Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2024-11-20 18:03:20

ถ้อยคำนั้นทำให้กุลนิภามองแม่เหมือนไม่เคยเห็นแม่มาก่อน...แม่เหมือนคนแปลกหน้าไปแล้ว เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่จะพูดจาร้ายๆ แบบนี้ออกมาได้

‘เธอสั่งให้ตานิคทำงานอะไรนักหนา ตานิคเพิ่งจะอายุสิบขวบ แถมเป็นเด็กผู้ชาย ตอนอยู่ที่เชียงราย ตานิคไม่เคยทำงานบ้าน ไม่เคยมีใครสอนให้มันทำ แต่จู่ๆ เธอก็สั่งให้ตานิคทำโน่นทำนี่สารพัด และต้องทำงานให้เรียบร้อย เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า หรือว่าเธอจงใจแกล้งลูกของฉัน’

ลูกของฉัน ลูกของเธอ ลูกของเรา...มันเป็นคำพูดที่กุลนิภาได้ยินจากพ่อและแม่บ่อยๆ จนรู้สึกชิน เธอไม่รู้ว่าครอบครัวของตัวเองผิดแปลกจากคนอื่นหรือเปล่า หากไม่นานจากนั้นก็เกิดเหตุให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมอีกหน ซึ่งคราวนี้พ่อไม่ทนจริงๆ พ่อพาพี่นิคออกจากบ้านไปเลย 

แม่ยืนเชิดหน้ามองทั้งสองคนด้วยหางตา แต่เมื่อคล้อยหลังพวกเขา แม่กลับกรีดร้องและด่าทอเหมือนคนเสียสติ

นั่นเป็นครั้งแรกที่กุลนิภาเห็นแม่ในสภาพควบคุมตัวเองไม่ได้ หากมันไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะเธอยังเห็นแม่เกรี้ยวกราดอีกนับครั้งไม่ถ้วน หากต่างกันเพียงคนต้นเหตุที่ทำให้แม่ต้องเป็นอย่างนั้นกลายเป็นเธอกับกวินที่ยังอยู่ในการดูแลของแม่

รถพอร์เชอคันสีเหลืองสดแล่นมาจอดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ในเวลาเกือบสองทุ่ม หลังจากเสียงเครื่องยนต์ดับลง คนตัวป้อมที่กำลังเล่นอยู่ข้างในก็วิ่งออกมายืนอยู่กลางห้องโถง ดวงตากลมจับจ้องไปยังประตูหน้าบ้าน รอคอยว่าเมื่อไรใครคนนั้นจะมาปรากฎตัว

“เสียงรถอากันต์ใช่ไหม”

คุณอมลรดาเดินตามหลานชายออกมา เจ้าตัวน้อยหันไปมองคุณย่า แล้วบอกด้วยท่าทางไร้เดียงสา

“กันต์...มา...”

คุณย่าที่ยังคงสวยสง่ายกมือขึ้นมาลูบศีรษะเล็กทุยของหลานรักพลางเอ่ยชม

“เก่งนะเรา จำเสียงรถของอากันต์ได้...ว่าแต่ทำไมอากันต์ไม่เข้ามาสักที เสียงรถจอดสักพักแล้วนี่นา หรือว่าอากันต์เมาหลับอยู่รถแล้วก็ไม่รู้”

“กันต์...เมาเหยอ”

เด็กชายวัยสองขวบทวนถามคุณย่า เรียวคิ้วเล็กขมวดมุ่น ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยเข้าใจคำพูดของคุณย่าหรือเปล่า แต่มันทำให้คุณอาตัวโตที่เดินเข้ามาในห้องโถงทันได้ยินเข้าพอดี เขาจึงเอ่ยปากปกป้องตัวเองด้วยน้ำเสียงขันๆ

“คุณแม่กำลังทำให้ผมเสียเครดิตกับเจ้าพร้อมอยู่นะครับ”

“มาแล้วเหรอ หลานมายืนรอตั้งแต่ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดแล้ว แต่ไม่เห็นกันต์โผล่มาสักที แม่เลยคิดว่าเราเมาอยู่ในรถไปแล้ว”

ชนกันต์ไม่ตอบแม่ เขาเพียงแต่ยิ้มบางๆ หากท่าทางหลบสายตานั้นทำให้คนเป็นแม่รู้ว่าลูกชายมีบางอย่างปิดบังตน ซึ่งนางเองก็เลือกที่จะรับรู้เท่าที่ลูกบอกให้รู้เช่นกัน

“กันต์กินอะไรมาหรือยัง พี่ๆ เขายังอยู่ในห้องกินข้าว กันต์ตามไปสิ” 

น้ำเสียงของคุณอมลรดาอ่อนโยน แม้ชนกันต์ไม่บอกอะไรนาง แต่แววตาของเขาทำให้นางรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา เมื่อลูกโตเป็นหนุ่ม มันคงยากที่จะให้เขาวิ่งมาบอกนางให้ช่วยแก้ปัญหาเหมือนตอนเป็นเด็ก นางจึงชี้หนทางด้วยการบอกกลายๆ ให้เจ้าตัวไปหาพี่ชายทั้งสองคนเสีย...พี่น้องกันคงเปิดใจพูดคุยได้ง่ายกว่าการคุยกับพ่อแม่ 

ดังนั้นไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหารจึงเห็นชนกันต์อุ้มเด็กชายตัวป้อมตามเข้ามา

“วันนี้แกมีนัดกับคุณไอซ์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับบ้านเร็ว”

ธีทัตซึ่งเป็นทายาทคนโตของตระกูลราชเวคินถามน้องชายพลางยกสองมือขึ้นไปรับร่างของลูกชายที่กำลังโผนมาหาเมื่อเห็นเขา

“เปลี่ยนแผนนิดหน่อย ตอนแรกผมกับคุณไอซ์จะไปล่องเรือเจ้าพระยาด้วยกัน แต่คุณไอซ์เจอนักข่าวตามติด เราเลยตัดสินใจกินข้าวในห้องอาหารของโรงแรมแทน พอกินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ”

สิ้นคำของชนกันต์ ก่อฤกษ์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็เปรยขึ้นมา

“คบคนมีชื่อเสียงก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่มีอิสระ”

“คุณไอซ์เป็นตัวของตัวเอง”

“ฉันเชื่อ คุณไอซ์เป็นผู้หญิงเก่ง ท่าทางคล่องแคล่วดี”

ธีทัตตัดบทด้วยเกรงจะเกิดเหตุทะเลาะกัน เพราะรู้ดีว่าก่อฤกษ์ไม่สนับสนุนให้ชนกันต์คบหากับเซเลบสาว เจ้าตัวตั้งตนเป็นหมอดูคู่กับหมอเดาว่าชนกันต์กับอรรพีมีนิสัยเหมือนกัน ท่าทางแข็งๆ ทั้งคู่ แถมยังมั่นใจในตัวเองสูง ถ้าหากแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็คงไม่แคล้วมีเรื่องงัดข้อกันไม่เว้นวัน...แล้วบ้านจะเป็นบ้านไปได้อย่างไร

“แกชอบคุณไอซ์เพราะอะไร หวังว่าคงไม่ใช่เพราะเขาสวย เก่ง นามสกุลดัง และเป็นคนมีชื่อเสียงนะ”

ยัง! ยังไม่เลิกยุ่งเรื่องนายกันต์อีก...ธีทัตหันไปทำหน้าเมื่อยใส่น้องชายฝาแฝด แต่เจ้าตัวกลับทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้

“เฮียก่ออยากรู้ทำไม ทีตอนเฮียก่อมีฝน ผมไม่เห็นถามเฮียเลยว่าชอบฝนตรงไหน”

“เมียฉันน่ารัก เธอนิสัยดีและเป็นแม่ที่อบอุ่นของลูกๆ”

“ผู้หญิงแต่ละคนมีดีต่างกัน คุณไอซ์มีดีในแบบของเธอ เฮียไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ เฮียไม่ต้องรู้หรอก”

“สิ่งที่คุณไอซ์มีอาจเป็นแค่องค์ประกอบภายนอก มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของแกสมบูรณ์มากขึ้น คนที่มีพร้อมทุกอย่างอย่างแกไม่ต้องหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมพอกันมาแต่งงานหรอก เพราะเรามีมากพอแล้ว แกเลือกผู้หญิงที่แกรักเขาและเขารักแกจะดีกว่า หาผู้หญิงที่ทำให้แกมีความสุขมาอยู่ด้วยก็พอ”

“เฮียกำลังสบประมาทผมกับคุณไอซ์”

“ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นมีแต่ตัว แต่ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี เธอทำให้แกมีความสุขได้ ฉันก็พร้อมที่จะสนับสนุนเธอในฐานะพี่ผัว”

ก่อฤกษ์ยังไม่หยุดพูด แลคล้ายเจ้าตัวพูดไปเรื่อยเปื่อย แต่ธีทัตรู้ว่าน้องชายฝาแฝดกำลังดึงเรื่องไปหาใคร เขาเหล่มองชนกันต์อย่างประเมิน พอเห็นเจ้าตัวทำหน้าบึ้ง เขาจึงรู้ว่าเจ้าตัวก็คงรู้ทันเช่นกัน

“ผมไม่ได้คิดว่าผู้หญิงที่ผมคบจะต้องเป็นคนมีฐานะ เป็นคนเก่ง หรือเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ผมคาดหวังว่าเธอจะไม่มีครอบครัวที่เป็นปลิงดูดเลือด ไม่มีแม่หรือพี่ชายที่เป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตผม ดังนั้นผมจึงเบื่อที่จะอยู่กับผู้หญิงที่มีแต่ความขาดแคลน...เฮียจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง เพราะฝนแก้วเป็นเด็กกำพร้า เฮียได้เมียมาคนเดียว ไม่มีครอบครัวของเธอพ่วงมาด้วย ฝนแก้วเป็นของเฮีย เธอเข้ามาอยู่กับเรา เฮียไม่ต้องคอยปวดหัวกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของเธอสักคน”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 43

    นายแพทย์อคินตัดสายจากน้องสาว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แพทย์หญิงเปรมวดีเดินกลับมาที่โต๊ะ หลังจากที่เธอไปเข้าห้องน้ำของร้านอาหาร“มื้อนี้นิคต้องเลี้ยงเรานะ เพราะเราทำงานให้นิคได้ดีเกินคาด”“เราเลี้ยงเปรมแน่นอน เราจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่เปรมต้องขับรถพาเราไปทำธุระแถวหลักสี่ก่อน อ้อ! เราต้องซื้อมะม่วงแก้วขมิ้นด้วย ว่าแต่มันคือมะม่วงอะไร เราไม่รู้จัก”นายแพทย์หนุ่มทำหน้าครุ่นคิด เหมือนกับเขากำลังเจอปัญหาใหญ่ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจัง“มะม่วงเปรี้ยวอมหวาน ผลมีสีเหลืองเหมือนขมิ้น ว่าแต่นิคจะซื้อมะม่วงแก้วขมิ้นไปให้ใครเหรอ”“น้องสาว”“หืม? อิงอิงเหรอ”“เรามีน้องสาวคนเดียว”“งั้นเดี๋ยวเราจะพานิคไปซื้อ น้องสาวของนิคก็เป็นคนไข้ของเรา เราเป็นหมอเจ้าของเคสนี้…ว่าแต่คอนโดของน้องสาวอยู่ที่สาทรไม่ใช่เหรอ ทำไมนิคให้เราไปส่งแถวหลักสี่”“อิงอิงย้ายออกมาจากคอนโดแล้ว ตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมย่านหลักสี่”มันเป็นข่าวใหม่ที่ทำให้หมอสาวต้องนิ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 42

    กุลนิภาตื่นนอนตั้งแต่ตีห้า เธออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยโดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย นึกชมลูกว่าน่ารักเหลือเกิน ลูกคงรู้ว่าวันนี้แม่ต้องย้ายบ้าน แม่ต้องทำธุระหลายอย่าง ลูกจึงไม่กวนและไม่งอแง ลูกให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดีเวลาหกนาฬิกาเศษ หญิงสาวลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในลิฟต์เพื่อลงสู่ชั้นล่าง เธอฝากกุญแจและคีย์การ์ดเพื่อคืนให้ชนกันต์ไว้ที่เคาน์เตอร์ในล็อบบี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ประจำจุดนั้นถามเธออย่างสงสัย“คุณจะไปต่างจังหวัดหรือคะ ฉันถามเผื่อว่าเจ้าหน้าที่นิติบุคคลอยากรู้ข้อมูลไว้น่ะค่ะ”“ฉันจะย้ายไปอยู่ที่อื่นค่ะ ฉันไม่กลับมาที่นี่แล้ว”ประโยคท้ายช่างแผ่วเบา กุลนิภาหวังว่าคำตอบคงชัดเจนมากพอที่จะหยุดความสงสัยจากใครต่อใครได้...ซึ่งแน่นอน ไม่มีใครรั้งเธอไว้ด้วยคำถามอีกแล้วรถแท็กซี่ที่เธอเรียกผ่านแอปพลิเคชันจอดรออยู่ด้านหน้าล็อบบี้แล้ว คนขับรถช่วยเธอขนกระเป๋าเดินทางไปใส่ไว้ในท้ายรถ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทางตอนหลังจุดหมายปลายทางของเธอ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 41

    “ทำไมกลับเร็ว นายเพิ่งขับรถออกไปส่งคุณไอซ์ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลย”คนที่นั่งเอกขเนกอยู่บนเก้าอี้ริมสวนบริเวณหน้าบ้านส่งเสียงถามเมื่อเห็นชนกันต์ก้าวลงมาจากรถ จนเขาต้องเดินไปหาเจ้าตัว แล้วตอบเสียงเหนื่อยหน่าย“รถไม่ติด”“ฉันรู้ว่ารถไม่ติด แต่นายไม่พาเธอแวะไปที่อื่นเลยเหรอ อย่างเช่นไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันแล้วค่อยพาเธอไปส่งที่บ้าน คุณไอซ์ไม่ใช่เด็กสาวแล้วนะ เธอเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและเธอก็สวยมากด้วย เธอกลับบ้านดึกได้...มีแต่แม่ของเราที่ทำท่าตกใจว่ามันดึกแล้ว คุณไอซ์ต้องรีบกลับบ้าน”ชนกันต์ขยับมุมปากยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในห้องรับประทานอาหารเมื่อสักครู่ใหญ่ ในตอนนั้นเขาเห็นน้องชายกลั้นหัวเราะขำกับคำพูดของแม่ แต่เรื่องนี้จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะในวันนี้อรรพีวางท่าเป็นสาวใสซื่อจนเกินตัวตนจริงๆ ของเธอไปมากอันที่จริงเขาชอบอย่างที่เธอเป็นอยู่แล้ว เพราะมันดูเป็นธรรมชาติดี อีกทั้งเขายังวางตัวกับเธอได้ง่าย ยอมรับเลยว่าภาพพจน์ที่เธอแสดงออกในวันนี้มันกลับทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ“นายไม่มีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังเหรอ”“ใคร

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 40

    “ไอซ์กราบขอบคุณคุณลุงเนตรกับคุณป้ารดามากนะคะที่เอ็นดูไอซ์ ชวนไอซ์มาทานอาหารที่บ้านราชเวคิน”เสียงหวานฉอเลาะดังขึ้นหลังจากอาหารมื้อค่ำจบลง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว เรียกได้ว่าวันนี้สมาชิกครอบครัวราชเวคินกินอาหารดึกกว่าปกติ...ยกเว้นเจ้าตัวป่วนประจำบ้านที่กินเสร็จก่อนใครและคนเป็นแม่พาเข้านอนเรียบร้อยแล้ว“อาหารถูกปากหนูไอซ์หรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรก็บอกป้าได้นะ”“อาหารอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ ไอซ์รู้นะว่าคุณป้าตั้งใจทำของชอบของไอซ์ตั้งหลายเมนู ไอซ์รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของคุณป้ามากๆ เลยค่ะ”เซเลบสาวตอบคุณอมลรดา หากสายตาชม้ายมองชนกันต์ที่นั่งเงียบๆ อยู่ข้างเธอชายหนุ่มยังคงปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามสถานการณ์ จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าอรรพีโผล่มารับประทานอาหารกับครอบครัวของเขาได้อย่างไร ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ว่าก็ว่าเถอะ เขาเป็นคนเกริ่นชวนเธอเอง แต่เมื่อเธอบอกว่ายังไม่มีเวลาว่าง เขาจึงไม่ได้ถามเธออีก เพราะไม่อยากรบกวนเวลาของเธอ เขาเข้าใจดีว่าในฐานะนักธุรกิจแ

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 39

    เมื่อเดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ชายหนุ่มก็พูดออกมาทั้งที่ความสงสัยยังไม่หายไป“นั่งกันครบองค์ประชุมเลยเหรอ มีวาระสำคัญหรือเปล่า ทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียว”สายตาแทบทุกคู่หันมามองเขา ชนกันต์อ่านความรู้สึกของคนในครอบครัวไม่ออก เพราะเป็นสายตาที่เขาไม่ชินเอาเสียเลย แต่รู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ หากชายหนุ่มไม่ทันได้ถามใคร เขาก็เห็นดวงหน้าสวยโดดเด่นของใครบางคนที่เบือนมาส่งยิ้มให้เขา“คุณไอซ์!”ภายในห้องชุดของคอนโดมิเนียมหรูถูกปกคลุมด้วยความมืดทั้งที่เป็นเวลาไม่ถึงสองทุ่ม คนที่อยู่ในห้องยังไม่เข้านอน เธอนั่งคุดคู้อยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น เธอไม่ยอมเปิดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างส่องลงมา คล้ายกับว่าเธอยินดีที่จะอยู่ในความมืด เพราะต้องการให้มันพรางตัวเธอให้หายไปจากโลกใบนี้เมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา หัวใจที่แห้งเหี่ยวเกิดพองโต เพราะเชื่อมั่นว่าชนกันต์เป็นเจ้าของสายเรียกนั้น แต่เธอรีบปรับความรู้สึกเสียใหม่ เพราะสำนึกได้ว่าเธอไม่ควรดีใจกับการที่คนที่เพิ่งยื

  • ห้ามรักถ้าไม่อยากเจ็บ   บทที่ 38

    ชนกันต์ไม่ได้บอกไว้ว่าเย็นนี้เขากลับมาที่คอนโดมิเนียมหรือกลับไปที่บ้านราชเวคิน...กุลนิภาจึงได้แต่ยืนมองเนื้อวากิวสำหรับทำสเต๊กอย่างลังเล นานชั่วอึดใจกว่าเธอจะตัดสินใจเก็บมันกลับเข้าตู้เย็น“ถ้าพ่อไม่มาหาเรา สเต๊กเนื้อก็เป็นหมัน เพราะแม่กินเนื้อไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียของเปล่าๆ ช่วงนี้แม่เหม็นเนื้อมาก สงสัยหนูคงจะไม่ชอบเนื้อใช่ไหมจ๊ะ เพราะเมื่อก่อนแม่ยังกินเนื้อกับพ่อได้อยู่เลย”กุลนิภาพูดคุยกับลูกในท้อง เธอทำเหมือนกับลูกได้ยินและเข้าใจคำพูดของเธอ ในแต่ละวันมันจึงกลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอ เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีคนคนหนึ่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาหญิงสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ทำท่าจะเปิดโทรทัศน์ แต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นมา แม้รู้ว่ามีแค่คนเดียวที่จะเข้ามาในห้องนี้ได้ แต่เธอก็เดินออกไปดูด้วยความเคยชินความประหลาดใจทอขึ้นมาในดวงตาหวาน ซึ่งคนตัวใหญ่ที่เดินเข้ามาต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“มีอะไรหรือเปล่าถึงมองผมอย่างนี้”“ฉันไม่รู้ว่าวันนี้คุณจะกลับมาที่คอนโด”“ไม่ใช่จะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status