Share

บทที่ 8

Author: จิ้งซิง
เมื่อเวินฉางอวิ้นเดินขึ้นมาบนปะรำพิธี สายตาทอดมองไปที่น้องสาวทั้งสองคน เดิมทียังลังเลอยู่บ้าง

แต่เมื่อสบสายตาคาดหวังของเวินเยวี่ย เขาก็คลายหัวคิ้วในพริบตา

หัวเราะอย่างไม่มีทางเลือก

ช่างเถิด หากจะโทษก็ได้แต่โทษน้องห้าที่ไม่ได้รับความชื่นชอบเอง

ใครใช้ให้นางมีนิสัยอิจฉาริษยา ไม่ยอมให้น้องหกเลยสักนิดเล่า

ดังนั้นเวินฉางอวิ้นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป เดินผ่านหน้าเวินซื่อแล้วยื่นดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

จากนั้นก็เป็นเวินจื่อเฉิน เวินจื่อเยวี่ย เวินอวี้จือ...

รวมถึงคนสกุลเวิน ทุกคนต่างก็มอบดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

ก็เหมือนกับชาติที่แล้ว...

เวินซื่อผู้โดดเดี่ยวกับเวินเยวี่ยที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สดและคำอวยพร

เวินซื่อไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนางก็รู้ผลสรุปเช่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่คาดหวังใด ๆ อีกต่อไปอย่างแน่นอน

หลังจากคนเหล่านั้นก็เป็นชุยเส้าเจ๋อ เทียบกับดอกไม้หนึ่งดอกที่คนอื่นมอบให้แล้ว เขาหอบดอกไม้บานหลากสีสันกำใหญ่เต็ม ๆ ไม่มองเวินซื่อสักแวบเดียว ก่อนจะยัดใส่อ้อมแขนของเวินเยวี่ยโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดอกฉยงฮวาอวยพรวันเกิด ดนตรีเสียงสวรรค์ห้อมล้อมความงามให้น่าหลงใหล ขอให้ความงามของเจ้าคงอยู่ตลอดไป ยิ้มแย้มมิแปรเปลี่ยน”

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่ สี่ แล้วก็พี่เส้าเจ๋อด้วยเจ้าค่ะ ดอกไม้ที่พวกท่านมอบให้งามมากเลย ดอกไม้มากมายเพียงนี้ละลานตาข้าไปหมดแล้ว”

เวินเยวี่ยกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

พวกชุยเส้าเจ๋อห้อมล้อมนางไว้ บ้างก็ลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู บ้างก็มอบของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้นานแล้ว

เนื่องจากคนที่มอบดอกไม้มีเยอะมากเกินไป เวินจื่อเฉินจึงถูกคนเบียดจนถอยหลังไปสองก้าว ชนเวินซื่อโดยไม่ทันระวัง

เมื่อเวินจื่อเฉินหันหน้าไปมองนาง พบว่านางไม่ได้รับดอกไม้เลยสักดอกก็หัวเราะเยาะเบา ๆ

“เจ้าก็อย่าอิจฉาเกินไป ถึงอย่างไรน้องหกได้รับดอกไม้มากมายถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะนางมีจิตใจดีบริสุทธิ์ หากเจ้าสามารถมีสักหนึ่งในสิบของน้องหกได้ ก็คงไม่ถึงขนาดไม่ได้รับดอกไม้สักดอกหรอก”

“ดังนั้น ต่อไปต้องสำนึกผิดให้มาก ๆ เสีย”

“ขอบคุณพี่รองที่ห่วงใยเจ้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องสำนึกผิดแล้ว ข้าคิดว่าข้าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก”

เวินซื่อยิ้มอย่างขอไปที และไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

วันนี้เสียเวลาไปมากแล้ว สาเหตุที่นางยังต้องยืนอยู่ที่นี่ก็เพื่อรอให้ชุยเส้าเจ๋อรีบยกเลิกการหมั้น

แต่คนบางคนขึ้นปะรำพิธีแล้วก็เอาแต่สนใจกับการมอบดอกไม้ เหมือนใกล้จะลืม ‘เรื่องสำคัญ’ ของตนเองไปแล้ว

เวินซื่อหมดความอดทนเล็กน้อย จึงตัดสินใจผลักดันเขา

“ท่านพ่อ ในเมื่อพิธีปักปิ่นสิ้นสุดลงแล้ว ดูเหมือนทุกคนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องการข้าแล้ว ไม่เช่นนั้นตอนนี้ข้าขอตัวกลับไปเลยแล้วกัน?”

เวินซื่อไม่สนใจเวินจื่อเฉินอีกต่อไป ก่อนจะหันหน้าไปเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่ง

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินว่านางจะไปแล้ว ชุยเส้าเจ๋อที่เดิมทียังคงล้อมรอบเวินเยวี่ยพลันหันหน้ากลับมา “เดี๋ยวก่อน เจ้าไปไม่ได้ ข้ายังมีเรื่องจะกล่าว”

ในที่สุดก็มาเสียที

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตามองเวินซื่อ ตากนั้นก็ประสานมือกล่าวเสียงดังกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ตำแหน่งประธานพิธีว่า “ท่านลุง วันนี้หลานมีสองเรื่องอยากขอให้ท่านลุงช่วยตัดสินใจ เพื่อให้หลานสามารถสมหวังกับการแต่งงานด้วยขอรับ”

ทุกคนได้ยินคำพูดประโยคหลัง ยังนึกว่าชุยเส้าเจ๋อจะหารือเรื่องวันแต่งงานกับจวนเจิ้นกั๋วกง ในที่สุดก็เตรียมตัวจะแต่งงานกับเวินซื่อแล้ว

เวินเยวี่ยตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

นางไม่อยากให้เวินซื่อแย่งชุยเส้าเจ๋อไป

“พี่เส้าเจ๋อ...”

ชุยเส้าเจ๋อเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของนาง ในใจพลันเกิดความรู้สึกปีติยินดี

เป็นอย่างที่คิดไว้เลย น้องเยวี่ยเอ๋อร์รักเขา

ดังนั้นนางจึงกลัวว่าเขาจะแต่งงานกับเวินซื่อจริง ๆ

แต่ไม่เป็นไร เขาเองก็รักน้องเยวี่ยเอ๋อร์เช่นกัน

ดังนั้นเขาไม่มีทางแต่งงานกับเวินซื่อเป็นอันขาด

ชาตินี้คนที่เขาจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

ชุยเส้าเจ๋อลูบศีรษะของเวินเยวี่ยอย่างรักใคร่เอ็นดู “เยวี่ยเอ๋อร์วางใจได้ ข้าจะมอบเรื่องน่าประหลาดใจให้เจ้า”

เขากล่าวจบก็สบตากับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า “เรื่องแรกคือข้าอยากจะถอนหมั้น”

“ข้าอยากถอนหมั้นกับเวินซื่อ!”

“บังอาจ”

“เส้าเจ๋อ!”

เมื่อคำพูดของชุยเส้าเจ๋อออกมา แขกเหรื่อรอบด้านก็ส่งเสียงฮือฮา

ดวงตาของเวินเยวี่ยเปล่งประกาย

เวินเฉวียนเซิ่งกลับมีสีหน้าบึ้งตึง จ้องมองชุยเส้าเจ๋ออย่างเย็นชา

เวินหย่าลี่รู้นิสัยของพี่ชายจึงรีบดึงบุตรชายของตนไว้ “เส้าเจ๋อ มีเรื่องอะไรค่อยกล่าวกันทีหลัง วันนี้เป็นวันมงคลปักปิ่นของน้องสาวทั้งสองคนของเจ้า อย่าได้ก่อความวุ่นวายที่นี่”

แม้ว่านางไม่ชอบเวินซื่อเช่นกัน แต่ว่าต่อให้อยากจะถอนหมั้นก็ไม่ใช่การถอนหมั้นกันเช่นนี้

การถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนไม่ใช่ว่ากำลังฉีกหน้าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงหรือไร?

ชุยเส้าเจ๋อยังคงยืนกราน สะบัดมือของเวินหย่าลี่ออกทันทีแล้วเอ่ยอย่างดื้อดึงว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอีกต่อไปแล้ว ข้าคิดดีนานแล้ว”

เวินจื่อเฉินพลันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน เอ่ยถามอย่างเดือดดาลว่า “ข้าจะบอกให้นะชุยเส้าเจ๋อ ต่อให้น้องห้าเป็นเช่นไร นางก็เป็นน้องสาวที่เติบโตมาตั้งแต่เด็กด้วยกันกับเจ้า เจ้ากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาหลายปี เจ้าจะต้องหยามเกียรตินาง หยามเกียรติจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราวันนี้ให้ได้หรือ?!”

เวินจื่อเฉินไม่ได้ปกป้องเวินซื่อ

เขาเพียงแค่รู้สึกว่าชุยเส้าเจ๋อไม่เห็นสกุลเวินของพวกเขาอยู่ในสายตามากเกินไปแล้ว!

“พี่รอง ข้าไม่ได้อยากหยามเกียรติสกุลเวิน ข้าเพียงแค่ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับสตรีจิตใจชั่วช้าและยังชอบอิจฉาริษยาอย่างเวินซื่อไปตลอดชีวิต! ดังนั้นไม่ว่าพวกท่านจะกล่าวอย่างไร วันนี้ข้าก็จะถอนหมั้น!”

ชุยเส้าเจ๋อเองก็รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนเป็นการทำผิดต่อสกุลเวินอยู่บ้าง

แต่เขาไม่นึกเสียใจ!

เวินเยวี่ยดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง หากพี่เส้าเจ๋อถอนหมั้นกับเวินซื่อ เช่นนั้นนางก็มีโอกาสแล้วใช่หรือไม่?

และดูจากการแสดงออกของชุยเส้าเจ๋อในยามปกติ ตำแหน่งฮูหยินของซื่อจื่อจวนจงหย่งโหวจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตามแม้เวินเยวี่ยจะมั่นใจแล้ว แต่ตอนนี้นางเป็นน้องสาวที่ ‘บริสุทธิ์จิตใจดี’ นะ~

เมื่อคิดเช่นนี้ เวินเยวี่ยก็ข่มกลั้นความพึงพอใจตรงมุมปาก แล้วแสร้งพูดเกลี้ยกล้อมชุยเส้าเจ๋อ

“พี่เส้าเจ๋อ พี่หญิงห้านางเคยทำผิดไปบ้าง แต่ว่าทำกับนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ? ถึงอย่างไรพี่หญิงห้าก็ชอบท่านถึงเพียงนั้น ไม่เช่นนั้นท่านก็เห็นแก่หน้าของข้า ให้อภัยพี่หญิงเถิดนะเจ้าคะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า ‘พี่หญิงห้าชอบท่านถึงเพียงนั้น’ ชุยเส้าเจ๋อก็ตกใจทันที

ใช่แล้ว เยวี่ยเอ๋อร์เตือนสติเขาจริง ๆ!

วันนี้เขาดึงดันจะถอนหมั้นให้ได้ แต่รับประกันไม่ได้ว่าต่อไปนางยังจะตามพัวพันเขาอีกหรือไม่

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้เวินซื่อล้มเลิกความคิดทั้งหมด!

ชุยเส้าเจ๋อหันหน้าไปเอ่ยเตือนเวินซื่อว่า “เวินซื่อ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าทำตัวเอง ต่อให้ข้าตายก็จะไม่แต่งงานกับเจ้าเป็นอันขาด ดังนั้นทางที่ดีเจ้ารู้จักดูสถานการณ์แล้วตกลงเรื่องนี้เสีย อย่างน้อยข้าจะรับปากเงื่อนไขของเจ้าหนึ่งข้อเพื่อเห็นแก่หน้าสกุลเวิน”

“แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าละโมบมากเกินไป ชาตินี้ข้าจะแต่งงานกับสตรีนางเดียวเท่านั้น คนผู้นั้นไม่ใช่เจ้า และข้าก็ไม่มีทางรับอนุด้วย”

คำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อแทบจะชี้หน้าเวินซื่อบอกว่า ภรรยาก็ไม่ได้ อนุภรรยายิ่งอย่าฝัน!

ถึงอย่างไรเขารู้ว่าเวินซื่อชอบเขามาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่พัวพันเขามาหลายปีเช่นนี้

เขาบอกว่าสามารถรับปากเงื่อนไขของนางหนึ่งข้อ แต่ถ้าเกิดนางใช้เงื่อนไขนี้มาข่มขู่ให้เขารับนางเป็นอนุภรรยาจะทำอย่างไร?

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเตือนนางอย่างรุนแรง

เลิกคิดเพ้อฝัน!

“หึ ๆ”

เวินซื่อที่มองพวกเขาเล่นละครอย่างเงียบ ๆ มาตลอดพลันหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว

หลังจากนั้นเวินซื่อก็เหลือบมองเวินเยวี่ยที่กำลังแอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความลำพองใจและความท้าทายให้นาง ก่อนที่เวินซื่อจะยิ้มน้อย ๆ

“ได้สิ ข้ารับปากท่านก็ได้ แต่ท่านก็บอกเองนะว่าจะรับปากเงื่อนไขข้าหนึ่งข้อใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง”

ชุยเส้าเจ๋อกอดอก เชิดหน้ามองนาง “ขอเพียงเจ้าเลิกคิดจะเข้าประตูจวนจงหย่งโหวของพวกเรา เรื่องอื่นข้ารับปากเจ้าได้ทั้งหมด”

“ดีเหลือเกิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็สาบานต่อหน้าผู้คนเถิด...”

รอยยิ้มตรงมุมปากของเวินซื่อค่อย ๆ กว้างขึ้น

ชอบยั่วยุนางถึงเพียงนั้น เช่นนั้นก็มาดูว่าสุดท้ายใครจะร้อนใจก่อนกัน

“...บอกว่า ท่านชุยเส้าเจ๋อจะไม่มีวันแต่งงานสตรีแซ่เวินคนใดไปชั่วชีวิต”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ชุยเส้าเจ๋อกับเวินเยวี่ยแทบจะหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1084

    หลูเฟิงในเวลานี้อยากบีบคอเขาให้ตายนักยังต้องปกป้องเขาอีกหรือ?ถ้าไอ้แก่นี่ไม่ก่อเรื่อง เรื่องในคืนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!“บัดซบเอ๊ย!”หลังจากหลูเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งทันที “ทุกคน! คุ้มกันเจิ้นกั๋วกงเดี๋ยวนี้!”คนที่ฮ่องเต้ส่งมารีบคุ้มกันเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกที่หนีออกมาจากกระโจมที่ถูกผ่าออกไว้ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองจูเยวี่ยที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวังจูเยวี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ สายตาอันเย็นชาจับจ้องเพียงเวินเฉวียนเซิ่งที่ถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางเมื่อบีบคนออกมาได้แล้ว หลานซื่อก็ไม่ปล่อยให้จูเยวี่ยลงมือต่ออีกนางเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว เสี่ยวหานอยู่ที่ไหน?”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยวหานอะไรกัน ข้าไม่…”“ท่านควรบอกว่าท่านรู้ และรับรองด้วยว่าตอนนี้นางปลอดภัยดี”หลานซื่อขัดคำพูดเวินเฉวียนเซิ่งที่ต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันทีอย่างไม่เกรงใจ สายตาของนางแสดงเจตนาฆ่าชัดเจน “ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำให้พวกท่านทุกคนตายอยู่ที่นี่แน่”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันนิ่งเฉย เขาจ้องมองหลานซื่อด้วยสายตาอันมืดมนผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1083

    กว่าสิบศพถาโถมเข้าใส่กระโจม พร้อมกับระเบิดออกจู๋เยวี่ยและคนอื่น ๆ ยับยั้งไม่ทัน ถูกแรงระเบิดพัดกระเด็นออกไปแต่หลังจากร่วงลงสู่พื้น พวกเขามองดูบาดแผลบนร่างกายของตนเอง ก็พบว่าแรงระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิดไว้“นายน้อย!”จู๋เยวี่ยรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ถูกระเบิดทันทีแต่ในไม่ช้า นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนางเห็นหลานซื่อที่กำลังยืนอยู่กลางกระโจม และดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจู๋เยวี่ยคาดเดาได้ทันทีว่า เมื่อครู่นายหญิงของนางคงจะหลบเข้าไปในมิติปริศนานั่นดีมาก นายหญิงฉลาดจริง ๆไม่ได้รับบาดเจ็บคือความโชคดีอย่างยิ่งจู๋เยวี่ยรีบเข้าไปคุ้มกันนางไว้ข้างกาย ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”หลานซื่อผงกศีรษะเล็กน้อย ปลอบจู๋เยวี่ยและเกาหยางพลางเอ่ยว่า “ดินปืนในร่างของศพหุ่นเชิดพวกนั้นมีไม่มากนัก จุดประสงค์แท้จริงของพวกมันไม่ใช่เพื่อสังหารข้า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จู๋เยวี่ยและเกาหยางก็กลับมามีท่าทีระแวดระวังอีกครั้งไม่ใช่เพื่อสังหารคนในกระโจมหรือ?ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของเวินเฉวียนเซิ่งคืออะไร?เพื่อเบี่ยงเบนความส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1082

    เข้าสู่ราตรีกลางป่าพงไพรหลานซื่อนอนสงบเงียบอยู่ในกระโจมนางหลับตาทั้งสอง มีผ้าสักหลาดคลุมกาย หายใจสม่ำเสมอ ดูเหมือนหลับสนิทลงแล้วแต่ยามนี้สติของนางกลับตื่นตัวอย่างยิ่งนางกำลังใช้มุมมองของอวิ่นซิง มองไปรอบ ๆ จากบนหลังคากระโจมที่นางอยู่ภายนอกกระโจม ผืนป่าเงียบสงบยิ่งนักไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่เสียงแมลงในส่วนลึกของป่าก็ค่อย ๆ หายไปความรู้สึกมืดมนและแปลกประหลาดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นความรู้สึกที่หลานซื่อมองผืนป่าผ่านมุมมองของอวิ่นซิงเป็นเช่นนี้เองนางกำลังคิดว่า หากคืนนี้เวินเฉวียนเซิ่งจะลงมือ เขาจะทำอย่างไร?จะเป็นหลวงจีนเฒ่าลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่เมื่อหลานซื่อนึกถึงตรงนี้ ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนางยังไม่เคยประลองกับอีกฝ่ายอย่างจริงจังครั้งก่อนที่จวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะถือว่าได้ประมือกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่เผยไพ่ตายอย่างหมดเปลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ฝูงแมลงพิษของหลานซื่อได้ผ่านการยกระดับอย่างทรงพลังในช่วงเวลานี้ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนางอยากรู้จริง ๆ ว่า ครั้งนี้ไม้เท้าวิเศษของหลวงจีนเฒ่าผู้นั้นยังสามารถปราบฝูงแมลงพิษของนางได้หรือไม่น่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1081

    ทันทีที่หลานซื่อพูดจบ สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็มืดมนลงอย่างหนักในทันใดเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นไม่มีทางยอมรับการแลกเปลี่ยนนี้ได้เลย“หลานซื่อ ข้าคิดว่าท่าทีของข้าดีพอแล้ว”“อย่างนั้นหรือ?”หลานซื่อเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย”ไม่ว่าท่าทีของท่านจะดีหรือไม่ นางไม่อยากให้ก็คือไม่อยากให้เวินเฉวียนเซิ่งเห็นหลานซื่อไม่ยอมอ่อนข้อเลย ก็รู้ว่าการแลกเปลี่ยนนี้ไร้ความหวังในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงใช้วิธีอื่นแล้วไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องดอกบัวกระดูกมังกรเด็ดขาดหลังจากกลับมาที่คณะของตนเองเขาก็ให้หมอที่พามาจากตลาดการค้าชายแดนตรวจขาหมาป่าไม้ที่สวมอยู่บนขาของเขาในช่วงเวลาตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนสิ่งประหลาด สิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขาได้รับก็คือขาหมาป่าไม้นี้และด้วยขาหมาป่าไม้นี้ เขาจึงกลับมายืนได้อีกครั้งคู่หนึ่งปกติรองรับได้ราวสิบวัน แต่เพราะต้องเร่งเดินทางด้วยม้า ตอนนี้ขาคู่นี้แทบจะใช้การไม่ได้แล้วแม้ว่าจะยังไม่พังเสียทีเดียว แต่เวินเฉวียนเซิ่งกลับโยนมันทิ้งไปหน้าตาเฉย ทั้งที่มันมีราคาถึงสองพันตำลึงจากนั้นเวินเฉวียนเซิ่งก็ใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1080

    จากนั้นเขาก็หันไปมองหลานซื่อ สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายที่แผ่รอบกายจะผิดแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดหลานซื่อย่อมสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกันแต่นางเพียงชำเลืองมองเวินเฉวียนเซิ่งที่หลายวันมานี้ ดูเหมือนจะเดินเหินและเคลื่อนไหวได้เหมือนคนปกติแล้วอย่างเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับ“ท่านยายชอบก็ดีแล้ว ขอเพียงสมุนไพรนี้ทำให้ท่านยายมีความสุขขึ้นได้บ้าง มันก็คุ้มค่าแล้ว”ใครเล่าจะไม่ชอบเด็กที่ปากหวานและจิตใจดีแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำพลันยิ้มอย่างมีความสุขเหลือเกิน ก่อนจะดันพิษประหลาดนั้นกลับไป “พอแล้ว มีดอกบัวกระดูกมังกรต้นนั้นก็พอแล้ว ของสิ่งนี้เจ้าศึกษาวิจัยเอง เช่นนั้นก็เก็บไว้ให้ดี ไม่ต้องยกให้ยายแล้ว”หลานซื่อกำลังจะพูดอะไรต่อ แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำก็ให้นางนำภาพวาดมา“ก็อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ยายจะวาดแผนที่เส้นทางไปสถานที่แห่งนั้นให้พวกเจ้า แต่ยายขอเตือนพวกเจ้าไว้สักคำว่า ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งเข้าใกล้อันตรายก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้หนุ่มเจ้าต้องระวังให้ดี”“ขอบคุณท่านยายที่เตือน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”ครึ่งชั่วยามต่อมา หลานซื่อกับพวกก็ได้แผนที่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1079

    “ต้นฉบับหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงอยู่ในมือข้า หากซากปรักหักพังของหมู่บ้านเซียนที่ว่านั้นเป็นของจริง เจ้าก็จำเป็นต้องร่วมมือกับข้า”เวินเฉวียนเซิ่งพูดมาเช่นนี้ใบหน้าของหลานซื่อกลับปรากฏเจตนาฆ่าขึ้นแวบหนึ่ง “ข้าก็สามารถสังหารท่านตอนนี้ แล้วเอาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงของจริงไปก็ได้”เวินเฉวียนเซิ่งส่ายศีรษะ “เจ้าทำได้อยู่แล้ว แต่แน่ใจหรือว่าต้องการแตกหักกับข้าตอนนี้?”เขามองคนที่อยู่ด้านหลังหลานซื่อ “คนของเจ้าอีกครึ่งหนึ่งไม่อยู่ การที่พวกเขาหายไปนั้นเป็นภัยคุกคามต่อข้าได้จริง ๆ แต่ข้าก็ไม่เคยไร้แผนสำรอง”เมื่อได้ยินการข่มขู่ในน้ำเสียงของเขา สายตาของหลานซื่อก็ยิ่งเย็นชาขึ้น “จริงหรือ? เช่นนั้นท่านก็ลองดู ว่าคนของข้าอีกครึ่งหนึ่งอยู่แถวนี้จริงหรือเปล่า”บรรยากาศตึงเครียดขึ้นในทันทีสายตาของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนบรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงในทันใดจนกระทั่งครู่หนึ่งต่อมา...เห็นหลานซื่อเหมือนจะมีเจตนาฆ่าปะทุขึ้นมาจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้ง “เอาละ ข้าจะไม่ถือสาเจ้า”เขาพลิกฝ่ามือหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา “สมุนไพรหายากกับพิษประหลาดไม่มี แต่มีข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status