เมื่อได้อยู่ในสถานที่อันหนาวเย็นและโดดเดี่ยวเช่นนั้นครั้งหนึ่ง ก็จะไม่อยากไปที่นั่นอีกเลยนางจำได้ว่าอาหารในคุกมีกลิ่นเหม็นแค่ไหนและยังจำได้ว่าถูกผู้คุมหยอกล้อและสร้างความอัปยศมากเพียงใด หลังจากโชคดีออกมาได้ ก็มาเห็นฉากที่เซียวเย่หลันถูกรายล้อมไปด้วยนางรำและกำลังดื่มสุราสิ่งเหล่านี้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ในใจของนางนางจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต“พั่บ——”ทันใดนั้นนกน้อยบนยอดไม้ก็กระพือปีกบินจากไป ทำลายความเงียบงันระหว่างทั้งสองคนเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกประหลาดใจ จึงยื่นมือออกแล้วตะโกนว่า “เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ!”“เมื่อครู่เจ้ากำลังคุยกับนกน้อยตัวนั้นอยู่หรือ...”เซียวเย่หลันลดสายตาลง น้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะแหบแห้งกว่าปกติ พร้อมกับมีอาการฝืดเคืองแต่เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของชายคนนั้น ทั้งยังพูดด้วยความโกรธว่า “ใช่ เพราะท่านอ๋องมา มันจึงตกใจกลัวจนหนีไป”“หากเจ้ามีคนอื่นที่ชอบ ก็สามารถบอกข้าได้ตามตรง ไม่จำเป็นต้องพูดกับนกก็ได้”เซียวเย่หลันถอนหายใจเขาอยากรู้ว่า ผู้ชายแบบไหนที่สามารถเปลี่ยนหัวใจของเซี่ยเชียนฮวันสตรีบ้าผู้ชายคนนี้ได้
“ไม่จำเป็น”เดิมทีเซียวเย่หลันคิดว่าอยากจะพูดกับเซี่ยเชียนฮวันหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้เสร็จแต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดออกไปความทุกข์ทรมานของเซี่ยเชียนฮวันตอนอยู่ในคุกไม่สามารถลบล้างได้ ไม่ว่าเขาจะอธิบายให้นางฟังมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นได้ยิ่งพยายามอธิบาย ก็ยิ่งกลายเป็นปกป้องตัวเองมากเท่านั้นแต่เย่ซิ่นคิดต่างออกไป เขาโน้มน้าวว่า “ที่ท่านอ๋องส่งทหารไปจับกุมตัวพระชายาเข้าสำนักคุมประพฤตินั้นเป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าหากท่านไม่ดำเนินการก่อน มหาดเล็กเซวี่ยจะรายงานต่อฝ่าบาท และให้ศาลต้าหลี่สอบปากคำ ถึงตอนนั้นพระชายาจะถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายมากขึ้นอย่างแน่นอน”“ภายนอก ท่านออกคำสั่งให้จับกุมพระชายา แต่จริงๆ แล้วท่านกำลังปกป้องนาง! ไม่ว่าสำนักคุมประพฤติจะเลวร้ายแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่าบาท ทว่าศาลต้าหลี่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอัครมหาเสนาบดีหลี่ หากพระชายาเข้าไป เกรงว่านางอาจจะไม่สามารถออกมาได้อย่างสมบูรณ์”ดังที่เย่ซิ่นกล่าวไว้ เส่าชิงคนปัจจุบันของศาลต้าหลี่เป็นลูกศิษย์ของอัครมหาเสนาบดีหลี่เป็นที่ทราบกันดีว่าอัครมหาเสนาบดีหลี่ไม่
“มันอยู่ด้านหลังห้องตำราของท่านอ๋อง ปกติไม่มีใครไปที่นั่น ท่านอ๋องไม่ชอบอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อน หากพระชายามีเวลา ก็สามารถลงไปแช่ตัวเพื่อกำจัดความเย็นในร่างกายของท่านได้”“อืม”น้ำพุร้อนหรือ ฟังดูไม่เลวเลยแต่วันนี้มันดึกมากแล้ว หลังจากที่เซี่ยเชียนฮวันเขียนใบสั่งยาเสร็จก็เตรียมตัวอาบน้ำนอน เรื่องแช่น้ำพุร้อนนะเอาไว้วันหลังแล้วกันนางสูดจมูก วางใบสั่งยาไว้ข้างๆ แล้วเดินไปที่ห้องด้านในเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนความสบายของผ้าห่มไหมผืนนี้เหนือจินตนาการของนางมากเมื่อเปรียบเทียบกับผ้าห่มขาดรุ่งริ่งในคุก เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ท่ามกลางเมฆนุ่มๆ ในตอนนี้ ไม่ช้านางก็หลับไปอย่างรวดเร็วเป็นค่ำคืนที่ไร้ความฝันวันรุ่งขึ้น เซี่ยเชียนฮวันเริ่มยุ่งเกี่ยวกับการเลือกยาและเตรียมขี้ผึ้ง จึงผ่านไปอีกหนึ่งวันโดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งตกเย็น ร่างของเซียวเย่หลันฃก็ปรากฏตัวต่อหน้านางเขากระแอมไอและพูดว่า “เสด็จพ่อถอดเซวี่ยฉีออกจากตำแหน่งราชการ และให้เขาเกษียณกลับบ้านเกิด”“จริงหรือ?” เซี่ยเชียนฮวันชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “พวกเขาจะจากไปเมื่อไหร่?”“ไม่นานนัก อีกประมาณแค่สองวัน”“ยังไม่สาย
เซียวเย่หลันตัดสินใจที่จะไม่โต้เถียงกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกต่อไปเขาจากไปด้วยความโกรธเย่ซิ่นซึ่งยืนอยู่นอกประตูหันกลับมาสบตากับเสี่ยวตงที่อยู่ข้างใน ก่อนที่สองพี่น้องจะพากันถอนหายใจความขัดแย้งระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาคราวนี้ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการคืนดี…เซียวเย่หลันยังคงทานอาหารเย็นที่เรือนจิ่นซิ่วคืนนี้เขาไม่เคยไปเยี่ยมเซี่ยเชียนฮวันอีกเลยสองวันผ่านไปเมื่อเซี่ยเชียนฮวันได้ยินว่าตระกูลเซวี่ยเตรียมรถม้าพร้อมออกจากเมืองหลวงแล้ว จึงเรียกเซี่ยเหยียนไปนั่งรอพวกเขาที่โรงน้ำชาใกล้ประตูเมือง“ฮวันฮวัน ตอนที่เจ้าถูกส่งไปยังสำนักคุมประพฤติ อาหารที่ส่งให้เจ้าล้วนเป็นพี่ชายเป็นคนซื้อให้ ตอนนี้เจ้าออกมาแล้ว ไม่ควรเชิญข้ามาทานอาหารดีๆ สักมื้อหรือ”เซี่ยเหยียนฉีกยิ้มกว้าง และสั่งชากับผลไม้ที่แพงที่สุดในโรงน้ำชา ขณะแสร้งทำเป็นถูกเซี่ยเชียนฮวันทำร้ายจิตใจเซี่ยเชียนฮวันจับคางแล้วมองไปที่ถนน “เจ้าจะซื้อเยอะไปทำไม สุดท้ายพอมาถึงมือข้าก็เหลือแค่ซาลาเปาไม่กี่ลูก”“ถูกต้อง ข้าเดาออกแต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้นข้าจึงซื้อของอย่างอื่นแบบส่งๆ มีเพียงซาลาเปาซึ่งข้าไปซื้อที่ร้านแม
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใด คนดีๆ เช่นนี้จะตายได้อย่างไร? ใครเป็นคนบังคับนาง?”เซี่ยเชียนฮวันถามอย่างกังวลใจ ต้องการจะยกม่านขึ้น และกระโดดขึ้นรถม้าทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เด็กสาวคนหนึ่งจะยกม่านรถขึ้นดวงตาเมล็ดซิ่งเบิกโพลง ถลึงมองเซี่ยเชียนฮวันอย่างโมโห“เซวี่ยจวิ้นทำให้ท่านพ่อสูญเสียอนาคต และชื่อเสียงของพวกเราพี่น้องก็พลอยเสียหาย ตอนนี้เราไม่สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้ มันคงดีกว่านี้ถ้าหากนางตาย!”เซี่ยเชียนฮวันชะงักเมื่อฟังน้ำเสียงของเด็กสาวผู้นี้ ปรากฎว่าเซวี่ยจวิ้นยังไม่ตาย นางเพียงระบายความขุ่นเคืองในใจออกมา“เจ้าเป็นน้องสาวต่างมารดาของเซวี่ยจวิ้น?” เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่เด็กสาว“แล้วอย่างไร คนที่สูญเสียพรหมจรรย์ก็คือนาง คนที่ไม่มีหน้าไปพบใครก็คือนาง ข้าไม่ยอมรับนางเป็นพี่สาวของข้าหรอก”เนื่องจากเด็กสาวคนนี้ตอนอยู่ในบ้านก็ได้รับความโปรดปรานจากบิดา ปกติจึงเป็นคนโผงผางแม้จะเป็นลูกสาวที่เกิดจากอนุภรรยา แต่กลับกล้าดูถูกเซวี่ยจวิ้นกลางถนนเช่นนี้สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้ามีจิตใจที่ชั่วร้ายตั้งแต่อายุยังน้อย เจ้ารู้ชัดเจนว่ามีคนชั่วที่ทำร้ายพี่สาวของเจ้า แต
“หม่อมฉันไม่อาจตอบแทนความเมตตาของพระชายาได้”หลังจากที่เซวี่ยจวิ้นรับยาทาแล้ว นางก็โค้งคำนับเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันประคองนางขึ้น “ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ จริงๆ แล้วข้าควรจะขอบคุณเจ้ามากกว่า เจ้าช่วยล้างชื่อเสียงให้ข้าตอนที่ฟื้นความทรงจำขึ้นมา หากไม่มีคำให้การของเจ้า ข้าคงตายในสำนักคุมประพฤติไปแล้ว”“เดิมทีพระชายาลำบากก็เพราะข้า”เซวี่ยจวิ้นถอนหายใจนี่เป็นสถานการณ์ที่พุ่งเป้าไปที่เซี่ยเชียนฮวันกับเซียวเย่หลันตั้งแต่ต้นส่วนนาง ในฐานะที่เป็นลูกสาว ก็เป็นแค่เบี้ยในกระดานเท่านั้นการช่วยล้างชื่อเสียงให้กับเซี่ยเชียนฮวัน ก็เป็นการต่อต้านของเบี้ยอย่างนางที่มีต่อผู้บงการเบื้องหลัง“ครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ยาวไกล คุณหนูรองเซวี่ยโปรดดูแลตัวเองด้วย ข้าเชื่อว่าแม้จะยากลำบากในตอนนี้ แต่เจ้าจะมีความสุขและมีชีวิตที่ราบรื่นในอนาคต”เซี่ยเชียนฮวันไม่ค่อยเก่งในการปลอบโยนผู้คน นางจึงกล่าวอวยพรเซวี่ยจวิ้นแค่สองสามคำเท่านั้นเซวี่ยจวิ้นยิ้มเล็กน้อย “เมื่อกลับถึงบ้านเกิดข้าคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ แต่พระชายา ยังคงอยู่ศูนย์กลางของพายุน้ำวนนี้ ทรงระวังตัวเองให้มากขึ้น”“ข้าชินแล้วล่ะ” เซี่ย
“พี่ ถ้าต้องการโค่นตระกูลหลี่ลง มันไม่ง่ายเลยหรือ”เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้วถามเซี่ยเหยียนเกาคอแล้วพูดว่า “เจ้าพูดไร้สาระอันใดกัน ตระกูลหลี่เป็นอัครมหาเสนาบดีมาหลายชั่วอายุคน อำนาจในราชสำนักมีความเกี่ยวพันกันอย่างซับซ้อน ถ้าตระกูลหลี่โค่นล้มได้ง่ายขนาดนั้น ก็ยังไม่ถึงตาเจ้าหรอก คงมีหลายคนแย่งกันลงมือ”“แต่พวกเขาสร้างความลำบากให้แก่ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า” ดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันดูเย็นชาเซี่ยเหยียนแสดงท่าทีที่หยาบคาย ใช้นิ้วดีดหน้าผากนาง “ใครบอกให้เจ้าอวดความเฉียบคมของเจ้ากัน เจ้าไม่รู้วิธีซ่อนความแข็งแกร่งและรอเวลา!”“ข้าก็อยากจะซ่อนความแข็งแกร่งและรอเวลา แต่ความแข็งแกร่งของข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น”เซี่ยเชียนฮวันพึมพำนางเป็นหมอ เมื่อเห็นคนไข้ได้รับบาดเจ็บ นางก็ไม่สามารถอดกลั้นไม่ลงมือได้“วางความแข็งแกร่งของเจ้าไว้ข้างๆ แล้วคิดให้รอบคอบ หลี่จิ้งหย่ากล้าวางยาฮองเฮา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดคุก แค่โดนปลดออกจากตำแหน่งพระชายาเท่านั้น ลองเปลี่ยนเป็นคนอื่นดูสิ? เจ้าแค่ต้องสงสัยว่าวางแผนการร้ายกับลูกสาวของขุนนางคนหนึ่ง แต่กลับถูกส่งไปสำนักคุมประพฤติจนได้กินซาลาเปาประทังชีวิต”เซี่ยเหยียนยก
“ข้าติดสินบนใคร ใครจะรู้ว่าคนอย่างท่านที่ไม่อาบน้ำพุร้อนมาแปดร้อยปีจู่ๆ ก็มาปรากฏตัวที่นี่ ถ้ารู้ว่าท่านจะมา ข้ายอมเทน้ำเย็นใส่หัวดีกว่ามาแช่ตัวที่นี่”เมื่อเซี่ยเชียนฮวันเห็นเซียวเย่หลันตอนนี้ ก็มีเพียงสองคำในใจโชคร้าย!แต่เซียวเย่หลันกลับคิดว่านางแค่ปากแข็ง จึงเปรยขึ้นเบาๆ ว่า “ไม่จำเป็นต้องเล่นลูกไม้นี้กับข้า ข้าเบื่อแล้ว”“ใครเล่นลูกไม้กับท่าน ไร้เหตุผลสิ้นดี!”เซี่ยเชียนฮวันพยายามจะหนีจากเขาอย่างไรก็ตาม เซียวเย่หลันกดไหล่นางด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งจับเอวของนาง ก่อนตะโกนด้วยเสียงต่ำว่า “อย่าขยับ! ก้นสระนี้ลื่น ถ้าหากท้องเจ้ากระแทกอะไรเข้า ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”เซี่ยเชียนฮวันเม้มปาก ไม่กล้าขยับซี้ซั้วแต่มือของชายผู้นี้ไม่อยู่เฉยเขา เขาฉวยโอกาสแตะต้องนาง ในขณะที่นางเปลือยเปล่า...“เซียวเย่หลัน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะขึ้นฝั่ง!” เซี่ยเชียนฮวันกัดฟันพูด“หาได้ยากที่พระชายาจะมาแช่น้ำกับข้าเหมือนเป็ดแมนดาริน หากจบลงเร็วขนาดนี้ คงน่าเสียดายแย่”น้ำเสียงของเซียวเย่หลันดูไม่ใส่ใจ จับร่างของนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเซี่ยเชียนฮวันโกรธจัด “ไปให้พ้น! หยุดคำพูดที่น่าสะอิดส