Share

บทที่ 290

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
วันประกาศผลสอบ

จางอี้มิได้ไปสนามสอบ

รู้อยู่แล้วว่าสอบไม่ผ่าน ไปก็มีแต่ผิดหวัง

หรงกั๋วกงจางเฉวียนเห็นท่าทางเช่นนี้ของลูกชาย ก็รู้ว่าต้องสอบไม่ผ่าน นี่ถึงไม่ยอมไปขายหน้าที่สนามสอบ

“เฮ้อ...”

จางเฉวียนทอดถอนใจ จิบสุราอย่างอึดอัดใจเพียงลำพัง

อวี๋ซื่อเดินเข้ามา “นายท่าน ก็แค่ลูกชายสอบไม่ผ่านเท่านั้นมิใช่หรือ? เหตุใดท่านผิดหวังเพียงนี้?”

จางเฉวียนตาแดงก่ำ “เจ้าไม่รู้ หลายวันก่อนข้าและกั๋วกงคนอื่นสองสามคนดื่มสุราด้วยกัน โอ้อวดไปอย่างอดไม่ได้ พูดว่าลูกชายจะต้องสามารถเป็นบัณฑิตชั้นสูงได้อย่างแน่นอน พวกเขาไม่เชื่อ ทั้งหมดล้วนเยาะหยันข้า!”

“ตอนนั้นข้าโมโหมาก เดิมพันกับพวกเขา!”

“หากลูกชายสอบไม่ผ่าน ก็ยอมมอบให้พวกเขาหนึ่งพันตำลึงทอง...”

อวี๋ซื่อตกตะลึง “หนึ่งพันตำลึงทอง? นายท่าน ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”

จางเฉวียนตบหน้าตนเองแรงๆ ทีหนึ่ง “เฮ้อ เป็นความผิดของข้าเอง โทษลูกไม่ได้! ข้าชอบคุยโวโอ้อวดติดเป็นนิสัย สมควรปรับปรุงได้แล้ว! ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว อี้เอ๋อร์เป็นเช่นไร? ยังขังตัวอยู่ภายในห้อง ไม่ยอมออกมาหรือไม่?”

อวี๋ซื่อส่ายหน้า “ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อครู่ข้าเดินผ่านห้องของเขา เห็นเขากำลังอ่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 291

    “สอบได้หรือ?”“สอบได้จริงๆ หรือ?”หลังจากนั้นไม่นาน จางเฉวียนก็ได้สติกลับมา อยู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังในช่วงสามร้อยปีนับตั้งแต่การสถาปนาต้าเซี่ย ก็ไม่เคยจะมีลูกหลานของชนชั้นสูงได้เป็นบัณฑิตชั้นสูงเลยสักคน ประการแรก เพราะชนชั้นสูงก็คือทหาร เดิมทีไม่ก็ไม่ได้เรียนหนังสือประการที่สอง ชนชั้นสูงมีบรรดาศักดิ์อยู่กับตัว เหตุใดต้องเรียน เหตุใดต้องสอบขุนนาง เหตุใดต้องไปสู้ตายกับพวกบัณฑิต แบบนั้นไม่เหนื่อยหรือ?ประการที่สาม เป็นเรื่องสำคัญกลุ่มขุนนางที่ควบคุมระบบการสอบขุนนาง จะมีชนชั้นสูงเป็นศัตรูที่จะได้รับส่วนแบ่งจากขนมก้อนนี้ด้วยการสอบขุนนางในรอบนี้ ฮ่องเต้เป็นผู้ออกข้อสอบเอง และตรวจข้อสอบเอง รับประกันได้ว่าคะแนนนั้นยุติธรรมอย่างแน่นอนจางอี้ลูกชายของชนชั้นสูงผู้นี้ ถึงได้สามารถเจาะช่องว่างได้!เมื่อเป็นเช่นนี้ จางอี้จึงกลายเป็นแบบอย่างของคนชั้นสูงที่ไม่ว่าจะในหมู่คนในสมัยก่อน หรือในหมู่คนรุ่นหลังก็ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของต้าเซี่ยสถานะของจางเฉวียนในหมู่ชนชั้นสูงก็เพิ่มขึ้น แทนที่ตระกูลซูที่เสื่อมถอยลงอย่างสมบูรณ์ และกลายเป็นผู้นำอย่างแท้จริง“ไป!”“ไปเรียกไอ้ลูกชาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 292

