Share

ตอนที่ 3 ควมกังวลในใจ

last update Last Updated: 2025-08-18 21:54:36

ตอนที่ 3

ควมกังวลในใจ

เมื่อคืนหลังจากที่ไล่สาวใช้คนอื่นๆ ให้กลับไปพักผ่อนจนหมดแล้ว นางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาหวนฟังว่าเพราะเหตุใดนางจึงต้องจ้างมือสังหารเพื่อสังหาร ห่านอี้เทียน ผู้ที่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านพ่อและพี่ใหญ่ของนาง ในฐานะลูกน้องใต้อำนาจของท่านพ่อและสหายร่วมสำนักศึกษาของพี่รอง

แน่นอนว่าเมื่ออาหวนได้ฟังนางเล่าจบย่อมไม่เชื่อที่นางเอ่ยออกไป คิดว่านางคงฝันเป็นเรื่องเป็นราวไปเอง

หลี่เยว่เล่อรู้ดีแต่แรกว่าเรื่องเช่นย้อนเวลากลับมาเช่นนี้ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อได้โดยง่าย นางยืนกรานหนักแน่พร้อมกับแสดงท่าทีจริงจังต่อสิ่งที่กล่าวออกมาและความตั้งใจที่จะฆ่าห่านอี้เทียนให้ได้จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จ

นางยังกล่าวกับอาหวนอีกว่า หากอาหวนไม่เชื่อนางก็ไม่เป็นไร นางในฐานะสาวใช้ของนางอย่างไรก็ต้องทำตามนางอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องช่วยเป็นลูกมือนางอีกแรง  

หลี่เยว่เล่อไม่ลืมที่ข่มขู่สาวใช้คนสนิทของนางอีกเล็กๆ น้อยๆ ว่าอย่าได้คิดจะแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ท่านพ่อท่านแม่ของนางหรือผู้อื่นให้รู้ โดยเด็ดขาด

“อาหวนเจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่า หากเรื่องนี้หลุดออกไป ข้าคุณหนูของ เจ้าสังหารคนไม่สำเร็จ ก็ยินดีที่จะผู้ตายแทน เจ้าไม่อยากเป็นผู้ร่วมพิธีงานศพแต่อยากเป็นผู้จัดงานศพให้ข้าแทนก็แล้วแต่เจ้า”

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ขบคิดวางแผนทำเรื่องกำจัดคนชั่วให้ สกุลหลี่จนดึกดื่นค่อนคืนแล้วถึงข่มตาหลับลงได้ หลี่เยว่เล่อจึงตื่นสาย กว่าปกติเล็กน้อย หลังจากทำการจัดการความเรียบร้อยของใบหน้าและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์แล้วนั้น นางจึงตั้งใจจะไปร่วมมื้ออาหารเช้ากับท่าน พ่อท่านแม่ของตนเช่นทุกวัน ทว่าอาหวนกลับเอ่ยบอกนางว่าท่านพ่อของนางนั้นออกไปข้างนอกตั้งแต่ฟ้ายังมืดอยู่ ส่วนท่านแม่ของนางก็เดินทางไปที่อารามบนเขาตั้งแต่เช้าตรู่ตามคำเชิญของสวีฮูหยินสหายสนิท เช่นเดียวกัน ยามนี้จึงเหมือนนางถูกทิ้งให้อยู่ที่จวนตามลำพังซึ่งต่างไปจากที่ควรเป็นเช่นกาลก่อน

หลังจากนั่งลงหวนนึกคิดดีๆ แล้วมีเพียงเรื่องที่นางไปสักการะองค์เทพพร้อมท่านพ่อท่านแม่ที่ยังคงเป็นเช่นกาลก่อน ครั้งนั้นหลังจากกลับมานางก็อยู่แต่ในจวนซ้ำยังล้มป่วยเป็นไข้อยู่ถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ท่านแม่ เองก็อยู่ดูแลอยู่ไม่ห่าง ท่านพ่อเองก็ไม่ได้ออกไปไหนเพราะเป็นวันยกเว้นไม่ต้องเข้าร่วมประชุมเช้า

นี่แสดงให้เห็นว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ เพียงแค่นางเปลี่ยนแปลงบ้างสิ่งผลลัพธ์ย่อมไม่เหมือนอดีตอีกต่อไป

เป็นเพราะว่าวันนี้จู่ๆ บิดาของนางก็ติดตามแขกที่มาเยือนออกไปทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดนางจึงนึกอยากจะรู้ขึ้นมาว่าผู้ใดกันที่เป็นผู้มาเยือน จึงเรียกพ่อบ้านประจำจวนเข้ามาสอบถาม

“เช้านี้ผู้ใดมาหาท่านพ่อข้าหรือ”

“ข้าน้อยก็ไม่ทราบแน่ชัดขอรับ เพียงแต่มีผู้ถือป้ายหยกมา พอนายท่านเห็นก็รีบร้อนก้าวขึ้นรถม้าที่รออยู่หน้าประตูจวนไปเลยขอรับ”

“ป้ายหยกนั้นเป็นแบบไหนกันเจ้าจำได้หรือไม่” นางเอ่ยถามต่อทันที เมื่อได้รู้ว่าท่านพ่อของนางรีบร้อนออกไปทันทีเมื่อเห็นเพียงป้ายหยกเท่านั้น อีกทั้งแขกที่ว่าผู้ที่มาเยือนก็คงเป็นเพียงคนสนิทที่มาพร้อม ป้าย ส่วนผู้เป็นนายตัวจริงก็คงจะอยู่บนรถม้า หรือไม่ก็ไม่ได้มาเยือนด้วยตนเองตั้งแต่แรกก็เป็นไปได้

“บ่าวไม่ได้เห็นป้ายขอรับ ป้ายถูกห่อด้วยผ้าสีดำเอาไว้แต่แรก บ่าวไม่กล้าเปิดออกดูด้วยตัวเองเพราะเกรงจะไม่สมควรจึงได้แต่ส่งถึงมือนายท่านเช่นนั้นขอรับ” 

“ขอบคุณท่านพ่อบ้านมาก หากท่านพ่อกลับมาแล้วท่านให้คนมาแจ้งที่เรือนข้าก็แล้วกัน” นางเอ่ยสั่งพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มทั้งที่ในใจเต็ม ไปด้วยความสงสัย

“ขอรับคุณหนู”

ผู้ใดกันที่ทำให้ท่านพ่อของนางแค่ได้เห็นป้ายหยกห้อยก็ถึงขั้น  ตามขึ้นรถม้าไปในทันที

คนผู้นั้นย่อมต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่   

ในอดีตนั้นตรงกับวันที่นางล้มป่วยจึงไม่แน่ชัดว่าเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ คิดจะสอบถามใครก็ไม่ได้เพราะมีเพียงนางเท่านั้นที่หวนคืนกลับมาอีกครั้ง

บ่ายคล้อยท่านแม่ของนางพร้อมกับสวีฮูหยินก็พากันกลับมาถึง  จวน

พวกนางตั้งใจกลับมานั่งเล่นพูดคุยสนทนากันอย่างผ่อนคลายใน  สวนดอกไม้เล็ก ๆ ซึ่งอยู่ใจกลางจวน

หลี่เยว่เล่อตั้งใจทักทายสวีฮูหยินด้วยรอยยิ้มหวานอย่างนอบน้อม สวีฮูหยินผู้นี้นางจำได้ดีว่ายามนั้นสกุลหลี่เกิดเรื่องใหญ่ สวีฮูหยินแม้จะไม่สามารถออกหน้าทำการใหญ่ให้สกุลหลี่ได้พ้นผิดได้

แต่มื้อสุดท้ายนางก็ยังลอบติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้พวกนางได้กินดื่มอย่างดีเป็นมื้อสุดท้าย

สวีฮูหยินผู้นี้ถือเป็นมิตรแท้ของท่านแม่ของนางอย่างแท้จริง คู่ควรที่จะให้นางมีท่าทีอ่อนนน้อมด้วย

“หลานคารวะท่านป้าสวีเจ้าค่ะ”

“เหตุใดเจออาเล่อทุกครั้งเจ้ากลับดูงดงามมากขึ้นทุกที ท่าทีอ่อนน้อมอ่อนหวานก็ยิ่งทำให้ข้านึกเอ็นดูนัก”  

“ท่านป้าเอ่ยชมมากไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านป้าต่างหากเล่าเจ้าค่ะ ที่ พบเจอครั้งไหนก็ยังคงงดงามมากเป็นพิเศษทุกอย่าง”          

“อาจู ดูบุตรสาวเจ้าสิ นางปากหวานน่ารักขนาดไหน”  

“เรื่องซุกซนนางก็ไม่น้อยหน้าเชี่ยวล่ะ พี่สาวท่านอย่าได้ถูกท่าที   อ่อนหวานของลูกข้าหลอกเอา” หลี่ฮูหยินกล่าวเตือนสหายตน

“หญิงสาววัยแรกแย้มเช่นนี้ ซุกซนน่ารักก็เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ อาเล่อมา เจ้ารับถุงหอมอวยพรนี่ไว้”

สวีฮูหยินเรียกนางเข้าไปหาก่อนจะหยิบถุงหอมปักลายมงคลออกมาจากแขนเสื้อ

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านป้า” นางเอ่ยขอบคุณเมื่อรับของมาแล้ว ก็    หยิบขึ้นมาสูดกลิ่นหอมจากถุงหอมในทันที    

“ถุงหอมนี่ไม่เพียงเป็นสิ่งมงคล ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวอยู่อีกใช่    หรือไม่”   

“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะท่านป้าสวี กลิ่นหอมจากถุงหอมนี้ดูเหมือน    จะมีเอกลักษณ์มากจริงๆ เป็นของจากอารามทำหรือท่านป้าเตรียมไปเอง หรือเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างสนใจ  

“ย่อมเป็นสิ่งที่ทางอารามเตรียมเอาไว้ก่อนแล้วเพื่อแจกจ่ายแก่ ผู้มีศรัทธา สิ่งที่บรรจุภายในถุงหอมล้วนเป็นดอกไม้แห้งที่ชาวบ้านต่างก็นำมาให้ทางอารามถือเป็นการร่วมใจกัน ถุงขอพรที่ป้าให้เจ้านั้นถือเป็น ของหายากคงเป็นกลิ่นจากดอกไม้ป่าที่หายากมากๆ”

“ของหายากเช่นนี้ท่านป้ายังอุตส่าห์มอบให้ข้า วันนี้ข้าก็จะขอตอบแทนท่านป้าสวีโดยการปรนนิบัติเอาใจท่านป้าตลอดวันดีหรือไม่เจ้าค่ะ”

“ย่อมต้องดียิ่งนักเชี่ยว”

“ท่านพี่สวีวันนี้ข้าค้นพบแล้วว่าท่านนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับสามีของข้าเลย ต่างก็พากันตามใจอาเล่อกันหมดเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”

สวีฮูหยินอยู่พูดคุยกับพวกนางจนถึงช่วงเย็นเมื่อฟ้าใกล้ค่ำจึงได้ขึ้นรถม้ากลับจวนไป

คล้อยหลังจากที่ส่งท่านป้าสวีเสร็จสิ้น นางจึงได้เอ่ยถามถึงท่านพ่อกับท่านแม่ของตน ตามจริงแล้วก่อนหน้านี้นางก็ได้เอ่ยถามไปแล้วครั้ง หนึ่งแต่ท่านแม่นางก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน ทว่าไม่นานพ่อบ้านก็ได้นำคำมารายงานแก่ท่านแม่ว่ามีคนถือป้ายหยกของสกุลหลี่มากล่าวแทนนายท่านที่รีบร้อนออกไป

เห็นว่ามีงานด่วนต้องไปตรวจสอบที่ต่างเมืองเวลากลับไม่แน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเร่งด่วนแม้กระทั่งสัมภาระก็ไม่ทันได้ตระเตรียมไปให้ดี ขอให้นางและท่านแม่อย่าได้เป็นห่วง ตัวท่านนั้นจะส่งจดหมายกลับมาเป็นระยะๆ

“ท่านแม่เจ้าคะ ท่านพ่อจู่ๆ ก็มีเรื่องด่วนให้ต้องเร่งรุดไปเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติหรือไม่เจ้าคะ อีกทั้งยามนี้ท่านพ่ออยู่ที่ใดก็ไม่รู้” นางเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล

“ท่านพ่อเจ้าเป็นขุนนาง มีเรื่องราชการงานด่วนเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไปเลย ส่วนเรื่องที่พ่อเจ้าอยู่ที่ไหนนั้นบางทีอาจจะไม่สะดวกที่จะบอก ยามนี้อาจจะลงพื้นที่จัดการเรื่องสำคัญซึ่งเป็นเรื่องลับซับซ้อนอยู่จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ เอาไว้ทุกอย่างลงตัวแล้วตามที่ให้คนมาแจ้งเอาไว้ก่อนหน้าก็คงส่งข่าวมาเอง เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย พ่อเจ้าเป็นขุนนางรับหน้าที่สำคัญมากว่ายี่สิบปีแล้วย่อมชำนาญในหน้าที่”

“เจ้าค่ะท่านแม่” นางรับคำมารดา ในใจยังคงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะทุกอย่างไม่ดำเนินไปเช่นเดิมเช่นอดีต แต่กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาไม่น้อย เช่นวันนี้ท่านพ่อของนางควรอยู่พักผ่อนที่จนตลอดวันแต่กลับกลายเป็นว่าท่านหายไปที่ใดก็ไม่รู้  

นางหวั่นใจว่าจะเกิดเรื่องร้าย ถึงแม้จะมีคนมาแจ้งแล้วก็ยังคง  ไม่อาจไม่นึกเป็นห่วงและหวั่นใจได้ กลัวเหลือเกินว่าอาจจะเกิดเรื่องร้าย  กับผู้เป็นบิดา

เรื่องราวในอดีตทำให้นางนึกกังวลไปหมดทุกอย่างยากนักที่จะ   ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลได้อีกต่อไป  

“อาเล่อ หลายวันแล้วกระมังที่แม่ไม่ได้เห็นความคืบหน้าของ   งานปักผ้าของเจ้าเลย พรุ่งนี้สายๆ เจ้าก็นำมาให้แม่ดูหน่อยก็แล้วกัน”    

“เจ้าค่ะท่านแม่” นางรับคำก่อนจะเดินไปส่งท่านแม่ของตนถึง    เรือนใหญ่ พร้อมทั้งอยู่ปรนนิบัตินางเปลี่ยนชุดเสร็จนั่นแหละจึงได้ขอตัว   กลับเรือนนอนของตน

“คุณหนูข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงนายท่าน แต่ยามนี้เรื่องงานปักที่ฮู หยินใหญ่ของดูในวันรุ่งขึ้นก็สำคัญนะเจ้าคะ”

“งานปักนกกระเรียนกลางมวลบุปผา ข้าทำเสร็จแล้วหาได้มีเรื่องใดที่ต้องกังวลเสียหน่อย”

“คุณหนูดูเหมือนท่านจะจำผิดแล้วนะเจ้าคะ งานปักนกกระเรียนของท่านนั้นมีเพียงมวลบุปผาเท่านั้นเจ้าค่ะที่เสร็จ ส่วนเจ้านกกระเรียนตัวสำคัญท่านยังไม่ได้เริ่มปักเลยแม้แต่ฝีเข็มเดียว”

จบคำของอาหวนที่ทำให้หลี่เยว่เล่อนึกขึ้นมาได้ทันทีว่ายังทำภาพปักได้ไม่เสร็จสิ้น ไม่รอช้านางเร่งฝีเท้ากลับเรือนตนอย่างเร่งรีบ พอมาถึงก็ให้อาหวนเร่งนำเครื่องมือเย็บปักทั้งหมดออกมา นางนั่งปักลายนกกระเรียนลงไปบนผืนผ้าจนค่อนคืนจึงแล้วเสร็จ พอล้มตัวหัวถึงนอนก็หลับไปในทันที

หากไม่ติดว่าครั้งก่อนนางเย็บลายถุงหอมของท่านแม่ตามที่นางสั่งไม่เสร็จ ทำเอาถูกงดออกจากจวนถึงสิบวันคืนนี้อย่างไรนางก็คงไม่นั่งหลังขดหลังแข็งปักเจ้านกกระเรียนอย่างตั้งอกตั้งใจเช่นนี้หรอก หากไม่ใช่ว่าอีกสองวันนางจำเป็นต้องออกจากเรือนอย่างไรก็คงจะยอมถูกงดออกจากจวนอีกสักสิบวันไปแล้ว

โชคดีที่อดีตนั้นนางเคยปักไปแล้วครั้งหนึ่งจึงถือได้ว่ามีประสบการณ์แล้ว ปักอีกครั้งจึงรวดเร็วเพราะรู้จังหวะลงเข็มแล้ว มิเช่นนั้นเกรงว่าคงต้องปักจนถึงเช้าทีเดียวจึงจะแล้วเสร็จอีกทั้งงานปักก็คงออกมาแทบดูไม่ได้กันเลยทีเดียว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 36 สมรสพระราชทาน (จบ)

    ตอนที่ 36สมรสพระราชทานสองปีผ่านไปสกุลหลี่เกิดเรื่องขึ้นมากมายท่านพ่อของนางยังเป็นเสนาบดีกรมคลังที่ฝ่าบาทให้ความเชื่อใจในความซื่อสัตย์และความสามารถ ส่วนพี่รองก็กำลังก้าวหน้าได้ดีในหน้าที่การงานเช่นเดียวกันอีกทั้งเมื่อสองเดือนก่อนรั่วรั่วพี่สะใภ้รองก็เพิ่งให้กำเนิดบุตรสาวตัวน้อยให้แก่เขาหลี่เมิ่งเหยาคือชื่อของนางฟ้าตัวน้อยผู้เป็นหลานสาวคนแรกของสกุล ท่านพ่อและท่านแม่ของนางหรือหากจะกล่าวให้ถูกก็คงต้องเอ่ยว่าทุกคนในสกุลหลี่ต่างก็ชื่อชอบและรักเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยกันทุกคนด้านพี่ใหญ่หลังจากเขื่อนที่เหอตงสร้างเสร็จ เขาก็กลับกองทัพหลวงของฝ่าบาทเห็นว่าอีกหนึ่งเดือนก็จะได้กลับมาประจำการที่เมืองหลวง เมื่อถึงเวลานั้นสกุลหลี่ก็จะพร้อมหน้ากันอย่างแท้จริงท่านแม่ของนางจัดเตรียมหาว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่เตรียมเอาไว้แล้วถึงห้าคน เห็นว่าอย่างไรพี่ใหญ่ก็ต้องเลือกจากแม่นางหนึ่งในห้าคนนี้เพื่อแต่งเป็นภรรยาโดยไม่อาจบิดพลิ้วอีกหลี่เยว่เล่อในวัยสิบเก้าปีนั้นโชคดีที่นางเจอกับคนที่อยากจะแต่งด้วยแล้วและเขาก็ยินดีที่จะรอวันที่นางพร้อมหญิงสาวจึงไม่ต้องหาแม่สื่อหรือออกงานเลี้ยงมากนัก หากจำเป็นต้องไปจริงๆหญิงสาวจึงจ

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 35 ข้าต้องการเจ้า

    ตอนที่ 35 ข้าต้องการเจ้า ดวงหน้าเล็กในยามนี้แดงก่ำดุจสีของลูกพลับสุก ฝ่ามือเล็กทั้ง สองข้างของนางเองก็มีเหงื่อออกมาตลอดเวลาคล้ายกับว่ากำลังระบายความร้อนจากภายในกายออกมา เซียวหลิงหลางที่ค่อยๆ วางนางลงบนเตียงในเรือนด้านในจวน ของเขาแต่กลับถูกเจ้าของมือเล็กคว้าแขนเอาไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มลงจากเตียง“ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะซุกตัวเข้าไปหาแผงอกแกร่ง“ข้าให้คนไปตามหมอมาแล้วเจ้าอดทนอีกหน่อย” ชายหนุ่มปลอบหญิงสาวในวงแขน นางโอบกอดเขาแน่นเล็กน้อยพลางซุกหน้าเข้าไปที่ช่วงอกของเขา ลมหายใจร้อนของนางจึงไม่แปลกที่จะรินรดจนเขารู้สึกได้ถึงมันเป็นอย่างดีหากนางเพียงแค่ซุกตัวกอดเขาธรรมดาชายหนุ่มคงไม่ต้องค่อยหักห้ามใจตอนเองถึงเพียงนี้แต่นี่นางเริ่มเลื่อนฝ่ามือเล็กอันเนียนนุ่มของนางไปลูบสัมผัสตามซอกคอและไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปลายคางเรียวของเขา มีหรือผู้ที่ถูกสัมผัสเช่นนี้จะยังหายใจปกติได้อีกเขาย่อมถูกนางทำให้จิตใจเตลิดไปมากเช่นกัน“คุณชายเซียวท่านหล่อเหลามาก” นางไม่เพียงเอ่ยชมยังจูบเบาๆ ที่ปลายคางหม่นด้วย“อาเล่ออย่าซุกซนนัก” แม้เขาจะเอ่ยปรามนางแต่ก็ยังไม่หลบเลี่ยงสัมผัสของนาง เ

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 34 เหยื่อล่อ

    ตอนที่ 34 เหยื่อล่อล่อห่านอี้หนิงให้ออกมาคืออีกหนึ่งเหตุผลที่หลี่เยว่เล่อมาที่เมืองหนานสกุลห่านถือว่ามีจุดจบไม่ต่างจากสกุลหลี่ในชาติก่อน ที่ต่างกันคงเป็นห่านอี้เทียนทำผิดจริงแต่ท่านพ่อของนางในครั้งนั้นถูกใส่ร้ายหลักฐานทั้งหมดถูกห่านอี้เทียนนำใส่ในกล่องที่มีช่องลับและฝากนางนำไปเก็บให้บิดา โดยอ้างว่าของในกล่องเป็นเพียงตำราหายากที่เขายืมไปอ่านชั่วคราวเท่านั้นตอนนั้นเพราะความเชื่อใจนางจึงนำกล่องไปเก็บโดยไม่ได้ตรวจสอบดูอย่างชัดเจนอะไร จนกระทั่งจวนสกุลหลี่ถูกทางการค้นและพบหลักฐานการทำผิดของท่านพ่อซึ่งแน่นอนว่าหลักฐานทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน นางคิดว่ารองเจ้ากรมคลังฉินชาติก่อนก็คงจะร่วมมือกับห่านอี้เทียนใส่ร้ายท่านพ่อนางเช่นเดียวกันเพราะต้องการตำแหน่งเสนาบดีกรมคลังสกุลห่านต้องโทษประหารทั้งครอบครัว แน่นอนว่าห่านอี้หนิงเองก็ต้องตายเช่นเดียวกับห่านอี้เทียนที่ถูกท่านอ๋องสังหารทันที เจ้าหน้าที่ตามหาตัวนางที่บ้านเกิดที่อำเภอฉงแต่กับไม่พบตัวคนตามวัดอารามใดก็ไม่มีผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นห่านอี้หนิงอย่างที่ควรจะเป็น นั่นทำให้รู้ห่านอี้หนิงกำลังหลบหนีการจับกุมอยู่เบาะแสเดียวที่มีคือเห

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 33 ผูกใจ

    ตอนที่ 33 ผูกใจ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นที่สั่นสะเทือนไปทั่วราชสำนัก ฝ่า บาททรงพิโรธยิ่งเมื่อได้รับฎีกาและหลักฐานของการวางแผนปล้นเงินคลังหลวงที่ถูกจัดเตรียมส่งไปเพื่อสร้างเขื่อนจากพระอนุชาของพระองค์โทษของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรมคลังห่านอี้เทียนและรองเจ้ากรมฉินหลางถูกประกาศไปทั่วแผ่นดินสกุลห่านและสกุลฉินถูกยึดทรัพย์และสั่งให้ประหารชีวิตทั้งสกุลเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้แก่เหล่าขุนนางฝ่าบาทสั่งการลงไปอย่างรวดเร็วไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างก็ถูกกวาดล้างจนสิ้นห่านอี้หนิงหายสาบสูญ ทั่วแคว้นติดประกาศจับชินอ๋องได้รับรางวัลและราชโองการชื่นชมจากฝ่าบาทเนื่องจากเป็นผู้ที่สามารถสกัดแผนชั่วของพวกขุนนางเลวหนักแผ่นดินได้แม่ทัพเฉินและเหล่าทหารที่รับหน้าที่คุ้มกันเงินคลังไปส่งได้รับเงินรางวัลและคำชื่นชมจากฝ่าบาทที่ทุ่มเทและปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ หลังพักรักษาตัวจนหายแล้วค่อยเรียกตัวกลับเมืองหลวงเงินคลังที่เอาไว้ใช้จ่ายสำหรับสร้างเขื่อนถูกเก็บเอาไว้ชั่วคราวที่ที่ว่าการเมืองเพราะที่นั่นมีเวรยามแน่นหนา การคัดเลือกกลุ่มการค้าถูกเลือกขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มีท่านอ๋องสามเป็นผู้ติดตามและคัดเลือกกลุ่ม

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 32 ขจัดความกลัวในใจ

    ตอนที่ 32ขจัดความกลัวในใจแผ่นหลังแกร่งเต็มไปด้วยความสง่างามยามอยู่บนหลังม้า ทุกฝีเท้าม้าที่วิ่งทะยานล้วนรวดเร็วรุนแรง ราวกับสายลมอันคลุ้มคลั่ง แน่นอนว่าย่อมเป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ควบคุมบังเหียนเวลานี้หย่งไห่ชินอ๋องผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น ทหารใต้บัญชาของอ๋องหนุ่มนั้นสามารถรบชนะสิบต่อหนึ่งได้อย่างสบายๆ และเป็นปราการอันแข็งแกร่งที่สุดของชายแดนทางใต้การรบแต่ละครั้งที่ผ่านมาตลอดสิบปีมีเพียงทำเพื่อประชาชน แคว้นและฝ่าบาท ทว่าครั้งนี้เขากำลังพาทหารติดตามห้าสิบนายไปเพื่อทำร้ายสิ่งที่ทำให้สตรีที่เขาพึงใจต้องเป็นกังวลและหวาดกลัว“สิ่งที่จะลบความกลัวออกไปจากใจของเจ้าได้เปิ่นหวางจะทำลายมันให้สิ้นซากเพื่อเจ้า”ขบวนการขนเงินหลวงจากกรมคลังที่นำโดยแม่ทัพเฉินอยู่ห่างจากเมืองเหอตงไม่ไกลดินทางอีกครึ่งวันก็จะถึงประตูเมือง คืนนี้พวกเขาจึงต้องพักค้างแรมข้างนอกอย่างไม่มีทางเลือกทหารคุ้มกันห้าสิบคนเป็นคนของแม่ทัพเฉินที่ทำหน้าที่คุ้มกันการขนเงินหลวงในครั้งนี้ อีกสิบคนเป็นผู้ติดตามที่มาพร้อมกับรองเสนาบดีฉินกองไฟถูกก่อขึ้นห้ากองใหญ่ มีเพียงรองเสนาบดีที่พักอยู่บนรถม้าส

  • หวนคืนครานี้เห็นทีข้าคงต้องร้าย   ตอนที่ 31 ใกล้ยุติ

    ตอนที่ 31 ใกล้ยุติ“อีกสามวันเงินที่ส่งมาจากกรมคลังก็จะมาถึงเหอตง” เซียวห ลิงหลางเอ่ยขึ้น ยามนี้ภายในห้องทำงานชั่วคราวที่จวนรับรองมีเพียงเขาและเสนาบดีหลี่เท่านั้น“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”“ผู้คุ้มกันเงินมาคือแม่ทัพเฉินที่ฝ่าบาทไว้ใจกับรองเสนาบดีกรม คลังฉินหลางใช่หรือไม่”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” “ท่านเสนาบดีคิดว่าฉินหลางผู้นี้เป็นอย่างไร”“เหตุใดท่านอ๋องจึงถามเช่นนี้เล่าขอรับ” หลี่เจ๋อเอ่ยถามผู้มากด้วยอำนาจซึ่งแม้ตนจะถือว่าเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนักแต่ก็ไม่เคยคิดจะงัดอำนาจกับชายหนุ่มผู้นี้เลยสักครั้ง“ห่านอี้เทียนกับฉินหลางรองเจ้ากรมคลังลอบติดต่อกันมานาน แล้วข้อนี้ท่านเสนาบดีก็คงยังไม่ทราบกระมัง”“กระหม่อมไม่เคยรู้เลยพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อครู่ท่านอ๋องกล่าวว่าพวก เขาลักลอบติดต่อกัน ทั้งที่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาคนทั้งกรมคลังต่างรู้กันหมดว่า รองเจ้ากรมฉินหลางไม่ชอบห่านอี้เทียนเท่าไร่นักแล้วคนทั้งคู่ที่มีความสัมพันธ์เช่นนี้ลอบติดต่อกันนั่นก็ชัดเจน แล้วว่าสิ่งที่ลักลอบทำจะต้องไม่ใช่เรื่องดี“ห่านอี้หนิงเมื่อครั้งไปที่เมืองหลวงและพักอยู่ที่จวนของท่านเสนาบดีหลี่ชั่วคราว นางเองก็เคยแอบไปส่งจดหมายลับๆ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status