Share

ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ
ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ
Penulis: นลพรรณ

บทที่ 1

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-20 18:02:24

‘เหนื่อยไหมที่ต้องประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่เพื่อแตกสลายซ้ำๆ’

ข้อความบนแอปพลิเคชันอินสตราแกรมทำให้นิ้วเรียวที่กำลังปัดหน้าจอโทรศัพท์มือถือหยุดลง กุลนิภาอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้ง เธอเพ่งมองจนตัวหนังสือพร่าเลือน เพราะน้ำตากำลังเอ่อท้นออกมาคลอหน่วยตา 

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น หลังจากเสียงน้ำจากฝักบัวเงียบไปหลายนาที หญิงสาวรีบเก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น เธออาศัยจังหวะนั้นยกมือขึ้นมากรีดน้ำใสออกจากหางตา

“เป็นอะไร?”

เจ้าของคำถามทำเพียงแค่ปรายตามองเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเก็บเสื้อผ้า ชั่วอึดใจเดียวเขาก็เดินออกมาพร้อมกับกางเกงยีนและเสื้อเชิ้ตที่ถือไว้ในมือ แล้วสวมมันต่อหน้าเธอ

“คุณกันต์จะออกไปข้างนอกหรือคะ”

“ใช่” 

เมื่อตอบไปแล้ว เขาก็นิ่งเงียบ เรียวคิ้วเข้มขมวดมุ่นเหมือนกำลังคิดบางอย่าง ก่อนเขาจะพูดต่อ 

“ไม่ต้องรอนะ คืนนี้ผมจะกลับไปนอนที่บ้าน”

บ้านที่ชนกันต์พูดถึงก็คือบ้านราชเวคิน บ้านหลังใหญ่ปานคฤหาสน์ที่ครอบคลุมพื้นที่นับสิบไร่ เขาอยู่ที่บ้านหลังนั้นร่วมกับพี่น้องอีกสามคน กุลนิภารู้ว่าภายในอาณาเขตบ้านซึ่งเป็นที่พักอาศัยของคนในตระกูลราชเวคิน พวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกัน...เธอแค่เพียงรับรู้ แต่ไม่เคยเห็น เพราะเธอไม่เคยได้สิทธิ์เหยียบย่างเข้าไป

กุลนิภาไม่ว่าอะไรหรอก เธอไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดจากชนกันต์ เธอสมัครใจที่อยู่ในส่วนของเธอ...แต่คำพูดของเขาเมื่อสักครู่ มันสะกิดหัวใจของเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ เพราะเธอสัมผัสถึงความนัยในคำพูดนั้นได้

“คุณจะออกไปหาคุณไอซ์ใช่ไหมคะ”

ยกมือขึ้นมาปิดปากไม่ทัน เธอหลุดปากถามไปแล้ว รู้ดีว่าคำถามนี้มันจะทำให้ชนกันต์ไม่พอใจ ซึ่งสีหน้าของเขาก็บอกอย่างชัดเจนว่าเธอคิดไม่ผิด

“ฉัน ขะ...”

คำพูดหยุดลงเมื่อนิ้วแข็งแรงจับปลายคางมน ชนกันต์ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ เพราะเขาเพียงแค่ไล้เบาๆ แต่สายตาของเขาที่จ้องมองมาทำให้เธอต้องกลืนคำขอโทษลงไปในลำคอเสีย

“อย่าลืมตัวบ่อยสิว่าคุณอยู่กับผมในฐานะอะไร”

“ฉันรู้ ฉันไม่ลืม”

เธออยู่กับชนกันต์เพื่อชดใช้เงินแปดแสนสี่หมื่นบาทที่เธอทำหายไปจากบัญชีของเขา เธอตามเงินก้อนนั้นคืนมาให้เขาไม่ได้ แถมเธอยังไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้ เพราะเธอไม่มีเงินเก็บ อีกทั้งเธอไม่มีทรัพย์สินที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้สักชิ้น...เธอมีแต่ตัวจริงๆ

ความรู้สึกไร้ค่ากำลังโจมตีเข้ามา หัวใจของกุลนิภาเหน็บหนาวจนต้องยกสองมือขึ้นมาลูบแขนเพื่อปลุกปลอบตัวเอง 

“เมื่อกี้คุณพูดถึงคุณไอซ์ เพราะคุณหึงผม”

“ไม่ใช่”

“โกหก!”

เกลียดเหลือเกิน เกลียดเสียงหัวเราะในลำคอเหมือนเขากำลังสนุก เสียงหัวเราะที่บอกให้รู้ว่าเขารู้ทันและมั่นใจว่าเธอเป็นอย่างที่เขาพูด

“ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่คุณต้องจัดการตัวเองให้เป็น...หยุดนึกถึงคุณไอซ์ คุณจะได้ไม่เผลอพูดถึงเธออีก เพราะคุณไอซ์ไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณควรพูดถึง คุณไอซ์กับคุณอยู่คนละระดับกัน ผมรู้ว่าผมพูดแรงไป แต่มันเป็นความจริงที่สุดแล้ว”

เสียงห้าวทุ้มดังเรียบเรื่อย เหมือนเขากำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ใบหน้าของกุลนิภาชาหนึบและร้อนผ่าวในคราวเดียวกัน ซึ่งเธอก็บ้าพอที่จะยืนมองเขาแต่งตัวจนเสร็จเพื่อออกไปหาผู้หญิงคนนั้น

เสียงประตูห้องชุดถูกเปิดออกและปิดลง ชนกันต์เดินออกไปแล้ว หากกุลนิภายังยืนอยู่ที่เดิม เธอยืนอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีพร้อมกับถ้อยคำที่เคยทิ่มแทงหัวใจดังซ้ำอยู่ในหัว

‘ห้ามรักผม ถ้าไม่อยากเจ็บ ผมเตือนด้วยความหวังดี ผมเกลียดน้ำตาและความอ่อนแอของผู้หญิง จำไว้ว่าเรากำลังเล่นตามกติกา เมื่อคุณเอาเงินของผมไปและไม่มีปัญญาหามาใช้คืน คุณจึงมีสองทางเลือก...คือติดคุกหรือชดใช้ทางอื่นให้ผมจนคุ้ม ซึ่งคุณตัดสินใจเลือกทางของคุณแล้ว...ผมไม่เคยบังคับ’

หัวใจบีบรัดอย่างรุนแรงจนต้องยกกำปั้นมาทาบบริเวณหน้าอกด้านซ้ายเอาไว้ เพราะเธอกลัวว่ามันจะแตกสลายลง

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 43

    นายแพทย์อคินตัดสายจากน้องสาว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แพทย์หญิงเปรมวดีเดินกลับมาที่โต๊ะ หลังจากที่เธอไปเข้าห้องน้ำของร้านอาหาร“มื้อนี้นิคต้องเลี้ยงเรานะ เพราะเราทำงานให้นิคได้ดีเกินคาด”“เราเลี้ยงเปรมแน่นอน เราจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่เปรมต้องขับรถพาเราไปทำธุระแถวหลักสี่ก่อน อ้อ! เราต้องซื้อมะม่วงแก้วขมิ้นด้วย ว่าแต่มันคือมะม่วงอะไร เราไม่รู้จัก”นายแพทย์หนุ่มทำหน้าครุ่นคิด เหมือนกับเขากำลังเจอปัญหาใหญ่ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจัง“มะม่วงเปรี้ยวอมหวาน ผลมีสีเหลืองเหมือนขมิ้น ว่าแต่นิคจะซื้อมะม่วงแก้วขมิ้นไปให้ใครเหรอ”“น้องสาว”“หืม? อิงอิงเหรอ”“เรามีน้องสาวคนเดียว”“งั้นเดี๋ยวเราจะพานิคไปซื้อ น้องสาวของนิคก็เป็นคนไข้ของเรา เราเป็นหมอเจ้าของเคสนี้…ว่าแต่คอนโดของน้องสาวอยู่ที่สาทรไม่ใช่เหรอ ทำไมนิคให้เราไปส่งแถวหลักสี่”“อิงอิงย้ายออกมาจากคอนโดแล้ว ตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมย่านหลักสี่”มันเป็นข่าวใหม่ที่ทำให้หมอสาวต้องนิ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 42

    กุลนิภาตื่นนอนตั้งแต่ตีห้า เธออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยโดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย นึกชมลูกว่าน่ารักเหลือเกิน ลูกคงรู้ว่าวันนี้แม่ต้องย้ายบ้าน แม่ต้องทำธุระหลายอย่าง ลูกจึงไม่กวนและไม่งอแง ลูกให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดีเวลาหกนาฬิกาเศษ หญิงสาวลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในลิฟต์เพื่อลงสู่ชั้นล่าง เธอฝากกุญแจและคีย์การ์ดเพื่อคืนให้ชนกันต์ไว้ที่เคาน์เตอร์ในล็อบบี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ประจำจุดนั้นถามเธออย่างสงสัย“คุณจะไปต่างจังหวัดหรือคะ ฉันถามเผื่อว่าเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอยากรู้ข้อมูลไว้น่ะค่ะ”“ฉันจะย้ายไปอยู่ที่อื่นค่ะ ฉันไม่กลับมาที่นี่แล้ว”ประโยคท้ายช่างแผ่วเบา กุลนิภาหวังว่าคำตอบคงชัดเจนมากพอที่จะหยุดความสงสัยจากใครต่อใครได้...ซึ่งแน่นอน ไม่มีใครรั้งเธอไว้ด้วยคำถามอีกแล้วรถแท็กซี่ที่เธอเรียกผ่านแอปพลิเคชันจอดรออยู่ด้านหน้าล็อบบี้แล้ว คนขับรถช่วยเธอขนกระเป๋าเดินทางไปใส่ไว้ในท้ายรถ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทางตอนหลังจุดหมายปลายทางของเธอ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 41

    “ทำไมกลับเร็ว นายเพิ่งขับรถออกไปส่งคุณไอซ์ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลย”คนที่นั่งเอกขเนกอยู่บนเก้าอี้ริมสวนบริเวณหน้าบ้านส่งเสียงถามเมื่อเห็นชนกันต์ก้าวลงมาจากรถ จนเขาต้องเดินไปหาเจ้าตัว แล้วตอบเสียงเหนื่อยหน่าย“รถไม่ติด”“ฉันรู้ว่ารถไม่ติด แต่นายไม่พาเธอแวะไปที่อื่นเลยเหรอ อย่างเช่นไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันแล้วค่อยพาเธอไปส่งที่บ้าน คุณไอซ์ไม่ใช่เด็กสาวแล้วนะ เธอเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและเธอก็สวยมากด้วย เธอกลับบ้านดึกได้...มีแต่แม่ของเราที่ทำท่าตกใจว่ามันดึกแล้ว คุณไอซ์ต้องรีบกลับบ้าน”ชนกันต์ขยับมุมปากยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในห้องรับประทานอาหารเมื่อสักครู่ใหญ่ ในตอนนั้นเขาเห็นน้องชายกลั้นหัวเราะขำกับคำพูดของแม่ แต่เรื่องนี้จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะในวันนี้อรรพีวางท่าเป็นสาวใสซื่อจนเกินตัวตนจริงๆ ของเธอไปมากอันที่จริงเขาชอบอย่างที่เธอเป็นอยู่แล้ว เพราะมันดูเป็นธรรมชาติดี อีกทั้งเขายังวางตัวกับเธอได้ง่าย ยอมรับเลยว่าภาพพจน์ที่เธอแสดงออกในวันนี้มันกลับทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ“นายไม่มีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังเหรอ”“ใคร

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 40

    “ไอซ์กราบขอบคุณคุณลุงเนตรกับคุณป้ารดามากนะคะที่เอ็นดูไอซ์ ชวนไอซ์มาทานอาหารที่บ้านราชเวคิน”เสียงหวานฉอเลาะดังขึ้นหลังจากอาหารมื้อค่ำจบลง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว เรียกได้ว่าวันนี้สมาชิกครอบครัวราชเวคินกินอาหารดึกกว่าปกติ...ยกเว้นเจ้าตัวป่วนประจำบ้านที่กินเสร็จก่อนใครและคนเป็นแม่พาเข้านอนเรียบร้อยแล้ว“อาหารถูกปากหนูไอซ์หรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรก็บอกป้าได้นะ”“อาหารอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ ไอซ์รู้นะว่าคุณป้าตั้งใจทำของชอบของไอซ์ตั้งหลายเมนู ไอซ์รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของคุณป้ามากๆ เลยค่ะ”เซเลบสาวตอบคุณอมลรดา หากสายตาชม้ายมองชนกันต์ที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างเธอชายหนุ่มยังคงปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามสถานการณ์ จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าอรรพีโผล่มารับประทานอาหารกับครอบครัวของเขาได้อย่างไร ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ว่าก็ว่าเถอะ เขาเป็นคนเกริ่นชวนเธอเอง แต่เมื่อเธอบอกว่ายังไม่มีเวลาว่าง เขาจึงไม่ได้ถามเธออีก เพราะไม่อยากรบกวนเวลาของเธอ เขาเข้าใจดีว่าในฐานะนักธุรกิจแ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 39

    เมื่อเดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ชายหนุ่มก็พูดออกมาทั้งที่ความสงสัยยังไม่หายไป“นั่งกันครบองค์ประชุมเลยเหรอ มีวาระสำคัญหรือเปล่า ทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียว”สายตาแทบทุกคู่หันมามองเขา ชนกันต์อ่านความรู้สึกของคนในครอบครัวไม่ออก เพราะเป็นสายตาที่เขาไม่ชินเอาเสียเลย แต่รู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากชายหนุ่มไม่ทันได้ถามใคร เขาก็เห็นดวงหน้าสวยโดดเด่นของใครบางคนที่เบือนมาส่งยิ้มให้เขา“คุณไอซ์!”ภายในห้องชุดของคอนโดมิเนียมหรูถูกปกคลุมด้วยความมืดทั้งที่เป็นเวลาไม่ถึงสองทุ่ม คนที่อยู่ในห้องยังไม่เข้านอน เธอนั่งคุดคู้อยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น เธอไม่ยอมเปิดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างส่องลงมา คล้ายกับว่าเธอยินดีที่จะอยู่ในความมืด เพราะต้องการให้มันพรางตัวเธอให้หายไปจากโลกใบนี้เมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา หัวใจที่แห้งเหี่ยวเกิดพองโต เพราะเชื่อมั่นว่าชนกันต์เป็นเจ้าของสายเรียกนั้น แต่เธอรีบปรับความรู้สึกเสียใหม่ เพราะสำนึกได้ว่าเธอไม่ควรดีใจกับการที่คนที่เพิ่งยื

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 38

    ชนกันต์ไม่ได้บอกไว้ว่าเย็นนี้เขากลับมาที่คอนโดมิเนียมหรือกลับไปที่บ้านราชเวคิน...กุลนิภาจึงได้แต่ยืนมองเนื้อวากิวสำหรับทำสเต๊กอย่างลังเล นานชั่วอึดใจกว่าเธอจะตัดสินใจเก็บมันกลับเข้าตู้เย็น“ถ้าพ่อไม่มาหาเรา สเต๊กเนื้อก็เป็นหมัน เพราะแม่กินเนื้อไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียของเปล่าๆ ช่วงนี้แม่เหม็นเนื้อมาก สงสัยหนูคงจะไม่ชอบเนื้อใช่ไหมจ๊ะ เพราะเมื่อก่อนแม่ยังกินเนื้อกับพ่อได้อยู่เลย”กุลนิภาพูดคุยกับลูกในท้อง เธอทำเหมือนกับลูกได้ยินและเข้าใจคำพูดของเธอ ในแต่ละวันมันจึงกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอ เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีคนคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหญิงสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ทำท่าจะเปิดโทรทัศน์ แต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นมา แม้รู้ว่ามีแค่คนเดียวที่จะเข้ามาในห้องนี้ได้ แต่เธอก็เดินออกไปดูด้วยความเคยชินความประหลาดใจทอขึ้นมาในดวงตาหวาน ซึ่งคนตัวใหญ่ที่เดินเข้ามาต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“มีอะไรหรือเปล่าถึงมองผมอย่างนี้”“ฉันไม่รู้ว่าวันนี้คุณจะกลับมาที่คอนโด”“ไม่ใช่จะ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status