หวางเส้าหลงพึงพอใจอย่างมาก และล้วงบัตรธนาคารออกมาใบหนึ่ง: “เงินนี้คุณเอาไปก่อน มีเรื่องอะไรผมค่อยติดต่อคุณ”“คืนนี้ผมยังมีเรื่องใหญ่ให้ทำ”“ได้ครับคุณชายหวาง” เลี่ยวกั๋วต้งยิ้มและรับบัตรธนาคารมากหลินเฟิงที่อยู่ห้องด้านข้างส่ายหน้า เขารู้สึกตั้งนานแล้วว่าเลี่ยวกั๋วต้งคนนี้เป็นต้มตุ๋น คิดไม่ถึงว่าจะร่วมมือกับหวางเส้าหลง“จางกุ้ยหลานนะจางกุ้ยหลาน จะต่อว่าเธอว่าอะไรดี”เงินสองร้อยล้านบาทสำหรับเขาไม่นับประสาอะไร แต่สำหรับหลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยหวางเสาหลงกับเลี่ยวกั๋วต้งทานอาหารเสร็จ ทั้งสองคนต่างแยกย้ายตัวใครตัวมันหลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตามเลี่ยวกั๋วต้งไปเลี่ยวกั๋วต้งฮัมเพลงในลำคอ เข้าไปนั่งในรถยนต์ของตัวเองจู่ ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นที่เบาะหลัง: “คุณเลี่ยวอารมณ์ดีจังเลยนะ?”“แน่นอนอยู่แล้ว”เลี่ยวกั๋วต้งตอบรับผ่าน ๆ แต่เมื่อพูดจบเขาก็พบความผิดปกติในทันทีมองผ่านกระจกมองหลัง หลินเฟิงนั่งอยู่บนเบาะหลังรถของตัวเองไอ้เวรนี่ขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนเขาตกตะลึงอย่างมาก กำลังจะลงจากรถหลินเฟิงกลับจับคอของเขาเอาไว้จากด้านหลังเลี่ยวกั๋วต้งขยับไม่ได้ในทันท
“อะไรนะ?” หลินเฟิงได้ฟังก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่แรงที่มือรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมเลี่ยวกั๋วต้งถูกบีบคอจนหน้าแดงก่ำทันที และหายใจอย่างยากลำบากมาก“อ่อกอ่อก……ไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย……”หลินเฟิงตะโกนเสียงดังขึ้นมา: “หลี่ฮุ่ยหรานตอนนี้อยู่ที่ไหน?”“อยู่ที่อ่าวเทียนสุ่ย คฤหาสน์หมายเลข 13”เลี่ยวกั๋วต้งพยายามใช้แรงทั้งหมดพูดออกมา“ผมบอกทุกอย่างที่ผมรู้ไปหมดแล้ว รีบปล่อยผมเถอะ”หลินเฟิงขมวดคิ้วแน่น คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ย?เขาเปิดประตูรถ ดึงเลี่ยวกั๋วต้งลงมาทันทีจากนั้นขับรถกลับไป“หลินเฟิง คุณเอายาแก้มาให้ผมสิ” เลี่ยวกั๋วต้งล้มนั่งบนพื้นแล้วตะโกนพูดขึ้นมาหลินเฟิงไม่ได้หันหน้ากลับมา จากนั้นตวาดใส่ด้วยเสียงเย็นชา: “เมื่อไหร่ที่คุณคืนเงินกลับไป ค่อยมาเอายาแก้จากผม”ขณะเดียวกันอ่าวเทียนสุ่ย คฤหาสน์หมายเลย 13 หลี่ฮุ่ยหรานถูกชายหัวล้านและคนอื่น ๆ ขังอยู่ในห้องรับแขกเธอรีบดึงหน้ากากที่คลุมหัวออกนี่ถึงได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้าห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยดูแล้วไม่เหมือนกับบริษัทสินเชื่ออะไรหลี่ฮุ่ยหรานเคาะประตูไม่หยุดและตะโกนเสียงดัง “ที่นี่ที่ไหนกัน? ปล่อยฉันออกไปนะ”ชายหัวล้านที่
“คุณ……” หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนหน้าซีดจากนั้นลุกขึ้นในทันที อยากจะหนีไปจากที่นี่หวางเส้าหลงจับเธอเอาไว้ได้ และทุ่มลงบนพื้นอย่างแรง“อ๊ะ……” หลี่ฮุ่ยหรานเจ็บปวดจนร้องออกมาหวางเส้าหลงพูดเยาะหยัน: “หลี่ฮุ่ยหราน เธอยอมฉันซะดี ๆ เธอ สถานที่นี้เธอหนี้ออกไปไม่ได้หรอก”ขณะพูดก็ค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกในตอนที่จะยื่นมือออกไปถอดเสื้อผ้าของหลี่ฮุ่ยหรานหลี่ฮุ่ยหรานก็กัดไปที่ข้อมือของเขาอย่างแรงทันใดนั้นหวางเส้าหลงก็เลือดไหลออกมาเป็นทาง“อ๊าก……แม่งหาเรื่องตายเหรอวะ” หวางเส้าหลงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากร้องโอดครวญในทันทีเขามองดูบาดแผลตรงข้อมือ และสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของหลี่ฮุ่ยหรานเขาอดทนไม่ได้อีกต่อไปฟาดฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของเธอ“ว้าย……”หลี่ฮุ่ยหรานถูกตบจนล้มลงไปบนพื้นหวางเส้าหลงกลับไม่ยอมปล่อยไปเตะไปที่ท้องของหลี่ฮุ่ยหรานอย่างแรง“แม่ง ให้เกียรติไม่ยอมรับเกียรติ”“ฉันเปลืองแรงตามจีบเธอ เธอแม่งเห็นฉันเป็นอากาศ?”หลี่ฮุ่ยหรานหน้าซีดเซียว ขดตัวและกุมท้องเอาไว้ความเจ็บปวดแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย ทำให้เธอลุกขึ้นยืนไม่ได้ด้วยซ้ำหวางเส้าหลงกลับไม่มีความคิดจะหย
จู่ ๆ ในกระเป๋าของหวางเส้าหลงเสียงริงโทนโทรศัพท์ดังขึ้นหลินเฟิงล้วงโทรศัพท์ออกมาทันทีคนที่โทรมาก็คือพ่อของหวางเส้าหลงทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากอีกด้าน: “แกไปอยู่ที่ไหนอีก? ฉันให้แกไปรับคุณหนูเฉินไม่ใช่เหรอ?”“ลูกชายของคุณตายแล้ว” หลินเฟิงพูดกับโทรศัพท์อย่างเรียบเฉย“แกแม่งเป็นใครกัน?” หวางเจ้นได้ยินเสียงของหลินเฟิงก็ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงโมโห“ฉันคือหลินเฟิง ลูกชายคุณหาเรื่องตายเอง ถูกผมฆ่าตายแล้ว”หลินเฟิงน้ำเสียงสงบนิ่ง เหมือนกับกำลังพูดเรื่องเล็กจิ๊บจ๊อยเรื่องหนึ่ง“แกว่าอะไรนะ?” หวางเจิ้นไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองแต่น้ำเสียงของอีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านเหมือนกับไม่ได้กำลังโกหก“ลูกชายของฉันอยู่ที่ไหน?” หวางเจิ้นน้ำเสียงเย็นชาหลินเฟิงเหลือบมองศพของหวางเส้าหลง: “คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ย บ้านของลูกชายคุณ”“ไอ้หนุ่ม ไม่ว่านายเป็นใคร ถ้ากล้าหลอกฉัน นายตายแน่”“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่”หลินเฟิงพูดจบก็วางสายไปหวางเจ้นกลับตกตะลึงและสับสน เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือล้อเล่นคิดไปคิดมาจึงตัดสินใจไปดูหน่อยพาคนของตระกูลหวางเดินทางไปที่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยทั
“คุณพยาบาลครับ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”“ผู้ป่วยถูกทำร้ายร่างกาย หมดสติไปแล้ว คุณเป็นอะไรกับเธอคะ?” พยาบาลคนหนึ่งถามขึ้น“ผมคือเพื่อนของเธอ”พยาบาลเห็นแบบนี้จึงรีบถามขึ้น: “งั้นคุณติดต่อครอบครัวของเธอได้ไหม?”“ได้ ได้อยู่แล้วครับ……” ชายชุดสูทรีบพูดขึ้น“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็ไปกับพวกเราหน่อยค่ะ”“ได้ครับ” ชายชุดสูทไม่ได้ปฏิเสธ เขาพยักหน้าในทันที และขึ้นรถไปด้วยกันรถพยาบาลเพิ่งขับออกไปได้ไม่นานด้านหลัง คนของตระกูลหวางก็ตามมาถึงที่นี่หวางเจิ้นพาคนบุกเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลเองทันทีนอกจากศพกองหนึ่งบนพื้น ก็เหลือเพียงหลินเฟิงที่ยังมีชีวิตอยู่ และนั่งสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟา“นายก็คือหลินเฟิง?” หวางเจิ้นถามขึ้นอย่างโมโหหลินฟิงพยักหน้าอย่างเรียบเฉย“ลูกชายฉันอยู่ที่ไหน?” หวางเจิ้นถามคำถามที่ตัวเองเป็นกังวลมากที่สุดหลินเฟิงชี้ไปที่ห้องนอนหวางเจิ้นไม่พูดจา พุ่งเข้าไปในห้องทันทีเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองตายอย่างน่าอนาถ หวางเจิ้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้“ไอ้สารเลว แกมีสิทธิอะไรฆ่าลูกชายของฉัน?” หวางเจิ้นสีหน้าดุดันตะโกนขึ้นมาหลินเฟิงกลับลุกขึ้
“ว่าไงนะ?” หวางเจิ้นตัวแข็งทื่อในฉับพลันดวงตาทั้งสองมองไปที่หลินเฟิงอย่างเหลือเชื่อไอ้หมอนี่มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเป็นลูกเขยของฉินเซี่ยวเทียน? “พูดแบบนี้ แสดงว่าวันนี้ผู้ว่าฉินจะปกป้องนายหลินเฟิงนี่ให้ได้เลยใช่ไหม?” “ถูกต้อง คุณทำอะไรหลินเฟิงไม่ได้หรอก ถ้าคุณอยากจะได้การชดเชยอะไรก็บอกผมมา”ฉินเซี่ยวเทียนเอ่ยด้วยใบหน้าที่ดูจริงจัง “แต่นับจากนี้ตระกูลหวางจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลฉินของเราอีก”“แล้วอ่าวเทียนสุ่ยก็ไม่ขอต้อนรับพวกคุณอีก”หวางเจิ้นเอ่ยด้วยใบหน้าอึมครึมว่า “ผู้ว่าฉินกะอีแค่หลินเฟิง คุณถึงต้องตัดขาดกับตระกูลหวางของเราเลยเหรอ?”“ดูไม่คุ้มใช่ไหมล่ะ?” “ไม่มีอะไรที่ไม่คุ้ม”ฉินเซี่ยวเทียนโบกมือ “สำหรับผมแล้วหลินเฟิงดีกว่าตระกูลหวางนับสิบตระกูลเสียอีก” “ฮึ”หวางเจิ้นส่งเสียงคำราม “ผู้ว่าฉินยังไม่ทันไรก็มาดูหมิ่นดูแคลนตระกูลหวางของเราแล้ว”“จะบอกความจริงให้คุณฟังนะ ธุรกิจตระกูลหวางในตอนนี้ได้ขยับขยายไปถึงจงโจวแล้ว อิทธิพลในเจียงโจวแบบนี้ไม่มีทางขัดขวางตระกูลหวางของผมได้หรอก”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเฟิงและฉินเซี่ยวเทียนถึงกับขมวดคิ้วเบา ๆคิดไม่ถึงว่าตร
