Войти“อ้าวพี่จางจิ้ง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แผนพี่เหรอ” หญิงสาวก้มลงกระซิบข้างหูของเขา “พี่รู้ไหมแบบนี้ซื่อเว่ยต้าตี้จะอายุขัยลดลง” หญิงสาวถอนตัวถอยออกมายืนอย่างสง่างามปกติ“รู้สิ อายุของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ฟางเฟย” เกาฟางเฟยหยุดชะงักเล็กน้อย แล้วเดินจากไปเกาจางจิ้งนั่งเงียบตลอดเวลาตั้งแต่ฟางเฟยเดินจากไปพร้อมซื่อเว่ยต้าตี้ เจียอีกับลี่จูชวนคุย เขาก็ทำแค่พยักหน้าส่ายหน้า สายตามองออกไปข้างหน้า หากใครมองเห็นคงคิดว่านายน้อยเกา มีสมาธิชมการแข่งขัน แต่แท้ที่จริงเกาจางจิ้งกำลังใช้หูทิพแอบฟังบทสนทนา ที่อยู่ใกล้ออกไปถึงบ้านใหญ่สกุลเกาชายหนุ่มร่างกำยำ ถือม้วนกระดาษในมือ เดินตรวจงานภายในจวนสกุลฟาน ที่เพิ่งถูกขายเปลี่ยนมือ และกำลังจะมีงานมงคลในเร็ววันนี้ ทั่วทั้งเรือนแลดูคึกคัก ด้วยเหล่าทหารและแรงงานที่พอหาได้ รวมทั้งช่างไม้ช่างปูน ที่เร่งมือซ่อมแซมปรับปรุงเรือนให้เหมาะสมคู่ควรต่อการเป็นเรือนหอสำหรับคู่บ่าวสาวใหม่“อ้าว…เร่งมือหน่อย ทางนั้นน่ะ เจ้าเก็บงานสีประตูยังไม่เรียบร้อยนะ ข้าขออีกหน่อย วันงานคนจะเดินผ่านเข้าออกตรงนี้เป็นจำนวนมาก เกิดเห็นตำหนิเช่นนี้เข้าจะขายหน้าหมด”“ขอรับ ท่านฉือเกาเทา ข
ซือเว่ยต้าตี้ยิ้มแล้วพยักหน้ายอมรับ “ต่อให้เกาจางจิ้งไม่ไปย้ำข้า ข้าก็ต้องมา ทำอย่างไรได้ ข้าหลงรักหลานสาวผู้เฒ่าสกุลเกา ก็ควรมาทำความเคารพให้ถูกต้อง ต่อให้อนาคต ข้าจะได้เจ้าไปเป็นตัวหรือวิญญาณ อย่างน้อยข้าก็ได้ทำตามธรรมเนียมบอกกล่าวสู่ขอเจ้าแล้ว” ซื่อเว่ยต้าตี้เอื้อมมือมาจับมือหญิงสาวข้างกาย ทุกอย่างหน้าเวที มีหรือที่หลี่กังจ้านจะไม่เห็น เพียงแต่ภายในหัวสิงโต เขาคือราชาแห่งสรรพสัตว์ และเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาของหน้าที่ความรับผิดชอบ รอยยิ้มที่มีความสุขของฟางเฟยต่อหน้าผู้ชายคนนั้น ทำไมเป็นรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็น ความสุขของเกาฟางเฟย ที่สุดแล้วก็คือผู้ชายคนนั้นเสียงโห่กรีดร้องดังขึ้น เกาฟางเฟยหันกลับไปมองที่การแสดง หลี่กังจ้านกำลังข้ามแป้นเสาดอกเหมย แต่กลับพลาดตกจากเสา ทำให้ส่วนหัวสิงโตพร้อมคนเชิด ห้อยอยู่กลางอากาศ และทำให้ถ่วงคนท้ายที่มีหน้าที่เชิดส่วนก้นและหาง จนเหมือนเขาต้องตั้งหลักยึดร่างตนเองไว้อยู่หลายครั้ง เพื่อจะรับน้ำหนักทั้งหมดของกังจ้านไว้ไม่ให้ตกลงไปในช่วงเวลาของการลุ้นระทึก กังจ้างกลับพลิกสถานะการณ์ ชายหนุ่มเริ่มโหนเหวี่ยงตัวเองทั้งร่างกายและหัวสิงโต ให้แกว่งไปมาจนเกิดแรงเห
