Share

บทที่ 215

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หากทำตามที่ฉินซูเสนอ ฉินเหยี่ยนถึงแม้จะมิต้องตาย แต่ก็ต้องถูกปลดจากฐานันดรจวิ้นอ๋อง[footnoteRef:0]และถูกลดขั้นเป็นสามัญชน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ศักดิ์ศรีของเขาในฐานะกษัตริย์จะไม่มีอยู่อีกต่อไป [0: จวิ้นอ๋อง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ลำดับที่สอง โดยส่วนมากฮ่องเต้จะแต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้กับโอรสที่มิได้มีผ ลงานโดดเด่นเท่าไหร่นัก]

แต่หากยังคงปกป้องต่อไป ก็จะทำให้ราษฎรทั้งแผ่นดินเกิดข้อครหาอย่างแน่นอน ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น คือ อาจทำให้ขวัญและกำลังใจทหารสั่นคลอนอีกด้วย

เมื่อองค์รัชทายาทถูกลอบสังหาร แต่จักรพรรดิกลับเพิกเฉยต่อผู้อยู่เบื้องหลังเช่นนี้ ทหารที่แนวหน้าเขาจะคิดอย่างไร?

ฉินอู๋ต้าวรู้ดีถึงความจริงข้อนี้ แม้จะโกรธ แต่สุดท้ายก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

เพียงแต่ในใจเขายังคงรู้สึกมิพอใจ และมิเข้าใจเลยว่า เหตุใดเรื่องราวถึงได้บานปลายมาถึงจุดที่มิอาจหวนคืนเช่นนี้ได้

ถึงแม้ว่าเขาจะมิอยากยอมรับ แต่ในศึกครั้งนี้ ฉินซูเป็นฝ่ายชนะอย่างแท้จริง

ฉินอู๋ต้าวหลับตาลง สูดลมหายใจยาว เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความโกรธในสีหน้าของเขาก็มลายหายไป แทนที่ด้วยดวงตาเปี่ยมอำนาจจ้องตรงไปยังฉินซู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 216

    "ฉึก"กริชในมือของฉินซูแทงเข้าไปที่อกของโอวหยางขุยอย่างแน่นหนา!โอวหยางขุยเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความมิเชื่อร่างของเขาเริ่มโอนเอนสองสามครั้ง แล้วล้มลงไปกับพื้นในทันที!เมื่อเห็นฉินซูลงมือสังหารโอวหยางขุยตรงนั้น ฉินอู๋ต้าวแม้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่มิได้พูดอะไรส่วนคนอื่น ๆ ยิ่งมิกล้าเอ่ยอะไรออกมามีเพียงสายตาของเหลยเจิ้นที่มองร่างไร้วิญญาณของโอวหยางขุยด้วยด้วยสายตาครุ่นคิดฉินซูดึงกริชออกมา และโยนคืนให้กับฉงชูโม่อย่างสบาย ๆในบรรดาขุนนางทั้งหลาย นอกจากทหารองครักษ์ที่มีสิทธิ์พกดาบเข้าเฝ้าแล้ว ก็มีเพียงฉงชูโม่ แม่ทัพขั้นหนึ่งที่ได้รับสิทธิ์พกดาบเข้าเฝ้าได้ ดังนั้นฉินซูจึงเตรียมให้นางอยู่ข้างกายตน เพื่อรอช่วงเวลานี้ฉินอู๋ต้าวชำเลืองมองร่างของโอวหยางขุย แล้วกล่าวอย่างเรียบว่า "โอวหยางขุยถูกสังหารแล้ว ให้เขาได้ศพครบสมบูรณ์ ส่วนเรื่องสำนักอาทิตย์อัสดง เหลยเจิ้น เจ้าจงส่งคนไปกวาดล้างให้หมด ทั้งฆ่าล้างตระกูลโอวหยางเก้าชั่วโคตร อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!"เหลยเจิ้นก้มหน้ารับคำสั่งอย่างนอบน้อม "กระหม่อมรับพระบัญชา!"ฉินอู๋ต้าวหันไปมองฉินซูอย่างลึกซึ้ง แล้วหมุนตัวออกไปจา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 217

    "องค์รัชทายาท รอหม่อมฉันด้วย!"เสียงของฉงชูโม่ดังขึ้นขณะที่วิ่งไล่ตามมาฉินซูถามโดยมิหันกลับไปว่า "ตามข้ามาด้วยเหตุใด ยามนี้เจ้าควรไปเฝ้าฝ่าบาทมิใช่หรือ? อย่างไรพระองค์ก็เป็นนายของเจ้า!""ฉินซู ท่านมิพูดจาทิ่มแทงกันบ้างจะได้หรือไม่ ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์ของแผ่นดิน หม่อมฉันในฐานะข้าราชบริพารก็ต้องรับฟังคำสั่ง แต่ตอนนี้หม่อมฉันคืออาจารย์ขององค์รัชทายาท หน้าที่ของหม่อมฉันคืออยู่เคียงข้างท่าน""ตามใจเจ้าแล้วกัน"ฉินซูเดินต่อไปโดยมิหยุดเมื่อเดินไปสักพัก ฉงชูโม่เห็นว่ารอบตัวไร้ผู้คน จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์รัชทายาท ท่านมิทรงคิดหรือว่าวันนี้ท่านทำเกินไป?""เกินไปตรงไหน?" "ยังจะถามอีกหรือ? ท่านมิทรงทราบจริง ๆ หรือแกล้งมิทราบ ท่านกดดันองค์จักรพรรดิจนกริ้วเป็นฟืนเป็นไฟ แม้ว่าท่านจะล้มอ๋องจิ้นสำเร็จ แต่ผลลัพธ์นี้จะเป็นประโยชน์อันใดต่อท่านในภายภาคหน้าเล่า องค์จักรพรรดิคงมิอยากพบหน้าท่านอีกแล้ว ทำเช่นนี้ท่านว่าคุ้มค่าแล้วหรือ?"ฉินซูหยุดเดิน หันกลับมามองฉงชูโม่แล้วถามกลับ "หากวันนี้ข้ามิกดดันพระองค์ ปล่อยให้พระองค์ปกป้องฉินเหยี่ยน เจ้าคิดหรือว่าพระองค์จะกลับมาโปรดปรานข้า? หรือหลังวันชุนเฟินปีหน้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 218

    เหลยเจิ้นกล่าวช้า ๆ ว่า "ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้ทั่วทั้งในและนอกวังต่างกล่าวว่าองค์รัชทายาทเป็นคนเสเพล ฟุ่มเฟือยเกินไป เอาแต่หมกมุ่นในสุรานารี จนกระทั่งบรรดาแคว้นเพื่อนบ้านเกิดความทะเยอทะยานและคิดจะรุกรานเรา""แต่ในตอนนี้ เมื่อองค์รัชทายาทก่อเหตุวุ่นวายเช่นนี้ ก็ทำให้บรรดาคนที่คิดร้ายได้เห็นว่า ราชวงศ์ต้าเหยียนมิได้มีแต่คนขลาดเขลา องค์รัชทายาทหาได้เป็นอย่างที่ลือกันไม่""เช่นนั้นแล้ว หากพวกเขาคิดจะรุกรานต้าเหยียน ก็ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน"ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เจ้าหมายความว่าองค์รัชทายาทที่กดดันข้า ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินหรือ? ถุย! เหลวไหลสิ้นดี!"แม้จะบ่นอย่างหงุดหงิด แต่ความรู้สึกของฉินอู๋ต้าวก็ดูจะผ่อนคลายลงกว่าก่อนหน้านี้มากเมื่อคิดอย่างละเอียด สิ่งที่เหลยเจิ้นพูดก็มิใช่เรื่องเหลวไหลเสียทีเดียวหากราชสำนักต้าเหยียนเต็มไปด้วยการทุจริต และราชวงศ์อ่อนแอไร้ซึ่งความสามารถ แผ่นดินข้างเคียงก็จะหาจังหวะเข้ามาโจมตีได้โดยง่ายทว่ายามนี้กลับตรงกันข้าม องค์จักรพรรดิเองก็เด็ดขาดถึงขั้นลงโทษลูกชายตัวเองด้วยการเนรเทศออกจากเมืองหลวง การตัดสินอย่างยุติธรรมเช่นนี้ย่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 219

    เหลยเจิ้นยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าจะมีความคิดเห็นอะไรได้เล่า ขุนนางอาวุโสเว่ย หน้าที่ของพวกเราคือช่วยแบ่งเบาภาระให้ฝ่าบาท ส่วนเรื่องอื่น ๆ พวกเราก็ควรดูสถานการณ์ต่อไปก็พอ”เมื่อพูดอย่างมีนัยจบ เขาก็เดินจากไปโดยมิหันกลับมาเว่ยเจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางพึมพำกับตัวเองว่า “เจ้าลอยตัวเหนือปัญหา หากในราชสำนักเกิดการเปลี่ยนแปลง ข้ากับสำนักขุนนางใหญ่นี่แหละที่จะต้องรับศึกหนัก เห็นทีว่าข้าคงต้องหาวิธีเองเสียแล้ว...”…… “ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เมื่อฉงชูโม่มาถึงห้องทรงพระอักษร นางก็ถวายความเคารพอย่างนอบน้อมฉินอู๋ต้าวมองตรงไปที่นาง ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ชูโม่ องค์รัชทายาทมีใครอยู่เบื้องหลังคอยให้คำชี้แนะเขาหรือไม่?”“ฝ่าบาท จากที่หม่อมฉันทราบ ไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลังองค์รัชทายาทเลยเพคะ”“เจ้ามั่นใจหรือ?”ฉงชูโม่พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “มั่นใจเพคะ หากมีผู้ใดคอยชี้แนะองค์รัชทายาท หม่อมฉันย่อมสังเกตเห็นเป็นแน่ เว้นเสียแต่องค์รัชทายาทเลือกที่จะติดต่อกับบุคคลนั้นเฉพาะเวลาที่หม่อมฉันมิอยู่”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เช่นนั้น เจ้ามิได้เฝ้าดูองค์รัชทายาทตลอดเวลาอย่างนั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 220

    เซี่ยหลานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีลังเลว่า “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทนั้นมีสถานะสูงส่ง หม่อมฉันเกรงว่า...”ฉินอู๋ต้าวขัดจังหวะทันทีว่า “มิต้องกังวล! เมื่อข้าจะส่งเจ้าไปที่ตำหนักบูรพา ข้าย่อมมิให้เจ้าไปในฐานะคนธรรมดา ฟังให้ดี ข้าจะตั้งเจ้าเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องร่วมมือกับชูโม่ เฝ้าดูการเคลื่อนไหวขององค์รัชทายาท แล้วรายงานทุกอย่างให้ข้าทราบ เจ้าตกลงหรือไม่?”เซี่ยหลานพยักหน้าอย่างหนักแน่นโดยมิต้องคิดนาน “ตกลงเพคะ หม่อมฉันยินดีอย่างยิ่ง!”“ดีมาก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็จะเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ข้าต้องการให้พวกเจ้าสืบหาว่าผู้ใดคอยให้คำชี้แนะแก่เขาอยู่เบื้องหลัง!”เมื่อฉินอู๋ต้าวพูดจบ ดวงตาก็แสดงออกถึงความเย็นชาอย่างชัดเจนเซี่ยหลานรู้สึกตกใจและหวาดกลัว พลางหันไปมองฉงชูโม่ฉงชูโม่มีสีหน้าอับจนหนทาง แต่ทั้งสองก็น้อมรับคำสั่งด้วยความเคารพหลังออกจากวัง ฉงชูโม่ก็กล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดว่า “เซี่ยหลาน ข้าขอโทษเจ้าด้วย ข้ามิคิดว่าฝ่าบาทจะดึงเจ้ามาเกี่ยวข้อง”“ชูโม่ เจ้าอย่าได้โทษตัวเอง เรื่องนี้มิใช่ความผิดของเจ้า อีกทั้งการที่ฝ่าบา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 221

    เซี่ยหลานเดินมาทางด้านนี้พร้อมรอยยิ้มฉินซูทำหน้านิ่งและพูดเสียงเย็น “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดแผนอะไรอยู่ จากนี้ไป นอกเหนือจากห้องรับรองของตำหนักบูรพา ห้องโถงด้านข้าง และหอฉงเหวิน เจ้ามิได้รับอนุญาตให้เข้าออกที่อื่น!”“แม้สิ่งที่ท่านพูดจะมีเหตุผล แต่หม่อมฉันก็คงต้องฟังรับสั่งของฝ่าบาทใช่หรือไม่? ฝ่าบาทตรัสว่า หม่อมฉันสามารถไปที่ใดก็ได้ในตำหนักบูรพาตามที่ใจต้องการ รวมถึงห้องบรรทมของท่านด้วย! หากท่านมีข้อโต้แย้ง ก็เชิญเข้าวังไปทูลฝ่าบาทได้เลย แต่ก่อนหน้านั้นท่านไม่มีสิทธิ์ห้ามหม่อมฉันเพคะ”“โอ้โห แม้แต่เจ้าก็ยังกล้ายกฝ่าบาทมากดดันข้ารึ?”เซี่ยหลานเชิดหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างเย่อหยิ่ง “นี่คืออำนาจขององค์จักรพรรดิที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษต่างหากเพคะ ฝ่าบาทยังตรัสด้วยว่า หากท่านกระทำความผิดใด ๆ หม่อมฉันก็สามารถลงมือตีท่านได้เลย จากนี้ไปองค์รัชทายาทต้องระวังตัวให้ดีด้วยเพคะ อย่าปล่อยให้หม่อมฉันคว้าโอกาสได้เชียว!”ฉินซูกัดฟันด้วยความเกลียดชัง เขากระทืบเท้าด้วยความโกรธและพูดว่า “หึ เก่งนักนะ บุรุษผู้สง่างามเขามิต่อสู้กับสตรีหรอก ข้าขี้คร้านจะเถียงกับเจ้า ชิงเหยา ไปแช่น้ำกันเถอะ!”ใบหน้าของหลิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 222

    ที่โรงอาบน้ำ มีไอน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศอุ่นทำให้เหงื่อหอม ๆ ของเซี่ยหลานไหลออกมาจนทำให้อาภรณ์ของนางเปียกโชกนางเช็ดเหงื่อพลางพึมพำในใจในบ่อน้ำที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ การทำเรื่องน่าอายเยี่ยงนั้นจะมิทำให้หายใจติดขัดหรอกหรือ?นางย่อตัวหลบตามอ่างอาบน้ำและสิ่งกำบังอื่น ๆ และค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปทางบ่อน้ำมินานนางก็เห็นร่างร่างหนึ่งในอ่างอาบน้ำเมื่อเห็นเงาร่างขมุกขมัว เซี่ยหลานก็ใจเต้นแรงขึ้นมาเป็นทวีคูณ นางแค่เห็นราง ๆ ก็ดูออกว่าคนที่แช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำคือฉินซู!แต่ที่บ่อน้ำแห่งนี้มีฉินซูอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น และมิเห็นร่องรอยของหลินชิงเหยา “หรือว่าหลินชิงเหยาไปช่วยฉินซูส่งข่าว?”เมื่อคิดได้เช่นนั้น เซี่ยหลานก็คิดที่จะออกไปจับหลินชิงเหยาให้ได้คาหนังคาเขาทว่าขณะนั้นเอง นางก็เหยียบขันน้ำโดยมิทันระวังจากนั้นนางก็ลื่นล้มลงไปในบ่อน้ำ“ว้าย!!”นางกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่ก็มิอาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องตกน้ำได้!น้ำในบ่อมิได้ลึกมาก แต่ด้วยความตื่นตระหนกนางจึงลุกขึ้นยืนมิได้ไปชั่วขณะ จนเผลอกลืนน้ำไปหลายอึกในขณะที่พยายามดิ้นรนนางสำลักซ้ำแล้วซ้ำเล่า และใช้มือปัดป่ายน้ำในบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 223

    เซี่ยหลานกลัวมาก ตอนนี้นางมิอยากสนอะไรแล้ว นางจึงทำปากจู๋และจูบเบา ๆ ที่ข้างแก้มของฉินซูเมื่อเป็นเช่นนั้น ใบหน้าที่งดงามของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีแต่ฉินซูกลับพูดอย่างคนได้คืบจะเอาศอก “เจ้าทำเร็วเกิน ข้ามิรู้สึกอะไรเลย”“หม่อมฉัน... ฮือ ฮือ องค์รัชทายาท หม่อมฉันกลัวแล้ว ต่อไปหม่อมฉันจะมิจับตาดูท่านแล้ว พอพระทัยแล้วหรือไม่เพคะ? ท่านรีบอุ้มหม่อมฉันขึ้นไปเถิด หม่อมฉันกลัวมากจริง ๆ…”“มิได้ ในเมื่อเจ้ามิจูบข้าอีกรอบ เช่นนั้นก็ปีนขึ้นไปเองแล้วกัน ข้าเองก็มิได้เป็นคนดีอะไร”“ท่าน!!”เซี่ยหลานโกรธจนเหลือจะทน แต่นางก็มิกล้าปล่อยฉินซูและทำให้ตัวเองตกน้ำ ดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกัดฟันจำใจจูบข้างแก้มของฉินซูอีกครั้งฉินซูยิ้มร้ายและหันหน้าไป!และริมฝีปากสีแดงนวลเนียนของเซี่ยหลานก็จูบที่ปากของอีกฝ่ายพอดิบพอดี!หลังจากที่สัมผัสได้ถึงริมฝีปากสีแดงอันอ่อนนุ่มของนาง ฉินซูก็อดมิได้ที่จะยื่นมือไปโอบเอวบางของนางร่างกายอันบอบบางของเซี่ยหลานสั่นเเทา และหัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆนางรีบอ้าปากพูดด้วยความโกรธ “หม่อมฉันทำตามที่ท่านบอกแล้ว ตอนนี้จะอุ้มหม่อมฉันออกไปจากตรงนี

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status