[แป้งร่ำ]
เจ็บปวดใจเหลือเกิน เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ เจ็บปวดใจทุกครั้งเวลาที่เราโดนคนที่เรารักทำร้าย ยิ่งมองไปที่ใบหน้าคมคายของเขาก็ยิ่งเจ็บ ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะมีจิตใจโหดร้ายขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาเราคิดว่าเขาเป็นคนดีมาโดยตลอด เราเห็นเพียงตัวตนอีกด้านหนึ่งของเขาเท่านั้น แต่อีกด้านหนึ่งกลับเป็นอสูรร้าย เมื่อเรารู้แบบนั้นหัวใจเราก็แหลกสลายไม่เป็นชิ้นดี เราคิดว่าเขาคือผู้ชายที่อบอุ่น แสนดี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เรามองเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขามันคือซาตานในคราบนักบุญ “มึงพากูมาที่นี่ทำไม พามาเพื่ออะไร ทำไมต้องลากกูมาทำร้ายแบบนี้ด้วย!!? ” เราเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าคมคายของเขาด้วยสายตาที่ผิดหวัง เสียใจ แล้วตะคอกออกไปสุดแรง ก่อนจะรีบหยัดตัวลุกขึ้นไปยืนประจันหน้ากับเขาตรงๆ เราจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมกริบ ซึ่งแน่นอนเราเห็นเพียงความโกรธ ความเคียดแค้น “มึงอยากจะรู้ใช่ไหม ว่ากูพามึงมาที่นี่ทำไม ได้!! เดี๋ยวมึงก็จะได้รู้เอง” หมับ!! มือหนาคว้ามาที่แขนเราด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะลากเราเข้าไปในห้องนอน และเอื้อมมือไปเปิดไฟในห้องให้สว่างวาบ เรามองเข้าไปในห้องของเขาด้วยความตื่นตระหนก เขาพาเราเข้ามาในนี้ทำไม เอาจริงๆ ตอนนี้เรากลัวเขามาก เพราะเรารู้แล้ว ว่าเขาสามารถทำได้ทุกอย่างในสิ่งที่เขาอยากจะทำ “กรี๊ด!! กูไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น พากูกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ ได้ยินไหม ปล่อย!! กูบอกให้ปล่อยไงวะ!!” เราสะบัดมือหนาทิ้งไป ก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าวิ่งออกจากห้อง แต่ก็ไม่พ้นน้ำมืออสูรร้ายอย่างเขา เขาเอื้อมมือหนามาคว้าเอวเราไว้ ก่อนจะยกเราเดินเข้าไปในห้องดังเดิม เราดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหวาดกลัว เราดิ้นสุดแรงที่มี แต่เรากลับสู้แรงเขาไม่ได้ เพราะเขาทั้งสูงใหญ่ และแข็งแรง เราจะทำยังไงดี “กรี๊ด!! ปล่อย ปล่อยกูออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!! ปล่อย!!” “มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู หึ!! ปากเก่ง อวดดี ถึงเวลาแล้วที่กูจะต้องเอาจริงกับมึงสักที” คุณอิฐเขากัดฟันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว แล้วเดินกลับมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ก่อนจะทุ่มร่างบางของเราไปบนเตียงสุดแรง ทำไมเขาถึงรุนแรงกับเราขนาดนี้นะ ทีกับสปายเขาทั้งนุ่มนวล และอ่อนโยน ซึ่งตอนนี้เนื้อตัวเราเจ็บไปทั้งร่าง เราร้องเสียงหลงออกมา ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วจ้องไปที่ใบหน้าคมคายของเขา ส่วนมือหนาก็คว้ามาที่คอของเราอีกครั้ง ก่อนจะใช้เล็บที่คมอย่างกับมีดทิ่มลงมาที่ลำคอของเรา เราชะงักอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง เจ็บชะมัด แต่เราก็อดกลั้น ไม่แสดงอาการอะไรออกมา “ฮึก!! มึงพากูกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ” “คิดว่าผู้หญิงอย่างมึงจะสั่งกูได้งั้นเหรอ” “ปล่อย!! กูบอกให้ปล่อย... ปล่อยสิวะ!!” เราเอื้อมมือที่เรียวเล็กจับไปที่แขนของเขาก่อนจะสะบัดมันไปอีกทาง และตอนนี้ปลายเล็บที่คมกริบก็กรีดลงมาที่ลำคอของเรา จนมีเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา ส่วนเขามีอาการตกใจนิดหน่อย ก่อนจะแสยะยิ้มด้วยความสะใจ แล้วโน้มตัวลงมาใกล้ ๆ ใบหน้าขาวนวลของเรา และเอื้อมมือหนามาวางกดทับฝ่ามือเรียวเล็กที่เราวางไว้ใกล้ ๆ ตัวทั้งสองข้าง ก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ท้าทาย “กู...ไม่ปล่อย!!” “หึ!! ได้!! บอกให้ปล่อยไงว่ะไอ้เหี้ยอิฐ ปล่อย!!” กึด!! เราสะบัดแขนเขาทิ้ง ก่อนจะกระโจนไปกัดหัวไหล่ของเขาสุดแรง ส่วนเขาก็ร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด สมน้ำหน้า บอกให้ปล่อยไม่ยอมปล่อย ก็ต้องเจอดีแบบนี้แหละ “โอ๊ย!! อีเหี้ยเอ๊ย” มือหนารีบจับไปที่แผลบนหัวไหล่ด้วยความเจ็บปวด พอสบโอกาสเราก็รีบกระโดดลงจากเตียงที่หนานุ่ม แล้ววิ่งออกมานอกบ้าน ร้องให้คนช่วย ซึ่งแน่นอน เรามองไม่เห็นใครสักคน เราก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเราไหม แต่ด้วยความกลัวเราจึงปล่อยโฮออกมาทันที สารภาพตามตรงว่าตอนนี้เรากลัวเขามาก น้ำตาทุกหยดที่ไหลลงมา มันกลั่นออกมาจากความหวาดกลัวในใจ “ฮึก!! ฮือ... ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย มีใครอยู่แถวนี้ไหมคะ ช่วยฉันที ฮือ...” พอเราหันกลับไปมองข้างหลัง ก็ต้องตกใจเมื่อเจอผู้ชายร่างสูงใหญ่เร่งฝีเท้าเข้ามาหาเราด้วยความรวดเร็ว ตอนนี้กิริยาท่าทางของเขาดูน่ากลัวมาก กำหมัด คิ้วขมวด กัดฟันแน่น มองมาที่เราด้วยความโกรธแค้น ซึ่งแน่นอน กิริยาท่าทางที่เราได้เห็น ทำให้เราร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม “ฮือ... ช่วยด้วย...” เรากวาดสายตามองซ้ายมองขวาอยู่บนชายหาด เพื่อหาคนให้ช่วย แต่เราก็ต้องผิดหวัง เพราะที่นี่ไม่มีใคร นอกจากเรากับเขา สุดท้ายเราก็ร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง เรารีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุด ก่อนที่คุณอิฐมันจะเร่งฝีเท้าวิ่งตามจนประชิดตัวเราได้ แล้วคุณอิฐมันก็ช้อนตัวเราขึ้นไปพาดบ่าไว้ และเดินกลับไปในห้องอีกครั้ง ท้ายที่สุดเราก็ถูกคนตัวสูงทุ่มลงบนเตียงสุดแรงอีกครั้ง คนอะไรป่าเถื่อนฉิบหาย! เลวทรามกว่าที่เราคิดไว้เยอะ “กรี๊ด!! ฮึก!! ปล่อยฉันไปเถอะนะคุณอิฐ ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฮือ...” “หึ!! หมดฤทธิ์แล้วสิท่า ทำไมไม่ปากเก่งเหมือนเมื่อกี้อีกล่ะ กูว่ามันสนุกดีนะ เวลากูเห็นมึงเจ็บปวด กูโคตรมีความสุขเลยว่ะ” “ฮึก!! ฮือ...” อะไรนะ เวลาเขาเห็นเราเจ็บปวด แล้วเขามีความสุขงั้นเหรอ ต่างไปจากเราที่ไม่อยากเห็นน้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าคมคายของเขาแม้แต่น้อย แต่เราก็ต้องเสียใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะน้ำตาของเราแต่ละหยด มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสงสารหรือเห็นใจเราขึ้นมาบ้างเลย ทำไมใจร้ายจังเลย “มึงร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ เพราะที่นี่ไม่มีใคร นี่มันบ้านกู แล้วที่แถวนี้มันก็เป็นของกู ร้องตะโกนให้ตายก็ไม่มีใครมาช่วยมึงได้หรอก หึ!!” “ฮึก!! ต่อให้กูจะร้องให้คนช่วยจนตัวตาย กูก็จะร้อง” "....." “ช่วยด้วยค่าา ช่วยด้วย...” เรารีบร้องตะโกนให้คนช่วยอีกครั้ง เพราะเรากลัวเขาเหลือเกิน ส่วนเขาเมื่อเห็นเราร้องตะโกนให้คนช่วย เขาก็เอื้อมมือหนามากระชากแขนของเราสุดแรง ตัวเราก็กระเด็นไปตามแรงกระชากของเขา อาการของเขาในตอนนี้เหมือนจะรำคาญเสียงคร่ำครวญของเราเอามากๆ “หนวกหูจริงๆ กูบอกให้มึงหยุดร้องไง แหกปากอยู่ได้ กูบอกให้หยุด!!” “ไม่!! กูไม่หยุด ปล่อย ปล่อย ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย... ฮือ...” เรามีอาการหวาดกลัว แต่ก็ทำใจดีสู้เสือต่อปากต่อคำกับเขา ส่วนเขาดูจะโมโหมากๆที่เราไม่เชื่อฟังสิ่งที่เขาพูด เขากุมแขนเราไว้จนแน่น บีบรัดแขนเรียวเล็กของเราซะจนเราแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา เพราะมันเจ็บมากๆ เหมือนกระดูกจะแตกออกจากกัน “น่ารำคาญฉิบหาย... กูบอกให้มึงเงียบ!!” คุณอิฐตะคอกใส่ใบหน้าขาวนวล โดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสะดุ้งตกใจกลัวยังไง นี่สินะ ที่เขาว่ากันว่า คนไม่รัก ต่อให้ทำดีกับเขาให้ตาย ยังไงเขาก็ไม่รัก เราเสียใจจริงๆ เพราะเสียงร้องไห้ที่เปล่งออกมา ยังดังไม่เท่าเสียงร้องไห้ในใจเราเลย “ฮึก!! คุณอิฐ อย่าทำแบบนี้เลยนะ ฉันขอร้องล่ะ ฮึก!! ถ้าฉันทำอะไรไม่ดีกับคุณ จนทำให้คุณคับแค้นใจ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันขอโทษจริง ๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ จะให้ฉันกราบฉันก็ยอม ฮือ...” “มึงไม่ต้องมาออดอ้อน ต่อให้มึงกราบตีนขอร้องอ้อนวอนกูให้ตาย กูก็ไม่มีวันปล่อยมึงไป เพราะมึงทำร้ายจิตใจกู ในเมื่อจิตใจมึงด้านชา ไม่เห็นอกเห็นใจความรู้สึกกู กูก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกมึง” “.....” “กูจะทำให้มึงต้องเจ็บปวดใจ แล้วก็ตายทั้งเป็น แบบที่มึงทำกับกู” คุณอิฐพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว เขาคงจะโกรธ และแค้นเรามาก ที่เราพาสปายออกไปหาเสี่ยเพลิง แต่เราไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้นี่ เราไม่ได้ตั้งใจ เราไม่คิดว่าการช่วยเหลือเสี่ยเพลิงในครั้งนั้น มันจะมีอันตรายคืบคลานมาหาตัวเองมากถึงเพียงนี้ “ฮึก!! ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย ฉันไปทำอะไรให้คุณโกรธเกลียดนักหนา ถึงต้องทำกับฉันแบบนี้ ฮือ...” “ก็เพราะมึงอยากได้กูเป็นผัวจนตัวสั่นนะสิ” “ไม่!! ฮึก!! ฮือ...” เราร้องไห้ไปส่ายหัวไป เราไม่เคยคิดอยากจะได้เขามาครอบครอง เพียงเราเห็นเขามีความสุขกับคนที่เขารัก เราก็ดีใจแล้ว ตอนนี้เขากำลังเข้าใจเราผิด ซึ่งต่อให้เราจะอธิบายไปยังไง เขาก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของเราอยู่ดี “กูจะให้ในสิ่งที่มึงอยากได้ และมึงจะต้องจดจำค่ำคืนนี้ไปตลอดชีวิต มึงต้องอยู่อย่างทุกทรมาน จนกว่ามึงจะสิ้นลมหายใจ รู้ไว้ซะ!!” คุณอิฐเอื้อมมือหนามาผลักหัวเราสุดแรง จนเรากระเด็นออกไปตามแรงที่เขาผลัก เราร้องไห้แล้วค้างอยู่แบบนั้นสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมคายที่ตอนนี้มันมีแต่ความเคียดแค้น “ฮึก!! มึงมันเลว!! กูไม่น่ารักคนอย่างมึงเลย ฮือ...” เราปาดน้ำตาตัวเองลวก ๆ ก่อนจะตะคอกออกไปสุดแรง ส่วนไอ้คุณอิฐมันขบกรามตัวเองแน่นด้วยความโมโห ก่อนที่ไอ้คุณอิฐมันขึ้นมาคร่อมตัวเราไว้ มือหนาก็คว้ามาที่มือเรียวเล็กของเราให้กางออก ก่อนที่มันจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “หึ!! ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เรามาหาอะไรสนุก ๆ ทำกันดีกว่า” คุณอิฐเขาปล่อยมือข้างหนึ่งของเราให้เป็นอิสระ ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาลูบไล้ที่ชายโครงของเราช้าๆ ซึ่งตอนนี้เรากลัวมันมากๆ กลัวจนตัวเราสั่นเครือ มือหนาเลื้อยลงมาตามซอกคอ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของเรา สักพักก็เลื่อนมาปลดกระดุมที่คอเสื้อเราออกหนึ่งเม็ด ด้วยความตกใจ เรารีบพุ่งไปจับมือเขาแล้วรั้งไว้ทันที ก่อนที่เขาจะยกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ “หึ!! ดู ๆ ไปมึงก็สวยดีนี่ แต่แปลกตรงที่... ชอบแย่งผัวเพื่อน!!” “ฮึก!! ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฮือ...” เรากุมมือคุณอิฐไว้ด้วยอาการที่สั่นเครือก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แต่ไอ้คุณอิฐมันกลับไม่สนใจน้ำตาเราเลย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องการจะแก้แค้น ที่เราหักหลังเขา เพราะคุณอิฐเขาเคยเตือนเราแล้วว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับเสี่ยเพลิงเด็ดขาด ซึ่งเราก็ทำตามสัญญาไม่ได้ “หึ!! พูดให้ตายกูก็ไม่มีวันเชื่อ” คุณอิฐเขาแสยะยิ้มและส่ายหัวไปมาช้าๆ “อย่าพึ่งร้อง มาสนุกกันก่อนสิ แล้วมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป” “ไม่!!” พูดจบเขาก็ก้มลงมาซุกไซร้ต้นคอเราทันที มืออีกข้างก็คว้ามาจับมือเรากดไว้ดังเดิม และไม่ลืมที่จะทิ้งรอยไว้ที่ต้นคอของเรา คุณอิฐเขารุนแรงกับเรามากไม่มีความปรานีเลยสักนิด เขาดูดกลืนซอกคอของเราอย่างหื่นกระหาย เหมือนกับเสือที่พยายามจะขย้ำเนื้อตรงหน้า “หยุดนะ ปล่อย... ฮือ...” เราพยายามดิ้นหนีสุดแรง แต่ก็สู้แรงคนตัวโตอย่างเขาไม่ได้ เราเหมือนนกน้อยที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ แล้วร้องขอชีวิตจากนายพรานให้ปล่อยตัวเราไป “มึงไม่มีสิทธิ์ห้ามกูทั้งนั้น เพราะตอนนี้ชีวิตมึงเป็นของกู” คุณอิฐหยัดตัวขึ้น ก่อนจะถอดเข็มขัดแล้วโยนมันลงไปที่พื้น และก้มลงมาถอดกางเกงยีนขาสั้นของเรา ซึ่งมันมีกางเกงในติดกับไปด้วย เราอายมาก ๆ เพราะตอนนี้ส่วนล่างของเราเปลือยเปล่า เราพยายามหุบขาเข้าหากัน แต่ก็โดนมือหนาดันให้มันอ้าออกมา ส่วนเรารีบเอื้อมมือไปปิดส่วนล่างไว้เพราะความอาย แต่ก็โดนคุณอิฐมันปัดทิ้งอย่างไม่ไยดี “ฮึก!! ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง ฮือ...” “.....” เราร้องไห้ออกมาอย่างหนัก พยายามขอร้องอ้อนวอนให้เขาไม่ทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ฟัง เพราะสิ่งที่เราทำลงไป เหมือนปลุกอสุรกายร้ายในตัวเขา และตอนนี้ร่างกายของเขาก็ยังคงกระทำเรื่องเลวทรามแบบนี้อยู่ เราพยายามใช้แรงที่มีอันน้อยนิดดิ้นหนี ก่อนจะถูกคนตัวสูงปลดเปลื้องเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโปรด และบรารูปผีเสื้อโยนทิ้งไป จากนั้นเขาก็ก้มลงไปถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดอย่างว่องไว จนเผยให้เห็นแก่นกายที่ผงาดตัวขึ้นมาอย่างน่ากลัว เพราะขนาดท่อนเอ็นของเขาพองตัวขึ้นมาเท่าขนาดท่อนแขน ซึ่งมันใหญ่เอามากๆ “หยุด!! อย่าทำฉันเลย” “.....” คุณอิฐเขาไม่พูดอะไรก่อนจะดันขาเราให้อ้าออกอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะก้มลงไปรูดแก่นกายขึ้นลงสองสามครั้ง และเอามันมาจ่อที่รูสวาทของเรา ส่วนเราก็ถีบถอยหนี เพราะความกลัว เพราะส่วนนั้นของคุณอิฐมันใหญ่เอามากๆ มือหนาก็คว้ามาที่ขาเราก่อนจะลากเข้าไปหาตัวเองอีกครั้ง “กรี๊ด!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุด!! ช่วยด้วยค่าา ใครก็ได้ช่วยด้วย ฮือ...” “หึ!! เอาเลยสิ ร้องออกมาเลย ร้องออกมาดังๆ กูชอบ” พรวด!! คุณอิฐหันมามองหน้าเรา ก่อนจะแสยะยิ้มด้วยความสะใจ จากนั้นมันก็ยัดแก่นกายเข้ามาที่รูสวาทของเราแบบที่เรายังไม่ทันได้ตั้งตัว และกระแทกเข้ามาแรงๆ ซึ่งมันเจ็บเอามากๆ เพราะเขาไม่มีการเล้าโลมใดๆ ซึ่งส่วนนั้นมันไม่มีน้ำหล่อลื่น เลยทำให้เราเจ็บมากขนาดนี้ มันเจ็บจนน้ำตาเราเล็ดออกมา “กรี๊ด!! โอ๊ย!! เจ็บ!! เอามันออกไป ฉันขอร้องละ ฮือ...” คุณอิฐชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหันมามองหน้าเราด้วยความสงสัย จากนั้นเขาก็ก้มหน้าก้มตาแสดงพฤติกรรมเลวๆต่อ การกระทำของเขาในตอนนี้มันป่าเถื่อนมาก ไม่มีความปรานีกับเราเลยสักนิด “แน่นจังว่ะ อ๊าา” คุณอิฐก้มหน้าก้มตากระแทกแก่นกายเข้ามาในตัวตนของเราอย่างหนักหน่วง ก่อนจะครางออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า “ฮึก!! ฮือ...” “ซี๊ด~ อ๊าา” คุณอิฐกัดริมฝีปากหนาร้อง อ๊าา ออกมาด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจ ก่อนจะเงยหน้ามองเพดาน และก้มลงมามองใบหน้าขาวนวลของเราอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้มันเปียกปอนไปด้วยน้ำตา “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสัญญาว่าต่อไป ฉันจะไม่ยุ่งกับคุณอีกเลย ฮึก!! ฮือ...” “.....” ตับ! ตับ! ตับ! เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วห้อง เขาไม่สนใจเสียงขอร้องอ้อนวอนของเราด้วยซ้ำ เราไม่มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลย เพราะมันมีแต่ความเจ็บปวดที่อัดอั้นอยู่ในใจ จนต้องร้องไห้โฮออกมา เราเอื้อมมือที่เรียวเล็กไปทุบตีอกแกร่งของเขาสุดแรง พูดตรง ๆ ว่าตอนนี้เราเกลียดการกระทำของเขาเป็นที่สุด “ฮือ... ปล่อย ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...” “ซี๊ด... อ๊าา แน่นฉิบหาย” “ฮึก!! โอ๊ย ฉันเจ็บ ใครก็ได้ช่วยฉันที ฮือ...” คุณอิฐไม่สนใจเสียงร้องไห้ของเราด้วยซ้ำ ต่อให้เราจะร้องไห้จะเป็นจะตายเขาก็คงไม่รับฟังและไม่เห็นใจ สักพักเขาก็ก้มลงมากัดยอดเชอรี่สีชมพูของเราสุดแรง เขามันป่าเถื่อนกับเราที่สุด “กรี๊ด!! ฉันเจ็บ ปล่อยนะ ปล่อย หยุดเดี๋ยวนี้ ฉันขอร้อง ฮือ...” เราเอื้อมมือเรียวเล็กไปทุบตีแผ่นหลังของเขาเพราะความเจ็บปวด น้ำตาก็ไหลรินออกมาเหมือนกับว่าฝนกำลังตก เขาไม่มีความสะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด จนเราหมดปัญญาที่จะต่อกร “ฮึก!! ฮือ... อย่า...” “โอ๊วว ซี๊ด~” คุณอิฐเขาครางออกมาด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจ ก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างช้าๆ แต่หนักหน่วง มันทั้งจุกทั้งเจ็บ มือเรียวเล็กก็หยิกลงไปที่แผ่นหลังของเขาสุดแรง จนแผ่นหลังของเขามีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด เขาสะดุ้งไปนิดหน่อย แต่ก็ยังคงกระทำสิ่งเลวๆอย่างนี้อยู่ “โอ๊ย!! ซี๊ด...ตอดดีฉิบหาย อ๊าาา” คุณอิฐเขาเลียริมฝีปากของตัวเองช้าๆ ก่อนจะครางออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ส่วนเราได้แต่นอนร้องไห้ และจำใจยอมให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการอย่างสมใจ ก่อนที่เขาจะจับเราพลิกตัวแล้วคว้าสะโพกเราเข้าไปใกล้ๆ และเขาก็เสียบแก่นกายเข้ามาที่รูสวาทของเราอีกครั้ง ซึ่งท่านี้มันเข้าไปได้ลึกมากๆ มันทั้งเจ็บทั้งจุก เจ็บกายยังไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิต้องใช้เวลารักษาเท่าไหร่ถึงจะหายดี “ฮึก!! โอ๊ย!! ปล่อย ฮือ...” เขาไม่ฟังสิ่งที่เราพูด ก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างรุนแรง มือหนาก็รั้งสะโพกเราไว้ ตัวเราสั่นเครือไปหมดเพราะความกลัว เราก็ได้ในสิ่งที่เราเคยภาวนาไว้แล้วนี่ แต่ทำไมเรากลับไม่ดีใจเลยสักนิด ซึ่งตรงกันข้ามเรากลับเสียใจมากๆ ที่ได้รู้จักคนอย่างเขา เสียใจที่หลวมตัวไปรักคนอย่างเขา เพราะเขามันเลวกว่าที่เราคิด เลวซะจน เราเกลียดตัวเองที่โง่ไปตกหลุมรักผู้ชายเลวๆคนนี้ “ซี๊ด!! จะเสร็จแล้ว” “ฮึก!! โอ๊ย!! ฉันเจ็บ ฉันไม่ไหวแล้ว ฮือ...” “ซี๊ด อ๊าา แตกแล้ว” คุณอิฐเขากระแทกไอ้นั่นเข้ามาแรง ๆ สองสามครั้ง ก่อนที่แก่นกายของเขาจะกระตุก จนเรารู้สึกร้อนวูบวาบในท้องเพราะมีอะไรอุ่น ๆ วิ่งเข้ามาในรูสวาท มือไม้เราสั่นไปหมด ด้วยความอ่อนล้าเราจึงทรุดตัวล้มลงไปนอนบนเตียงสุดแรง ส่วนคุณอิฐก็ล้มลงมาทาบทับตัวเราไว้ เรานอนฟังเสียงหอบของคุณอิฐ และเสียงสะอื้นของตัวเอง ทำไมมันเจ็บปวดใจแบบนี้ เจ็บจนขาดใจ สักพักเราก็รู้สึกว่ามีมือหนากระชากผมเราขึ้นมา ก่อนที่คุณอิฐจะซุกไซร้ไปที่ซอกคอ แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สะใจ “หึ!! โคตรสะใจเลยว่ะ”[แป้งร่ำ]สองเดือนผ่านไปเดินทางเข้ามาสู่ประตูวิวาห์ โดยที่แป้งร่ำมีอายุครรภ์ได้สี่เดือนเต็ม บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยทะเลและหุบเขาสุดกว้างใหญ่ไพศาลคอนเซปต์งานถูกจัดขึ้นตามความชอบของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่มักจะชวนกันมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นด้วยกันเป็นประจำ เป็นงานแต่งเล็ก ๆ ที่มีแขกมาร่วมงานเพียงสี่ร้อยที่นั่งมีญาติฝั่งเจ้าบ่าวมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ส่วนฝั่งเจ้าสาวมีเพียงป้าเพ็ญและลุงวินัยมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ส่วนเจ๊ตาล สปาย นุ่น และบลูเบอร์รี่เพื่อนสมัยเรียนก็ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอในครั้งนี้เช่นกัน“มึงสวยมากเลยแป้ง ยิ่งท้องก็ยิ่งสวย ยิ่งได้ใส่ชุดเจ้าสาวยิ่งโคตรสวย”สปายเพื่อนรักเอ่ยชม ขณะที่เจ้าสาวกำลังจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่โดยช่างแต่งหน้าระดับเวิลด์คลาสอย่างคุณมิวกี้ นักแต่งหน้าชื่อดังที่ต้องใช้เวลาจองตัวนานถึงสองเดือนกว่าจะได้ฤกษ์งามยามดีมาสะบัดแปรงบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาของคุณแม่ลูกสองอย่างแป้งร่ำ“งื้อ~ ขอบคุณมากนะมึง”เจ้าของใบหน้ายิ้มแย้มหมุนตัวไปมาหน้ากระจกอย่างเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ตัวเธอนั้นกำลังสวมชุดแต่งงานผ้าชีฟองบริสุทธิ์ ยามชายกระโปรงยาวฟูฟ่อ