“อะไรนะ ร่วมกลุ่มลูกหลานสกุลอื่น คืออะไรฟางเฟย กังจ้าน” เกาจางจิ้งมองหน้าเขาทั้งสองคนด้วยความไม่เข้าใจ“ขอโทษค่ะพี่จางจิ้ง ทั้งหมดนี่เป็นความคิดฉันเอง ฉันไม่อยากให้ความต้องการของฉัน ทำให้พี่และคุณปู่รวมทั้งคนอื่น ๆ ในตระกูลต้องลำบาก และอีกอย่างฉันอยากรวมกำลังศรัทธาของตระกูลอื่น ๆ ในการสร้างศาลเทพเจ้าปัญจธาตุ ยิ่งกำลังศรัทธามากแค่ไหน เทพปัญจธาตุยิ่งมีกำลังมากเท่านั้น ฉันเลยขอให้พี่เจียอีและพี่กังจ้าน ช่วยรวมผู้ที่ต้องการร่วมงานกับเรา และอีกอย่างอนาคตพี่เองก็ต้องขึ้นเป็นนายใหญ่ การมีคนจากหลายตระกูลมาอยู่กับเรา ก็ยิ่งเสริมให้พี่แข็งแกร่งไปด้วย”“เธอก็คิดเยอะเกินไปฟางเฟย ลำพังสกุลเกาเราก็สร้างได้”“พี่จางจิ้งอย่าปฏิเสธเลยค่ะ ฉันรู้ว่ามันยุ่งยาก รับน้ำใจจากพวกเขาเถอะนะ”เกาจางจิ้งมองดูน้องสาว ยิ่งเธอออดอ้อนมีหรือที่เขาจะทนใจแข็งอยู่ได้ “ได้ ตามนั้น ฟากนายกับเจียอีกด้วยนะกังจ้าน”“ไม่มีปัญหาครับนายน้อย” กังจ้านยิ้มกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เกาจางจิ้งเริ่มไว้ใจเขา ยอมมอบหมายงานให้รับผิดชอบเกาจางจิ้งเดินกลับมาหาฟางเฟยอีกครั้ง หลังจากไปส่งผู้อาวุโสทั้งหมดกลับไปพักผ่อน “ฟางเฟย ตอนนี้มีแค่เราสอง
เกาฟางเฟยลืมตาตื่นขึ้นมา กลับพบว่าตนเองนอนอยู่บนที่นอนภายในห้องของตัวเอง หญิงสาวพยายามทบทวนเหตุการณ์ ในเวลานั้นจำได้ว่าทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับแขก หญิงสาวรีบลุกขึ้นเพื่อออกไปดูด้านนอก มีเสียงพูดคุยของทุกคน ที่กำลังสนทนาถึงงานในวันนี้“พวกนายคงเหนื่อยเตรียมงานกันมาหลายวัน พอมานั่งเล่นเจอแอร์เย็น ๆ ก็เลยเผลอหลับไป” เจียอียกกาแฟเย็นเจ้าประจำขึ้นดูดรับความสดชื่น“คงใช่ ผมฝันประหลาดบ้าบอไม่เป็นเรื่องเป็นราว นี่แค่หลับไปครึ่งชั่วโมงเอง ทำไมรู้สึกนานอย่างกับข้ามคืน อ่อนเพลียไปหมด” เกาจางจิ้งยื่นแก้วน้ำหวานที่ซินเตรียมมาให้ ส่งให้กับหลี่กังจ้าน“สักหน่อย เพิ่มความสดชื่น”“ขอบคุณครับนายน้อย” เกาจางจิ้งเห็นร่างที่คุ้นเคย แม้อยู่ในตำแหน่งหางตาก็รู้ดีว่าเป็นใคร“ฟางเฟยตื่นแล้วเหรอ เหนื่อยไหม ซินขอน้ำหวานให้คุณหนูหน่อย”“ค่ะ นายน้อย” สาวใช้รีบหันไปตักน้ำแข็งใส่แก้วจัดการตามคำสั่ง“เราคงเหนื่อยจริง ๆ อย่างที่คุณเจียอีบอก พี่กังจ้านกับพี่จางจิ้งต้องดูแลตัวเองให้ดี พรุ่งนี้พี่กังจ้านต้องแข็งสิงโตช่วงเช้า พี่จางจิ้งก็แสดงงิ้วช่วงเย็น พี่สองคนสำคัญสำหรับงานพรุ่งนี้มากนะ”“ครับ แค่รู้ว่าน้องฟางเฟยเป
“ท่านอาจารย์ข้าขอโทษ ท่านพูดถูก ข้าควรตั้งใจศึกษาให้มากกว่านี้ ไม่ควรเหลวไหล แต่ในเมื่อข้าล่วงเข้าสู่วันเวลาของเทพเจ้าธาตุดินแล้ว พวกท่านก็อนุญาตให้ข้าทำภารกิจให้เสร็จสิ้นเถอะนะ สัญญาข้าสัญญา จะกลับมาทำขาหมูตุ๋นไก่อบเป็ดย่าง ขนมหวาน อะไรก็ได้ที่ท่านต้องการข้าทำได้หมดเลย”“ดี ๆ ข้าชอบทุกอย่างที่เจ้าพูด” สัตว์เทพพยัคฆ์ขาวไป่หู่ยิ้วหัวเราะชอบใจ “พอได้แล้ว เจ้าก็เห็นแก่กินเกินไปไป่หู่” สัตว์เทพเต่าดำเซี่ยนอวู่ ก้าวเดินออกมายืนดูหญิงสาวให้เต็มตา “เกาฟางเฟย บางทีเจ้าอาจไม่ต้องเรียนกับพวกข้าแล้วก็ได้”“ได้อย่างไร ยังเหลือท่านกับไป่หู่” สัตว์เทพเซี่ยนหวู่รีบยกมือขึ้นห้ามจูเชว่ ที่ออกอาการไม่พอใจต่อความคิดของผู้อาวุโสสูงสุด “เวลาตอนนี้มีจำกัดเสียแล้ว ทุกอย่างก็คงขึ้นอยู่กับวาสนา เจ้ามาถึงจุดนี้ได้ก็ถือว่าเกินมนุษย์ไปมากแล้ว ต่อจากนี้หากมีปัญหาพวกข้าทั้งสี่ยินดีเคียงข้างเจ้า ช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เรื่องความรู้ที่เหลือก็ให้ท่านซื่อเว่ยต้าตี้ดูแลนางเอาเถิด” เทพเจ้าดวงดาวโค้งศีรษะน้อมรับคำชี้แนะ“เอาล่ะพวกท่านคุยกันจบแล้ว ขอข้าถามอะไรสักเล็กน้อย” ทุกคนหันมามองเกาจางจิ้ง “เทพเจ้าเมื่อครู่ เขาคือ
“แม่นางผู้นั้นร้ายกาจนัก พวกข้าไม่ขายให้สามีนางหรอก คุณหนูสกุลหลี่นางเป็นมือสังหาร เคยฆ่าโจรป่าตายเกลี้ยงล่ำลือไปทั้งเมือง”ซือซงได้ยินชายสองคนที่ตะโกนบอกสาเหตุที่รีบหนีเขาออกไป ถึงกลับเอียงคอเกาหัว “มือสังหาร น้อยไปสิ ดีนะนางไม่คืนร่างเดิมไล่จิกพวกโจรลากไส้ออกมาสับ” ซือซงท้าวเอวหัวเราะเสียงดัง เมื่อเขาสร้างมโนภาพแล้วคิดไปตามที่ใจจินตนาการรถม้าของอ๋องปราบศัตรูแล่นผ่านหน้าเขาไป ผ้าม่านที่พลิ้วแรงลม ทำให้โจวซานป๋อมองเห็นชายหนุ่มชุดดำ ที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างทาง 'ชายผู้นั้นทำไมรู้สึกคุ้นเคย' โจวซานป๋อถึงกับรีบแหวกผ้าม่าน ชะเง้อหน้าออกไปมองดูชายชุดดำผู้นั้นอีกครั้ง แต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของเขาที่เดินจากไปเท่านั้นประตูมิติเปิดออก เหล่าผู้อาวุโสแห่งสี่สัตว์เทพปรากฏกายขึ้นท่ามกลางโลกแห่งความว่างเปล่า กลีบดอกท้อที่เกาจ้างจิ้งเห็นในครั้งแรกกลับแปลเปลี่ยนเป็นผงถ่านสีดำ ล่องลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว ซื่อเว่ยต้าตี้จากเทพเจ้าหนุ่มชุดขาว เวลานี้เขากลับคืนเป็นร่างมังกรขาวเกล็ดมุก โดยบนหัวของเจ้ามังกรใหญ่มีหญิงสาวตัวเล็กนอนฟุบหลับอยู่บนขนอ่อนนุ่มของเจ้ามังกร“ท่านซื่อเว่ยต้าตี้เหตุใดจึงกลายเป็นแบบนี้" เกาจา







