ต้วนหยางเฟยเมื่อเห็นว่าภรรยาถูกรังแกก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหา แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “อันอันเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ดีที่เมื่อครู่นี้ฉันระวังตัวเลยก้มหยิบไม้มาทัน” หญิงสาวไม่คิดว่าสามีจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ก็ดีใจที่เขาแสดงความเป็นห่วงออกมาต่อหน้าคนมากมาย
“อืม พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าหากเกิดอันตรายให้กลับมาหาพี่ แล้วเรื่องที่เหลือพี่จะจัดการเอง” ชายหนุ่มส่งเสียงดุให้ภรรยา ก่อนจะหันมามองบ้านซูด้วยความเย็นชา
“ผมอยู่หมู่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยพบใครเห็นแก่ตัวแบบนี้มาก่อน หากพวกคุณยืนยันว่าไม่เคยยืมเงินย่าหยวนไปก็ไม่ต้องกลัวอะไร ถึงแม้ว่าอันอันจะไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจในเมือง หากไม่มีความผิดเจ้าหน้าที่จะเอาเรื่องบ้านซูได้อย่างไร”
ชายหนุ่มกวาดสายตามองทุกคนอย่างดุดัน ก่อนจะพูดประโยคต่อมา“แต่การกระทำเมื่อครู่นี้ทำให้ผมและทุกคนเห็นแล้วว่าบ้านซูต้องการที่แย่งชิงสัญญาไป นั่นแสดงว่าบ้านซูเป็นหนี้บ้านหยวนจริง ๆ อีกอย่างน้าซูเป็นผู้ชายแต่พุ่งตัวเข้าหาภรรยาของผมทั้งที่เธอเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง หากอันอันไม่ระวังตัวหรือป้องกันตัวไว้เมื่อครู่นี้ คนที่เจ็บย่อมต้องเป็นอันอันของผม ซึ่งผมไม่ยอมเรื่องนี้แน่นอน”
ต้วนหยางเฟยพูดยาวเหยียด เมื่อชาวบ้านได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมาก็พยักหน้าเห็นด้วย ไม่คิดว่าบ้านซูจะเห็นแก่ตัวอย่างนี้
“เอาเลยหยางเฟย ฉันอยู่ในเหตุการณ์จะเป็นพยานให้เอง เมื่อครู่นี้หยวนอันอันเดินกลับออกไปแล้ว แต่ถูกคนบ้านซูพุ่งเข้าหา หมายจะแย่งชิงสัญญา แต่สมน้ำหน้าเหลือเกินที่ภรรยาของเธอเตรียมพร้อมฟาดกลับแบบนั้น คนเราเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืนสิ ไม่ใช่หน้าหนาอ้างว่าไม่ได้ยืม”
“ใช่ ๆ พวกเราก็ได้ยินและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จะเป็นพยานให้หยวนอันอันเอง” ชาวบ้านอีกคนยกมือขึ้นแล้วพูดออกมา
จากนั้นคนอื่น ๆ ต่างก็ยกมือขึ้นเห็นด้วย ทำซูเยี่ยนที่หัวปูดเพราะถูกตีเดินกลับเข้ามาอยู่ข้างแม่ตัวเอง
หญิงชราบ้านซูโกรธจนหน้าแดงไม่คิดว่าจะโดนคนรุ่นหลานทำให้ชื่อเสียงของบ้านซูเสียหายแบบนี้ และถ้าหากนางยังดื้อดึงไม่ยอมคืน คนในหมู่บ้านคงพูดเรื่องนี้ไม่จบแน่ และถ้าเรื่องถึงสำนักงานตำรวจอย่างไรบ้านซูต้องชดใช้อยู่ดี หรือไม่อาจจะมากกว่าเดิม
‘ไอ้ลูกโง่ ใครใช้ให้แกทำอย่างนั้น’ นางได้แต่ก่นด่าลูกชายที่ทำเสียเรื่องในใจ
แต่การที่จะคืนเงินสามร้อยหยวนมันก็ไม่ต่างกับการกรีดเลือดออกไปจากร่างเลย และยิ่งตอนนี้ต้วนหยางเฟยออกหน้าแทนอีก แล้วเธอควรทำอย่างไรดี
บทส่งท้าย ครอบครับอบอุ่น (จบ)เมื่อได้ยินสิ่งที่หลานสาวบอก หญิงชราก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี แม้จะไม่ได้อยากรบกวนหยวนอันอันหรือตระกูลฟาง แต่ก็ไม่อยากทิ้งใครไว้ข้างหลังเหมือนกัน“ถ้าอย่างนั้นย่าก็สบายใจ แต่สิ่งพวกนี้ไม่ได้ทำให้หลานอึดอัดใช่ไหม” นางจับมือหลานสาวมากุมไว้แล้วตบเบา ๆ ยังขอบคุณ“ไม่อึดอัดอะไรเลยค่ะ ฉันเองก็อยากจะช่วยเหลือพวกเขาเหมือนกัน ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ความจริงแล้วฉันอยากให้เขาย้ายไปอยู่ในเมืองด้วยซ้ำ แต่ก็คงทำไม่ได้เพราะทุกคนมีบ้านอยู่ที่นี่”“นั่นสิ ช่วยได้เท่าที่ช่วยก็แล้วกัน”สองย่าหลานสบตาให้กันพร้อมกับยิ้มออกมา ก่อนจะพากันเดินไปที่บ้านต้วนเพื่อดูว่าทุกคนเตรียมตัวกันเสร็จแล้วหรือยังส่วนต้วนหยางเฟย แม้ว่าทุกคนจะยังไม่ได้ย้ายเข้ามาในเมือง แต่ชายหนุ่มก็ต้องมาทำงานกับพี่ชายของภรรยาแล้ว นับว่าเป็นงานที่หนักหนาพอสมควรเนื่องจากเขาไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับกิจการร้านค้าที่ใหญ่อย่างนี้มาก เคยทำก็แค่ขายของในตลาดมืดและส่งสินค้าให้ลูกค้าประจำบ้านเท่านั้น“เป็นอย่างไรบ้าง พอทำไหวไหม” ฟางอี้โตวเดินเข้ามาแล้วถามพร้อมรอยยิ้ม ความจริงแล้วสองสามวันที่ผ่านมาน้องเขยคนนี้ก็ทำ
จุบจบของคุณหนูฟาง (ตัวปลอม)สองสามีภรรยาได้แต่กุมมือกันแน่น หยวนอันอันตั้งใจจะพาต้วนหยางเฟยเข้าไปในมิติ แต่ในขณะที่กำลังจะพาเขาไป ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับสวนเข้ามา พร้อมกับมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ“พบกันอีกแล้วนะหยวนอันอัน” ฟางหยูซิวยิ้มอย่างชั่วร้าย รู้สึกพึงพอใจที่แผนการของเธอกำลังจะสำเร็จ“อย่าบอกนะว่านี่คนของคุณหนู” หยวนอันอันแสร้งถามออกมา ทั้งที่มั่นใจแล้วว่ากลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้เป็นคนของฟางหยูซิว“รู้ตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะ” เธอเดินมาดร้ายให้เข้ามาหา แล้วยืนนำหน้าชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ โดยมีแม่นมคอยเกาะติดอยู่ด้วย“เราสองคนไม่ได้เป็นศัตรูกัน อีกอย่างก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง ทำไมคุณถึงคิดจะเอาชีวิตฉันล่ะ” หยวนอันอันยังคงแกล้งถาม“ใครใช้ให้แกเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่หายไปละ ถ้าไม่มีแกสักคนตำแหน่งคุณหนูฟางก็ยังคงเป็นของฉัน และทรัพย์สมบัติที่มี ก็ต้องเป็นของฉันเหมือนกัน” ฟางหยูซิวดวงตาวาวโรจน์ เธอไม่พอใจอย่างมากที่ผลออกมาว่าอยู่นั้นเป็นลูกของตระกูลฟาง“แต่คุณอยู่กับตระกูลฟางมาตั้งนานแล้ว นายท่านและนายหญิงฟางก็ดูจะรักคุณมาก ต่อให้ผลตรวจจะเป็นอย่างที่คุณบอก แล้วคุณถามฉันสักคำหรือ
