หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
“หลินเฟิง ฉันไม่อยากถามว่าลูกชายของฉันทำผิด หรือว่าเป็นความผิดของนาย”“ในเมื่อฉันเป็นพ่อของเจียงปิน จะตีสุนัขก็ยังต้องดูเจ้าของ ผมจะมองดูลูกชายของตัวเองถูกคนทำให้พิการไม่ได้ แถมยังประนีประนอมกับคนร้าย”“ในเมื่อฉันสู้นายไม่ไหว งั้นก็มีคนที่สู้กับนายได้!”เจียงจี้ถงส่งเสียงไม่พอใจและพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณเผิงกวงฉี่!”“ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของฉันกับคุณเผิง หลินเฟิง นายไม่สู้ถือโอกาสทำลายท่อนล่างของตัวเองอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กลับบ้านกับฉั คุกเข่าขอโทษลูกชายของฉัน!”“ไม่แน่นายอาจจะยังรักษาชีวิตต่ำๆ ของนายเอาไว้ได้”“ไม่อย่างนั้น…หึ”“ถูกต้อง เพียงแค่คุณเผิงกวงฉี่ลงมือ หลินเฟิง นายก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”ถังฮั่วก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาดูท่าถังฮั่วคนนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงจี้ถง เกาะติดเผิงกวงฉี่ถ้าหากเผิงกวงฉี่ลงมือจัดการหลินเฟิง งั้นหลินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยมีแต่ถังฮั่วที่เป็นแบบนี้ด้วยเส้นสายและความมั่งคั่งของเผิงกวงฉี่ จะฆ่าหลินเฟิงให้ตาย นั่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ใช่เหรอ?ถึงเวลาเขาไม่ต้องลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของห
“ทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่งานประมูลการกุศลของผมเผิงกวงฉี่”“ถือว่าผมเพิ่งหายจากการป่วยหนัก จึงเลือกเวลา แสดงความขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ห่วงใยผมเผิง กวงฉี่”ไม่นานนักเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวบนบันไดตรงชั้นสองของโรงแรมเขาสีหน้าแดงระเรื่อ ดูราศีดี เวลาเดินไม่ต้องให้คนประคอง เอวและหลังก็สามารถยืดตรงได้“หึหึ”สัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคน เผิงกวงฉี่เดินลงจากบันไดช้าๆ และยิ้มพูดว่า:“เพราะว่าคนที่อยากมาเจอผมมาก อีกทั้งแต่ละคนต่างนำของขวัญต่างๆ มาให้ ดังนั้นผมคิดว่า จัดการประมูลการกุศลซะเลย”“ด้านหนึ่ง สามารถยืมสิ่งของของท่านมาแสดงน้ำใจไมตรี ยืมมือของทุกท่าน สนับสนุนการกุศล ถือว่าเป็นการทำเรื่องดี”“อีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าเปิดโอกาสครั้งใหญ่ ให้ทุกท่านได้รวมตัวกัน ไม่แน่อาจมีโอกาสได้ร่วมมือกันหรือทำเงินด้วยกันก็ได้”“ฮ่าฮ่าฮ่า…”หลังจากที่เผิงกวงฉี่พูดจบ ภายในห้องโถงมีเสียงปรบมือดังไปทั่วไม่เสียงแรงที่เป็นเผิงกวงฉี่คำพูดท่อนเดียวก็รัดกุมอย่างมากยืมของขวัญจากผู้อื่นที่มาเยี่ยมเขา ทำการกุศล ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากมอบของขวัญให้คนอื่นด้วยเหตุผลที่เหมาะสมถึงขั้นที่ยังถือโอกาสจัดการชุมนุ
“คุณเผิงกวงฉี่ถูกคนทำให้ด่างพร้อยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แถมญาติสายตรงของลูกน้องยังถูกทำร้าย”“เขาไม่อยากออกหน้า เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้!”“ถึงเวลานั้น…”ไม่รอให้ถังฮั่วพูดจบ ผู้อำนวยการเจียงปรบมือและหัวเราะพูดว่า:“หลินเฟิงคนนั้นต้องตายแน่ ความแค้นของลูกชายผม ก็สามารถแก้แค้นได้ในทันที“ถูกต้อง!”ถังฮั่วพยักหน้า ลำพองใจอย่างมากสถานการณ์อับจนแบบนี้ ไอ้หมอนั่นยังจะมีวิธีอะไรหลุดพ้นไปได้?ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ยังจะเป็นศัตรูกับเผิงกวงฉี่ เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงได้งั้นเหรอ?เส้นสายและทรัพย์สินของเผิงกวงฉี่มีมากมายจ้างคนมาไม่กี่คน ก็สามารถทำให้หลินเฟิงตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้แล้วทั้งสองคนวางแผนแบบนี้ สายตาเคร่งขรึมก็กวาดมองไปที่ตัวหลินเฟิงไม่หยุดหลินเฟิงสัมผัสได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจอะไรมากขนาดนั้น เพราะหยกจิ้งจอกชิ้นนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้รับความเสียหายอาจเป็นที่ห้องน้ำเมื่อครู่นี้ตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นลงมือจึงไปกระแทกโดนเอาเป็นว่า รอยแตกที่มีบนหยกจิ้งจอกเป็นเดิมทียิ่งอยู่ยิ่งกว้างขึ้น ถ้าหากหยกโมโรถูกนำออกมาล่วงหน้า เช่นนั้นปร
“อะไรนะ? แจกันหยกบริสุทธิ์ของสมัยประวัติศาสตร์?!”“ตระกูลถังเมื่อออกหน้าก็ใหญ่โตหรูหราจริงๆ เลยนะ!”“ของชิ้นนี้คงราคาเกินห้าร้อยล้านสินะ?!”ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังหึ่งอยู่โดยรอบ ถังฮั่วก็พูดเสียงดังอย่างลำพองใจว่า:“ของขวัญชิ้นนี้ ผมถังฮั่วแห่งตระกูลฮั่ว เป็นตัวแทนของตระกูลถังสาขาย่อยเมืองหนิงโจว ขอให้ท่านเผิงกวงฉี่ได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงมีเมตตา ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง!”“ดีดีดี ขอบคุณที่เปลืองแรง”เผิงกวงฉี่ยิ้มบาง พยักหน้าติดต่อกันตระกูลถังกับเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกัน และก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาถึงแม้ครั้งนี้คนของต้นตระกูลถังจะไม่ได้มา แต่ตระกูลย่อยมาถึง และมอบของขวัญที่ล้ำค่าให้ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วมิตรภาพแบบนี้ เขาจดจำไว้ในใจอยู่แล้วแจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ฉินโบราณ ตระกูลถังไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลใจบุญอันดับหนึ่งของประเทศมังกร สมบัติล้ำค่าระดับนี้ก็ยังยอมเอาออกมาได้”“ตระกูลถังใจกว้างจริงๆ!”ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาที่ด้านล่างเวที ถังฮั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี
ดังนั้นเขาจึงชี้หลินเฟิงพูดด้วยความโมโหว่า:“หลินเฟิง นายนับประสาอะไร ตอนที่พวกเรานำของขวัญแต่ละชิ้นออกมาต่างก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบแท้ปลอม แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้ของฉันจำเป็นของปลอมได้ยังไง?”“หรือว่านายคิดว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ตรวจสอบที่คุณเผิงกวงฉี่พามา?”“หึ”ชายชราที่ท่าทางเด็ดเดี่ยวนั่งอยู่ตรงแถวหน้า ส่งเสียงไม่พอใจออกมาเขาก็คือผู้ตรวสอบที่เผิงกวงฉี่เชิญมา เขาเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งหัวตงสมบัติล้ำค่าทุกชิ้น ก่อนจะขึ้นเวทีก็จะต้องผ่านมือของเขาก่อนอีกทั้งให้ราคาประมาณคร่าวๆหลินเฟิงแสดงความคัดค้านต่อหน้าทุกคน ถือเป็นการหักหน้าเขาชัดๆ“ไอ้หนุ่ม ฉันคือโปมู่แห่งเมืองเหยียนจิ้น จังหวัดปินโจ นนอกเรียกฉันว่าอาจารย์โป แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนั้นฉันเพิ่งดูเมื่อครู่นี้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอน!”“ถ้าหากนายตั้งใจทำตัวเด่นดึงดูดความสนใจ งั้นฉันพูดได้แค่ว่านายเลือกคนผิดแล้ว!”“อะไรนะ? อาจารย์โปงั้นเหรอ?”“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณเผิงกวงฉี่ แม้แต่อาจารย์โปก็ยังเชิญมาได้!”ได้ยินคำพูดของชายชราผู้เด็ดเดี่ยวสวมชุดขาว แขกที่อยู่ในงานก็เผยสีหน้าตกตะลึงออก
“หรือว่าศิลปะการต่อสู้ของวัยรุ่นคนนี้ บรรลุถึงความสำเร็จขั้นสูงสุดแล้ว และก้าวเข้าสู่ลำดับยอดฝีมือระดับสูงของประเทศมังกรแล้ว?!อาจารย์โปตกตะลึงกับการคาดเดาในใจของตัวเองอีกทั้ง 0.5 มิลลิเมตรที่เขาว่า ไม่ใช่ว่าดวงตาของคนทั่วไปจะสามารถมองเห็นได้!ต่อให้ใช้แว่นขยายก็ยังยากลำบาก“หยาบ...”อาจารย์โปสั่งลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ให้นำแว่นขยายที่แม่นยำกว่านี้มาส่วนถังฮั่วที่อยู่บนเวที เห็นอาจารย์โปจะตรวจสอบแจกันหยกของเขาอีกครั้งถึงแม้หลินเฟิงเป็นมือสังหารที่ฆ่าหลงเซียว และเป็นศัตรูของเขาแต่ถังฮั่วไม่ยอมรับไม่ได้ว่าด้านการตรวจสอบสมบัติล้ำค่า ไอ้หมอนี่มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆก่อนหน้านี้ที่หออวี้หลง เขามองเห็นตำหนิที่นักสะสมสองสามคนยังมองไม่ออก“ไอ้หมอนี่…”ทันใดนั้นถังฮั่วก็รู้แล้วหลินเฟิงตั้งใจไม่พูดในตอนที่เขาซื้อแจกันหยกบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ รอให้ตอนที่เขาขึ้นเวทีถึงได้พูดออกมา ทำให้เขาอับอายขายหน้าความคิดนี้ ร้ายกาจจริงๆแต่ถังฮั่วถือว่ามองหลินเฟิงผิดไปไม่พูดถึงตอนที่หลินเฟิงอยู่ที่หออวี้หลง ตอนนั้นได้รับแก่นสารเลือด ควบคุมความผิดปกติที่ตัวเองบรรลุเอาไว้ ไม่สามารถดูรายละเ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