“พอดีฉันลืมโทรศัพท์ไว้ที่โรงแรม...ฉันออกไป...เยี่ยม...คุณน้าที่...โรงพยาบาลมา...และอยู่คุยกับ...ญาติ...จนเพลิน”
น้ำเสียงอ่อนแรงของหญิงสาวทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย เพราะโดยปกติแล้วเธอจะพูดจาฉะฉานมีชีวิตชีวากว่านี้ แม้ไม่อ่อนหวานเหมือนหน้าตา แต่ก็ไม่พูดเบาพูดค่อยเหมือนคนพูดจาไม่เป็นแบบนี้ ก็เธอมันแม่ค้าขายขนมในตลาดนี่นา ไม่ใช่เลขาหน้าห้องผู้บริหารเสียหน่อย
“น้าคุณโอเครึเปล่าที่รัก”
“อืม...” เพราะคำว่าที่รักมันสะเทือนใจเธออย่างแรง เขาคงฝืนใจมากที่พูดคำนั้นออกมา เธอพยายามจะไม่ร้องแล้วนะ แต่มันก็ทำไม่ได้ น้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เธอก็ยังพยายามทำเสียงสดใส เหมือนว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น “ก็ไม่เป็นไรมากแล้วค่ะ ผ่าตัดเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร”
“แล้วคุณพักโรงแรมอะไรนะ?”
เธอบอกเขาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังถาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไมใส่ของเขา
“โรงแรมเล็ก ๆ ใกล้โรงพยาบาลค่ะ”
“ผมบอกแล้วไงว่าให้ไปพักโรงแรมของผม คุณก็ดื้อ ไม่เห็นต้องกังวลเรื่องการเดินทางเลย ยังไงก็มีรถรับส่งอยู่แล้ว อย่าลืมนะว่าคุณเป็นใคร”
ใช่ เธอไม่ลืมหรอก เธอจะไม่ลืมเด็ดขาดเลยว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เธอจะไม่ลืม...
“ขอบคุณนะคะเมฆ คุณ...” เธอพยายามแล้วนะ แต่ไม่มีแรงจะพูดกับเขาจริง ๆ “คุณดีกับฉันมากเลย ฉันโชคดีที่มีคุณ โชคดีที่ได้รัก...คุณ....แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเพลียมากเลยค่ะเมฆ ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย...”
“คุณปวดหัวเหรอ ไม่สบายเหรอ!” น้ำเสียงร้อนรนเพราะความห่วงใยของเขาคงทำให้เธอยิ้มได้ หากเป็นเมื่อก่อน แต่วินาทีนี้ เธอรู้แล้วว่ามันเป็นแค่การแสดง เขากำลังเสแสร้งแกล้งหลอกเธอเท่านั้น เขากำลังปั่นหัวเธอ “ที่รัก...เป็นอะไรบอกผมมาสิ เดี๋ยวผมให้คนของผมไป...”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอรีบปฎิเสธ “ไม่ได้เป็นอะไร แค่เพลียนิดหน่อย อาจเป็นเพราะไม่คุ้นกับอากาศในกรุงเทพฯ”
“โอยที่รัก ผมเป็นห่วงคุณจัง ไม่เอาอ่ะ ยังไงผมก็ต้องให้ใครไปดูแลคุณ ไม่งั้น...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ!” น้ำเสียงของเธอดุดันเด็ดขาดจนทำให้เขาชะงักไปนิดหน่อย “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก นอนพักผ่อนสักหน่อยก็คงจะหายแล้วล่ะ อย่าลืมสิคะว่าฉันเป็นลูกแม้ค้าตลาดสด ฉันมันอึดถึกทนอยู่แล้ว เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“อืม...” เขายอมเพราะดูเหมือนเธอจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาจริงๆ อีกทั้งยังยืนยันว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก เขาจึงไม่อยากตื๊อเธอให้เสียเวลาอีก “แต่ยังไงพรุ่งนี้ผมจะไปรับที่สนามบินนะ เครื่องลงกี่โมงนะ ก่อนเที่ยงใช่มั้ย”
เธอปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด “ไม่เป็นไรค่ะ คุณทำงานเถอะ ฉันบอกให้เพื่อนมารับแล้วล่ะ”
“เพื่อนคนไหน?” เขาถามเสียงแข็งโดยอัตโนมัติ ลืมตัวว่าไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ “ผู้ชายหรือผู้หญิง?”
“กอบกุลน่ะค่ะ” เขาแกล้งทำเป็นหึงอย่างนั้นหรือ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะแสดงละครได้เก่งกาจขนาดนี้
“แล้วไป งั้นผมไปรับคุณที่บ้านตอนเย็นแล้วกัน อย่าลืมใส่ชุดที่ผมซื้อให้นะ ผมอยากเห็นคุณใส่ชุดนั้นแทบแย่แล้ว”
เขาซื้อชุดแบรนด์เนมแสนแพงให้แก่เธอ เป็นชุดแซ็กเปิดไหล่สีขาวสวยเรียบหรู เขาอยากให้เธอใส่ชุดนี้ ชุดที่ไม่เหมาะกับคนอย่างเธอ เพื่อตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอมันไม่ควรใฝ่สูง เธอมันต่ำต้อยไร้ราคาไม่ควรค่าแก่ชุดนี้
“ทำไมคะ ทำไมถึงอยากเห็น”
“ก็มันสวย เหมาะกับคุณ เจ้าสาวที่สวยที่สุดของผม ทุกคนจะต้องอิจฉาผม ที่ได้คุณเป็นเมีย”
เธอยิ้มไม่ออก รู้สึกอึดอัดและอัดอั้นจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ฉันอาจไม่ดีพอ...คุณเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”
“คุณน่ะเหรอไม่ดีพอ คุณไม่รู้หรอกบัวว่าคุณน่ะน่ารักขนาดไหน ผมไม่วันปล่อยคุณไปหรอก คุณก็รู้นี่ที่รัก ว่าคนอย่างผม อยากได้อะไรก็ต้องได้”
เขาคงแค้นเธอมาก...แค้นเรื่องอะไรกัน...เธอนึกไม่ออกจริงๆว่าเธอเคยไปทำอะไรให้เขาโกรธเคืองนักหนา
“เย็นพรุ่งนี้ คุณไม่ต้องมารับฉันหรอกนะคะ ฉันจะไปที่งานเอง ฉันอยากให้คุณเซอร์ไพรซ์ในความสวยของฉัน คุณรอฉันที่บ้านของเรานะคะ คอยรับแขกที่มาร่วมงานดีกว่า”
“จะเอาอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ เจอกันที่งานปาร์ตี้สละโสดของเรานะคะ...แต่ตอนนี้ฉันง่วงจนตาจะปิดแล้ว”
“ก็ได้ที่รัก งั้นผมไม่รบกวนแล้ว แต่ห้ามปิดเครื่อง ห้ามไม่รับสายอีก ไม่งั้น ผมจะ...ลงโทษคุณให้หนักเลย”
เธอกดวางสายจากเขา ก่อนที่โทรศัพท์จะล่วงหล่นจากมือลงไปตั้งอยู่บนพื้น
“เมฆ...คุณจะทำฉันจริง ๆ เหรอ?” น้ำตาของเธอไหลออกมาด้วยความเสียใจ “คุณจะไม่ปล่อยฉันจริง ๆ ใช่มั้ย”
เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างหนักอยู่เกือบชั่วโมง ก่อนที่เสียงท้องร้องเพราะความหิวจะทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว
“ลูก...จริงสิ” เธอลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองอย่างเบามือ ทะนุถนอม “แม่จะไปงานนี้นะ...เราไปด้วยกันนะ แม่แค่อยากรู้ว่าพ่อเขาโกรธอะไรแม่ แม่แค่อยากรู้ว่าพ่อเขาทำแบบนี้ทำไม ที่สำคัญ ถ้าเขาโกรธอะไรแม่ แม่ก็อยากให้มันจบแค่นั้น หลังจากนี้ไป พ่อจะได้ไม่มายุ่งกับแม่อีกนะ”
“อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่สนุกด้วย” ถึงใจจะเต้นรัวแค่ไหนก็เหอะ “เลิกเพ้อเจ้อ แล้วกลับไปได้แล้ว กลับไปอยู่ในที่ของคุณซะ”“ผมพูดจริงนะดาว” เขาคว้ามือเธอมากอดกุมไว้กับอก ส่งสายตาอ้อนวอนจริงจัง หากอธิบายความคลั่งรักในหัวใจเป็นคำพูดได้ เขาต้องใช้เวลาทั้งชาติในการบรรยายอย่างแน่นอน “ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ ขอโทษสักพันสักหมื่นหรือล้านครั้งก็ได้ ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถปกป้องคุณกับลูกได้”คำว่าลูกทำให้เขายิ่งโมโหตัวเอง นึกอยากทุบหัวตัวเองซ้ำๆ“ผมทำให้คุณต้องเจ็บ ต้องปวด และเป็นทุกข์” เขารู้ดีเลยว่าเธอจะเป็นทุกข์และทรมานแค่ไหน เขานึกอยากเจ็บปวดแทนเธอ “ที่ผมบากหน้ามาหาคุณ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณอภัยให้ผมเลย คุณไม่จำเป็นต้องให้อภัยผมเลยดาว ...แต่ผมอยากให้คุณให้โอกาสผม ให้ผมได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ให้ผมได้ชดใช้ความผิด ให้ผมได้ดูแลคุณ ปกป้องคุณ”พิมพ์ดาวน้ำตาไหล หัวใจเจ็บปวดคลี่คลายความทุกข์ไปได้บ้างแล้ว “คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ ฉันไม่ได้โกรธคุณ แต่ฉันโกรธตัวเองต่างหาก โกรธที่ตัวเองยอมทำผิด เพราะแค่...อยากจะอยู่กับคุณ”“ดาว!!” ชายหนุ่มคว้าหญิงสาวมาสวมกอดแนบแน่นอีกครั้งอย่างแสนรักและอบอุ่นอ่อนโยน เธอรู้สึกสัมผ
“อะไรกันเนี่ยหนูเมย์” แม้แต่คุณผู้หญิงเองก็เถอะ ถึงแม้จะรู้ว่าเกิดเรื่องราวขึ้นที่ห้องนั้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ ชัยวัฒน์ปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกว่าพิมพ์ดาวแท้งลูกด้วยซ้ำเมย์ลดาหน้าซีดเผือด ตัวสั่นงันงก “เมย์ผิดเหรอคะ ที่เมย์รักและหวงเล็กมาก จนไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาแย่ง คนที่ทุกคนควรจะประณามคือยัยนั่นต่างหาก ไม่ใช่เมย์”“ดาวไม่ผิด ผมผิดเอง ผมบังคับให้ดาวไปอยู่ด้วย ผมขืนใจเธอจนท้อง”“เล็ก!!!” เมย์ลดาเดินไปตบหน้าคิมหันต์อย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปด้วยความเสียใจ“นายเล็ก นายนี่มันเลวจริงๆ ไม่สมกับที่ดาวรักแก”“ใช่ ผมมันเลว ที่ไม่สามารถปกป้องเมียกับลูกได้” คิมหันต์น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย “ผมไม่รู้เลยว่าดาวต้องเจ็บปวดขนาดนี้ และลูกผมต้องมาตายแบบนี้ ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย”มารดาสงสารลูกชายจับใจ ตรงเข้าไปสวมกอดจนแน่น แล้วปลอบประโลมด้วยความปราณี“ไม่เป็นไรนะ ที่ลูกทำไปทุกอย่าง เพราะลูกรักหนูดาวใช่มั้ย บอกแม่มาสิว่าลูกรักหนูดาว”“ครับ ผมรักเธอ ผมอยากขอโทษเธอ อยากขอเธอแต่งงาน คุณแม่ครับ บอกผมมาเถอะว่าตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน นะครับคุณแม่”“ขอโทษนะตาเล็ก แต่แม่ไม่รู้จริงๆว่านา
“เฮ่อ...ฉันต้องลืมทุกอย่างให้ได้ เพื่อพ่อ และเพื่อตัวฉันเอง” หลังจากที่บิดาไปอุ้มเธอออกมาจากห้องนั้น เขาก็ไม่เคยถามหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกเลย นำตัวเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลจนหายแล้วก็พามาอยู่ที่นี่ ไม่ถามแม้แต่คำเดียวว่าเธอท้องกับใคร ด้วยซ้ำถึงแม้ลึกๆ เขาจะรู้ก็ตามเธอโชคดีเหลือเกินที่มีพ่อคนนี้...ไม่ว่าเขาจะเป็นคนขับรถหรือเป็นคนสวน เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ“เล็กคะ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ วันๆเอาแต่เมา ไม่ยอมทำการทำงาน ปล่อยตัวจนโทรมไปหมดแล้ว”“นี่ผมก็อยู่ที่ทำงานนะ”“ใช่ คุณอยู่ที่ทำงาน หลังจากที่คุณไม่ยอมมาทำงานเลยเป็นเดือน คุณเป็นบ้าอะไรคะ”“ผมขอโทษ”อีกแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เธอกับเขาจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทุกอย่างจัดเตรียมไว้หมดแล้ว และเธอก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาทุกลมหายใจ“เล็กคะ ถ้าคุณอยากให้เมย์ยกโทษให้ คุณต้องไปกับเมย์เดี๋ยวนี้ค่ะ”“ไปไหน”“ไปตัดผม โกนหนวดซะดีๆ” เขายอมให้เธอลากเข้าร้านเสริมสวย เพราะไม่อยากฟังเธอบ่น และสัญญาว่าจะงดดื่ม งดเที่ยว เพื่อความสบายใจของเธอ “คุณต้องดูดี เพราะคุณคือว่าที่สามีของเมย์ลดา เข้าใจมั้ยคะ”คิมหันต์กลับมาอยู่ในสภาพห
“ไม่ดีใจเหรอ”“ดีใจสิ”“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น ดูไม่มีความสุขเอาซะเลย”“แล้วแกล่ะ กำลังจะแต่งงาน ทำไมดูไม่เห็นมีความสุขเลย”“ใครบอกไม่มีความสุข ผมมีความสุขโคตรๆเลย”“ฮึ” รณภพสั่งเครื่องดื่มมาจิบต่อ อย่างไม่สบายอารมณ์ “ทำไมต้องเป็นฉันวะ แกมารับตำแหน่งแทนฉันได้มั้ย”“เฮ๊ย พูดอะไรอย่างนั้น พี่น่ะแหละ เหมาะสมแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ แค่เป็นผู้ช่วยพี่ ผมก็เหนื่อยโคตรๆแล้ว มีเลขาอยู่คน ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง ขนาดชงกาแฟยังไม่อร่อยเลย”“ไล่ออกเลยสิ” รณภพยิ้ม แต่สายตานั้นขมขื่น“จะบ้าเหรอพี่ เด็กเส้นคุณพ่อ ขืนไล่ออก คุณพ่อเอาตาย” สายตาของคนพูดก็ไม่ต่างกัน มันทั้งเศร้าและขมขื่นอย่างที่สุด“สรุปว่าไม่ผ่านโปรใช่มั้ย”“ไม่ผ่านอ่ะ ชาตินี้ไม่รู้จะผ่านมั้ย” คิมหันต์หัวเราะ แน่ล่ะ เรื่องอะไรเขาจะให้ผ่าน เพราะถ้าผ่านเมื่อไหร่ แม่นั่นจะต้องย้ายไปเป็นเลขาของรณภพตามคำสัญญา“ถามจริง แกยังไม่รู้จริงๆเหรอว่าเลขาของแกเขายื่นใบลาออกแล้ว”“ว่าไงนะ”“คุณพ่อเซ็นอนุมัติแล้วด้วย”คิมหันต์ทิ้งแก้วเหล้าแล้วออกจากร้านไปทันที เขาขับรถมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมอย่างไม่ลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมกลับไปหาเธออีกครั้ง หลังจากบอกก
“เหรอคะ?” ความจริงเธอได้ยินเรื่องคุณรณภพต้องแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่มาสักพักแล้ว ในแผนกของเธอ เม้าท์เรื่องเจ้านายเป็นงานเสริมอยู่แล้ว “แล้วคุณรักเธอรึเปล่า?”“ผมไม่ได้รักเธอ แต่ผมรักผู้หญิงอีกคน”เขาคว้ามือเธอไปจับแล้วบีบแน่น มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วเหมือนจะระเบิดออกมา อย่าบอกนะ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ...“ดาว”เธอตกใจตาเหลือก เมื่อเขาโน้มหน้าเข้ามาจะจูบ“อย่าค่ะ”“ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมต้องบอกคุณ ก่อนที่ผมจะไม่ได้บอก ผมรักคุณมาตลอดนะดาว รักมาตั้งแต่เด็กแล้ว รักจนห้ามใจแทบไม่ไหว..”“คุณมาบอกฉันทำไม!!!” เธอตวาดเขาไปอย่างสุดกลั้น “มาบอกเพื่ออะไรคะ ในเมื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้”เขาอึ้งไปเจ็ดวิ... “ใช่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมแค่อยากจะบอกให้คุณรู้ว่าหัวใจของผมเป็นของคุณเสมอนะ ต่อให้ผมแต่งงานกับคนอื่นก็เถอะ”ขอบคุณมากนะที่บอก เธออยากจะหัวเราะจริงๆ ทำไมผู้ชายตระกูลนี้มันเห็นแก่ตัวจัง“หรือคุณอยากได้ฉันเป็นเมียน้อย”รณภพถึงกับเงียบ..ใจหนึ่งก็คิดแหละพิมพ์ดาวส่ายหน้าระอาใจ “คุณไม่ได้รักฉันจริงหรอกค่ะ คุณรักชีวิตของคุณ รักงานของคุณ เพราะงั้น คุณเลือกในสิ่งที่คุณต้องเลือกเถอะค่ะ คุณจะได้ไม่เส
ชายหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเธอจะไม่แคร์เรื่องที่เขากำลังจะแต่งงานเลยจริงๆ ไม่มีทีท่าหึงหวงอะไรเลยเขาได้แต่ร่างกายของเธอมาจริงๆ แต่หัวใจเธอเป็นของคนอื่นโดยสมบูรณ์ ก็ดีเหมือนกัน เรื่องระหว่างเขากับเธอจะได้จบง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรคาราคาซัง“แล้วเธอล่ะ อยากแต่งงานแบบไหน”คำถามของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง...อยากแต่งแบบไหนเหรอ ก็...แต่งงานท่ามกลางคนที่รักเธอ เรียบๆง่ายๆในสถานที่สวยๆน่ะสิ ..ไม่มีอะไรพิเศษหรอก“ไม่คิด ไม่อยากแต่ง และคิดว่าชาตินี้คงไม่แต่งงานแน่ๆ เพราะผู้ชายดีๆมันหายาก”“อยากได้ผู้ชายดีขนาดไหนกันเชียว หรือว่าแบบพี่ใหญ่” พูดแทงใจดำซะเลยเธอยกไหล่ “แล้วถ้าฉันอยากได้แบบพี่ชายของคุณ มันผิดนักเหรอ?”คำถามนี้ทำให้เขาอึ้งและเจ็บไปอึดใจหนึ่ง “ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้?”“ไม่ต้องย้ำหรอกน่า ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร คุณสบายใจได้ ฉันไม่อยู่ให้รกหูรกตาพวกคุณนานนักหรอก”“หมายความว่าไง ไม่อยู่ให้รกหูรกตา เธอจะไปไหน??”“คุณไม่อยากรู้หรอกน่า”ทำไมจะไม่อยากรู้วะ อยากรู้ใจจะขาด “แต่...”“สปาเก็ตตี้เย็นหมดแล้ว รีบกินเข้าสิ พอเย็นชืดไม่อร่อยก็ด่าฉันอีก” พูดจบเธอก็มุ่งมั่นกินต่อไปเหมือนหิวโซ