ถามแบบนี้ก็เข้าแผนน่ะสิ!
“ไม่” น้ำเสียงหนักแน่น พร้อมเบื่อนหน้าไปอีกทาง
“ไอติมร้านโปรดเย็นนี้” ถึงกับต้องเอาของกินมาล่อซื้อกันแล้ว ทว่า...
“ไม่” พี่คิณมาง้อทั้งที ของที่ได้ต้องใหญ่ไว้ก่อน
“ชานมไข่มุกทั้งเดือน”
“ไม่”
“อย่างกับผัวเมียง้อกัน” อาเธอร์กับมาวินที่ยืนดูอยู่เงียบๆหันมากระซิบคุยกันเอง และคาดว่านักศึกษาคนอื่นก็คิดแบบเดียวกันกับพวกเขา
“อึม อนาคตกูว่ายังไง...ก็ได้กัน” การินที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ลงความเห็น เพื่อนอีกสองคนก็พยักหน้าเห็นตาม
“งั้นเป็นชาบูชุดใหญ่ ทุกครั้งที่เธออย่างกิน”
“...” ดวงหน้าหวานผุดรอยยิ้มบางๆ พลางกรอกตาไปมาครุ่นคิด
“งั้นเอางี้” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กมีท่าที่ลังเล อคิณจึงไม่รอช้า “ฉันยอมให้เธอเขียนหน้าเพิ่มเลยอะ” ว่าแล้วก็หย่อนก้นนั่งกับเก้าอี้ตัวใกล้ๆ รู้ว่าเด็กน้อยมักจะมีปากกาเมจิกติดตัวไว้ตลอดเพราะหวังจะได้แกล้งเขาเมื่อมีโอกาศ จึงล้วงออกมา “อ่ะ ใบหล่อๆของฉัน ตอนนี้เป็นของเธอ”
“เอาจริงเหรอพี่คิณ” ตั้งคำถามเหมือนจะไม่มั่นใจ ทว่าปากกาที่ถูกยัดใส่ในมือ กลับถูกเปิดฝาออกในทันทีแล้วขยับแทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาของอีกฝ่าย
“แต่ขออย่าเละเทะแบบทุกทีก็พอ” มาขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็ไม่ได้ อีกอย่างพอได้เห็นใบหน้าเด็กน้อยเป็นประกาย เขาก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“ได้” ปลาทูฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่ปิดบัง อะไรจะดีไปกว่าการได้เอาคืนพี่อคิณคนนิสัยไม่ดี แต่ข้อเสนอที่เขาให้มาข้างต้นก็น่าสนใจ “แล้ว...ถ้าเขียนหน้าพี่คิณ ปลาทูยังจะได้กินไอติม ชานมทุกเดือน แล้วก็ชาบูอยู่หรือเปล่า”
“นี่ฉันยอมเธอมากขนาดนี้แล้ว ยังจะโลภเอาทุกอย่างเลยหรือไงวะ”
“แต่น้องงอนอยู่นะ” ทำเสียงหงอย สีหน้าหมองลง
อคิณพ่นลมหายใจออกมาเสียงดังพรืดให้กับความได้คืบจะเอาศอกของคนตรงหน้า แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไงเขาก็เลือกอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ “เออ! อยากกินไร กินมันให้หมด ขี้ข้าเธอคนนี้จะเลี้ยงเธอเอง” น้ำเสียงประชดประชัน แต่คนถูกใจระบายยิ้มร่า
“ขอบคุณนะคะพี่อคิณสุดหล่อของน้องปลาทู” น้ำเสียงออดอ้อนอย่างเดียวไม่พอ ต้องพนมมือไหว้ลงไปกราบแนบอกอย่างที่ชอบทำเวลาชายหนุ่มตามใจ
คนเป็นพี่มีหรือจะใจแข็ง เผลอไผลยกมือขึ้นลูบหัวทุย ใบหน้าบึ้งตึงผุดรอยยิ้มบางๆ ทำสาวๆใจบางพลอยยิ้มตาม
ทว่ากลับมีบางส่วนที่เริ่มจะไม่พอใจในตัวของเด็กสาว เนื่องด้วยอคิณมีใบหน้าราวกับพระเจ้าประทาน เปรียบเสมือนเป็นสมบัติอีกหนึ่งอย่างของมหาลัย พูดอีกแบบก็คือหมั่นไส้ เขาไม่เคยทำทีอ่อนโยนแบบนี้กับใครมาก่อนมันยิ่งส่งผลให้หูตาร้อนไปตามๆกัน
“ได้ทุกอย่างแบบนี้ก็เก็บปากกาได้แล้วมั่ง”
“ได้ที่ไหนล่ะคะ” ปลาทูผละออก ก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับคนพี่ พร้อมออกคำสั่ง “พี่คิณหลับตา”
มาถึงตอนนี้อคิณอยากจะตบปากตัวเองเป็นรอยรอบที่พูดไวกว่าสมอง ก่อนจะถอดหายใจเสียงดังอีกครั้งแล้วหลับตาลง มือเล็กจึงเริ่มลงปลายปากกาวนๆกับปลายจมูกโด่งเป็นอย่างแรก
อาเธอร์ มาวิน การิน ที่ยังยืนอยู่ก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ ดูว่าปลาทูจะสร้างศิลปะอะไรบนหน้าเพื่อน ขณะที่สาวน้อยขี้อายอย่างยิ้มก็นั่งมองเงียบๆด้วยความตื่นเต้น
ใบหน้าที่อยู่ห่างกันในระยะไม่ถึงคืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำให้อคิณไม่สามารถฝืนหลับตาได้อีกต่อไป อยู่ๆก็รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ มือที่วางกับโต๊ะเผลอสัมผัสผ่านๆกับเอวบางผ่านชุดนักศึกษา
ดวงตาคมกริบไล่มองสำรวจใบหน้าขาวเนียนละเอียดที่แม้แต่รูขุมขนยังไม่มีให้เห็น แก้มสีอ่อนที่ดูแล้วรู้สึกอยากจะฟัดแรงๆสักรอบสองรอบ จมูกนิดรับกับกลีบปากบางอมชมพูที่ชอบเอาแต่พูดจาก่อกวน เม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
งงใจ ทั้งที่ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทำไมวันนี้เขาพึ่งจะรู้สึกว่าดวงหน้าของเด็กปลาทู สวยหวานสะกดตากว่าทุกครั้งที่ได้มอง
อึก!
ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ทำให้คนที่กำลังตั้งใจลากปากกามาจนถึงปลางคางหลุบมอง “หิวน้ำเหรอพี่คิณ?”
“อึม” ตอบกลับผ่านลำคอ ขณะเม้มปากเข้าหากันแน่น พยายามควบคุมไม่ให้ใจมันสั่นจนส่งเสียงให้น้องได้ยิน
“แปบ...นะ” ปลาทูเอ่ยอย่างใจเย็นเพราะวาดใกล้เสร็จแล้ว โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเอาแต่จับจ้องกับริมฝีปากของเธอตลอดเวลา
“มากไปแล้วเพื่อน” การินถึงกับต้องสะกิดไหล่เป็นการปลุกสติเพื่อนให้รู้ตัว อคิณที่รู้สึกตัวจึงกระพริบตารัวๆ
“เสร็จละ” ปลาทูกลับมายืนเต็มความสูง กอดอกเอนตัวไปด้านหลังเพื่อมองภาพรวมของผลงานที่เธอพึ่งวาดเสร็จด้วยความภูมิใจ ก่อนจะล้วงกระเป๋าสะพาย หยิบเอากระจกขนาดเท่าฝ่ามือแล้วส่งให้คนพี่ ขณะที่คนอื่นๆต่างกลั้นขำแทบไม่อยู่
“เหี้ยไรวะเนี่ย!” คนที่พึ่งเห็นสภาพใบหน้าตัวเองถึงกับดีดตัวลุกพรวด หันไปมองคนยิ้มแป้นตาขว้าง “ปลาทู!”
“หล่อใช่ไหมล่ะ พ่อหมาพันธุ์ดุ” ไม่ว่าเปล่า ยังยกมือขึ้นไปลูบหัวพี่เหมือนลูบหัวน้องหมา อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำและมีแค่เธอเท่านั้นที่ทำได้
“กวนตีนใช่ปะ” ขึงตาใส่ ก่อนจะเอากระจกขึ้นมาส่องอีกรอบ ทั้งจมูกดำและเส้นที่วาดยาวจากจุดดำตรงจมูกลงมาที่คางทั้งสองข้าง ไม่พอยังจะมีวงกลมรอบดวงตาอีกหนึ่งข้าง
ให้ตาย! ไม่น่าปากสว่างให้ยัยเด็กนี่วาดเลยจริงๆ
“แต่กูว่ามึงดูดีอยู่นะ” มาวินตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ พยายามกลั้นขำสุดชีวิต
“จริง ดีกว่าอีผีนั้นเยอะ” อาเธอร์ปลอบพร้อมส่งสายตาให้เพื่อนดูหน้าจอโทรศัพท์ของเด็กสาวที่เปิดค้างไว้อยู่ มันคือเรฟเฟอเรนซ์ของผีตาโบ๋ อคิณถึงกับเข่าอ่อน พูดไม่ออก
นี่ถ้ายัยตัวแสบวาดให้เขาเป็นแบบนี้คงได้วางมวยกันแน่
“เอาน่ามึง ถือว่าให้น้องมันวันนึง” การินก็ช่วยพูด ทว่าก็อดขำไม่ได้อยู่ดี ถือว่าปลาทูแสบเอาเรื่องที่ทำให้คนนิ่งโหดแบบไอ้อคิณยอมได้ขนาดนี้
“แต่พี่คิณก็หล่ออยู่ดีนะ” เด็กน้อยว่า ถึงจะอมยิ้มกริ่ม แต่น้ำเสียงไม่มีความติดเล่น “ตั้งแต่โตมา ปลาทูวาดหน้าพี่คิณบ่อยมากแต่ไม่มีครั้งไหนที่ความหล่อของพี่คิณจะลดลงสักครั้งเลยค่ะ”
อันนี้เธอพูดจริง ทุกครั้งที่แกล้งเขียนหน้าพี่ หวังอยากให้ดูตลกในสายตาคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ สาวๆยังหันมาส่งยิ้มให้เขาไม่แผ่ว
...เขาเป็นพี่ชายที่หล่อที่สุดของเธอ
พอได้ยินน้องชมว่าหล่อ ความโกรธก็ดูจะลดลงง่ายๆ สีหน้าเคร่งขรึมกลายเป็นนิ่งเรียบตามสไตล์ตัวเอง พร้อมมุมปากกระตุกบางๆ
เด็กน้อยช่างพูด
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั