แชร์

บทที่ 3 ความสัมพันธ์ที่รวดเร็ว

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-17 13:17:01

ด้านชุยซินอี๋นั้นก่อนหน้านี้เธอกำลังเรียนรู้งานครัวอยู่กับพ่อครัวจ้าวในห้องครัว พ่อครัวจ้าวนั้นเป็นคนที่ใจดีมาก แม้ว่าจะอายุไม่น้อยแล้วแต่กลับมีฝีมือในการทำอาหารเป็นเลิศ อีกทั้งยังทำงานอยู่ที่ภัตตาคารของตระกูลเฝิงมาตั้งแต่ภัตตาคารเปิดใหม่แล้วด้วยซ้ำ ได้ยินว่าพ่อครัวจ้าวมีลูกสาวหนึ่งคนที่ทำอาหารเก่งไม่แพ้กัน ตอนนี้เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง อีกไม่นานก็คงจะกลับมาทำงานกับพ่อของตนเองที่นี่

เพราะวันนี้มีคนงานลาป่วยไปหลายคน ทำให้งานต่างๆ เริ่มวุ่นวายไม่เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น แม่ของเธอก็ไปทำงานอีกร้านหนึ่งให้คุณนายเฝิง 

"นี่ซินซิน เธอช่วยเอาของไปส่งที่บาร์เหล้าหน่อยสิ ตอนนี้ไม่มีใครว่างเลย คนดูแลบาร์เหล้าต้องการของด่วน เดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงแล้ว บาร์เหล้าอยู่ตรงหัวมุมถนนใกล้กับตลาดนั่นน่ะ"

ชุยซินอี๋ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น เธอไม่ได้สนใจว่าในกล่องนั้นจะเป็นอะไร เพียงอยากทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ เธอตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินแล้วมาต่อทุนเปิดร้านอาหารเล็กๆ ขายผักขายบะหมี่ แม่ของเธอจะได้ไม่ต้องทำงานหนักอีก

ชุยซินอี๋รับกล่องของจากมือของพี่หวัง ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของที่ภัตตาคารมาถือเอาไว้ ก่อนจะเดินออกมาจากภัตตาคารตระกูลเฝิงไป เมื่อมาถึงก็ส่งของตามที่สั่งให้แล้วเสร็จแล้วจึงรีบกลับ

เมื่อกลับมาถึงร้านก็มาทำหน้าที่ของเธอต่อ ได้ยินคุณนายเฝิงบอกว่าอีกไม่กี่วันจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ ให้คนงานทุกคนมาทำของอร่อยกินด้วยกันเหมือนทุกๆ ปี

มันก็เป็นอีกปีที่ผ่านพ้นไป เธอเองไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก

ด้านเฝิงอี้ที่รู้สึกเบื่อแล้วจึงเดินกลับมาที่รถ ระหว่างนั้นมีหญิงสาวโปรยเสน่ห์ยั่วยวนใส่เขาไม่หยุด แต่เฝิงอี้ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก เขาขับรถผ่านภัตตาคารของตระกูลเฝิงแต่ไม่ได้คิดจะแวะเข้าไป เพียงกลับไปที่บ้านและนอนพักเอาแรงเพราะวันนี้ก็เดินทางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็นไม่น้อย เมื่อเลิกงานและกลับมาที่บ้านแล้ว ชุยซินอี๋ก็กินมื้อเย็นที่ได้มาจากภัตตาคารเฝิง เป็นอาหารที่เลี้ยงพนักงานมื้อเย็น เมื่ออิ่มแล้วเธอก็ทิ้งตัวลงนอนเพราะวันนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน ระยะทางจากบ้านของเธอและตระกูลเฝิงค่อนข้างอยู่ห่างกันพอสมควร ชุยซินอี๋ยืนทำงานทั้งวันแล้วยังต้องมาปั่นจักรยานกลับบ้านอีก เธอจึงปวดขาไปหมดแล้ว

วันเวลาก็ผ่านไปเช่นนี้จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงปีใหม่เป็นวันที่ภัตตาคารเฝิงปิดทำการเพื่อเลี้ยงฉลองในวันปีใหม่ ครั้งนี้ชุยซินอี๋ได้ไปร่วมด้วย แม่ของเธอบอกเพียงว่าให้เคารพคุณนายเฝิงมากๆ เพราะท่านดีต่อครอบครัวของเรา

ตั้งแต่เรียนจบมาเธอก็ไม่ได้เจอกับเฝิงอินอีกเลย ได้ยินว่าเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงทำให้ไม่อาจออกไปที่ไหนได้ จะมีก็แต่หยางตงที่ยังได้เจอหน้ากันบ้าง

สือชิงมองดูลูกสาวของตนก่อนจะทอดถอนใจ หากสามียังอยู่เธอคงไม่ต้องลำบากมากขนาดนี้ ญาติเธอก็ไม่มีเหลือแล้ว ส่วนญาติของสามีก็อย่าหวังเลย ขอเพียงไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้ เธอก็ดีใจมากแล้ว

"ซินซิน แม่ปวดขามากจะกลับไปพักแล้ว ลูกอยู่ต่ออีกหน่อยเถิด แล้วค่อยกลับ แต่อย่าอยู่ดึกมากล่ะ"

"ค่ะแม่"

ชุยซินอี๋พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกมาส่งแม่ของเธอที่หน้าภัตตาคาร เมื่อกลับเข้ามาก็มานั่งกินอาหารกับเพื่อนร่วมงานต่อ เพราะว่าชุยซินอี๋เป็นเด็กร่าเริงและเอาใจใส่คนรอบข้าง เวลาเพียงไม่นานเพื่อนร่วมงานเองก็เอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก

"นี่ซินซิน เธอดื่มเหล้านี่สิ เหล้าดีเชียวนะ คุณนายเฝิงสั่งให้เอามาจากบาร์เหล้าเลยนะจะบอกให้"

"ไม่ละค่ะ ฉันดื่มไม่เป็นหรอก"

ชุยซินอี๋ส่ายหน้าปฏิเสธไป๋จวง รุ่นพี่ที่ทำงานมาก่อนหน้าเธออย่างเกรงใจ พี่ไป๋จวงคอยช่วยเหลือแนะนำเธอทุกอย่างจนสนิทสนมกัน

ไป๋จวงยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"สักแก้วน่า ถือว่าเป็นการต้อนรับเธอเข้ามาทำงาน เธอเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ทุกคนดื่มกันหมดเธอไม่ดื่มได้ยังไงกัน มาๆ แก้วเดียวแล้วพี่จะไม่ต่อว่าเธอ"

ชุยซินอี๋มองดูไป๋จวงที่ส่งแก้วเหล้ามาก็รู้สึกเกรงใจ เธอคิดว่าแก้วเดียวคงจะไม่เมาสักเท่าไร จึงรับมันมาดื่มจนหมดแก้ว เสียงเฮฮาและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังขึ้นไม่ขาดสาย จนเวลาล่วงเลยไปถึงกลางดึกทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปพักที่บ้านของตัวเอง

ชุยซินอี๋ยกมือขึ้นนวดขมับ ให้ตายเถอะ เหล้าแก้วนั้นแรงเกินไปแล้ว เธอไม่คิดว่าตัวเองจะเมาขนาดนี้ 

"ซินซิน เธอกลับไหวไหม"

"ไหวค่ะพี่ไป๋จวง"

"อืม พรุ่งนี้เจอกันนะ"

ไป๋จวงโบกมือให้ชุยซินอี๋ก่อนจะเดินจากไป ชุยซินอี๋กลับตาลงก่อนจะตั้งสติและปั่นจักรยานกลับบ้านทันที แต่ระหว่างทางนั้นเธอปั่นเซไปเซมา จนกระทั่งมีรถคันหนึ่งขับผ่านมา เธอก็ไปขี่จักรยานตัดหน้าเขา จนกระทั่งล้มลง

โครม!!!

ชุยซินอี๋ส่งเสียงร้องโอดครวญไม่เป็นภาษา นึกด่าทอตนเองที่ดื่มเหล้าแก้วนั้นไปทั้งที่ตัวเองไม่เคยดื่ม หากแม่รู้เข้าคงบ่นเธอแน่

"ปั่นจักรยานยังไงของเธอ"

ชุยซินอี๋เงยหน้าไปมองผู้ชายคนนั้นที่กำลังเดินลงมาจากรถ ตอนนี้ตาเธอพร่าเบลอแต่ก็พยายามปรับสายตาตนเองจนมองเห็นเขาได้ชัดเจน

ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่งสวย คิ้วคมเข้ม ดวงตาที่เย็นชา ริมฝีปากที่ชวนมองนั่นมันทำให้ชุยซินอี๋ชะงักไปชั่วขณะ

เหมือนคุ้นหน้าเขาเหลือเกิน แต่เคยเห็นเขาที่ไหนเธอก็จำไม่ได้

เฝิงอี้มองดูชุยซินอี๋เล็กน้อย เขาเองก็เมาไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไปดื่มเหล้าที่บาร์เหล้ามาแต่ยังประคองตนเองขับรถกลับมาได้ เมื่อมองดูดีๆ ก็พบว่าเป็นหญิงสาวที่งดงามเหมือนดาราที่เขาพบเจอที่บาร์เหล้าเมื่อครู่นี้เอง

ชุยซินอี๋พยายามประคองตนเองขึ้นมาแต่ก็เซซ้ายเซขวา เฝิงอี้เห็นว่าที่ข้อศอกของเธอมีเลือดออกเล็กน้อยเพราะจักรยานล้ม จึงรีบพูดกับเธอทันที

"ขึ้นรถเถอะ ฉันจะไปส่งที่บ้านเอง แถวนี้อันตราย ดึกป่านนี้แล้วยังกล้าออกมาเดินเล่นอีก"

ปากเอ่ยเตือนหล่อนแต่ตัวเขาก็โซเซไม่ต่างกัน ชุยซินอี๋ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ก่อนจะซวนเซเอนล้มลงไปอีกรอบ แต่โชคดีที่เฝิงอี้คว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน ทำให้เธอเซถลาเข้ามาในอ้อมกอดของเขาทันที

"ขอโทษค่ะ"

กลิ่นเหล้าจากคนทั้งสองมันเหมือนมีแรงดึงดูดประหลาด เฝิงอี้ก้มลงมองชุยซินอี๋ก็พบว่าเธอดูสวยน่ารักอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้จะเคยเห็นผู้หญิงสาวมาไม่น้อย แต่ผู้หญิงที่สวยและดูบริสุทธิ์อย่างเธอน้อยนักที่เขาจะพบเจอได้ เขาผ่านผู้หญิงมาหลายคน แต่ไม่เคยคบกับใครจริงจังสักคนเลยด้วยซ้ำ

ชุยซินอี๋เองก็เงยหน้ามามองเฝิงอี้เช่นเดียวกัน หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อไม่กล้าสบตาเขา

"ฉันไปส่งเธอเอง"

“เอ่อ ไม่ต้องค่ะ ฉันกลับเองได้”

ชุยซินอี๋ส่ายหน้าและพยายามผลักเขาออก แต่ทว่าเฝิงอี้กลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“ฉันขับรถชนเธอก็ต้องไปส่งเธอสิ ไปกับฉัน แล้วบอกทางไปบ้านเธอ ส่วนจักรยานเก่าๆ นี่ก็ทิ้งมันไว้ตรงนี้เถอะ”

“ฉันทิ้งมันไม่ได้ หากทิ้งแล้วจะเอาจักรยานที่ไหนปั่นไปทำงานล่ะ”

คนเมาสองคนสนทนากันอยู่ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงจากหน้ารถเท่านั้นที่ส่องมาให้ความสว่าง

“มืดมากแล้ว มันน่ากลัว พวกอันธพาลก็น่ากลัวมาก เกิดเธอไปพบเจอมัน อาจโชคร้ายกว่าเจอฉันอีกนะ”

ชุยซินอี๋ไม่ตอบแต่กลับมีท่าทีครุ่นคิด ตอนนี้เธอปวดหัวมากเหลือเกิน สติทั้งหมดเหมือนขาดผึงไม่สามารถประมวลสิ่งใดได้ เธอพยักหน้าให้เขาราวกับคนไร้สติ เขาประคองเธอให้เข้ามานั่งในรถ ก่อนจะขับออกไป แต่ว่าขับไปได้ไม่ไกลเท่าใดรถก็ดับ เฝิงอี้สบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"ให้ตายเถอะ ทำไมมันดับได้ล่ะ!!!"

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มึนเมา ก่อนจะมองไปโดยรอบ ตอนนี้รอบด้านมืดสนิท ไม่มีรถผ่านมา ไม่มีคนเดิน อีกทั้งที่ตรงนี้ยังมีแต่ต้นไม้ทั้งสองข้างทาง ไม่มีบ้านคนเลยด้วยซ้ำ

เขาหันไปมองชุยซินอี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะเอ่ยเรียก

"นี่เธอ"

"หิวน้ำ ร้อนมาก"

เสียงหวานกระเส่าเอ่ยขึ้นมา มันทำให้ใจของเฝิงอี้สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว เขาพยายามสงบอารมณ์ก่อนจะควานหาน้ำในรถ และส่งไปให้เธอ หญิงสาวรับน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะยื่นขวดน้ำส่งคืนเขา แต่ทว่าขวดน้ำนั้นมันกลับหลุดมือกระเด็นตกลงไปตรงที่เบาะรถด้านหลัง เธอจึงทำท่าจะเก็บมันขึ้นมา

"ไม่ต้อง..."

เพราะเขารีบพุ่งเข้าไปจึงทำให้เขาและเธอขยับเข้ามาใกล้กัน คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาสบตากันในระยะประชิด กลิ่นเหล้าอ่อนๆ กับความรู้สึกที่แปลกประหลาด มันทำให้คนทั้งสองเริ่มคุมสติไม่อยู่

ชุยซินอี๋ราวกับขยับตัวไม่ได้ สติของเธอไม่มั่นคงแล้ว

เฝิงอี้เองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน อยู่ใกล้ผู้หญิงสวยขนาดนี้ผู้ชายที่ไหนจะอดทนไหว

บรรยากาศเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเฝิงอี้ก็จูบชุยซินอี๋อย่างดุเดือด ก่อนจะพลิกกายขึ้นมาคร่อมตัวเธอเอาไว้ ชุยซินอี๋ขมวดคิ้ว แม้สมองจะปฏิเสธแต่ร่างกายกลับไม่ฟังเธอเลย

คนทั้งสองจูบกันอย่างดุเดือดอยู่ในรถคันนั้น เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งลงไปกองกระจัดกระจาย เสียงครางหอบกระเส่าดังขึ้นมาเป็นระยะ ตอนที่เขาสอดแทรกความเป็นชายเข้ามาในกายของเธอ หญิงสาวเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด มันทั้งเสียวซ่านและเจ็บปวด ปะปนกับความหวาดกลัวในคราวเดียวกัน แต่่ราวกับชายหนุ่มตรงหน้าจะชำนาญเรื่องนี้เสียเหลือเกิน เขาปลุกประโลมอารมณ์ของเธอให้คล้อยตามได้อย่างง่ายดาย

เฝิงอี้พลิกตัวของชุยซินอี๋ให้ขึ้นมานั่งบนตัวเขา รถคันใหญ่โยกขยับสั่นไหวไปมาท่ามกลางความมืด ก่อนจะค่อยๆ หยุดลงช้าๆ และเงียบสนิทราวกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน

ชุยซินอี๋มารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดของวันต่อมา เธอรู้สึกปวดหัวไม่น้อยจึงยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป

เมื่อคืนเธอดื่มเหล้าแล้วก็เมา จากนั้นก็ปั่นจักรยานจะกลับบ้าน แล้วเหมือนว่าจักรยานจะล้มลงระหว่างทาง แล้วเธอก็พบเจอผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้ชาย?

ชุยซินอี๋มองไปรอบๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อก้มมองดูตนเองก็พบว่าตอนนี้มีเพียงเสื้อตัวหนึ่งปิดบังร่างกายเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้ เธอตกใจจนมือสั่น ก่อนจะหันไปมองและพบกับเฝิงอี้ที่นอนหลับอยู่ฝั่งคนขับ

ชุยซินอี๋ลนลานหันซ้ายหันขวา ก่อนจะควานหาเสื้อผ้าของตนเองมาสวมใส่ ตอนนี้ยังเช้ามืดผู้คนยังไม่ออกมาพลุกพล่านเท่าไรนัก แม้เธอจะไม่ประสาเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้โง่ เพียงเห็นภาพระหว่างเขาเละเธอ ชุยซินอี๋ก็พอจะรู้แล้วว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเขา

ให้ตายเถอะ นี่เธอทำอะไรลงไปกันเนี่ย!!!

ถึงกับมานอนเสียตัวให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ในรถแบบนี้!!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   ตอนจบ

