ตอนที่ 4
ผิดแผน 1
จดหมายจากท่านพ่อของนางถูกส่งมาทุกเช้า วันนี้เขียนมาว่ามีเรื่องยุ่งต้องจัดการอยู่ที่กรมคลังไม่คืนนี้ก็อาจจะพรุ่งนี้เช้าจึงจะปลีกตัวกลับมาที่จวนได้ หากไม่อาจกลับมาได้ในคืนนี้ก็จะให้คนมาส่งข่าวท่านแม่กับนางจะได้ไม่ต้องอยู่รอ
เมื่อได้รับข่าวจากท่านพ่อเช่นนี้นางก็ไม่กังวลอีกต่อไป ถือได้ว่าผ่อนคลายสมองได้ไปครึ่งหนึ่ง
สองวันมานี้หลี่เยว่เล่อตั้งใจเอาใจหลี่ฮูหยินเป็นพิเศษ ทุกครั้งเมื่อถึงเวลาอาหารก็คอยปรนนิบัติอยู่ไม่ห่าง ไม่ว่าจะฝึกคัดอักษร หรือฝึกปักผ้าล้วนทำอย่างตั้งใจ ในตอนนี้ยังถึงขั้นอาสาบีบนวดคลายเมื่อยให้อีกด้วย
“ท่านแม่ ข้าลงแรงเท่านี้พอเหมาะหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามมารดา
“ไม่เลวทีเดียว เจ้าว่ามาเถอะหลายวันมานี้เอาใจข้าไม่น้อยอยากได้สิ่งใดจากข้าเล่า”
แน่นอนว่าก็ยังเป็นหลี่ฮูหยินที่รู้ทันบุตรสาวคนเล็กของตนมากที่สุดอยู่ดี นางรู้อยู่แต่แรกแล้วว่าสองวันมานี้บุตรสาวต้องการเอาใจนางเพราะมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝง
“ลูกตั้งใจจะปรนนิบัติท่านด้วยใจจริงนะเจ้าคะ หาได้ทำไปเพราะต้องการสิ่งใดไม่”
“หากไม่เร่งบอกมาตอนนี้ก็ไม่ต้องเอ่ยแล้ว” หลี่ฮูหยินเอ่ยขึ้นก่อนจะทำทีลุกขึ้นเตรียมจากไป
“ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะท่านแม่” หลี่เยว่เล่อรีบกล่าวรั้งท่านแม่ของนางเอาไว้
“เจ้าต้องการสิ่งใดก็ว่ามา”
“คืนนี้ข้าอยากจะขอออกไปดูการแสดงที่หอหยกขาวเจ้าค่ะ เห็นว่าเป็นการแสดงชุดใหม่น่าดูชมยิ่งนัก”
หลี่ฮูหยินได้ยินคำจากบุตรสาวก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อน ตัวนางนั้นไม่ชอบที่ที่คนพลุกพล่านวุ่นวายเท่าใดนัก ยิ่งเสียงดังยิ่งไม่ถูกใจปกติแล้วหากสามีนางอยู่ก็จะเป็นผู้อาสาไปดูแลบุตรสาวคนเล็กด้วยตัวเอง
“เจ้าอยากไปก็ไปได้ ให้พ่อบ้านเหลียงตามไปด้วยก็แล้วกัน”
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านใจดีที่สุด” ไม่เพียงเอ่ยเปล่าเท่านั้นนางยังพุ่งตัวไปกระโดดกอดท่านแม่ของตนเอาไว้ด้วยความดีใจ ทำท่าทีราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา ทั้งที่ในใจยามนี้แทบจะไปจดจ่อกับสิ่งที่ตั้งใจจะไปทำจริงๆ ในคืนนี้แทบทั้งหมดแล้ว
กว่าที่จะจัดการพ่อบ้านเหลียงได้นั้นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย นางและอาหวนต้องลงแรงไปพอสมควรเลยทีเดียว โชคดีที่นางได้ยาสลบมาจากเจ้าของร้านยาไม่มีชื่อจึงได้ให้อาหวนแอบใส่ยาลงในน้ำชาของพ่อบ้านเหลียงตอนที่เขาไม่ทันระวัง หลังจากดื่มชาไปก็หมดสติไปในทันที
นางออกมาจากหอหยกขาวเพียงคนเดียวทิ้งให้อาหวนอยู่เฝ้าพ่อบ้านเหลียงเอาไว้ เดิมทีสาวใช้คนสนิทของนางก็ไม่อยากให้นางออกมาเพียงผู้เดียวแต่จะทำอย่างไรได้เล่าก็ในเมื่อต้องมีคนหนึ่งคอยเฝ้าพ่อบ้านเหลียงเอาไว้ อีกอย่างเรื่องสำคัญเช่นนี้นางอยากจะลงมือทำด้วยตัวเองให้แน่ใจว่าจะไม่มีเรื่องผิดพลาดใดๆ ตามมา
ด้านอาหวนแม้มีใจแต่นางก็รู้ดีว่าสาวใช้ของนางคนนี้ในใจนั้นมีความกลัวอยู่มาก ยากที่จะไม่หวั่นไหวหรือร้อนรนจนเกินไปได้ เพราะฉะนั้นนางย่อมลงมือเองจะดีกว่า อีกทั้งเพียงนำของไปไว้เท่านั้น เสร็จแล้วก็กลับ
ด้วยความระมัดระวังไม่นานนางก็มาถึงถนนที่ร้านยาไม่มีชื่อตั้งอยู่ เหตุผลหนึ่งที่นางเลือกหอหยกขาวเป็นข้ออ้างก็เพราะว่าที่ตั้งของหอหยกขาวกับถนนที่ร้านยาไม่มีชื่อตั้งอยู่นั้นอยู่ห่างกันเพียงสองถนนกั้น
ตลอดเส้นทางมีผู้คนผ่านไปมาไม่มากนัก ท่าทีของทุกคนที่ผ่านไปมาราวกับว่าไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งใดนอกจากเบื้องหน้าของตน หลี่เยว่เล่อมองดูก็รู้ได้ในทันทีว่า พวกเขาเหล่านี้เองก็น่าจะมาที่ถนนสายนี้เพื่อทำเรื่องบางอย่างที่ไม่ควรให้ผู้อื่นล่วงรู้ เพราะฉะนั้นการที่ไม่สนใจคนอื่นในสถานที่เช่นนี้จะดีเสียกว่าอย่างน้อยๆ ก็คงหลีกเลี่ยงการจดจำของผู้อื่นได้ เหมือนถือคติที่ว่าตัวเราไม่ยุ่งกับผู้อื่นผู้อื่นก็ไม่ยุ่งกับเรา
หญิงสาวยกมือขึ้นสำรวจความแน่นหนาของผ้าคลุมหน้าของนางในตอนนี้ว่ายังผูกเอาไว้แน่นเป็นอย่างดีหรือไม่ เมื่อพบว่ายังผูกเอาไว้ได้อย่างแน่นหนาดีแล้วนางจึงได้เร่งฝีเท้าไปยังจุดหมายของตนต่อไป
ในที่สุดนางก็มาถึงร้านยาไร้ชื่อ เวลานี้ร้านยานั้นประตูหน้าร้านปิดสนิท หญิงสาวมองหาหีบใส่ของตามที่ผู้เฒ่าร้านยาเคยบอกเอาไว้ ก่อนที่สายตาของนางจะมองไปเห็นที่ด้านข้างดูเหมือนจะมีสิ่งใดถูกผ้าผืนเก่าสีซีดคลุมเอาไว้ มองดูแล้วอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นหีบที่นางกำลังหา ไวเท่าความคิดนางเอื้อมมือไปดึงผ้าผืนเก่านั้นออกในทันที
หีบขนาดกลางปรากฏให้นางเห็นในเวลาต่อมา ไม่รอช้านางเอื้อมมือไปเปิดหีบนั้นออก ภายในมีกระดาษพร้อมกับถุงเงินอยู่ก่อนแล้วกว่าสามแผ่นกระดาษและสามถุงเงิน
หลี่เยว่เล่อเมื่อเห็นว่าเป็นหีบที่ตนตามหาก็เร่งหยิบกระดาษที่นางเขียนเตรียมมาเอาไว้แล้วกับถุงเงินที่เตรียมมาวางลงไปในหีบแล้วจึงจัดการปิดหีบและนำผ้ามาคลุมเอาไว้ดังเดิม
หญิงสาวรู้สึกโล่งใจเล็กๆ นางหันไปมองที่จุดที่หีบถูกคลุมเอาไว้อีกครั้งก่อนตั้งใจว่าจะรีบออกไปจากที่นี่
ทว่าเมื่อหันหลังมากับพบว่ามีบุรุษสามคน ซึ่งสวมใส่ชุดสีดำทั้งตัวกำลังจับจ้องมาที่นางอยู่
นางแม้หวั่นใจอยู่บ้างแต่ก็ทำใจกล้าเดินออกไปอีกทาง เพียงแต่เดินได้ไม่กี่ก้าวกับมีเสียงทุ้มเย็นชาเอ่ยขึ้นอีกทั้งคำที่เขาเอ่ยนั้นยังทำเอานางชะงักไปในทันทีอีกด้วย
“คุณหนูสามสกุลหลี่ หลี่เยว่เล่อ”
ตอนที่ 36สมรสพระราชทานสองปีผ่านไปสกุลหลี่เกิดเรื่องขึ้นมากมายท่านพ่อของนางยังเป็นเสนาบดีกรมคลังที่ฝ่าบาทให้ความเชื่อใจในความซื่อสัตย์และความสามารถ ส่วนพี่รองก็กำลังก้าวหน้าได้ดีในหน้าที่การงานเช่นเดียวกันอีกทั้งเมื่อสองเดือนก่อนรั่วรั่วพี่สะใภ้รองก็เพิ่งให้กำเนิดบุตรสาวตัวน้อยให้แก่เขาหลี่เมิ่งเหยาคือชื่อของนางฟ้าตัวน้อยผู้เป็นหลานสาวคนแรกของสกุล ท่านพ่อและท่านแม่ของนางหรือหากจะกล่าวให้ถูกก็คงต้องเอ่ยว่าทุกคนในสกุลหลี่ต่างก็ชื่อชอบและรักเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยกันทุกคนด้านพี่ใหญ่หลังจากเขื่อนที่เหอตงสร้างเสร็จ เขาก็กลับกองทัพหลวงของฝ่าบาทเห็นว่าอีกหนึ่งเดือนก็จะได้กลับมาประจำการที่เมืองหลวง เมื่อถึงเวลานั้นสกุลหลี่ก็จะพร้อมหน้ากันอย่างแท้จริงท่านแม่ของนางจัดเตรียมหาว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่เตรียมเอาไว้แล้วถึงห้าคน เห็นว่าอย่างไรพี่ใหญ่ก็ต้องเลือกจากแม่นางหนึ่งในห้าคนนี้เพื่อแต่งเป็นภรรยาโดยไม่อาจบิดพลิ้วอีกหลี่เยว่เล่อในวัยสิบเก้าปีนั้นโชคดีที่นางเจอกับคนที่อยากจะแต่งด้วยแล้วและเขาก็ยินดีที่จะรอวันที่นางพร้อมหญิงสาวจึงไม่ต้องหาแม่สื่อหรือออกงานเลี้ยงมากนัก หากจำเป็นต้องไปจริงๆหญิงสาวจึงจ
ตอนที่ 35 ข้าต้องการเจ้า ดวงหน้าเล็กในยามนี้แดงก่ำดุจสีของลูกพลับสุก ฝ่ามือเล็กทั้ง สองข้างของนางเองก็มีเหงื่อออกมาตลอดเวลาคล้ายกับว่ากำลังระบายความร้อนจากภายในกายออกมา เซียวหลิงหลางที่ค่อยๆ วางนางลงบนเตียงในเรือนด้านในจวน ของเขาแต่กลับถูกเจ้าของมือเล็กคว้าแขนเอาไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มลงจากเตียง“ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะซุกตัวเข้าไปหาแผงอกแกร่ง“ข้าให้คนไปตามหมอมาแล้วเจ้าอดทนอีกหน่อย” ชายหนุ่มปลอบหญิงสาวในวงแขน นางโอบกอดเขาแน่นเล็กน้อยพลางซุกหน้าเข้าไปที่ช่วงอกของเขา ลมหายใจร้อนของนางจึงไม่แปลกที่จะรินรดจนเขารู้สึกได้ถึงมันเป็นอย่างดีหากนางเพียงแค่ซุกตัวกอดเขาธรรมดาชายหนุ่มคงไม่ต้องค่อยหักห้ามใจตอนเองถึงเพียงนี้แต่นี่นางเริ่มเลื่อนฝ่ามือเล็กอันเนียนนุ่มของนางไปลูบสัมผัสตามซอกคอและไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปลายคางเรียวของเขา มีหรือผู้ที่ถูกสัมผัสเช่นนี้จะยังหายใจปกติได้อีกเขาย่อมถูกนางทำให้จิตใจเตลิดไปมากเช่นกัน“คุณชายเซียวท่านหล่อเหลามาก” นางไม่เพียงเอ่ยชมยังจูบเบาๆ ที่ปลายคางหม่นด้วย“อาเล่ออย่าซุกซนนัก” แม้เขาจะเอ่ยปรามนางแต่ก็ยังไม่หลบเลี่ยงสัมผัสของนาง เ
ตอนที่ 34 เหยื่อล่อล่อห่านอี้หนิงให้ออกมาคืออีกหนึ่งเหตุผลที่หลี่เยว่เล่อมาที่เมืองหนานสกุลห่านถือว่ามีจุดจบไม่ต่างจากสกุลหลี่ในชาติก่อน ที่ต่างกันคงเป็นห่านอี้เทียนทำผิดจริงแต่ท่านพ่อของนางในครั้งนั้นถูกใส่ร้ายหลักฐานทั้งหมดถูกห่านอี้เทียนนำใส่ในกล่องที่มีช่องลับและฝากนางนำไปเก็บให้บิดา โดยอ้างว่าของในกล่องเป็นเพียงตำราหายากที่เขายืมไปอ่านชั่วคราวเท่านั้นตอนนั้นเพราะความเชื่อใจนางจึงนำกล่องไปเก็บโดยไม่ได้ตรวจสอบดูอย่างชัดเจนอะไร จนกระทั่งจวนสกุลหลี่ถูกทางการค้นและพบหลักฐานการทำผิดของท่านพ่อซึ่งแน่นอนว่าหลักฐานทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน นางคิดว่ารองเจ้ากรมคลังฉินชาติก่อนก็คงจะร่วมมือกับห่านอี้เทียนใส่ร้ายท่านพ่อนางเช่นเดียวกันเพราะต้องการตำแหน่งเสนาบดีกรมคลังสกุลห่านต้องโทษประหารทั้งครอบครัว แน่นอนว่าห่านอี้หนิงเองก็ต้องตายเช่นเดียวกับห่านอี้เทียนที่ถูกท่านอ๋องสังหารทันที เจ้าหน้าที่ตามหาตัวนางที่บ้านเกิดที่อำเภอฉงแต่กับไม่พบตัวคนตามวัดอารามใดก็ไม่มีผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นห่านอี้หนิงอย่างที่ควรจะเป็น นั่นทำให้รู้ห่านอี้หนิงกำลังหลบหนีการจับกุมอยู่เบาะแสเดียวที่มีคือเห
ตอนที่ 33 ผูกใจ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นที่สั่นสะเทือนไปทั่วราชสำนัก ฝ่า บาททรงพิโรธยิ่งเมื่อได้รับฎีกาและหลักฐานของการวางแผนปล้นเงินคลังหลวงที่ถูกจัดเตรียมส่งไปเพื่อสร้างเขื่อนจากพระอนุชาของพระองค์โทษของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรมคลังห่านอี้เทียนและรองเจ้ากรมฉินหลางถูกประกาศไปทั่วแผ่นดินสกุลห่านและสกุลฉินถูกยึดทรัพย์และสั่งให้ประหารชีวิตทั้งสกุลเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้แก่เหล่าขุนนางฝ่าบาทสั่งการลงไปอย่างรวดเร็วไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างก็ถูกกวาดล้างจนสิ้นห่านอี้หนิงหายสาบสูญ ทั่วแคว้นติดประกาศจับชินอ๋องได้รับรางวัลและราชโองการชื่นชมจากฝ่าบาทเนื่องจากเป็นผู้ที่สามารถสกัดแผนชั่วของพวกขุนนางเลวหนักแผ่นดินได้แม่ทัพเฉินและเหล่าทหารที่รับหน้าที่คุ้มกันเงินคลังไปส่งได้รับเงินรางวัลและคำชื่นชมจากฝ่าบาทที่ทุ่มเทและปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ หลังพักรักษาตัวจนหายแล้วค่อยเรียกตัวกลับเมืองหลวงเงินคลังที่เอาไว้ใช้จ่ายสำหรับสร้างเขื่อนถูกเก็บเอาไว้ชั่วคราวที่ที่ว่าการเมืองเพราะที่นั่นมีเวรยามแน่นหนา การคัดเลือกกลุ่มการค้าถูกเลือกขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มีท่านอ๋องสามเป็นผู้ติดตามและคัดเลือกกลุ่ม
ตอนที่ 32ขจัดความกลัวในใจแผ่นหลังแกร่งเต็มไปด้วยความสง่างามยามอยู่บนหลังม้า ทุกฝีเท้าม้าที่วิ่งทะยานล้วนรวดเร็วรุนแรง ราวกับสายลมอันคลุ้มคลั่ง แน่นอนว่าย่อมเป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ควบคุมบังเหียนเวลานี้หย่งไห่ชินอ๋องผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น ทหารใต้บัญชาของอ๋องหนุ่มนั้นสามารถรบชนะสิบต่อหนึ่งได้อย่างสบายๆ และเป็นปราการอันแข็งแกร่งที่สุดของชายแดนทางใต้การรบแต่ละครั้งที่ผ่านมาตลอดสิบปีมีเพียงทำเพื่อประชาชน แคว้นและฝ่าบาท ทว่าครั้งนี้เขากำลังพาทหารติดตามห้าสิบนายไปเพื่อทำร้ายสิ่งที่ทำให้สตรีที่เขาพึงใจต้องเป็นกังวลและหวาดกลัว“สิ่งที่จะลบความกลัวออกไปจากใจของเจ้าได้เปิ่นหวางจะทำลายมันให้สิ้นซากเพื่อเจ้า”ขบวนการขนเงินหลวงจากกรมคลังที่นำโดยแม่ทัพเฉินอยู่ห่างจากเมืองเหอตงไม่ไกลดินทางอีกครึ่งวันก็จะถึงประตูเมือง คืนนี้พวกเขาจึงต้องพักค้างแรมข้างนอกอย่างไม่มีทางเลือกทหารคุ้มกันห้าสิบคนเป็นคนของแม่ทัพเฉินที่ทำหน้าที่คุ้มกันการขนเงินหลวงในครั้งนี้ อีกสิบคนเป็นผู้ติดตามที่มาพร้อมกับรองเสนาบดีฉินกองไฟถูกก่อขึ้นห้ากองใหญ่ มีเพียงรองเสนาบดีที่พักอยู่บนรถม้าส
ตอนที่ 31 ใกล้ยุติ“อีกสามวันเงินที่ส่งมาจากกรมคลังก็จะมาถึงเหอตง” เซียวห ลิงหลางเอ่ยขึ้น ยามนี้ภายในห้องทำงานชั่วคราวที่จวนรับรองมีเพียงเขาและเสนาบดีหลี่เท่านั้น“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”“ผู้คุ้มกันเงินมาคือแม่ทัพเฉินที่ฝ่าบาทไว้ใจกับรองเสนาบดีกรม คลังฉินหลางใช่หรือไม่”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” “ท่านเสนาบดีคิดว่าฉินหลางผู้นี้เป็นอย่างไร”“เหตุใดท่านอ๋องจึงถามเช่นนี้เล่าขอรับ” หลี่เจ๋อเอ่ยถามผู้มากด้วยอำนาจซึ่งแม้ตนจะถือว่าเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนักแต่ก็ไม่เคยคิดจะงัดอำนาจกับชายหนุ่มผู้นี้เลยสักครั้ง“ห่านอี้เทียนกับฉินหลางรองเจ้ากรมคลังลอบติดต่อกันมานาน แล้วข้อนี้ท่านเสนาบดีก็คงยังไม่ทราบกระมัง”“กระหม่อมไม่เคยรู้เลยพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อครู่ท่านอ๋องกล่าวว่าพวก เขาลักลอบติดต่อกัน ทั้งที่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาคนทั้งกรมคลังต่างรู้กันหมดว่า รองเจ้ากรมฉินหลางไม่ชอบห่านอี้เทียนเท่าไร่นักแล้วคนทั้งคู่ที่มีความสัมพันธ์เช่นนี้ลอบติดต่อกันนั่นก็ชัดเจน แล้วว่าสิ่งที่ลักลอบทำจะต้องไม่ใช่เรื่องดี“ห่านอี้หนิงเมื่อครั้งไปที่เมืองหลวงและพักอยู่ที่จวนของท่านเสนาบดีหลี่ชั่วคราว นางเองก็เคยแอบไปส่งจดหมายลับๆ