ผมเหลือบตามองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูถูกโยนลงกับโซฟาก่อนจะดันตัวลุก ก้าวขาเข้าไปหาคนบางคนที่ไม่รู้ว่าจมอยู่กับความทุกข์อะไรหนักหนา
ของขวัญนั่งดื่มตั้งแต่ตีสี่จนมาถึงตีห้า คออ่อนที่ดื่มลงไปไม่กี่แก้วก็เมาได้สภาพตอนนี้จึงแตกต่างจากตอนปกติไปโดยปริยาย ร่างบอบบางแม้นั่งอยู่นิ่งๆ ยังโอนเอน ใบหน้าเนียนเริ่มแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกาย ตากลมสวยที่เคยน่าค้นหาหยาดเยิ้ม ปากอิ่มพึมพำอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ "อื้อ!" น้ำเสียงหงุดหงิดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากปะปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ตอนที่ผมอุ้มตัวเธอขึ้นจากเคาน์เตอร์ในท่าเจ้าสาว มือเรียวปัดป่ายตัวผมและพยายามลืมตาขึ้นมองเมื่อร่างกายลอยละลิ่วเหนือพื้น "องศา อะ อุ้มหนูทำไม" ผมปรายตามองเด็กสาวในอ้อมกอด ปีนเกลียวใหญ่ยิ่งตอนเมาชื่อของเขากลับหลุดจากปากเธอเปล่าๆ ปราศจากคำว่าพี่แบบที่ควรจะเป็น ปึก~ "โอ๊ย! หนูปวดหัว" ของขวัญโวยวายเมื่อผมโยนเธอลงบนเตียงกว้าง เครื่องปรับอากาศในห้องนอนทำงานอัตโนมัติ กลิ่นหอมจากน้ำหอมปรับอากาศผสานกับกลิ่นหอมสะอาดสะอ้านจากร่างบางสะกิดหัวใจแกร่งได้เป็นอย่างดี "ทำไมทำกับหนูแบบนี้ องศาใจร้าย~" "เงียบ" "หมดรักกันแล้วเหรอ ไม่รักกันแล้วใช่ไหมถึงได้..." "ไม่เคยรัก!" ผมหลุดปากพูดความจริงเมื่อใบหน้าผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามาในความทรงจำ คนเมาที่ฟูมฟายไร้สติในตอนแรกปรือตาขึ้นมองหน้าผมอย่างตกใจ ตากลมๆ คู่นั้นมีหยาดน้ำตาพร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มที่สั่นระริก ของขวัญเหมือนตั้งใจจะพูดอะไรสักอย่าง ภาพผู้หญิงอีกคนที่นั่งร้องไห้ในผับกำลังฉายชัดพร้อมกับใบหน้าของขวัญที่เปื้อนน้ำตา ผมช่วยของขวัญมาจนจะสุดทางแล้ว ผมควรปล่อยมือเธอง่ายๆ แบบนี้เหรอวะ? อีกแค่เดือนเดียวทุกอย่างก็จบแล้วไหม ถึงวันเกิดของขวัญเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ฝั่งเธอจะบอกความจริงทุกเรื่อง อธิบายว่าความทรงจำบางส่วนที่หายไปมันไม่เคยมีเรื่องราวของผมอยู่ในนั้นเหมือนที่ทุกคนพยายามปั้นเรื่องโกหก หากของขวัญรู้สึกดีต่อกันแล้วต้องมารู้ความจริงภายหลัง อย่างน้อยการช่วยเธอจนสุดทางมันก็อาจจะทำให้เด็กสาวเข้าใจและยอมจากกันแต่โดยดี "มะ เมื่อกี้~" "พี่ขอโทษ" ผมโน้มตัวลงไปประชิดร่างบางบนเตียงก่อนจะกดริมฝีปากลงบนเรียวปากเอิบอิ่มที่สั่นระริกเพราะความหวาดกลัว ในตอนที่ปากแนบชิดกันผมมองเห็นตากลมคู่นั้นกลอกกลิ้งไปด้วยหยาดน้ำตาปะปนกับความรู้สึกสับสน บดจูบให้ลึกซึ้งขึ้น หวังสิ่งเดียวคือให้ของขวัญลืมเรื่องที่ผมพูดก่อนหน้านี้ซะ ลืมมันไปจนกระทั่งความเชื่อเรื่องดวงชะตาที่จะเปลี่ยนแปลงในวันเกิดค่อยให้เธอรับรู้ความจริง ความต้องการของผมได้ผลตอนที่ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากบาง แขนเรียวตวัดขึ้นโอบรอบลำคอของผมก่อนจะยอมเผยอปากให้ผมจูบอย่างว่าง่าย ลิ้นเล็กตวัดจูบตอบเงอะงะ ความหวานจากปากอิ่มทำให้ผมอยากเดินหน้าต่อ ยิ่งเด็กสาวยินยอม สัญชาตญาณความเป็นชายก็ยิ่งยากที่จะหยุดยั้งได้อีกต่อไป "อือ~" เสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อนิ้วยาวเหยียดวางทาบอกอวบพร้อมกับออกแรงขย้ำ เคล้นคลึงอย่างเบามือทว่ากลับทำร่างบางครางแทบไม่เป็นภาษา ริมฝีปากผละออกจากกันก่อนที่ของขวัญจะเชิดใบหน้าขึ้น กลิ่นหอมจากซอกคอขาวผ่องทำผมควบคุมตัวเองยากกว่าเก่า ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอพร้อมกับขบเม้มอย่างหยอกล้อ กลิ่นกายสาวกระตุ้นความแข็งแกร่งให้เดินหน้าค้นหาทุกอย่างต่อไป "อ๊ะ~ องศา..." ริมฝีปากอวบอิ่มครางกระเส่าเมื่อชุดนอนตัวบางหลุดจากร่างกายสะอาดสะอ้าน ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นความอบอิ่มของก้อนเนื้อขาวผ่อง ขาเรียวบดเบียดเข้าหากันในตอนที่ผมดันตัวลงต่ำ ใช้ลิ้นและปากทักทายปลายถันสีหวานที่แข็งชันตอบรับทันทีที่ผมแตะปลายลิ้นละเลงลงไป "อ๊ะ~ สะ เสียว" ความอดทนขาดสะบั้นเมื่อคนตัวเล็กเปิดทางให้ผมด้วยความเต็มใจ นิ้วยาวเหยียดบีบเคล้นความอวบอิ่มขณะที่ปลายลิ้นตวัดรัวเร็วละเลงยอดถันและขบเม้มอย่างตะกละตะกลาม ของขวัญครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน สองมือทั้งกดและปล่อยสลับกันในยามที่ผมระรานหน้าอกของเธอหนักขึ้น เสียงกรีดร้องด้วยความเสียวถูกเปล่งออกมาเมื่อผมลากปลายลิ้นอย่างเชื่องช้าตามผิวเนียนละเอียด ความใจเย็นแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงเมื่อลิ้นสากสะกิดกับยอดถันเสมือนเป็นการหยอกล้อให้คนตัวเล็กคล้อยตาม ความอดทนสะบั้นซ้ำเมื่อปากอวบอิ่มแตะลงที่แก้มสาก ผมมองคนใต้ร่างด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่ถูก เมื่อผมหยุดการกระทำของขวัญจึงลืมตามองผมอย่างอ้อยอิ่ง อยู่ดีๆ ความน้อยใจก็ฉายชัดในตากลมคู่นั้น ความน้อยใจแปรเปลี่ยนเป็นอ้อนวอนจนผมต้องก้มลงไปจูบเธอใหม่ ใช้มืออีกข้างปลดกระดุมกางเกงยีนส์จะใช้เท้าถีบให้ร่วงลงไปอยู่ที่ปลายเตียง "แน่ใจนะว่าต้องการแบบนี้" ผมเอ่ยถามขณะที่แยกเรียวขาขาวออกจากกัน ความใหญ่โตเกินมาตรฐานเหยียดขยายอวดความยิ่งใหญ่และความพร้อมที่เต็มร้อย ผมควบคุมตัวเองได้ดีมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ครั้งนี้ผมควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลย "ขวัญจะเป็นขององศา แค่องศาคนเดียว~" "เลือกเองก็อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน" ผมแทรกกายที่กลางหว่างขา กดสายตามองต่ำตอนที่หัวเห็ดแดงก่ำจ่อปากทางรักที่เหมือนจะคับแคบมากเป็นพิเศษ ไม่แน่ใจว่าผมไม่เก่งเรื่องเล้าโลมหรือมองว่าเรื่องผมและเธอมันเป็นแค่เซ็กซ์ เอวสอบขยับเข้าหาแรงๆ กระทั้นกระแทกลำรักเข้ากับจุดอ่อนไหว ตอกเข้าหนักๆ จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว กึด! ปึก! "กรี้ดดดด!" เสียงกรีดร้องและแรงผวาทำผมชะงัก บดกรามเข้าหากันแน่นเมื่อความคับแคบบีบรัดช่วงล่างจนปวดหนึบไปหมด "อย่าบอกนะว่าเธอ..." "จะ เจ็บ ฮึก! มันเจ็บ~" มวลน้ำตาพรั่งพลูออกมาจากตากลมสวย คราบเลือดที่เปรอะตามลำรักเมื่อผมถอดถอนแก่นกายช้าๆ บ่งบอกว่าผมไม่ได้เข้าใจผิด ของขวัญไม่เคยผ่านมือใครมา ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์เหนือความคาดหมายจริงๆ! "รู้ใช่ไหมว่าตัดสินใจไปแล้วมันกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว" คนใต้ร่างที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นพยักหน้าทั้งน้ำตา นิ้วสวยที่จิกบนแขนผมอย่างแรงตอนที่โดนผมกระแทกเปลี่ยนมาโอบกอดตัวผมเอาไว้หลวมๆ ที่พูดว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ก็แค่บอกให้รู้เท่านั้น ขึ้นชื่อว่าผู้ชายถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วใครมันจะไปหยุดได้กัน! ผมยกมือสางเส้นผมของตัวเองลวกๆ พยายามขยับเข้าออกในตัวของของขวัญอย่างใจเย็นทั้งที่แทบรอไม่ไหว ช่องทางรักที่ไม่เคยผ่านมือใครมาบีบรัดตัวตนของผมอย่างแรงจนเผลอเชิดใบหน้า หลุดเสียงครางออกมาอย่างพึงพอใจ ใบหน้าของคนที่ผมตั้งใจไปเจอก่อนจะกลับมาหาของขวัญฉายชัดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมา "...คัพเค้ก"-ของขวัญ-มหาวิทยาลัย"...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ"น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที"กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี""เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน"เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง"เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไงหมายความว่ามีใครสักคนบอกว่า
S2 PUB"...น้องคนนั้นสวยว่ะ กูล็อกเป้าเรียบร้อย ห้าทุ่มเจอกัน!" ฉลามดีดปลายนิ้วพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตาคมทอดมองไปยังร่างบอบบางของคนที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสดใสฉลามมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชัดเจนกว่าทุกคนเสมอ ชอบคนไหนมันก็เอาคนนั้น มีแต่ผมนี่แหละที่ขยับทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้สักที"มึงเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะหลาม รถไฟไม่เคยชนกันหน่อยเหรอวะ เหมือนกูต้องยอมก้มหัวคารวะให้มึงเป็นอาจารย์ว่ะ" "กลัวเหี้ยไรวะ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะคบจริงจังแบบนั้น รู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วแบบนั้นจะเรียกร้องให้ได้เหี้ยไร" "มึงนี่โชคดีเหมือนกันนะ ควงไม่เคยซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลยสักที" ลีโอมองหน้าเพื่อนแบบเหนือความคาดหมาย ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีใครสู้มันได้จริงๆ"วันนี้จีน่าไม่มาถูกปะ? เงียบ เงียบนี่แปลว่าอะไรวะ ไม่รู้หรือขี้เกียจตอบ" "แล้วมึงถามใคร?""ถามเหี้ยเซย์ไง มันสนิทกับจีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอวะ" "มึงมากกว่ามั้งที่สนิทกับยัยนั่นมากกว่ากู" เซย์เอ่ยขึ้นมาบ้าง วันนี้สีหน้าของมันค่อนข้างเซ็งถึงเซ็งมาก แต่ก็นะ เซย์ก็ยังเป็นเซย์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร"กูเนี่ยนะสนิ
-องศา-"...แม่ขา" เสียงสดใสของคนตัวเล็กข้างกายทักทายคนที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปที่เบื้องหน้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างรวดเร็ว"รอนานไหมคะ" "ไม่นานจ๊ะแม่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน" ผมยกมือไหว้เมื่อแม่ของขวัญเบนสายตามาที่ผม รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้า ผมมักจะเจอกับรอยยิ้มนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไปกินข้าวกันมาเหรอลูก" "ใช่ค่ะ คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังคะให้หนูทำอะไรให้ทานไหม" "หืม? ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้เลยนะ" ของขวัญยิ้มแห้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองกำลังพยายาม"หนูตั้งใจจะเรียนทำอาหารค่ะ นี่คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะเข้าคอร์สเรียนเลยนะคะ มันต้องดีมากๆ เลยแหละ""ขนาดนั้นเชียวเร้อ แบบนี้ในอนาคตแม่คงไม่ต้องจ้างแม่บ้านล่ะมั้ง ลูกสาวจะทำอาหารเก่งแล้วนี่นา" "ได้นะคะ แต่ต้องขอเวลาเรียนรู้ก่อน รอแบบใจเย็นๆ นะคะ" แม่ของขวัญระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สังเกตเห็นว่าฝ่ามือลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน"คุณแม่คุยกับพี่องศารอก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาขนมและน้ำผลไม้มาให้ทานค่ะ" "ขอบใจนะลูก" ของขวัญหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่จากนั้นก็รีบลุกออกไป ปล่อยให้ผมอยู่กับแ
บรรยากาศภายในร้านอาหารที่พวกพี่ๆ เลือกรอบตัวเต็มไปด้วยกลุ่มของนักศึกษา ออกจะเหมือนร้านนั่งชิลล์มากกว่าร้านอาหารที่ไว้สำหรับทานข้าวด้วยซ้ำไป"อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยนะ น้องขวัญเคยมาไหม" "เคยจะมากับมีนค่ะพี่จี แต่พอมาถึงคือคนเยอะมากโต๊ะเต็มเลยไม่มีที่นั่งค่ะ" "นั่นไงว่าแล้วเชียว ทีหลังถ้าอยากมาบอกพี่นะ ร้านสาวของฉลามมันอ่ะ เดี๋ยวให้มันโทรจองโต๊ะให้" "ร้านแฟนพี่ฉลามเหรอคะ" ฉันตาโตเมื่อได้ฟัง ที่ออกจะตกใจเพราะเคยได้ยินว่าพวกพี่ๆ ไม่ได้มีแฟนกันเลยสักคน"สาวที่หมายถึงผู้หญิงของมันอ่ะ เคยคุยเคยได้แต่ไม่เคยคบอะไรแบบนี้" "มึงก็พูดซะกูดูเลวเลยนะจี น้องตกใจกันพอดี ว่าแต่เพื่อนน้องขวัญนี่คือโสดไหมครับ" "นั่นไงกูคิดไว้แล้วไอ้หลามว่ามึงต้องเล็ง ตึงจัด กะจะกวาดให้เรียบเลยหรือไง" พี่ลีโอควงแก้วในมือพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตบท้ายด้วยเสียงของพี่ติณห์ที่คัดค้านขึ้นมา"ลืมเหรอสัส องศามันห้ามยุ่งกับทุกคนที่อยู่รอบตัวคู่หมั้นมันเว้ย แม้แต่เพื่อนของน้องก็ไม่ได้ก็คงรู้แหละว่าพวกมึงมันเลวเกินไป" "สัส กระทืบซะกูยับเยินเลยนะมึง" เสียงหัวเราะในกลุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันสนใจสิ่งที่พี่ติณห์พูดมากกว่า ไม่เคย
หลายวันต่อมามหาวิทยาลัย"...วันนี้แลดูสวยผิดหูผิดตานะ ส่องกระจกแล้วตอบมาว่าคิดเหมือนกันปะ" มีนทักทายประโยคแรกแล้วจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างมีความหมาย สายตากรุ้มกริ่มกระตุ้นรอยยิ้มสดใสได้เป็นอย่างดี"อะไรยังไง ฉันก็เหมือนเดิมไหม" "ก็วันนี้แต่งหน้าสวย ผมก็เป๊ะมาก เหมือนคนที่ดูแลตัวเองแบบสุดๆ อ่ะ" "ก็ต้องดูแลตัวเองไหม หรือจะบอกว่าแกไม่ดูแลตัวเอง" "เรื่องดูแลมันก็ดูแลแหละ แต่แบบมันอาจจะมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นไง" มีนหมุนร่างกายเพื่อหันหน้าเข้าหา เวลาที่ถูกจ้องหนักขึ้นฉันเองก็แทบวางสีหน้าไม่ถูกเหมือนกัน"อะไรของแกเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ทำไมมองแบบนี้เล่า" "ช่วงนี้กำลังอินเลิฟปะ" "ก็เหมือนเดิม" "แต่แกสวยกว่าเดิม สดใสกว่าเดิมยิ้มเก่งกว่าเดิม คือทุกอย่างมันโอเคมากกว่าเดิมอ่ะ มันต้องมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นแหละ""ยัยมีน" "บอกมานะ ช่วงนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" ฉันคิดตามคำถาม และถ้าจะให้พูดกันตามความเป็นจริงเห็นว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ"เงียบแบบนี้แปลว่า...""อื้อ มันก็ดีแหละ เดี๋ยวนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมาก" ฉันเขินหนักมากตอนที่เอ่ยคำนี้ ฉันใจฟูสุดๆ เวลาที่อยู่กับเขา ฉันชอบเวลาท
-องศา-"ขอบคุณนะคะที่ยอมอยู่ พี่องศาน่ารักเป็นบ้าเลย" คนได้ดั่งใจชมเปราะไม่ขาดปากเมื่อผมตอบรับการอยู่เป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าเศร้า ของขวัญในตอนนี้และสามสิบวินาที ก่อนหน้านี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ผมบอกว่าจะกลับเธอไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างตอนนี้ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมกำลังมีบทบาททางความรู้สึกต่อเธอมากเกินไป"อยู่ได้นะ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่" ของขวัญทำตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของผม ตากลมๆ มองต่ำที่ช่วงกลางกายของผมอัตโนมัติ ขนาดตอนนี้ผมยังแต่งตัวเรียบร้อยยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาเลยทำไมดื้อได้ขนาดนี้วะ กล้ามองแบบนี้นี่เกินไปแล้วจริงๆ! "กำลังคิดอะไร" "ปะ เปล่า ไม่ได้กำลังคิดอะไรเลยค่ะ" "แน่ใจ?" ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักรัวๆ แทนคำตอบ แล้วใครจะดูไม่ออกว่าการยิ้มแห้งๆ แบบนี้มันเป็นเพราะเธอกำลังพูดจาเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง"พี่แก้ผ้านอนได้ไหม""พี่องศาพูดจาทะลึ่งเกินไปแล้วค่ะ""แล้วการมองเป้าผู้ชายนี่คือทะลึ่งไหม" "มะ ไม่ได้ตั้งใจจะมองค่ะแต่ตามันดันไปเอง มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหากล่ะ" "เถียงข้างๆ คูๆ" "หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ รู้สึกเหนียวตัวมากเลย" ของขวัญเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับ