หลังจากคิดมาเกือบทั้งวัน เธอก็ได้ข้อสรุปให้ตัวเอง เธอไม่คิดจะหนี หากเขาต้องการให้เกมมันจบที่งานปาร์ตี้สละโสด ต่อหน้าเพื่อน ๆ ทุกคน เธอก็ยินดีที่จะจบเกมที่นั่น ตามที่เขาต้องการ และเมื่อเขาได้สมปรารถนาแล้ว เธอจะขอคุยกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย
บัวบูชาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พยายามเข้มแข็งให้ได้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วจัดการล้างหน้าล้างตา ล้างคราบของความเสียใจออกจากใบหน้าจนหมดจด
“เราจะไม่เป็นอะไร เราจะไม่เป็นอะไรนะบัว”
เวลาราวหนึ่งทุ่มตรง เธอตัดสินใจออกจากห้องพัก ลงไปหากอบกุลที่ชั้นสี่
“อ้าวยัยบัว แกกลับมาจากกรุงเทพฯแล้วเหรอ?”
กอบกุลในชุดแซ็กสีเหลืองอ่อนสวยตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนรักยืนอยู่หน้าประตูห้อง
“อืม ทำอะไรอยู่?”
“ลองชุดอยู่น่ะสิ ยัยตาก็อยู่นะ”
“เฮ๊ว่าที่เจ้าสาว!”
ลลิตาตะโกนมาจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เจ้าหล่อนสวมชุดสีขาวสวย แบรนด์เดียวกับที่เขาซื้อให้เธอเลยล่ะ
ลลิตาเดินออกมาคว้ามือเธอ ลากพาเข้าไปด้านในด้วยความตื่นเต้นเปี่ยมสุข “มาช่วยดูหน่อยเร็ว ฉันใส่ชุดนี้เป็นไง สวยเกินหน้าเกินตาเจ้าสาวรึเปล่า???”
“สวยสิ แกใส่ชุดไหนก็สวยตา ชุดนี้ดูน่ารักเหมาะกับแกมากเลยนะ”
“แล้วฉันล่ะ” กอบกุลหมุนตัวให้เพื่อนรักดูความงามของตัวเองที่แสนภูมิใจ “สวยพอกับปาร์ตี้ไฮโซมั้ย”
“สวย ใช้ได้เลย สีนี้เข้ากับแกมากเลยกุล”
“แล้วแกล่ะบัว ได้ข่าวว่าชุดแพงมากเว่อร์” ลลิตาแซวเพื่อนใหญ่ “แต่ก็นะ ว่าที่สามีของแกทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้น คิดแล้วอิจฉา อยากมีผู้ชายเปย์แบบนี้บ้างจัง”
“อย่างแกต้องหาผู้ชายเปย์อีกเหรอ” กอบกุลพูดด้วยความหมั่นไส้ “ทั้งสวยทั้งรวยขนาดนี้แล้ว จะเลือกผู้ชายแบบไหนก็ได้นี่นา”
“แหม ถึงฉันจะสวยและรวยเว่อร์ แต่ฉันก็ไม่ได้ผู้ชายดีเว่อร์แบบคุณอิศรามาครอบครองเหมือนยัยบัวนะ มีแต่พวกไม่เอาไหนทั้งนั้น นี่แหละนะ ที่เขาเรียกว่าวาสนาใครวาสนามัน แข่งเรือแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาไม่ได้”
คำพูดของเพื่อนรักทำให้บัวบูชาพูดไม่ออก หากสองคนนี้ได้รู้ว่ามันเป็นแค่เกมสนุกของคนกลุ่มนั้น ก็คงจะได้รู้ว่าเธอนั้นมันไร้วาสนากว่าใคร แถมยังโชคร้ายไม่มีใครเกิน
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าแก๊งของเรา ยัยบัวจะได้แต่งงานก่อนใคร ทั้งที่ควรจะเป็นฉัน” ลลิตเข้ามาสวมกอดบัวบูชาจนแนบแน่น “ดีใจด้วยนะแก ขอให้แกมีความสุขมาก ๆเลยนะ”
“ขอบใจมากนะตา” เมื่อผละออก บัวบูชาพยายามปั้นหน้ายิ้มแย้มเพื่อให้เพื่อนได้เห็นความสุขที่จอมปลอมของเธอ “อีกไม่นาน ตาเองก็จะได้เจอกับผู้ชายที่ดี”
กอบกุลเห็นดวงตาของว่าที่เจ้าสาวรื้นออกมา ก็ปลาบปลื้มจนอดร้องไห้ออกมาไม่ได้
“ฉันก็ดีใจมากนะบัว ที่แกจะได้แต่งงานกับคนที่แกรัก เขาโชคดีมากเลยที่ได้แกเป็นเมีย เพราะแกเป็นคนสวย เป็นคนดี เป็นคนน่ารัก และเป็นคนกตัญญู คนอย่างแกสมควรจะได้ของขวัญราคาแพงจากสวรรค์อยู่แล้ว”
บัวบูชายิ้มให้เพื่อนรักทั้งสองคน “ฉันเชื่อว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมีเหตุผลของมัน...มันมีเวลาของมัน...ฉันเชื่อว่าสวรรค์กำหนดมาแล้ว”
“ให้แกเป็นคู่กับเขา” ลลิตาเสริมให้
“ให้เขารักแกมากขนาดนี้” กอบกุลคว้ามือเย็นเยือบของเพื่อนรักมาจับแน่น “หลังจากนี้ ชีวิตจริงมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว แกต้องเตรียมรับมือกับการเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่ให้ดี ๆนะบัว”
“อย่างยัยบัว ใครเห็นใครก็รัก ใครเห็นใครก็เมตตา”
“หยุดชมได้แล้ว ตัวลอยจะติดเพดานอยู่แล้วเนี่ย พวกแกลองชุดกันไปเถอะนะ ฉันขอไปคุ้ยหาอะไรในตู้เย็นกินหน่อย ตอนนี้หิวมากเลย”
“อย่ากินเยอะนะแก เดี๋ยวพุงออก ใส่ชุดแต่งงานไม่สวยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า สวยไม่สวยเขาก็แต่งงานกับฉันอยู่ดี แต่ตอนนี้ ขอกินก่อนดีกว่า”
บัวบูชาเดินตรงไปยังตู้เย็นหลังใหญ่ตรงมุมห้อง จากนั้นก็รื้ออาหารทั้งคาวหวานออกมาจากตู้เย็นจนแทบไม่เหลือ เจ้าหล่อนนั่งโซ๊ยอาหารเหมือนคนตายอดตายอยากมาจากไหน จนทำให้เพื่อนรักทั้งสองถึงกับงงและแปลกใจ
“กุล ๆ แกโทรสั่งพิซซ่าหน่อยสิ อยากกินพิซซ่า”
“เฮ๊ย ! ที่แกกินเข้าไปนั่นก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนแล้วนะ”
“สั่งมาเหอะน่า เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”
คืนนี้เป็นคืนที่แสนทรมาน สำหรับซินเดอเรล่าผู้โชคร้ายที่ไม่ได้เจอกับเจ้าชายเหมือนในนิทาน แต่กลับเจอกับซาตานใจร้ายเลือดเย็นที่พร้อมจะฆ่าเธอทุกลมหายใจ
เธอไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ นอนร้องไห้ทั้งคืนจนแทบไม่เหลือน้ำตา สมองว้าวุ่นข้นเครียดจนแทบระเบิด หัวใจทุกข์ตรมและรวดร้าวราวกับมีเข็มสักพันเล่มมาทิ่มแทงก้อนเนื้อหัวใจในคราวเดียวกัน
“อืม...เราจะเผชิญกับความจริง...” ความจริงที่แสนโหดร้ายและเลือดเย็น ซึ่งเกิดจากคนที่เธอมอบหัวใจทั้งดวงให้ คนที่เธอไม่คิดว่าจะทำร้ายเธอได้ คนที่บอกรักเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันโดยไม่รู้จักเบื่อ “และสู้กับมันให้ได้”
เธอบอกตัวเองให้เข้มแข็ง เพื่อพร้อมเผชิญกับความเลวร้ายในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนวันพรุ่งนี้ เธอกล่อมตัวเองให้เชื่อว่าเธอทำได้ เธอสั่งตัวเองให้ลุกขึ้นสู้
“คืนนี้...เราจะร้องไห้ให้พอ เราจะร้องให้สะใจไปเลย ร้องให้น้ำตามันไม่เหลือ แต่แค่คืนนี้นะบัว” เธอสั่งตัวเองพลางน้ำตาไหลไม่หยุด “เพราะหลังจากนี้ เราจะไม่ร้องไห้ให้คนใจร้ายใจดำอีก เราจะเสียใจแค่นี้ ร้องให้พอ ห้ามร้องต่อหน้าเขาเด็ดขาด เราจะไม่ให้เขาเห็นน้ำตาแม้แต่หยดเดียว !!”
บัวบูชาตั้งใจไว้อย่างนั้น หากน้ำตาของเธอหมายถึงชัยชนะของเขาล่ะก็ เธอจะทำให้เขาผิดหวังและเจ็บปวด เธอจะทำให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาจะมารังแกได้โดยง่าย
“นอนเถอะบัว พรุ่งนี้ต่างหาก คือชีวิตจริง” เธอพยายามข่มตาให้หลับอีกครั้ง แต่ก็ทำได้ยากยิ่ง เพราะสมองกับใจของเธอวิ่งวุ่นไม่หยุด ใบหน้าของเขาเข้ามาวนเวียนอยู่ในดวงตาและความคิดของเธอตลอดเวลา
“โอย...ดื่มเบียร์สักโหลดีมั้ย จะได้หลับยาวไปถึงเย็นพรุ่งนี้เลย หรือไม่ก็กินยานอนหลับสักกำมือให้รู้แล้วรู้รอด” เธอเผลอพูดออกมาเพราะรำคาญตัวเอง ไม่ได้คิดจะทำจริง แต่กลับรู้สึกผิดต่อลูกน้อยในท้องจนแทบไม่อยากให้อภัยตัวเอง “แม่ขอโทษลูก แม่แค่พูดเล่นนะ แม่สัญญาว่าจะไม่พูดแบบนี้อีกนะ แม่จะพยายามนะลูก แม่จะเข้มแข็ง แต่ตอนนี้แม่ควรทำยังไงคะ?”
ความเป็นห่วงลูกน้อยในท้องทำให้เธอเกิดความพยายามมากกว่าเดิม ความรักที่เธอมีต่อเลือดเนื้อเชื้อไขทำให้เธอนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนจากศาสนา เธอจึงลองพึ่งรายการธรรมะจากยูทูปดู แล้วมันก็ได้ผล ธรรมะช่วยกล่อมเกลาจนเธอใจเย็นลงและสงบสติอารมณ์ได้มากขึ้น
เธอหลับไปเกือบสิบชั่วโมง เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าเกือบสิบโมงเช้าเข้าไปแล้ว เธอคว้าหยิบโทรศัพท์จากบนหัวเตียงมาดูเพื่อเช็คสายโทรเข้า ถึงได้เห็นว่าแบตหมดไปแล้ว คงเป็นเพราะรายการธรรมะจากยูทูปที่เธอเปิดทิ้งไว้ทั้งคืนนั้นเอง
“ดีเหมือนกัน...” เพราะเธอไม่อยากจะพูดกับใครเลยสักคน แม้แต่เพื่อนสนิท “เขาบอกว่า...ห้ามเราปิดเครื่อง ห้ามเราไม่รับโทรศัพท์เด็ดขาด...ไม่งั้นเขาจะลงโทษ...ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเขาจะลงโทษเรายังไง”
เธอนอนมองเพดานด้วยสายตาเลื่อนลอย พลางถอนหายใจซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้สักกี่ครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกจากที่นอน แล้วเดินเข้าห้องน้ำเหมือนคนไม่ค่อยมีแรง
“เราจะต้องทำได้สิ...เฮ่อ !” เธอมองตัวเองในกระจกด้วยสายตาเศร้า รู้สึกเวทนาตัวเองอย่างบอกไม่ถูก จากที่คิดว่าตัวเองโคตรโชคดีที่ได้เจอกับผู้ชายแสนดีคนนี้ แต่สุดท้าย มันกลับกลายเป็นเพียงฝันร้ายที่แสนเศร้า
เธอยืนอยู่ใต้ฝักบัวที่ปล่อยน้ำอุ่นลงมาชโลมร่างกายสวยงามของเธอราวชั่วโมงเศษ น้ำอุ่นที่ช่วยกระตุ้นเลือดเนื้อและหัวใจของเธอให้ตื่นตัวอีกครั้ง
หลังอาบน้ำเสร็จ เธอสวมชุดเดิม แล้วออกจากห้องน้ำมานั่งแหมะอยู่ที่ปลายเตียง คิดนั่นนี่ไปเรื่อย กระทั่งเสียงเคาะประตูห้องฉุดเธอให้หลุดจากภวังค์ ซึ่งเธอรู้ดีว่าเป็นใคร
“มีอะไรตา”
“แกอาบน้ำแล้วเหรอ จะแต่งตัวรึยัง”
“ยังไม่เที่ยงเลยนะ จะรีบไปไหน”
“โอ๊ยไม่ได้สิ นี่มันงานสำคัญของแกเลยนะ ฉันนัดช่างประจำไว้แล้ว แต่รอยัยกุลแต่งตัวก่อน ส่วนว่าที่เจ้าสาวอย่างแกควรจะไปที่ร้านได้แล้ว ไปเลยมั้ย เดี๋ยวฉันไปส่งแกเองก็ได้ แกนัดช่างไว้ร้านไหนล่ะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปเอง”
“หรือว่านัดช่างมาที่ห้อง สงสัยจะเป็นน้องฉัตรแน่เลยอ่ะ”
บัวบูชายิ้มเยาะตัวเอง “อืม ช่างใหญ่เลยแหละ รับรองว่าสวยเลิศที่สุดในงานแน่นอน พวกแกแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มไปเลยนะ เพราะฉันเองก็จัดเต็มเหมือนกัน ยังไงเจอกันที่งานตอนหนึ่งทุ่มเลยก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้ฉันขอตัวไปขัดเนื้อขัดตัวต่ออีกสักหน่อย ผิวพรรณจะได้ข่าวผุดผ่องเป็นยองใย สมกับเป็นลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ไง”
“โอเค งั้นเจอกันที่งานนะ”
เธอบอกลาเพื่อนพร้อมรอยยิ้มสดใส ก่อนจะปิดประตูลงแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ความเคร่งเครียดและกดดันยิ่งทบทวีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาใกล้เข้ามา
“อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่สนุกด้วย” ถึงใจจะเต้นรัวแค่ไหนก็เหอะ “เลิกเพ้อเจ้อ แล้วกลับไปได้แล้ว กลับไปอยู่ในที่ของคุณซะ”“ผมพูดจริงนะดาว” เขาคว้ามือเธอมากอดกุมไว้กับอก ส่งสายตาอ้อนวอนจริงจัง หากอธิบายความคลั่งรักในหัวใจเป็นคำพูดได้ เขาต้องใช้เวลาทั้งชาติในการบรรยายอย่างแน่นอน “ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ ขอโทษสักพันสักหมื่นหรือล้านครั้งก็ได้ ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถปกป้องคุณกับลูกได้”คำว่าลูกทำให้เขายิ่งโมโหตัวเอง นึกอยากทุบหัวตัวเองซ้ำๆ“ผมทำให้คุณต้องเจ็บ ต้องปวด และเป็นทุกข์” เขารู้ดีเลยว่าเธอจะเป็นทุกข์และทรมานแค่ไหน เขานึกอยากเจ็บปวดแทนเธอ “ที่ผมบากหน้ามาหาคุณ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณอภัยให้ผมเลย คุณไม่จำเป็นต้องให้อภัยผมเลยดาว ...แต่ผมอยากให้คุณให้โอกาสผม ให้ผมได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ให้ผมได้ชดใช้ความผิด ให้ผมได้ดูแลคุณ ปกป้องคุณ”พิมพ์ดาวน้ำตาไหล หัวใจเจ็บปวดคลี่คลายความทุกข์ไปได้บ้างแล้ว “คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ ฉันไม่ได้โกรธคุณ แต่ฉันโกรธตัวเองต่างหาก โกรธที่ตัวเองยอมทำผิด เพราะแค่...อยากจะอยู่กับคุณ”“ดาว!!” ชายหนุ่มคว้าหญิงสาวมาสวมกอดแนบแน่นอีกครั้งอย่างแสนรักและอบอุ่นอ่อนโยน เธอรู้สึกสัมผ
“อะไรกันเนี่ยหนูเมย์” แม้แต่คุณผู้หญิงเองก็เถอะ ถึงแม้จะรู้ว่าเกิดเรื่องราวขึ้นที่ห้องนั้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ ชัยวัฒน์ปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกว่าพิมพ์ดาวแท้งลูกด้วยซ้ำเมย์ลดาหน้าซีดเผือด ตัวสั่นงันงก “เมย์ผิดเหรอคะ ที่เมย์รักและหวงเล็กมาก จนไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาแย่ง คนที่ทุกคนควรจะประณามคือยัยนั่นต่างหาก ไม่ใช่เมย์”“ดาวไม่ผิด ผมผิดเอง ผมบังคับให้ดาวไปอยู่ด้วย ผมขืนใจเธอจนท้อง”“เล็ก!!!” เมย์ลดาเดินไปตบหน้าคิมหันต์อย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปด้วยความเสียใจ“นายเล็ก นายนี่มันเลวจริงๆ ไม่สมกับที่ดาวรักแก”“ใช่ ผมมันเลว ที่ไม่สามารถปกป้องเมียกับลูกได้” คิมหันต์น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย “ผมไม่รู้เลยว่าดาวต้องเจ็บปวดขนาดนี้ และลูกผมต้องมาตายแบบนี้ ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย”มารดาสงสารลูกชายจับใจ ตรงเข้าไปสวมกอดจนแน่น แล้วปลอบประโลมด้วยความปราณี“ไม่เป็นไรนะ ที่ลูกทำไปทุกอย่าง เพราะลูกรักหนูดาวใช่มั้ย บอกแม่มาสิว่าลูกรักหนูดาว”“ครับ ผมรักเธอ ผมอยากขอโทษเธอ อยากขอเธอแต่งงาน คุณแม่ครับ บอกผมมาเถอะว่าตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน นะครับคุณแม่”“ขอโทษนะตาเล็ก แต่แม่ไม่รู้จริงๆว่านา
“เฮ่อ...ฉันต้องลืมทุกอย่างให้ได้ เพื่อพ่อ และเพื่อตัวฉันเอง” หลังจากที่บิดาไปอุ้มเธอออกมาจากห้องนั้น เขาก็ไม่เคยถามหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกเลย นำตัวเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลจนหายแล้วก็พามาอยู่ที่นี่ ไม่ถามแม้แต่คำเดียวว่าเธอท้องกับใคร ด้วยซ้ำถึงแม้ลึกๆ เขาจะรู้ก็ตามเธอโชคดีเหลือเกินที่มีพ่อคนนี้...ไม่ว่าเขาจะเป็นคนขับรถหรือเป็นคนสวน เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ“เล็กคะ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ วันๆเอาแต่เมา ไม่ยอมทำการทำงาน ปล่อยตัวจนโทรมไปหมดแล้ว”“นี่ผมก็อยู่ที่ทำงานนะ”“ใช่ คุณอยู่ที่ทำงาน หลังจากที่คุณไม่ยอมมาทำงานเลยเป็นเดือน คุณเป็นบ้าอะไรคะ”“ผมขอโทษ”อีกแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เธอกับเขาจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทุกอย่างจัดเตรียมไว้หมดแล้ว และเธอก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาทุกลมหายใจ“เล็กคะ ถ้าคุณอยากให้เมย์ยกโทษให้ คุณต้องไปกับเมย์เดี๋ยวนี้ค่ะ”“ไปไหน”“ไปตัดผม โกนหนวดซะดีๆ” เขายอมให้เธอลากเข้าร้านเสริมสวย เพราะไม่อยากฟังเธอบ่น และสัญญาว่าจะงดดื่ม งดเที่ยว เพื่อความสบายใจของเธอ “คุณต้องดูดี เพราะคุณคือว่าที่สามีของเมย์ลดา เข้าใจมั้ยคะ”คิมหันต์กลับมาอยู่ในสภาพห
“ไม่ดีใจเหรอ”“ดีใจสิ”“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น ดูไม่มีความสุขเอาซะเลย”“แล้วแกล่ะ กำลังจะแต่งงาน ทำไมดูไม่เห็นมีความสุขเลย”“ใครบอกไม่มีความสุข ผมมีความสุขโคตรๆเลย”“ฮึ” รณภพสั่งเครื่องดื่มมาจิบต่อ อย่างไม่สบายอารมณ์ “ทำไมต้องเป็นฉันวะ แกมารับตำแหน่งแทนฉันได้มั้ย”“เฮ๊ย พูดอะไรอย่างนั้น พี่น่ะแหละ เหมาะสมแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ แค่เป็นผู้ช่วยพี่ ผมก็เหนื่อยโคตรๆแล้ว มีเลขาอยู่คน ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง ขนาดชงกาแฟยังไม่อร่อยเลย”“ไล่ออกเลยสิ” รณภพยิ้ม แต่สายตานั้นขมขื่น“จะบ้าเหรอพี่ เด็กเส้นคุณพ่อ ขืนไล่ออก คุณพ่อเอาตาย” สายตาของคนพูดก็ไม่ต่างกัน มันทั้งเศร้าและขมขื่นอย่างที่สุด“สรุปว่าไม่ผ่านโปรใช่มั้ย”“ไม่ผ่านอ่ะ ชาตินี้ไม่รู้จะผ่านมั้ย” คิมหันต์หัวเราะ แน่ล่ะ เรื่องอะไรเขาจะให้ผ่าน เพราะถ้าผ่านเมื่อไหร่ แม่นั่นจะต้องย้ายไปเป็นเลขาของรณภพตามคำสัญญา“ถามจริง แกยังไม่รู้จริงๆเหรอว่าเลขาของแกเขายื่นใบลาออกแล้ว”“ว่าไงนะ”“คุณพ่อเซ็นอนุมัติแล้วด้วย”คิมหันต์ทิ้งแก้วเหล้าแล้วออกจากร้านไปทันที เขาขับรถมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมอย่างไม่ลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมกลับไปหาเธออีกครั้ง หลังจากบอกก
“เหรอคะ?” ความจริงเธอได้ยินเรื่องคุณรณภพต้องแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่มาสักพักแล้ว ในแผนกของเธอ เม้าท์เรื่องเจ้านายเป็นงานเสริมอยู่แล้ว “แล้วคุณรักเธอรึเปล่า?”“ผมไม่ได้รักเธอ แต่ผมรักผู้หญิงอีกคน”เขาคว้ามือเธอไปจับแล้วบีบแน่น มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วเหมือนจะระเบิดออกมา อย่าบอกนะ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ...“ดาว”เธอตกใจตาเหลือก เมื่อเขาโน้มหน้าเข้ามาจะจูบ“อย่าค่ะ”“ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมต้องบอกคุณ ก่อนที่ผมจะไม่ได้บอก ผมรักคุณมาตลอดนะดาว รักมาตั้งแต่เด็กแล้ว รักจนห้ามใจแทบไม่ไหว..”“คุณมาบอกฉันทำไม!!!” เธอตวาดเขาไปอย่างสุดกลั้น “มาบอกเพื่ออะไรคะ ในเมื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้”เขาอึ้งไปเจ็ดวิ... “ใช่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมแค่อยากจะบอกให้คุณรู้ว่าหัวใจของผมเป็นของคุณเสมอนะ ต่อให้ผมแต่งงานกับคนอื่นก็เถอะ”ขอบคุณมากนะที่บอก เธออยากจะหัวเราะจริงๆ ทำไมผู้ชายตระกูลนี้มันเห็นแก่ตัวจัง“หรือคุณอยากได้ฉันเป็นเมียน้อย”รณภพถึงกับเงียบ..ใจหนึ่งก็คิดแหละพิมพ์ดาวส่ายหน้าระอาใจ “คุณไม่ได้รักฉันจริงหรอกค่ะ คุณรักชีวิตของคุณ รักงานของคุณ เพราะงั้น คุณเลือกในสิ่งที่คุณต้องเลือกเถอะค่ะ คุณจะได้ไม่เส
ชายหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเธอจะไม่แคร์เรื่องที่เขากำลังจะแต่งงานเลยจริงๆ ไม่มีทีท่าหึงหวงอะไรเลยเขาได้แต่ร่างกายของเธอมาจริงๆ แต่หัวใจเธอเป็นของคนอื่นโดยสมบูรณ์ ก็ดีเหมือนกัน เรื่องระหว่างเขากับเธอจะได้จบง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรคาราคาซัง“แล้วเธอล่ะ อยากแต่งงานแบบไหน”คำถามของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง...อยากแต่งแบบไหนเหรอ ก็...แต่งงานท่ามกลางคนที่รักเธอ เรียบๆง่ายๆในสถานที่สวยๆน่ะสิ ..ไม่มีอะไรพิเศษหรอก“ไม่คิด ไม่อยากแต่ง และคิดว่าชาตินี้คงไม่แต่งงานแน่ๆ เพราะผู้ชายดีๆมันหายาก”“อยากได้ผู้ชายดีขนาดไหนกันเชียว หรือว่าแบบพี่ใหญ่” พูดแทงใจดำซะเลยเธอยกไหล่ “แล้วถ้าฉันอยากได้แบบพี่ชายของคุณ มันผิดนักเหรอ?”คำถามนี้ทำให้เขาอึ้งและเจ็บไปอึดใจหนึ่ง “ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้?”“ไม่ต้องย้ำหรอกน่า ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร คุณสบายใจได้ ฉันไม่อยู่ให้รกหูรกตาพวกคุณนานนักหรอก”“หมายความว่าไง ไม่อยู่ให้รกหูรกตา เธอจะไปไหน??”“คุณไม่อยากรู้หรอกน่า”ทำไมจะไม่อยากรู้วะ อยากรู้ใจจะขาด “แต่...”“สปาเก็ตตี้เย็นหมดแล้ว รีบกินเข้าสิ พอเย็นชืดไม่อร่อยก็ด่าฉันอีก” พูดจบเธอก็มุ่งมั่นกินต่อไปเหมือนหิวโซ