ๋อที่เดิมทียังคงล้อมรอบเวินเยวี่ยพลันหันหน้ากลับมา “เดี๋ยวก่อน เจ้าไปไม่ได้ ข้ายังมีเรื่องจะกล่าว”

ในที่สุดก็มาเสียที

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตามองเวินซื่อ ตากนั้นก็ประสานมือกล่าวเสียงดังกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ตำแหน่งประธานพิธีว่า “ท่านลุง วันนี้หลานมีสองเรื่องอยากขอให้ท่านลุงช่วยตัดสินใจ เพื่อให้หลานสามารถสมหวังกับการแต่งงานด้วยขอรับ”

ทุกคนได้ยินคำพูดประโยคหลัง ยังนึกว่าชุยเส้าเจ๋อจะหารือเรื่องวันแต่งงานกับจวนเจิ้นกั๋วกง ในที่สุดก็เตรียมตัวจะแต่งงานกับเวินซื่อแล้ว

เวินเยวี่ยตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

นางไม่อยากให้เวินซื่อแย่งชุยเส้าเจ๋อไป

“พี่เส้าเจ๋อ...”

ชุยเส้าเจ๋อเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของนาง ในใจพลันเกิดความรู้สึกปีติยินดี

เป็นอย่างที่คิดไว้เลย น้องเยวี่ยเอ๋อร์รักเขา

ดังนั้นนางจึงกลัวว่าเขาจะแต่งงานกับเวินซื่อจริง ๆ

แต่ไม่เป็นไร เขาเองก็รักน้องเยวี่ยเอ๋อร์เช่นกัน

ดังนั้นเขาไม่มีทางแต่งงานกับเวินซื่อเป็นอันขาด

ชาตินี้คนที่เขาจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

ชุยเส้าเจ๋อลูบศีรษะของเวินเยวี่ยอย่างรักใคร่เอ็นดู “เยวี่ยเอ๋อร์วางใจได้ ข้าจะมอบเรื่องน่าประหลาดใจให้เจ้า”

เขากล่าวจบก็สบตากับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า “เรื่องแรกคือข้าอยากจะถอนหมั้น”

“ข้าอยากถอนหมั้นกับเวินซื่อ!”

“บังอาจ”

“เส้าเจ๋อ!”

เมื่อคำพูดของชุยเส้าเจ๋อออกมา แขกเหรื่อรอบด้านก็ส่งเสียงฮือฮา

ดวงตาของเวินเยวี่ยเปล่งประกาย

เวินเฉวียนเซิ่งกลับมีสีหน้าบึ้งตึง จ้องมองชุยเส้าเจ๋ออย่างเย็นชา

เวินหย่าลี่รู้นิสัยของพี่ชายจึงรีบดึงบุตรชายของตนไว้ “เส้าเจ๋อ มีเรื่องอะไรค่อยกล่าวกันทีหลัง วันนี้เป็นวันมงคลปักปิ่นของน้องสาวทั้งสองคนของเจ้า อย่าได้ก่อความวุ่นวายที่นี่”

แม้ว่านางไม่ชอบเวินซื่อเช่นกัน แต่ว่าต่อให้อยากจะถอนหมั้นก็ไม่ใช่การถอนหมั้นกันเช่นนี้

การถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนไม่ใช่ว่ากำลังฉีกหน้าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงหรือไร?

ชุยเส้าเจ๋อยังคงยืนกราน สะบัดมือของเวินหย่าลี่ออกทันทีแล้วเอ่ยอย่างดื้อดึงว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอีกต่อไปแล้ว ข้าคิดดีนานแล้ว”

เวินจื่อเฉินพลันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน เอ่ยถามอย่างเดือดดาลว่า “ข้าจะบอกให้นะชุยเส้าเจ๋อ ต่อให้น้องห้าเป็นเช่นไร นางก็เป็นน้องสาวที่เติบโตมาตั้งแต่เด็กด้วยกันกับเจ้า เจ้ากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาหลายปี เจ้าจะต้องหยามเกียรตินาง หยามเกียรติจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราวันนี้ให้ได้หรือ?!”

เวินจื่อเฉินไม่ได้ปกป้องเวินซื่อ

เขาเพียงแค่รู้สึกว่าชุยเส้าเจ๋อไม่เห็นสกุลเวินของพวกเขาอยู่ในสายตามากเกินไปแล้ว!

“พี่รอง ข้าไม่ได้อยากหยามเกียรติสกุลเวิน ข้าเพียงแค่ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับสตรีจิตใจชั่วช้าและยังชอบอิจฉาริษยาอย่างเวินซื่อไปตลอดชีวิต! ดังนั้นไม่ว่าพวกท่านจะกล่าวอย่างไร วันนี้ข้าก็จะถอนหมั้น!”

ชุยเส้าเจ๋อเองก็รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนเป็นการทำผิดต่อสกุลเวินอยู่บ้าง

แต่เขาไม่นึกเสียใจ!

เวินเยวี่ยดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง หากพี่เส้าเจ๋อถอนหมั้นกับเวินซื่อ เช่นนั้นนางก็มีโอกาสแล้วใช่หรือไม่?

และดูจากการแสดงออกของชุยเส้าเจ๋อในยามปกติ ตำแหน่งฮูหยินของซื่อจื่อจวนจงหย่งโหวจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตามแม้เวินเยวี่ยจะมั่นใจแล้ว แต่ตอนนี้นางเป็นน้องสาวที่ ‘บริสุทธิ์จิตใจดี’ นะ~

เมื่อคิดเช่นนี้ เวินเยวี่ยก็ข่มกลั้นความพึงพอใจตรงมุมปาก แล้วแสร้งพูดเกลี้ยกล้อมชุยเส้าเจ๋อ

“พี่เส้าเจ๋อ พี่หญิงห้านางเคยทำผิดไปบ้าง แต่ว่าทำกับนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ? ถึงอย่างไรพี่หญิงห้าก็ชอบท่านถึงเพียงนั้น ไม่เช่นนั้นท่านก็เห็นแก่หน้าของข้า ให้อภัยพี่หญิงเถิดนะเจ้าคะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า ‘พี่หญิงห้าชอบท่านถึงเพียงนั้น’ ชุยเส้าเจ๋อก็ตกใจทันที

ใช่แล้ว เยวี่ยเอ๋อร์เตือนสติเขาจริง ๆ!

วันนี้เขาดึงดันจะถอนหมั้นให้ได้ แต่รับประกันไม่ได้ว่าต่อไปนางยังจะตามพัวพันเขาอีกหรือไม่

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้เวินซื่อล้มเลิกความคิดทั้งหมด!

ชุยเส้าเจ๋อหันหน้าไปเอ่ยเตือนเวินซื่อว่า “เวินซื่อ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าทำตัวเอง ต่อให้ข้าตายก็จะไม่แต่งงานกับเจ้าเป็นอันขาด ดังนั้นทางที่ดีเจ้ารู้จักดูสถานการณ์แล้วตกลงเรื่องนี้เสีย อย่างน้อยข้าจะรับปากเงื่อนไขของเจ้าหนึ่งข้อเพื่อเห็นแก่หน้าสกุลเวิน”

“แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าละโมบมากเกินไป ชาตินี้ข้าจะแต่งงานกับสตรีนางเดียวเท่านั้น คนผู้นั้นไม่ใช่เจ้า และข้าก็ไม่มีทางรับอนุด้วย”

คำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อแทบจะชี้หน้าเวินซื่อบอกว่า ภรรยาก็ไม่ได้ อนุภรรยายิ่งอย่าฝัน!

ถึงอย่างไรเขารู้ว่าเวินซื่อชอบเขามาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่พัวพันเขามาหลายปีเช่นนี้

เขาบอกว่าสามารถรับปากเงื่อนไขของนางหนึ่งข้อ แต่ถ้าเกิดนางใช้เงื่อนไขนี้มาข่มขู่ให้เขารับนางเป็นอนุภรรยาจะทำอย่างไร?

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเตือนนางอย่างรุนแรง

เลิกคิดเพ้อฝัน!

“หึ ๆ”

เวินซื่อที่มองพวกเขาเล่นละครอย่างเงียบ ๆ มาตลอดพลันหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว

หลังจากนั้นเวินซื่อก็เหลือบมองเวินเยวี่ยที่กำลังแอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความลำพองใจและความท้าทายให้นาง ก่อนที่เวินซื่อจะยิ้มน้อย ๆ

“ได้สิ ข้ารับปากท่านก็ได้ แต่ท่านก็บอกเองนะว่าจะรับปากเงื่อนไขข้าหนึ่งข้อใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง”

ชุยเส้าเจ๋อกอดอก เชิดหน้ามองนาง “ขอเพียงเจ้าเลิกคิดจะเข้าประตูจวนจงหย่งโหวของพวกเรา เรื่องอื่นข้ารับปากเจ้าได้ทั้งหมด”

“ดีเหลือเกิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็สาบานต่อหน้าผู้คนเถิด...”

รอยยิ้มตรงมุมปากของเวินซื่อค่อย ๆ กว้างขึ้น

ชอบยั่วยุนางถึงเพียงนั้น เช่นนั้นก็มาดูว่าสุดท้ายใครจะร้อนใจก่อนกัน

“...บอกว่า ท่านชุยเส้าเจ๋อจะไม่มีวันแต่งงานสตรีแซ่เวินคนใดไปชั่วชีวิต”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ชุยเส้าเจ๋อกับเวินเยวี่ยแทบจะหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 754

    เวินซื่อ “?”เมื่อเห็นภาพนี้เวินซื่อก็ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะไม่ใช่ อ๋องชางชาวต่างถิ่นผู้สง่างาม เมื่อครู่ยังตะโกนให้จับตัวนาง ต้องการจะฆ่านางอยู่เลย ตอนนี้หนีไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ?เวินซื่อมีหรือจะปล่อยเขาไปแบบนี้ นางตะโกนเรียกเสียงดัง “จู๋เยวี่ย!”หลังจากจู๋เยวี่ยดึงแส้ออกจากเอวก็สะบัดลงข้างล่างทีหนึ่ง หลังจากพันรอบเอวของเวิ่นซื่อแล้ว ก็ดึงเวินซื่อขึ้นมานางกระโดดพรวดพราดออกมา ยกเวินซื่อขึ้นบนหลังเรียบร้อย จากนั้นก็กระโดดออกไปอีกครั้งในขณะเดียวกันเวินซื่อก็สั่งการหัวหน้ากองทัพธงดำและพวกที่อยู่ด้านล่าง “พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ คุ้มครองลุงหลินให้ดี”เมื่อนางพูดจบ ก็ออกไปจากหุบเขาพร้อมกับจู๋เยวี่ยกลางหุบเขา หัวหน้ากองทัพธงดำและพวกรีบกลับไปที่ข้างรถม้าเพื่อเฝ้ายาม ในขณะที่แมลงพิษที่รอดชีวิตบนพื้นดินเหล่านั้นก็เฝ้าดูพวกเขาไว้เช่นกัน ป้องกันศัตรูจากภายนอก......ทางด้านนี้หลังจากเวินซื่อกับจู๋เยวี่ยไล่ล่าออกมาจากหุบเขาแล้ว เวินซื่อก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาทั้งสองของนางสว่างไสวขึ้นเล็กน้อยในขณะเดียวกัน ชางชิงหลานและเยี่ยนจือที่วิ่งหนีอยู่ด้านหน้าได้เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 753

    ยังไม่ทันเริ่มต่อสู้ ก็รู้สึกว่าตัวเองชนะแน่นอนแล้ว“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”ชางชิงหลานยอมรับอย่างไม่ถ่อมตัวสักนิด“วิชากู่ของข้าไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าแม่นางจะใช้วิธีการใดปิดบังราชากู่ของข้าก็ตาม ถึงวันนี้ก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้แล้ว”“ถ้าเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ ข้าจะไม่มีทางแตะต้องเจ้าเด็ดขาด ว่าอย่างไรเล่า?”เมื่อเผชิญกับคำพูดหลอกล่อของชางชิงหลาน เวินซื่อก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเผยสายตาดูถูกออกมา...“ยังไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ แทนที่จะพูดมากไร้สาระ สู้ลงมือเสียเลยดีกว่า”เมื่อชางชิงหลานได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจทันที “เอาล่ะ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมทำร้ายผู้หญิงก็แล้วกัน”ในขณะเดียวกัน แมลงทั้งสองฝั่งในหุบเขาก็เกิดอาการหงุดหงิดกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที เข้ามารวมตัวกันภายในพริบตาบนพื้นดินและกลางอากาศ ทั้งหมดกำลังเข่นฆ่ากันมันน่าทึ่งยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างผู้คนเมื่อครู่เสียอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่แน่นขนัดนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกขนหัวลุกอย่างช่วยไม่ได้ เห็นแล้วไม่สบายใจเป็นอย่างมากกระนั้นกองทัพธงดำและคนอื่น ๆ ยังคงเฝ้าอยู่ข้างกายเวินซื่อ ยังมีที่อยู่นอกรถม้าของหลินหงเหวินด้วย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 752

    “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากเกินไป”เวินซื่อพูดเพียงประโยคเดียวนี้กับเขาจากนั้นนางก็โบกมือหนึ่งครั้ง แมงมุมและมดทั้งหมดในหุบเขาก็พุ่งเข้าไปหาชางชิงหลานชางชิงหลานหัวเราะขึ้นมาทันใด “ข้ายอมรับว่าเจ้าน่าสนใจมากจริง ๆ แต่หากต้องการฆ่าข้าเช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้”เขาพูดพลาง พลิกมือล้วงแมลงสีเขียวเข้มตัวหนึ่งออกมาเขาประคองแมลงสีเขียวเข้มตัวนั้นไว้ในฝ่ามือ พลางเชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมกู่ก็ดี หรือการควบคุมแมลงก็ดี ข้าไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับผู้ใด”ทันทีที่สิ้นเสียง แมลงในมือของเขา และเป็นราชากู่ชีวิตของชางชิงหลานด้วย ก็ระเบิดเสียงแหลมเล็กออกมาทันทีเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วหุบเขาเวินซื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง สายตาจับจ้องไปที่ฝูงแมลงพิษของนาง ไม่นึกว่าแมลงในมือของชางชิงหลานตัวนั้นจะทรงพลังขนาดนี้ เหล่าแมลงพิษของนางทั้งหมดนางเลี้ยงดูด้วยเลือดและน้ำทิพย์ของตัวเอง ในทางทฤษฎีแล้วไม่สามารถรับผลกระทบใด ๆ จากผู้อื่นได้แต่แมลงกู่ของชางชิงหลานกลับสามารถส่งผลกระทบต่อเหล่าแมลงพิษของนางได้เช่นเดียวกับพลังที่น่าเกรงกลัวของราชาแมลงที่มี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 751

    แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว จู๋เยวี่ยที่อยู่บนรถม้าด้านหลังเวินซื่อย่อมไม่อาจดูอยู่เฉย ๆ ได้“เจ้าอีกแล้ว!”เยี่ยนจือจ้องมองจู๋เยวี่ยที่ขวางดาบคมของเขาไว้อีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว“ครั้งที่แล้วที่ข้าแพ้ให้กับเจ้าก็เพราะไม่ทันตั้งตัว แต่ครั้งนี้เจ้าแพ้แน่อย่างไม่ต้องสงสัย”จู๋เยวี่ยตอบเขาเพียงสี่คำ “พ่ายแพ้ราบคาบ”เยี่ยนจือโมโหขึ้นมาทันใด “รนหาที่ตายแล้ว!”ทั้งสองเริ่มเข่นฆ่ากันทันทีที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเยี่ยนจือ ยังมีนักฆ่าที่ชางชิงหลานพามาอีกหลายสิบคนพวกเขาเห็นเวินซื่อไม่มีใครอยู่รอบตัวนางในเวลานี้ ก็เข้ามาล้อมอย่างไม่ลังเลหน้าหลังมีคนทั้งนั้น ซ้ำยังตกเป็นรองด้านจำนวนคนมาก ดูเหมือนจะเข้าตาจนจริง ๆ ต่อให้มีปีกยากจะหนีพ้นแต่วินาทีต่อมา...“โอ๊ย!”“ตัวอะไรมากัดข้า?!”“นี่คืออะไร? มดมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน?!”“เจ็บมาก! มดพวกนี้กัดคนเจ็บมาก!”“รีบเหยียบพวกมันให้ตาย! เร็วเข้า!”“ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แล้ว! บ้าเอ๊ย ทำไมถึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”“โอ๊ย ๆ ๆ!”ในขณะที่ทุกคนกำลังเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด มดฝูงแล้วฝูงเล่าก็คลานออกมาจากทั้งสองฝั่งของหุบเขาอย่างรวดเร็วมดเหล่านั้นมีสีแดงปลอด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 750

