بيت / โรแมนติก / หัวใจในตะวัน / บทที่ 7 หนูเป็นสาวแล้ว

مشاركة

บทที่ 7 หนูเป็นสาวแล้ว

مؤلف: เอลยา
last update آخر تحديث: 2025-11-21 21:49:30

ภาพห่อผ้าขาวกลมที่ลอยละลิ่วลงมาจากเรือสำราญย้อนเข้ามาให้ความทรงจำ... กำเนิดของพิณตะวันนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้เป็นแม่ก็สุดจะรู้ได้ รู้แต่ว่า เธอจะต้องปกป้องลูกน้อยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการที่เด็กทารกถูกโยนทิ้งทะเลจากเรือแบบนั้น แสดงว่ามีคนประสงค์ร้าย ไม่ต้องการให้มีชีวิตอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย!

"แม่กับพ่อต้องพูดกับครูใหญ่และนายหัวให้ตะวันนะจ๊ะ ตะวันไม่ไป! ถ้าไปใครจะคอยช่วยแม่ซักผ้าถูบ้าน และใครจะช่วยแม่ล้างผักทำกับข้าวให้คนงานละจ๊ะ"

เด็กน้อยทั้งงอนทั้งอ้อนผู้เป็นพ่อกับแม่ เข้าไปกอดคลอเคลียจนคนเป็นพ่อต้องถอนหายใจ

"เอาเป็นว่า พ่อจะพูดกับนายหัวและครูใหญ่ก็แล้วกัน แต่นายหัวท่านก็หวังดีจริงๆ อยากให้ตะวันได้เรียนสูงๆ นะลูก การได้เรียนจากโรงเรียนในเมืองที่คุณครูเก่งๆ มีความรู้เยอะๆ จะทำให้ตะวันพลอยเก่งไปด้วย"

"แต่คุณครูไม่รู้จักเกาะของพวกเราสักหน่อยนี่จ๊ะพ่อ ถ้าหากนายหัวต้องการคนมาช่วยพัฒนาเกาะ ก็ต้องเรียนรู้จากเกาะนี่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ตะวันไม่เห็นว่าจะต้องไปเรียนที่อื่นเลย ไปเรียนทำไมไกลๆ ให้เสียเวลา วันก่อนดูรายการทีวี ตะวันยังเห็นนักศึกษากลับไปทำไร่ทำสวนที่บ้านตัวเองเลยนี่นา เรียนไปตั้งนานหลายปี พ่อแม่เสียตังค์ไปตั้งแยะ สุดท้ายก็กลับไปทำเกษตรเหมือนพ่อแม่ อย่างนี้จะไปเรียนทำไมล่ะจ๊ะ"

เด็กหญิงจดจำมาจากรายการอะไรสักอย่าง ชื่อคล้ายๆ รักเก่าที่บ้านเกิดอะไรทำนองนั้น

"เรียนเอาความรู้ไว้ก่อนไงจ๊ะ เผื่อมีประโยชน์ เพราะถ้ายังไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไรในอนาคตก็เรียนสูงๆ ไว้ก่อนไงลูก"

ผู้เป็นแม่เอ่ยอธิบาย เพราะความจริงแม่ก็จบแค่มัธยมต้นเอง จากการศึกษานอกโรงเรียน พ่อดีหน่อยที่จบ ม.หก

"แต่ตะวันรู้แล้วนี่จ๊ะว่าตัวเองอยากจะทำอะไร" เด็กน้อยรีบเอ่ย

"แล้วตะวันอยากจะทำอะไรล่ะลูก"

ผู้เป็นพ่อลองถามดู

"ตะวันอยากทำงานที่นี่ จะอยู่ที่นี่ตลอดไป อยากอยู่กับพ่อและแม่ อยากดูแลพ่อกับแม่เมื่อตะวันโตขึ้น เพราะพ่อกับแม่จะต้องแก่เหมือนยายเม้าตาเสาถูกไหมจ๊ะ ถึงตอนนั้นตะวันจะได้อยู่ดูแล จะไม่ทิ้งไปเหมือนที่พี่นกแก้วทิ้งยายเม้ากับตาเสาไงล่ะจ๊ะ พี่นกแก้วแทบจะไม่กลับมาบ้านเลย ยายเม้าแกก็ได้แต่นั่งดูรูปพี่นกแก้วแล้วก็ร้องไห้ ตะวันไม่อยากให้แม่กับพ่อต้องมานั่งดูรูปตะวันแล้วร้องไห้แบบนั้น"

พ่อกับแม่ฟังแล้วก็ต้องหันไปมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะซึ้งดี... เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย... ตัวแค่นี้ คิดอะไรได้ไกลเกินกว่าที่พ่อกับแม่จะคาดถึง

"เอาล่ะ พ่อจะไปพูดกับนายหัวท่านดู ท่านก็คงจะไม่บังคับหรอก ถ้าหากตะวันไม่อยากไป"

พ่อกล่าวทำให้เด็กหญิงยิ้มแฉ่งด้วยความดีใจ โผเข้าไปกอดทั้งพ่อและแม่

"ตะวันรักพ่อกับแม่ที่สุดในจักรวาลเลยจ้ะ"

****

เย็นวันต่อมา พ่อก็พาพิณตะวันไปหานายหัววิลที่เรือนใหญ่ ตั้งแต่ที่โดนหินบาดเท้าครั้งนั้น ซึ่งก็หลายเดือนมาแล้ว เด็กหญิงก็เลี่ยงหลบไม่ให้นายหัวเห็นหรือได้ยินกิตติศัพท์อีกเลย นายหัวก็ยุ่งกับงานบนเกาะจนไม่ได้ใส่ใจเรื่องซุกซนของพวกเด็กๆ

"เสียดายนะ เห็นครูใหญ่ว่าเรียนเก่ง เห็นว่าเก่งทุกวิชา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ"

เสียงห้าวเอ่ย ร่างสูงใหญ่ของนายหัววิล ทำให้พิณตะวันต้องนั่งแอบๆ เยื้องไปข้างหลังพ่อ นายหัวนั่งที่เก้าอี้โยกตรงระเบียงด้านตะวันตกของชั้นล่าง พ่อกับตะวันนั่งที่ม้ายาวซึ่งมีตลอดแนวระเบียง มีลูกกรงเป็นไม้กลมสูงประมาณเมตรกว่า

นายหัวหน้าเหมือนนายแบบฝรั่งที่พิณตะวันเห็นโฆษณาเหล้าและนาฬิกา...หน้าไม่เหมือนทุกอย่างหรอก แต่ก็เป็นฝรั่งคล้ายๆ กัน

"ครับนาย แต่เขารักที่นี่ ไม่อยากไปอยู่ไกลๆ ผมก็เลยคิดว่าเรียนทางไกลเอาก็ดีเหมือนกัน"

ไอลวิลหันไปมองเด็กหญิงตัวบางที่นั่งแอบหลังพ่อ เนื้อตัวและหน้าตาดูกระดำกระด่างชอบกล...แต่ผมถักเปียยาวมีสีดำจนเป็นมันวาวและดูดกหนา...นี่เอง...เด็กตะวัน ที่เขาได้ยินชื่อจนติดหูเรื่องความแก่นกะโหลก... แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลามานั่งจ้ำจี้จำไชกับพวกเด็กซนพวกนี้ เตือนพ่อแม่ผู้ปกครองไปแล้วก็แค่นั้น

"ไม่อยากไปเห็นบ้านเมืองอื่นที่เขาเจริญแล้วบ้างหรือ"

เสียงห้าวของนายหัวถามพิณตะวัน

"ไม่จ้ะ หนูรักที่นี่...ที่นี่ก็เจริญและสวยงาม นายหัวยังมาอยู่เลยนี่จ๊ะ"

เด็กน้อยตอบ ทำให้ไอลวิลต้องเลิกคิ้วแล้วอึ้งไป มองดูดวงตาโตแป๋วแหววที่มองเขาอย่างใสซื่อ ไม่แน่ใจว่าเด็กตอบตามความคิดหรือว่าแอบย้อนเขาเข้าให้แล้ว...

"เอาล่ะ เรื่องการเรียนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการบังคับใคร จะเรียนที่ไหนก็ได้ แต่ขอให้เรียนก็แล้วกัน ในเมื่อต้องการจะอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว...ตอนนี้ยังเล็กอยู่ อาจจะเปลี่ยนใจในอนาคต ตอนจะเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้"

ไอลวิลกล่าวสรุป เพราะเขามีหน้าที่เพียงจะให้ทุนให้เรียนเต็มที่ ส่วนใครจะเรียนหรือไม่นั่นก็แล้วแต่ตัวผู้เรียน

"ถ้าชอบวิชาภาษาอังกฤษ เมื่อเริ่มเรียนทางไกล ได้หนังสือมาแล้ว ให้มาเรียนกับฉันช่วงเวลากลางคืน จะจัดเวลาให้อีกที ทุกคนที่เรียนทางไกล ฉันจะช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะอยากเป็นครู เห็นว่าภาษาอังกฤษ ครูใหญ่เองก็ไม่ได้จบมาโดยตรง ถ้าหากเธอเรียนเก่ง เธอจะได้ช่วยสอนรุ่นน้องๆ ต่อไป"

นายหัวกล่าว จากนั้นก็บอกว่าไม่มีอะไรอีก พ่อจึงพาพิณตะวันกลับบ้าน พิณตะวันไม่อยากไปเรียนกับนายหัวเลย กลัวโดนดุ อีกอย่าง ท่าทางไม่น่าสนุกเท่าไหร่ เพราะคุยอะไรก็ไม่รู้ ฟังแล้วรู้สึกเครียดและปวดไส้ติ่งจี๊ดๆ อยากจะวิ่งหนีไปอยู่ไกลๆ มากกว่า

****

ในเวลาต่อมา เด็กๆ ก็เรียนจบ และบางส่วนก็ไปเรียนที่โรงเรียนบนแผ่นดินใหญ่ตามที่นายหัวได้สนับสนุนให้ทุน บางส่วนก็อยู่ที่นี่ เรียนทางไกลเอา เวลาว่างก็ช่วยพ่อแม่ทำงานที่ทำได้

ส่วนคนที่ไปเรียนพิเศษกับนายหัวตอนกลางคืนนั้น แรกๆ ก็มีกันหลายคน ต่อมาก็ค่อยลดลงเหลือสามคนคือ พิณตะวัน ก้องและโก้ แต่ต่อมาสองคนนั่นก็เบี้ยว นายหัวก็ไม่ต้องการบังคับ เพราะสอนคนไม่อยากเรียนมันก็น่าเซ็งเหมือนกันกระมัง พิณตะวันจะเบี้ยวอีกคนก็เกรงใจนายหัว เลยจำต้องไปเรียนในวันเสาร์และอาทิตย์ ตอนที่นายหัวกำหนดเวลาให้คือหนึ่งชั่วโมงตอนหลังทานข้าวเสร็จ ก็ช่วงหนึ่งทุ่มถึงสองทุ่ม พ่อมาส่งและนั่งรอ

นายหัวเป็นฝรั่ง และพิณตะวันก็ชอบภาษาอังกฤษด้วย ทำให้การเรียนกับนายหัวไม่น่าเบื่อและก็สนุกและได้ฟังสำเนียงเหมือนฝรั่งแท้ของนายหัวเพลินดีไม่น้อย...

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 48 บัณฑิตหมาดๆ

    "เฮ้ย...ร้องไห้ทำไมกัน ไม่เอา... ห้ามร้อง ตะวันไม่ใช่คนอ่อนแอและร้องไห้ง่ายสักหน่อย...หยุดร้องเดี๋ยวนี้เลย"เขาทั้งปลอบและทั้งสั่ง...แต่ร่างบางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุด ชายหนุ่มชักเริ่มใจไม่ดี ไม่อยากเห็นน้ำตาของยัยตัวดี เขาล้มตัวลงไปนอน ดึงร่างบางให้นอนซบหน้าอก ลูบแผ่นหลังบางเบาๆ"ไม่เอาน่า...หยุดร้องก่อน...คืนนี้จะเลี้ยงฉลองความสำเร็จของตะวัน แล้วมาร้องไห้แบบนี้ ตาบวม หมดสวยกันพอดี"เขาแกล้งแหย่"ไม่อยากสวย! ฮือๆ "คนไม่อยากสวยส่งเสียงโต้ตอบ กอดเอวเขาไว้แน่นแล้วก็ร้องไห้จนเสื้อเขาเปียก"เอาล่ะ...หยุดร้องก่อน... นะ""ตะวันมะโห! ฮือๆ และก็น้อยใจด้วย! นายหัวจะใจร้ายกับตะวันไปถึงไหน"เสียงสะอื้นเอ่ยตัดพ้อต่อว่า"มะโห แต่ไม่ร้องได้ไหม ฉันไม่ชอบเห็นน้ำตาของตะวัน"เสียงห้าวเอ่ยแล้ว ผลักร่างบางให้นอนหงายไปกับที่นอน จากนั้นก็ค่อยใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน พิณตะวันร้องไห้จนพอใจก็หยุด... นอนซุกหน้ากับอกกว้าง รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ได้อยู่กับเขาอีกครั้ง..."หายมะโหหรือยังหือ..." เขาแกล้งถาม พลางก้มไปหอมแก้มที่เปียกด้วยน้ำตา พิณตะวันค้อนคว่ำให้เขา"ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ...จะมะโหต่อถ้

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 47 บัณฑิตหมาดๆ

    ****พิณตะวันจัดการเก็บข้าวของที่คอนโด คุยกับวายุแล้วว่าจะย้ายออก ของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมาก วายุจึงให้ขนไปไว้ที่บ้านอิสรีพัฒน์ แล้วก็คืนคอนโดไปไอลวิลเดินทางมาถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ในเวลาบ่ายคล้อย ร่างเพรียวระหงนั่งรออยู่แล้วที่สวนหย่อมหลังบ้าน พอเฮลิคอปเตอร์ลงจอด เจ้าหล่อนก็ลุกขึ้นยืนทำหน้าตื่นเต้น เมื่อไอลวิลลงจากเครื่อง ร่างเพรียวก็วิ่งเข้าไปหาทันทีจนเขาแทบจะเปิดอ้อมแขนกางรับไม่ทัน เจ้าตัวโผเข้ากอดอย่างเต็มที่และเต็มแรง โดยไม่กลัวว่าจะพากันล้ม เขาต้องตั้งหลักยืนให้มั่น"เบาๆ หน่อย จะพากันล้มกลิ้งเอา"เสียงห้าวเอ่ย รู้สึกขำที่เวลาผ่านไปสี่ปี คนในอ้อมแขนอายุย่างยี่สิบสองปีแล้ว แต่กับเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง..."ดีใจที่สุด ตะวันรอนายหัวมาสองวันเต็มๆ ตะวันขนของจากคอนโดมาไว้ที่นี่หมดแล้ว ของไม่มีแยะหรอก แค่สองกระเป๋าเอง คุณท่านจัดห้องให้ตะวันห้องหนึ่ง อยู่ติดกะห้องของนายหัวด้วยล่ะ"เสียงแจ๋วเอ่ยรายงานยาวเหยียด...เงยหน้าขึ้นยิ้มกระจ่าง ใบหน้านวลปลั่งมีสีเรื่อด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาว ดวงตาคู่กลมโตเปล่งประกายวาวระยับเต็มไปด้วยความสุข"ตะวันช่วยแม่ครัวเตรียมอาหารสำหรับคืนน

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 46 บัณฑิตหมาดๆ

    เจ้าของวันเกิดกำลังยืนหลับตาอธิษฐานเสียงดัง"ขอให้นายหัวมีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ขอให้นายหัวมีความสุขมากๆ ขอให้พระคุ้มครองให้นายหัวปลอดภัย ขอให้นายหัวจงเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป สาธุ๊..."เสียงแจ๋วเอ่ยขอพร"อ้าว แล้วกัน วันเกิดเรา ก็ขอให้ตัวเองสิ มาขอให้ฉันทำไม"เสียงห้าวเอ่ยทักท้วงอย่างรู้สึกขำเจ้าหล่อน"ก็นั่นแหละเป็นสิ่งที่ตะวันต้องการที่สุดสำหรับวันเกิด ถ้านายหัวมีความสุขและสุขภาพดี ตะวันก็มีความสุขยิ่งกว่าไง"คนอธิษฐานเอ่ยโต้ตอบบอกเหตุผล ไอลวิลจึงพยักหน้ายอมๆ ให้ทำตามอำเภอใจ จากนั้นเจ้าตัวก็เป่าเทียนวันเกิดที่ปักอยู่เพียงเล่มเดียวตรงกลางเค้ก มือบางจัดการตัดเค้กแล้วใส่จานเดียวกับช้อนสองคัน นั่งกินด้วยกันที่โซฟา เปิดทีวีรายการการ์ตูนคลอเป็นแบ็กไปด้วยไอลวิลมองดูคนที่กินเค้กจนพุงกาง แถมเจ้าหล่อนยังคะยั้นคะยอบังคับเขา พอเขาหยุดตักกิน ก็ลงมือป้อนให้ถึงปาก ไอลวิลรู้ทันเจ้าตัวดีที่ทำท่ากินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด"ถ้าอิ่มแล้ว ก็เก็บไว้ในตู้เย็นดีไหม ไม่ต้องฝืนหรอกมั้ง" เขาเอ่ยอย่างรู้ทัน คนอิ่มทำหน้ายิ้มแหยให้"ก็ตะวันกลัวนายหัวเสียน้ำใจนี่นา"เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย เพราะเมื่อครู่ก่อนได้ประกาศปาวๆ ว่าจ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 45 My Sunshine...

    พิณตะวันหันไปมองลริณา"เอาไงดีริณา...จะให้คุณวาไปส่งไหม คุณแม่ของริณาจะว่าหรือเปล่าที่มีหนุ่มไปส่งแบบนี้"พิณตะวันเอ่ยอย่างที่ไม่ได้คิดอะไร แต่ทำให้ลริณาหน้าแดง และวายุก็เลิกคิ้วสูงกับคำพูดของเจ้าหล่อน"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่รู้จักพี่ตะวันนี่คะ"สาวน้อยเอ่ยตอบน้ำเสียงอ่อน วายุไม่เข้าใจว่าเด็กสองคนนี้มาคบหาเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร คนหนึ่งห้าวสุดห้าว กล้าแกร่งก็ปานนั้น อีกคนก็หวานสุดหวานและเรียบร้อยสุดบรรยายแบบนี้"แต่พี่เพิ่งเคยเห็นท่านครั้งเดียวและคุยโทรศัพท์ด้วยหนหนึ่ง ก็เท่านั้นเอง แต่ก็ลองไปดู ไปเลยๆ คุณวา"คนกลางตัดสินใจทันที คนขับรถก็ทำตามโดยมีคนที่นั่งเบาะหลังเป็นคนบอกทาง วายุเอาที่อยู่ใส่ใน GPS ให้ช่วยบอกทางให้ จากนั้นก็ขับรถไปยังบ้านของลริณาคฤหาสน์หลังใหญ่มีบริเวณกว้างขวาง สมกับเป็นครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จากประตูรั้วต้องขับรถเข้าไปอีกประมาณร้อยเมตรเลยทีเดียว"อยู่กันกี่คนนี่ริณา"พิณตะวันถามสาวน้อย แต่ไม่ได้ทำตาโต เพราะพิณตะวันเห็นบ้านอิสรีพัฒน์จนชินซึ่งก็ใหญ่โตพอกัน แต่ที่สำคัญพิณตะวันไม่ตาโตกับสมบัติของใคร บ้านของพิณตะวันที่เกาะคือสวรรค์ที่สุดแล้วสำหรับพิณ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 44 My Sunshine...

    "หือ..."ทำเอาคนฟังต้องนิ่งชะงักไม่แน่ใจว่าเจ้าหล่อนหมายถึงอะไร"อยากเห็นนาย ... ความจริงตะวันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับวันเกิดหรอกนะ นายหัวไม่ต้องเข้ามาวันเกิดก็ได้ เพราะมันตั้งสิ้นปีโน่นแน่ะ นายหัวยกยอดมาอาทิตย์หน้าก็ได้ ตะวันไม่ถือหรอก ฉลองวันเกิดล่วงหน้าไง"คนอยากเจอเอ่ยโน้มน้าว ไอลวิลยิ้มขำ"ก็ถ้าว่าง จะเข้าไป ช่วงนี้ต้องอยู่เกาะ ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่ตะวันอยู่ มันมีคนแปลกถิ่นและแปลกหน้าเข้ามา พวกต่างชาติ เพื่อนบ้านไทยนี่แหละ แอบเข้ามาป้วนเปี้ยน เราเลยต้องวางเวรยามที่เกาะรังนกทุกเกาะของเรา"เขาเอ่ยเล่าความเป็นไปให้เจ้าของเกาะตัวจริงฟังนิดหนึ่ง"จริงเหรอ...ตะวันอยากกลับไปช่วยนายเร็วๆ มาเรียนทำไมก็ไม่รู้ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย ถ้าตะวันอยู่ที่โน่นกับนายคงจะมีประโยชน์กว่านี้"เจ้าตัวดีได้โอกาสก็บ่นใส่ทันที"งานพวกดูแลเกาะ ให้พวกผู้ชายเขาทำ เราเรียนบัญชีก็ดีแล้ว ต่อไปจะได้ช่วยวายุที่สำนักงานใหญ่ นั่นก็เป็นงานสำคัญ""แต่ตะวันอยากช่วยนายมากกว่านะ...อะไรกัน ไหนว่าเรียนจบแล้วจะให้กลับไงเล่า"น้ำเสียงเริ่มขุ่นและงอน"ฉันแค่เกริ่นให้ฟัง จบแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าตะวันอยากจะอยู่ไหนและทำอะไร คิดว่าอยากจ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 43 My Sunshine...

    การเรียนเป็นไปอย่างราบรื่นและเรียบร้อย พิณตะวันเป็นคนที่ถ้าหากตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วก็จะมีความมุ่งมั่นพยายามและไม่ไขว้เขวกับสิ่งยั่วยุ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อหลอกให้คนในวัยศึกษาเล่าเรียนเป๋มีมากมายในเมืองกรุง แต่พิณตะวันไม่เคยเป๋เหมือนเด็กในวัยเดียวกันอีกหลายคนผู้ที่ไม่มีจุดยืนและไม่มีเป้าหมายที่แน่นอนในชีวิตนั้น สามารถตกเป็นเหยื่อของสังคมแห่งวัตถุนิยมได้ง่ายๆ ดังนั้นพิณตะวันจึงรู้สึกขอบคุณบิดามารดาและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้พิณตะวันได้รู้จักโลกที่เป็นธรรมชาติของชีวิตที่แท้จริง ไม่ใช่โลกจอมปลอมของมหานครกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจว่าสวยงาม แต่เบื้องหลังเบื้องลึกนั้นกลับสกปรกโสมมสำหรับพิณตะวันแล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบกรุงเทพฯ เป็นผู้หญิง เมืองฟ้าอมรแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนหญิงสาวที่ไม่ได้อาบน้ำ แต่พยายามห่อหุ้มร่างด้วยเสื้อผ้าสวยงามและฉีดพรมน้ำหอมเพื่อดับกลิ่นอย่างเต็มที่ แต่งหน้าแต่งตัวเริดหรูอลังการ ทำให้คนที่ไม่รู้เบื้องลึกหลงคิดว่าสวยงามและหอมหวนทวนลมเสียเหลือทน แต่ความจริง ถ้าเปลื้องผ้าออกจะรู้ว่าร่างนั้นเหม็นสางสกปรกและหมักหมมด้วยเชื้อโรคแค่ไหน... ดังนั้นคนอย่างพิณตะวันไม่ยอมหลงเ

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status