ตอนที่ 11
ช่องสุนัขรอด
เช้าวันนี้หลังจากที่นางรับประทานอาหารเช้ากับท่านแม่เสร็จ เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็โดนรั้งตัวให้อยู่สนทนากับมารดาเพียงแค่สองคนเท่านั้น
ท่านแม่ของนางไล่สาวใช้ทุกคนให้ไปรอที่ด้านนอกระหว่างที่ พวกนางสองแม่ลูกพูดคุยกัน
“เสี่ยวหรูอวี้ที่เจ้าเพิ่มรับมารู้วรยุทธ์ด้วยหรือ”
คำถามที่ท่านแม่เอ่ยถามออกมาไม่ได้ทำให้หลี่เยว่เล่อตกใจอะไร ที่จริงนางก็คาดเดาเอาไว้อยู่แล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนที่เห็นสายตาของท่านแม่มองมาที่นางสลับกับเสี่ยวหรูอวี้ก่อนที่จะพาฮูหยินที่ตกน้ำไปดูแล ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและปลอบฝัน
“รู้บ้างเล็กน้อยเจ้าค่ะ เห็นว่าแต่ก่อนตอนที่ยังเด็กเคยฝึก ร่วมกันกับพี่ชายก่อนที่จะเข้ากองทัพไปเป็นทหาร” หลี่เยว่เล่อเอ่ยตอบ ตามที่เสี่ยวหรูอวี้เล่าให้นางฟังเมื่อตอนที่นางถามออกไปตอนเช้าก่อนที่จะมาที่เรือนท่านแม่
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง” ฮูหยินหลี่คลายความสงสัยแต่ก็ยังอดห่วง ไม่ได้ “เสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้เจ้าเก็บเอาไว้ข้างกายได้จริงหรือ”
“ต้องเก็บเอาไว้สิเจ้าคะท่านแม่ นางเป็นถึงคนที่ข้าพามาเพราะ ถูกชะตาเชี่ยวนะเจ้าคะ อีกอย่างตอนนี้นางก็ตัวคนเดียวให้อยู่กับข้าน่ะดีแล้ว หากวันหน้าพี่ชายนางกลับมารับครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าข้าก็จะ ไม่รั้งนางเอาไว้เจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยจบก็ส่งยิ้มประจบเอาใจผู้เป็นมารดา อีกทั้งยังลุกขึ้นไปบีบนวดให้อีกด้วย
สองมือเรียวงามไล่บีบนวดมารดาไม่หยุด ในใจก็พรั่งพรูความคิดในหัวออกมาไม่หยุดเช่นเดียวกัน
“ท่านแม่เจ้าค่ะ เสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้ข้าไม่อาจส่งกลับไปได้จริงๆ เจ้าค่ะ เพราะไม่รู้ว่าหากส่งกลับไปจริงจะทำให้ท่านผู้นั้นเกิดไม่พอใจหรือไม่ เก็บนางเอาไว้ก่อนสำหรับนางแล้วตอนนี้เป็นการดีที่สุดจริงๆ”
ด้านในเรือนสองแม่ลูกสนทนากัน เบื้องนอกลานหน้าเรือนที่มีเหล่าสาวใช้ ของเรือนฮูหยินและแม่บ้านใหญ่ผู้เป็นคนสนิทของฮูหยินหลี่ร่วมอยู่ด้วย
“พี่เสี่ยวหรูอวี้เมื่อคืนนี้ท่านเก่งมากเลยนะเจ้าคะ ครู่เดียวก็ช่วยคนขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว” สาวใช้ผู้หนึ่งของเรือนฮูหยินใหญ่ของจวนเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณ” ผู้ที่ถูกเอ่ยชมเพียงเอ่ยออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉยดังเดิม
“แน่นอนอยู่แล้ว พวกเราเป็นสาวใช้คนสนิทของคุณหนูเชี่ยวนะ จะธรรมดาได้อย่างไร” เป็นอาหวนที่รีบเอ่ยเสริมขึ้นมาแทน
“อาหวนเจ้าก็เป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกับข้าไม่ใช่หรือ” หนึ่งในสาวใช้ที่เข้าที่จวนพร้อมกับอาหวนเอ่ยขึ้น “เจ้าก็แค่โชคดีถูกคุณหนูเลือกไปเป็นคนสนิทก็เท่านั้นไม่ใช่ว่าเพราะว่ามีสิ่งใดโดดเด่นเสียหน่อย”
“นั่นก็คงเป็นเพราะข้าโดดเด่นกว่าพวกเจ้าไงล่ะ เป็นความธรรมดาที่แสนโดดเด่น ไม่ใช่ธรรมดาที่แสนจืดจางเช่นพวกเจ้า” อาหวนตีฝีปากต่อ
ลานเบื้องหน้าเรือนเกือบจะเกิดสงครามน้ำลายรุนแรงขึ้น หากไม่ใช่ว่าแม่บ้านใหญ่เข้ามาตักเตือนพวกเหล่าสาวใช้เสียก่อน
“พวกเจ้านี่ไม่รู้ความเสียจริง หน้าเรือนฮูหยินใหญ่เจ้ายังกล้ามีต่อปากต่อคำกันเช่นนี้ช่างไร้มารยาทยิ่ง อยากให้ข้ารายงานต่อฮูหยินให้สั่งลงโทษเสียดีหรือไม่” สิ้นคำกล่าวของแม่บ้านใหญ่ เหล่าสาวใช้ต่างก็แยกตัวออกไปคนละมุมเพราะกลัวว่าหากแม่บ้านใหญ่นำคำไปแจ้งต่อฮูหยินจริงพวกนางอาจจะโดนลงโทษได้
“เสี่ยวหรูอวี้เมื่อวานเจ้าทำได้ดีมาก ฮูหยินใหญ่มีรางวัลเล็กน้อยให้เจ้า ไปรับจากห้องบัญชีของจวนได้เลย”
“ข้าน้อยทราบแล้ว ขอบคุณฮูหยินใหญ่ขอบคุณแม่บ้านใหญ่”
“เจ้าทำได้ดีย่อมสมควรแก่รางวัล” แม่บ้านใหญ่เอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปเฝ้าหน้าประตูเรือนของผู้เป็นนายเช่นเดิม
ก่อนที่อาทิตย์จะลับขอบฟ้าเสี่ยวหรูอวี้มากระซิบข้างหูนางว่าท่านอ๋องต้องการพบนาง คืนนี้หลังจากสบจังหวะเวลาให้นางตามเสี่ยวหรูอวี้ไปพบเขา
จวบจนบ่าวไพร่ในจวนต่างก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ด้านนอกเมื่อถึงเวลากลางคืนก็ไม่ได้มีคนพลุกพล่านอีก มีเพียงผู้คุ้มกันจวนเท่านั้นที่จะออกเดินตรวจตราอยู่ตลอด
หลี่เยว่เล่อให้อาหวนนอนอยู่บนเตียงสวมรอยเป็นนางเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจะได้ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางไม่ได้อยู่ในห้อง
สบจังหวะหญิงสาวถึงตามเสี่ยวหรูอวี้ออกมาที่กำแพงด้านหนึ่งในจวนที่ค่อนข้างลับตาคน
เสี่ยวหรูอวี้มองต้นทางให้นางค่อยๆ คลานลอดผ่านช่องสุนัขรอดออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะกระโดดทะยานข้ามกำแพงมาอย่างง่ายดาย
หญิงสาวปัดมือและชายกระโปรงของตัวเองที่เปื้อนละอองดินทรายและเศษหญ้าพลางมองไปที่เสี่ยวหรูอวี้ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“เมื่อครู่หากเจ้าพาข้าข้ามมาด้วยทำได้หรือไม่”
“ทำได้แน่เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่พาข้ากระโดดทะยานมาด้วยกัน”
“ข้าเกรงว่าจะทำให้คุณหนูตกใจได้เจ้าค่ะ”
“ถ้าเจ้าบอกข้าก็...ข้าก็คงไม่ถึงขั้นตกใจหรอก” นางเอ่ยก่อนจะเดินนำไปที่รถม้าที่จอดรออยู่ไกลๆ
คลานลอดช่องสุนัขนั้นไม่ถือเป็นอะไรหรอก นอกจะทุลักทุเลอยู่บ้างเพราะแต่แรกมีเอาไว้ให้สุนัขผ่านเข้าออก(หลายปีมาแล้วที่ในจวนไม่ได้เลี้ยงสุนัขอีก ช่องลอดสุนัขนี้ก็ถูกเอาหินทับปิดตายมานาน คงเป็นสาวใช้ผู้นี้ของนางที่เปิดช่องทางสุนัขนี้ออกอีกครั้ง) นางที่เป็นสตรีแม้จะตัวเล็กแต่ก็เข้าออกจากที่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ หากเทียบกับให้เสี่ยวหรูอวี้หยิบนางติดมือมาด้วยก็คงแค่หลับตาแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้นก็สามารถข้ามผ่านกำแพงจวนมาได้อย่างไม่ต้องลงแรงใด
หญิงสาวได้แต่แอบคิดบ่นอยู่ในใจเท่านั้น พอเดินมาถึงรถม้าคันใหญ่ที่จอดรออยู่เสี่ยวหรูอวี้ก็ประคองนางเข้าไปในรถม้าอย่างระวัง หญิงสาวจึงเข้าไปนั่งในรถม้าอย่างไม่คิดอะไรอีก
เสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้ดูเหมือนจะแข็งกระด้างไปบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะใส่ใจนางอยู่ไม่น้อย ถึงวิธีการของสาวใช้ผู้นี้จะดูแปลกๆ ไปบ้างแต่หลี่เยว่เล่อก็รับรู้ได้ว่าเสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้ตั้งใจดูแลนางจริง
อยู่บนรถม้าที่แล่นต่อเนื่องมาเกือบครึ่งชั่วยามได้กระมัง ในที่สุดก็เหมือนนางจะมาถึงจุดหมายเสียที
“เสี่ยวหรูอวี้ ที่นี่คือที่ใดกัน” นางเอ่ยถามขึ้น เพราะไม่มีโอกาสได้เห็นป้ายบ่งบอกอะไรเลยเพราะรถม้าที่นางนั่งนั้นเคลื่อนตัวเข้ามาจอดด้านในจวนใหญ่แห่งนี้ไม่ได้ให้นางลงเดินที่หน้าประตูจวน
“จวนหย่งไห่ชินอ๋องเจ้าค่ะคุณหนู”
ไม่ผิดจากที่นางคาดไว้จริงๆ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เท้าของนางสัมผัสลงพื้นก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง รู้สึกได้ถึงอำนาจและความสูงส่งของเจ้าของจวนได้ในทันที เรียกได้ว่าจวนแห่งนี้มีกลิ่นอายแบบเดียวกับท่านอ๋องแผ่ออกมาได้กระมัง
ทรงพลังอำนาจ โอฬารหรูหรา แต่กลับเงียบเหงามิใช่เงียบสงบ
“คารวะคุณหนู...ท่านอ๋องรออยู่นานแล้วเชิญทางนี้เลยขอรับ” ชายชราผู้หนึ่งที่มาอยู่รอรับนางตรงเข้ามาเอ่ยอย่างสุภาพและกระตือรือร้น
“ท่านลุงคงเป็นพ่อบ้านจวนนี้กระมัง” นางช่วยอีกฝ่ายคุยขณะก้าวตามเขาและสาวใช้อีกสองคนที่ทำหน้าที่ถือโคมไฟนำทาง
“ใช่แล้วขอรับ...ข้าน้อยแซ่อันเป็นพ่อบ้านของจวนอ๋องขอรับ”