    มันต้องมีเหตุผล ที่อยู่ๆ ฮ่องเต้ก็รีบร้อนเรียกตนเองและจางอี้เข้าวัง!ดูเหมือนว่าการโกงของจางอี้จะถูกเปิดเผยแล้ว ดังนั้นฮ่องเต้จึงทรงพิโรธอย่างมาก!ลำไส้ของจางเฉวียนเต็มไปด้วยความเสียใจแล้วตนช่างเป็นผีที่หลงผิดจริงๆ แม้ว่าจางอี้จะเป็นคนไม่เอาไหน เป็นคนที่ร่ำรวยและมีชีวิตที่สงบสุขมันไม่ดีกว่าหรือ?สอบขุนนางอะไร? ได้เป็นบัณฑิตชั้นสูงอะไร?เห็นเขาเป็นวัสดุหรืออย่างไร?ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะการโกงในการสอบขุนนาง ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง!ไม่เพียงแต่จางอี้ต้องได้รับโทษเท่านั้น แม้แต่ตัวเขาก็อาจจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวได้!ตอนนี้จะพูดอะไรไปมันก็สายเกินไปแล้วเข้าวังก่อน แล้วดูว่าฮ่องเต้จะตรัสอย่างไร!จางเฉวียนไม่กล้าชะล่าใจ เขารีบพาจางอี้เข้าวังไปทันทีท้องพระโรงบรรดาขุนนางทุกคนต่างก็ยืนกันอย่างเคร่งขรึม บรรยากาศกดดันอย่างมากสามัญชนคนหนึ่งคุกเข่าลงบนพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น คนผู้นั้นก็คือหนิงชิงโหวบัณฑิตจอหงวนคนใหม่จางเฉวียนเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งรู้สึกสับสนอย่างยิ่งหนิงชิงโหวก็อยู่ด้วยหรือดูเหมือนว่าจะเป็นการโกงจริงๆ ฮ่องเต้กำลังพิโรธจางเฉวียนเห็นหลี่หลงหลินยืนอยู่ที่ด้านหน้า

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 293

    ข้าดูแลการสอบขุนนางพระราชทานนี้ด้วยตัวเองเพิ่งประกาศผลสอบ พวกเจ้าก็เสนอหน้าออกมาบอกว่าเจ้าเก้าโกงไม่ใช่แค่ตบหน้าเจ้าเก้าเท่านั้นแต่ยังเป็นการตบหน้าข้าด้วย!เดิมทีข้าคิดว่าจะสร้างบารมีต่อหน้าเหล่าบัณฑิตแต่พวกเจ้าทำให้เรื่องมันวุ่นวายขนาดนี้ คิดว่าข้าเป็นอะไร?ฮ่องเต้หวู่อดกลั้นความโกรธเอาไว้ “ใต้เท้าตู้ เจ้าใส่ร้ายข้าจริงๆ หรือ?”ฟุบ!ตู้เหวินยวนรีบคุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยด้วยตัวสั่นเทา “กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่เดือดดาลพร้อมตวาดกร้าว “แล้วเจ้าหมายความเช่นไร?”ตู้เหวินยวนก้มหน้าลง “กระหม่อมหมายความว่า องค์ชายเก้าขโมยข้อสอบในขณะที่ฝ่าบาททรงไม่รู้ตัวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เว่ยซวินที่ยืนอยู่ข้างฮ่องเต้หวู่ ได้ยินสิ่งที่ตู้เหวินยวนกล่าวมา ก็ตัวสั่นไปทั้งตัว “ใต้เท้าตู้ ท่านหมายความว่า เราทำข้อสอบรั่วไหลให้องค์ชายเก้าหรือ?”คนที่รู้หัวข้อการสอบมีเพียงสองคนเท่านั้นคนหนึ่งคือฮ่องเต้หวู่ อีกคนคือเว่ยซวินตู้เหวินยวนกำลังตีวัวกระทบคราด แท้จริงแล้วกำลังมุ่งเป้ามาที่เว่ยซวิน!ฟุบ!เว่ยซวินคุกเข่าลงบนพื้นด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ได้ทำข้อ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 294

    “นี่...”ฮ่องเต้หวู่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเขาตรวจข้อสอบด้วยตัวเองแล้ว จอหงวนก็ถูกกำหนดแล้ว หรือไม่ยังต้องสอบอีกครั้งหรือ?หลี่หลงหลินก้าวขึ้นไปข้างหน้า ยกมือคำ นับกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าทำตามที่ใต้เท้าตู้เสนอเถอะพ่ะย่ะค่ะ เมื่อมีการสอบหน้าพระที่นั่ง จะได้ปิดปากพล่อยๆ ของคนในใต้หล้าได้!”คนที่มีความสามารถอย่างหนิงชิงโหว หลี่หลงหลินมั่นใจมากสอบหน้าพระที่นั่งก็สอบไปสิ!ใครจะกลัวใครกันแน่?ส่วนจางอี้ หลี่หลงหลินก็เตรียมมาตรการรับมือเอาไว้แล้วตู้เหวินยวนตะลึงงัน มองหลี่หลงหลินด้วยความไม่เข้าใจเดิมทีเขานึกว่าเมื่อมีการสอบอีกครั้ง มันจะสามารถเปิดเผยการเสแสร้งของหลี่หลงหลิน และทำให้ถึงแก่ชีวิตของเขาได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่า หลี่หลงหลินจะตอบตกลงทันที?หรือจะแค่วางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาคนอื่น?ใช่ เขาจะต้องวางมาดใหญ่โต เพื่อตบตาคนอื่นเป็นแน่!ฮ่องเต้หวู่ทรงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ากล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะเปิดสอบใหม่อีกรอบ ส่วนหัวข้อ ใต้เท้าตู้ก็เป็นคนตั้งเองเถอะ!”หนึ่งฮ่องเต้หวู่ไม่เก่งเรื่องบริหารบ้านเมือง เพียงหัวข้อการสอบพระราชทาน ก็ทำให้เขาปวดหัว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 295

    แม้แต่เด็กก็ท่องได้ มันคือพื้นฐานที่สุด!แต่จางอี้เป็นคุณชายเสเพลไร้ประโยชน์ที่มีชื่อเสียง ไม่มีทางท่องมันได้แน่!จางเฉวียนได้ยินว่าให้ท่องสี่ตำราห้าคัมภีร์ เขากลับมีความมั่นใจมาก ยืดหลังตรงแล้วกล่าวว่า “ใต้เท้าตู้ นี่คือสิ่งที่ท่านพูดเอง! ท่านถามมาเถอะ”ตู้เหวินยวนขมวดคิ้ว แล้วถาม “บทเรียนแห่งการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ในหนังสือพิธีกรรม ท่องออกมาเถอะ!”จางอี้ประหม่ามากจริงๆ เนื้อตัวสั่นไม่หยุด แต่เมื่อได้ยินคำว่าการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ ร่างกายก็ตอบสนองทันที ก่อนจะพูดออกมาอย่างชัดเจน ท่องออกมาอย่างชำนาญ “หลักแห่งการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ เกิดจากคุณธรรม...”การมุ่งมั่นของจางอี้หนึ่งเดือนมานี้ ไม่ได้ไร้ประโยชน์จริงๆเขาท่องออกมาไม่ขาดแม้แต่ตัวเดียว!ตู้เหวินยวนเริ่มตื่นตระหนกแล้ว “เมิ่งจื่อ บทเรียนหลักการปกครอง!”จางอี้ยังคงท่องออกมาเหมือนจำขึ้นใจตู้เหวินยวนเริ่มจะตื่นตระหนกจริงๆ แล้ว ยิ่งถามก็ยิ่งฝืน แม้แต่คัมภีร์ “อี้จิง” ที่ค่อนข้างคลุมเครือก็ยังถูกยกออกมาแต่มันก็ยังไร้ประโยชน์จางอี้เก่งเรื่องสี่ตำราห้าคัมภีร์เนื้อหาในขอบเขตนี้ เขาคือหนึ่งในตองอู!หลังจากจางอี้ท่องบทความไปหลาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 296

    ฮ่องเต้ส่งเสียงเฮอะเบาๆตราบใดที่เจ้าเก้าเต็มใจเสียสละ เขาก็ไม่กลัวว่าหนิงชิงโหวจะไม่ตอบตกลงในโลกนี้ไม่มีใครไม่ชอบอำนาจเจ้าเก้าเป็นองค์ชาย ติดตามเขาแล้วจะมีอนาคตอะไรได้?มาติดตามข้ายังดีเสียกว่า รับรองว่าเจ้าจะได้ก้าวหน้าและมีเกียรติมั่งคั่งอย่างแน่นอนฮ่องเต้หวู่มองไปที่หนิงชิงโหวแล้วพูดว่า “ความสามารถของเจ้าข้าชื่นชมเป็นอย่างมาก! ข้าจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นอาลักษณ์สำนักฮั่นหลิน เจ้าห้ามปฏิเสธ ไม่เช่นนั้นข้าจะโกรธ”อาลักษณ์สำนักฮั่นหลิน คือขุนนางขั้นหกแม้ว่าตำแหน่งขุนนางจะไม่สู้ แต่กลับสูงส่งและมีเกียรติหนิงชิงโหวยังอายุน้อย หลังจากฝึกฝนอยู่ในสำนักฮั่นหลินสักหลายปี ถ้าฮ่องเต้ถูกตาต้องใจ ก็จะแต่งตั้งเขาให้เป็นปราชญ์มหาสำนักในสำนักเลขาธิการฮ่องเต้หวู่กลัวว่าหนิงชิงโหวจะปฏิเสธ ยังตั้งใจพูดข่มขู่ด้วยหนิงชิงโหวคุกเข่าลงเพื่อขอบคุณในความเมตตาโดยไม่ลังเล “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา”ใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ฉายความภาคภูมิใจ แล้วมองไปที่หลี่หลงหลินเจตนานั้นชัดเจนมากลูกชาย เจ้าอยากจะแข่งกับข้าหรือ?ยังอ่อนหัดเกินไป!ไม่ว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหนิงชิงโหวขนาดไหน แต่เมื

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 297

    “ช่างเถอะ!”“ในเมื่อหนิงชิงโหวมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่ได้เห็นบ่อยนัก!”ฮ่องเต้หวู่ต้องการกู้สถานการณ์กลับมา เขาเดินไปหาจางอี้ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นอาลักษณ์สำนักฮั่นหลิน เจ้าจะยินดีหรือไม่?”อาลักษณ์สำนักฮั่นหลินคือขุนนางขั้นหก มีเพียงบัณฑิตจอหงวนเท่านั้นถึงจะสามารถได้รับสิทธิพิเศษนี้แต่จางอี้เป็นเพียงบัณฑิตจอหงวน อันดับยังต่ำไปแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ของหรงกั๋วกงอยู่ด้วย อย่างมากจางอี้ก็ควรจะถูกแต่งตั้งเป็นบัณฑิตทดลองปฏิบัติราชการประจำสำนักฮั่นหลินเท่านั้น ไม่มีตำแหน่งขั้น เบี้ยหวัดก็ไม่สูงแต่ถึงอย่างนั้นฮ่องเต้หวู่กลับแต่งตั้งจางอี้เป็นอาลักษณ์ประจำสำนักฮั่นหลิน เห็นได้ชัดว่าต้องการแข่งขันกับหนิงชิงโหวเจ้าไม่อยากติดตามข้า แต่คนใต้หล้านี้ล้วนอยากติดตามข้า!อีกอย่างข้าหาคนที่มีความสามารถได้ไม่เท่าเจ้า ยอมให้เขามารับตำแหน่งแทนเจ้าถามเจ้าหน่อยว่าโกรธหรือไม่!หนิงชิงโหวหัวเราะเจื่อน ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย!สำหรับตำแหน่งขุนนางในต้าเซี่ย เขารู้สึกผิดหวัง ไม่มีหวังต่อเส้นทางอาชีพขุนนางมานานแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาลักษ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 298

    ฮ่องเต้หวู่เดือดดาลอย่าง กลุ่มขุนนางก็พากันถอยออกไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ภายในท้องพระโรงก็เหลืออยู่ไม่กี่คนแล้ว หลี่หลงหลินอยากจะฉวยโอกาสนี้หนีไปเช่นกัน แต่กลับถูกฮ่องเต้หวู่เรียกเอาไว้ “เจ้าเก้า เจ้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า!”“พ่ะย่ะค่ะ”หลี่หลงหลินพยักหน้า ในใจกลับรู้สึกกลัวเสด็จพ่อหักหน้าไม่สำเร็จ ก็เลยอยากระบายความโกรธมาที่ตนงั้นหรือ?อยู่กับฮ่องเต้ก็เหมือนอยู่กับเสียจริงๆ!ฮ่องเต้หวู่คว้ามือของหลี่หลงหลิน แล้วกล่าวด้วยสีหน้ามีเมตตา “เจ้าเก้า ความกตัญญูของเจ้านั้นน่าชื่นชม ข้าปลาบปลื้มยิ่งนัก! ในเมื่อหนิงชิงโหวเป็นบัณฑิตจอหงวนที่มีความสามารถ เรื่องส่งผู้ตรวจการกองทัพไปก็พอเท่านี้เถอะ!”เว่ยซวินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้ามืดมนวุ่นวายมาจนถึงช่วงสุดท้าย ไม่เพียงแต่พยายามเสียเปล่า แต่ยังล่วงเกินหลี่หลงหลินด้วยคราวนี้ พวกเขาเสียเปรียบใหญ่หลวงจริงๆ!ตอนนี้ฮ่องเต้กำลังชื่นชมองค์ชายเก้ามากไม่ว่าจะด้วยเป้าหมายอะไร เขาก็ต้องหาทางแก้ไขความสัมพันธ์กับองค์ชายเก้าให้ได้เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้หวู่ไม่โกรธ หลี่หลงหลินจึงกล่าวอย่างมีความสุข “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”ฮ่องเต้หวู่ตบไหล่ข

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1288

    ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้หวู่ เปี่ยมด้วยความพอใจอย่างยิ่ง “เจ้าเก้านี่มักจะทำให้ข้าประหลาดใจได้เสมอจริงๆ”ฮ่องเต้หวู่ทรงยกน้ำแกงปลาเบื้องหน้าขึ้น ค่อยๆ ลิ้มรสความหวานละมุน รสชาติยังคงติดตรึง ยิ่งกว่าความอร่อยที่รับรู้ทางรสสัมผัสคือความรู้สึกอิ่มเอมในพระทัยเมื่อเห็นฝ่าบาททรงพอพระทัยยิ่งนัก ฮองเฮาหลินจึงรีบทูลว่า “ฝ่าบาท หากฝ่าบาททรงโปรด หม่อมฉันสามารถทำน้ำแกงปลาถวายฝ่าบาทได้ทุกวัน เพื่อบำรุงพระวรกายของฝ่าบาทเพคะ ยิ่งไปกว่านั้น แม้พระโอรสจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นี่ก็เป็นความกตัญญูของเขาเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงดื่มน้ำแกงปลาในชามจนหมดสิ้น ก็รู้สึกสบายพระวรกาย “ข้าไม่เคยได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่สดอร่อยถึงเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าที่ตงไห่จะมีปลาพันธุ์ดีรสเลิศเช่นนี้อยู่ด้วย วันนี้ข้าถือว่าได้อิ่มหนำสำราญแล้ว!”เมื่อเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงสำราญพระทัย ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในใจของฮองเฮาหลินก็คลายลง นางกลัวว่าฮ่องเต้หวู่จะทรงลงพระอาญาแก่หลี่หลงหลิน ในความเห็นของฮองเฮาหลินแล้ว น้ำแกงปลาชามนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของหลี่หลงหลินทีเดียวฮ่องเต้หวู่มองไปที่เว่ยซวินอย่างสนพระทัยยิ่ง ตรัสว่า “สหาย เล่าให้ข้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1287

    เรื่องในราชสำนักล้อเล่นไม่ได้เป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะต้องนำพาภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและราษฎร ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้ยืนเอามือไพล่หลัง ใบหน้าเคร่งขรึม “ข้าตั้งใจจะเรียกตัวองค์รัชทายาทเข้าเมืองหลวงมาพบข้าทันที ข้าจะถามเขาต่อหน้า ว่าไอ้ ‘เหตุใดไม่กินโจ๊กเนื้อเล่า’ นี่มันหมายความว่ากระไรกันแน่!”ทันใดนั้น ฮองเฮาหลินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทูลว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่พระโอรสพูด ดูเหมือนว่า...ก็ไม่ผิดนะเพคะ”“อะไรนะ?”ในแววตาของฮ่องเต้เต็มไปด้วยความเย็นชา “มิน่าเล่าหลี่หลงหลินถึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่เจ้ายังเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา! เหลือเชื่อจริงๆ! มีแม่เช่นไรย่อมมีลูกเช่นนั้น!”เพียงชั่วพริบตา ความประทับใจดีๆ ที่ฮ่องเต้ทรงมีต่อฮองเฮาหลินมาตลอดหลายปีก็มลายหายไปสิ้นฮองเฮาหลินทูลเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะทรงเข้าพระทัยความหมายของหม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”กล่าวจบ ฮองเฮาหลินก็ทรงหยิบสาส์นฉบับนั้นออกมา ถวายให้ฮ่องเต้ “ฝ่าบาท นี่คือลายมือขององค์รัชทายาทเพคะ ขอฝ่าบาททอดแววตาด้วยเพคะ”ฮ่องเต้ทรงเหลือบมอง ในแววตาเต็มไปด้วยโทสะ “ข้าไม่ดู! ต่อให้เป็นล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1286

    ฮองเฮาหลินทรงประหลาดพระทัยยิ่งนัก บนใบหน้าอันงดงามสมเป็นมารดาแห่งแผ่นดินปรากฏแววตกตะลึง “ฝ่าบาท เหตุใดฝ่าบาทจึงตรัสถึงพระโอรสเช่นนั้นเพคะ?”ฮองเฮาหลินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ทอดพระเนตรเห็นว่าฮ่องเต้หวู่ผู้ซึ่งปกติทรงโปรดปรานหลี่หลงหลินยิ่งนัก ยามนี้กลับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทรงแสดงท่าทีรังเกียจหลี่หลงหลินกระทั่งเมื่อทรงทราบว่าปลานี้หลี่หลงหลินส่งมาจากตงไห่ด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้ ก็ไม่ยอมเสวยน้ำแกงปลาต่อฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พอนึกถึงหลี่หลงหลินขึ้นมา ก็รู้สึกเดือดดาลในท้อง ยิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะเสวยน้ำแกงปลาใดๆ ทั้งสิ้น“ทำไม? ข้าต่างหากที่อยากจะถามเจ้าว่าเหตุใด! เหตุใดองค์รัชทายาทที่ปกติก็ดูดีๆ อยู่ พอไปถึงตงไห่จึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!”ฮ่องเต้หวู่กริ้วจนพระพักตร์แดงก่ำ แววตาลุกวาบด้วยโทสะขอบตาของฮองเฮาหลินแดงก่ำขึ้นทันที นางไม่เคยเห็นฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วถึงเพียงนี้มาก่อน ร่ำไห้สะอื้นไม่หยุด “ฝ่าบาท พระโอรสของหม่อมฉันเพียงแค่อยากจะบำรุงพระวรกายให้ฝ่าบาท เหตุใดจึงต้องทรงจ้องจับผิดเรื่องความเหลวไหลของเขาอยู่เรื่อย การส่งปลาด้วยม้าเร็วแปดร้อยลี้มันเหลวไหลมา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1285

    ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรไปรอบๆ พระตำหนัก แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของฮองเฮาหลิน ก็ยิ่งทำให้โทสะพุ่งขึ้น “ฮองเฮาหลินอยู่ไหน! ข้าต้องการพบนางเดี๋ยวนี้!”ขันทีน้อยประจำตำหนักฉางเล่อรีบหมอบราบกับพื้น “ทูลฝ่าบาท วันนี้ฮองเฮาเสด็จออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ออกไป? ไปไหน?”คิ้วของฮ่องเต้หวู่ขมวดแน่น โทสะยิ่งพลุ่งพล่าน เดิมทีก็ทรงกริ้วเรื่องของหลี่หลงหลินอยู่แล้ว พอมาถึงช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ กลับหาตัวฮองเฮาหลินไม่พบอีกขันทีน้อยกล่าวเสียงสั่น “กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นเพียงผู้รับใช้ดูแลกิจวัตรประจำวันของฮองเฮา มิกล้าสอดรู้เรื่องที่เสด็จไปพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง ตรัสว่า “เว่ยซวิน ส่งคนไปตามหาฮองเฮาหลินกลับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้! วันนี้ข้าจะต้องถามนางให้รู้เรื่องว่าอบรมสั่งสอนองค์รัชทายาทอย่างไร!”เว่ยซวินคิดในใจดูท่าครั้งนี้ฝ่าบาทจะทรงกริ้วจริงจัง แม้แต่ฮองเฮาก็คงยากจะรอดพ้นความผิดไปได้เว่ยซวินกล่าวเสียงหนัก “ฝ่าบาท กระหม่อมจะส่งคนไปตามหาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ทันใดนั้น กลิ่นหอมระลอกแล้วระลอกเล่าโชยมาปะทะจมูก ตามมาด้วยเสียงใสกังวานราวระฆังเงินเป็นระลอกเว่ยซวินก

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1284

    เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1283

    “อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1282

    ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1281

    กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1280

    วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status