Share

บทที่ 8

Author: จิ้งซิง
เมื่อเวินฉางอวิ้นเดินขึ้นมาบนปะรำพิธี สายตาทอดมองไปที่น้องสาวทั้งสองคน เดิมทียังลังเลอยู่บ้าง

แต่เมื่อสบสายตาคาดหวังของเวินเยวี่ย เขาก็คลายหัวคิ้วในพริบตา

หัวเราะอย่างไม่มีทางเลือก

ช่างเถิด หากจะโทษก็ได้แต่โทษน้องห้าที่ไม่ได้รับความชื่นชอบเอง

ใครใช้ให้นางมีนิสัยอิจฉาริษยา ไม่ยอมให้น้องหกเลยสักนิดเล่า

ดังนั้นเวินฉางอวิ้นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป เดินผ่านหน้าเวินซื่อแล้วยื่นดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

จากนั้นก็เป็นเวินจื่อเฉิน เวินจื่อเยวี่ย เวินอวี้จือ...

รวมถึงคนสกุลเวิน ทุกคนต่างก็มอบดอกไม้ให้เวินเยวี่ย

ก็เหมือนกับชาติที่แล้ว...

เวินซื่อผู้โดดเดี่ยวกับเวินเยวี่ยที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สดและคำอวยพร

เวินซื่อไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนางก็รู้ผลสรุปเช่นนี้มานานแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่คาดหวังใด ๆ อีกต่อไปอย่างแน่นอน

หลังจากคนเหล่านั้นก็เป็นชุยเส้าเจ๋อ เทียบกับดอกไม้หนึ่งดอกที่คนอื่นมอบให้แล้ว เขาหอบดอกไม้บานหลากสีสันกำใหญ่เต็ม ๆ ไม่มองเวินซื่อสักแวบเดียว ก่อนจะยัดใส่อ้อมแขนของเวินเยวี่ยโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ดอกฉยงฮวาอวยพรวันเกิด ดนตรีเสียงสวรรค์ห้อมล้อมความงามให้น่าหลงใหล ขอให้ความงามของเจ้าคงอยู่ตลอดไป ยิ้มแย้มมิแปรเปลี่ยน”

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่ สี่ แล้วก็พี่เส้าเจ๋อด้วยเจ้าค่ะ ดอกไม้ที่พวกท่านมอบให้งามมากเลย ดอกไม้มากมายเพียงนี้ละลานตาข้าไปหมดแล้ว”

เวินเยวี่ยกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

พวกชุยเส้าเจ๋อห้อมล้อมนางไว้ บ้างก็ลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู บ้างก็มอบของขวัญที่ตั้งใจเตรียมไว้นานแล้ว

เนื่องจากคนที่มอบดอกไม้มีเยอะมากเกินไป เวินจื่อเฉินจึงถูกคนเบียดจนถอยหลังไปสองก้าว ชนเวินซื่อโดยไม่ทันระวัง

เมื่อเวินจื่อเฉินหันหน้าไปมองนาง พบว่านางไม่ได้รับดอกไม้เลยสักดอกก็หัวเราะเยาะเบา ๆ

“เจ้าก็อย่าอิจฉาเกินไป ถึงอย่างไรน้องหกได้รับดอกไม้มากมายถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะนางมีจิตใจดีบริสุทธิ์ หากเจ้าสามารถมีสักหนึ่งในสิบของน้องหกได้ ก็คงไม่ถึงขนาดไม่ได้รับดอกไม้สักดอกหรอก”

“ดังนั้น ต่อไปต้องสำนึกผิดให้มาก ๆ เสีย”

“ขอบคุณพี่รองที่ห่วงใยเจ้าค่ะ ไม่จำเป็นต้องสำนึกผิดแล้ว ข้าคิดว่าข้าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก”

เวินซื่อยิ้มอย่างขอไปที และไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

วันนี้เสียเวลาไปมากแล้ว สาเหตุที่นางยังต้องยืนอยู่ที่นี่ก็เพื่อรอให้ชุยเส้าเจ๋อรีบยกเลิกการหมั้น

แต่คนบางคนขึ้นปะรำพิธีแล้วก็เอาแต่สนใจกับการมอบดอกไม้ เหมือนใกล้จะลืม ‘เรื่องสำคัญ’ ของตนเองไปแล้ว

เวินซื่อหมดความอดทนเล็กน้อย จึงตัดสินใจผลักดันเขา

“ท่านพ่อ ในเมื่อพิธีปักปิ่นสิ้นสุดลงแล้ว ดูเหมือนทุกคนก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องการข้าแล้ว ไม่เช่นนั้นตอนนี้ข้าขอตัวกลับไปเลยแล้วกัน?”

เวินซื่อไม่สนใจเวินจื่อเฉินอีกต่อไป ก่อนจะหันหน้าไปเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่ง

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินว่านางจะไปแล้ว ชุยเส้าเจ๋อที่เดิมทียังคงล้อมรอบเวินเยวี่ยพลันหันหน้ากลับมา “เดี๋ยวก่อน เจ้าไปไม่ได้ ข้ายังมีเรื่องจะกล่าว”

ในที่สุดก็มาเสียที

ชุยเส้าเจ๋อถลึงตามองเวินซื่อ ตากนั้นก็ประสานมือกล่าวเสียงดังกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ตำแหน่งประธานพิธีว่า “ท่านลุง วันนี้หลานมีสองเรื่องอยากขอให้ท่านลุงช่วยตัดสินใจ เพื่อให้หลานสามารถสมหวังกับการแต่งงานด้วยขอรับ”

ทุกคนได้ยินคำพูดประโยคหลัง ยังนึกว่าชุยเส้าเจ๋อจะหารือเรื่องวันแต่งงานกับจวนเจิ้นกั๋วกง ในที่สุดก็เตรียมตัวจะแต่งงานกับเวินซื่อแล้ว

เวินเยวี่ยตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

นางไม่อยากให้เวินซื่อแย่งชุยเส้าเจ๋อไป

“พี่เส้าเจ๋อ...”

ชุยเส้าเจ๋อเห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของนาง ในใจพลันเกิดความรู้สึกปีติยินดี

เป็นอย่างที่คิดไว้เลย น้องเยวี่ยเอ๋อร์รักเขา

ดังนั้นนางจึงกลัวว่าเขาจะแต่งงานกับเวินซื่อจริง ๆ

แต่ไม่เป็นไร เขาเองก็รักน้องเยวี่ยเอ๋อร์เช่นกัน

ดังนั้นเขาไม่มีทางแต่งงานกับเวินซื่อเป็นอันขาด

ชาตินี้คนที่เขาจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น!

ชุยเส้าเจ๋อลูบศีรษะของเวินเยวี่ยอย่างรักใคร่เอ็นดู “เยวี่ยเอ๋อร์วางใจได้ ข้าจะมอบเรื่องน่าประหลาดใจให้เจ้า”

เขากล่าวจบก็สบตากับเวินเฉวียนเซิ่งโดยไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า “เรื่องแรกคือข้าอยากจะถอนหมั้น”

“ข้าอยากถอนหมั้นกับเวินซื่อ!”

“บังอาจ”

“เส้าเจ๋อ!”

เมื่อคำพูดของชุยเส้าเจ๋อออกมา แขกเหรื่อรอบด้านก็ส่งเสียงฮือฮา

ดวงตาของเวินเยวี่ยเปล่งประกาย

เวินเฉวียนเซิ่งกลับมีสีหน้าบึ้งตึง จ้องมองชุยเส้าเจ๋ออย่างเย็นชา

เวินหย่าลี่รู้นิสัยของพี่ชายจึงรีบดึงบุตรชายของตนไว้ “เส้าเจ๋อ มีเรื่องอะไรค่อยกล่าวกันทีหลัง วันนี้เป็นวันมงคลปักปิ่นของน้องสาวทั้งสองคนของเจ้า อย่าได้ก่อความวุ่นวายที่นี่”

แม้ว่านางไม่ชอบเวินซื่อเช่นกัน แต่ว่าต่อให้อยากจะถอนหมั้นก็ไม่ใช่การถอนหมั้นกันเช่นนี้

การถอนหมั้นต่อหน้าผู้คนไม่ใช่ว่ากำลังฉีกหน้าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงหรือไร?

ชุยเส้าเจ๋อยังคงยืนกราน สะบัดมือของเวินหย่าลี่ออกทันทีแล้วเอ่ยอย่างดื้อดึงว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมอีกต่อไปแล้ว ข้าคิดดีนานแล้ว”

เวินจื่อเฉินพลันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน เอ่ยถามอย่างเดือดดาลว่า “ข้าจะบอกให้นะชุยเส้าเจ๋อ ต่อให้น้องห้าเป็นเช่นไร นางก็เป็นน้องสาวที่เติบโตมาตั้งแต่เด็กด้วยกันกับเจ้า เจ้ากับนางเป็นเพื่อนเล่นกันมาหลายปี เจ้าจะต้องหยามเกียรตินาง หยามเกียรติจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราวันนี้ให้ได้หรือ?!”

เวินจื่อเฉินไม่ได้ปกป้องเวินซื่อ

เขาเพียงแค่รู้สึกว่าชุยเส้าเจ๋อไม่เห็นสกุลเวินของพวกเขาอยู่ในสายตามากเกินไปแล้ว!

“พี่รอง ข้าไม่ได้อยากหยามเกียรติสกุลเวิน ข้าเพียงแค่ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับสตรีจิตใจชั่วช้าและยังชอบอิจฉาริษยาอย่างเวินซื่อไปตลอดชีวิต! ดังนั้นไม่ว่าพวกท่านจะกล่าวอย่างไร วันนี้ข้าก็จะถอนหมั้น!”

ชุยเส้าเจ๋อเองก็รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนเป็นการทำผิดต่อสกุลเวินอยู่บ้าง

แต่เขาไม่นึกเสียใจ!

เวินเยวี่ยดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง หากพี่เส้าเจ๋อถอนหมั้นกับเวินซื่อ เช่นนั้นนางก็มีโอกาสแล้วใช่หรือไม่?

และดูจากการแสดงออกของชุยเส้าเจ๋อในยามปกติ ตำแหน่งฮูหยินของซื่อจื่อจวนจงหย่งโหวจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตามแม้เวินเยวี่ยจะมั่นใจแล้ว แต่ตอนนี้นางเป็นน้องสาวที่ ‘บริสุทธิ์จิตใจดี’ นะ~

เมื่อคิดเช่นนี้ เวินเยวี่ยก็ข่มกลั้นความพึงพอใจตรงมุมปาก แล้วแสร้งพูดเกลี้ยกล้อมชุยเส้าเจ๋อ

“พี่เส้าเจ๋อ พี่หญิงห้านางเคยทำผิดไปบ้าง แต่ว่าทำกับนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ? ถึงอย่างไรพี่หญิงห้าก็ชอบท่านถึงเพียงนั้น ไม่เช่นนั้นท่านก็เห็นแก่หน้าของข้า ให้อภัยพี่หญิงเถิดนะเจ้าคะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า ‘พี่หญิงห้าชอบท่านถึงเพียงนั้น’ ชุยเส้าเจ๋อก็ตกใจทันที

ใช่แล้ว เยวี่ยเอ๋อร์เตือนสติเขาจริง ๆ!

วันนี้เขาดึงดันจะถอนหมั้นให้ได้ แต่รับประกันไม่ได้ว่าต่อไปนางยังจะตามพัวพันเขาอีกหรือไม่

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้เวินซื่อล้มเลิกความคิดทั้งหมด!

ชุยเส้าเจ๋อหันหน้าไปเอ่ยเตือนเวินซื่อว่า “เวินซื่อ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าทำตัวเอง ต่อให้ข้าตายก็จะไม่แต่งงานกับเจ้าเป็นอันขาด ดังนั้นทางที่ดีเจ้ารู้จักดูสถานการณ์แล้วตกลงเรื่องนี้เสีย อย่างน้อยข้าจะรับปากเงื่อนไขของเจ้าหนึ่งข้อเพื่อเห็นแก่หน้าสกุลเวิน”

“แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าละโมบมากเกินไป ชาตินี้ข้าจะแต่งงานกับสตรีนางเดียวเท่านั้น คนผู้นั้นไม่ใช่เจ้า และข้าก็ไม่มีทางรับอนุด้วย”

คำพูดนี้ของชุยเส้าเจ๋อแทบจะชี้หน้าเวินซื่อบอกว่า ภรรยาก็ไม่ได้ อนุภรรยายิ่งอย่าฝัน!

ถึงอย่างไรเขารู้ว่าเวินซื่อชอบเขามาก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่พัวพันเขามาหลายปีเช่นนี้

เขาบอกว่าสามารถรับปากเงื่อนไขของนางหนึ่งข้อ แต่ถ้าเกิดนางใช้เงื่อนไขนี้มาข่มขู่ให้เขารับนางเป็นอนุภรรยาจะทำอย่างไร?

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเตือนนางอย่างรุนแรง

เลิกคิดเพ้อฝัน!

“หึ ๆ”

เวินซื่อที่มองพวกเขาเล่นละครอย่างเงียบ ๆ มาตลอดพลันหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างทนไม่ไหว

หลังจากนั้นเวินซื่อก็เหลือบมองเวินเยวี่ยที่กำลังแอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความลำพองใจและความท้าทายให้นาง ก่อนที่เวินซื่อจะยิ้มน้อย ๆ

“ได้สิ ข้ารับปากท่านก็ได้ แต่ท่านก็บอกเองนะว่าจะรับปากเงื่อนไขข้าหนึ่งข้อใช่หรือไม่?”

“ถูกต้อง”

ชุยเส้าเจ๋อกอดอก เชิดหน้ามองนาง “ขอเพียงเจ้าเลิกคิดจะเข้าประตูจวนจงหย่งโหวของพวกเรา เรื่องอื่นข้ารับปากเจ้าได้ทั้งหมด”

“ดีเหลือเกิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็สาบานต่อหน้าผู้คนเถิด...”

รอยยิ้มตรงมุมปากของเวินซื่อค่อย ๆ กว้างขึ้น

ชอบยั่วยุนางถึงเพียงนั้น เช่นนั้นก็มาดูว่าสุดท้ายใครจะร้อนใจก่อนกัน

“...บอกว่า ท่านชุยเส้าเจ๋อจะไม่มีวันแต่งงานสตรีแซ่เวินคนใดไปชั่วชีวิต”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ชุยเส้าเจ๋อกับเวินเยวี่ยแทบจะหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1134

    เก่อถูโล่งอกที่เกราะป้องกันหัวใจตรงหน้าอกของเขาช่วยต้านไว้ได้ส่วนหนึ่ง จึงทำให้หอกนั้นแทงเฉไปเล็กน้อยแต่ก็แค่ทำให้เขาทนอยู่ได้อีกเพียงครู่หนึ่งเท่านั้นภายใต้การโจมตีขนาบหน้าหลังของกองทัพธงดำและฝูงแมลงพิษ ทหารต่างเผ่าเหล่านั้นก็ไม่อาจต้านทานไว้ได้นานเพียงไม่นาน ในป่าเขาก็เต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของทหารต่างเผ่าที่ล้มตายเป็นทิวแถวสุดท้ายก็เหลือเพียงเก่อถูผู้เดียวเขาคุกเข่าลงกับพื้น หันกลับไปต้องการมองไปทางที่ตั้งของราชสำนักคราหนึ่งน่าเสียดายที่ยอดไม้อันหนาทึบบดบังทุกสิ่งไว้เขาจึงได้แต่หันกลับมา “ข้า...”“ฉัวะ!”เก่อถูดูเหมือนยังอยากจะพูดสั่งเสียอะไรสักอย่าง แต่เป่ยเฉินหยวนที่เต็มไปด้วยโทสะมานานแล้วย่อมไม่คิดจะให้โอกาสนี้แก่เขา ก้าวขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่ง แล้วเชือดคอเขาทันทีเสียง ‘ตุบ’ ดังขึ้น คนล้มลงกับพื้นหลังจากเช็ดคราบเลือดบนมือจนสะอาดแล้ว เป่ยเฉินหยวนจึงกลับมายังข้างกายหลานซื่อ“ตกใจหรือเปล่า?”หลานซื่อยิ้มเล็กน้อย “ท่านคิดว่าข้าตกใจง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ?”เป่ยเฉินหยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเช่นกัน “ก็จริง เจ้าใจกล้ามาก กลับเป็นข้าที่เกือบจะขวัญเสียเพราะเจ้าเสียแล้ว”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1133

    ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นเข้ามาจากกลางหน้าอก เก่อถูไม่ทันได้ตั้งตัวแต่เก่อถูก็ยังคงเป็นเก่อถู ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้ล้มลงในทันทีเขาดิ้นรนอย่างไม่ย่อท้อเพื่อให้หลุดพ้นจากปลายหอกของเป่ยเฉินหยวน ก่อนจะกุมบาดแผลที่หน้าอกโซเซถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อทหารใต้บัญชาของเขาเข้ามาประคองไว้ หันกลับไปก็มองเห็นชัดเจนว่าศัตรูที่โผล่ออกมาตรงหน้าคือใคร ผมสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ปลิวไสวไปตามลมภูเขา การโจมตีอย่างหนักที่กระหน่ำใส่เก่อถูทำให้เขาตกใจกลัวยิ่งกว่าหอกที่อยู่บนหน้าอกเสียอีก“ท่าน...เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้...ท่านจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?!”เก่อถูมองเป่ยเฉินหยวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงเขาจับท่อนแขนทหารข้างกายไว้แน่น ถอยหลังไปทีละก้าวอย่างควบคุมไม่ได้ท่าทีอันผิดแผกของแม่ทัพผู้นำทำให้เหล่าทหารต่างเผ่าคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างกายต่างสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเหล่าทหารยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ในใจของเก่อถูนั้นกลับร้อนรุ่มวุ่นวายอยู่นานแล้ว“ท่านคืออ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแห่งต้าหมิง! เป็นท่าน! เป็นท่านนั่นเอง!”“เหตุใดท่านถึงมาปรากฏตัวที่นี่?! เป่ยเฉินหยวน พวกท่านชาวต้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1132

    เก่อถูมองไม่เห็นทิศทางที่ลูกธนูยิงมา รู้เพียงว่ายิงออกมาจากส่วนลึกของป่าลูกธนูดอกนั้นปักคาอยู่กลางฝ่ามือของเขาพอดีก้านธนูที่คุ้นเคยทำให้หลานซื่อและเกาหยางกับพวกจำได้แทบจะในทันที“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน!”“ท่านอ๋อง!”“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”เกาหยางกับพวกตื่นเต้นดีใจยิ่งนักหลานซื่อก็อดรู้สึกยินดีอยู่ในใจไม่ได้ในที่สุดก็มาแล้ว!เมื่อเห็นหลานซื่อกับพวกที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างฉับพลัน เก่อถูก็รู้ทันทีว่ากำลังเสริมของชาวต้าหมิงเหล่านี้มาถึงแล้วเก่อถูที่กำลังหลงใหลในความงามก็ได้สติขึ้นมาทันทีจะปล่อยให้ชาวต้าหมิงเหล่านี้หนีไปไม่ได้!“สังหารพวกเขาเดี๋ยวนี้! ห้ามปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว!”ครั้งนี้เก่อถูไม่คิดที่จะไว้ชีวิตหลานซื่อไว้อีกต่อไป เพราะต่อให้หญิงงามเพียงใด ก็เทียบกับชีวิตของเขาไม่ได้หากครั้งนี้ เขาทำเรื่องนี้ล้มเหลว แม้ว่าเขาจะไม่ถึงตาย แต่องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองก็ไม่มีทางยกโทษให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาดดังนั้นคนต้าหมิงเหล่านี้ต้องตาย!เก่อถูตัดสินใจหมายจะสังหารในทันทีทว่าตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว...ทันทีที่ลูกธนูของเป่ยเฉินหยวนปรากฏขึ้น เกาหยางกับพวกก็เหม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1131

    จู๋เยวี่ยรีบตรวจดูใบหน้าของหลานซื่อเป็นอย่างแรกแน่นอน หลานซื่อไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะนางสวมหน้ากากอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาเพียงแต่ถึงแม้ใบหน้าจะไม่ถูกยิงบาดเจ็บ แต่ลูกธนูดอกนั้นกลับปัดหน้ากากบนใบหน้าของนางออกไปใบหน้าที่เย็นชาดุจเทพธิดาถูกเปิดเผยต่อสายตาของทุกคนในป่าเขาทันทีเก่อถูมองจนตะลึงงันอยู่กับที่สตรีต่างเผ่ามีไม่น้อย หญิงต่างเผ่าที่สะสวยก็มีไม่น้อยแต่สตรีที่งดงามราวกับเดินออกมาจากภาพวาด งามดั่งเทพธิดาเช่นนี้ กลับมีน้อยจนเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!ไม่ถูก!เก่อถูได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เขาเบิกตากว้างมองหญิงงามที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าอวบหนาของเขาเผยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นและเหิมเกริมออกมาทันที “ท่านเป็นหญิงหรือ? ไม่สิ ท่านน่ะเป็นหญิง!”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไม่นึกเลยว่าต้าหมิงจะมีสตรีที่งดงามเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังมาหาถึงที่อีก ดีจริง ดีเหลือเกิน!”เก่อถูหัวเราะลั่น อาจเป็นเพราะคล้อยตามอารมณ์ของเขา หรืออาจเป็นเพราะเสน่ห์ของความงามที่เย้ายวน ทหารต่างเผ่าที่เขาพามาด้านหลังต่างก็อดไม่ได้ที่จะร้อนรนขึ้นมาสายตาหลายคู่จับจ้องหลานซื่อ มีไม่น้อยที่เผยความหยาบโลนอันน่ารังเกียจออกมาแน่นอน เวลานี้ไม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1130

    เก่อถูโกรธจัดถึงขีดสุด สาบานว่าจะต้องสังหารหลานซื่อกับพวกให้ได้ทหารชั้นยอดที่ประตูเมืองตายไปเกือบหมด แต่ในเมืองเขายังมีกำลังคนอยู่หลังจากระดมทหารต่างเผ่าสองร้อยนายอย่างรวดเร็ว เขาก็รีบพาคนไล่ล่าไปตามทิศทางที่หลานซื่อกับพวกหนีไปทันทีเวลานี้หลานซื่อและเกาหยางกับพวกได้หนีออกมาเป็นระยะทางพอสมควรในเวลาอันสั้นแต่ถึงกระนั้น เกาหยางกับพวกก็ยังคงรู้สึกตกใจไม่หายไม่ใช่เพราะทหารที่ไล่ตามมาด้านหลัง แต่เป็นเพราะที่ประตูเมืองเมื่อครู่นี้พวกเขาสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางผงพิษร้ายแรงเรื่องนี้ช่างน่าตกตะลึง แปลกประหลาด และน่ายำเกรงเกินไปแล้วกองทัพธงดำจำนวนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะแอบมองผีเสื้อสีทองตัวนั้นที่อยู่บนศีรษะของธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเมื่อครู่ผีเสื้อตัวเล็ก ๆ เพียงตัวหนึ่ง ใช้ผงเกล็ดพิษร้ายที่กระพือออกจากปีกของมัน ล้มทหารต่างเผ่าไปเป็นจำนวนมากสภาพทหารต่างเผ่าเหล่านั้นที่กลายเป็นกระดูกแห้งในชั่วพริบตา ทำให้พวกเขายังคงจดจำได้ติดตาจนถึงตอนนี้ ไม่มีทางลืมได้เลยอย่าว่าแต่กองทัพธงดำเหล่านี้ แม้แต่เกาหยางก็ยังไม่นึกว่า จะมีแมลงที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อยู่ข้างกายธิดาศักดิ์

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1129

    ทหารต่างเผ่าหลายสิบคนที่พุ่งเข้ามาล้วนแต่ร่างสูงใหญ่กำยำ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นขุนพลที่เก่งกาจในการต่อสู้ถึงอย่างไรก็เคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองสองพี่น้องคู่นี้ตัดสินใจแล้วว่าจะแก้แค้นหลังจากได้ยาถอนพิษ แล้วจะไม่มีการเตรียมตัวเพิ่มได้อย่างไรดังนั้นครั้งนี้พวกเขาจึงตั้งใจคัดเลือกทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในมือ ปลอมตัวเป็นทหารลาดตระเวนในวังหลวง ทั้งหมดฟังคำสั่งของเก่อถูคำสั่งขององค์ชายใหญ่ต่อเก่อถูมีเพียงข้อเดียว...หลังจากได้ยาถอนพิษแล้ว ให้สังหารชาวต้าหมิงเหล่านี้ทันที!ไม่ว่าต้องจ่ายด้วยราคาใดก็ตาม เอาเป็นว่าห้ามปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว!เขาต้องการให้หลานซื่อกับพวกสิ้นชีพในวังหลวงทั้งหมด!ไม่ว่านางจะมีฐานะอะไรก็ตามหากเก่อถูรู้จักตัวตนที่แท้จริงของหลานซื่อ บางทีเขาอาจทัดทานองค์ชายใหญ่ของพวกเขา เพราะหากธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งต้าหมิงสิ้นชีพในวังหลวงจริง เกรงว่าจะนำความยุ่งยากไม่น้อยมาสู่พวกเขาแต่ตอนนี้เก่อถูไม่รู้ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติตามคำสั่งที่องค์ชายใหญ่ของพวกเขามอบหมายให้ด้วยความภักดีเป็นอย่างยิ่งทหารต่างเผ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดกรูเข้าล้อมสังหารเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status