“คนอย่างเธอ...ไม่ควรได้รับความปรานี และเธอจะต้องเสียใจและเจ็บปวดไปจนวันตาย” นั่นคือคำพิพากษาจากเขา คนที่เธอไม่ควรรักและไว้ใจที่สุดในโลก
“เธอโง่เองนะบัว” เธอหลงกลร้ายของเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น เธอตกลงไปในกับดักที่เขาวางไว้ด้วยความโง่และเต็มใจ เพราะอย่างนั้น เธอจึงโทษใครไม่ได้เลยที่ชะตาร้ายลากเธอมายืนอยู่กลางกองไฟร้อนแบบนี้
“คิดอะไรอยู่” วราลีในชุดราตรีสั้นแสนสวย เดินเข้ามาหาเขาด้วยใจปรารถนา แล้วสวมกอดกายแกร่งจากด้านหลัง แนบใบหน้างดงามและหัวใจภักดีลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เธอรักมานาน เธอต้องการเปิดเปลือยความรู้สึกที่มีต่อเขาในวันที่เขาเป็นอิสระจากผู้หญิงชั้นต่ำ
“อย่าน่า” เขาเตือนหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ แน่นอน เขาเองก็รู้มาตลอดว่าเพื่อนรักคิดอย่างไรกับเขา แต่เขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ เขาคิดกับเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
“ทำไมล่ะ”
“เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อย่าลืมนะ ว่าเกมยังไม่โอเวอร์”
เขาปลดมือเธอออก แล้วดันตัวเธอออกห่างอย่างนุ่มนวลสุภาพแต่เด็ดขาด จ้องมองเธอด้วยสายตาปรานี
“และที่สำคัญ เราเป็นเพื่อนกัน”
ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความเสียใจ เธอนึกรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องปฎิเสธ อย่างที่ทิวากรเตือนเธอไว้
“แล้วถ้าเกมโอเว่อร์ เราสองคน...”
“ไม่ว่ายังไง เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี”
เขาย้ำคำเดิม แต่เธอไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขาแล้ว เธออยากเป็นคนพิเศษของอิศรา ไวย์ราวัลย์ เหมือนที่บัวบูชาเคยเป็นอยู่ช่วงหนึ่ง แม้มันจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และเต็มไปด้วยการหลอกลวง แต่บัวบูชาควรจะรู้ไว้ว่า เธอเป็นแฟนคนแรกของเขา คนที่ไร้หัวใจและหยิ่งยโสจนมองไม่เห็นหัวใคร
“ขอถามหน่อยได้มั้ยเมฆ”
อิศรามองลงไปเบื้องล่าง เห็นแขกเหรื่อแต่งชุดสวยงามและหรูหราเริ่มทยอยเข้ามาในงานบ้างแล้ว ใบหน้าของทุกคนบ่งบอกถึงความยินดีจอมปลอมและเต็มไปด้วยความอิจฉา โดยเฉพาะหญิงสาวที่ต่างก็แต่งตัวจัดเต็มเพื่อมาประชันกัน ทุกคนต่างคิดว่าเธอก็มีดีไม่แพ้บัวบูชา แล้วทำไมสุดหล่ออย่างอิศราถึงเลือกยัยนั่น
“อะไร” เขาไม่ได้ตั้งใจจะถามกลับสักเท่าไหร่และไม่มีใจจะฟังคำถามของเธอเท่ากับสำรวจเบื้องล่างอย่างสนุก เขาอารมณ์ดีขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของว่าที่เจ้าสาวก้าวเข้ามาในงานแล้ว สองคนนั้นคือพยานคนสำคัญเช่นกัน
“หึ!” เขาคว้าแก้วไวน์ทรงสูงมาจิบเล็กน้อย เพื่อดื่มด่ำกับความสุขที่กำลังแผ่ซ่านไปทั้งตัว
“นายเคยจูบกับยัยบัวเน่ารึเปล่า”
คำถามตรงๆ ของวราลีทำให้ชายหนุ่มชะงัก ก่อนหันมองเพื่อนรักด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสักเท่าไหร่
“ถามทำไม”
“เกลียดขนาดนั้น จูบลงจริงเหรอ”
เขากดกรามแผ่วเบา พยายามระงับความโกรธไว้ให้ลึกที่สุด แล้วปั้นหน้าเย้ยหยันตามถนัด เขายอมรับว่าโกรธที่โดนเพื่อนสงสัยในความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะแก้แค้นผู้หญิงคนนั้น ทำเหมือนเขาเหยาะแยะไม่เป็นมืออาชีพ ทั้งที่ทุกอย่างกำลังจะจบด้วยดี เธอควรจะยกย่องและชื่นชมเขามากกว่าจะมาจับผิดกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
“มันก็แค่การจูบปลอม ๆ ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย”
“แต่มันคือจูบแรกของนายนี่ นายมอบจูบแรกให้ศัตรูได้ยังไงกันเมฆ ทำไมฉันรู้สึกอิจฉายัยนั่นจัง” วราลีพูดด้วยความช้ำใจ คว้าแก้วไวน์จากมือของอิศรามาดื่มจนหมดแก้ว แล้วถอนหายใจอย่างหนักหน่วงออกมา “หวังว่าสองเดือนที่ผ่านมา มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรในตัวนายไปนะ”
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้วน่า!”
“เฮ๊ยเมฆ!” เสียงของราเมศตะโกนมาแต่ไกล เขาและวราลีจึงหันไปมองชายหนุ่มในชุดสูทหรู ที่ยืนคู่อยู่กับผู้หญิงคนนั้น
“อะ...บัว!”
“ว่าที่เจ้าสาวนายมาแล้ว!!!”
อิศราทั้งงงทั้งตกใจที่บัวบูชามาในชุดแม่ค้าตลาดสด มาในชุดธรรมดาไร้ราคา ไม่ใช่ชุดหรูหราที่เขาเตรียมไว้ให้
“บัว!”
วราลีถึงกับยิ้มเยาะและส่ายหน้าระอาใจ อดพูดดูถูกออกมาไม่ได้จริง ๆ “แม่ค้าก็คือแม่ค้า !”
บัวบูชายิ้มอบอุ่นให้แก่เขาอย่างที่เคยยิ้ม จ้องมองเขาด้วยสายตารักหลงอย่างที่เป็นมาตลอด ขณะเดินเข้ามาหาเขาด้วยความเต็มใจ...เต็มใจที่จะเดินเข้ามาในบ่วงที่เขาวางเอาไว้ ซึ่งเขาคงเตรียมจะกระตุกบ่วงนั้นในไม่ช้า
“เมฆ!”
“คุณ...ทำไม...” คำถามของอิศรากลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อโดนบัวบูชาประกบปากแล้วจูบอย่างดูดดื่ม
วราลีตกใจตาเหลือก ขณะราเมศ ธนินทร์ และทิวากรที่ตามขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน ต่างพากันยิ้ม และปรบมือให้กับความรักแสนหวานของหัวหน้าแก๊ง...ที่กำลังจูบตอบว่าที่เจ้าสาวอย่างร้อนแรง และโหยหาคลั่งไคล้...แสดงความรักออกมาได้สมจริงจนน่ากลัว !
“อืม...อือ...”
เธอกับเขาจูบกันอย่างดูดดื่มเร่าร้อน อ้อยอิ่งเคล้าคลอ สัมผัสเลือดเนื้อและลมหายใจอุ่นซ่านของกันและกัน ดื่มด่ำถลำลึกอย่างนุ่มนวลอ่อนหวานราวกับคู่รักที่มีใจเสน่หาต่อกันอย่างแท้จริง
“อ่า...” การตกลงไปในห้วงแห่งปรารถนาอันร้อนแรงนั้นมันก็ไม่ต่างกับการเต้นรำอยู่บนกองไฟ มันเป็นความหวานที่แสนทรมาน เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวที่มีพลังดึงดูดมากพอให้คนไม่กลัวตาย
“อือ...เมฆ...” เธอกระซิบเรียกเขาด้วยน้ำเสียงกระเส่า จ้องมองเขาด้วยสายตาร้อนแรง สะกดเขาให้หลงใหลพลั้งเผลออยู่ในโลกของเธอและเขา
“ฉันเป็นของคุณ...” ในเมื่อเขาเกลียดเธอจับใจและอยากเห็นเธอทุกข์ทนอย่างแสนสาหัส เธอก็จะขอมอบช่วงเวลาแห่งวาระสุดท้ายให้แก่เขา ด้วยการทำให้เขากระอักกระอ่วนใจยิ่งกว่า และขยะแขยงจนแทบสำลอกยามต้องฝืนตัวเองแสดงละครเป็นคู่รักกับเธอโดยไม่เต็มใจ
“เมฆ...จูบฉันสิ” เธอกระซิบบอกเขาที่ริมหูอย่างเร่าร้อนและยั่วเย้า พร้อมกับลูบไล้ต้นคอและท้ายทอยซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขาไปด้วย เพื่อจะทำให้เขากระอักเลือดตายเพราะความรังเกียจชิงชัง
“บัว...” เขาครวญชื่อเธอ พลางสวมกอดเธอไว้แน่น ราวกับรักเหลือล้น ราวกับว่าอยู่กันเพียงลำพัง ในโลกที่มีแต่เธอกับเขาเท่านั้น
วราลียิ้มมุมปากอย่างสาแก่ใจให้แก่ความรักจอมปลอมของหนุ่มสาวตรงหน้า เธอหันหลังให้แล้วเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนชายที่ยังยืนมองด้วยความสนใจ
“ไปเถอะ ก็แค่ละครลวงโลก”
ธนินทร์และราเมศเห็นด้วยกับวราลี ทั้งคู่เดินตามเจ้าหล่อนไปราวกับเป็นแมวเชื่อง มีเพียงทิวากรเท่านั้นที่ยังทอดสายตามองเพื่อนรักตัวร้ายและผู้หญิงคนนั้นแสดงความรักต่อกันอย่างดูดดื่มลืมโลกใบนี้
“วาระสุดท้ายที่...แสนหวานสินะ” ทิวากรจิบไวน์ในมือแล้วชูแก้วขึ้นเหนือศรีษะเพื่อฉลองให้กับคู่รัก ก่อนจะหันหลังให้แล้วจากไปอีกคน
“อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่สนุกด้วย” ถึงใจจะเต้นรัวแค่ไหนก็เหอะ “เลิกเพ้อเจ้อ แล้วกลับไปได้แล้ว กลับไปอยู่ในที่ของคุณซะ”“ผมพูดจริงนะดาว” เขาคว้ามือเธอมากอดกุมไว้กับอก ส่งสายตาอ้อนวอนจริงจัง หากอธิบายความคลั่งรักในหัวใจเป็นคำพูดได้ เขาต้องใช้เวลาทั้งชาติในการบรรยายอย่างแน่นอน “ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ ขอโทษสักพันสักหมื่นหรือล้านครั้งก็ได้ ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถปกป้องคุณกับลูกได้”คำว่าลูกทำให้เขายิ่งโมโหตัวเอง นึกอยากทุบหัวตัวเองซ้ำๆ“ผมทำให้คุณต้องเจ็บ ต้องปวด และเป็นทุกข์” เขารู้ดีเลยว่าเธอจะเป็นทุกข์และทรมานแค่ไหน เขานึกอยากเจ็บปวดแทนเธอ “ที่ผมบากหน้ามาหาคุณ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณอภัยให้ผมเลย คุณไม่จำเป็นต้องให้อภัยผมเลยดาว ...แต่ผมอยากให้คุณให้โอกาสผม ให้ผมได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด ให้ผมได้ชดใช้ความผิด ให้ผมได้ดูแลคุณ ปกป้องคุณ”พิมพ์ดาวน้ำตาไหล หัวใจเจ็บปวดคลี่คลายความทุกข์ไปได้บ้างแล้ว “คุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ ฉันไม่ได้โกรธคุณ แต่ฉันโกรธตัวเองต่างหาก โกรธที่ตัวเองยอมทำผิด เพราะแค่...อยากจะอยู่กับคุณ”“ดาว!!” ชายหนุ่มคว้าหญิงสาวมาสวมกอดแนบแน่นอีกครั้งอย่างแสนรักและอบอุ่นอ่อนโยน เธอรู้สึกสัมผ
“อะไรกันเนี่ยหนูเมย์” แม้แต่คุณผู้หญิงเองก็เถอะ ถึงแม้จะรู้ว่าเกิดเรื่องราวขึ้นที่ห้องนั้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ ชัยวัฒน์ปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกว่าพิมพ์ดาวแท้งลูกด้วยซ้ำเมย์ลดาหน้าซีดเผือด ตัวสั่นงันงก “เมย์ผิดเหรอคะ ที่เมย์รักและหวงเล็กมาก จนไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาแย่ง คนที่ทุกคนควรจะประณามคือยัยนั่นต่างหาก ไม่ใช่เมย์”“ดาวไม่ผิด ผมผิดเอง ผมบังคับให้ดาวไปอยู่ด้วย ผมขืนใจเธอจนท้อง”“เล็ก!!!” เมย์ลดาเดินไปตบหน้าคิมหันต์อย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกจากบ้านหลังใหญ่ไปด้วยความเสียใจ“นายเล็ก นายนี่มันเลวจริงๆ ไม่สมกับที่ดาวรักแก”“ใช่ ผมมันเลว ที่ไม่สามารถปกป้องเมียกับลูกได้” คิมหันต์น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย “ผมไม่รู้เลยว่าดาวต้องเจ็บปวดขนาดนี้ และลูกผมต้องมาตายแบบนี้ ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย”มารดาสงสารลูกชายจับใจ ตรงเข้าไปสวมกอดจนแน่น แล้วปลอบประโลมด้วยความปราณี“ไม่เป็นไรนะ ที่ลูกทำไปทุกอย่าง เพราะลูกรักหนูดาวใช่มั้ย บอกแม่มาสิว่าลูกรักหนูดาว”“ครับ ผมรักเธอ ผมอยากขอโทษเธอ อยากขอเธอแต่งงาน คุณแม่ครับ บอกผมมาเถอะว่าตอนนี้ดาวอยู่ที่ไหน นะครับคุณแม่”“ขอโทษนะตาเล็ก แต่แม่ไม่รู้จริงๆว่านา
“เฮ่อ...ฉันต้องลืมทุกอย่างให้ได้ เพื่อพ่อ และเพื่อตัวฉันเอง” หลังจากที่บิดาไปอุ้มเธอออกมาจากห้องนั้น เขาก็ไม่เคยถามหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกเลย นำตัวเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลจนหายแล้วก็พามาอยู่ที่นี่ ไม่ถามแม้แต่คำเดียวว่าเธอท้องกับใคร ด้วยซ้ำถึงแม้ลึกๆ เขาจะรู้ก็ตามเธอโชคดีเหลือเกินที่มีพ่อคนนี้...ไม่ว่าเขาจะเป็นคนขับรถหรือเป็นคนสวน เขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ“เล็กคะ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ วันๆเอาแต่เมา ไม่ยอมทำการทำงาน ปล่อยตัวจนโทรมไปหมดแล้ว”“นี่ผมก็อยู่ที่ทำงานนะ”“ใช่ คุณอยู่ที่ทำงาน หลังจากที่คุณไม่ยอมมาทำงานเลยเป็นเดือน คุณเป็นบ้าอะไรคะ”“ผมขอโทษ”อีกแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เธอกับเขาจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ ทุกอย่างจัดเตรียมไว้หมดแล้ว และเธอก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาทุกลมหายใจ“เล็กคะ ถ้าคุณอยากให้เมย์ยกโทษให้ คุณต้องไปกับเมย์เดี๋ยวนี้ค่ะ”“ไปไหน”“ไปตัดผม โกนหนวดซะดีๆ” เขายอมให้เธอลากเข้าร้านเสริมสวย เพราะไม่อยากฟังเธอบ่น และสัญญาว่าจะงดดื่ม งดเที่ยว เพื่อความสบายใจของเธอ “คุณต้องดูดี เพราะคุณคือว่าที่สามีของเมย์ลดา เข้าใจมั้ยคะ”คิมหันต์กลับมาอยู่ในสภาพห
“ไม่ดีใจเหรอ”“ดีใจสิ”“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น ดูไม่มีความสุขเอาซะเลย”“แล้วแกล่ะ กำลังจะแต่งงาน ทำไมดูไม่เห็นมีความสุขเลย”“ใครบอกไม่มีความสุข ผมมีความสุขโคตรๆเลย”“ฮึ” รณภพสั่งเครื่องดื่มมาจิบต่อ อย่างไม่สบายอารมณ์ “ทำไมต้องเป็นฉันวะ แกมารับตำแหน่งแทนฉันได้มั้ย”“เฮ๊ย พูดอะไรอย่างนั้น พี่น่ะแหละ เหมาะสมแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ แค่เป็นผู้ช่วยพี่ ผมก็เหนื่อยโคตรๆแล้ว มีเลขาอยู่คน ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง ขนาดชงกาแฟยังไม่อร่อยเลย”“ไล่ออกเลยสิ” รณภพยิ้ม แต่สายตานั้นขมขื่น“จะบ้าเหรอพี่ เด็กเส้นคุณพ่อ ขืนไล่ออก คุณพ่อเอาตาย” สายตาของคนพูดก็ไม่ต่างกัน มันทั้งเศร้าและขมขื่นอย่างที่สุด“สรุปว่าไม่ผ่านโปรใช่มั้ย”“ไม่ผ่านอ่ะ ชาตินี้ไม่รู้จะผ่านมั้ย” คิมหันต์หัวเราะ แน่ล่ะ เรื่องอะไรเขาจะให้ผ่าน เพราะถ้าผ่านเมื่อไหร่ แม่นั่นจะต้องย้ายไปเป็นเลขาของรณภพตามคำสัญญา“ถามจริง แกยังไม่รู้จริงๆเหรอว่าเลขาของแกเขายื่นใบลาออกแล้ว”“ว่าไงนะ”“คุณพ่อเซ็นอนุมัติแล้วด้วย”คิมหันต์ทิ้งแก้วเหล้าแล้วออกจากร้านไปทันที เขาขับรถมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมอย่างไม่ลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมกลับไปหาเธออีกครั้ง หลังจากบอกก
“เหรอคะ?” ความจริงเธอได้ยินเรื่องคุณรณภพต้องแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนใหญ่มาสักพักแล้ว ในแผนกของเธอ เม้าท์เรื่องเจ้านายเป็นงานเสริมอยู่แล้ว “แล้วคุณรักเธอรึเปล่า?”“ผมไม่ได้รักเธอ แต่ผมรักผู้หญิงอีกคน”เขาคว้ามือเธอไปจับแล้วบีบแน่น มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วเหมือนจะระเบิดออกมา อย่าบอกนะ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ...“ดาว”เธอตกใจตาเหลือก เมื่อเขาโน้มหน้าเข้ามาจะจูบ“อย่าค่ะ”“ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมต้องบอกคุณ ก่อนที่ผมจะไม่ได้บอก ผมรักคุณมาตลอดนะดาว รักมาตั้งแต่เด็กแล้ว รักจนห้ามใจแทบไม่ไหว..”“คุณมาบอกฉันทำไม!!!” เธอตวาดเขาไปอย่างสุดกลั้น “มาบอกเพื่ออะไรคะ ในเมื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้”เขาอึ้งไปเจ็ดวิ... “ใช่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ผมแค่อยากจะบอกให้คุณรู้ว่าหัวใจของผมเป็นของคุณเสมอนะ ต่อให้ผมแต่งงานกับคนอื่นก็เถอะ”ขอบคุณมากนะที่บอก เธออยากจะหัวเราะจริงๆ ทำไมผู้ชายตระกูลนี้มันเห็นแก่ตัวจัง“หรือคุณอยากได้ฉันเป็นเมียน้อย”รณภพถึงกับเงียบ..ใจหนึ่งก็คิดแหละพิมพ์ดาวส่ายหน้าระอาใจ “คุณไม่ได้รักฉันจริงหรอกค่ะ คุณรักชีวิตของคุณ รักงานของคุณ เพราะงั้น คุณเลือกในสิ่งที่คุณต้องเลือกเถอะค่ะ คุณจะได้ไม่เส
ชายหนุ่มเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเธอจะไม่แคร์เรื่องที่เขากำลังจะแต่งงานเลยจริงๆ ไม่มีทีท่าหึงหวงอะไรเลยเขาได้แต่ร่างกายของเธอมาจริงๆ แต่หัวใจเธอเป็นของคนอื่นโดยสมบูรณ์ ก็ดีเหมือนกัน เรื่องระหว่างเขากับเธอจะได้จบง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรคาราคาซัง“แล้วเธอล่ะ อยากแต่งงานแบบไหน”คำถามของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง...อยากแต่งแบบไหนเหรอ ก็...แต่งงานท่ามกลางคนที่รักเธอ เรียบๆง่ายๆในสถานที่สวยๆน่ะสิ ..ไม่มีอะไรพิเศษหรอก“ไม่คิด ไม่อยากแต่ง และคิดว่าชาตินี้คงไม่แต่งงานแน่ๆ เพราะผู้ชายดีๆมันหายาก”“อยากได้ผู้ชายดีขนาดไหนกันเชียว หรือว่าแบบพี่ใหญ่” พูดแทงใจดำซะเลยเธอยกไหล่ “แล้วถ้าฉันอยากได้แบบพี่ชายของคุณ มันผิดนักเหรอ?”คำถามนี้ทำให้เขาอึ้งและเจ็บไปอึดใจหนึ่ง “ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้?”“ไม่ต้องย้ำหรอกน่า ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร คุณสบายใจได้ ฉันไม่อยู่ให้รกหูรกตาพวกคุณนานนักหรอก”“หมายความว่าไง ไม่อยู่ให้รกหูรกตา เธอจะไปไหน??”“คุณไม่อยากรู้หรอกน่า”ทำไมจะไม่อยากรู้วะ อยากรู้ใจจะขาด “แต่...”“สปาเก็ตตี้เย็นหมดแล้ว รีบกินเข้าสิ พอเย็นชืดไม่อร่อยก็ด่าฉันอีก” พูดจบเธอก็มุ่งมั่นกินต่อไปเหมือนหิวโซ