คำทำนายทายทักว่า ‘ของขวัญ’ กำลังดวงตก นอกเหนือจากอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต ก็คือฝันร้ายที่ทำให้จิตล่องลอยไปในที่ที่ไม่เคยไป มือใครต่อใครพยายามไขว่คว้าให้เธอเดินตาม หลายต่อหลายครั้งที่เกือบไม่ได้กลับ ‘องศา’ คือคนที่ประคองดวงชะตาดวงนี้ไม่ให้ดิ่งลง นอกเหนือจากสิ่งที่มองไม่เห็น ความรู้สึกดีๆ ชัดเจนขึ้นเมื่อได้ใกล้ชิด ก็คิดว่าเคยคบ เคยรัก ‘ของขวัญ’ จึงทุ่มหมดหน้าตัก ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งทุกคนจะบอกกับเธอว่าองศาเดียวที่เธอรัก ‘เขาเป็นแค่คู่หมั้นปลอมๆ’
View More-องศา-
@ห้างสรรพสินค้า "...พี่องศา ขวัญใส่ชุดนี้น่ารักไหมคะ" เสียงสดใสของ ของขวัญ ส่งผลให้ผมที่กำลังคิดอะไรเงียบๆ หลุดจากภวังค์ ตาคมหยุดมองรอยยิ้มกว้างๆ ของคนที่สองเดือนก่อนหน้านี้แทบไม่มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้า มองร่างบางๆ หมุนตัวกลับไปกลับมาเพื่อเป็นคำถามว่าผมรู้สึกยังไงกับชุดที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ดี "ก็ดี" ทั้งที่ปากเอ่ยออกไปแบบนั้น แล้วทำไมผมถึงต้องนึกถึงผู้หญิงอีกคนด้วยวะ! "แค่ดีเหรอคะ นี่สีโปรดของขวัญเลยนะ เล็งไว้ตั้งนานแน่ะ รอพี่องศาว่างถึงได้ชวนมาด้วยกัน" "ซื้อๆ ไปเถอะ ซื้อเสร็จจะได้ทำธุระอย่างอื่น" "รีบอีกแล้วเหรอคะ" "พี่มีธุระต้องไปต่อ ก็บอกไปแล้วว่ามีเวลาให้ไม่นาน" "อยากไปกินข้าวด้วยกันต่อพอได้ไหมคะ" "พี่ให้ได้แค่กลับไปส่งที่คอนโด ถ้าจะขอมากกว่านั้นพี่จะให้กลับเอง" ผมตอบกลับอย่างไม่แยแส และแน่นอนว่าของขวัญหน้างอใส่ผมทันที "พี่ไม่ให้เวลาขวัญเลยอ่ะ แบบนี้หลังเรียนจบเราจะแต่งงานกันได้จริงๆ เหรอคะ" "ถึงตอนนั้นถ้าขวัญไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง พี่ไม่บังคับขวัญ จะไม่มีใครบังคับเราได้ทั้งนั้นถ้าเราสองคนไม่เต็มใจ" ผมยิ้มมุมปาก รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเวลาที่ของขวัญมีความคิดในแบบเดียวกับผม ยุติบทบาทคู่รักจอมปลอมนี่ทีเถอะ ผมอยากได้ชีวิตของผมคืน! จุดเริ่มต้นระหว่างเธอกับผมมันไม่ใช่ความรัก สองเดือนที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำเหมือนคบกัน พ่อแม่อยากให้ลงเอยกัน ที่จริงแล้วมันมีเหตุผล เหตุผลที่เป็นทางออกของทุกคน แต่มันเป็นเรื่องที่โคตรซวยสำหรับผมเลย! "ไม่ดีกว่าค่ะ ขวัญไม่อยากทำให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ ผู้ใหญ่ให้แต่งขวัญก็จะแต่ง" แม่ง! สุดท้ายก็แค่หลอกให้กูดีใจ! "ขวัญชอบฝืนใจตัวเองเหรอ?" "ไม่ได้ฝืนใจตัวเองค่ะ เรารักกัน คนรักกันแต่งงานกันมันไม่ใช่เรื่องของการฝืนใจเลย" ผมดันปลายลิ้นเข้ากับมุมปากก่อนจะเบือนหน้าหนี อยากตอบกลับฉิบหายว่าไม่ได้รัก ไม่เคยรัก ที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เพราะถูกบังคับทางอ้อมต่างหากล่ะ "พี่องศา ขวัญว่าเรามาเปิดใจคุยกันดีๆ ดีกว่าไหมคะ" เปิดใจคุยดีๆ นี่คือต้องคุยแบบไหนวะ คุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น อธิบายว่าเราไม่เคยคบกันเลย แบบนั้นนั่นแหละคือการคุยกันดีๆ แบบดีโคตรๆ สำหรับผมเลย "ขวัญไม่เหมือนเดิมเหรอคะ ไม่สวยเหมือนเดิม ไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อน เอาแต่ใจและเรียกร้องเกินไปหรือเปล่าพี่องศาถึงทำเหมือนเบื่อหน่าย ทำเหมือนไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยกันเลย" นั่นไง พอจริงจังขึ้นมาเมื่อไหร่ยัยของขวัญหน้าเหมือนตุ๊กตาอย่างที่ใครต่อใครชอบว่าก็ตั้งท่าจะร้องไห้ "อายเหรอคะที่ต้องไปไหนมาไหนกับขวัญ ถ้าเป็นแบบนั้นเราห่างกันซักพักดีไหม เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้นมา" อะไรมันจะเข้าทางขนาดนี้วะ! "พี่แล้วแต่ขวัญ" "งั้นก็ห่างกันซักพักนะคะ ขวัญไม่โอเคเวลาที่พี่องศาทำเหมือนไม่ได้เต็มใจจะไปไหนมาไหนด้วยกัน" "..." "เอาเป็นว่าถ้าพี่องศาคิดได้ก็ค่อยกลับมาง้อขวัญละกัน" ของขวัญหมุนตัวกลับเข้าไปยังห้องลองชุด เปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิมก่อนที่ผมจะทำหน้าที่จ่ายค่าเสื้อผ้าที่เธอตั้งใจจะซื้อให้เหมือนทุกครั้ง แตกต่างที่ทุกครั้งเธอจะยิ้มกว้างๆ และแสดงท่าทางว่าดีใจหนักมาก แต่ครั้งนี้กลับไม่ยิ้ม เลือกที่จะรอรับของแล้วเดินออกจากร้านไปเลย คอนโดS "สัส ทำไมมึงใจร้ายกับน้องได้ขนาดนั้นวะ นั่นคู่หมั้นมึงนะ" ฉลามคีบบุหรี่ออกมาจากปากก่อนที่มันจะเสนอหน้าเข้าข้างเด็กนั่น "มึงไม่สงสารแล้วหรือไง ไหนบอกว่าน้องกำลังดวงตก ทะเลาะกันแบบนี้ไม่ดีนะเว้ย ถ้ามึงคือคนที่ช่วยประคองดวงชะตาน้องไม่ให้ตกต่ำลงไปมากกว่านี้ตามที่คำทำนายบอกไว้จริงๆ ระวังจะเกิดเรื่องไม่ดีตอนที่มึงไม่ได้อยู่กับเขาก็แล้วกัน" "ที่ไอ้หลามพูดมันก็น่าคิดนะมึง มึงน่าจะรู้ดีกว่าพวกกูนะองศาว่าเวลาดวงตกน้องมันต้องเจอกับอะไรและเคยเจอกับอะไรมา" ไอ้เซย์ที่กำลังสนใจเกมส์ในโทรศัพท์สมทบขึ้นมาบ้าง คำพูดของมันจริงจังจนผมเผลอคิดตาม "พวกมึงเข้าข้างเด็กนั่นโดยไม่สนใจความรู้สึกของกูที่เป็นเพื่อนพวกมึงอ่ะนะ" "แล้วมึงจะโวยวายให้มันได้อะไรขึ้นมาวะ การเป็นแฟนกำมะลอกับสาวน้อยหน้าตุ๊กตาคนนั้นกูก็เห็นว่ามึงมีแต่ได้กับได้ น้องของขวัญนั่นน่ารักฉิบหาย ตัวงี๊โคตรขาว หุ่นแบบนั้นแม่งก็สเปคมึงไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงจะมาทำท่าอมทุกข์เพื่อ?" ไอ้ฉลามพูดต่อและมองหน้าผมยิ้มๆ "ถ้ามึงเบื่อมึงก็เล่นให้มันสมบทบาท กำไรเล็กๆ น้อยๆ ก็คือการสมบทบาทนั่นแหละมึงเชื่อกู" "จมปลักฉิบหาย เสือกสนใจแต่ของที่จับต้องไม่ได้" ไอ้เซย์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ผมแม่งก็เบื่อขี้หน้าไอ้เวรพวกนี้แล้วเหมือนกัน "ไอ้เหี้ยติณห์กับไอ้ลีโอหายหัวไปไหนเนี่ย" "หงุดหงิดแล้วอย่ามาพาลเพื่อน พวกมันทำตัวมีประโยชน์แน่มึงไม่ต้องห่วงมันเลย" "กูแค่ถามว่าพวกมันหายหัวไปไหน" "ไปซื้อเบียร์" เซย์ตอบกลับปัดความรำคาญ มือของมันยังคงจิ้มรัวๆ ที่หน้าจอโทรศัพท์เพื่อเล่นเกมส์ตามเดิม ผมดันตัวลุกจนเต็มความสูง ก้าวขาออกไปที่บริเวณระเบียงห้องพร้อมกับเคาะบุหรี่ออกมาจากซอง เรื่องของคำทำนายยังรบกวนจิตใจไม่เคยหาย ถ้าจะพูดว่ามันเป็นแค่เรื่องงมงายไม่มีอยู่จริงก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะผลของมันเคยออกฤทธิ์ให้เห็นมาแล้ว สำหรับของขวัญผมคือคนสำคัญที่เธอและครอบครัวของเธอพยายามตามหา ต่างจากผมที่เฝ้ารอและนับเวลา ครบสามเดือนขึ้นมาเมื่อไหร่ ดวงชะตาเปลี่ยนแปลงตอนไหน เรื่องของเธอกับผมต้องเป็นอันยุติลงทันที! [ END ] -ของขวัญ- "...