    เมื่อผ่านช่วงไว้ทุกข์มาแล้ว เฝิงอี้และชุยซินอี๋ก็แต่งงานกัน งานแต่งนี้ไม่ได้จัดใหญ่โตมากนัก เน้นเพียงความสะดวกและเรียบง่าย เติ้งเทียนอวี้และกวงจือหลินเพราะติดงานที่ต้องสะสางจึงไม่ได้มาร่วมงาน เพียงโทรมาแสดงความยินดีและส่งของขวัญแต่งงานมาให้เท่านั้น เฝิงอี้เองก็เข้าใจและเอ่ยขอบคุณเพื่อนรักทั้งสองอย่างเต็มใจหยางตงและสวีเพ่ยนั้นก็มาร่วมงานด้วย คนทั้งสองนำของขวัญมามอบให้ และอยู่ร่วมงานจนถึงเย็น ก่อนจะกลับไป เพราะสวีเพ่ยยืนนานไม่ค่อยไหว เนื่องจากเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เฝิงอี้และชุยซินอี๋มองดูหยางตงที่แบกสวีเพ่ยขึ้นหลังและเดินจากไปด้วยแววตาที่มีความสุขนับว่าพวกเขาทั้งสองเป็นคู่ที่สวรรค์บันดาลจริงๆ"พ่อครับ แม่ครับ ผมหิวอีกแล้ว"เฝิงอี้และชุยซินอี๋ที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมอง ก่อนจะพบกับเฝิงเป่าที่วิ่งเข้ามาหาเขาทั้งสอง เจ้าเด็กอ้วนตัวสูงขึ้นอีกแล้ว อีกทั้งยังชอบกิน วันๆ ถามหาแต่ของกิน แล้วยังบ่นว่าเหงามากอีกต่างหาก ชุยซินอี๋ย่อตัวลงไป ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มของเฝิงเป่าอย่างมันเขี้ยว"แม่จะอุ้มลูกไม่ไหวแล้วนะรู้ไหม"เฝิงเป่าเบ้ปาก ก่อนจะเงยหน้าไปมองเฝิงอี้"พ่อครับ ผมอยากได้น้องสาวตัวอ้วนๆ

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 45 บทสรุปของการแก้แค้น

    เฝิงอี้หลับตาลงรอรับลูกปืนจากเซวียนซาน แต่ทว่าเขากลับไม่พบกับความเจ็บปวดใดๆ เลยแม้แต่น้อย เมื่อลืมตามองดูก็พบว่าตอนนี้ที่หน้าท้องของเซวียนซานมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด เขาถูกยิง!!!เฝิงหลงหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่นเอง อีกทั้งยังมีภรรยาของเขา แม่ของชุยซินอี๋ และหยางตงกับสวีเพ่ยก็มาด้วย ตำรวจเล็งปลายกระบอกปืนเข้าหาเซวียนซานอีกครั้ง เฝิงหลงที่เห็นอย่างนั้นก็ตกใจก่อนจะเอ่ย"อย่ายิง!!! นี่ลูกชายของผมเอง"ปัง ปัง ปัง"พ่อ!!!"เฝิงอี้ตะโกนเรียกพ่อของตนเองสุดเสียง คุณนายเฝิงเองก็แทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเฝิงหลงใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระเสือกกระสนไปบังลูกกระสุนแทนเซวียนซาน ร่างของคนทั้งสองล้มลงไปบนพื้นพร้อมกัน เฝิงหลงจับมือของเซวียนซานเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ย "พ่อขอโทษ พ่อผิดไปแล้ว พ่อที่เห็นแก่ตัวคนนี้สำนึกเสียใจแล้ว หวังว่าชีวิตนี้ของพ่อจะชดใช้ความแค้นทั้งหมดในใจของแกได้ อย่าทำร้ายใครอีกเลยนะ อาซาน"เซวียนซานหลับตาลงช้าๆ เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันมืดมนไปหมด เขาส่งเสียงเหอะในลำคอก่่อนจะร้องไห้ออกมาแผนการสำเร็จแล้ว แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกดีใจเลยล่ะ!!!คนชั่วคนนี้กำลังจะตาย แต่

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 44 เกินจะยับยั้ง

    เซวียนซานตอนนี้เหมือนกับคนเสียสติไปแล้ว ก่อนหน้านี้เซวียนชวนเตือนเท่าไรเขาก็ไม่ฟัง ในใจของเขามีแต่ความแค้นที่ฝังลึก เขาถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจนมันบิดเบี้ยวเกินจะเยียวยาแล้วชุยซินอี๋จ้องมองเฝิงอี้และเฝิงเป่าด้วยแววตาที่แดงก่ำ หากวันนี้เธอเป็นอะไรไป เธอเชื่อว่าเฝิงอี้จะสามารถดูแลเฝิงเป่าได้เป็นอย่างดีแต่สำหรับเฝิงอี้แล้วเขาไม่คิดเช่นนั้น เขาคิดเพียงว่าจะต้องช่วยชุยซินอี๋ออกมาให้ได้ หากช่วยไม่ได้เขาก็ไม่ไปไหนทั้งนั้นเซวียนซานลั่นไกปืนเตรียมจะยิงทุกคนที่ขวางหน้า เขาหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยกับชุยซินอี๋"เป็นยังไงล่ะซินซิน ไอ้คนที่เธอรักนักรักหนามันช่วยอะไรเธอได้ จะตายกันหมดอยู่แล้ว!!! เลือกฉันสิ แล้วเราจะมีความสุขไปด้วยกัน"ชุยซินอี๋ปรายตามองเซวียนซานด้วยความเย็นชา ก่อนจะยกยิ้มมุมปากและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน"คนที่ไม่เห็นใครเป็นคนในสายตา ไม่คู่ควรที่จะได้ความรักจากใครหรอก ปล่อยให้ความแค้นบังตาจนมืดบอด ไม่ละอายแก่ใจตัวเอง""ซินซิน!!! โอ๊ย!!!"ชุยซินอี๋อาศัยจังหวะที่เซวียนซานเผลอใช้เศษกระเบื้องที่เธอถือเอาไว้ในมือแทงเข้าไปที่หน้าท้องของเขาอย่างแรง เซวียนซานร้องไม่เป็นภาษา ใบหน้าหล

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 43 ข้อเสนอของเซวียนซาน

    ก่อนหน้านี้ชุยซินอี๋ได้สติตื่นขึ้นมา เมื่อตั้งสติได้และคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเธอก็ถึงกับลนลานรีบมองหาเฝิงเป่าทันที ก่อนจะพบว่าเฝิงเป่ากำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เธอ ชุยซินอี๋หันมองซ้ายขวาพบว่ามือของตนเองถูกมัดเอาไว้ด้วยเชือก "ไม่ต้องดิ้นไปหรอก ถึงเวลาผมจะปล่อยคุณเอง"เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ชุยซินอี๋จึงเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะพบว่าเป็นเซวียนซานนั่นเองภาพก่อนหน้านี้คือเขายื่นขวดน้ำให้เธอ จากนั้นเธอรู้สึกเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างฟาดเข้ามาที่ต้นคอและสลบไปไม่ได้สติ จนเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่เก่าๆ เหมือนกับโรงงานร้างอย่างไรอย่างนั้น ชุยซินอี๋ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม“คุณจับฉันมาเหรอ"เซวียนซานยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ทว่ารอยยิ้มของเขามันดูเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัว ชุยซินอี๋ขยับตัวเข้าไปใกล้เฝิงเป่า พร้อมกับระแวดระวังเซวียนซานเอาไว้ด้วยเขาจะจับตัวเธอและลูกมาทำไมกัน ทั้งที่พวกเราไม่เคยมีเรื่องผิดใจอะไรต่อกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำเซวียนซานมองดูท่าทีของชุยซินอี๋ ก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาชอบเธอเข้าเสียแล้ว เขาคิดทบทวนมาหลายคืนแล้วก็ได้คำตอบที่แน่ชัด เขาชอบชุย

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 42 ลักพาตัว

    หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ก็ถึงเวลาที่เฝิงอี้และชุยซินอี๋จะจัดงานแต่งงานกันอย่างมีความสุขเสียทีเช้านี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส เฝิงอี้พาชุยซินอี๋มาตัดชุดแต่งงาน เดิมทีคนทั้งสองคิดจะประวิงเวลาออกไปก่อน เพราะตอนนี้สถานการณ์ในบ้านตระกูลเฝิงก็ยังไม่ดีเท่าใดนัก แม่ของเฝิงอี้ยังคงเย็นชากับพ่อของเขาอยู่ แต่ทว่าคุณนายเฝิงกลับบอกว่า จะให้ความทุกข์ที่พ่อแม่เป็นคนก่อ มาทำให้ลูกไม่มีความสุขได้ยังไงกัน จึงไม่ให้คนทั้งสองประวิงเวลาออกไปอีก บอกเพียงว่าจะต้องรีบจัดงานให้เร็วที่สุดชุยซินอี๋มองดูเฝิงเป่าที่กำลังนั่งกินขนมอยู่กับพี่เลี้ยง ไม่นานมานี้เฝิงอี้จ้างพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมาดูแลเฝิงเป่า เฝิงเป่าเองก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับพี่เลี้ยงคนใหม่ อีกทั้งยังช่างพูดช่างเจรจา ยิ่งพูดได้ก็พูดไม่หยุด จนบางครั้งเธอเองยังตอบคำถามของเฝิงเป่าไม่ทันกิจการร้านบะหมี่ยังคงไปได้ดี เฝิงอี้ได้แม่ครัวคนใหม่มา แรกเริ่มชุยซินอี๋ยังคงไปสอนและแนะนำสูตรบะหมี่เดิมที่เธอทำเอาไว้ให้แม่ครัวคนใหม่ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว จึงได้ปล่อยให้คนงานทำงานกันเองต่อไปด้านภัตตาคารก็สร้างเสร็จแล้ว และเปิดทำการขายได้เหมือนเดิมแล้ว โดย

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 41 สู้ไม่ถอย

    หยางตงที่ได้ยินอย่างนั้นก็จ้องมองซ่งชางอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปดึงตัวของสวีเพ่ยกลับมาหาตนเอง แต่คนของซ่งชางก็ยกเท้าถีบเขาจนกระเด็นลงไปกองกับพื้น หยางตงไอออกมาอย่างรุนแรง รู้สึกจุกแน่นที่หน้าท้องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"อาตง!!!"สวีเพ่ยเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ เธอถูกจับตัวเอาไว้จนไม่อาจเข้าไปหาเขาได้ สวีเพ่ยหันไปมองซ่งชางด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย"อย่าแตะต้องเขา เขาเป็นคนรักของฉัน!!!"ซ่งชางที่ได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเดินเข้ามาหาสวีเพ่ย และยื่นมือขึ้นมาเชยปลายคางของเธอให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาชัดๆ"คนรักอย่างนั้นเหรอ เธอไม่มีสิทธิ์ไปรักกับใครได้หรอก เธอจะต้องไปที่ตระกูลซ่ง ไปเป็นเมียขัดดอกให้ฉัน คอยรับใช้คนตระกูลซ่งเพื่อชดใช้หนี้ บ้านของเธอและกิจการของพ่อเธอ ฉันจะยึดมาเป็นของฉันให้หมด เธอรู้ไหมว่าบ้านและกิจการของพ่อเธอมันยังไม่พอใช้หนี้ให้บ้านฉันเลยด้วยซ้ำ"สวีเพ่ยที่ได้ยินอย่างนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ย"นายอยากได้อะไรก็เอาไปให้หมดเลย ฉันไม่ยึดติดกับของพวกนี้แล้ว ส่วนเงินที่เหลือฉันจะหางานทำมาผ่อนจ่ายให้นายเอง""ผ่อนจ่ายเหรอ น้ำหน้าอย่างเธอเนี่ยนะจะทำงา

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 40 สูญเสีย

    เมื่อเฝิงอี้จากไปแล้ว สวีเพ่ยจึงรีบเดินกลับเข้ามาในบ้านทันที หญิงสาวทำตัวปกติเหมือนทุกครั้งเพื่อไม่ให้มีพิรุธ ก่อนจะกลับเข้าห้องและล็อกประตูห้องอย่างแน่นหนา แล้วจึงรีบลนลานเปิดอ่านจดหมายที่หยางตงส่งมาในทันทีเพ่ยเพ่ย ฉันอาตงนะ เธอสบายดีไหม ฉันคิดถึงเธอมากเหลือเกิน ฉันมีหลายเรื่องที่อยากจะเล่าให้เธอฟัง มีหลายที่ที่อยากจะชวนเธอไปดูด้วยกัน ฉันตกปลามาได้หลายตัวเลย อยากให้เธอได้มากินปลาเผาฝีมือฉัน ร้านเหล้าตอนนี้ไม่มีคนมากนัก เหมาะที่จะชวนเธอไปนั่งดื่มด้วยกันเหมือนทุกครั้ง เพ่ยเพ่ย ฉันมีเรื่องสำคัญที่อยากบอกเธอ ฉันชอบเธอเข้าแล้ว มันคงดูตลกมากเลยใช่ไหม เธอเองคงไม่ได้คิดแบบเดียวกับฉันสินะ แต่ไม่่เป็นไรหรอก ฉันรู้เรื่องที่เธอต้องแต่งงานแล้วนะ เฝิงอี้พอจะคาดเดาเรื่องนี้ออก เขาบอกว่าคนโรคจิตอย่างเธอคงไม่ยอมถูกจับแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบง่ายๆ หรอก แล้วที่เธอยอมแต่งก็เพราะถูกพ่อบังคับ ฉันจะหาทางช่วยเธอเองนะสวีเพ่ย เราจะหนีไปด้วยกัน ฉันจะพาเธอหนี หลังจากนั้นเธออยากจะใช้ชีวิตยังไงฉันจะสนับสนุนเธอเอง เธอไม่ต้องชอบฉันก็ได้ ฉันจะคิดเพียงว่าฉันได้ช่วยเพื่อนรักอย่างเธอก็แล้วกัน เธอจะไปกับฉันไหม อีกสามวันฉั

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 39 ช่วยเหลือ

    ด้านสวีเยี่ยนนั้นตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับเงินมากมายตรงหน้าที่ได้มาจากสินสอดของสวีเพ่ย ซึ่งทางตระกูลซ่งเป็นคนส่งมอบให้ เงินก้อนนี้นับว่าได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ไม่น้อย นอกจากคนตระกูลซ่งจะยกหนี้ก่อนหน้านี้ให้เขาเป็นโมฆะเพราะเกี่ยวดองกันแล้วแล้ว ยังมอบเงินอีกก้อนเพื่อเป็นสินสอดให้เขาอีกด้วย เมื่อสวีเยี่ยนนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายหนี้พนันจนหมดแล้ว ส่วนที่เหลือเขาก็นำมันไปต่อยอดเล่นการพนันเพิ่มอีกเล็กน้อยสวีเยี่ยนยิ้มกริ่ม ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวในคืนนั้นคืนที่ภัตตาคารตระกูลเฝิงเกิดไฟไหม้เดิมทีเขาเป็นคนส่งคนเข้าไปวางเพลิงที่นั่นเอง เป้าหมายก็คือต้องการเผาทำลายภัตตาคารตระกูลเฝิง แหล่งทำเงินมากที่สุดของตระกูลเฝิงให้มันพังพินาศไปเสีย ที่ผ่านมาเขาพยายามคิดมาตลอดว่า เฝิงหลงเป็นเพื่อนรักที่ดีที่สุดของเขามาโดยตลอด ก่อนหน้านี้คนทั้งสองเป็นเพียงคนงานที่ทำงานในบาร์เหล้าทั่วไปเท่านั้น แต่เฝิงหลงกลับโชคดีมากกว่า ได้พบรักกับเสิ่นเยี่ย หญิงสาวที่เดินทางมาจากปักกิ่ง หล่อนมีเงินไม่น้อยเลย อีกทั้งตอนนั้นที่กวานซีกิจการของเสิ่นเยี่ยก็ทำเงินได้มากกว่าใคร เขาจึงหาทางทำให้เฝิงหลงได้เข้าไปใกล้ชิดกับเสิ่นเยี่ย

  • หว่ออ้ายหนี่คุณภรรยาสุดที่รัก   บทที่ 38 จำกันได้ไหม

    เมื่อหยางตงกลับไปแล้ว ชุยซินอี๋ก็กลับบ้านพร้อมกับเฝิงอี้ ระหว่างทางคนทั้งสองพูดคุยสนทนากันไปเรื่อยเปื่อย พูดถึงเรื่องแต่งงานแล้ว อีกไม่นานก็คงจะถึงงานแต่งงานของพวกเขาทั้งสอง เฝิงอี้คิดว่าหลังจากที่ภัตตาคารเฝิงกลับมาเปิดใหม่และเรื่องราวคลี่คลายแล้ว เขาจะแต่งงานกับชุยซินอี๋ทันทีเช้าวันต่อมาเป็นวันที่เฝิงหลงจะต้องไปพบหมอตามนัด เฝิงอี้เป็นคนขับรถพาพ่อและแม่ไปที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง ด้านเฝิงเป่านั้นก็มีสือชิงดูแลอยู่ ชุยซินอี๋เองก็วุ่นวายอยู่กับการดูแลร้านบะหมี่ ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำไม่ต่างกัน หลังจากตรวจงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณนายเฝิงก็บอกให้สามีนั่งรออยู่ที่หน้าห้องตรวจ ก่อนที่เธอเองจะไปจัดการเรื่องเอกสาร อีกไม่นานเฝิงอี้คงจะมารับเธอและสามีตามที่นัดหมายกันเอาไว้แล้วเฝิงหลงไม่ได้ให้คนติดตามมาด้วย เขาไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก ระหว่างที่รอภรรยาก็นั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผู้คนที่มาตรวจเริ่มจะบางตาลงไปมากแล้ว เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย รู้สึกสมเพชตัวเองที่กลายมาเป็นเช่นนี้ เพราะหลายปีก่อนเขาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ เขาจำได้ว่าตอนนั้นร่างกายขยับไม่ได้ โชคดีที่ได้พ่อของชุยซินอี๋มาช่วยพยุงเขาออกมา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status