“ไม่” น้ำเสียงหนักแน่น พร้อมเบือนหน้าไปอีกทาง
“ไอติมร้านโปรดเย็นนี้” ถึงกับต้องเอาของกินมาล่อซื้อกันแล้ว ทว่าก็...
“ไม่” พี่คิณมาง้อทั้งที ของที่ได้ต้องใหญ่ไว้ก่อน
“ชานมไข่มุกทั้งเดือน”
“ไม่”
“อย่างกับผัวเมียง้อกัน” อาเธอร์กับมาวินที่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ หันมากระซิบคุยกันเอง และคาดว่านักศึกษาคนอื่นก็คิดแบบเดียวกันกับพวกเขา
“อืม อนาคตกูว่ายังไง...ก็ได้กัน” การินที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ลงความเห็น เพื่อนอีกสองคนก็พยักหน้าเห็นตาม
“งั้นเป็นชาบูชุดใหญ่ ทุกครั้งที่เธออยากกิน”
“...” ดวงหน้าหวานผุดรอยยิ้มบาง ๆ พลางกลอกตาไปมาครุ่นคิด
“งั้นเอางี้” เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กมีท่าทีลังเล อคิณจึงไม่รอช้า “ฉันยอมให้เธอเขียนหน้าเพิ่มเลยอะ” ว่าแล้วก็หย่อนก้นนั่งกับม้านั่งใกล้ ๆ รู้ว่าเด็กน้อยมักจะมีปากกาเมจิกติดตัวไว้ตลอดเพราะหวังจะได้แกล้งเขาเมื่อมีโอกาส จึงล้วงออกมา “อะ ใบหน้าหล่อ ๆ ของฉัน ตอนนี้เป็นของเธอ”
“เอาจริงเหรอพี่คิณ” ตั้งคำถามเหมือนจะไม่มั่นใจ ทว่าปากกาที่ถูกยัดใส่ในมือ กลับถูกเปิดฝาออกในทันที แล้วขยับแทรกตัวเข้าไปอยู่ระหว่างขาของอีกฝ่าย
“แต่ขออย่าเละเทะแบบทุกทีก็พอ” มาขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็ไม่ได้ อีกอย่างพอได้เห็นใบหน้าเด็กน้อยเป็นประกาย เขาก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“ได้” ปลาทูฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่ปิดบัง อะไรจะดีไปกว่าการได้เอาคืนพี่อคิณคนนิสัยไม่ดี แต่ข้อเสนอที่เขาให้มาข้างต้นก็น่าสนใจ “แล้ว...ถ้าเขียนหน้าพี่คิณ ปลาทูยังจะได้กินไอติม ชานมทั้งเดือน แล้วก็ชาบูอยู่หรือเปล่า”
“นี่ฉันยอมเธอมากขนาดนี้แล้ว ยังจะโลภเอาทุกอย่างเลยหรือไงวะ”
“แต่น้องงอนอยู่นะ” ทำเสียงหงอย สีหน้าหมองลง
อคิณพ่นลมหายใจออกมาเสียงดังพรืดให้กับความได้คืบจะเอาศอกของคนตรงหน้า แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไงเขาก็เลือกอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ
“เออ! อยากกินไร กินมันให้หมด ขี้ข้าเธอคนนี้จะเลี้ยงเธอเอง” น้ำเสียงประชดประชัน แต่คนถูกใจระบายยิ้มร่า
“ขอบคุณนะคะ พี่อคิณสุดหล่อของน้องปลาทู” น้ำเสียงออดอ้อนอย่างเดียวไม่พอ ต้องพนมมือไหว้ลงไปกราบแนบอกอย่างที่ชอบทำเวลาชายหนุ่มตามใจ
คนเป็นพี่มีหรือจะใจแข็ง เผลอไผลยกมือขึ้นลูบหัวทุย ใบหน้าบึ้งตึงผุดรอยยิ้มอ่อน ๆ ทำสาว ๆ ใจบางพลอยยิ้มตาม
ทว่ากลับมีบางส่วนที่เริ่มจะไม่พอใจในตัวของเด็กสาว เนื่องด้วยอคิณมีใบหน้าราวกับพระเจ้าประทาน เปรียบเสมือนเป็นสมบัติอีกหนึ่งอย่างของมหาวิทยาลัย พูดอีกแบบก็คือหมั่นไส้ เขาไม่เคยทำท่าทีอ่อนโยนแบบนี้กับใครมาก่อน มันยิ่งส่งผลให้หูตาร้อนไปตาม ๆ กัน
“ได้ทุกอย่างแบบนี้ก็เก็บปากกาได้แล้วมั้ง”
“ได้ที่ไหนล่ะคะ” ปลาทูผละออก ก่อนจะโน้มตัวให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับคนพี่ พร้อมออกคำสั่ง “พี่คิณหลับตา”
มาถึงตอนนี้อคิณอยากจะตบปากตัวเองเป็นร้อยรอบที่พูดไวกว่าสมอง ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังอีกครั้งแล้วหลับตาลง มือเล็กจึงเริ่มลงปลายปากกาวน ๆ กับปลายจมูกโด่งเป็นอย่างแรก
อาเธอร์ มาวิน การิน ที่ยังยืนอยู่ก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ ดูว่าปลาทูจะสร้างศิลปะอะไรบนหน้าเพื่อน ขณะที่สาวน้อยขี้อายอย่างยิ้มก็นั่งมองเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น
ใบหน้าที่อยู่ห่างกันในระยะไม่ถึงคืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำให้อคิณไม่สามารถฝืนหลับตาได้อีกต่อไป อยู่ ๆ ก็รู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ มือที่วางราบกับโต๊ะเผลอสัมผัสผ่าน ๆ กับเอวบางผ่านชุดนักศึกษา
ดวงตาคมกริบไล่มองสำรวจใบหน้าขาวเนียนละเอียดที่แม้แต่รูขุมขนยังไม่มีให้เห็น แก้มสีอ่อนที่ดูแล้วรู้สึกอยากจะฟัดแรง ๆ สักรอบสองรอบ จมูกนิดรับกับกลีบปากบางอมชมพูที่ชอบเอาแต่พูดจาก่อกวน เม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
งงใจ ทั้งที่ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ทำไมวันนี้เขาพึ่งจะรู้สึกว่าดวงหน้าของเด็กปลาทู สวยหวานสะกดตา กว่าทุกครั้งที่ได้มอง
อึก!
ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ทำให้คนที่กำลังตั้งใจลากปากกามาจนถึงปลายคางหลุบมอง
“หิวน้ำเหรอพี่คิณ?”
“อืม” ตอบกลับผ่านลำคอ ขณะเม้มปากเข้าหากันแน่น พยายามควบคุมไม่ให้ใจมันสั่นจนส่งเสียงให้น้องได้ยิน
“แป๊บ...นะ” ปลาทูเอ่ยอย่างใจเย็นเพราะวาดใกล้เสร็จแล้ว โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเอาแต่จับจ้องกับริมฝีปากของเธอตลอดเวลา
“มากไปแล้วเพื่อน” การินถึงกับต้องสะกิดไหล่เป็นการปลุกสติเพื่อนให้รู้ตัว อคิณจึงกะพริบตารัว ๆ
“เสร็จละ” ปลาทูกลับมายืนเต็มความสูง กอดอกเอนตัวไปด้านหลังเพื่อมองภาพรวมของผลงานที่เธอพึ่งวาดเสร็จด้วยความภูมิใจ ก่อนจะล้วงกระเป๋าสะพาย หยิบเอากระจกขนาดเท่าฝ่ามือส่งให้พี่ ขณะที่คนอื่น ๆ ต่างกลั้นขำแทบไม่อยู่
“เหี้ยไรวะเนี่ย!” คนที่พึ่งเห็นสภาพใบหน้าตัวเองถึงกับดีดตัวลุกพรวด หันไปมองเด็กยิ้มแป้นตาขวาง “ปลาทู!”
“หล่อใช่ไหมล่ะ พ่อหมาพันธุ์ดุ” ไม่ว่าเปล่า ยังยกมือขึ้นไปลูบหัวพี่เหมือนลูบหัวน้องหมา อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำและมีแค่เธอเท่านั้นที่ทำได้
“กวนตีนใช่ปะ” ขึงตาใส่ ก่อนจะเอากระจกขึ้นมาส่องอีกรอบ ทั้งจมูกดำและเส้นที่วาดยาวอ้อมลงมาถึงคางแล้วอ้อมกลับขึ้นไปอีกทางยังจุดปลายจมูก ไม่พอยังจะมีวงกลมรอบดวงตาอีกหนึ่งข้าง
ให้ตาย! ไม่น่าปากสว่างให้ยัยเด็กนี่วาดเลยจริง ๆ
“แต่กูว่ามึงดูดีอยู่นะ” มาวินตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ พยายามกลั้นขำสุดชีวิต
“จริง ดีกว่าอีผีนั่นเยอะ” อาเธอร์ปลอบพร้อมส่งสายตาให้เพื่อนดูหน้าจอโทรศัพท์ของเด็กสาวที่เปิดค้างไว้อยู่ มันคือเรฟเฟอเรนซ์ของผีตาโบ๋ อคิณถึงกับเข่าอ่อน พูดไม่ออก
นี่ถ้ายัยตัวแสบวาดให้เขาเป็นแบบนี้คงได้วางมวยกันแน่
“เอาน่ามึง ถือว่าให้น้องมันวันนึง” การินก็ช่วยพูด ทว่าก็อดขำไม่ได้อยู่ดี ถือว่าปลาทูแสบเอาเรื่องที่ทำให้คนนิ่งโหดแบบไอ้อคิณยอมได้ขนาดนี้
“แต่พี่คิณก็หล่ออยู่ดีนะ” เด็กน้อยว่า ถึงจะอมยิ้มกริ่มแต่น้ำเสียงไม่มีความติดเล่น “ตั้งแต่โตมา ปลาทูวาดหน้าพี่คิณบ่อยมาก แต่ไม่มีครั้งไหนที่ความหล่อของพี่คิณจะลดลงสักครั้งเลยค่ะ”
อันนี้เธอพูดจริง ทุกครั้งที่แกล้งเขียนหน้าพี่หวังอยากให้ดูตลกในสายตาคนอื่น ๆ แต่มันก็ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ สาว ๆ ยังหันมาส่งยิ้มให้เขาไม่แผ่ว
...เขาเป็นพี่ชายที่หล่อที่สุดของเธอ
พอได้ยินน้องชมว่าหล่อ ความโกรธก็ดูจะลดลงง่าย ๆ สีหน้าเคร่งขรึมกลายเป็นนิ่งเรียบตามสไตล์ตัวเอง พร้อมมุมปากกระตุกบาง ๆ
เด็กน้อยช่างพูด
“รู้ไหมว่าพวกพ่อ ๆ กับแม่ ๆ เป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วยทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อจนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริง ๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวลใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริง ๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี” เป็นต้องซู้ดปากแรง ๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียวเด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใด ๆ ผงกหัวขึ้นลง แรก ๆ ก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุ้นจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อกโกแลตชิปกับชาเขียวที่กินเท่าไรก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร่าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไว ๆ คับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบา ๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่ะ!
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ ๆ คนอื่นรับออร์เดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่น ๆ ขอให้ได้ชื่นใจ สักวินาทีเดีนวก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ”ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มันเวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไวเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาว ๆ เดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอม
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือเผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่ายโมง ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน้ตบุ๊กไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา“หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปรงแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค้ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลา
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ”“ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?”“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน“ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเปี่ยม
1เดือนต่อมา@ บนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นานอคิณก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้าง ๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ”“คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ แล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้หัวใจได้ชุ่มฉ่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะด้วยแอร์ โฮสเตสสาวสวยที่มาเสริฟ Welcome Drink“ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบาง ๆ แล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายตาให้บ่อย ๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเด