Share

บทที่ 4 แยกบ้าน

Penulis: BBNanz
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-18 17:17:48

หลินชิงชิงเดินก้าวเท้าอย่างช้า ๆ เข้าไปในบริเวณบ้านใหญ่ตระกูลหลิน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังเล็กของเธอมากนัก

หลินเจี้ยน ลุงใหญ่ของเจ้าของร่างนี้เป็นชายร่างท้วมวัยกลางคน เขากำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ร่มเงาไม้หน้าบ้าน เมื่อเห็นหลินชิงชิงถูกประคองเข้ามา เขาก็เอ่ยทักทายหลานสาว "เอ้า บ้านสามมีอะไรรึ เห็นยกขบวนกันมาทั้งบ้านเลย"

หลินชิงชิงสูดหายใจเข้าลึก พยายามระงับอารมณ์โกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอก ก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"ลุงใหญ่ค่ะ วันนี้ผิงผิงลูกสาวของลุงใหญ่ต้องการจะฆ่าหนู พี่สาวผลักหนูไปกระแทกกับหินจนสลบ แถมยังปล่อยให้หนูนอนตายเลือดไหลอาบอยู่ตรงนั้นโดยไม่คิดช่วยเหลืออะไรเลย"

เธอแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใบหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด หลินเจี้ยนขมวดคิ้วมุ่น เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่หลินชิงชิงเล่า

"อะไรนะ ผิงผิงทำอย่างนั้นจริงเหรอ" เขาถามเสียงเครียด "ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ ผิงผิงไม่ใช่เด็กแบบนั้น" เขาพยายามแก้ต่างให้ลูกสาวคนเล็ก

หลินชิงชิงส่ายหน้า "ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดหรอกค่ะ หนูเห็นกับตาตัวเอง" เธอพูดเสียงแข็ง "ลุงใหญ่ต้องจัดการกับเรื่องนี้ให้หนูนะคะ"

หลินเจี้ยนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังลำบากใจอย่างมาก เขาคงไม่คาดคิดว่าลูกสาวที่เขารักจะก่อเรื่องร้ายแรงเช่นนี้

"ได้ ลุงจะคุยกับผิงผิงเอง" เขาตอบในที่สุด "ลุงจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"

หลินชิงชิงจ้องมองลุงใหญ่ด้วยสายตาที่อ่านความรู้สึกภายในของเขาออก เธอรู้ดีว่าคำพูดของลุงใหญ่มันเป็นเพียงแค่การแสดง เขาคงไม่กล้าลงโทษหลินผิงผิงอย่างรุนแรง คงจะแค่พูดตักเตือนเล็กน้อยเท่านั้น

หลินเจี้ยนเมื่อเห็นพวกชาวบ้านมารอชมเรื่องสนุกกันเยอะทำให้เขาไม่สามารถเข้าข้างลูกสาวได้มากนัก เขาก็แสร้งตะโกนไปทั่วลานบ้าน "ผิงผิง ออกมาเดี๋ยวนี้ "

เด็กสาวอายุ 17 ปีในชุดสีชมพูอ่อนก้าวออกมาจากห้อง ใบหน้าหวานซึ้งแฝงความหวาดกลัวเล็กน้อย "พ่อเรียกหนูมีอะไรคะ?"

หลินเจี้ยนมองลูกสาวคนเล็กอย่างเคร่งขรึม "ผิงผิง บอกพ่อตามตรงว่าหนูได้ทำร้ายชิงชิงหรือไม่?"

หลินผิงผิงเมื่อได้ยินที่บิดาเอ่ยถามเธอถึงกับเบิกตากว้าง เธอไม่คาดคิดว่านังหลินชิงชิงจะกล้าฟ้องพ่อของเธอ 

"ไม่ หนูไม่ได้ทำ ทำไมคุณพ่อถึงคิดแบบนั้นละคะ" เสียงเล็ก ๆ ของเธอสั่นเล็กน้อย ราวกับลูกนกที่เพิ่งหัดบินต้องเผชิญกับพายุใหญ่

"ยัยชิงชิงมันโกหก หนูเห็นเธอเป็นน้องสาว หนูจะไปแกล้งเธอไปทำไม" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับน้ำตาคลอหน่วย หญิงสาวพยายามอย่างสุดกำลังที่จะรักษาภาพลักษณ์ของเด็กดีเอาไว้

หลินชิงชิงมองหลินผิงผิงด้วยสายตาเย็นชา ความโกรธเกรี้ยวปะทุอยู่ในอก เธอไม่เคยคิดว่าหลินผิงผิงจะกล้าโกหกหน้าตายเช่นนี้

"พี่ผิงผิง ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าพี่เป็นคนทำร้ายฉัน" หลินชิงชิงพูดเสียงเรียบ แม้ในใจจะร้อนรุ่ม แต่เธอก็พยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่งที่สุด เธอรู้ดีว่าการแสดงออกถึงความอ่อนแอจะยิ่งทำให้หลินผิงผิงได้ใจ

"พี่ผลักฉันจนล้มลงไปฟาดกับก้อนหิน จนทำให้ฉันเกือบจะตาย ถ้าหากเสี่ยวหลงไม่หาคนมาช่วยฉัน ป่านนี้ฉันคงตายสมใจพี่สาวแล้ว" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร ซึ่งสร้างความเห็นใจให้กับพวกชาวบ้านเป็นอย่างมาก

หลินผิงผิงเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวหัวอ่อนที่ให้เธอแกล้งอยู่เป็นประจำจะกล้าโต้ตอบกับเธอ เธอรีบหันไปหาบิดาที่ยืนอยู่ข้างๆ

"พ่อคะ หนูไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ" เธอพูดเสียงอ่อน "น้องชิงชิงใส่ร้ายหนู"

หลินชิงชิงกำมือแน่น ความโกรธเกรี้ยวทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทา เธอไม่เคยคิดว่าหลินผิงผิงจะหน้าหนาเช่นนี้ แต่นึกเหรอว่าเธอจะจัดการเด็กสาวเช่นนี้ไม่ได้ 

"พี่ผิงผิง พี่อย่าโกหกอีกเลย ฉันรู้ว่าพี่เกลียดฉัน แต่ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำร้ายกันได้ถึงขนาดนี้"หลินชิงชิงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จนคนมองดูรู้สึกปวดใจ

หลินผิงผิงตัวสั่นเทา เมื่อเห็นสายตาของผู้คนรอบข้างจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เธอยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะส่ายหน้าไปมาและน้ำตาเริ่มคลอหน่วย

"พ่อคะ เชื่อหนูเถอะค่ะ หนูไม่ได้ทำจริงๆ"

ทันใดนั้น หลินเสี่ยวหลงหันมาตะโกนใส่หลินผิงผิง

"พี่ผิงผิง พี่นั่นแหละที่ทำร้ายพี่ชิงชิง ผมเห็นพี่ผลักพี่ชิงชิงกับตา พอพี่ผลักพี่ชิงชิงแล้วพี่ยังตะโกนด่าสมน้ำหน้า พี่ชิงชิงอยู่เลย"

คำพูดของเด็กน้อยดังไปทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนตกตะลึง หลินผิงผิงหน้าซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก เธอไม่คิดว่าจะมีคนเห็นเหตุการณ์ที่เธอผลักนังชิงชิงล้ม

"เสี่ยวหลง น้องพูดอะไร พี่ไม่ได้ทำนะ" หลินผิงผิงพยายามอธิบาย

"ไม่จริง ผมเห็นกับตา" เสี่ยวหลงยืนยันเสียงแข็ง "พี่โกหก"

หลินผิงผิงตัวแข็งทื่อ ความกลัวแล่นปราดเข้ามาในใจ เธอมองไปรอบๆ เห็นสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอราวกับเธอเป็นสัตว์ประหลาด

"ไม่จริง ไอ้เล็กสารเลว แกอย่ามาพูดมั่วนะ" หลินผิงผิงพยายามปฏิเสธเสียงดัง แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

หวังจื้อเหยาถอนหายใจยาวเหยียด สายตาเหม่อมองไปยังหลินผิงผิงที่ไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ทั้งที่ทำเรื่องเลวร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย

"ผิงผิงทำไมจิตใจหล่อนมันอำมหิตเช่นนี้" แม่หวังเอ่ยเสียงสั่นเครือ น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม

"บาดแผลของชิงชิงใหญ่แทบจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เรื่องนี้พี่ใหญ่ต้องจัดการลงโทษผิงผิง ไม่งั้นฉันจะไม่ยอมจริงๆ ด้วย"

หลินเจี้ยนได้แต่ยืนอึ้งไม่รู้จะทำยังไงดี ทันใดนั้น ประตูบ้านก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างหลี่อ้ายเจีย เดินออกมาจากในบ้าน ใบหน้าของหญิงชราเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด และครอบครัวสามที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ถึงกับชะงัก

"พวกแกบ้านสาม มาเอะอะโวยวายอะไรกันที่นี่" หลี่อ้ายเจียเอ่ยถามเสียงเข้ม "พวกแกกลับไปที่บ้านของพวกแกได้แล้ว"

หลินผิงผิงเมื่อเห็นคุณย่าก็รีบวิ่งเข้าไปออดอ้อน "คุณย่าขา..."

หลินชิงชิงเห็นดังนั้นก็รีบพูดแทรกขึ้น "คุณย่าคะ พี่ผิงผิงผลักหนูไปกระแทกกับก้อนหิน ทำให้หนูได้รับบาดเจ็บเกือบตาย และตอนนี้หนูยังต้องจ่ายค่ารักษากับหมอหลี่ตั้ง 10 หยวน ถ้าไม่ได้ยาดี ๆ จากหมอหลี่หนูคงไม่รอดแล้ว"

หลี่อ้ายเจียขมวดคิ้ว มองหลินชิงชิงด้วยสายตาไม่เชื่อ "ฉันไม่เห็นแกจะเกือบตายตรงไหน ถ้าแกเกือบตายจริงๆ แกไม่มีแรงมาตะโกนด่าที่หน้าบ้านฉันแบบนี้หรอก "

"ใช่แล้วค่ะคุณย่า ถ้ายัยชิงชิงบาดเจ็บสาหัสจริงคงไม่สามารถมายืนด่าพวกเราได้หลอกค่ะ" หลินผิงผิงได้ทีก็พูดเสริมขึ้นมา

ทันใดนั้น หมอหลี่ก็ก้าวเข้ามาในลานบ้านหลิน ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา

"อาการของแม่หนูชิงชิงสาหัสมากจริงๆ หากฉันมาถึงช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว แม่หนูชิงชิงคงไม่รอด"

คำพูดของหมอหลี่ทำให้ทุกคนตกตะลึง แม่หนูชิงชิง บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นเชียวหรือ?

"ถ้าไม่เชื่อก็ถามพวกชาวบ้านที่นำร่างของแม่หนูชิงชิงกลับมาบ้านมายืนยันได้เลย" ท่านหมอหลี่พูดเสริม

ชาวบ้านที่มาที่ไปช่วยหลินชิงชิงต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันขอยืนยัน...ว่านังหนูชิงชิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจริงๆ ตอนที่ฉันไปพบเธอที่นอนสลบริมลำธารเลือดเธอยังไหลไม่ยอมหยุดเลย" ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

หลินชิงชิงเมื่อเห็นชาวบ้านช่วยพูดเสริม เธอก็กล่าวกับคนเป็นย่า

"คุณย่าคะ ที่ผ่านมาพี่ผิงผิงทำร้ายหนูมาโดยตลอด ทั้งกลั่นแกล้งหนูสารพัด แต่คราวนี้หนูจะไม่ยอม หนูจะไปแจ้งทางการ ว่าพี่ผิงผิงต้องการฆ่าหนู"

คำพูดของหลินชิงชิงทำให้หลี่อ้ายเจียโวยวายขึ้นมาทันที

"นังเด็กสารเลว...หล่อนยังเห็นหัวฉันเป็นหัวหลักหัวตอบ้างหรือเปล่า คนกันเองจะไปแกจะแจ้งความทำไม อย่าทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่"หลี่อ้ายเจียเริ่มเกลี้ยกล่อมหลินชิงชิง

แต่หลินชิงชิงหาใช่เด็กหัวอ่อนเช่นเจ้าของร่างเดิม เธอตอบกลับคนเป็นย่า

"ถ้าคุณย่าไม่อยากให้หนูแจ้งทางการ ก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หมอหลี่ 10 หยวน แล้วทำการแยกบ้านสามให้หนู หนูไม่อยากอยู่ในบ้านที่มีแต่ความอยุติธรรม พี่ผิงผิงก็ต้องการฆ่าหนูให้ตาย คุณย่าก็รักแต่พี่ผิงผิง ไม่สนใจหลานสาวคนนี้เลย"

หลินชิงชิงแกล้งโวยวายเสียงดัง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันสงสารเธอจับใจ หลายคนพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด บางคนถึงกับพูดขึ้นมาว่า "หลี่อ้ายเจียหล่อนอย่าลำเอียงนักเลย" หลี่อ้ายเจียเมื่อได้ยินที่พวกชาวบ้านกล่าวเธอถึงกับโมโห

"ฉันยังไม่ทันจะตายเลยพวกแกก็คิดจะแยกบ้านแล้ว อกตัญญูกันทั้งบ้านเลย!" หลี่อ้ายเจียยังคงตะโกนด่าทอต่อไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

หลินชิงชิงแสร้งก้มหน้าลง น้ำตาหยดแหมะลงบนพื้นดิน "หนูยอมกลายเป็นเด็กอกตัญญูดีกว่าต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี้โดยไม่รู้จะต้องมาตายวันไหน" หลินชิงชิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

จนชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ต่างพากันมองหลินชิงชิงด้วยความสงสาร พวกเขาต่างรู้ดีว่าหลี่อ้ายเจียเป็นคนใจร้ายและเห็นแก่ตัวเพียงใด

"น่าสงสารแม่หนูชิงชิง ทั้งที่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง และกตัญญู แต่หลี่อ้ายเจียไม่เคยเห็นค่าของเธอเลย"

หลี่อ้ายเจีย มองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกอับอาย เธอรู้ดีว่าชาวบ้านกำลังเข้าข้างหลินชิงชิง แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวเธอตะโกนด่าหลินชิงชิงทันที

"นังเด็กสารเลว ถ้าพวกแกอยากแยกบ้านนัก ได้... ฉันจะแยกบ้านให้พวกแก"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 61 บทส่งท้าย งานแต่งงานของสองเรา

    เสียงประทัดดังกึกก้องทั่วลานบ้านตระกูลหลิว บ่งบอกถึงความยินดีปรีดาของงานมงคลสมรสระหว่างหลิวชิงชิงและหลี่เหว่ยบ้านของเธอประดับประดาไปด้วยโคมแดงสด ตัดกับผ้าแพรสีทองอร่ามระยิบระยับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ญาติมิตรต่างมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น เสียงพูดคุยจอแจ เสียงหัวเราะร่าเริงดังแทรกกับเสียงดนตรีบรรเลงเพลงมงคลภายในบ้านเจ้าสาว หลิวชิงชิงในชุดแต่งงานสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินวิจิตรงดงาม จากช่างตัดเย็บฝีมือดี ที่คนรักของเธอพาไปตัดเย็บ ใบหน้าหวานละมุนแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา เผยให้เห็นแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย หลิวชิงชิงนั่งก้มหน้ามองปลายเท้าอย่างประหม่า ขณะรอเจ้าบ่าวเข้ามาในบ้าน"ชิงชิง ลูกสาวของพ่อ" เสียงทุ้มของหลิวเหวินเจิ้งเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ลูบศีรษะลูกสาวอย่างอ่อนโยน "วันนี้ลูกสาวพ่อสวยที่สุดเลย"หลิวชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองบิดาด้วยแววตาสั่นไหว "คุณพ่อ...""ไม่ต้องกังวลนะลูก" หลิวเหวินเจิ้งกล่าวปลอบ "เดี๋ยวลูกเหว่ยก็จะมารับเจ้าสาวไปงานแต่งที่โรงแรมแกรนด์""ค่ะคุณพ่อ" หลิวชิงชิงพยักหน้ารับ น้ำตาคลอหน่วยด้วยความต

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 60 จัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่

    หลิวเหวินชางจ้องมองหลี่อ้ายเจียเย็นชา"เรื่องที่หล่อนขโมยลูกของฉัน ฉันจะให้เจ้าหน้าที่มาจัดการกับหล่อน"หลี่อ้ายเจียทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาเว้าวอน"ท่านจอมพลหลิว...ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิด ฉันมันเลว ฉัน...""เลว ใช่ เธอมันเลว" หลิวเหวินชางคำรามเสียงดังจนสนั่น "หลี่อ้ายเจีย เธอขโมยลูกของฉันไป เธอพรากลูกของฉันไปจากอกฉัน เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทรมานแค่ไหน""ฉันเลอะเลือนไปแล้วถึงได้เชื่อฟังคำพี่สาว ฉันแค่ไม่อยากให้ทางบ้านสามีรู้เรื่องลูกที่เสียไปก็เท่านั้นเอง หลี่อ้ายเจียได้แต่สะอื้นไห้"แกเลยต้องมาพรากลูกคนอื่นไป แล้วลูกของคนอื่นไม่ใช่ลูกคนหรือไง " หลิวเหวินชางกัดฟันกรอด "สิ่งที่หล่อนทำมันโหดร้ายเกินไป หลี่อ้ายเจีย เธอทำลายชีวิตฉันมายาวนานหลายสิบปี""ท่านจอมพลฉันขอโทษ...ฉันขอโทษ..." หลี่อ้ายเจียได้แต่พร่ำพูดคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมาหลิวเหวินชางไม่ฟังคำขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น เขาหันไปสั่งลูกน้องเสียงเย็นชา "พาตัวหลี่อ้ายเจียไปให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองลงโทษตามกฎหมาย""ไม่...ท่านจอมพลหลิว อย่า

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 59 ความจริงปรากฎ

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลินชิงชิงลืมตาขึ้นพร้อมกับความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวทันที เรื่องราวเมื่อวานยังคงวนเวียนอยู่ในใจ กับคำพูดของท่านเจิ้ง ที่บอกว่าพ่อของเธออย่างจะไม่ใช่ลูกชายของคุณย่าหลินชิงชิงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องของบิดา หลินเจิ้งเทียนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้าราวกับแบกปัญหาหนักอึ้งเอาไว้ หลินชิงชิงยืนมองบิดาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากปลุก"พ่อคะ"หลินเจิ้งเทียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองลูกสาวด้วยความงุนงง "ชิงชิง มีอะไรรึ? ""พ่อคะ หนูว่าพวกเราไปบ้านใหญ่ตระกูลหลินกันเถอะค่ะ" หลินชิงชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หนูอยากให้พ่อไปถามคุณย่าให้แน่ใจว่าพ่อใช่ลูกชายของท่านใช่หรือเปล่า"หลินเจิ้งเทียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาหลับตาลงราวกับกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองลูกสาวด้วยแววตาที่แน่วแน่"ก็ได้" เขาเองก็อยากรู้ความจริงเช่นกันหลังจากนั้นไม่นาน คนบ้านสาม ประกอบด้วยหลินเจิ้งเทียน หวังจื้อเหยา และหลินชิงชิง ต่างก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังบ้านใหญ่ตระกูลหลิน ระหว่างทาง หลินชิงชิงสังเกตเห็นสีหน้าเคร่

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 58 เจรจางานหมั้น

    ท่านเจิ้งเมื่อเห็นทุกคนอยู่ในความตกตะลึง จึงเอ่ยเตือนสติขึ้นมา"เอาละๆ ทุกคน อย่ามัวแต่คุยกันเลย มาทานข้าวกันได้แล้ว ฉันชักจะเริ่มหิวแล้วสิ"หวังจื้อเหยา ได้สติก่อนใคร รีบเชื้อเชิญทุกคนให้เริ่มทานอาหาร หลินชิงชิง ตักข้าวใส่จานให้ทุกคนอย่างคล่องแคล่ว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารน่ารับประทาน ทั้งไก่ตุ๋นโสม หมูแดงอบน้ำผึ้ง ผัดผักรวมมิตร และซุปเยื่อไผ่ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอ"อืม... อร่อยมาก" เฉินเหม่ยหลิงเอ่ยชม "ฉันไม่เคยทานอาหารที่ไหนอร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย""ใช่ๆ " หลี่หย่ง พยักหน้าเห็นด้วย "รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศกำลังดี"ท่านเจิ้งตักซุปเยื่อไผ่เข้าปากอีกคำ ซดน้ำซุปจนหมดชามแล้ววางช้อนลง พลางพยักหน้าชมด้วยสีหน้าพึงพอใจ "รสชาติดีจริงๆ กลมกล่อม หอมหวาน ซดคล่องคอ ใครเป็นคนทำอาหารมื้อนี้หรือ? "หลินชิงชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินคำชมก็ยิ้มแก้มปริ "หนูกับแม่ช่วยกันทำค่ะ หนูเป็นเพียงแค่ลูกมือเท่านั้นค่ะ" หลินชิงชิงตอบเสียงใส ความจริงแล้วที่อาหารอร่อยเป็นเพราะวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารล้วนมาจากมิติของเธอทั้งสิ้น ทั้งเยื่อไผ่อ่อนๆ เห็ดหอมชั้นดี และเครื่อง

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 57 ความจริงที่ถูกซ่อนไว้

    แสงตะวันโพล้เพล้ทาบทาขอบฟ้า สาดสีส้มแดงระเรื่อทั่วลานบ้าน กลิ่นหอมของอาหารลอยโชยยั่วน้ำลาย หลินชิงชิงและผู้เป็นมารดาต่างก็จัดเตรียมสำรับกับข้าวหลายอย่างจนเต็มโต๊ะอาหาร ทั้งไก่ตุ๋นโสม หมูแดงอบน้ำผึ้ง ผัดผักรวมมิตร และซุปเยื่อไผ่ ส่วนของหวานและผลไม้ล้วนแต่ตัดวางอย่างสวยงาม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเมนูเลิศรสที่แม่ของเธอตั้งใจปรุงขึ้นด้วยความพิถีพิถันกับข้าวพร้อมแล้วค่ะ" หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวังจื้อเหยาหันมายิ้มให้ลูกสาว "ชิงชิงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยนะ ใกล้เวลาที่พ่อแม่สามีของหนูจะมาแล้ว"หลินชิงชิงหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ "แม่.. " เสียงของเธอเอ่ยแผ่วลง "หนู.. หนูตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะเป็นอย่างไรบ้าง" มือบางบิดชายเสื้อไปมาอย่างประหม่า"ไม่ต้องกังวลไปหรอกลูก" หวังจื้อเหยาตบบ่าลูกสาวเบาๆ อย่างให้กำลังใจ "แม่ได้ยินมาว่าครอบครัวของท่านนายพลหลี่เป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ มีชื่อเสียงเรื่องความใจดี แม่เชื่อว่าพวกท่านต้องเอ็นดูหนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแน่ๆ ""แต่.. หนูยังไม่เคยพบพวกท่านเลยนี่คะ" หลินชิงชิงยังคงกังวล "แล้ว.. แล้วถ้าหนูทำ

  • หลินชิงชิงนางร้ายพลิกชะตา(รัก)ยุค70   บทที่ 56 เตรียมตัวพบหน้าพ่อแม่คุณพระเอก

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป นับตั้งแต่หลินชิงชิงพาครอบครัวเข้ามาในมิติแห่งนี้หลินเสี่ยวหลง เด็กน้อยวัย10ขวบ กลับมิได้วิ่งเล่นซุกซนตามประสาเด็ก แต่กลับขะมักเขม้นฝึกฝนวิชายุทธ ร่างน้อยๆ เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว กระบี่ไม้ในมือฟาดฟันไปตามกระบวนท่าที่หลินชิงชิงถ่ายทอดให้ เหงื่อไหลไคลย้อยอาบใบหน้า แต่เด็กน้อยก็ยังคงมุ่งมั่น มิย่อท้อ"ฮึบ...ฮ่า" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นเป็นระยะหลินเจิ้งเทียน ผู้เป็นบิดา นั่งมองลูกชายอยู่ใต้ต้นหลิวใหญ่ ในใจรู้สึกทั้งภาคภูมิใจและเป็นห่วง เสี่ยวหลงเป็นเด็กดี ขยันหมั่นเพียร แต่บางครั้งก็ดื้อรั้นเกินไป"เสี่ยวหลง พักสักครู่ ลูกฝึกมาตั้งแต่เช้าแล้ว" หลินเจิ้งเทียนเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใยหลินเสี่ยวหลงหยุดฝึกซ้อม เช็ดเหงื่อที่ไหลอาบหน้า "พ่อครับ ผมยังไม่เหนื่อยครับ ผมอยากเก่งๆ จะได้ปกป้องทุกคน จะไม่ให้คุณย่ามารังแกบ้านเราได้" เด็กชายตอบเสียงใส แววตามุ่งมั่นหลินเจิ้งเทียนถอนหายใจ เรื่องบาดหมางระหว่างเขากับมารดาเป็นเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจที่สุด เขาไม่รู้ว่าทำไมแม่ของเขาถึงได้เกลียดชังเขามากนัก ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยได้รับความรักจากท

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status