“เอ่อ...”หลี่หลงหลินชะงักเบาๆก็หมายความว่า ก่อนตนเองแต่งซูเฟิ่งหลิงเข้าบ้าน จะไม่สามารถแตะต้องลั่วอวี้จู๋ได้?หากแตะต้องไป ใครเป็นภรรยาเอก ใครเป็นอนุ นั่นก็วุ่นวายแล้วมิใช่หรือ?ใครยังพูดได้ชัดเจนอีกเล่า?มองเช่นนี้ดูแล้ว นับว่ามีเหตุผลหลายส่วนปัญหาคือ หญิงงามอยู่ตรงหน้า ทำได้เพียงมอง กลับกินไม่ได้นี่มิใช่กำลังทรมานคนหรือ?กระนั้นหลี่หลงหลินมิใช่วิญญาณหิวโหยอะไรในเมื่อลั่วอวี้จู๋รับปากแล้ว ย่อมไม่รีบร้อนอาหารเลิศรสย่อมไม่สายเกินกิน!หากทนไม่ได้ หลี่หลงหลินสามารถนัดหนิงชิงโหว ไปเที่ยวสำนักการสังคีต มีนางคณิกาอยู่เป็นเพื่อน ส่งมอบอ้อมกอดก่อนได้!“ได้!”หลี่หลงหลินยื่นมือออกไป บีบบั้นท้ายอวบอิ่มของลั่วอวี้จู๋แรงๆ หนึ่งทีเงินต้นไม่อาจแตะต้อง ก็ต้องเก็บดอกเบี้ยสักหน่อยกระมัง!ร่างอรชรของลั่วอวี้จู๋สั่นเทิ้ม ใบหน้าเขินอายแดงเรื่อ ใกล้จะล้มลงบนโต๊ะเต็มทีท่าทีตอบสนองของนางนี้ น่าสนใจยิ่งกว่าซูเฟิ่งหลิงมากนัก!หลี่หลงหลินหัวเราะฮาๆ เตรียมหมุนตัวจากไป“องค์...องค์ชาย...”เสียงลั่วอวี้จู๋สั่นเครือ เรียกหลี่หลงหลินไว้หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋อย่างแปลกใจ “พี่สะใภ้ให
“ทำอย่างสุดกำลัง ฟังลิขิตฟ้า!”หลี่หลงหลินแหงนมองฟ้า พ่นลมหายใจยาวเหยียดออกมาเฮือกหนึ่งไม่ว่าอย่างไร พยายามอย่างสุดกำลังก็พอ!หวังว่าสวรรค์จะไม่ทำลายต้าเซี่ย ทั้งหมดยังทันเวลา!วันต่อมาข่าวสำคัญเรื่องหนึ่งลือสะพัดไปทั่วเมืองหลวงโดยเฉพาะค่ายผู้ลี้ภัยนอกเมือง บัดนี้กำลังดุเดือดองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินจ่ายหนักรับซื้อชิงฮวาชิงฮวาสิบจินสามารถขายได้หนึ่งตำลึง!ยิ่งไปกว่านั้น มิใช่ตากแห้ง แต่เป็นชิงฮวาสดใหม่เดิมทีชีวิตของเหล่าผู้ลี้ภัย ก็ลำบากมากอยู่แล้วระยะนี้เกิดโรคระบาด คนไม่น้อยติดโรคมาลาเรีย เหล่าผู้ลี้ภัยไม่มีเงินไปซื้อยา ทำได้เพียงนอนรอความตายเท่านั้นข่าวนี้ ดุจดั่งยารักษาใจ ทำให้เหล่าผู้ลี้ภัยมีชีวิตชีวา ดวงตามืดมนเปล่งประกายใหม่อีกครั้ง!แตกต่างจากซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงเข้าร่วมทหาร นี่ล้วนต้องการคนหนุ่มร่างกายกำยำแข็งแรงขุดชิงฮวา ช่างง่ายดายมากนัก!ภายในทุ่งนา ต่างพากันก้มหน้าก้มตาเก็บต่อให้เป็นคนอ่อนแอผู้ชรา ก็สามารถทำงานนี้ได้หนึ่งวันนี้ หากวาสนาดี ต่อให้เป็นเด็กเจ็ดแปดขวบ ขุดสิบกว่าจินก็ล้วนสามารถเป็นไปได้!ชิงฮวาสิบจินขายได้หนึ่งตำลึง?นี่เป็นไปได้จริ
หลี่หลงหลินไม่ว้าวุ่นใจแม้แต่น้อย ยิ้มเย็นพูดว่า “ไม่เรียนแล้ว? เช่นนั้นก็ให้พวกนางไสหัวไป!”เขารู้ดีภายในใจคุณหนูสูงศักดิ์เหล่านี้ มีกี่คนสามารถเรียนหนังสือได้?ให้พวกนางไปรักษาคน นั่นเป็นเรื่องขบขันไร้สาระเหตุที่หลี่หลงหลินรับสมัครคุณหนูสูงศักดิ์ ด้านหนึ่งเพราะพวกนางมีชาติกำเนิดบริสุทธิ์ ภายภาคหน้าเข้าวังรักษาสนม ฝ่าบาทย่อมวางพระทัยอีกด้านหนึ่ง ต้องการหลอกเอาเงินพวกขุนนางชนชั้นสูง!เส้นทางบนโลกก็เป็นเช่นนี้ หลี่หลงหลินต้องการทำเพื่อราษฎร์ ไม่มีเงินย่อมเป็นไปไม่ได้!หลอกเอาเงินชนชั้นสูง ย่อมดีกว่าหลอกเอาเงินราษฎร์มากนัก!เดิมทีก็คือเลือดเนื้อของราษฎร์ ต่อให้รับจากราษฎร์ แต่ก็ใช้กับราษฎร์ภายในบรรดาคุณหนูสูงศักดิ์สิบคน สุดท้ายเหลือเพียงสองสามคน ก็นับว่าไม่เลวแล้วส่วนที่เหลือ รีบไสหัวไป ไม่เพียงเกิดปัญหาน้อยลงได้ ยังประหยัดข้าวที่ภูเขาทิศประจิมได้อีกด้วยหนิงชิงโหวก้มหน้า “แต่ พวกนางพูดว่าต้องการให้องค์ชายคืนเงิน...”หลี่หลงหลินโมโหมากขึ้นสามจั้งลาออกย่อมได้ ข้าร้องขอแทบไม่ทัน!คืนเงิน ฝันหรือ?ชนชั้นสูงแล้วอย่างไร?ข้าก็หลอกชนชั้นสูงนั่นล่ะ!สีหน้าหลี่หลงหลินเข้มข
ซุนชิงไต้ไม่มีความคิดอื่นใด นอกจากเรื่องกินแล้ว ก็ไม่ใส่ใจอันใดอีกทว่าในด้านวิชาแพทย์ นางกลับยอดเยี่ยมมากนักพูดว่าอะไรนางก็ได้ เว้นเสียแต่ต่อว่าวิชาแพทย์ของนางนี้ไม่ได้“ใครเป็นคนนำก่อเรื่อง?”“ยืนขึ้น!”สีหน้าหลี่หลงหลินเยียบเย็นปานน้ำค้างแข็งคุณหนูสูงศักดิ์สองสามคนสบตากัน ลุกออกมาแม้ว่าหลี่หลงหลินเป็นองค์ชายแต่พวกนางมาจากตระกูลชนชั้นสูง กลับไม่มีอะไรให้กลัวหลี่หลงหลินเอ่ยปากเสียงเย็น “หนิงเซิง จดชื่อพวกนางเอาไว้! ข้าจะไปบ้านพวกนาง คืนค่าธรรมเนียมด้วยตนเอง! ข้ากลับอยากเห็นนัก ผู้ใหญ่คนใดในบ้านพวกนางจะกล้ารับ!”สีหน้าคุณหนูสูงศักดิ์เหล่านี้เปลี่ยนไปในทันใดพวกนางเอาแต่ใจ กำเริบเสิบสานจนคุ้นชินแล้วแต่กับบิดามารดายังกลัวอยู่มาก!หากหลี่หลงหลินโวยวายใหญ่โตจริง พวกนางต้องถูกบิดามารดาลงโทษ ให้สำนึกผิดต่อสิ่งที่กระทำลงไป!“องค์ชายเก้า...”“พวกเราสำนึกผิดแล้วเพคะ!”“แท้จริงแล้วพวกเราเพียงล้อท่านอาจารย์เล่นเท่านั้น!”“ใครรู้ ท่านอาจารย์ไม่ขบขันเช่นนี้!”เหล่าคุณหนูสูงศักดิ์ก้มหน้า ยอมรับผิดแล้วหลี่หลงหลินพูดเสียงเฉียบ “ท่านอาจารย์? เจ้าเองก็รู้ นางเป็นอาจารย์ของพวกเจ
หลี่หลงหลินเองก็ไม่พูดพร่ำ ออกคำสั่งซูเฟิ่งหลิงสีหน้าเย็นชา “ยกชั้นเรียนนี้ให้เจ้าแล้ว! เจ้าสอนกฎระเบียบให้พวกนาง! หากไม่ฟัง ก็ตี! หากกล้าโวยวายต่อ ไล่ออกไปเสียเลย ไสหัวออกจากภูเขาทิศประจิมไปเสีย!”“เจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์ องค์หญิง ท่านหญิงอะไรก็ช่าง องค์ชายข้าไม่เห็นอยู่ในสายตา!”ถ้อยคำนี้โอหังเป็นอย่างมาก ทุกคนในภูเขาทิศประจิมเหยียดเอวตรงในทันใดซุนชิงไต้ยิ้มออกมาในที่สุด จับแขนเสื้อหลี่หลงหลินไว้แน่นๆ สีหน้าภาคภูมิใจสีหน้าเหล่าคุณหนูสูงศักดิ์เผือดซีด ก้มหน้าลง เก็บความโอหังไว้แล้วปัง!ซูเฟิ่งหลิงเองก็ไม่รอช้า ฟาดกระบี่อาญาสิทธิ์ลงบนแท่นยืน ตวาดเสียงเฉียบ “อาจารย์ ก็คือบิดามารดา! ในเมื่อพวกเจ้าเข้าภูเขาทิศประจิมแล้ว ก็ต้องเคารพกฎระเบียบของภูเขาทิศประจิม...”เดิมที ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากดุดันมากเกินไปนักอย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นเด็กผู้หญิง อ้อนแอ้นอรชร ร่างกายแบบบางภายในบรรดาพี่สะใภ้ทั้งสี่ ซูเฟิ่งหลิงมีความสัมพันธ์อันดีกับซุนชิงไต้มากที่สุดซุนชิงไต้ถูกรังแก ซูเฟิ่งหลิงไม่มีวันยอมกลืนแค้นนี้ จะต้องสั่งสอนพวกคุณหนูสูงศักดิ์ไม่รู้กฎระเบียบเหล่านี้ดีๆ!“เสือโคร่งแผ่บารมี ไม่ธรรมด
เมื่อหลี่หลงหลินได้ยินเช่นนั้น ก็เข้าใจเหตุผลทันที ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมา “พี่สะใภ้สาม วิธีใช้ยาของเจ้านั้นผิดแล้ว”มิน่าล่ะ ซุนชิงไต้ถึงได้บอกว่าชิงฮวาไม่สามารถรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพได้วิธีของนางไม่ถูกต้องตราบใดที่ต้มชิงฮวาในน้ำเดือด อัตราส่วนชิงฮวาซู่ที่มีประสิทธิภาพภายในนั้นจะถูกทำลาย และสูญเสียประสิทธิภาพของยาไปซุนชิงไต้มึนงงไปหมด แล้วเอ่ยอย่างฉงน “ผิดรึ? มันผิดอย่างไร?”หลี่หลงหลินกล่าวว่า “ข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง เจ้าเอาไปลองดู! ชิงฮวาหนึ่งกำมือ แช่ในน้ำสองลิตร จากนั้นก็สกัดเอาน้ำของมัน แล้วดื่มให้หมด”นี่คือวิธีการที่เก๋อหงบันทึกเอาไว้ในตำราแพทย์ของเขาต่อให้จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ในยุคต่อไป รู้เพียงวิธีนี้เท่านั้น และยังเดินผิดไปมาก เสียเวลาไปไม่น้อย ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากก็มาก จนในที่สุดก็สร้างชิงฮวาซู่ออกมาได้ยิ่งไปกว่านั้นหลี่หลงหลินแทบไม่เข้าใจวิชาแพทย์ มีเพียงวิธีนี้ คิดจะรักษาโรคมาลาเรีย มันคือฝันกลางวันชัดๆอย่างเช่นชิงฮวาหนึ่งกำมือ มันคือเท่าไหร่กันแน่?แช่น้ำ คำว่าแช่นี่มันหมายความว่าอย่างไร?แต่ปัญหายากๆ เหล่านี้ สำหรับซุนชิงไต้ที่ถูกสรรเสริญว่าเป็นหมอเทวด
สายตาของหลี่หลงหลินกวาดมองผ่านบรรดาคุณหนูผู้ดีกลุ่มนี้ แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าล้วนเป็นกิ่งทองใบหยก ไม่เคยต้องซักผ้าถูบ้าน”“ข้ารู้ว่า พวกเจ้ากินดีอยู่ดี ที่บ้านมีสาวใช้คอยปรนนิบัติ ไม่เคยต้องทำงาน!”“และข้าก็ยิ่งรู้ว่า ในก้นบึ้งหัวใจของพวกเจ้า ดูถูกทหารเหล่านี้ คิดว่าพวกเขาเป็นพวกบ้านนอก เป็นทหารที่ต่ำต้อย!”“แต่ว่าข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าให้นะ!”“ในขณะที่พวกเจ้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่นั้น เหล่าทหารที่อยู่แนวหน้า ต้องสละเลือดของพวกเขาแทนพวกเจ้า!”“ถ้าพวกเขาไม่ได้อาบเลือดทำสงคราม ปกป้องแผ่นดิน!”“ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือคงจะเข้ามาเหยียบย่ำแผ่นดินแคว้น ทำลายเมืองหลวงไปแล้ว!”“ผลสุดท้ายบ้านเมืองถูกลายอย่างไรคงไม่ต้องให้ข้าพูด พวกเจ้าเองก็คงจะรู้กระมัง?”“จุดจบของพวกเจ้า จะน่าสังเวชยิ่งกว่าหญิงคณิกาที่หอนางโลมเป็นหมื่นเท่า!”“พวกหมานอี๋ไม่มีทางเข้าว่ารักหยกถนอมบุปผาคืออะไร!”ในลานบ้านก็เงียบกริบใบหน้างดงามของพวกคุณหนูชั้นสูงซีดขาว พากันก้มหน้าไม่พูดอะไรพวกนางล้วนแต่เป็นคนมีความรู้มีมารยาท เข้าใจว่าสิ่งที่หลี่หลงหลินพูดนั้นคือเรื่องจริงไม่มีแคว้น ไหนเลยจะมีบ้าน?หาก
หลี่หลงหลินโบกมือ สั่งว่า “พี่สะใภ้สาม เข็นยาที่เตรียมไว้ออกมาเถอะ!”ทันทีที่เสียงจบลงซุนชิงไต้ก็เข็นถังน้ำใบใหญ่ออกมาน้ำมันสีเขียวในถังน้ำคือน้ำชิงฮวาที่ผ่านการแช่และสกัดออกมาหลายวันมานี้ ซุนชิงไต้กังวลมาก ไม่มีความอยากอาหารเลย น่องไก่ก็ไม่อยากกินแล้วเดิมทีนางก็ตัวเล็กอยู่แล้ว ตอนนี้ผอมลงไปมาก ใบหน้ากลมก็เริ่มตอบลงและคางก็แหลมขึ้นหลี่หลงหลินสั่งว่า “นี่เป็นยาพิเศษที่หมอเทวดาซุนทำออกมา แบ่งให้ผู้ป่วยดื่มกันคนละชาม!”ยาพิเศษ?เหล่าคุณหนูต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง มองไปที่ซุนชิงไต้พูดตามตรงพวกนางไม่เชื่อเลยว่าซุนชิงไต้จะมีวิธีรักษาโรคมาลาเรียนี้ได้ถ้าซุนชิงไต้มีความสามารถนี้จริงนางคงไม่ใช่หมอเทวดาแล้วแต่เป็นพระโพธิสัตว์!ไม่รู้ว่าชาวบ้านอีกเท่าไหร่ ที่ต้องสร้างศาลบูชาให้ซุนชิงไต้เรื่องมาถึงตอนนี้ พวกนางก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่ลองพยายามดูอีกสักรอบ ป้อนยาชิงฮวาให้กับผู้ป่วยจริงๆ แล้ว แม้แต่ซุนชิงไต้เองก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นอยู่ในใจ!นางลากตัวหลี่หลงหลินไปข้างๆ แล้วพูดด้วยความกังวลว่า “องค์ชายเก้า สูตรยาของเจ้ามันจะได้ผลจริงๆ หรือ? ข้าลองชิมแล้ว มันก็แค่น้ำหญ้าธรรมดา
เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้
“อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “
ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ
กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค