แชร์

ตอนที่ 7 งอกเงย

ผู้เขียน: ประดับดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-03 15:29:32

“ข้าก็คิดเช่นนั้น” ไป๋เล่อหัวเราะเบา ๆ  “น่าระอายนักข้ายังมีเรื่องจะขอรบกวนท่านอีกสักอย่าง”

          ไป๋เล่อยกตะกร้าหวายเล็กขึ้นมา หยิบกล่องผักสลัดวางลงบนโต๊ะไม้ตรงหน้าเจียงจิง

“นี่คือน้ำปรุงผักงาน้ำผึ้งที่ข้าลองทำ…พี่สาวช่วยชิมแล้ววิจารณ์ให้ตรงไปตรงมาหน่อยเถอะ ข้าตั้งใจจะเอาไปขาย”

เจียงจิงเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็หยิบตะเกียบคีบผักสดที่ราดน้ำปรุงขึ้นมาชิมอย่างตั้งใจ รสหวานละมุนของน้ำผึ้งผสานความหอมมันของงาแตะปลายลิ้น ก่อนจะตามด้วยรสเปรี้ยวบางเบาที่ช่วยตัดเลี่ยน ขณะชิมดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นทำให้ไป๋เล่อใจชื้นขึ้นหลายส่วน

“เป็นการกินผักสดที่แปลกใหม่ รสชาติดีมาก ทว่าหวานไปนิดสำหรับคนไม่ชอบหวาน…แต่กลิ่นหอมใช้ได้เลย”

เจียงจิงวางตะเกียบแล้วเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อม “หรืออาจจะแยกรสเปรี้ยว หวานจะดีกว่า”

ไป๋เล่อพยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณพี่สาวที่ชี้แนะ”

          เจียงจิงมองนางอย่างสนใจ  “เจ้าจะทำส่งร้านอาหารที่ใดหรือ”

          ไป๋เล่อสายหน้า  “ข้าจะตั้งแผงขายข้างทาง” 

          คำตอบนั้นทำให้เจียงจิงถึงกับชะงักไปชั่วครู่ นัยน์ตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ  หญิงงามผู้นี้จะไปขายของข้างทาง  ทว่าทุกคนก็ต้องปรับตัวนางจึงกล่าว 

“ข้าเชื่อว่าน้องสามต้องทำได้แน่”

ไป๋เล่อพูดคุยกับเจียงจิงอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยล่ำลากลับ

ระหว่างที่เดินตามทางหิน อาเหมยซึ่งเดินเคียงข้างก็หันมากระซิบถามอย่างอดไม่ได้

“คุณหนู…หากตั้งใจจะทำน้ำปรุงผักเพียงอย่างเดียว เหตุใดถึงต้องซื้ออุปกรณ์ครัวมากมายขนาดนั้นเจ้าคะ”

ไป๋เล่อก้าวเดินพลางเอ่ย  “ข้าจะทำขนมด้วย น้ำปรุงผักก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อะไรที่ทำได้ก่อนก็เริ่มทำไปก่อน”

นางเหลือบตามองท้องฟ้าที่เริ่มคล้อยต่ำแล้วเอ่ยเร่ง “รีบเดินเถอะ…เรายังต้องกลับไปเพาะเมล็ดผักอีก”

เมื่อกลับมาถึงเรือน แสงอาทิตย์ยามสนธยาทอแสงอุ่นลอดผ่านยอดไม้ เงาสะท้อนบนพื้นดินทอดยาวไปจนถึงลานเล็กหน้าสวน ไป๋เล่อวางตะกร้าลงบนโต๊ะหิน หยิบถุงเมล็ดพืชที่ซื้อจากตลาดออกมาเรียงทีละถุง

“อาเหมย” นางหันไปเอ่ยเสียงนุ่ม

“เจ้าช่วยนำผักสดกับน้ำปรุงผักไปส่งให้คุณชายสี่ด้วย”

อาเหมยกะพริบตาเล็กน้อย ก่อนยิ้มรับ “เจ้าค่ะคุณหนู”

แล้วก็รีบจัดของใส่กล่องไม้ เดินออกจากเรือนไปอย่างคล่องแคล่ว

จากไป๋เล่อก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น นำดินร่วนจากถุงที่บ่าวชายยกมาเทลงในแปลงเล็กหลังเรือน นางใช้เสียมพรวนดินให้โปร่ง ลมยามเย็นพัดโชยพาเอากลิ่นดินชื้นและหอมดอกไม้มาแตะปลายจมูก

