Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2024-12-04 11:04:25

บทที่2

เสียงแตรศึกดังมาตามสายลม ความดังของมันบ่งบอกมาต้นกำเนิดของเสียงอยู่ไม่ไกลมากนัก ทหารแค้วนจ้าวกว่าสามแสนบุกประชิดถึงเมืองหลวง นำทัพโดยรัชทายาทนามว่าจ้าวหยุนหลง หากเอ่ยนามนี้ออกมาทั่วใต้ล่าไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก พระองค์ทรงชื่อชอบการทำสงครามเพราะจะได้ฆ่าคนโดยไม่มีความผิดใดๆ พระองค์มีวิธีทรมารทหารศัตรูมากมาย เช่นการแล่เนื้อทั้งเป็น ตัดหัวเสียบประจานที่กำแพงเมืองเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย แต่วีธีที่จ้าวหยุ่นหลงโปรดปรานมากที่สุดคือการเผาทั้งเป็น พระองค์อยากรู้ว่าจะมีคนที่ทนทานต่อเปลวเพลิงอย่างพระองค์ได้หรือไม่ ราชวงค์จ้าวนั้นเป็นบุตรชายคนโตจะได้รับตำแหน่งรัชทายาท องค์ชายคนอื่นๆ ก็ไม่เคยคิดจะแย้งชิงหรือแข็งข้อเหมือนราชวงศ์อื่น เพราะมีข่าวลือว่าบุตรชายคนแรกของตระกูลจะได้รับพลังลึกลับบางอย่าง ไม่มีใครล่วงรู้แน่ชัดว่าคือสิ่งใด ว่ากันว่าจ้าววหยุ่นหลงนั้นมีร่างกายแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ฟันแทงไม่เข้าทนไฟ นอกจากร่างการจะแข็งแกร่งแล้ววรยุทธเก่งกาจเหนือผู้ใด เพราะเหตุนี้ไม่ว่าจ้าวหยุ่นหลงกีธาทัพไปทำสงครามแย้งชิงดินแดนที่แคว้นใด ก็ไม่มีแคว้นใดหยุดทัพของพระองค์ได้เลย ไม่เว้นแม้กระทั้งแคว้นเว่ย

เสียงแตรดังประชิดเข้ามาเรื่อยๆ ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ประตูเมืองต่างพากันหวาดกลัว แต่จะหนีไปที่ได้ ทางออกถูกปิดตายเสียแล้ว

ฮองเต้ชราทรุดลงนั่งอย่างหมดแรงสงครามกว่าสิบปีจบลงแล้ว หมดสิ้นแล้วราชวงศ์เว่ย ข้าศึกบุกมาถึงเมืองหลวงพระองค์พ่ายแพ้อย่างไร้ทางตอบโต้

“ฝ่าบาท รัชทายาทแคว้นจ้าวส่งสาส์นเข้าเมืองมาพ่ะย่ะค่ะ”

“จ้าวหยุ่นหลง ต้องการอะไร” เพียงแค่บุกผ่านประตูเข้ามาก็จบแล้ว ยังจะส่งสาส์นเยาะเย้อพระองค์ทำไมกัน

“พระองค์ต้องการแต่งงานกับองค์หญิงแคว้นเว่ย แล้วจะยกทัพกลับ”

คำว่ายกทัพกลับ หมายถึงยกเลิกสงครามใช่หรือไม่ ไม่ตีเมืองหลวงให้พังพินาจแล้ว

“จ้าวหยุนหลงต้องการแต่งกับองค์หญิงพระองค์ใด” ฮองเต้ชราถามโดยไม่ไตร่ตรองใดๆ แค่ส่งองค์หญิงออกไปหนึ่งคนช่วยชีวิตของพระองค์และราษฎรได้ ไม่ว่าจ้าวหยุ่นหลงอยากได้ใครพระองค์ยอมยกให้

“ในสาส์นไม่ได้ระบุมา มีเพียงเกี้ยวแดงเทียบรออยู่ที่หน้าประตูเมือง ตอนนี้ทัพของรัชทายาทจ้าวกางกระโจมตั้งค่ายอยู่ห่างเมืองหลวงหนึ่งร้อยลี่”

ข่าวการส่งองค์หญิงขึ้นเกี้ยวแดงเพื่อไปแต่งงานกับรัชทายาทแคว้นจ้าวดังกระหึ่มไปทั้งวังหลวง

ไม่มีองค์หญิงพระองค์ใดเสนอตัวอยากแต่งงานในครั้งนี้ แม้รัชทายาทแคว้นจ้าวนั้นจะมีรูปโฉมงดงามราวเทพเซียนปานใด แต่ความโหดเหี้ยมของจ้าวหยุ่นหลงนั้นโด่งดังยิ่งกว่า

องค์หญิงบางคนถึงขั้นบอกจะยอมผูกคอด้วยผ้าขาวหากฮองเต้จะบังคับให้พระนางแต่งออกไปกับบุรุษที่ใจคออำมหิต พวกนางยอมตายวันนี้ด้วยนำมือตนเอง ดีกว่าไม่รู้ว่าหากเดินทางไปอยู่แคว้นจ้าวจะถูกพระสวามีทรมารให้ตายทั้งเป็นด้วยวิธีใด ไม่ต้องให้บัณฑิตผู้รอบรู้มาอ่านสถานะการณ์ เด็กสามหนาวยังดูออกว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียงฉากบังหน้าเพื่อให้แค้วนเว่ยไม่คิดแข็งข้อ องค์หญิงแต่งไปเพื่อเป็นองค์ประกัน

ผ่านไปสามวัน ก็ไม่มีมีคำตอบว่าจะส่งองค์หญิงพระองค์ใดไปแคว้นจ้าว ฮงเต้ชรากลัดกลุ้มพระทัยจนล้มป่วย

เสียงเซ็งแซ่ดังไปทั้งท้องพระโรง

“ฝ่าบาทได้โดยรีบตัดสินพระทัยด้วยเถิด ทหารแคว้นจ้าวมายืนตระโกนหน้าประตูเมือง หากพรุ่งนี้ยามเฉิน (07.00 - 08.59 น.) ไม่มีเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวจะยกทัพบุกเข้ามา” ขุนนางผู้หนึ่งร้อนใจรีบทูลฎีกา หากทหารบุกเข้ามาหมายถึงทุกชีวิตรวมถึงเขาและครอบครัว

ฮองเต้ชราโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ที่ถูกเด็กอมมือหยามหน้า แต่พระองค์ก็ทำอะไรจ้าวหยุนหลงไม่ได้ องค์หญิงก็ไม่ให้ความร่วมมือ

“หากองค์หญิงทั้งหลายไม่อยากแต่ง เหตุใดฝ่าบาทไม่รับบุตรีขุนนางซักคนเป็นบุตรบุญธรรมแล้วแต่งออกไปแทน” เสนาบดีฝ่ายซ้ายเสนอ

สิ้นเสียงข้อเสนอนั้นขุนนางทั้งหลายที่บุตรียังไม่ได้สมรสต่างพากันคัดค้าน ไม่มีใครยอมให้บุตรตนเองไปเผชิญชะตากรรมเลวร้ายแบบนั้น

“พวกท่านอย่าเห็นแก่ตัวนักเลย จากบุตรสาวขุนนางได้เลื่อนฐานนันดรเป็นถึงองค์หญิงควรจะดีใจให้บุตรสาวแต่งออกไปสิ เสียสละเพื่อบ้านเมืองแค่นี้ทำไม่ได้ พวกท่านยังเป็นขุนนางอยู่ไหม” เสนาบดีฝ่ายซ้ายกวนหย่งเหอมองเหยียดเหล่าขุนนาง

“ท่านเป็นคนเสนอเรื่องนี้ ท่านก็ให้บุตรสาวท่านรับตำแหน่งองค์หญิงไปเลยสิ ท่านเป็นถึงเสนบดีย่อมจงรักภักดีกว่าพวกข้าใช่หรือไม่”

ฮองเต้ชรานั่งฟังเงียบๆ พระองค์ไม่ต้องส่งบุตรสาวของตัวเองไป แต่สามารถรับเด็กคนอื่นมาแต่งตั้งให้เป็นองค์หญิงแล้วส่งขึ้นเกี้ยวนั้นได้ ฮองเต้ชราเริ่มมีความหวัง

“แน่นอนข้ากวนหย่งเหอจงรักภักดีต่อฮองเต้และราชวงษ์ ข้าจะยกบุตรสาวของข้าให้ฮองเต้” เสนาบดีกวนตะโกนสวนขุนนางผู้นั้น แสดงเจตจำนงราวกับว่าหากฮองเต้รับสั่งสิ่งใด เขาที่เป็นข้าราชบริพารล้วนต้องทำตาม

“ฝ่าบาท หากพระองค์มีพระประสงค์ให้บุตรสาวของหม่อมฉันแต่งงานแทนองค์หญิง หม่อมฉันยินดียกบุตรสาวให้พระองค์” เสนบดีกวนหันไปถวายบังคมแก่หน้าพระพักตร์

“ดีๆ บุตรสาวเจ้าชื่ออะไรเสนาบดีกวน” ฮองเต้ชรากวักมือให้ขันทียกโต๊ะเขียนหนังสือพระองค์

“กวนเสี่ยวถง” มีเพียงชื่อเดียวที่กวนหยงเหอนึกออก

“กวนเสี่ยวถง ข้าจะแต่งตั้งนางเป็นองค์หญิงแปด ต่อไปนี้นางคือบุตรสาวของข้าแล้ว เสนาบดีกวนพรุ่งนี้เจ้าพานางขึ้นเกี้ยวได้เลย”

ฮองเต้ชราพระทับตรามังกรลงบนราชองคการ ใบหน้าคลายความตรึงเครียด ในที่สุดก็แก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

“น้อบรับราชองคการ”

เสนาบดีกวนรับราชองค์ราชหลอบกระหยิ่มในใจ หากบุตรสาวของตนได้เป็นองค์หญิง อีกทั้งได้แต่งกับรัชทายาทแคว้นจ้าว เขาจะได้มีอำนาจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า พวกขุนนางโง่ อยู่ๆก็โยนชิ้นปลามาให้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   ตอนพิเศษ

    พิเศษสุดๆหนึ่งบุรุษผู้ครอบครองพลังปราณแห่งปฐพี ควบคุมพื้นดินทั้งใต้หล้าเอาไว้ในฝ่ามือ แต่ไม่ว่าจะมีพลังมากเท่าใดกลับยิ่งกลายเป็นดาบสองคมมากเท่านั้น เขาต้องหลบซ่อนตัวตนจากคนของพรรคมาร มีชีวิตรอดด้วยนามของผู้อื่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตั้งแต่จำความได้ แต่แล้ววันหนึ่งหัวใจของเขานั้นกลับกลับสยบลงแทบเท้าสตรีอ่อนแอนางหนึ่งเท่านั้น เขาและนางฐานะแตกต่างกัน แต่เขาก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างนางสตรีนางหนึ่งนางเติบโตมาด้วยไฟแค้น จิตใจของนางหล่อหลอมและเติมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ภายใจของนางนั้นเต็มไปด้วยโทสะที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ นางคือผู้ครอบครองพลังปราณแห่งไฟกัลป์ แต่ไม่ว่าเปลวไฟนั้นจะร้อนเพียงใดหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางกลับถูกความเย็นฉ่ำจากสายน้ำของบุรุษผู้หนึ่งชโลมล่อเลี้ยงจิตใจบุรุษอีกคน ผู้ที่ครอบครองพลังปราณวายุและปราณวารี บุรุษผู้เดียวในรอบหลายพันปีที่สามารถใช้พลังปราณได้ถึงสองสาย ผู้ที่คนทั้งใต้หล้าหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่ว่าเขาย่างกายไปที่ใด แคว้นนั้นมักจะมีสงครามเสมอ เขาก่อสงครามไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เพื่อรวบรวมหมายจะครอบครองทุกดินแดนให้เป็นหนึ่งเดียว เขามีปณิธานแรงกล้าที่จะรวม

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   ตอนพิเศษ

    บทที่29 ตอนพิเศษ“แอ๊ะ”“แอ๊ะ”สองทารกน้อยหมุนควงติ้วลอยอยู่บนอากาศ มีร่างสูงใหญ่ชูสองมือรอรับอยู่ไม่ห่าง“แอ๊ะ” ทารกหญิงนิ้ว บอกให้ตามมา“แอ๊ะ” ทารกชายตอบ กำลังตามไปทารกน้อยสองคนลอยไปทางซ้ายที ขวาที วนเวียนอยู่ในวังรัชทายาท ร่างสูงใหญ่ถลาตัวตาม เป็นอยู่แบบทั้งวัน จนเขาเหนื่อยหอบ“เด็กๆลงมาได้แล้ว พ่อวิ่งตามไม่ไหวแล้ว” ร่างสูงใหญ่พูดด้วยเสียงเหนื่อยหอบปานจะขาดใจ“คิกๆ” ได้ยินเสียงหวานหัวเราะจ้าวหยุ่นหลงหันมาค้อนขวับ“น้องหญิงเจ้าไม่คิดจะช่วยพี่บ้างเลยเหรอ”“ไม่ล่ะ” กวนเสี่ยวถงหยักไหล่ นั่งเปิดหนังสือดนตรีอ่านเนื้อเพลงต่อ นางกำลังฝึกเล่นบทเพลงใหม่ จ้าวหยุ่นหลงภาวนาให้นางตั้งครรภ์ทันทีหลังพิธีเสกสมรสระหว่างเขากับนาง พิธีถูกจัดขึ้นทันทีที่นางและจ้าวหยุ่นหลงกลับมาถึงแคว้นจ้าว เขาคะยั้นคะยอให้นางร่วมหอกับเขาทุกคืน ไม่มีเว้นว่างแม้แต่วันเดียว ในเมื่ออยากมีทายาท นางก็อุ้มท้องให้แล้ว “มีทายาททีเดียวพร้อมกันสองคน พระธิดามีพลังปราณลมและน้ำ พระโอรสได้พลังปราณลมและไฟ สมใจท่านพี่แล้วไม่ใช่หรือ ข้าอุ้มท้องให้แล้ว ท่านอยากมีก็เลี้ยงเอง บ่าวรับใช้มีใครเลี้ยงลูกท่านได้บ้างล่ะ ไม่ถูกจับลอยขึ้นฟ้าก

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่29

    บทที่28เปลวไฟถอดยาว ร่างบางเดินตามเส้นทางนั้นไปเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ใดนางมิอาจรู้ได้ รู้แต่ว่าเปลวไฟช่วยให้หัวใจที่เคยหนาวเหน็บอบอุ่น ไม่ว่านางจะเคยถูกผู้ใดกระทำ ไม่ว่านางจะไม่เคยอยู่ในสายตาของใครต่อใคร แต่นางยังมีเปลวไฟอยู่เคียงข้างเสมอกวนเสี่ยวถงเดินตามเปลวไฟไป มองเห็นสุดปลายทาง นางใกล้ถึงจุดหมายแล้ว“คุณหนูช้าก่อน”ร่างบางหยุดชะงัก เสียงนี้นางจำได้ไม่เคยลืม น้ำตาเรื้อนเต็มดวงจากลม กวนเสี่ยวถงมองสตรีที่ปรากฏกายที่สุดปลายของเปลวไฟ“แม่นม” เสียงของรางสั่นเครือ“คุณหนูเดินกลับไปเจ้าค่ะ อย่าเดินมาทางนี้”“ไม่ข้าจะไปหาท่าน” กวนเสี่ยวถงส่ายหน้า ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า“คุณหนูรับปากกับข้าเอาไว้อย่างไร คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าค่ะ”ร่างบางหยุดเดิน “มีชีวิตอยู่ต่อไป” นางตอบเสียงแผ่วเบา“เจ้าคะ มีชีวิตอยู่ต่อไป”“แต่ข้าไม่เหลือใครแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ข้าเผาทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้ว” กวนเสี่ยวถงส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางจะอยู่คนเดียวไปเพื่ออะไร“มีคนที่รอคุณหนูอยู่”“เขาคนนั้นหวังแค่พลังของข้า”“คุณหนูเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าท่านเชื่อสิ่งที่จ้าวหยุ่นหลงพูด เพียงแต่ท่านกลัวว่าเขาจะหักหลังท่าน ทำท่าน

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่27

    บทที่27จ้าวหยุ่นหลงอุ้มร่างบางแนบอก กวาดสายตาไปทั่วบริเวณหาว่าที่ใดพอที่จะสามารถวางนางลงและรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ ตัวนางร้อนเป็นไฟจนเขากลัว อกแกร่งบีบรัดจนน้ำตาแทบจะร่วงลงมา เรียกให้องครักษ์ชางตามหมอเป็นการด่วน“เสี่ยวถง เจ้าต้องไม่เป็นไร” เมื่อพบบริเวณที่ไม่ติดไฟก็รีบวางนางลง มือหนาคลำหาชีพจรของนาง คว้าหาจุดที่นางบาดเจ็บแต่ก็ ‘ไม่พบ’ มือยังคงกุมนางไม่ไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยมือนี้ หากปล่อยเขาอาจต้องเสียใจไปจนวันตาย มุมปากของนางมีเลือดไหลอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูก ลมหายใจของนางแผ่วเบามากลงเรื่อยๆ ร่างบางนั้นนอนแน่นิ่ง แทบไม่เหมือนคนที่ยังหายใจอยู่เลยด้วยซ้ำ บรรยากาศรอบๆตรึงเครียด แทบไม่มีเสียงใดๆแม้กระทั้งเสียงลมพัดผ่านไม่นานหมอหลวงที่รักษาอาการของเขาตั้งแต่ลงเขาอู่ไถก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมองครักษ์ชาง“รัชทายาท ขอหม่อมฉันตรวจดูอาการพระชายา ขอพระองค์หลบออกมาก่อน”ชางเจี้ยเห็นจ้าวหยุ่นหลงยังคงนิ่งเฉย กระชากแขนแกร่งให้ลุกออกมา“นาง…ชีพจรของนางไม่มี” จ้าวหยุ่นหลงครางเสียงแผ่ว “พระองค์ได้โปรดใจเย็นก่อน พระชายาถึงมือหมอแล้ว พระนางต้องปลอดภัย” ชางเจี้ยตบบ่าแกร่งไปหลาย

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่26

    บทที่26“เด็กน้อย เจ้าจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ” เสียงเย็นเฉียบดังออกมาจากด้านหลังไป๋เมิ่งเหยียนนางเฝ้ารอเวลานี้มาเนิ่นนานเหลือเกินแม้ว่าเบื้องหน้าจะมีแค่ ปราณสามสาย แต่ก็ยังดีกว่าไร้ค่า พอรู้เรื่องกวนเสี่ยวถง นางให้คนคว้านหาทั้งหุบเขาอู่ไถในที่สุดก็เจอคนตระกูลมู่หรง แต่ไม่เจอทายาทที่สามารถกำเนิดบุตรสายต่อไปได้ ในเมื่อไม่มีประโยนช์และไม่คิดที่จะเข้ามาเป็นสาวกของนาง จะเก็บไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไมกัน ไม่นึกว่าการปักหลักรอที่แคว้นเว่ย กวนเสี่ยวถงจะกลับมาให้จับเองถึงมือ“ท่านป้า ไม่เจอกันนาน” จ้าวหยุ่นหลงรีบเอาตัวมาบังสตรีของตนไว้“ไม่เจอกันานเลยนะจ้าวหยุ่นหลง เมื่อไรเจ้าจะยอมมีทายาทให้ข้า”“ต่อให้ข้ามีทายาทก็ไม่เคยคิดจะมอบให้ท่าน”“ไป๋ลู่หลานข้าเจ้าไม่สนใจนางสักหน่อยหรือ นางชอบเจ้ามาตั้งแต่เล็ก” ไป๋เมิ่งเหยียนเดินเข้าไปใกล้จ้าวหยุนหลง เบื้องหลังของนางมีคนที่ใช้ปราณได้เกือบห้าสิบชีวิต ต่อให้เขาเก่งเพียงใดก็ไม่มีทางสู้นางได้“ข้าไม่เคยมองหลานสาวท่านแบบนั้น” หากนางไม่ใช้น้องสาวไป๋อี้ผิง เขาหรือจะเสวนากับคุณหนูเอาแต่ใจตน เสียเวลา อย่าไปคิดถึงขั้นมีลูกด้วยกันเลยไม่มีวัน“เจ้าคือกวนเสี่ยวถงสินะ” น

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่25

    บทที่25“ที่ข้ามาไม่ได้มาเยี่ยมธรรมดา ข้ามีธุระสำคัญจะคุยกับท่านพ่อ” เมื่อดื่มชาเสร็จแล้ว กวนเสี่ยวถงคิดว่าคงถึงเวลาเข้าเรื่อง นางปั้นสีหน้าไม่เก่ง“ข้าก็มีเรื่องจะคุยกับเจ้า เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าไม่ได้รับราชการ ดูจากการแต่งตัวของเจ้าตอนนี้คงเป็นที่โปรดปรานของรัชทายาท” “พระชายาของข้าต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว” จ้าวหยุ่นหลงพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ดวงหน้าหยกมองกวนเสี่ยวหยงตลอดเวลา ไม่ได้สนใจผู้ใดที่อยู่ในห้องรับรอง“เสี่ยวถง พ่อเจ้าก็แก่แล้วตอนนี้ก็ไม่มีงานทำ เจ้าได้ดิบได้ดีเพราะบิดายกเจ้าให้ฮองเต้ ถ้าอย่างไรเจ้าพอจะจุนเจือบิดาของเจ้าได้หรือไม่” กวนฮูหยินเห็นช่องก็รีบเสนอ คลังสมบัติจวนเหลือใช้ได้อีกไม่กี่ปี“แน่นอนเจ้าคะ ข้ากลับมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของตระกูลกวน” รอยยิ้มเผยออกมา แต่แววตาของนางวาววับราวเปลวไฟ“ถ้าอย่างไง เจ้าขอตำแหน่งในราชสำนักให้ข้าด้วยได้หรือไม่” พอนางพูดแบบนนั้นมีเหรอคนอย่างกวนหยงเหอจะพลาด“ข้าจะให้ทุกอย่างที่ท่านพ่อต้องการ ต่อให้ท่านอยากได้ตำแหน่งเดิมข้าก็จะขอจ้าวหยุ่นหลงให้ แต่ก่อนจะทำแบบนั้นท่านช่วยตอบคำถามข้าก่อน”“ได้สิ เจ้าถามมาเลย” ชายชราดีใจที่จะได้กลับคืนตำแหน่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status