ในเมื่อเมื่อวานหลินเฟิงฝากฝังเรื่องไว้กับเธอเธอไม่กล้าลืมหรอกเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ จางเจียหนิงรายงานชื่อของสำนักไป๋เกาในทันทีคนรับใช้ไม่กล้าเฉยเมย รีบเชิญจางเจียหนิงเข้าไปในคฤหาสน์เมื่อมาถึงห้องรับแขก คนรับใช้พูดอย่างสุภาพ: “คุณหนูจาง คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ ฉันไปรายงานนายท่านเดี๋ยวนี้ค่ะ”จางเจียหนิงพยักหน้าติดต่อกัน: “ค่ะ รบกวนคุณด้วยค่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ไห่ซานเดินค้ำไม้เท้าลงมาจากชั้นสองด้านหลังมีจางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาตามมาด้วย“คุณปู่ช้า ๆ หน่อยค่ะ”เมื่อคืนหลังจากที่จางกุ้ยหลานนัดเดทกับเพื่อนเก่าสมัยเรียน คนทั้งคนดูกะปรี้กะเปร่าอย่างมาก และอารมณ์ดีเป็นพิเศษมีความใจกว้างต่อคุณปู่เพิ่มขึ้นเยอะมากเดิมทีเธอยังอยากนอนต่ออีก แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่มาคือหลานสาวของจางเต๋อหลิน เธอก็ไม่กล้าเฉยเมย จึงตามคุณปู่ลงมาชั้นล่างด้วยกันถึงขั้นที่เรียกลูกชายของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาจางเจียหนิงเห็นคนตระกูลหลี่ลงมาก็รีบลุกขึ้นยืน“คุณปู่ตระกูลหลี่ สวัสดีค่ะ ฉันคือจางเจียหนิงของสำนักไป๋เกา”“ไอหยา เจียหนิง รีบนั่ง รีบนั่ง มาที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของตัวเอง อย่าเกรงใจเด็ดขาด”
จางเจียหนิงตกใจอย่างมากคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะอารมณ์ขึ้นถึงขนาดนี้ในใจแอบคิดเอาเอง หลินเฟิงมีความแค้นอะไรกับเธอกันแน่นะ?จางกุ้ยหลานใบหน้าดุดัน ด่าเสร็จจึงนึกขึ้นได้ว่าจางเจียหนิงยังอยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเธอหัวเราะแห้ง ๆ: “คุณหนูจาง ฉันไม่ได้ตะคอกใส่คุณนะคะ”“คุณไม่รู้หรอกค่ะ หลินเฟิงคนนั้นคืออดีตสามีของฮุ่ยหราน อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลหลี่ของเราสามปี”“ไม่หาเงินแม้แต่สตางค์เดียว มีแต่ฮุ่ยหรานของพวกเราเลี้ยงดูเขา เป็นคนไร้ค่าจริง ๆ เลย”จางเจียหนิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “คุณน้าวางใจได้ค่ะ ฉันไม่บอกเขาแน่นอน”ดูท่าหลินเฟิงคิดได้รอบคอบมาก โชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดว่ายานี้หลินเฟิงเป็นคนทำขึ้นมาไม่อย่างนั้นจางกุ้ยหลานคนนี้คงจะนำยาไปโยนทิ้งจริง ๆ ก็ได้ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่กระแอมขึ้นมา และถลึงตาใส่จางกุ้ยหลาน: “หลินเฟิงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเหมือนกับที่เธอพูด”“เอาเถอะ คุณปู่ คุณอย่าช่วยพูดจาแทนหลินเฟิงเลย หรือที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอคะ?” จางกุ้ยหลานกลอกตามองบนในตอนนี้หลี่เหวินเชาขยับเข้ามาใกล้ และมองจางเจียหนิงอย่างละลาบละล้วง: “คุณหนูจาง ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วยังครับ
“ฉันรีบร้อนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นน่ะสิ ถ้าเขามีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของหลินเฟิง ฉันก็มีหน้าไปสู่ขอให้”หลี่เหวินเชาพูดอย่างไม่พอใจ: “คุณปู่ ในสายตาของคุณ ผมเทียบหลินเฟิงไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”“ฉันดูแล้วคุณปู่สมองเลอะเลือนแล้ว หน้าของหลานสาวคุณถูกคนเอามีดกรีดจนเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ใช่เพราะหลินเฟิงเหรอ” จางกุ้ยหลานก็ไม่พอใจคุณปู่ขมวดคิ้วพูด: “เรื่องนี้ทำไมถึงโทษหลินเฟิงได้ล่ะ? อีกอย่างหลินเฟิงไหว้หวานสำนักไป๋เกาให้ทำยารักษาฮุ่ยหรานแล้วไม่ใช่เหรอ”“ฮ่าฮ่าฮ่า......”จางกุ้ยหลานหัวเราะเสียงดัง: “คุณคิดอะไรอยู่น่ะ? หลินเฟิงมีคุณสมบัติอะไรให้จางเต๋อหลินทำยาให้?”“งั้นจางเต๋อหลินรู้ได้อย่างไรว่าฮุ่ยหรานได้รับบาดเจ็บ? หรือเป็นเพราะพวกเธอไปบอกจางเต๋อหลินเหรอ?”คุณปู่เชื่อมั่นว่าเบื้อหลังเรื่องนี้ ต้องเป็นเพราะหลินเฟิงได้ออกแรงแล้วจางกุ้ยหลานสองมือกอดอกพูดเย้ยหยัน: “นั่นเป็นเพราะเลี่ยวกั๋วต้งเพื่อนเก่าสมัยเรียนของฉันโทรศัพท์ไปหาจางเต๋อหลิน เขาถึงได้รับปากรักษาให้ฮุ่ยหราน”“เลี่ยวกั๋วต้ง ใครกัน?” คุณปู่ขมวดคิ้วถามจางกุ้ยหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ: “เพื่อนเก่าของฉันคนหนึ่ง ต
หลี่ฮุ่ยหรานมีความมั่นใจกลับมาเหมือนกับในอดีตทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง“พี่......ตอนนี้พี่เปลี่ยนไปสวยกว่าเมื่อก่อนอีก” หลี่เหวินเชาอดชื่นชมไม่ได้“จิ๊จิ๊ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกสาวของจางกุ้ยหลาน สวยหยาดเยิ้มโดยธรรมชาติ นี่ไม่สวยกว่านังจิ้งจอกถังหว่านคนนั้นเยอะเลยเหรอ” จางกุ้ยหลานพูดอย่างถือดีเลี่ยวกั๋วต้งที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าติดต่อกัน: “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่คุณเป็นสาวเป็นถึงดาวโรงเรียนเชียวนะ ฮุ่ยหรานไม่มีทางแย่อยู่แล้ว”ในใจของเขาอดตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ในวิชาการแพทย์ของจางเต๋อหลินไม่ได้ และก็ยิ่งตกตะลึงกับความสวยของหลี่ฮุ่ยหรานน่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแต่ว่า......ก็ไม่บอกสักหน่อยว่าโคแก่กินหญ้าอ่อนไม่ได้นี่นา!จางกุ้ยหลานสะกิดลูกสาวที่ดื่มด่ำอยู่กับความสวยงาม: “ฮุ่ยหราน ลูกยังไม่รีบขอบคุณคุณลุงเลี่ยวอีก”“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลุงเลี่ยวไหว้วานเส้นสายไปหาจางเต๋อหลิน หน้าของลูกไม่รู้ว่าจะหายดีตอนไหนด้วยซ้ำ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งคำนับและพูดขอบคุณ: “ขอบคุณค่ะลุงเลี่ยว”“จ้า ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ......เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง”เลี
หลินเฟิงกระแอมเสียงเบา: “ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ในฐานะบอดี้การ์ดของคุณ แน่นอนว่าจะต้องปกป้องคุณ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”“คุณเนี่ยนะปากแข็งมากจริง ๆ” ถังหวั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดขึ้นไม่นานนัก หลินเฟิงลงมาถึงชั้นล่าง ถังหว่านกับฉินอิ๋งได้รอเป็นเวลานานเมื่อขึ้นรถ ถังหว่านก็ยิ้มพูด: “คุณว่าวันนี้หลี่ฮุ่ยหรานจะมาไหมนะ?”หลินเฟิงคำนวณเวลา เมื่อวานหลี่ฮุ่ยหรานน่าจะได้รับยาของตัวเองแล้วใบหน้าของเธอน่าจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิมแล้ว“น่าจะไปมั้ง”ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็มาถึงไซต์งานที่รกร้างตรงเขตซีเฉิงรอบด้านมีริบบิ้นสีแดงผูกอยู่เต็มไปหมด บนพื้นยังปูพรมแดงอีกด้วยเถ้าแก่หลายคนในเมืองเจียงโจวก็มาร่วมครึกครื้นที่รกร้างแห่งนี้ จึงคึกคักขึ้นมาหลังจากถังหว่านจอดรถก็มองหลินเฟิงผ่านกระจกมองหลังแล้วถามขึ้น: “อีกเดี๋ยวฉันจะไปคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่คนอื่น ๆ หน่อย คุณจะไปด้วยกันไหม?”“ช่างเถอะ ผมไม่ชอบพูดคุยเรื่อยเปื่อย ให้ฉินอิ๋งไปกับคุณเถอะ มีเรื่องอะไรคุณค่อยเรียกผม”ถังหว่านพยักหน้า: “ได้ งั้นคุณเดินเล่นตามสบาย มีอะไรฉันจะติดต่อคุณ”หลินเฟิงพยักหน้าเมื่อถังหว่านลงจากรถก็ถูกเถ้าแก่จำนวนหลายค
แน่นอนว่าหวางเส้าหลงไม่เชื่อที่จางกุ้ยหลานพูด และคิดว่าเธอก็แค่คุยโวโอ้อวดโบกไม้โบกมืออย่างทนไม่ไหว: “พอแล้วๆ อย่ามาทำให้ผมชักช้าอยู่ตรงนี้”พูดจบก็โอบเอวแฟนสาวหุ่นนางแบบเดินจากไปจางฮุ้ยหลานยังอยากจะแก้ตัวอีกสักหน่อย และหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา: “เขาขี้เกียจสนใจคุณ แต่คุณยังจะเสนอหน้าทำดีกับเขาอีก”“นายเงียบไปเลยนะ นี่มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”จางฮุ่ยหลานถลึงตาดุใส่เขาถังหว่านในเวลาก็ถือไมโครโฟนเดินขึ้นมากลางเวทีใบหน้าเผยรอยยิ้มด้วยความเป็นอาชีพ: “วันนี้เป็นพิธีตัดริบบิ้นเปิดโครงการซีเฉิง ก่อนอื่นฉันอยากแนะนำพาร์ตเนอร์ของฉันสักหน่อยค่ะ...”“ประธานกรรมการของหลี่ซื่อกรุ๊ป คุณหลี่ฮุ่ยหราน...”ถังหว่านพูดจบเสียงปรบมือด้านล่างเวทีก็ดังกึกก้องขึ้นในทันทีเห็นเพียงหลี่ฮุ่ยหรานสวมกระโปรงยาวสีฟ้า และเดินจับชายกระโปรงเดินขึ้นไปอย่างช้าๆหวางเส้าหลงปรบมือแบบส่งไปที แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้ารูปไข่สวยไร้ที่ติของหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนกรามแทบค้างดวงตาคู่นั้นจ้องมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความที่ไม่ยากจะเชื่อ“นี่...นี่แม่งเป็นไปได้ไง?”เขาเห็นกับตาว่าแผลเป็นจากคมมีดบนหน้
นับตั้งแต่ที่ไดนาสตี้บาร์ครั้งก่อน ทำให้รู้จักหน้าคร่าตาของหวางเส้าหลงเธอก็รังเกียจหวางเส้าหลงมากเหมือนกันแม้หลินเฟิงจะเป็นคนไร้ประโยชน์ไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่เหมือนหวางเส้าหลงที่จอมปลอมขนาดนั้นตัวเธอเองมองคนผิดไปแล้วจริงๆหวางเส้าหลงรู้ว่าหลี่ฮุ้ยหรานยังโกรธอยู่จึงหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดขึ้น: “ฮุ้ยหราน ที่ผ่านมาผมไม่ดีเอง ผมไม่ควรเอาดีเข้าตัวเลย”“ผมรับรองว่าต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกเป็นอันขาด คุณให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ”หลี่ฮุ้ยหรานหัวเราะด้วยเย็นชา: “โอกาสอะไร? ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทอะไรกันไม่ใช่เหรอ?”หวางเส้าหลงพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง หลี่ฮุ้ยหรานในเวลานี้ไม่คิดจะคืนดีกับเขาแล้วมองดูหลี่ฮุ้ยหรานหายไปท่ามกลางฝูงชนหวางเส้าหลงโกรธจนกัดฟันกรอดและกำหมัดแน่น ในใจก็ด่าขึ้นว่า: “เดี๋ยวได้เจอดีแน่ หลี่ฮุ้ยหราน”“ฉันช่วยให้มึงได้ร่วมมือกับตระกูลถัง ไม่คิดเลยว่ามึงแม่งยังกล้าถีบส่งฉัน”“ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้แกได้ชดใช้”หลินเฟิงนั่งอาบแดดอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่งที่อยู่ด้านล่างเวทีหลี่ฮุ้ยหรานในเวลานี้ได้เดินมาจากทางด้านหลังของเขา และนั่งลงข้างๆ เขาหลินเฟิงลืมตาขึ้นอย่า
หลินเฟิงได้ยินประโยคนี้ก็ขมวดคิ้วในทันทีสู่ขอ และยังจะเป็นดองกับจางเต๋อหลินด้วยเนี่ยนะ? เหมือนจางเต๋อหลินจะมีหลานสาวที่มีอายุพอจะแต่งงานได้แค่คนเดียวด้วยสิคงไม่ใช่จางเจียหนิงหรอกนะ?เลี่ยวกั๋วต้งยิ้มเบาๆ แล้วพูดขึ้น: “เหวินเชาวางใจเถอะนะ ลุงไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย”“ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เป็นพ่อสื่อให้กับหนู ยังจะช่วยแนะนำงานให้กับหนูด้วย”เดิมทีเขาไม่อยากที่จะรับปากเรื่องนี้เลย แต่เมื่อคืนวานเขาคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบขึ้นได้ซึ่งไม่เพียงจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้กับหลี่เหวินเชา แถมยังทำให้หลี่เหวินเชาได้มีงานที่ไม่เลวงานหนึ่งทำหลี่เหวินเชาทำหน้าสีตกตะลึง: “ยังช่วยผม...หางานด้วยงั้นเหรอครับ?“งานอะไรเหรอครับ?” เขาถามขึ้นด้วยความประหลาดใจส่วนตัวเขาไม่คิดที่จะอยากทำงานเลยสักนิด หากจะต้องทำงานไม่สู้ใช้ชีวิตไปกับวันกับพี่สาวของตัวเองอยู่อย่างนั้นดีกว่าเลี่ยวกั๋วต้งยิ้มพร้อมพูดขึ้น: “ทำงานให้กับคุณหนูถัง”“ซืด...ทำงานเป็นลูกน้องของถังหว่านงั้นเหรอ?” จางกุ้ยหลานตกใจได้ทำงานอยู่ข้างกายของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง นั่นเป็นงานที่ใครหลายคนใฝ่หาและใช่ว่าจะได้มา“กั๋วต้ง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเก่งขนา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