มือเรียวค่อย ๆ หยิบเมล็ดแตงกวา ถั่วลันเตา และผักสลัดหลากชนิด หยอดลงไปในดินอย่างใจเย็น จากนั้นกลบด้วยดินบาง ๆ รดน้ำด้วยกระบอกไม้ไผ่ เสียงน้ำซึมลงพื้นเบา ๆ คล้ายเป็นสัญญาณเริ่มต้นใหม่

ไป๋เล่อยืนมองแปลงดินเล็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มบาง

“เด็กดีพวกเจ้าต้องงอกเงยทุกต้นรู้ไหม”

บรรยากาศยามเย็นอบอุ่น มีเพียงเสียงแมลงกลางทุ่งร้องระงม เป็นดั่งเสียงขับกล่อมวันแรกของสวนผักเล็ก ๆ

เรือนซินหยวน

          เรือนของคุณชายสี่เผยซ่งเหยา ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของจวนเผย แยกออกจากความวุ่นวายของเรือนใหญ่ รอบเรือนปลูกไม้ผลัดใบกับดอกไม้ตามฤดูกาล ลมเย็นจากเชิงเขาพัดผ่านทำให้บรรยากาศเงียบสงบและสดชื่นอยู่เสมอ

ด้านหน้ามีสระเล็ก ๆ ขอบหิน ปลูกบัวขาวกับบัวชมพูเมื่อถึงยามเช้าแสงแดดสะท้อนหยดน้ำบนใบบัวส่องประกายราวกับหยกน้ำงาม ทางเดินไม้ทอดไปสู่ศาลาเล็กกลางสวน เหมาะให้อ่านตำราหรือฝึกเขียนอักษร

อาเหมยก้าวเข้าสู่ลานเรือนซินหยวน ดวงตากวาดสำรวจรอบด้านอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศสะอาดเรียบร้อยเกินคาด ต้นไม้เล็ก ๆ ถูกดูแลจนสดชื่น ทางเดินกวาดเรียบไม่เห็นเศษใบไม้สักแผ่น ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นในใจ

หรือว่านางเข้าใจผิดไปเอง…ว่าตระกูลเผยกำลังตกอับ

“คุณชายสี่เรียกแม่นางเข้าไปข้างใน”

เสียงของอี้ชิงดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้อาเหมยสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะได้สติรีบยกกล่องอาหารในมือเดินตามเข้าไปในห้องหนังสือ

ภายในเรือนจัดอย่างเรียบง่าย เน้นความสะอาดสะอ้าน ผนังแขวนภาพอักษรคัดด้วยลายมือผู้ใหญ่ ใช้เป็นแบบฝึกสอนคุณชายสี่ โต๊ะเขียนหนังสือเตี้ยตรงกลางยังมีร่องรอยหมึกเปื้อนจาง ๆ บ่งบอกถึงความเพียรพยายามของเด็กน้อย

อาเหมยก้าวไปข้างหน้า ยกกล่องอาหารขึ้นในมือ “แม่นางอันไป๋เล่อ…ทำน้ำปรุงผักมาให้คุณชายสี่เจ้าค่ะ หวังว่าจะถูกปากคุณชาย”

นางส่งกล่องให้กับอี้ชิงที่ยืนรับด้วยความนอบน้อม เผยซ่งเหยาที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมใสเป็นประกาย พร้อมเอ่ยเสียงใส

“ข้าขอบคุณท่านแม่…มากนัก”

น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความดีใจ จนแม้แต่อาเหมยยังอดยิ้มตามไม่ได้

เผยซ่งเหยามองกล่องตรงหน้า ดวงตาใสสุกระยิบ เมื่อเปิดฝาออกเห็นผักสดราดด้วยน้ำงาหอมกรุ่น ริมฝีปากเล็ก ๆ ของเขาเผลอยกยิ้มกว้างขึ้นมาเอง  มารดาเป็นคนทำให้เขาจริง ๆ

อาเหมยกล่าวลาแล้วหมุนตัวเดินออกไป แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู เสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ก็ดังตามมา

“ท่านแม่…อี้เหนียงสี่จะไม่ไปจากตระกูลเผยใช่หรือไม่”

อาเหมยชะงัก หันกลับไปมอง เห็นเด็กชายยืนจ้องมาด้วยแววตาคาดหวังอย่างแรงกล้า นางจึงพยักหน้าเบา ๆ

“เจ้าค่ะคุณชาย คุณหนูบอกว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ”

แววตาเผยซ่งเหยาเบิกกว้าง รอยยิ้มที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต  เขากำหมัดแน่น ก่อนเอ่ยเสียงใสจริงจังเกินวัย “เจ้าช่วยบอกท่านแม่ด้วย ข้าจะตั้งใจเรียน ท่านแม่ไม่ต้องกังวล…ข้าจะดูแลท่านแม่ ไม่ให้ลำบาก”

อาเหมยใจอ่อนยวบ รีบโค้งรับคำ “บ่าวจะความไปบอกแม่นางไม่ตกหล่นสักคำเจ้าค่ะ”

เด็กชายพยักหน้า ดวงตายังเป็นประกาย “เจ้าไปเถอะ…อย่าให้ท่านแม่ต้องอยู่ลำพัง”

อาเหมยมองใบหน้าของคุณชายที่ยืนอยู่กลางลานด้วยแววตาหลากหลาย นางไม่กล้าเอ่ยคำให้มากความ ย่อคารวะอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวก้าวออกไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 109 อิสระที่ห่างไป

    ตอนที่ 109 อิสระที่ห่างไปเรือนพักของอันไป๋เล่ออบอวลด้วยกลิ่นน้ำหอมที่นางกลั่นเมื่อคืน สายแดดยามสายลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแตะปลายผมของนางที่ยังยุ่งเล็กน้อยเพราะเพิ่งตื่นหลังจากดื่มจนเมามายเมื่อคืนอาเหมยบิดผ้าชุบน้ำอุ่นแล้วช่วยเช็ดใบหน้าให้นาง พลางเอ่ยอย่างระมัดระวัง “เมื่อเช้า…มีราชโองการไปถึงจวนตระกูลเผยแล้วนะเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่าน…คือพระชายาเอกแห่งจวนซินอ๋องอย่างเป็นทางการแล้ว”ไป๋เล่อชะงักเงยหน้า ดวงตาที่ยังพร่าเพราะง่วงวูบเบิกกว้างขึ้นทันที“มีราชโองการแล้วหรือ? เหตุใดถึงรีบเร่งถึงเพียงนี้…อิสระของข้า…กำลังจะหายไปแล้วจริง ๆ”ไป๋เล่อพึมพำแผ่วเบา ดวงหน้านวลสะท้อนความเวทนาปนเสียดายเพราะนางรู้ดี นับจากวันนี้เป็นต้นไป แม้เผยกู้หยางจะไม่เอ่ยห้าม ไม่เคยตำหนิในสิ่งที่นางทำแต่ความเป็น “ซินอ๋อง” ที่ประทับตราบนตัวเขา…ย่อมหมายถึงพันธนาการที่พัวพันมาถึงนางด้วยนางยกมือแตะแก้มที่เย็นชืดเบา ๆแววตาเจือความขื่นขมและยอมรับในชะตา“ต่อจากนี้…ข้าคงจะทำตามใจเช่นเดิมไม่ได้แล้วจริง ๆ”อาเหมยลอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง แต่ก็แฝงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ“วันนี้…หากท่านพอมีแรง ข้

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 108 การยอมรับ

    ตอนที่ 108 การยอมรับช้าวันถัดมาแสงแรกยังไม่ทันส่องเต็มลานหิน ข่าวใหญ่ก็แพร่สะพัดราวไฟลามป่าไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วข่าวลือที่ว่ากลายเป็นความจริงผู้คนไม่จำเป็นต้องคาดเดาอีกต่อไปเพราะราชสำนักส่งราชทูตถือผืนแพรแดงปักลายมังกรทองมาถึงหน้าจวนแม่ทัพเผย ตั้งแต่รุ่งสางเสียงประกาศราชโองการดังขึ้นชัดถ้อยชัดคำสะท้อนก้องไปทั่วตรอกซอกซอยที่ยังไม่ทันตื่นเต็มที่ราชทูตยกผืนแพรขึ้นเหนือศีรษะ อ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน“โดยพระราชประสงค์แห่งฮ่องเต้ กู้เสียนหรง ทรงมีพระราชดำริให้โอรสผู้กำเนิดจากสายเลือดแท้ ผู้ถูกเลี้ยงดูนอกวังด้วยเหตุแห่งความจำเป็นในอดีต คือ เผยกู้หยาง ได้รับการแต่งตั้งเป็น ‘ซินอ๋อง’“ด้วยตำแหน่งอ๋องที่ตั้งขึ้นใหม่ทรงแต่งตั้งอันไป๋เล่อ ให้ดำรงตำแหน่งพระชายาเอกแห่งซินอ๋องและแต่งตั้งหวังเจียงจิงให้ดำรงตำแหน่งชายารองแห่งซินอ๋องให้ทั้งสองดูแลกิจการในตำหนักซินอ๋องตามระเบียบราชสำนักและเป็นเกียรติแก่ตระกูลของทั้งสองสืบไป”ขันทีหลวงเอ่ยราชโองการจนสิ้นทุกถ้อยคำ ก่อนจะยื่นม้วนผ้าไหมสีทองให้เผยกู้หยางก็ก้าวออกมารับด้วยท่วงท่าสงบนิ่งเมื่อเขาประคองราชโองการไว้ในมือ ขันทีก็ผ่อนลมหายใจเบา ๆ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 107 จบลงเช่นนั้น

    ตอนที่ 107 จบลงเช่นนั้นเผยกู้หยางยกมือเรียกเปาอันเสียงต่ำ“ไปนำพิณของข้ามา”ไม่นาน พิณไม้แกะลายงามก็ถูกนำมาวางลงเบื้องหน้า เขาลูบคันพิณเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงยืดหลังสง่างามสายพิณถูกรั้ง รัวแผ่วเป็นท่วงทำนองแรกเสียงพิณใสราวหยาดน้ำแข็งละลายแตะลงบนอากาศเงียบงันอย่างนุ่มนวลไป๋เล่อที่กำลังผสมสุราอยู่ถึงกับหยุดชั่วครู่ราวกับทุกหยดเสียงกำลังแตะลงกลางห้วงใจนางนางสูดลมหายใจแผ่ว ๆ “ท่านเล่นได้งดงามยิ่งนัก”เผยกู้หยางปรายตามองนางคล้ายจะยิ้ม แต่ยังไม่เอื้อนเอ่ยท่วงทำนองยังคงไหลพลิ้ว ไม่รีบร้อน ไม่ช้าเกินไปไป๋เล่อลงมือชงสุราต่อเนื่องมือเรียวขาวขยับคล่องแคล่ว บดดอกเหมยในถ้วยรินสุรา หยดน้ำผึ้งเพียงปลายช้อนแล้วใช้ข้อมือหมุนถ้วยเบา ๆ ให้ของเหลวผสมเข้ากันเสียงสายพิณพลันเปลี่ยนจังหวะดึงยาว ลึก และกังวานคล้ายจะตอบรับจังหวะการเคลื่อนไหวของนางโดยไม่ได้นัดหมายไป๋เล่อหัวเราะแผ่ว มุ่นคิ้วในท่าทีหยอกล้อความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมผุดวาบขึ้นมาเหมือนม่านบางที่ถูกเปิดออก เพลงพิณของเขาผสานกับฤทธิ์สุรายิ่งพาให้ร่างกายเบาไร้น้ำหนักนางลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปกลางลานเรือนที่ถูกแสงตะเกียงแตะวาบชายกระโปรงพลิ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 106 รักษาแผลใจ

    ตอนที่ 106 รักษาแผลใจไป๋เล่อเห็นชายหนุ่มเงียบงัน ดวงตานิ่งลึกจนยากจะอ่านความคิดนางจึงลดน้ำเสียงลงให้อ่อนโยน ราวกับจะปลอบประโลมบางสิ่งที่เขาไม่เอ่ยออกมา “เหยาเอ๋อร์เป็นเด็กดี…ทำสิ่งใดก็มักคำนึงถึงผู้อื่นก่อนเสมอ เมื่อเติบโตขึ้น เขาจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด”นางเอ่ยเบา ๆ คล้ายลมพัดผ่านปลายผม “ทั้งความลำบากใจของท่าน และของนางผู้นั้นที่จากไป...ข้าเชื่อ..เขาจะไม่กล่าวโทษใครทั้งนั้น”เผยกู้หยางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ขยับปลายนิ้วเล็กน้อย เดินตรงไปยังโต๊ะเตี้ยด้านข้าง แล้วนั่งลงอย่างเงียบสงบ เปาอันรีบก้าวเข้ามา วางไหสุราขนาดใหญ่สองสามไหไว้ตรงหน้าเจ้านาย ก่อนค้อมศีรษะถอยไป เผยกู้หยางยกไหหนึ่งขึ้น แค่ยกก็ได้กลิ่นแรงทะลุฝาเขาเอ่ยเสียงต่ำทุ้ม กลิ่นเย็นของความนิ่งสงบแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น“เห็นว่าเจ้าต้องการสุราแรง ๆ… ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าจะเอาไปทำสิ่งใด แต่ข้าก็ให้คนไปหาไว้ไม่น้อย”ไป๋เล่อหลุบตาลงเล็กน้อยเหลือบมองไหสุราหลายใบที่วางเรียงอยู่ตรงมุมโต๊ะ การเปลี่ยนเรื่องอย่างกะทันหันของเขาทำให้นางอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้เสียงหัวเราะนั้นอ่อนนุ่มดุจสายลมเฉียดผ่านกลีบดอกไม้ ทำให้บรรยากาศภายในเรือนอ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 105 ลำบากใจ

    ตอนที่ 105 ลำบากใจเผยซ่งเหยาเดินเข้ามาหาไป๋เล่ออย่างช้า ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าโดยไม่ลังเล ท่วงท่านั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นเกินกว่าวัย ดวงตากลมใสจ้องมองมารดาอย่างลึกซึ้งจนไป๋เล่อใจสั่นวูบเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ชัดเจนดุจคมมีด“เมื่อก่อน…ข้าดีใจมากเหลือเกินที่มีท่านแม่อยู่กับข้า ความยินดีนั้นบดบังความผิดแปลกหลายอย่างที่ข้าควรสังเกต”เขาหยุดหายใจสั้น ๆ ราวกับกำลังข่มใจ “ข้าเฝ้ามองท่านแม่มาตั้งแต่ข้ายังเล็กที่สุด…การพูด การเดิน สีหน้าท่าทาง ทุกอย่างของท่าน ข้าล้วนจำได้ขึ้นใจ”แววตาของเด็กชายสั่นวูบหนึ่ง แต่ยังไม่ละไป“และนับวัน…ท่านก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม”ไป๋เล่อสะอึก หัวใจเต้นแรงจนเจ็บหน้าอกซ่งเหยาเม้มปากก่อนเอ่ยต่อ“เดิมที ข้าคิดว่าข้าคิดมากเกินไป แต่ทุกครั้งที่ข้ามองท่านแม่ ข้า…กลับยิ่งแน่ใจว่าอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป”สายลมเย็นพัดเข้ามาทางหน้าต่าง พาให้ม่านไหวเบา ๆ แต่ความเงียบภายในเรือนกลับหนักอึ้งจนอึดอัดจนกระทั่งซ่งเหยาเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ความสงสัยทั้งหมด…ถูกยืนยันในวันที่ข้าเห็นพวกนักพรตทำพิธีส่งวิญญาณที่เรือนไผ่แห่งนั้น”ไป๋เล่อหลับตาเพียงเสี้ยวอึดใจ ก่อนเอ่ยออ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 104 ส่งวิญญาณ

    ตอนที่ 104 ส่งวิญญาณเจียงจิงก้าวขึ้นรถม้าได้ไม่นาน อาเหลียนก็รีบตามขึ้นมานั่งเคียงข้าง ใบหน้าซีดเล็กน้อยด้วยความกังวล ก่อนเอ่ยถามเสียงเบาแต่สั่นเครือ“ฮูหยินรอง…เรื่องนี้เชื่อถือได้หรือเจ้าคะ?”คำถามนั้นทำให้บรรยากาศภายในรถม้าสะท้อนความตึงเครียดทันทีเจียงจิงหันไปมองสาวใช้อย่างจริงจัง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งตำหนิ“ที่ก่อนหน้านี้นางไม่พูด ก็เพราะยังไม่มั่นใจในข่าว หากข้าไม่ถามด้วยตนเอง นางก็คงไม่กล้าเอ่ยปากส่งเดช เจ้าอย่าได้แคลงใจไป๋เล่อเด็ดขาด”อาเหลียนสะดุ้ง รีบก้มศีรษะลงแทบจะชิดตักของตนเอง“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ! บ่าวมิได้ตั้งใจหมิ่นน้ำใจฮูหยินใหญ่ บ่าวเพียงแต่…กังวล เพราะเรื่องนี้มันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ”เจียงจิงถอนหายใจเบา ๆ ราวกับเพิ่งระงับความสั่นไหวในอกได้เล็กน้อย นางรู้ดีว่าอาเหลียนหาได้คิดร้าย เพียงแต่ตกใจกับความจริงที่เหนือความคาดหมายไปไกล“ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ไป๋เล่อ…ถึงแม้เรื่องนี้จะผิดพลาดขึ้นมาสักประการ นางก็ไม่มีวันคิดร้ายต่อข้าเด็ดขาด”นางหยุดไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยประโยคที่แฝงรอยยิ้มบางในน้ำเสียง“อีกอย่าง หากพูดถึงเรื่องเหลือเชื่อ…สำหรับไป๋เล่อแล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status