พอแล้วยัยขวัญ แกจะกินมันทำไมนักหนา นี่เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ" มีน พยายามดึงแก้วเหล้าออกจากมือฉัน ที่จริงมีนพยายามดึงออกเป็นรอบที่ร้อย แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่มันดึงแก้วจากมือของฉันได้สำเร็จ "เอาคืนมาเถอะมีน แกปล่อยให้ฉันกินเถอะ ตอนนี้ฉันไม่อยากให้สมองว่างจนคิดเรื่องบางเรื่องไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที" ฉันซุกใบหน้าลงกับต้นแขนของตัวเองที่วางแนบอยู่บนโต๊ะ ดื่มไปหลายแก้ว ยังไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเมาเลยสักนิด แค่เวียนหัว จะอ้วก และยังลืมไม่ได้อยู่ดี "แกเครียดเรื่องพี่องศาสินะ" "แกบอกฉันได้ปะว่าหลังจากที่ฉันเกิดอุบัติเหตุ ชีวิตของฉันมันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง" ยัยมีนเบิกตาขึ้น มันดูล่อกแล่กจนฉันเองก็ใจเสีย กลัวว่าสาเหตุที่ทำให้พี่องศาเปลี่ยนไปมันจะเป็นเพราะฉันที่ไม่เหมือนเดิม "ทะ ทำไมแกถึงถามแบบนี้ล่ะ" "แกบอกว่าฉันกับพี่องศาเป็นแฟนกัน เรารักกันดี เราคบกันมานาน เรียนจบจะแต่งงานกัน ทุกคนบอกฉันแบบนั้นแต่ทำไมสองเดือนมานี้พี่องศาไม่เคยสนใจฉันเหมือนเมื่อก่อนเลย เขาไม่คิดจะสนใจจนฉันเองก็ชักสงสัยว่าเมื่อก่อนฉันกับเขารักกันจริงๆ ใช่ไหม" "ของขวัญ แกกับพี่องศารักกัน ที่ตอนนี้พี่องศาเปลี่ยนไปมันอาจจะเป็นเพราะพี่เขาเรียนหนักก็ได้ แกอย่าคิดมากสิ" "เรียนหนักงั้นเหรอ..." ฉันพึมพำออกมาก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา "ขนาดฉันตัดพ้อเขาด้วยความน้อยใจ เขายังไม่สนใจฉันเลย ฉันบอกว่าถ้าเขาไม่สนใจ ก็ขอให้เราห่างกัน เขาก็บอกว่าแล้วแต่ฉัน และพอเรียนจบ ถ้าฉันบอกว่าจะไม่แต่งงาน เขาก็บอกว่าแล้วแต่ฉันเหมือนกัน เขาเย็นชาเกินไปไหมมีน แบบนี้น่ะเหรอเขาเรียกว่าคนรักกัน" "ปกติแกชวนพี่เขาไปกินข้าว ดูหนัง ช็อปปิ้ง บางทีพี่เขาอาจจะไม่ชอบการใช้ชีวิตแบบนั้นก็ได้ เอางี้ แกลองหาเวลาอยู่กับพี่เขาแค่สองคนดีไหม อยู่ในห้องเงียบๆ ทำอาหารง่ายๆ ให้พี่เขาทานที่ห้อง มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบไม่มีใครมารบกวนมันอาจจะดีก็ได้นะ" ฉันคิดตามที่มีนบอก เท่าที่ฉันจำได้ เรื่องราวระหว่างฉันและพี่องศาเราแทบไม่เคยมีเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคนจริงๆ "แกคิดว่ามันจะดีขึ้นมาจริงๆ เหรอมีน" "ลองดูไหม ถึงยังไงซะก็ขึ้นชื่อว่าแกกับพี่เขาเป็นแฟนกัน มันไม่มีอะไรเสียหายหรอก ถ้าการอยู่ด้วยกันตามลำพังมันได้ผล ดีไม่ดีมันอาจจะทำให้แกได้พี่เขาคืนไง" ฉันกดปลายนิ้วนวดที่หว่างคิ้วและเผลอคิดตาม ใช่! ฉันอยากได้พี่องศาคืน ฉันรักเขา ฉันอยากรู้ว่าเมื่อก่อนเรารักกันแค่ไหน อยากรู้ว่ามันดีกว่าตอนนี้ไหม! [ END ]-ของขวัญ-มหาวิทยาลัย"...