“จวนอ๋องกว้างขวางใหญ่โตเพียงนี้คงดูแลไม่ง่าย พ่อบ้านอันคงเก่งกาจไม่เบาเป็นแน่”
“คุณหนูเอ่ยชมเกินไปแล้ว...แค่งานดูแลจวนเท่านั้นหากพ่อบ้านเช่นข้าน้อยไม่ถนัดก็ตกงานกันพอดีสิขอรับ” พ่อบ้านอันตอบกลับอย่างติดตลก นึกชอบใจที่คุณหนูผู้นี้ไม่ถือตัวพูดคุยกับพ่อบ้านเช่นเขา
“พ่อบ้านอันถ่อมตัวไปแล้ว”
ระหว่างทางนางยังได้มีโอกาสสนทนาเรื่องสัพเพเหระกับพ่อบ้านอันอีกหลายเรื่องทีเดียว หลี่เยว่เล่อตั้งใจไม่ถามชี้ตรงไปถึงเรื่องของท่านอ๋องเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายนึกระวังตัว เพียงแค่พูดคุยเรื่องทั่วไปเท่านั้น มีอยู่ขณะหนึ่งที่นางคิดว่าตนอาจจะพยายามซื้อตัวพ่อบ้านอันผู้นี้ได้ แต่ก็ได้แต่คิดนางกับท่านอ๋องไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เรียกว่าทัดเทียมได้
เจ้าของใบหน้าหวานคำนวณในใจได้แล้วว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีอยู่แล้ว ยอมให้ท่านอ๋องรู้ความเคลื่อนไหวของนางผ่านเสี่ยวหรูอวี้ต่อไปก็พอ อย่าได้คิดยื่นมือไปแตะต้องสิ่งที่จะนำภัยมาสู่ตนจะดีกว่า
หญิงสาวคิดได้ตกเช่นนี้สองเท้าก็ก้าวมาถึงเรือนกลางน้ำที่มีทางเดินทอดยาวออกไปจนถึงกลางทะเลสาบ นางมองเห็นไกลๆ ว่ามีบุรุษหนึ่งทอดเอนกายอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวด้วยท่าทีสบายๆ พร้อมกับมองไปที่พื้นน้ำของทะเลสาบ
เจ้าของร่างเล็กไม่แน่ใจว่าตนควรจะตื่นตะลึงต่อสิ่งใดก่อนดีระหว่างท่านอ๋องหนุ่มที่ดูราวกับเทพเซียนกำลังเอนกายหรือจวนที่มีทะเลสาบที่ทั้งกว้างและสวยงามเช่นนี้อยู่ข้างในกันแน่
“ต่อจากนี้เชิญคุณหนูเดินต่อไปเองได้เลยขอรับ”
นางหันไปมองพ่อบ้านอันทันทีพร้อมส่งสายตาเชิงเป็นคำถาม ก่อนจะเอ่ยออกมา “เหตุใดพวกเราไม่เข้าไปพร้อมกัน”
“บ่าวรับคำสั่งให้แค่มาส่งคุณหนูตรงนี้ขอรับ” พ่อบ้านอันเอ่ยจบก็คำนับตามมารยาทก่อนจะถอยหลังก้าวจากไป
“คุณหนูบ่าวเองก็จะออกไปรอกับพ่อบ้านอันเจ้าค่ะ” แม้ขนาดเสี่ยวหรูอวี้ก็ปลีกตัวออกไปในทันทีเช่นกัน
เวลานี้จึงเหลือแค่เพียงนางแล้วที่ต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องตามลำพัง
เขาคงมีเรื่องลับที่ต้องพูดกับนางกระมัง จึงไม่อาจให้ผู้ใดรั้งอยู่ด้วย มันจะเป็นเรื่องอันตรายขนาดไหนนะถึงขั้นที่พ่อบ้านอันกับเสี่ยวหรูอวี้ที่เป็นคนของเขาก็ไม่อาจอยู่ฟังด้วยได้
ตอนที่ 36สมรสพระราชทานสองปีผ่านไปสกุลหลี่เกิดเรื่องขึ้นมากมายท่านพ่อของนางยังเป็นเสนาบดีกรมคลังที่ฝ่าบาทให้ความเชื่อใจในความซื่อสัตย์และความสามารถ ส่วนพี่รองก็กำลังก้าวหน้าได้ดีในหน้าที่การงานเช่นเดียวกันอีกทั้งเมื่อสองเดือนก่อนรั่วรั่วพี่สะใภ้รองก็เพิ่งให้กำเนิดบุตรสาวตัวน้อยให้แก่เขาหลี่เมิ่งเหยาคือชื่อของนางฟ้าตัวน้อยผู้เป็นหลานสาวคนแรกของสกุล ท่านพ่อและท่านแม่ของนางหรือหากจะกล่าวให้ถูกก็คงต้องเอ่ยว่าทุกคนในสกุลหลี่ต่างก็ชื่อชอบและรักเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยกันทุกคนด้านพี่ใหญ่หลังจากเขื่อนที่เหอตงสร้างเสร็จ เขาก็กลับกองทัพหลวงของฝ่าบาทเห็นว่าอีกหนึ่งเดือนก็จะได้กลับมาประจำการที่เมืองหลวง เมื่อถึงเวลานั้นสกุลหลี่ก็จะพร้อมหน้ากันอย่างแท้จริงท่านแม่ของนางจัดเตรียมหาว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่เตรียมเอาไว้แล้วถึงห้าคน เห็นว่าอย่างไรพี่ใหญ่ก็ต้องเลือกจากแม่นางหนึ่งในห้าคนนี้เพื่อแต่งเป็นภรรยาโดยไม่อาจบิดพลิ้วอีกหลี่เยว่เล่อในวัยสิบเก้าปีนั้นโชคดีที่นางเจอกับคนที่อยากจะแต่งด้วยแล้วและเขาก็ยินดีที่จะรอวันที่นางพร้อมหญิงสาวจึงไม่ต้องหาแม่สื่อหรือออกงานเลี้ยงมากนัก หากจำเป็นต้องไปจริงๆหญิงสาวจึงจ
ตอนที่ 35 ข้าต้องการเจ้า ดวงหน้าเล็กในยามนี้แดงก่ำดุจสีของลูกพลับสุก ฝ่ามือเล็กทั้ง สองข้างของนางเองก็มีเหงื่อออกมาตลอดเวลาคล้ายกับว่ากำลังระบายความร้อนจากภายในกายออกมา เซียวหลิงหลางที่ค่อยๆ วางนางลงบนเตียงในเรือนด้านในจวน ของเขาแต่กลับถูกเจ้าของมือเล็กคว้าแขนเอาไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มลงจากเตียง“ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะซุกตัวเข้าไปหาแผงอกแกร่ง“ข้าให้คนไปตามหมอมาแล้วเจ้าอดทนอีกหน่อย” ชายหนุ่มปลอบหญิงสาวในวงแขน นางโอบกอดเขาแน่นเล็กน้อยพลางซุกหน้าเข้าไปที่ช่วงอกของเขา ลมหายใจร้อนของนางจึงไม่แปลกที่จะรินรดจนเขารู้สึกได้ถึงมันเป็นอย่างดีหากนางเพียงแค่ซุกตัวกอดเขาธรรมดาชายหนุ่มคงไม่ต้องค่อยหักห้ามใจตอนเองถึงเพียงนี้แต่นี่นางเริ่มเลื่อนฝ่ามือเล็กอันเนียนนุ่มของนางไปลูบสัมผัสตามซอกคอและไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปลายคางเรียวของเขา มีหรือผู้ที่ถูกสัมผัสเช่นนี้จะยังหายใจปกติได้อีกเขาย่อมถูกนางทำให้จิตใจเตลิดไปมากเช่นกัน“คุณชายเซียวท่านหล่อเหลามาก” นางไม่เพียงเอ่ยชมยังจูบเบาๆ ที่ปลายคางหม่นด้วย“อาเล่ออย่าซุกซนนัก” แม้เขาจะเอ่ยปรามนางแต่ก็ยังไม่หลบเลี่ยงสัมผัสของนาง เ
ตอนที่ 34 เหยื่อล่อล่อห่านอี้หนิงให้ออกมาคืออีกหนึ่งเหตุผลที่หลี่เยว่เล่อมาที่เมืองหนานสกุลห่านถือว่ามีจุดจบไม่ต่างจากสกุลหลี่ในชาติก่อน ที่ต่างกันคงเป็นห่านอี้เทียนทำผิดจริงแต่ท่านพ่อของนางในครั้งนั้นถูกใส่ร้ายหลักฐานทั้งหมดถูกห่านอี้เทียนนำใส่ในกล่องที่มีช่องลับและฝากนางนำไปเก็บให้บิดา โดยอ้างว่าของในกล่องเป็นเพียงตำราหายากที่เขายืมไปอ่านชั่วคราวเท่านั้นตอนนั้นเพราะความเชื่อใจนางจึงนำกล่องไปเก็บโดยไม่ได้ตรวจสอบดูอย่างชัดเจนอะไร จนกระทั่งจวนสกุลหลี่ถูกทางการค้นและพบหลักฐานการทำผิดของท่านพ่อซึ่งแน่นอนว่าหลักฐานทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน นางคิดว่ารองเจ้ากรมคลังฉินชาติก่อนก็คงจะร่วมมือกับห่านอี้เทียนใส่ร้ายท่านพ่อนางเช่นเดียวกันเพราะต้องการตำแหน่งเสนาบดีกรมคลังสกุลห่านต้องโทษประหารทั้งครอบครัว แน่นอนว่าห่านอี้หนิงเองก็ต้องตายเช่นเดียวกับห่านอี้เทียนที่ถูกท่านอ๋องสังหารทันที เจ้าหน้าที่ตามหาตัวนางที่บ้านเกิดที่อำเภอฉงแต่กับไม่พบตัวคนตามวัดอารามใดก็ไม่มีผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นห่านอี้หนิงอย่างที่ควรจะเป็น นั่นทำให้รู้ห่านอี้หนิงกำลังหลบหนีการจับกุมอยู่เบาะแสเดียวที่มีคือเห
ตอนที่ 33 ผูกใจ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นที่สั่นสะเทือนไปทั่วราชสำนัก ฝ่า บาททรงพิโรธยิ่งเมื่อได้รับฎีกาและหลักฐานของการวางแผนปล้นเงินคลังหลวงที่ถูกจัดเตรียมส่งไปเพื่อสร้างเขื่อนจากพระอนุชาของพระองค์โทษของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรมคลังห่านอี้เทียนและรองเจ้ากรมฉินหลางถูกประกาศไปทั่วแผ่นดินสกุลห่านและสกุลฉินถูกยึดทรัพย์และสั่งให้ประหารชีวิตทั้งสกุลเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้แก่เหล่าขุนนางฝ่าบาทสั่งการลงไปอย่างรวดเร็วไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างก็ถูกกวาดล้างจนสิ้นห่านอี้หนิงหายสาบสูญ ทั่วแคว้นติดประกาศจับชินอ๋องได้รับรางวัลและราชโองการชื่นชมจากฝ่าบาทเนื่องจากเป็นผู้ที่สามารถสกัดแผนชั่วของพวกขุนนางเลวหนักแผ่นดินได้แม่ทัพเฉินและเหล่าทหารที่รับหน้าที่คุ้มกันเงินคลังไปส่งได้รับเงินรางวัลและคำชื่นชมจากฝ่าบาทที่ทุ่มเทและปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ หลังพักรักษาตัวจนหายแล้วค่อยเรียกตัวกลับเมืองหลวงเงินคลังที่เอาไว้ใช้จ่ายสำหรับสร้างเขื่อนถูกเก็บเอาไว้ชั่วคราวที่ที่ว่าการเมืองเพราะที่นั่นมีเวรยามแน่นหนา การคัดเลือกกลุ่มการค้าถูกเลือกขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มีท่านอ๋องสามเป็นผู้ติดตามและคัดเลือกกลุ่ม
ตอนที่ 32ขจัดความกลัวในใจแผ่นหลังแกร่งเต็มไปด้วยความสง่างามยามอยู่บนหลังม้า ทุกฝีเท้าม้าที่วิ่งทะยานล้วนรวดเร็วรุนแรง ราวกับสายลมอันคลุ้มคลั่ง แน่นอนว่าย่อมเป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ควบคุมบังเหียนเวลานี้หย่งไห่ชินอ๋องผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น ทหารใต้บัญชาของอ๋องหนุ่มนั้นสามารถรบชนะสิบต่อหนึ่งได้อย่างสบายๆ และเป็นปราการอันแข็งแกร่งที่สุดของชายแดนทางใต้การรบแต่ละครั้งที่ผ่านมาตลอดสิบปีมีเพียงทำเพื่อประชาชน แคว้นและฝ่าบาท ทว่าครั้งนี้เขากำลังพาทหารติดตามห้าสิบนายไปเพื่อทำร้ายสิ่งที่ทำให้สตรีที่เขาพึงใจต้องเป็นกังวลและหวาดกลัว“สิ่งที่จะลบความกลัวออกไปจากใจของเจ้าได้เปิ่นหวางจะทำลายมันให้สิ้นซากเพื่อเจ้า”ขบวนการขนเงินหลวงจากกรมคลังที่นำโดยแม่ทัพเฉินอยู่ห่างจากเมืองเหอตงไม่ไกลดินทางอีกครึ่งวันก็จะถึงประตูเมือง คืนนี้พวกเขาจึงต้องพักค้างแรมข้างนอกอย่างไม่มีทางเลือกทหารคุ้มกันห้าสิบคนเป็นคนของแม่ทัพเฉินที่ทำหน้าที่คุ้มกันการขนเงินหลวงในครั้งนี้ อีกสิบคนเป็นผู้ติดตามที่มาพร้อมกับรองเสนาบดีฉินกองไฟถูกก่อขึ้นห้ากองใหญ่ มีเพียงรองเสนาบดีที่พักอยู่บนรถม้าส
ตอนที่ 31 ใกล้ยุติ“อีกสามวันเงินที่ส่งมาจากกรมคลังก็จะมาถึงเหอตง” เซียวห ลิงหลางเอ่ยขึ้น ยามนี้ภายในห้องทำงานชั่วคราวที่จวนรับรองมีเพียงเขาและเสนาบดีหลี่เท่านั้น“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”“ผู้คุ้มกันเงินมาคือแม่ทัพเฉินที่ฝ่าบาทไว้ใจกับรองเสนาบดีกรม คลังฉินหลางใช่หรือไม่”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” “ท่านเสนาบดีคิดว่าฉินหลางผู้นี้เป็นอย่างไร”“เหตุใดท่านอ๋องจึงถามเช่นนี้เล่าขอรับ” หลี่เจ๋อเอ่ยถามผู้มากด้วยอำนาจซึ่งแม้ตนจะถือว่าเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนักแต่ก็ไม่เคยคิดจะงัดอำนาจกับชายหนุ่มผู้นี้เลยสักครั้ง“ห่านอี้เทียนกับฉินหลางรองเจ้ากรมคลังลอบติดต่อกันมานาน แล้วข้อนี้ท่านเสนาบดีก็คงยังไม่ทราบกระมัง”“กระหม่อมไม่เคยรู้เลยพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อครู่ท่านอ๋องกล่าวว่าพวก เขาลักลอบติดต่อกัน ทั้งที่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาคนทั้งกรมคลังต่างรู้กันหมดว่า รองเจ้ากรมฉินหลางไม่ชอบห่านอี้เทียนเท่าไร่นักแล้วคนทั้งคู่ที่มีความสัมพันธ์เช่นนี้ลอบติดต่อกันนั่นก็ชัดเจน แล้วว่าสิ่งที่ลักลอบทำจะต้องไม่ใช่เรื่องดี“ห่านอี้หนิงเมื่อครั้งไปที่เมืองหลวงและพักอยู่ที่จวนของท่านเสนาบดีหลี่ชั่วคราว นางเองก็เคยแอบไปส่งจดหมายลับๆ