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ แป้งร่ำก็เข้าไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาดสะอ้านในห้องน้ำ สองเท้าเรียวก้าวขาพ้นธรณีประตูกลับต้องตกใจ เมื่อพบว่าคุณอิฐกำลังนั่งคุกเข่ารอเธออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว“คุณอิฐ คุณทำอะไร ลุกขึ้นมาก่อน”หญิงสาวพยายามโน้มลงไปประคองคนตัวสูงให้ลุกขึ้นยืน แต่เขากลับเอาแต่นั่งนิ่ง ๆ มองไปยังใบหน้าแสนหวานไม่วางตา สายตาคู่สวยก็หันไปมองบริเวณโดยรอบ เผยให้เห็นว่ามีทุกคนเดินเข้ามาล้อมรอบเธอกับคุณอิฐไว้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม“แต่งงานกับพี่นะแป้ง หลายวันก่อนพี่อาจจะยังไม่พร้อม แต่วันนี้พี่ตามหาแหวนเพชรน้ำดีที่สุดมาคุกเข่าขอเธอแต่งงาน พี่พร้อมแล้วที่จะสร้างครอบครัวกับเธอ พี่สัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูกทั้งสอง”ชายหนุ่มคว้ากล่องกำมะหยี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมายื่นอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่ตนรัก ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแหวนเพชรพิงค์โกลด์ เป็นตัวเรือนทองคำแท้ เนื้อสีชมพูอมแดง ซึ่งราคาก็น่าจะปาไปแปดหลักเข้าให้“คุณอิฐ”หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อคุณอิฐด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนทุกคนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมาจาง ๆ ในดวงตาคู่คมกับมีน้
วันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันที่ลูกสาวหยุดเรียนพอดิบพอดี และเป็นจังหวะประจวบเหมาะที่จะพาหลานสาวไปเยี่ยมปู่กับย่าเป็นครั้งแรก เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจยกใหญ่ เพราะอยากเห็นคฤหาสน์ที่คุณปู่กับคุณย่าอาศัยอยู่ เพราะผู้เป็นพ่อนั้นเคยเอ่ยปากบอกว่ามันใหญ่โตอย่างกับพระราชวัง“ป๊าวันนี้วันเสาร์ใช่มั้ยคะ”เด็กน้อยชะเง้อคอถามผู้เป็นพ่อที่กำลังขับรถอยู่อย่างคนเก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ส่วนคุณอิฐก็คลี่ยิ้มจาง ๆ พลางเอ่ยตอบลูกสาว ก่อนจะหันกลับมาขับรถอีกครั้ง“ใช่ค่ะ เสาร์ทั้งวันอ่ะวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาทิตย์ทั้งวัน”“ป๊า~ น้องโอปไม่เข้าใจ”เด็กน้อยขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมมองไปทางผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงง เสาร์ทั้งวันคืออะไร อาทิตย์ทั้งวันคืออะไร ซึ่งผู้เป็นพ่อไม่เคยให้คำตอบที่เข้าใจง่าย ๆ ได้เลยสักครั้ง“น้องโอปอลล์อย่าไปถือสาคุณพ่อเขาเลยค่ะ เขายังไม่โต...”แป้งร่ำทำได้เพียงถอนลมหายใจออกมาแรง ๆ อย่างเอือมระอา ก่อนจะหันไปปลอบลูกสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง เพราะไม่อยากให้เด็กน้อยต้องรู้สึกสับสนกับคำตอบนี้“แต่ป๊าตัวโตกว่าคุณแม่อีกนะคะ”“ก็ใช่ค่ะ แต่ก็โตแค่ตัวนั่นแหละ”“คุณแม่จะบอกว่าป๊าสมองไม่พัฒนาเห
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปคุณอิฐยังคงมีอาการแปลก ๆ คล้ายกับคนขาดวิตามิน จนหญิงสาวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไรไป เธอพยายามชวนเขาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพอยู่หลายครั้ง แต่เขานั้นมันดื้อรั้นกว่าสิ่งไหน“ไปหาหมอหน่อยไหม เป็นแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”จะว่าเป็นห่วงก็คงใช่ เพราะช่วงนี้เขาป่วยหนักจนแทบไม่ได้เข้าไปดูแลบริษัทเลย ขลุกอยู่แต่ที่บ้านของเธอตั้งหลายอาทิตย์ไปยอมไปไหน ร้องขอให้เธออยู่ดูแลตลอดเวลา“รอให้ลูกกลับมาจากโรงเรียนก่อนได้ไหม อยากพาลูกไปด้วยกัน”“ได้สิ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้ว”หญิงสาวเม้มริมฝีปากบางก่อนจะพยักหน้ารับด้วยความดีใจ เพราะวันนี้คุณอิฐกลับเชื่อฟังคำพูดของเธอ ทั้งที่ผ่านมาเขาก็ยืนกรานมาตลอดว่าจะไม่ไปเวลาล่วงเลยไปถึงสี่โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนของน้องโอปอล์ ชายหนุ่มขับรถไปรับลูกสาวหน้าโรงเรียนแบบนี้เป็นประจำ จนคุณครูที่ยืนประจำการอยู่หน้าโรงเรียนจำหน้าคร่าตาอันหล่อเหลาเอาการของเขาได้“ลูกหมาของป๊า”ผู้เป็นพ่อนั่งย่อตัวอ้าแขนรอรับลูกสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจเฉกเช่นทุกครั้ง ท่อนแขนแกร่งก็โอบกอดลูกสาวไว้อย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึง“พ่อหมาของลูก ฮ่
ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวบางเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังอย่างแนบแน่น ก่อนจะใช้คางเกยไหล่เธอเอาไว้อย่างออดอ้อน“กลัวผีหรือเปล่า”“ไม่กลัว”“ผีผ้าห่มก็ไม่กลัวเหรอ”“คุณพูดอะไรเดี๋ยวลูกก็ได้ยินหรอก”คนตัวเล็กถึงกับเอ่ยตวาดชายหนุ่มยกใหญ่ แต่เขากลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน แถมยังหัวเราะชอบใจให้กับปฏิกิริยาโต้ตอบของเธอ“ไม่ได้ยินหรอกลูกหลับแล้ว”ไม่พูดเปล่า ยังใช้ริมฝีปากหนาดูดดุ้นซอกคอระหงจนเกิดรอยแดง จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บ“นี่จะทำอะไร ปล่อยนะ”“ไม่ไหวแล้ว หัวก็หอม ตัวก็หอม เธอน่าขึงที่สุดเลยรู้ไหม”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวเนียนอย่างหื่นกระหาย เขามีอารมณ์ทางเพศทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสกับเรือนร่างอรชรของเธอ จนกักเก็บอารมณ์ความรู้สึกว่าต้องการหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ไม่อยู่ ปลายจมูกโด่งก็สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบางเข้าไปจนเต็มปอด“คืนนี้ขอได้ไหม?”“แล้วถ้าบอกว่าไม่ล่ะ”“ไม่ก็จะเอา เพราะลูกชายสุดที่รักของพี่มันพองตัวแล้ว ลองจับมันดูสิ”ชายหนุ่มคว้ามือเรียวมาจับความเป็นชายที่พองตัวอยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งมันก็ใหญ่โตตามคำบอกเล่าของเขาจริง ๆ คนตัวเล็กทำได้เพียงนั่งกัดปากเพราะรู้สึกเกร็งจนท
ห้าเดือนผ่านไปเมื่อมีเวลาว่างคุณอิฐก็ตามมาแจกขนมจีบแป้งร่ำที่ร้านดอกไม้ฟลาวเวอร์รี่โรสเป็นประจำ และเขาก็ทำแบบนี้มาจะเข้าปีที่ห้าแล้ว พนักงานในร้านก็ต่างรู้สึกอิจฉาที่แป้งร่ำได้เจอผู้ชายดี ๆ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าที่ผ่านมาเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง“สวัสดีครับทุกคน”ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้พนักงานทุกคนภายในร้านแบบนี้เป็นประจำ ในมือก็ถือข้าวของมากมายที่เขาไปคว้านซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังเข้ามาด้วย“อ้าวพ่อหนุ่มมาทุกอาทิตย์เลย”“วันนี้ผมว่างน่ะครับ เลยตามมาเฝ้าแม่ของลูกที่ร้านได้”คุณอิฐฉีกยิ้มหวานกระชากใจ สายตาคู่คมชำเลืองไปมองคนตัวเล็กที่กำลังนั่งจัดดอกไม้ตลอดเวลา“แหม... ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันพี่แมวคิดถึ๊ง คิดถึง”พี่แมวโน้มเข้ามากอดคุณอิฐอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยก็ถูไถไปมายังท่อนแขนแกร่งอย่างออดอ้อน ส่วนคุณอิฐก็ฉีกยิ้มแห้ง ๆ ออกมาให้ได้เห็น เขาพยายามหลีกหนีให้ห่าง แต่ด้วยความเกรงใจเลยยืนนิ่ง ๆ ให้พี่แมวกอดให้หนำใจอยาก“ผมก็คิดถึงทุกคนครับ”“หึ!!”คนตัวเล็กเบะปากคว่ำก่อนจะร้อง หึ! ออกมาในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเธอรู้สึกสะอิดสะเอียนคำพูดตอแหลของเขาจนเต็มทน เพราะคุณอิฐเขามักจ
“เอ่อ... ผัวก็คือป๊าเองค่ะน้องโอป”ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ เพราะอยากแสดงความเป็นเจ้าของหญิงสาวตรงหน้าให้ลูกสาวรับรู้ แต่เด็กน้อยอย่างน้องโอปก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ก่อนจะเอียงคอถามผมอีกครั้ง“แล้วทำไมป๊าถึงต้องแทนตัวเองว่าผัวด้วยคะ น้องโอปไม่เข้าใจ”“น้องโอปอล์ หนูอย่าไปให้ความสนใจกับคำพูดของพ่อมากนักเลยค่ะ บางครั้งพ่อเขาก็มักจะพูดอะไรออกไปแบบไม่คิด”หน้าหล่อ ๆ ของผมถึงกับแตกออกจากกันเป็นเสี่ยง ๆ เพราะแป้งร่ำเธอพูดหักหน้าผมเข้าให้แล้ว มันเจ็บแปล๊บ ๆ เหมือนโดนมีดบาด แต่ผมไม่สนน่ะ เพราะผมเป็นผัวเธอจริง ๆ“พูดไม่คิดยังไงแป้ง ที่กูพูดไป กูคิดมันทุกคำ ว่ากูเป็นผัวมึง แล้วไอ้เรื่องเมื่อคืนอีก อย่าบอกนะว่าลืม...”“คุณอิฐ อยู่ต่อหน้าลูกอย่าพูดคำหยาบได้ไหม ฉันไม่อยากให้ลูกซึมซับสิ่งไม่ดี”ใบหน้าแสนหวานหม่นลงในทันทีที่ผมพูดจบ ผมชะงักไปทันที ถึงแม้ว่าที่ผ่านมานิสัยผมจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่คำพูดคำจาก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นคนโผงผาง พูดไม่เพราะ ชอบพูดจาหยาบคายเป็นที่หนึ่ง เลยทำให้คนตัวเล็กเอือมระอาขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้ผมก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก กลัวว่าน้องโอปจะซึมซั
“ฉันอยาก”เท้าเรียวเล็กจิกเกร็งไปหมด แป้งร่ำเธอใช้ขาข้างหนึ่งถูไถไปตามเรียวขาสวยเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่านที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัว“ก็จะทำให้อยู่นี่ไง รีบเหรอ”ผมโน้มลงไปกระซิบที่ซอกคอของเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พลางจูบพรมไปตามลำคอระหง เลื่อนขึ้นมายังพวงแก้มขาวนวล และจูบย้ำ ๆ ลงบนปากกระจับได้รูปของเธอ ร่างเล็กอ่อนระทวยด้วยพิษรักยั่วสวาท เธอเด้งหน้าอกรับเมื่อผมใช้ริมฝีปากคลอเคลียลงไปตามเนินอกอวบอิ่ม“อืม ฉันรีบ ฉันไม่ไหวแล้ว มันร้อน ร้อนไปทั้งตัว”มือเรียวยกขึ้นสางผมที่เปียกซกไปด้วยเม็ดเหงื่อ ใบหน้าแสนหวานของเธอเปล่งประกายระเรื่อขึ้นมาจนเห็นได้ชัด เธอร้องซี๊ดออกมายกใหญ่ทั้งที่ผมยังไม่ทันทำอะไร ดวงตาคู่สวยจ้องมองมาที่ใบหน้าคมคายด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม“จะรับไหวหรือเปล่า ของกูใหญ่นะ”“ไหวสิ ฉันจะอดทน คุณรีบทำหน่อยได้ไหม”ฟันคู่คมกัดเม้มริมฝีปากบางของตัวเองแน่น ก่อนที่เธอจะยกมือเรียวขึ้นมาคล้องคอผมไว้และแสดงสีหน้าออดอ้อน ผมที่ได้เห็นถึงกับเก็บอารมณ์ฟุ้งซ่านในใจเอาไว้ไม่อยู่ อยากจะจับเธอกระแทกให้แรง ๆ โทษฐานที่ทำตัวน่าเอา“อยากจูบตรงนั้นของมึงด้วยได้ไหม?”“ได้สิ ฉันยอมคุณแล้ว ยอมทุกอย่าง คุณอยาก
[คุณอิฐ]หลายอาทิตย์ผ่านไปผมกลับมาดูแลบริษัทที่กรุงเทพฯทุกอาทิตย์ ก่อนจะเดินทางกลับไปหาลูกเมียทันทีเมื่อเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จ ผมใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงในการเดินทางไปจังหวัดใกล้เคียงที่น้องโอปอล์กับแม่ของลูกอาศัยอยู่ มาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาสามทุ่มพอดีเป๊ะรถสปอร์ตคันหรูจอดสนิทอยู่หน้าบ้านไม้หลังเล็ก ๆ แต่กลับพบเพียงความมืดมน เพราะเวลานี้กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน แล้วแป้งร่ำเธอพาลูกไปอยู่ที่ไหน ผมไม่รอช้ารีบต่อสายตรงหาเธอทันที แต่โทรไปเท่าไรเธอก็ไม่รับสาย ก่อนที่ผมจะตัดสินใจส่งข้อความไปหาเธอAit : [อยู่ไหน ทำไมไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน]Ait : [พาลูกไปไหน บอกมา... เดี๋ยวจะไปรับ]Ait : [ตอบกลับข้อความที]ผมรอจนแล้วจนรอดแต่ก็ไม่มีข้อความตอบกลับแต่อย่างใด จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ก่อนจะตัดสินใจไปกดกริ่งหน้าบ้านของป้าเพ็ญ เผยให้เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก กับหญิงวัยกลางคนเดินออกมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน ทำไมเวลานี้น้องโอปถึงยังไม่นอน“ป๊า...”ผู้เป็นพ่อนั่งย่อตัวอ้าแขนรอรับลูกสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางดีอกดีใจอย่างเช่นทุกอาทิตย์“น้องโอป...”ชายหนุ่มคว้าลูกสาวตัวน้อยมาโอบกอดอย่างแนบแน่น ก่