พี่จี" ฉันโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่สาวที่ยืนเหม่ออยู่นาน ตอนแรกลังเลว่าจะรอให้พี่จีเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนค่อยทัก ทว่ารุ่นพี่สาวกลับไม่ยอมก้าวขาออกมาจากตรงนั้นสักที สีหน้าเหมือนคนกำลังเก็บบางสิ่งบางอย่างมาคิดอยู่ในหัว เหมือนคนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ"น้องขวัญ" พี่จีน่าสะบัดหัวแรงๆ ก่อนจะยิ้มให้ฉัน สีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีส่งผลให้ฉันผายมือไปที่ฝั่งร้านกาแฟทันที"กาแฟสักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "ดีเลยค่ะ น้องขวัญรีบไหมไปกับพี่นะ" "ไม่รีบค่ะ ขวัญรอเพื่อนอยู่พอดี""เคเลย" พี่จีน่าตรงไปยังร้านกาแฟพร้อมฉัน เราสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันก่อนจะเดินมานั่งรอด้วยกัน"เมื่อคืนกลับดึกมากเหรอคะ เหมือนคนนอนน้อยเลย" "งั้นเหรอ วันนี้พี่แต่งหน้าไม่สวยหรือเปล่า รีบๆ หน่อย" รุ่นพี่สาวรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเข้าไปที่กล้องหน้าเพื่อเช็กใบหน้าของตัวเอง"เหมือนคนพักผ่อนไม่ค่อยเต็มที่ค่ะพี่จี แต่ยังสวยเหมือนเดิมนะคะ" "ปากหวานนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ สวยก็ใช่ว่าจะสวยสำหรับทุกคน" "คะ?" ฉันเอียงคอมองสบตากับคนตรงหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พี่จีน่าพูดมันหมายความว่ายังไงหมายความว่ามีใครสักคนบอกว่า
S2 PUB"...น้องคนนั้นสวยว่ะ กูล็อกเป้าเรียบร้อย ห้าทุ่มเจอกัน!" ฉลามดีดปลายนิ้วพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตาคมทอดมองไปยังร่างบอบบางของคนที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสดใสฉลามมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชัดเจนกว่าทุกคนเสมอ ชอบคนไหนมันก็เอาคนนั้น มีแต่ผมนี่แหละที่ขยับทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้สักที"มึงเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยนะหลาม รถไฟไม่เคยชนกันหน่อยเหรอวะ เหมือนกูต้องยอมก้มหัวคารวะให้มึงเป็นอาจารย์ว่ะ" "กลัวเหี้ยไรวะ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว ว่าไม่ได้จะคบจริงจังแบบนั้น รู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วแบบนั้นจะเรียกร้องให้ได้เหี้ยไร" "มึงนี่โชคดีเหมือนกันนะ ควงไม่เคยซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลยสักที" ลีโอมองหน้าเพื่อนแบบเหนือความคาดหมาย ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เรื่องนี้ไม่มีใครสู้มันได้จริงๆ"วันนี้จีน่าไม่มาถูกปะ? เงียบ เงียบนี่แปลว่าอะไรวะ ไม่รู้หรือขี้เกียจตอบ" "แล้วมึงถามใคร?""ถามเหี้ยเซย์ไง มันสนิทกับจีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอวะ" "มึงมากกว่ามั้งที่สนิทกับยัยนั่นมากกว่ากู" เซย์เอ่ยขึ้นมาบ้าง วันนี้สีหน้าของมันค่อนข้างเซ็งถึงเซ็งมาก แต่ก็นะ เซย์ก็ยังเป็นเซย์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร"กูเนี่ยนะสนิ
-องศา-"...แม่ขา" เสียงสดใสของคนตัวเล็กข้างกายทักทายคนที่นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว ขาเรียวก้าวเร็วๆ ไปที่เบื้องหน้าก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาอย่างรวดเร็ว"รอนานไหมคะ" "ไม่นานจ๊ะแม่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน" ผมยกมือไหว้เมื่อแม่ของขวัญเบนสายตามาที่ผม รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้า ผมมักจะเจอกับรอยยิ้มนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน"ไปกินข้าวกันมาเหรอลูก" "ใช่ค่ะ คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังคะให้หนูทำอะไรให้ทานไหม" "หืม? ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้เลยนะ" ของขวัญยิ้มแห้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากอวดในสิ่งที่ตัวเองกำลังพยายาม"หนูตั้งใจจะเรียนทำอาหารค่ะ นี่คิดว่าถ้ามีเวลาว่างจะเข้าคอร์สเรียนเลยนะคะ มันต้องดีมากๆ เลยแหละ""ขนาดนั้นเชียวเร้อ แบบนี้ในอนาคตแม่คงไม่ต้องจ้างแม่บ้านล่ะมั้ง ลูกสาวจะทำอาหารเก่งแล้วนี่นา" "ได้นะคะ แต่ต้องขอเวลาเรียนรู้ก่อน รอแบบใจเย็นๆ นะคะ" แม่ของขวัญระบายรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สังเกตเห็นว่าฝ่ามือลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน"คุณแม่คุยกับพี่องศารอก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาขนมและน้ำผลไม้มาให้ทานค่ะ" "ขอบใจนะลูก" ของขวัญหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่จากนั้นก็รีบลุกออกไป ปล่อยให้ผมอยู่กับแ
บรรยากาศภายในร้านอาหารที่พวกพี่ๆ เลือกรอบตัวเต็มไปด้วยกลุ่มของนักศึกษา ออกจะเหมือนร้านนั่งชิลล์มากกว่าร้านอาหารที่ไว้สำหรับทานข้าวด้วยซ้ำไป"อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยนะ น้องขวัญเคยมาไหม" "เคยจะมากับมีนค่ะพี่จี แต่พอมาถึงคือคนเยอะมากโต๊ะเต็มเลยไม่มีที่นั่งค่ะ" "นั่นไงว่าแล้วเชียว ทีหลังถ้าอยากมาบอกพี่นะ ร้านสาวของฉลามมันอ่ะ เดี๋ยวให้มันโทรจองโต๊ะให้" "ร้านแฟนพี่ฉลามเหรอคะ" ฉันตาโตเมื่อได้ฟัง ที่ออกจะตกใจเพราะเคยได้ยินว่าพวกพี่ๆ ไม่ได้มีแฟนกันเลยสักคน"สาวที่หมายถึงผู้หญิงของมันอ่ะ เคยคุยเคยได้แต่ไม่เคยคบอะไรแบบนี้" "มึงก็พูดซะกูดูเลวเลยนะจี น้องตกใจกันพอดี ว่าแต่เพื่อนน้องขวัญนี่คือโสดไหมครับ" "นั่นไงกูคิดไว้แล้วไอ้หลามว่ามึงต้องเล็ง ตึงจัด กะจะกวาดให้เรียบเลยหรือไง" พี่ลีโอควงแก้วในมือพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ตบท้ายด้วยเสียงของพี่ติณห์ที่คัดค้านขึ้นมา"ลืมเหรอสัส องศามันห้ามยุ่งกับทุกคนที่อยู่รอบตัวคู่หมั้นมันเว้ย แม้แต่เพื่อนของน้องก็ไม่ได้ก็คงรู้แหละว่าพวกมึงมันเลวเกินไป" "สัส กระทืบซะกูยับเยินเลยนะมึง" เสียงหัวเราะในกลุ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันสนใจสิ่งที่พี่ติณห์พูดมากกว่า ไม่เคย
หลายวันต่อมามหาวิทยาลัย"...วันนี้แลดูสวยผิดหูผิดตานะ ส่องกระจกแล้วตอบมาว่าคิดเหมือนกันปะ" มีนทักทายประโยคแรกแล้วจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างมีความหมาย สายตากรุ้มกริ่มกระตุ้นรอยยิ้มสดใสได้เป็นอย่างดี"อะไรยังไง ฉันก็เหมือนเดิมไหม" "ก็วันนี้แต่งหน้าสวย ผมก็เป๊ะมาก เหมือนคนที่ดูแลตัวเองแบบสุดๆ อ่ะ" "ก็ต้องดูแลตัวเองไหม หรือจะบอกว่าแกไม่ดูแลตัวเอง" "เรื่องดูแลมันก็ดูแลแหละ แต่แบบมันอาจจะมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นไง" มีนหมุนร่างกายเพื่อหันหน้าเข้าหา เวลาที่ถูกจ้องหนักขึ้นฉันเองก็แทบวางสีหน้าไม่ถูกเหมือนกัน"อะไรของแกเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ทำไมมองแบบนี้เล่า" "ช่วงนี้กำลังอินเลิฟปะ" "ก็เหมือนเดิม" "แต่แกสวยกว่าเดิม สดใสกว่าเดิมยิ้มเก่งกว่าเดิม คือทุกอย่างมันโอเคมากกว่าเดิมอ่ะ มันต้องมีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้นแหละ""ยัยมีน" "บอกมานะ ช่วงนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ" ฉันคิดตามคำถาม และถ้าจะให้พูดกันตามความเป็นจริงเห็นว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ"เงียบแบบนี้แปลว่า...""อื้อ มันก็ดีแหละ เดี๋ยวนี้พี่องศาทำตัวน่ารักมาก" ฉันเขินหนักมากตอนที่เอ่ยคำนี้ ฉันใจฟูสุดๆ เวลาที่อยู่กับเขา ฉันชอบเวลาท
-องศา-"ขอบคุณนะคะที่ยอมอยู่ พี่องศาน่ารักเป็นบ้าเลย" คนได้ดั่งใจชมเปราะไม่ขาดปากเมื่อผมตอบรับการอยู่เป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าเศร้า ของขวัญในตอนนี้และสามสิบวินาที ก่อนหน้านี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ผมบอกว่าจะกลับเธอไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างตอนนี้ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมกำลังมีบทบาททางความรู้สึกต่อเธอมากเกินไป"อยู่ได้นะ แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่" ของขวัญทำตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของผม ตากลมๆ มองต่ำที่ช่วงกลางกายของผมอัตโนมัติ ขนาดตอนนี้ผมยังแต่งตัวเรียบร้อยยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาเลยทำไมดื้อได้ขนาดนี้วะ กล้ามองแบบนี้นี่เกินไปแล้วจริงๆ! "กำลังคิดอะไร" "ปะ เปล่า ไม่ได้กำลังคิดอะไรเลยค่ะ" "แน่ใจ?" ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักรัวๆ แทนคำตอบ แล้วใครจะดูไม่ออกว่าการยิ้มแห้งๆ แบบนี้มันเป็นเพราะเธอกำลังพูดจาเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง"พี่แก้ผ้านอนได้ไหม""พี่องศาพูดจาทะลึ่งเกินไปแล้วค่ะ""แล้วการมองเป้าผู้ชายนี่คือทะลึ่งไหม" "มะ ไม่ได้ตั้งใจจะมองค่ะแต่ตามันดันไปเอง มันเป็นเรื่องบังเอิญต่างหากล่ะ" "เถียงข้างๆ คูๆ" "หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ รู้สึกเหนียวตัวมากเลย" ของขวัญเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับ
Comments