    เวินซื่อและคนอื่นๆ หันกลับไปมอง ผู้ที่ล้อมมาจากทางด้านหลังคือเจ้าหน้าที่ทางการของอำเภอหลินเจียงส่วนหัวหน้ากลุ่มนั้น ถึงแม้เวินซื่อจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นตา เวินซื่อมองปราดเดียวก็คาดเดาได้ในทันทีว่า อีกฝ่ายต้องเป็นบิดาของหลี่อันซึ่งเป็นนายอำเภอผู้นั้นอย่างแน่นอน“ทางการได้รับแจ้งความ มาจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม หากรู้ความก็ยอมจำนนแต่โดยดี ผู้ใดกล้าขัดขืน ฆ่าทิ้งได้ทันที!”นายอำเภอหลี่ขี่อยู่บนหลังม้า มองลงมายังเวินซื่อและคนอื่นๆ อย่างโอหังแล้วตะโกนขึ้นทหารเกือบหนึ่งร้อยนายปิดล้อมอยู่ด้านหลัง ขวางเวินซื่อและคนอื่นๆ เอาไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเปิดทางหนีให้พวกเขาแม้แต่น้อยเวินซื่อหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย ส่งสายตาให้คนที่อยู่บนหลังคารถม้าข้างๆ ก่อน หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำก็เข้าใจในทันที“กองทัพธงดำปฏิบัติภารกิจ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรีบไสหัวไป!”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำตะโกนเสียงดังลั่น เสียงก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขาเมื่อได้ยินคำว่า “กองทัพธงดำ” สี่คำ เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นต่างกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที“อะไรนะ? กองทัพธงดำหรือ?”“เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 749

    การใช้รถม้าสองคันเพื่อสร้างความสับสนเช่นนี้ อาจทำให้คนเหล่านั้นไม่สามารถระบุตัวหลินหงเหวินได้ในทันที“แน่นอนว่านางก็รู้เช่นกันว่า ตนเองก็อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนเหล่านั้นด้วยก็เป็นได้แต่ตอนนี้คนสองกลุ่มนี้ อย่างน้อยทางฝั่งชางชิงหลานก็ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนางนางกลับค่อนข้างอยากรู้ว่า หลังจากที่ฝ่ายทางการรู้ฐานะที่แท้จริงของนางแล้ว จะยังกล้าลงมือต่อไปอีกหรือไม่หากลังเลไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็เป็นเพียงเรื่องความแค้นระหว่างนางกับคุณชายบุตรนายอำเภอผู้นั้นเท่านั้นหากรู้แล้วยังกล้าลงมือ เช่นนั้นเบื้องหลังของคนเหล่านี้ก็พอจะคาดเดาได้แล้วเวินซื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในรถม้า ท่องบทสวดมนต์เพื่อสงบจิตใจไปพลาง ครุ่นคิดเรื่องราวเหล่านี้อย่างเงียบๆ ไปพลางขณะที่รถม้าเดินทางอย่างราบรื่นมาได้ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เข้าสู่หุบเขาแห่งหนึ่ง เวินซื่อก็พลันลืมตาขึ้นวินาทีต่อมา ฝนธนูนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากฟากฟ้า“ซู่ๆ ซู่ๆ ...”หัวหน้าหน่วยเล็กกองทัพธงดำและจู๋เยวี่ยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันแทบจะในทันที คนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถม้าของเวินซื่อ อีกคนกระโดดขึ้นไปบนรถม้าอีกคัน ต่างคนต่างลงมือ ปั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status