Share

บทที่ 283

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ได้ยินที่เขาพูดเช่นนั้นเซี่ยหลานก็หันกลับมาโอบแขนรอบคอของฉินซู

นางพูดด้วยท่าทางที่แอบปลื้มใจ “ท่านก็มิรีบพูดเสียแต่เนิ่น ๆ ทำเอาหม่อมฉันกังวลว่าจะถูกชูโม่จับได้”

“หึ ๆ อย่างนี้สิถึงจะน่าตื่นเต้น”

หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็จูบปากเล็ก ๆ ของเซี่ยหลาน

ร่างกายอันบอบบางของเซี่ยหลานสั่นเทา และนางก็กำลังจะตอบสนอง

แต่ขณะนั้นเอง เสียงของตงฟางไป๋ก็ดังมาจากด้านนอกประตูห้องบรรทม

“องค์รัชทายาท แม่ทัพฉงจับโจรได้พ่ะย่ะค่ะ เขาพยายามลักพาตัวบุตรีของตุลาการศาลต้าหลี่ ตอนนี้ถูกคุมตัวมาที่ห้องรับรองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ผละตัวออกจากอ้อมแขนของฉินซูอย่างรวดเร็ว

ฉินซูที่ดูหงุดหงิดพูดเสียงเบาว่า “เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้าจะรีบกลับมา”

พูดจบเขาก็หันหลังและเดินออกไป

เซี่ยหลานที่สงบจิตใจแล้วดูเหมือนจะนึกอะไรออก หลังจากที่ฉินซูและตงฟางไป๋เดินไปพ้นประตู นางก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป

ฉินซูมาที่ห้องรับรองและมองซุนฉีอย่างพินิจ

จากนั้นเขาก็ถามฉงชูโม่ว่า “เรื่องราวเป็นมาอย่างไร?”

“เรื่องเป็นเช่นนี้เพคะ…”

ฉงชูโม่เล่าสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อสตรีนางนั้นเห็นฉินซู นางก็รีบคุกเข่าทำความเคา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 284

    ผ่านไปมินาน ตงฟางไป๋ก็พาซิ่วเอ๋อมาสีหน้าของซิ่วเอ๋อเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาที่ตำหนักบูรพาเมื่อเห็นฉินซู นางก็คิดจะทำความเคารพฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “มิต้องรักษามารยาทหรอก ซิ่วเอ๋อ เจ้าดูหน่อยว่าเจ้านี่คือคนที่ลักพาตัวลู่ซวงเอ๋อร์ในคืนนั้นหรือไม่”ซิ่วเอ๋อมองตามนิ้วของฉินซูนางมองไปที่ซุนฉี จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “องค์รัชทายาท โปรดทรงให้เขายืนได้หรือไม่เพคะ?”ฉินซูพยักหน้าเบา ๆ ตงฟางไป๋เตะที่ก้นของซุนฉีและตะคอกด้วยความโกรธ “ยังมิรีบยืนขึ้นมาอีก!”ซุนฉียืนตัวสั่นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยซิ่วเอ๋อถอยหลังไปสองสามก้าว มองซุนฉีตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วส่ายหัว“องค์รัชทายาท รูปร่างของเขาดูมิค่อยเหมือน คนที่ลักพาตัวซวงเอ๋อร์ในคืนนั้นสูงกว่าเขาครึ่งหัวและยังแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยด้วยเพคะ”ฉินซูขมวดคิ้ว “หากเป็นดังที่พูด แสดงว่ามิใช่ฝีมือของเขาจริง ๆ รึ?”เซี่ยหลานกล่าวว่า “คนที่ลักพาตัวซวงเอ๋อร์อาจมิใช่เขา แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเพคะ!”คำพูดของเซี่ยหลานฟังดูสมเหตุสมผล ดังนั้นฉินซูจึงตำหนิเขาว่า “เจ้าควรจะสารภาพความจริงมาตอนนี้ มิเช่นนั้นข้าก็มีวิธี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 285

    สำหรับฉินเหยี่ยน นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการแก้แค้นอ๋องหนิงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ขณะที่ซุนฉีเกือบทำสำเร็จ เขาจะถูกฉงชูโม่พบเข้าโดยบังเอิญฉินซูเดาได้ถึงรายละเอียดทั้งหมดอย่างค่อนข้างแน่ใจในทันที พลางรู้สึกจนใจและเห็นใจฉินเหยี่ยนฉงชูโม่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉินเหยี่ยนถูกความเกลียดชังครอบงำไปแล้วหรือไร ถึงได้ลักพาตัวบุตรีของตุลาการศาลต้าหลี่ นี่ถือเป็นความผิดร้ายแรงเชียว เขามิกลัวหรือว่าหากฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้แล้วเขาจะถูกลงโทษ?”ซุนฉีกล่าวด้วยความโกรธ “ท่านแม่ทัพใหญ่ฉง ท่านอ๋องจิ้นไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ ถึงได้ลงมือเยี่ยงนี้ อีกทั้งท่านอ๋องก็มิเคยคิดจะทำร้ายบุตรีของตุลาการศาลต้าหลี่ ท่านอ๋องทรงต้องการเพียงแค่ใช้เหตุการณ์การลักพาตัว เพื่อทำให้ท่านอ๋องหนิงเข้ามาติดกับก็เท่านั้น ที่ทรงทำไปเช่นนี้ก็เพราะทรงต้องการระบายโทสะขอรับ”ขณะนั้นเอง จู่ ๆ ฉินซูก็นึกอะไรออกและถามซิ่วเอ๋อ​ “ซิ่วเอ๋อ ตอนเจ้าอยู่ที่ศาลต้าหลี่ เจ้าบอกว่าเจ้าเห็นตัวอักษรอะไรสลักอยู่บนป้ายอาญาสิทธิ์นะ?”ซิ่วเอ๋อพูดอย่างมิลังเล “ตัวอักษร ‘ติง’ เพคะ”ฉงชูโม่พูดด้วยสีหน้าสงสัย “ตัวอักษรติงรึ? มิใช่กระมัง นี่เป็นป้าย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 286

    ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ชูโม่ เจ้าตามข้าไปที่จวนอ๋องหนิง”พูดจบ เขาก็สั่งตงฟางไป๋ “ตงฟางไป๋ ไปที่ศาลต้าหลี่และแจ้งให้ท่านใต้เท้าหวังพาคนไปที่จวนอ๋องหนิง”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ตงฟางไป๋กำหมัดแล้วหันหลังเดินออกไป โดยมุ่งหน้าตรงไปยังศาลต้าหลี่ฉงชูโม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “องค์รัชทายาท จวนอ๋องหนิงมีทหารประจำจวนสามร้อยนาย หม่อมฉันเกรงว่ากำลังคนของศาลต้าหลี่จะมิเพียงพอ ทรงต้องการนำทหารประจำจวนบางส่วนของเราไปด้วยหรือไม่เพคะ?”“ตอนนี้ยังมิจำเป็น ผลกระทบจากทหารที่อยู่รอบจวนอ๋องหนิงนั้นมากเกินไป อย่างแรกเรามาดูเบื้องลึกเบื้องหลังของอ๋องหนิงกันก่อนดีกว่า”“ก็ดีเพคะ”จากนั้นพวกเขาก็รีบรุดไปยังจวนอ๋องหนิง……จวนอ๋องหนิงในห้องลับใต้ดินมีศพแห้งหลายศพนอนทอดร่างอยู่ข้างชายชุดคลุมดำเห็นได้ชัดว่าซากศพแห้งเหล่านี้ถูกดูดพลังวิญญาณและเลือดไปจนหมด ดูเหี่ยวเฉา มองดูแล้วช่างน่าสยดสยองยิ่งนักและยังคงมีคราบเลือดติดอยู่ที่มุมปากของชายชุดคลุมดำเขาแลบลิ้นออกมาเลีย และถอนหายใจด้วยความเพลิดเพลิน “พลังวิญญาณและเลือดของสตรีพรหมจรรย์นั้นรสชาติดีเสียจริง ข้าดูดมาเพียงสามคน อาการบาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 287

    “องค์รัชทายาท คงจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันแน่นอน คนจากจวนอ๋องหนิงของกระหม่อมจะทำเรื่องลักพาตัวหญิงสาวได้อย่างไร นี่มันเป็นไปมิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อเผชิญหน้ากับการปฏิเสธของฉินเซียว ฉงชูโม่จึงพูดเหน็บแนม “ท่านอ๋องหนิง ทหารประจำจวนของท่านกล้าลอบสังหารเฉินหลิวอ๋องมาแล้ว จะมีอะไรอีกที่พวกเขามิกล้าทำด้วยหรือเพคะ?”“ชูโม่ ข้ายอมรับว่าการลอบสังหารฉินเหยี่ยนนั้นเป็นการกระทำที่หุนหันพลันแล่น แต่คดีการหายตัวไปของพวกหญิงสาวนี้มิเกี่ยวอะไรกับข้าจริง ๆ ใครเป็นตัวการปล่อยข่าวลือกัน? นำคนผู้นั้นมาทีเถอะ ข้าอยากจะเผชิญหน้ากับมันผู้นั้นตรง ๆ”“มิจำเป็นต้องลำบากถึงเพียงนั้นหรอก ในเมื่อเจ้ามิยอมรับ เช่นนั้นก็รอให้เสด็จพ่อทรงพาคนมาตรวจค้นที่นี่ก็แล้วกัน ทุกสิ่งที่เจ้าทำในช่วงนี้แม้ไร้ซึ่งหลักฐาน เสด็จพ่อก็อาจจะทรงเชื่อขึ้นมาเฉย ๆ โดยไม่มีมูลก็เป็นได้”หลังจากที่ฉินซูพูดจบ เขาก็ตะโกนไปที่นอกประตู “ใครก็ได้!”“ช้าก่อน!”ฉินเซียวรีบห้ามเขาแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “องค์รัชทายาท ในเมื่อท่านมิทรงเชื่อในสิ่งที่กระหม่อมพูด เช่นนั้นก็ค้นเลยเถิดพ่ะย่ะค่ะ มิจำเป็นต้องไปรบกวนเสด็จพ่อ หากเรื่องบานปลายก็จะกระทบต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 288

    ฉินซูถามขึ้นด้วยท่าทีสบาย ๆ “ฉินเซียว ในห้องตำราของเจ้าคงไม่มีห้องลับอะไรเทือกนั้นหรอกใช่หรือไม่?”“!!!”ฉินเซียวรู้สึกตื่นตระหนก มิว่าเขาจะซ่อนมันไว้ได้ดีแค่ไหน ความตื่นตระหนกก็ฉายแววไปทั่วใบหน้าของเขาและภาพที่เกิดขึ้นนี้ก็ถูกฉงชูโม่สังเกตเห็นฉงชูโม่มิได้พูดอะไร นางรีบขยับไปประชิดผนังห้องตำราทันทีแล้วใช้มือเคาะเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินเซียวก็พยายามฝืนยิ้ม “เสด็จพี่องค์รัชทายาทก็ทรงเย้าเล่นไปได้ มิต้องพูดถึงห้องตำราหรอกพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ในจวนอ๋องหนิงของกระหม่อมเอง นอกจากห้องใต้ดินแล้วก็ไม่มีห้องลับอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะไหน ๆ ก็พูดถึงห้องใต้ดินแล้ว พวกท่านลองไปดูสักหน่อยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หากกระหม่อมลักพาตัวหญิงสาวเหล่านั้นจริง ๆ ห้องใต้ดินก็ย่อมเป็นตัวเลือกแรกในการนำพวกนางไปขัง องค์รัชทายาทเชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูมองเขาด้วยรอยยิ้มคลุมเครือและพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “มิต้องรีบร้อน ไหน ๆ ก็มาแล้ว ข้าก็อยากไล่ดูชั้นตำราของเจ้าให้ละเอียด ส่วนชูโม่ เจ้าไปตรวจดูต่อได้เลย”พูดจบ เขาก็หยิบตำราจากชั้นวางอย่างใจเย็นแล้วเปิดดูฉงชูโม่ยังคงไล่เคาะผนัง ขณะเดียวกันนางก็เอาหูแนบกับผนังแล้วฟังเสียง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 289

    “เจ้าโจรชั่ว หยุดเดี๋ยวนี้!”ฉงชูโม่ตะโกน และในพริบตาร่างของนางก็ไล่ตามไป!ฉินซูมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาเหลือบมองฉินเซียว จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปฉินเซียวพลิกฝ่ามือ มีลูกดอกถูกหนีบไว้ตรงระหว่างนิ้วของเขาขอบคมของลูกดอกเปล่งประกายด้วยแสงแวววาวสีม่วงคล้ำ เห็นได้ชัดว่ามีพิษเปื้อนอยู่ขณะที่เขากำลังจะลอบโจมตี หัวใจของเขาก็สั่นเทาอย่างอธิบายมิถูก และความกลัวก็เล็ดลอดออกมาจากส่วนลึกในใจของเขา!การกระทำอื่น ๆ ของเขาก็หยุดชะงักไปด้วย!กว่าเขาจะได้สติ ฉินซูก็ออกจากห้องตำราไปแล้ว“ให้ตายเถอะ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น? จู่ ๆ เหตุใดข้าถึงกลัว?”หลังจากที่ฉินเซียวรู้สึกตัว เขาก็กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดและไล่ตามไป พลางคิดว่าจะจัดการฉินซูก่อนค่อยว่ากันทีหลังแต่ทันทีที่ออกมา เขาก็เห็นว่าหวังฉือได้นำผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากศาลต้าหลี่มาแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็อดมิได้ที่จะลังเลหากลงมือ ก็จำต้องปิดปากหวังฉือและคนอื่น ๆ ด้วย แต่หากกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็จะเป็นอะไรที่พูดได้ยากมากในใจของเขาสับสนวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง และดวงตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจได้แล้ว!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 290

    ร่างนั้นปรากฏขึ้นเร็วกว่าสายฟ้าฟาด และลากฉงชูโม่ไปข้างหลังด้วยมือเดียว!ในเวลาเดียวกันนั้น อีกฝ่ายก็โจมตีด้วยฝ่ามือ!แรงกดดันท่วมท้น ดั่งภูเขาถล่ม ทะเลพลิกคว่ำ พุ่งเข้าหาชายชุดคลุมดำด้วยพลังมหาศาลทันใดนั้นสีหน้าของชายชุดคลุมดำก็เปลี่ยนไป และความรู้สึกหวาดกลัวก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เขาคิดอยากจะล่าถอยโดยไร้ซึ่งความลังเลแต่ในเวลานี้ทุกอย่างได้สายเกินไปแล้ว!“พรืด!”แขนซ้ายของชายชุดคลุมดำกลายเป็นไอหมอกสีเลือด ร่างของเขากระเด็นออกไปเหมือนหุ่นไล่กาและล้มลงกับพื้นอย่างแรง!หลังจากมีเสียงดัง ‘อั่ก’ ชายชุดคลุมดำก็กระอักเลือดออกมาคำโต!เวลานี้ดูเหมือนว่าทั้งร่างของเขาจะแตกสลายไปเสียให้ได้ เขาอยากจะลุกขึ้นมาต่อสู้ แต่กลับมิสามารถขยับได้เลยสายตาหวาดผวาของเขามองชายชุดดำผู้นั้นที่เป็นคนลงมือด้วยความมิอยากเชื่อทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก!ตั้งแต่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของชายชุดดำและลากฉงชูโม่ออกไป ไปจนถึงชายชุดคลุมดำที่ถูกโจมตีจนพิการ หากพูดแล้วเรื่องจะยาว แต่ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นภายในพริบตาส่วนฉงชูโม่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกลับมาได้สตินางมองไปที่คนตรงหน้าแล้วอุทาน “ท่านผู้อาวุ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 291

    กู่ตงเฟิงพูดอย่างภาคภูมิใจ “ใช่ ข้าเอง! แต่ก็คาดมิถึงเหมือนกันว่าวันนี้ข้าจะตกมาอยู่ในกำมือของเจ้า!”ฉงชูโม่ทำสีหน้าเคร่งขรึม นางมิเคยคิดเลยว่าคนตรงหน้าจะเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย!ขณะนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาแต่ไกลหัวใจของฉงชูโม่เต้นแรง และนางก็กำกริชในมือโดยมิรู้ตัวแต่หลังจากพบว่าคนที่มาคือฉินซู นางก็ถอนหายใจยาวและพูดตำหนิ “องค์รัชทายาท ทรงมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?”“ข้ามิวางใจจึงมาที่นี่ เจ้ามิเป็นอะไรใช่หรือไม่?” ฉินซูถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเมื่อเห็นฉินซูห่วงใยตนเช่นนี้ หัวใจของฉงชูโม่ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีแต่นางจงใจทำหน้าบึ้งตึงและส่ายหัวโดยแสร้งทำเป็นนิ่งเฉย “หม่อมฉันมิเป็นอะไร พาคนกลับไปก่อนค่อยว่ากันทีหลังเพคะ”ฉินซูพยักหน้า เมื่อเขาเห็นแขนซ้ายของกู่ตงเฟิงว่างเปล่า เขาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “ชูโม่ เหตุใดเจ้าถึงตัดแขนซ้ายของเขาเล่า?”ฉงชูโม่พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่นอย่างจนใจ “มิใช่หม่อมฉันเพคะ ปีศาจตัวนี้แข็งแกร่งกว่าหม่อมฉันมาก หม่อมฉันจะปราบเขาได้อย่างไร?”“โอ้? แล้วใครทำให้เขาบาดเจ็บกัน?”“เป็นท่านผู้อาวุโสที่หม่อมฉันเคยพบก่อนหน้านี้ที่หลงโย่วเพคะ เข

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status