ในเมื่อเมื่อวานหลินเฟิงฝากฝังเรื่องไว้กับเธอเธอไม่กล้าลืมหรอกเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ จางเจียหนิงรายงานชื่อของสำนักไป๋เกาในทันทีคนรับใช้ไม่กล้าเฉยเมย รีบเชิญจางเจียหนิงเข้าไปในคฤหาสน์เมื่อมาถึงห้องรับแขก คนรับใช้พูดอย่างสุภาพ: “คุณหนูจาง คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ ฉันไปรายงานนายท่านเดี๋ยวนี้ค่ะ”จางเจียหนิงพยักหน้าติดต่อกัน: “ค่ะ รบกวนคุณด้วยค่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ไห่ซานเดินค้ำไม้เท้าลงมาจากชั้นสองด้านหลังมีจางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาตามมาด้วย“คุณปู่ช้า ๆ หน่อยค่ะ”เมื่อคืนหลังจากที่จางกุ้ยหลานนัดเดทกับเพื่อนเก่าสมัยเรียน คนทั้งคนดูกะปรี้กะเปร่าอย่างมาก และอารมณ์ดีเป็นพิเศษมีความใจกว้างต่อคุณปู่เพิ่มขึ้นเยอะมากเดิมทีเธอยังอยากนอนต่ออีก แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่มาคือหลานสาวของจางเต๋อหลิน เธอก็ไม่กล้าเฉยเมย จึงตามคุณปู่ลงมาชั้นล่างด้วยกันถึงขั้นที่เรียกลูกชายของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาจางเจียหนิงเห็นคนตระกูลหลี่ลงมาก็รีบลุกขึ้นยืน“คุณปู่ตระกูลหลี่ สวัสดีค่ะ ฉันคือจางเจียหนิงของสำนักไป๋เกา”“ไอหยา เจียหนิง รีบนั่ง รีบนั่ง มาที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของตัวเอง อย่าเกรงใจเด็ดขาด”
จางเจียหนิงตกใจอย่างมากคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะอารมณ์ขึ้นถึงขนาดนี้ในใจแอบคิดเอาเอง หลินเฟิงมีความแค้นอะไรกับเธอกันแน่นะ?จางกุ้ยหลานใบหน้าดุดัน ด่าเสร็จจึงนึกขึ้นได้ว่าจางเจียหนิงยังอยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเธอหัวเราะแห้ง ๆ: “คุณหนูจาง ฉันไม่ได้ตะคอกใส่คุณนะคะ”“คุณไม่รู้หรอกค่ะ หลินเฟิงคนนั้นคืออดีตสามีของฮุ่ยหราน อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลหลี่ของเราสามปี”“ไม่หาเงินแม้แต่สตางค์เดียว มีแต่ฮุ่ยหรานของพวกเราเลี้ยงดูเขา เป็นคนไร้ค่าจริง ๆ เลย”จางเจียหนิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “คุณน้าวางใจได้ค่ะ ฉันไม่บอกเขาแน่นอน”ดูท่าหลินเฟิงคิดได้รอบคอบมาก โชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดว่ายานี้หลินเฟิงเป็นคนทำขึ้นมาไม่อย่างนั้นจางกุ้ยหลานคนนี้คงจะนำยาไปโยนทิ้งจริง ๆ ก็ได้ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่กระแอมขึ้นมา และถลึงตาใส่จางกุ้ยหลาน: “หลินเฟิงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเหมือนกับที่เธอพูด”“เอาเถอะ คุณปู่ คุณอย่าช่วยพูดจาแทนหลินเฟิงเลย หรือที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอคะ?” จางกุ้ยหลานกลอกตามองบนในตอนนี้หลี่เหวินเชาขยับเข้ามาใกล้ และมองจางเจียหนิงอย่างละลาบละล้วง: “คุณหนูจาง ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วยังครับ
“ฉันรีบร้อนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นน่ะสิ ถ้าเขามีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของหลินเฟิง ฉันก็มีหน้าไปสู่ขอให้”หลี่เหวินเชาพูดอย่างไม่พอใจ: “คุณปู่ ในสายตาของคุณ ผมเทียบหลินเฟิงไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”“ฉันดูแล้วคุณปู่สมองเลอะเลือนแล้ว หน้าของหลานสาวคุณถูกคนเอามีดกรีดจนเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ใช่เพราะหลินเฟิงเหรอ” จางกุ้ยหลานก็ไม่พอใจคุณปู่ขมวดคิ้วพูด: “เรื่องนี้ทำไมถึงโทษหลินเฟิงได้ล่ะ? อีกอย่างหลินเฟิงไหว้หวานสำนักไป๋เกาให้ทำยารักษาฮุ่ยหรานแล้วไม่ใช่เหรอ”“ฮ่าฮ่าฮ่า......”จางกุ้ยหลานหัวเราะเสียงดัง: “คุณคิดอะไรอยู่น่ะ? หลินเฟิงมีคุณสมบัติอะไรให้จางเต๋อหลินทำยาให้?”“งั้นจางเต๋อหลินรู้ได้อย่างไรว่าฮุ่ยหรานได้รับบาดเจ็บ? หรือเป็นเพราะพวกเธอไปบอกจางเต๋อหลินเหรอ?”คุณปู่เชื่อมั่นว่าเบื้อหลังเรื่องนี้ ต้องเป็นเพราะหลินเฟิงได้ออกแรงแล้วจางกุ้ยหลานสองมือกอดอกพูดเย้ยหยัน: “นั่นเป็นเพราะเลี่ยวกั๋วต้งเพื่อนเก่าสมัยเรียนของฉันโทรศัพท์ไปหาจางเต๋อหลิน เขาถึงได้รับปากรักษาให้ฮุ่ยหราน”“เลี่ยวกั๋วต้ง ใครกัน?” คุณปู่ขมวดคิ้วถามจางกุ้ยหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ: “เพื่อนเก่าของฉันคนหนึ่ง ต
หลี่ฮุ่ยหรานมีความมั่นใจกลับมาเหมือนกับในอดีตทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง“พี่......ตอนนี้พี่เปลี่ยนไปสวยกว่าเมื่อก่อนอีก” หลี่เหวินเชาอดชื่นชมไม่ได้“จิ๊จิ๊ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกสาวของจางกุ้ยหลาน สวยหยาดเยิ้มโดยธรรมชาติ นี่ไม่สวยกว่านังจิ้งจอกถังหว่านคนนั้นเยอะเลยเหรอ” จางกุ้ยหลานพูดอย่างถือดีเลี่ยวกั๋วต้งที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าติดต่อกัน: “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่คุณเป็นสาวเป็นถึงดาวโรงเรียนเชียวนะ ฮุ่ยหรานไม่มีทางแย่อยู่แล้ว”ในใจของเขาอดตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ในวิชาการแพทย์ของจางเต๋อหลินไม่ได้ และก็ยิ่งตกตะลึงกับความสวยของหลี่ฮุ่ยหรานน่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแต่ว่า......ก็ไม่บอกสักหน่อยว่าโคแก่กินหญ้าอ่อนไม่ได้นี่นา!จางกุ้ยหลานสะกิดลูกสาวที่ดื่มด่ำอยู่กับความสวยงาม: “ฮุ่ยหราน ลูกยังไม่รีบขอบคุณคุณลุงเลี่ยวอีก”“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลุงเลี่ยวไหว้วานเส้นสายไปหาจางเต๋อหลิน หน้าของลูกไม่รู้ว่าจะหายดีตอนไหนด้วยซ้ำ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งคำนับและพูดขอบคุณ: “ขอบคุณค่ะลุงเลี่ยว”“จ้า ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ......เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง”เลี
หลินเฟิงกระแอมเสียงเบา: “ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ในฐานะบอดี้การ์ดของคุณ แน่นอนว่าจะต้องปกป้องคุณ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”“คุณเนี่ยนะปากแข็งมากจริง ๆ” ถังหวั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดขึ้นไม่นานนัก หลินเฟิงลงมาถึงชั้นล่าง ถังหว่านกับฉินอิ๋งได้รอเป็นเวลานานเมื่อขึ้นรถ ถังหว่านก็ยิ้มพูด: “คุณว่าวันนี้หลี่ฮุ่ยหรานจะมาไหมนะ?”หลินเฟิงคำนวณเวลา เมื่อวานหลี่ฮุ่ยหรานน่าจะได้รับยาของตัวเองแล้วใบหน้าของเธอน่าจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิมแล้ว“น่าจะไปมั้ง”ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็มาถึงไซต์งานที่รกร้างตรงเขตซีเฉิงรอบด้านมีริบบิ้นสีแดงผูกอยู่เต็มไปหมด บนพื้นยังปูพรมแดงอีกด้วยเถ้าแก่หลายคนในเมืองเจียงโจวก็มาร่วมครึกครื้นที่รกร้างแห่งนี้ จึงคึกคักขึ้นมาหลังจากถังหว่านจอดรถก็มองหลินเฟิงผ่านกระจกมองหลังแล้วถามขึ้น: “อีกเดี๋ยวฉันจะไปคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่คนอื่น ๆ หน่อย คุณจะไปด้วยกันไหม?”“ช่างเถอะ ผมไม่ชอบพูดคุยเรื่อยเปื่อย ให้ฉินอิ๋งไปกับคุณเถอะ มีเรื่องอะไรคุณค่อยเรียกผม”ถังหว่านพยักหน้า: “ได้ งั้นคุณเดินเล่นตามสบาย มีอะไรฉันจะติดต่อคุณ”หลินเฟิงพยักหน้าเมื่อถังหว่านลงจากรถก็ถูกเถ้าแก่จำนวนหลายค
แน่นอนว่าหวางเส้าหลงไม่เชื่อที่จางกุ้ยหลานพูด และคิดว่าเธอก็แค่คุยโวโอ้อวดโบกไม้โบกมืออย่างทนไม่ไหว: “พอแล้วๆ อย่ามาทำให้ผมชักช้าอยู่ตรงนี้”พูดจบก็โอบเอวแฟนสาวหุ่นนางแบบเดินจากไปจางฮุ้ยหลานยังอยากจะแก้ตัวอีกสักหน่อย และหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา: “เขาขี้เกียจสนใจคุณ แต่คุณยังจะเสนอหน้าทำดีกับเขาอีก”“นายเงียบไปเลยนะ นี่มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”จางฮุ่ยหลานถลึงตาดุใส่เขาถังหว่านในเวลาก็ถือไมโครโฟนเดินขึ้นมากลางเวทีใบหน้าเผยรอยยิ้มด้วยความเป็นอาชีพ: “วันนี้เป็นพิธีตัดริบบิ้นเปิดโครงการซีเฉิง ก่อนอื่นฉันอยากแนะนำพาร์ตเนอร์ของฉันสักหน่อยค่ะ...”“ประธานกรรมการของหลี่ซื่อกรุ๊ป คุณหลี่ฮุ่ยหราน...”ถังหว่านพูดจบเสียงปรบมือด้านล่างเวทีก็ดังกึกก้องขึ้นในทันทีเห็นเพียงหลี่ฮุ่ยหรานสวมกระโปรงยาวสีฟ้า และเดินจับชายกระโปรงเดินขึ้นไปอย่างช้าๆหวางเส้าหลงปรบมือแบบส่งไปที แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้ารูปไข่สวยไร้ที่ติของหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนกรามแทบค้างดวงตาคู่นั้นจ้องมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความที่ไม่ยากจะเชื่อ“นี่...นี่แม่งเป็นไปได้ไง?”เขาเห็นกับตาว่าแผลเป็นจากคมมีดบนหน้
นับตั้งแต่ที่ไดนาสตี้บาร์ครั้งก่อน ทำให้รู้จักหน้าคร่าตาของหวางเส้าหลงเธอก็รังเกียจหวางเส้าหลงมากเหมือนกันแม้หลินเฟิงจะเป็นคนไร้ประโยชน์ไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่เหมือนหวางเส้าหลงที่จอมปลอมขนาดนั้นตัวเธอเองมองคนผิดไปแล้วจริงๆหวางเส้าหลงรู้ว่าหลี่ฮุ้ยหรานยังโกรธอยู่จึงหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดขึ้น: “ฮุ้ยหราน ที่ผ่านมาผมไม่ดีเอง ผมไม่ควรเอาดีเข้าตัวเลย”“ผมรับรองว่าต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกเป็นอันขาด คุณให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ”หลี่ฮุ้ยหรานหัวเราะด้วยเย็นชา: “โอกาสอะไร? ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทอะไรกันไม่ใช่เหรอ?”หวางเส้าหลงพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง หลี่ฮุ้ยหรานในเวลานี้ไม่คิดจะคืนดีกับเขาแล้วมองดูหลี่ฮุ้ยหรานหายไปท่ามกลางฝูงชนหวางเส้าหลงโกรธจนกัดฟันกรอดและกำหมัดแน่น ในใจก็ด่าขึ้นว่า: “เดี๋ยวได้เจอดีแน่ หลี่ฮุ้ยหราน”“ฉันช่วยให้มึงได้ร่วมมือกับตระกูลถัง ไม่คิดเลยว่ามึงแม่งยังกล้าถีบส่งฉัน”“ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้แกได้ชดใช้”หลินเฟิงนั่งอาบแดดอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่งที่อยู่ด้านล่างเวทีหลี่ฮุ้ยหรานในเวลานี้ได้เดินมาจากทางด้านหลังของเขา และนั่งลงข้างๆ เขาหลินเฟิงลืมตาขึ้นอย่า
หลินเฟิงได้ยินประโยคนี้ก็ขมวดคิ้วในทันทีสู่ขอ และยังจะเป็นดองกับจางเต๋อหลินด้วยเนี่ยนะ? เหมือนจางเต๋อหลินจะมีหลานสาวที่มีอายุพอจะแต่งงานได้แค่คนเดียวด้วยสิคงไม่ใช่จางเจียหนิงหรอกนะ?เลี่ยวกั๋วต้งยิ้มเบาๆ แล้วพูดขึ้น: “เหวินเชาวางใจเถอะนะ ลุงไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย”“ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เป็นพ่อสื่อให้กับหนู ยังจะช่วยแนะนำงานให้กับหนูด้วย”เดิมทีเขาไม่อยากที่จะรับปากเรื่องนี้เลย แต่เมื่อคืนวานเขาคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบขึ้นได้ซึ่งไม่เพียงจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้กับหลี่เหวินเชา แถมยังทำให้หลี่เหวินเชาได้มีงานที่ไม่เลวงานหนึ่งทำหลี่เหวินเชาทำหน้าสีตกตะลึง: “ยังช่วยผม...หางานด้วยงั้นเหรอครับ?“งานอะไรเหรอครับ?” เขาถามขึ้นด้วยความประหลาดใจส่วนตัวเขาไม่คิดที่จะอยากทำงานเลยสักนิด หากจะต้องทำงานไม่สู้ใช้ชีวิตไปกับวันกับพี่สาวของตัวเองอยู่อย่างนั้นดีกว่าเลี่ยวกั๋วต้งยิ้มพร้อมพูดขึ้น: “ทำงานให้กับคุณหนูถัง”“ซืด...ทำงานเป็นลูกน้องของถังหว่านงั้นเหรอ?” จางกุ้ยหลานตกใจได้ทำงานอยู่ข้างกายของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง นั่นเป็นงานที่ใครหลายคนใฝ่หาและใช่ว่าจะได้มา“กั๋วต้ง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเก่งขนา