ก่อนจะไป ซ่งเฉียนคุนขวางและเอ่ยข่มขู่หวางเจิ้นว่า “ทำไม? คุณหวางคิดจะมาแก้แค้นวันหลังอีกเหรอ?”สีหน้าหวางเจิ้นซีดเผือด แน่นอนว่าเขาต้องคิดอยู่แล้วแต่ปากยังจะพูดออกไปว่า “ในเมื่อท่านผู้นำซ่งออกปากไว้ กระผมจะไปกล้าได้ยังไงกัน” “งั้นก็ดี”หวางเจิ้นพร้อมกับคนของตนรีบก้าวออกไปอย่างฉับไวฉินเซี่ยวเทียนเองก็ถอนหายใจโล่งอกเช่นกัน หันกลับไปมองซ่งเฉียนคุนแล้วเอ่ยว่า “คิดไม่ถึงนะเนี่ยว่าท่านผู้นำซ่งจะรู้จักเจ้าหลินด้วย?” “ฮ่า ๆ ๆ ......”ซ่งเฉียนคุนหัวเราะและเอ่ยด้วยความเบิกบานใจว่า “ก่อนหน้านี้คุณถังเคยแนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าหลินมาก่อน”“ไม่ใช่แค่นี้นะ ผมยังเคยเห็นเจ้าหลินใช้ยารักษาท่านผู้ว่าหลิวจนหายดีกับตาตัวเองเลยด้วย” “มีเรื่องแบบนี้ด้วย?” ฉินเซี่ยวเทียนมองหลินเฟิงอย่างทึ่งเจ้าเด็กนี้ยังมีความลับอะไรอีกบ้างนะ“เจ้าหลิน ดูจากท่าทีหวางเจิ้นแล้ว เกรงว่าจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่”ในเวลานี้ซ่งเฉียนคุนได้เอ่ยเตือนว่า “ยังไงเจ้าหลินก็ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน"หลินเฟิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ถ้าเกิดเขายังกล้ามายุ่งกับผมอีก ผมจะล้มสำนักเขาให้สิ้นซาก”ในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความอาฆาตยิ่
“อาเชา ฮุ่ยหรานของเราอยู่ไหนเหรอ?” จางกุ้ยหลานที่เพิ่งฉุกนึกถึงลูกสาวของตนขึ้นในเวลานี้จึงรีบเอ่ยถามในทันทีสวีเชาจึงรีบเอ่ยทันทีว่า “ฮุ่ยหรานไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไรครับ อยู่ที่ห้องพักฟื้นครับ”“หมอบอกว่าเธอแค่ได้รับการกระแทกที่สมองเล็กน้อย พักสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อคนเหล่านั้นมาถึงห้องพักฟื้น เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่หมดสติไม่ฟื้น จางกุ้ยหลานก็หลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว“โธ่ ๆ ลูกสาวที่โชคร้ายของฉัน......”ในเวลานี้สวีเชาก็เอ่ยถามอย่างสงสัย “คุณป้าครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ? ทำไมฮุ่ยหรานถึงถูกคนทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลล่ะครับ?”จางกุ้ยหลานอธิบายด้วยความคร่ำครวญว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะป้าทำตัวเลอะเลือน จนถูกคนหลอกเอาเงินไป พอคนของบริษัทเห็นว่าป้าคืนเงินไม่ไหว พวกเขาก็เลยจับตัวฮุ่ยหรานไป”“คุณป้าเป็นหนี้เท่าไหร่ครับ” สวีเชาเอ่ยถาม“ก็ประมาณร้อยกว่าล้านน่ะ” จางกุ้ยหลานหลบสายตา เพราะเธอเองก็เป็นคนที่เห็นแก่หน้าตาเลยไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่สวีเชาได้ฟังจึงหัวเราะร่า “ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมากเสียอีก ก็แค่เงินร้อยกว่าล้านเอง” “เอาแบบนี้ไหมครับ วันมะร
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน