หวังอ้ายหลิน กำลังเดินตามหลัง หลี่เหว่ย และ หลินชิงชิง ไปยังตลาดมืด แม้จะเป็นเพียงตรอกเล็กๆ แต่กลับคึกคักไปด้วยผู้คนและสินค้ามากมาย
หวังอ้ายหลินรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ไม่ใช่เพราะอากาศ แต่เป็นเพราะความโกรธที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในใจ เธอเห็นหลี่เหว่ย ดูแลหลินชิงชิงเป็นอย่างดี คอยประคองเธอหลบหลีกผู้คน พูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม ภาพเหล่านั้นทิ่มแทงหัวใจของหวังอ้ายหลินราวกับเข็มนับพันเล่ม
ร่างบางกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความร้อนในอกแผดเผาจนแทบจะเป็นไฟ ใบหน้าสวยหวานบิดเบี้ยวด้วยแรงริษยา สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองหลี่เหว่ยและหลินชิงชิงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
"นังชิงชิง! แค่เด็กสาวบ้านนอกหน้าตาจืดชืด มีดีแค่ความใสซื่อ กล้าดียังไงมาแย่งคุณชายหลี่ไปจากฉัน" หวังอ้ายหลินกัดฟันกรอด
หลี่เหว่ย... ชายหนุ่มรูปงามผู้เพียบพร้อม บุตรชายคนเดียวของนายทหารใหญ่แห่งเมืองหลวง พ่อของเขาเป็นมือขวาทำงานให้ท่านผู้นำสูงสุดในฝ่ายรัฐบาล เขาคือเป้าหมายสูงสุดที่หวังอ้ายหลินหมายมั่นปั้นมือ ตั้งแต่แรกพบที่งานเลี้ยงตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง หวังอ้ายหลินก็ตกหลุมรักหลี่เหว่ยทันที ทั้งรูปลักษณ์ ชาติตระกูล และกิริยามารยาทอันงดงาม ล้วนแต่สมบูรณ์แบบในสายตาของเธอ
เมื่อรู้ว่าหลี่เหว่ยถูกส่งตัวมาเป็นยุวชนในหมู่บ้านหลงเหมิน หวังอ้ายหลินก็ไม่ลังเลที่จะสละชีวิตสุขสบายในเมืองหลวง ติดตามเขามาอย่างไม่คิดชีวิต แม้กระทั่งการสอบบรรจุครูที่โรงเรียนประถมในหมู่บ้าน เธอก็ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อให้ได้มา หวังเพียงใกล้ชิด ทำความรู้จัก และครอบครองหัวใจของชายหนุ่ม
แต่ตอนนี้ ความฝันของเธอกำลังพังทลายลงต่อหน้าต่อตา หลินชิงชิง เด็กสาวหน้าตาดีจากชนบท กำลังเข้ามาแทนที่เธอในหัวใจของชายหนุ่ม หวังอ้ายหลินไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทวงคุณชายหลี่กลับคืนมา
"ฉันจะไม่ยอมเสียคุณชายหลี่ไปให้ใครที่ไหน" หวังอ้ายหลินพึมพำกับตัวเองด้วยความคับแค้นใจ เธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าหลี่เหว่ยไม่ได้รักเธอ และกำลังจะจากเธอไปหาผู้หญิงคนอื่น
ในขณะที่ความโกรธและความสิ้นหวังกำลังกัดกินหัวใจของเธอ หวังอ้ายหลินก็ตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง เธอจะไม่ยอมปล่อยให้คุณชายหลี่หลุดมือไปง่าย ๆ เธอจะต่อสู้เพื่อความรักของเธอ แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำสิ่งที่เธอไม่เคยคิดว่าจะทำมาก่อนก็ตาม แต่เธอก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอกจากการได้คนในดวงใจกลับคืนมา
"คุณชายหลี่จะต้องจะเป็นของฉันคนเดียว" หวังอ้ายหลินพูดกับตัวเองเธอคิดวางแผนจัดการกับนังเด็กชาวสาวบ้าน
หญิงสาวเริ่มลงมือทำตามแผน เธอตรงไปยังร้านเช่าชุดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เธอเลือกชุดที่ดูหรูหราที่สุดเท่าที่จะหาได้ ชุดผ้าไหมสีแดงปักลายดอกโบตั๋นสีทองอร่าม พร้อมกับสวมหมวกปีกกว้างที่ปกปิดใบหน้าของเธอจนมิดชิด เธอเดินตรงไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่มักรวมตัวกันอยู่ท้ายตลาดมืด พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องการเป็นอันธพาลประจำถิ่น
"พวกนายต้องการเงินหรือเปล่า" เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ "ฉันมีงานที่จะจ้างพวกนาย"
ชายฉกรรจ์เหล่านั้นหันมามองเธอด้วยความสนใจ พวกเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน และยิ่งเธอมาพร้อมกับข้อเสนอเช่นนี้ ยิ่งทำให้พวกเขาอยากรู้ว่าเธอต้องการ
หวังอ้ายหลินยิ้มเย็น เธอมั่นใจว่าเธอจะสามารถใช้คนพวกนี้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นของเธอได้ และเมื่อถึงเวลานั้น หลี่เหว่ยจะต้องกลับมาเป็นของเธอ
"งานอะไรหรือ" ชายฉกรรจ์เอ่ยถามเธอ เสียงทุ้มต่ำแสดงถึงความระแวดระวัง
"ฉันต้องการให้พวกนายช่วยฉันจัดการใครบางคน" หวังอ้ายหลินตอบ "นังผู้หญิงแพศยานั้นคือคนที่พรากทุกอย่างไปจากฉัน และฉันจะต้องเอามันกลับคืนมา"
ชายฉกรรจ์เหล่านั้นมองหน้ากัน พวกเขาคุ้นเคยกับงานสกปรกเช่นนี้ดี แต่ไม่บ่อยนักที่จะมีผู้หญิงมาว่าจ้างพวกเขา
"ใครล่ะ คนที่เธอต้องการให้เราจัดการ" ชายอีกคนถาม
"นังเด็กผู้หญิงที่มากับผู้ชายหล่อที่อยู่ในร้านอาหารอร่อยโอชาที่หัวมุมถนน" หวังอ้ายหลินกล่าว
"เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน แต่นังเด็กเหลือขอนั้นก็ยังจะมายั่วยวนคู่หมั้นของฉัน "
"ฉันต้องการให้พวกแกซัดจนชายหนุ่มคนนั้นสลบเท่านั้น ส่วนที่เหลือฉันจะจัดการดูแลเขาต่อเอง ส่วนนังเด็กสารเลวคนนั้นพวกแกจะเอาหล่อนไปทำอะไรก็ได้ เอาให้มันอับอายขายขี้หน้าไม่สามารถมาพบคู่หมั้นฉันได้"
" ได้ฉันรับงานนี้ แต่งานนี้คงไม่ง่าย"ชายฉกรรจ์เอ่ยออกมา
หวังอ้ายหลินแสยะยิ้ม "ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ฉันก็รู้ว่าพวกนายทำได้ ฉันจะจ่ายให้อย่างงาม"
ชายฉกรรจ์เหล่านั้นมองหน้ากันอีกครั้ง เงินจำนวนมากที่หญิงสาวตรงหน้าเสนอให้เป็นสิ่งล่อใจ พวกเขาตัดสินใจรับงานนี้ทันที
"ตกลง" ชายคนเดิมเอ่ยขึ้น "พวกเราจะจัดการเด็กสาวคนนั้นให้เธอเอง รับรองนังเด็กนั้นอยู่ไม่สู้ตาย"
หวังอ้ายหลินพยักหน้าอย่างพอใจ เธอรู้ว่าเธอได้เริ่มก้าวแรกในการทวงคืนทุกอย่างที่เป็นของเธอแล้ว คุณชายหลี่จะต้องเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
...
ทางด้านฝั่งหลินชิงชิงและหลี่เหว่ยทั้งสองเดินเคียงกันไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นหลี่เหว่ยเอ่ยเสียงทุ้ม "ชิงชิงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"
หลินชิงชิงส่ายหน้า "แล้วแต่พี่เหว่ยเลยค่ะ"
หลี่เหว่ยยกยิ้ม "งั้นพี่จะพาไปร้านโปรดของพี่เองร้านอร่อยโอชาเป็นร้านอาหารของรัฐบาล รับรองว่าอร่อยถูกใจชิงชิงแน่"
เขาพาเธอเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังถนนใหญ่ แล้วหยุดอยู่หน้าร้านอาหารเล็กๆ ที่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง
"ร้านนี้แหละ" หลี่เหว่ยพูดพลางเปิดประตูให้หลินชิงชิง
ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์แบบชนบท กลิ่นหอมของอาหารโชยมาแตะจมูกชวนให้น้ำลายสอ คนร่างสูงสั่งกับข้าวมาหลายอย่าง
"อร่อยไหม?" หลี่เหว่ยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพลางตักหมูผัดพริกหยวกใส่จานของหลินชิงชิงจนพูน กลิ่นหอมฉุนของพริกกระเทียมที่ผัดจนเข้าเนื้อหมู ลอยโชยแตะจมูกหลินชิงชิง ยิ่งปลุกความหิวกระหายในท้องให้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
"อร่อยมากค่ะ" หลินชิงชิงตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง เผยให้เห็นลักยิ้มเล็กๆ ข้างแก้มยุ้ย "พี่เหว่ยตักให้ฉันเยอะแยะเลย แทบจะล้นจานแล้ว พี่เหว่ยก็กินบ้างสิคะ" ดวงตากลมโตเป็นประกาย จ้องมองหลี่เหว่ยอย่างเอาใจ
หลี่เหว่ยหัวเราะเบาๆ "ไม่เป็นไรหรอก พี่อยากให้ชิงชิงกินเยอะๆ จะได้ตัวโตๆ" เขามองหลินชิงชิงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ในใจเขาครุ่นคิด 'เมื่อไหร่น้องชิงชิงจะโตเป็นสาวเสียทีนะ จะได้สู่ขอมาเป็นเมียสักที'
หลินชิงชิงก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยจนไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของคุณพระเอก ไม่อย่างนั้นเธอคงรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัวแน่ๆ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับมุมปากให้หญิงสาวอย่างแผ่วเบา การกระทำที่อ่อนโยนและเป็นธรรมชาตินั้น ทำให้หลินชิงชิงใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเธอเต้นตึกตัก
"พี่ดีใจที่เธอชอบ" น้ำเสียงของหลี่เหว่ยอ่อนหวานราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
โอ๊ยคุณพระเอก..ทำไมช่างแสนดีเช่นนี้ หลินชิงชิงคิดในใจ เธอที่อยากมีแฟนหล่อเหลาแบบพระเอกแสนดีมาทั้งชีวิต พอเธอได้มาเจอเขาคนนั้นจริงๆ เธอรู้สึกเหมือนฝันไป
หลินชิงชิงเดินเหม่อลอยออกมาจากร้านอาหารพวกเขาเดินเล่นไปตามถนนเรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าในตรอกมืดข้างหน้า มีเงาลึกลับกำลังจับจ้องทำร้ายพวกเขาอยู่
แต่แล้ว เมื่อทั้งคู่เดินเข้าสู่ตรอกเล็กๆ ที่ค่อนข้างเปลี่ยว บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เงาตะคุ่มๆ ปรากฏขึ้นจากเงามืด และทันใดนั้นเอง กลุ่มชายฉกรรจ์ 5-6 คนก็โผล่ออกมา พวกเขาล้อมกรอบหลินชิงชิงและหลี่เหว่ยเอาไว้
"ยัยหนู ตัวแค่นี้ริอาจแย่งคู่หมั้นคนอื่นแล้วหรือ" หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม สายตาของเขาจ้องมองมาที่หลินชิงชิงอย่างหื่นกระหาย
หลินชิงชิงขมวดคิ้วด้วยความสับสน เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่เคยแย่งคู่หมั้นของใคร และเธอไม่รู้จักคนพวกนี้มาก่อน
"พวกคุณเป็นใคร และต้องการอะไร" หลี่เหว่ยถามขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องหลินชิงชิง
"แกไม่ต้องรู้หรอก" ชายฉกรรจ์อีกคนตอบ "แกรู้แค่ว่ายัยนี่ต้องชดใช้ก็พอแล้ว"
ว่าแล้ว พวกเขาก็พุ่งเข้าใส่หลี่เหว่ย ชายหนุ่มพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องหลินชิงชิงอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นได้ ไม่นานนักเขาล้มลงสู่พื้นด้วยความเจ็บปวด หลินชิงชิงมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติเธอหยิบธนูคู่ใจออกมามากในมิติ หลังจากเธอดื่มน้ำวิเศษในมิติเข้าไปร่างกายเธอก็แข็งแรงและรวดเร็วเป็นอย่างมาก
"พวกแกกล้าดียังไง!" เสียงของหลินชิงชิงกังวานไปทั่วบริเวณ เธอขึ้นสายธนูอย่างรวดเร็วและเล็งไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์ พวกมันมองเธอด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวบอบบางเช่นเธอจะมีอาวุธพกพามาด้วย
"หยุดนะ อย่าเข้ามาไม่อย่างนั้นฉันจะยิงพวกแกให้หมด" หลินชิงชิงตะโกนขู่ พวกอันธพาล แต่แล้วหัวหน้ากลุ่มพวกมันก็หัวเราะเยาะ
"แค่ธนูอันเท่านี้จะทำอะไรพวกเราได้!" เขาพูดพร้อมกับก้าวเข้ามาหาหลินชิงชิง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขยับ หลินชิงชิงก็ปล่อยลูกธนูออกไป ลูกธนูพุ่งเข้าปักที่ต้นขาของเขาอย่างแม่นยำ
"อ๊าก!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ชายฉกรรจ์คนอื่น ๆ ถอยกรูดด้วยความตกใจ หลินชิงชิงยิ้มมุมปาก ก่อนจะขึ้นสายธนูอีกครั้ง
"ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะจัดการพวกแก บอกมาว่าทำไมพวกแกถึงเข้ามาโจมตีพวกฉัน" เธอพูดเสียงเย็นชา
หนึ่งในชายฉกรรจ์ตัวสั่นเทา พยายามรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยปากตอบ "พอดีมีผู้หญิงคนหนึ่งจ้างพวกเรา เธอปกปิดหน้าตาไว้ พวกเราไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่เธอมาจ้างพวกเราให้จัดการคุณหนู เพราะคุณหนูไปแย่งคู่หมั้นของหล่อน"
หลินชิงชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอครุ่นคิดอยู่ในใจ ว่าเธอทำให้ใครเกลียดชังเธอบ้าง และแล้วภายในใจของเธอมีเพียงชื่อเดียวที่ผุดขึ้นมา หวังอ้ายหลิน คุณนางเอกนิยายเรื่องนี้ ที่วางตัวเป็นศัตรูกับเธอ
"หวังอ้ายหลิน..." เธอพึมพำกับตัวเอง รอยยิ้มเย็นยะเยียบปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ "คิดจะเล่นสกปรกกับฉันสินะ
หลินชิงชิงหันกลับไปมองชายฉกรรจ์เหล่านั้นอีกครั้ง "พวกแกโชคดีแล้วที่ยังมีชีวิตอยู่ กลับไปบอกนายจ้างของพวกแกด้วยว่า... คราวหน้าฉันจะไม่ใจดีแบบนี้อีก"
ชายฉกรรจ์มองหน้ากัน พวกมันรู้ดีว่าไม่สามารถเอาชนะหญิงสาวตรงหน้าได้ พวกมันจึงตัดสินใจล่าถอยไป หลินชิงชิงมองพวกมันจากไปด้วยความโล่งอก ก่อนจะรีบวิ่งไปดูหลี่เหว่ยที่นอนสลบอยู่
"พี่เหว่ย พี่เหว่ย เธอเขย่าตัวเขาเบา ๆ แต่เขาไม่มีท่าทีตอบสนอง หลินชิงชิงร้อนใจ เธอรีบพยุงชายหนุ่มไปสถานีตำรวจ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
เสียงประทัดดังกึกก้องทั่วลานบ้านตระกูลหลิว บ่งบอกถึงความยินดีปรีดาของงานมงคลสมรสระหว่างหลิวชิงชิงและหลี่เหว่ยบ้านของเธอประดับประดาไปด้วยโคมแดงสด ตัดกับผ้าแพรสีทองอร่ามระยิบระยับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ญาติมิตรต่างมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น เสียงพูดคุยจอแจ เสียงหัวเราะร่าเริงดังแทรกกับเสียงดนตรีบรรเลงเพลงมงคลภายในบ้านเจ้าสาว หลิวชิงชิงในชุดแต่งงานสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินวิจิตรงดงาม จากช่างตัดเย็บฝีมือดี ที่คนรักของเธอพาไปตัดเย็บ ใบหน้าหวานละมุนแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา เผยให้เห็นแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย หลิวชิงชิงนั่งก้มหน้ามองปลายเท้าอย่างประหม่า ขณะรอเจ้าบ่าวเข้ามาในบ้าน"ชิงชิง ลูกสาวของพ่อ" เสียงทุ้มของหลิวเหวินเจิ้งเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ลูบศีรษะลูกสาวอย่างอ่อนโยน "วันนี้ลูกสาวพ่อสวยที่สุดเลย"หลิวชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองบิดาด้วยแววตาสั่นไหว "คุณพ่อ...""ไม่ต้องกังวลนะลูก" หลิวเหวินเจิ้งกล่าวปลอบ "เดี๋ยวลูกเหว่ยก็จะมารับเจ้าสาวไปงานแต่งที่โรงแรมแกรนด์""ค่ะคุณพ่อ" หลิวชิงชิงพยักหน้ารับ น้ำตาคลอหน่วยด้วยความต
หลิวเหวินชางจ้องมองหลี่อ้ายเจียเย็นชา"เรื่องที่หล่อนขโมยลูกของฉัน ฉันจะให้เจ้าหน้าที่มาจัดการกับหล่อน"หลี่อ้ายเจียทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาเว้าวอน"ท่านจอมพลหลิว...ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิด ฉันมันเลว ฉัน...""เลว ใช่ เธอมันเลว" หลิวเหวินชางคำรามเสียงดังจนสนั่น "หลี่อ้ายเจีย เธอขโมยลูกของฉันไป เธอพรากลูกของฉันไปจากอกฉัน เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทรมานแค่ไหน""ฉันเลอะเลือนไปแล้วถึงได้เชื่อฟังคำพี่สาว ฉันแค่ไม่อยากให้ทางบ้านสามีรู้เรื่องลูกที่เสียไปก็เท่านั้นเอง หลี่อ้ายเจียได้แต่สะอื้นไห้"แกเลยต้องมาพรากลูกคนอื่นไป แล้วลูกของคนอื่นไม่ใช่ลูกคนหรือไง " หลิวเหวินชางกัดฟันกรอด "สิ่งที่หล่อนทำมันโหดร้ายเกินไป หลี่อ้ายเจีย เธอทำลายชีวิตฉันมายาวนานหลายสิบปี""ท่านจอมพลฉันขอโทษ...ฉันขอโทษ..." หลี่อ้ายเจียได้แต่พร่ำพูดคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมาหลิวเหวินชางไม่ฟังคำขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น เขาหันไปสั่งลูกน้องเสียงเย็นชา "พาตัวหลี่อ้ายเจียไปให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองลงโทษตามกฎหมาย""ไม่...ท่านจอมพลหลิว อย่า
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินชิงชิงลืมตาขึ้นพร้อมกับความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวทันที เรื่องราวเมื่อวานยังคงวนเวียนอยู่ในใจ กับคำพูดของท่านเจิ้ง ที่บอกว่าพ่อของเธออย่างจะไม่ใช่ลูกชายของคุณย่าหลินชิงชิงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องของบิดา หลินเจิ้งเทียนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้าราวกับแบกปัญหาหนักอึ้งเอาไว้ หลินชิงชิงยืนมองบิดาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากปลุก"พ่อคะ"หลินเจิ้งเทียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองลูกสาวด้วยความงุนงง "ชิงชิง มีอะไรรึ? ""พ่อคะ หนูว่าพวกเราไปบ้านใหญ่ตระกูลหลินกันเถอะค่ะ" หลินชิงชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หนูอยากให้พ่อไปถามคุณย่าให้แน่ใจว่าพ่อใช่ลูกชายของท่านใช่หรือเปล่า"หลินเจิ้งเทียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาหลับตาลงราวกับกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองลูกสาวด้วยแววตาที่แน่วแน่"ก็ได้" เขาเองก็อยากรู้ความจริงเช่นกันหลังจากนั้นไม่นาน คนบ้านสาม ประกอบด้วยหลินเจิ้งเทียน หวังจื้อเหยา และหลินชิงชิง ต่างก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังบ้านใหญ่ตระกูลหลิน ระหว่างทาง หลินชิงชิงสังเกตเห็นสีหน้าเคร่
ท่านเจิ้งเมื่อเห็นทุกคนอยู่ในความตกตะลึง จึงเอ่ยเตือนสติขึ้นมา"เอาละๆ ทุกคน อย่ามัวแต่คุยกันเลย มาทานข้าวกันได้แล้ว ฉันชักจะเริ่มหิวแล้วสิ"หวังจื้อเหยา ได้สติก่อนใคร รีบเชื้อเชิญทุกคนให้เริ่มทานอาหาร หลินชิงชิง ตักข้าวใส่จานให้ทุกคนอย่างคล่องแคล่ว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารน่ารับประทาน ทั้งไก่ตุ๋นโสม หมูแดงอบน้ำผึ้ง ผัดผักรวมมิตร และซุปเยื่อไผ่ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ"อืม... อร่อยมาก" เฉินเหม่ยหลิงเอ่ยชม "ฉันไม่เคยทานอาหารที่ไหนอร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย""ใช่ๆ " หลี่หย่ง พยักหน้าเห็นด้วย "รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศกำลังดี"ท่านเจิ้งตักซุปเยื่อไผ่เข้าปากอีกคำ ซดน้ำซุปจนหมดชามแล้ววางช้อนลง พลางพยักหน้าชมด้วยสีหน้าพึงพอใจ "รสชาติดีจริงๆ กลมกล่อม หอมหวาน ซดคล่องคอ ใครเป็นคนทำอาหารมื้อนี้หรือ? "หลินชิงชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินคำชมก็ยิ้มแก้มปริ "หนูกับแม่ช่วยกันทำค่ะ หนูเป็นเพียงแค่ลูกมือเท่านั้นค่ะ" หลินชิงชิงตอบเสียงใส ความจริงแล้วที่อาหารอร่อยเป็นเพราะวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารล้วนมาจากมิติของเธอทั้งสิ้น ทั้งเยื่อไผ่อ่อนๆ เห็ดหอมชั้นดี และเครื่อง
แสงตะวันโพล้เพล้ทาบทาขอบฟ้า สาดสีส้มแดงระเรื่อทั่วลานบ้าน กลิ่นหอมของอาหารลอยโชยยั่วน้ำลาย หลินชิงชิงและผู้เป็นมารดาต่างก็จัดเตรียมสำรับกับข้าวหลายอย่างจนเต็มโต๊ะอาหาร ทั้งไก่ตุ๋นโสม หมูแดงอบน้ำผึ้ง ผัดผักรวมมิตร และซุปเยื่อไผ่ ส่วนของหวานและผลไม้ล้วนแต่ตัดวางอย่างสวยงาม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเมนูเลิศรสที่แม่ของเธอตั้งใจปรุงขึ้นด้วยความพิถีพิถันกับข้าวพร้อมแล้วค่ะ" หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวังจื้อเหยาหันมายิ้มให้ลูกสาว "ชิงชิงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยนะ ใกล้เวลาที่พ่อแม่สามีของหนูจะมาแล้ว"หลินชิงชิงหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ "แม่.. " เสียงของเธอเอ่ยแผ่วลง "หนู.. หนูตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะเป็นอย่างไรบ้าง" มือบางบิดชายเสื้อไปมาอย่างประหม่า"ไม่ต้องกังวลไปหรอกลูก" หวังจื้อเหยาตบบ่าลูกสาวเบาๆ อย่างให้กำลังใจ "แม่ได้ยินมาว่าครอบครัวของท่านนายพลหลี่เป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ มีชื่อเสียงเรื่องความใจดี แม่เชื่อว่าพวกท่านต้องเอ็นดูหนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแน่ๆ ""แต่.. หนูยังไม่เคยพบพวกท่านเลยนี่คะ" หลินชิงชิงยังคงกังวล "แล้ว.. แล้วถ้าหนูทำ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป นับตั้งแต่หลินชิงชิงพาครอบครัวเข้ามาในมิติแห่งนี้หลินเสี่ยวหลง เด็กน้อยวัย10ขวบ กลับมิได้วิ่งเล่นซุกซนตามประสาเด็ก แต่กลับขะมักเขม้นฝึกฝนวิชายุทธ ร่างน้อยๆ เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว กระบี่ไม้ในมือฟาดฟันไปตามกระบวนท่าที่หลินชิงชิงถ่ายทอดให้ เหงื่อไหลไคลย้อยอาบใบหน้า แต่เด็กน้อยก็ยังคงมุ่งมั่น มิย่อท้อ"ฮึบ...ฮ่า" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นเป็นระยะหลินเจิ้งเทียน ผู้เป็นบิดา นั่งมองลูกชายอยู่ใต้ต้นหลิวใหญ่ ในใจรู้สึกทั้งภาคภูมิใจและเป็นห่วง เสี่ยวหลงเป็นเด็กดี ขยันหมั่นเพียร แต่บางครั้งก็ดื้อรั้นเกินไป"เสี่ยวหลง พักสักครู่ ลูกฝึกมาตั้งแต่เช้าแล้ว" หลินเจิ้งเทียนเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใยหลินเสี่ยวหลงหยุดฝึกซ้อม เช็ดเหงื่อที่ไหลอาบหน้า "พ่อครับ ผมยังไม่เหนื่อยครับ ผมอยากเก่งๆ จะได้ปกป้องทุกคน จะไม่ให้คุณย่ามารังแกบ้านเราได้" เด็กชายตอบเสียงใส แววตามุ่งมั่นหลินเจิ้งเทียนถอนหายใจ เรื่องบาดหมางระหว่างเขากับมารดาเป็นเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจที่สุด เขาไม่รู้ว่าทำไมแม่ของเขาถึงได้เกลียดชังเขามากนัก ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยได้รับความรักจากท