ความจริงปรากฎหยวนอันอันไม่สนใจว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่ในเมื่อนายท่านฟางทำในสิ่งที่ขอร้องแล้ว เธอและต้วนหยางเฟยเลยมาหาซื้อตึกโดยใช้เส้นสายของนายท่านฟางที่ช่วยเหลือ จึงทำให้ทั้งสองคนมีร้านค้าแล้วในตอนนี้วันนี้จึงตัดสินใจพาทุกคนออกมาโดยการเช่าเกวียนของหมู่บ้านเพราะย่าหยวนเองก็มาด้วย“ร้านนี้แพงไหมสะใภ้สาม” แม่สามีอย่างเหอซือเฉิงถาม“ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะแม่ นี่คือร้านที่ฉันต้องการให้พี่ใหญ่กับพี่รองมาช่วยค้าขาย ส่วนฉันกับพี่หยางเฟยจะเป็นคนไปรับสินค้ามาเอง แล้วอีกอย่างฉันคิดว่าพวกเครื่องสานทุกชนิดจะรับมาจากชาวบ้าน อย่างไรรบกวนพ่อบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านให้หน่อยได้ไหมคะ อย่างน้อยนี่ก็เป็นรายได้ของชาวบ้านที่เพิ่มขึ้นมา นอกจากรออาหารจากกองพลน้อย”หยวนอันอันตอบกลับ เธอคิดว่าร้านนี้ไม่ควรจะขายแค่อาหารและวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว เลยตัดสินใจให้พ่อสามีไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน เกี่ยวกับเครื่องสานที่ชาวบ้านมักจะทำกันไว้ใช้เอง ให้เอามาฝากขายที่ร้านของเธอ“ดีเลย เดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจะไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านเอง”ต้วนเริ่นชวนตอบรับอย่างยินดี อย่างน้อยการค้าของลูกชายและลูกสะใภ้ยังช่วยเหลือชาวบ้านได้ นั่นเพราะคนชรา
วางแผนกำจัดให้พ้นทางเมื่อเจ้าหน้าที่พาหญิงสาวทั้งสามคนไปแล้ว หยวนอันอันจึงเริ่มมีสติขึ้นมา เพราะถ้าหากเธอตื่นมาก่อนหน้านี้ ซูน่านเผิงคงไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นแน่“อันอันน้องฟื้นแล้ว รู้สึกปวดตรงไหนหรือไม่” ต้วนหยางเฟยรีบถามอย่างร้อนใจ เพราะต้องการให้ดูสมจริงมากที่สุด“นั่นสิหลานย่า ย่ากลัวเหลือเกินว่าจะไม่มีหลานอยู่กับย่าอีกแล้ว” หญิงชรารีบถามอย่างร้อนใจเหมือนกันทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ พอเห็นว่าหยวนอันอันมีสติและฟื้นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกโล่งใจ ถึงแม้ว่าจะมีใครบางคนที่ไม่ค่อยชอบเธอก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้ต้องมาตายเพราะถูกวางยาพิษจากลูกสาวบ้านซู“เกิดอะไรขึ้นคะพี่ เมื่อครู่นี้ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่ก็ดีใจเหลือเกินที่ฟื้นขึ้นมา” เธอพูดออกมาเสียงเบา แต่ก็ขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ให้กับสามีโดยที่คนอื่นไม่ทันสังเกตเห็น “เธออย่ามัวแต่พูดอยู่เลยสะใภ้สาม สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ของเธอก็คือควรกลับเข้าไปพักผ่อน แล้วดูว่าร่างกายมีตรงไหนผิดปกติหรือเปล่า ฉันจะได้ให้เจ้าสามพาเธอไปรักษาในเมืองอย่างทันท่วงที” เหอซือเฉิงกลัวว่าสะใภ้คนนี้จะเป็นอันตราย เลยอยากให้เขาไปพักผ่อนเสียก่อน แต่พอ นึกได
จุดจบของคนคิดร้ายหางอี๋หรู่ได้ยินสิ่งที่น้องสามีถามก็เกิดความหวาดกลัว นั่นเพราะว่าพอเธอเอาขนมมาจากหลานสาวก็ตรงดิ่งมาที่นี่ทันที เลยไม่เข้าใจว่าทำไมแค่ขนมที่ผสมยาถ่าย หยวนอันอันถึงได้สลบไปแบบนี้“เกิดอะไรขึ้นกับอันอัน ตายแล้ว! ทำไมอันอันเธอถึงได้ไปนอนอย่างนั้นล่ะ” ซือเหนียงได้ยินเสียงโวยวายขณะที่กำลังจัดเรียงฟืนเข้าที่เลยออกมาดู และพอเห็นหยวนอันอันนอนสลบอยู่ เลยตกใจแทบสิ้นสติ ซึ่งขณะนั้นเอง ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาต่างก็หยุดมอง และส่งเสียงพูดคุยซุบซิบกันไม่หยุด“เรื่องนี้คงต้องถามพี่สะใภ้รองครับ เพราะเธอคือคนที่เอาขนมกล่องนี้มาให้อันอันกิน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดและนี้สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านและซือเหนียงไม่น้อย นั่นก็เพราะว่าไม่เคยมีใครเห็นต้วนหยางเฟยเป็นแบบนี้มาก่อนคราวนี้ทุกคนจึงหันไปทางหางอี๋หรู่กันอย่างพร้อมเพรียง และกดดันเธอเพื่อขอคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ฉันก็แค่เอาขนมมาให้สะใภ้สามกินก็เท่านั้นเอง ทุกคนจะมามองฉันแบบนั้นไม่ได้นะ” เธอตอบกลับอย่างร้อนรน ตอนนี้ในสมองนั้นคิดอะไรไม่ออกแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยวนอันอันตอนนี้ชาวบ้านไม่มีใค
โดนหลอกใช้จี้เจียซีเดินกลับมาบ้านด้วยใจที่โกรธเคือง แต่เพราะเรื่องนี้ยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องมากเลยไม่กล้าที่จะบอกทุกคนในบ้าน แต่กับแม่สามี เรื่องนี้เธอคิดว่าควรจะบอก อย่างไรหากเกิดเรื่องไม่ดีเข้า แม้สามีจะได้จัดการเรื่องนี้อย่างทันท่วงที“อ้าวทำไมวันนี้กลับมาเร็วล่ะสะใภ้ใหญ่” เหอซือเฉิงเห็นว่าสะใภ้ใหญ่กลับมาเร็วกว่าปกติก็เกิดความแปลกใจ“พอดีวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นเล็กน้อย ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะบอกแม่ เราเข้าบ้านเถอะ เรื่องนี้ไม่ควรให้ใครได้ยิน” เธอรีบบอกพร้อมกับมองซ้ายขวาเพราะกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้าก่อนจะจูงมือแม่สามีเข้าบ้านแล้วบอกให้ลูกกับหลานนั่งเล่นกันเองไปก่อนพอเข้ามาในบ้านแล้ว จี้เจียซีจึงบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียดและไม่มีคำไหนตกหล่นเลยแม้แต่คำเดียว“เลี้ยงไม่เชื่อง ฉันจะดูสิว่าสะใภ้รองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไหม หากหล่อนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยฉันจะให้หย่ากับเจ้ารองเสีย แล้วส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเสียเลย” เหอซือเฉิงพูดอย่างเจ็บใจและโกรธมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้“ฉันเองก็โกรธไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าลูกสาวบ้านซูกับหลานสาวของน้องสะใภ้รองจะมีจิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์